Three Kingdom

     กวนอูแทนคุณ
เมือครั้งโจโฉยกทัพเรือเพื่อจะมาตีเกงจิ๋ว ในครั้งนั้นซุนกวน และจิ่วยี่รวมถึงขุนนางทั้งหลายจะไม่ทำการสู้รบ ยังตกลงความมิได้ ทางฝ่ายเล่าปี (จ๊กก๊ก) เห็นว่าหากซุนกวนยอมสวามิภักดิ์แผ่นดินย่อมตกเป็นของโจโฉ  จึงสงขงเบ้งไปหาซุนกวนและจิวยี่

     ขงเบ้งต้องเจรจาและเกลี้ยกล่อมพร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าหากสวามิภักดิ์ต่อโจโฉเท่ากับยกแผ่นดินในโจโฉ กระนั้นก็ไม่เป็นผล ขงเบ้งจึงว่าแก่ซุนกวนและจิวยี่เป็นทำนองว่า ถ้าเช่นนั้นก็ยก แม่นางเกี้ยวทั้งสอง ซึ่งมีรูปงามและเป็นเมียของซุนกวนและจิวยี่ให้โจโฉจึงหมดเรื่อง กล่าวต่อว่าอันที่จริงโจโฉต้องการแผ่นดินเกงจิ๋ว ที่ยกทัพมาหมายจะได้แม่นางสองเกี้ยวเท่านั้น เมือซุนกวนและจิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงตัดสินใจทัพสงครามกับทัพโจโฉ…
  
      เมือกองทัพเรือโจโฉ   บุกเข้ามาจิวยี่เป็นแม่ทัพเข้าต่อสู้กับทัพโจโฉ ด้วยทัพโจโฉมีลี้พลจำนวนมากและมีทหารเอกเป็นจำนวนมากจึงมิหาวิธีที่จะไปรบอย่างไร จึงผูกอุบายเชิญขงเบ้งว่าจะปรึกษาการสงครามแก่โจโฉ โดยให้พี่ชายขงเบ้ง คือ จูกัดกิ๋นมาเชิญโจโฉไปยังกองทัพ
       โจโฉรู้ว่าการครั้งนี้ร้ายมากว่าดี แต่จำต้องไป โจโฉบอกวิธีการเอาชนะกองทัพเรือแก่จิวยี้ว่า ไฟและลม ให้เตรียมไฟไว้ด้วยขงเบ้งได้ทำอุบายให้ทัพเรือโจโฉโยงเรือติดกัน หากลำหนึ่งไหม้ไฟก็จะลามไปยังลำอื่นๆ ที่นี้ก็เหลือเพียงลมซึ่งต้องทำพิธีเรียกลม อันที่จริงขงเบ้งมีความรู้ทางภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ และพยากรณ์ศาสตร์จึงรู้ว่าเดือนใด ปีใด และวันใดลมสลาตันจะพัดมา เมือใกล้ถึงวันทีลมสลาตันจะมา จึงให้จัดทำพิธีและหาทางหนีทีไล่ …
      เมือเหตุการณ์เป็นไปดังนี้ทัพเรือโจโฉจึงแตกพ่ายให้แก่จิวยี่
ซุนกวนซึ่งมาตั้งทัพอยู่ ครั้นเห็นแสงเพลิงไหม้ทัพโจโฉจึงรู้ว่าจิวยยี้ชนะกองทัพโจโฉ จึงให้ลกซุนจุดเพลิงขึ้นเป็นสัญญาณ โจโฉและทหารน้อยใหญ๋พากันหนี พอเห็นว่าไกลจากแสงไฟแล้วจึ่งรู้สึกโล่งใจ
     โจโฉหัวเราะ สามครั้ง เหตุที่โจโฉหัวเราะ คือ เมื่อถึงที่ที่จะให้ทหารมาซุ่มโจมตี หรือที่คับขันโจโฉมิเห็นทหารจึงหยันความคิดของขงเบ้งและจิวยี่ แต่เมื่อสิ้นเสียงหัวเราะของโจโฉคราใดทหารฝ่ายตรงข้ามจำต้องมาล้อมจับโจโฉทุกทีไป
     ในครั้งที่ หนึ่ง จูล่งเป็นผู้มาทำการดักจับโจโฉหนีไปได้
     ในครั้งที่ สอง เตียวหุยทำการจับตัวโจโฉ และโจโฉหนีไปได้ ทหารทั้งปวงแตกหนีไป
     ในครั้งที่ สาม กวนอูจับตัวได้ และหลีกทางให้โจโฉทำการหลบหนี
“ฝ่ายกวนอูครั้นเปิดทางให้โจโฉแล้ว จึงคุมทหารกลับมาถึงหน้าค่ายแฮเค้าพร้อมกันกับเตียวหุย จูล่ง ในขณะนั้นเตียหุย จูล่งได้ทหารแลม้ากับเครื่องศัสตราวุธสิ่งทของต่างๆ เข้าไปให้ขงเบ้ง ขงเบ้งครั้นรู้ว่ากวนอูมาถึงหน้าค่ายจึพาเล่าปี่ทำเป็นออกไปรับ แล้วว่าแก่กวนอูว่า
ขงเบ้ง: ตัวเราว่าท่านผู้มีน้ำใจช่วยทำนุบำรุงแผ่นดินไปได้ศีรษะโจโฉซึ่งเป็นศัตรูราชสมบัติมา เราออกมารับท่านสด้วยความยินดี (กวนอูได้ฟังดับนั้นก็นิ่งอยู่ )
ขงเบ้ง: ท่านน้อยใจเราหรือว่าไม่ไปรับถึงกลางทาง แล้วว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า เหตุใดจึงไม่บอกข่าวให้เรารู้ก่อนจะได้ไปรับกวนอู ..
กวนอู: ข้าพเจ้าจะมารับโทษขงเบ้งแกล้งถามว่า ท่านไปไม่พบโจโฉ จะกลับมาเอาศีรษะเราหรือ ..
กวนอู :ข้าพเจ้าไปนั้นพบโจโฉเหมือนคำท่าน แต่ข้าพเจ้าหามีผีมือไม่ โจโฉจึงหนีไปได้
ขงเบ้ง(หัวเราะ): อันตัวโจโฉหนีไปได้นั้นก็ตามทีเถิด แต่ท่านยังจับทหารมาได้บ้างหรือไม่
กวนอู: ถึงทหารโจโฉนั้นข้าพเจ้าก็จับไม่ได้
ขงเบ้ง(ทำเป็นโกรธ):ตัวท่านไปพบโจโฉแล้ว หากคิดถึงคุณเขาอยู่ จึงมิได้เอาศรีษะมานั้นโทษท่านใหญ๋หลวงนัก ซึ่งสัญญาไว้แก่เรานั้นลืมเสียแล้วหรือ
กวนอู:ข้าพเจ้าสัญญาไว้ว่า ถ้าพบโจโฉแล้วมิได้เอาศีรษะมานั้นก็จะให้ศรีษะข้าพเจ้าแทนตามสัญญา
   แล้วชักกระบี่ออกมาจะตัดศรีษะให้ขงเบ้ง  ขงเบ้งเห็นกวนอูดังนั้นก็เข้ายุคมือไว้แล้ว
ขงเบ้ง:ซึ่งเราใช้ทานไปทั้งนี้ปรารถนาจะให้ท่าแทนคุณโจโฉ มิได้คิดจะเอาโทษท่าน  ซึ่งท่านจะให้ศีรษะเราตามสัญญานั้นก็ขอบใจที่มำได้เสียความสัตย์ สมเป็นชาติทหาร …”


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)