WWII:Nazi Germany vs Red Army of CCCP

     หลังจากเยอรมนีเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ เยอรมนีได้เจรจาเชิญชวนให้สหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิกด้วย หลังการเจรจาสงอวันในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนีส่งข้อเสนอเป็นลายลักษณ์อักษรให้แก่หไภาพ

โซเวียตเพื่อเชิญชวน ทางฝ่ายสหภาพโซเวียตได้ส่งข้อเสนอของตนกลับมา แต่ไร้การตอบสนองจากเยอรมนี ความเป็นอริของสองประเทศเพิ่มขึ้นทุกที และเมื่อเกิข้อพิพาทในยุโรปตะวันออก จึงเป็นผลใหการปะทะกันทางทหารเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก การกระทำของสตาลินทำให้นาซีเยอรมนีชใช้อ้างเป็นเหตุผลเพื่อเตียมการรุกราน นาซีโฆษณาชวนเชื่อ โดยใช้ ความโหดร้ายของสตาลินในปี 1930 ซึ่งสั่งประหารและคุมขังประชาชนจำนวนหลายล้านคน ระหว่างการกว้าดล้างครั้งใหญ่ เป็นเครื่องสนับสนุน เนื้อความว่า กองทัพแดงเตรียมการที่จะรุกรานเยอมนีและการรุกรานของเยอรมนีเป็นการกทำเพื่อป้องกันตัว
     เหล่านนายพลของฮิตเลอร์แย้งว่าการยึดครองสหภาพโซเวียตจะทำให้เกิดความส้ินเปลื่องมากกว่าจะเป็นการแำ้ก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ฮิตเลอร์มองการไกลกว่านั้น
- เมื่อสหภาพโซเวียตพ่ายแพ้แล้วจะทำให้สามรถปลดประจำการทหารส่วนนใหญ่ในกองทัพเื่พอนำไปแก้ปัญหาการขาดแรงงานของเยอรมนีในขณะนั้นเนื่องจากเมืองการรบสำคัฐสิ้นสุดลงแล้วจึงไม่ต้องการทหารจำนวนมากอีกต่อไป
- ยูเครนจะหลายเป็นแหล่งอาหารราคาถูกที่อุดมสมบูรณ์ให้กับชาวเยอรมันี เนื่องจากมีความเหมาะสมต่อเกษตรกรรมเป็นอย่างยิ่ง
- เนื่่องจากสหภาพโซเวียตมีประชากรมากมาย ฮิตเอล์มองโซเวียตเป็นแหล่งแรงงานทาสราคาถูกซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงทางภูมิยุทธศาสตร์ให้กับประเทศเยอรมนีอย่างมาก
- ความพ่ายแพ้ของสหภาพโซเวียตจะยิ่งทำให้จักวรรดิอังกฤษ ซึ่ง
กำลังจะพ่ายแพ้ ถูกโดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก
- สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำมันบากู เพื่อตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจได้
   นายทหารส่วนใหญ่เห็นด้วยกับฮิตเลอร์ว่าการบุกโซเวียตนั้นหลีกเลึ่ยงไม่ได้ และจะต้องเกิดขึ้นในวันใดก็วันหนึ่ง
      เมื่อสหภาพโซเวียตเข้าสู ปี 1940 สหภาพโซเวียตคือชาติมหาอำนาจจากการแปรรูปอุตสหกรรมอย่างรวดเร็วของโซเวียตในทศวรรษที่แล้วทำให้ผลผลิตทางอุตสาหกรรมของโซเวียตเป็นรองแค่
สหรัฐอเมริกาและมีผลผลิตเท่าเทียมกับประเทศนาซีเยอรมนี การผลิตยุทโธปกรณ์นั้นเพ่ิมขึ้นอย่างคงที่โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีก่อนสงครามโลกครั้งที่สองที่เศรษฐกิจของโซเวียตนั้นถูกกำหนดไปที่การผลิตอุปกรณ์ทางทหารอย่างต่อเนื่องขนาดของกองทัพโดยรวมของกองกำลังโซเวียตในเดือนกรกฎา ปี 1941 นั้นรวมแล้วมีกำลังพลกว่า ห้าล้านนาย ซึ่งมีจำนวนมากกว่ากองกำลังภาคพื้นดอินของเยอรมนี้ที่ใช้บุกโซเวียต การสะสมกำลังของกองทัพแดงยังแข็งแกร่งขึ้นอย่งคงที่ และยังมีความสามรถในการวางกำลังที่เป็นต่อกว่าเยอรมนีในสมรภูมิตะวันออก แต่อย่างไรก็ดี ในการรุกรานของเยอรมนีครั้งนี้ทั้งสองมีความใกล้เคียงกันมากในเรื่องกำลังพล
     ยุทโธปกรณ์ที่สำคัญ ทางฝ่ายโซเวียตนั้นมีอยู่มาก กองทัพแดงมีความเหนือกว่าอย่างมากในกองกำลังยานเกราะที่มีรถถังประจำการถึง 24,000 คัน 12,782 คันประจำการอยู่ในเขตทหารภูมิภาคตะวันตำของประเทศ (ซึ่งมีสามเขตในภูมิภาคที่สามารถปะทะกับกองทัพอยรมันในสมรภูมิตะวันออก)
     เวอร์มัคท์ Wehmacht หรือกองทัพบกเยอรมนีมีรถถังประจำการอยู่ทั้งหมด 5,200 คัน โดยใช้ในการบุกโซเวียต 3,350 คัน ดังนั้นอัตราส่วนเป็น 4:1 เป็นความได้เปรียบของกองทัพแดง นอกจานี้T-34 ของโซเวียต เป็นรถถังที่ล้ำหน้าที่สุดและทันสมัยที่สุดในเวลานั้น รถถังรุ่น BT-8 เป็นรถถังที่เร็วที่สุด ซึ่งเมื่อเทียบกับรถถังเยอรมันแล้ว รถถังเยอรมันมีความล้าหลังกว่ามาก
      อาวุธปืนใหญ่และเครื่องบินรบซึ่งโซเวียตมีมากกว่าเยอรมนี ซึ่งรวมไปถึงปืนใหญ่สนาม A-19 ที่วากันว่าเป็นปืนใหญ่ที่ดีที่สุดในโลกในเวลานั้น
      ความได้เปรียบในเรื่องปริมาฯของโซเวียตถกหักล้างด้วยคุณภาพที่เหนือกว่ามากของเครื่องบินรบเยอรมัน รวมถึงการฝึกฝนกองกำลังเยอรมันที่เหนือกว่าและเตรียมพร้อมมามากกว่า การขาดแคลนทหารอาชีพที่เป็นเจ้าหน้าที่และผู้บัญชาการระดับสูงในการกว้างล้างครั้งใหญ่นั้น ถูกทดแทนด้วยนายทหารที่มีแนวโน้มที่ "ไว้ใจได้ทางการเมือง" อายุโดยเฉลี่ยของผู้บัญชาการกองพลของโซเวียตนั้นน้อยกว่าอายุโดยเฉลี่ยของผู้บัญชาการกองร้อยของเยอรมนีถึง 12 ปี นายทหารเหล่านนี้่มีทีท่าที่ไม่เต็มใจที่จะริเริ่มในการทำส่ิงใดๆ และส่วนใหญ่ขาดการฝึกฝนในการบัญชาการ
      การจอดเครื่องบินของกองทัพอากาศโซเวียตที่จอดกันเป็นกลุ่มๆ ซึ่งตกเป็นเป้าตอ่การโจมตีจากอากาศสู่พื้นดินได้ง่าย ๆ และอีกผลหนึ่งคือการที่กองทัพอากาศโซเวียตถูกสังห้ามไม่ให้โจมตีเครื่องบินสอดแนมของเยอรมัน เครื่องบินขับไล่โซเวียตประกอบไปด้วย เครื่องบินรุนล้าสมัยย้อนไปถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เช่นเครื่องบินปีกสองชั้น I-15 และเครื่องบินปีกชั้นเดียวรุ่นแรกของโซเวียต I-16 และเครื่องขับไล่รุ่นใหม่กว่าเช่นมิก MiG และ LaGG เพียงไม่กี่ลำที่ใช้งานได้
     โดยเครื่องบินจำนวนไม่มากที่ติดตั้งวิทยุสื่อสารอีกทั้งวิทยุไม่กี่รุ่นที่มีอยู่นั้นก็ไม่ได้ถูกเข้ารหัสและมีสภาพการใช้งานที่ไม่แน่นอน รวมถึงยุทธวิธีต่อสู้ทางอากาศที่ยังล้าสมัย
      กองทัพแดงแห่งสหภาพโซเวียตกระจัดกระจาย กันออกไปไม่มีความพร้อมในการทำศึก และมีกองกำลังหน่วยต่าง ๆ ที่อยู่แยกจากกันโดยไม่มีการลำเลียงไปยังจุดรวมพลเมืือการรบเกิดขึ้น แม้ว่ากองทัพแดงจะมีปืนใหญ่ชั้นดีจำนวนมาก แต่ปืนส่วนใหญ่กลับไม่มีกระสุนกองปืนใหญ่ไม่สามารถเข้าสู่การรบได้เพราะขาดการลำเลียงพล กองกำลังรถถังมีขนาดใหญ่และคุณภาพดีแต่ขาดการฝึกและการสนับสนุนทางเสบียง รวมถึงมาตรฐานในการบำรุงรักษายังแย่มากกองกำลังถูกส่งงเข้าสู่การรบโดยไม่มีการจัดการเติมเชื้อเพลิง ไม่มีการสนับสนุนกระสุน หรือทดแทนกำลังทหารที่สูญเสียไปบ่อยครั้งที่หลังจากการปะทะเพียงครั้งเดียว หน่วยรบถูกทำลายกระทั่งหมดสภาพรวมไปถึงความจริงที่ว่ากองทัพโซเวียตกำลังอยู่ในช่วงจัดระบบหน่วยยานเกราะให้กลายเป็นกองพลรถถังยิ่งเพิ่มความไม่เป็นระบบของกองกำลังรถถัง
      ด้วยเหตุผลที่ว่ากองทัพแดงนั้นประกอบด้วยนายทหารที่ไร้ความสามารถ การขาดแคลนยุทโธปกรณ์ การสนับสนุนเสบียงยานเกราะที่ไม่เพียงพอ ทหารที่ได้รับการฝึกในระดับต่ำ กองทัพแดงจึงเสียเปรียบกองทัพเยอรมันอย่างมากเมื่อปะทะกัน
      การชิงไหวชิงพริบในการเข้าโจมตีก่อน เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ และจากการศึกษาอย่างจริงจังโดยนักประวัติศาสตร์ทางทหารชาวรัสเซีย มิคาเอล เมลทฮูคอฟ กล่าวว่า กองกำลังโซเวียตทำการรวมพลเพื่อเตรียมเปิดการโจมตีเยอรมนีอยู่จริง แต่เขาปฏิเสธต่อคำกล่าวที่ว่าการบุกของเยอรมนี่เป็นการชิงเปิดการโจมตีก่อน แต่เขาเชื่อว่าทั้สองฝ่ายต่างกำลังเตรียมทำการบุกอยู่เช่นกัน แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่เชื่อว่าฝ่ายหนึ่งจะเปิดการโจมตีอีกฝ่ายหนึ่ง
     โจเซฟ  สตาลิน เขาจะได้รับรายงานเฉพาะที่เขาต้องการได้ยินเท่รนั้น สตาลิน มีความเชื่อมั่นอย่างไร้มูลเหตุในสนธิสัญญวว่าก้วยการไม่โจมตีต่อกัน สตาลินถูกชักนำให้เชื่อว่าสถานภาพของสหภาพ
โซเวียตช่วงปี 1941 นั้นแข็งแกร่งกว่าที่เป็นจริง มาก  หน่วยงานข่าวกรงอของสตาลินทำการเตือนถึงการโจมตีของเยอรมนี่ที่กำลังจะเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งความเชื่อมั่นของสตาลินในนายทหารและกำลังทหาร ถึงแม้จะทราบดีถึงความเป็นไปได้ที่เยอรมันจะเข้าตี นายทหารตามแนวชายแดนไม่อยู่ในสถนาะเตรียมพร้อม เขาเรียนรู้จากการพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสและเตรียมการรับมือกับการบุกของเยอรมัน
     ขนาดกำลังของกองทัพทั้งสองฝ่ายบนแนวรบด้านตะวันออกในวันที่ 22 กรกฎาคม 1941

                                                     กองทัพแดง              กองทัพเยอรมัน                  อัตราส่วน
จำนวนกองพล                                     190                              166                              11:1
จำนวนทหาร                                   3,289,851                     4,306,800                          1:1.3
จำนวนอาวุธปืนและปืนครก                59,787                           42,601                        1.4:1
รถถัง(รวมถึงปืนจู่โจม)                        15,687                             4,171                        3.8:1
อากาศยาน                                         10,745                              4,846                       2.2:1

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)