Dictatorship

     ระบอบเผด็จการ หมายถึงการปกครองแบบอัตตาธิปไตย  ซึ่งรัฐบาลอยู่ภายใต้การบริหารของบุคคลเพียงคนเดียว หรือ ผู้เผด็จการ โดยไม่มีการสืบทอดตำแหน่างตามสายเลือด
Hitlermusso   เผด็จการ หมายถึง
- ผู้เผด็จการของสาธารณรัฐโรมัน ซึ่งมีอำนาจปกครองเบ็ดเสร็จในยามฉุกเฉินของบ้านเมืองซึ่งอำนาจจากการใช้ตำแหน่งดังกล่าวไม่ต้องมีเหตุผลหรือไม่ต้องรับผิดชอบแต่อย่างได มีอำนาจอยู่เหนือกฎหมาย และถือว่าการกระทำทั้งหมดนั้นไม่ผิดกฏหมายย้อนหลัง
- รัฐบาลซึ่งปกครองโดยบุคคลเพียงคนเดียว หรือคณะบุคคลเพียงส่วนน้อย
- หรืออาจหมายถึง การปกครองซึ่งรัฐบาลมีอำนาจเด็ดขาด ไม่ถูกจำกัดโดยกฎหมาย รัฐธรรมนูญ หรือปัจจัยทางสังคมหรือการเมืองอืนภายในรัฐนั้น
      Military dictatorship คือ รูปแบบการปกครองที่อำนาจทางการเมืองขึ้นอยู่กับกองทัพ โดยถือว่าเป็นการปกครองในระบอบเผด็จการอำนาจนิยม ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพทางการเมืองของประชาชน
      รัฐบาลเผด็จการทหารส่วนมากจัดตั้งหลังจากรัฐประหาร ซึ้งล้มล้างอำนาจรัฐบาลชุดก่อนหน้า ตัวอยางที่แตกต่างออกไป คือ การปกครองในสมัยของ ซัดดัม ฮุสเซน ซึ่งเริ่มจากรัฐที่ปกครองโดย รัฐบาลพรรคเดียว โดย พรคคบะอัธ แต่เมืองเวลาผ่านไปรัฐบาลดังกล่าวเปลี่ยนเป็นเผด็จการทหาร
     ในอดีต เผด็จการทหารมักจะอ้างความชอบธรมให้แก่พวกเขาเองว่าเป็ฯการสร้างความสมานฉันท์แกติ และช่วยชาติให้พ้นจากภัยคุกคามของ “อุดมการณ์ที่อันตราย”อันเป็นการสร้างการข่มขวัญ ในละตินอเมิรกา ภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ และทุนนิยม ถูกนำเป็นข้ออ้างในการรัฐประหาร คณะทหารมักจะกล่าวว่าพวกเขาเป็นพวกไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด เป็นคณะที่มีความเป็นกลาง สามารถจัดการกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในระยะเวลสั้น ไ ได้ และกล่าวว่านักการเมืองที่มาจากปรระชาชนนั้นคดโกงและไร้ประสิทธิภาพ ลักษณะร่วมประการหนึ่งของรัฐบาลทหารคือการประกาศใช้กฏอัยการศึก หรือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
     รัฐบาลทหารมักจะไม่เคารพต่อสิทธิมนุษยชน และมักใช้วิธีการปิดปากศัตรูทางการเมืองรัฐบาลทหารมักจะไม่คืนอำนาจจนกว่าจะมีการปฏิวัติโดยประชาชน
     Fascism ลัทธิฟาสซิสต์ เป็นชาติ-อำนาจมูลวิวัติอย่างหนึ่ง นักฟาสซิสต์มุ่งรวมชาติของตนผ่านรัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จ ที่ระดมชุมชนแห่งชาติชนานใหญ่ผ่านวินัย การปลูกผังความเชื่อและการฝึกฝนทางกายภาพ ลัทธิฟาสซิสต์ใช้พรรคการเมืองแนวหน้า ในการริเริ่มการปฏิวัติเพื่อจัดระเบียบชาติตามหลักการลัธิฟาสซิสต์ ลัทธิฟาสซิสต์มองการปฏิบัติโดยตรงรวมถึงความรุนแรงทางการเมืองและสงคราม ว่าเป็นวิธีการบรรลุการคืนพลัง เจตนารมณ์และชีวิตนิยมของชาติ
    Despotism ระบบใช้อำนาจเด็ดขาด เป็นระบอบการปกครองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เริ่มจากการรมมกลุ่มของมนุษย์ ดดยให้บุคคลเพียงคนเดียวหรือกลุ่มบุคลเป็นผู้มีอำนาจปกครองกลุ่ม โดยมีอำนาขอย่างสมบูรณ์ในระบอบของตน
     แนวคิดหลักคือ อำนาจอธิปไตยอยู่ในมือของคนคนเดียวหรือกลุ่มบุคคลขนาดเล็ก โดยอาจเป็นได้ทั้งการปกครองแบบทรราช ซึ่งใช้อำนาจปราบปรามและลงโทษผู้อยู่ใต้การปกครองหรือการปกครองแบบเบ็ดเนร็จซึ่งผู้ปกครองอยู่เหนือกฎหมายใด ๆ
     การปกครองแบบราชาธิปไตยซึ่งพระมหากาตริย์มีพระราชอำนาจเต็มและอยู่เหนือกฎหมายี้นเป็นระบอบเผด็จการแบบหนึ่ง แต่มองเตสกีเยอ ได้ระบุถึงความแตกต่าระหว่างระบอบทั้งสองว่า ระบอบราชาธิปไตยใช้อำนาจแบบเปบ็ดเสร็จโดยการตราและแก้ไขกฎหมายขณะที่ระบอบเผด็จการจะใช้อำนาจตามใจตน
    แนวคิดเผด็จการ
- เผด็จการในฐานะที่เป็นแนวคิดทางการเมือง ที่เชื่อว่ารัฐเป็นเสมือนพระเจ้าที่เพียบพร้อม รํบเป็นผู้ถ่ายทอดความดีงามให้แก่ประชาชน ดังนั้นประชาชนจึงมีหน้าที่ที่จะต้องเชื่อฟังปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐยอมตนให้กับัฐโดยปราศจากเงื่อไข  ผู้ผู้นำคือตัวแทนของรัฐในการออกคำสั่งให้ประชาชนปฏิบัติตาม อุดมการณ์เผด็จการนั้นมัอ้างว่าผู้นำเป็นผู้มีลักษณะพิเศษ เช่น สามารถล่วงรู้เจตนาราณ์ของประชาชนได้ การกรทำของผู้นำจึงเป็นการกระทำไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน ผู้นำจึงอยู่ในฐานะที่ทำอะไรก็ไม่ผิด เป็นต้น
- เผด็จการในฐานที่เป็นรูปแบบการปกครอง โดยทั่วไป หมายถึง ระบอบรวมอำนาของผุ้ปกคอรงที่ต้องการอำนาจและสามารถยึดอำนาจรัฐไว้ได้ ส่วนใหญ่มักจะใช้วีธีการรุนแรง เช่น การทำรัฐประหาร กุมกองกำลังทหารตำตวจ และใช้ข่มขู่ สร้างความหวาดกลัวต่อผุ้คิดจะต่อต้าน ออกกฏหมายจำกัดสิทธิและเสรีภาพทางการเมืองของประชาชน..
-เผด็จการในฐานที่เป็นวิถีชีวิต หมายถึง แนวความคิด ความเชื่อ ค่านิยม ตลอดจนแนวปฏิบัติของคนในสังคมใด ๆ ซึ่งอาจเป็นสังคมประชาธิปไตยก็ได้ พวกนี้เชื่อว่าคนเราเกิดมาแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันในทุกด้านผู้ที่ด้อยกว่าจำเป็นต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามผู้ที่เหนือกวา ทั้งนี้เพื่อที่จะให้สังคมสามารถอยู่รอดปลอดภัยและก้าวหน้า ซึ่งจะพยายามไม่ให้มีความขัดแย้งในสังคม และจะนิยมใช้อำนาจในการกำจัดข้อขัดแย้งซึ่งเสมือนเป็นตัวบ่อนทำลายเสถียรภาพของสนังคมมากกว่าการใช้วิธีการประนีประนอม
      ลักษณะสำคัญของเผด็จการ
      ลัทธิเผด็จการไม่เห็นความสำคัญของความเสมอภาคหรือไม่เชื่อว่าบุคคลมีความเท่าเทียมกัน ไม่ว่าในด้านชาติกำเนิด การศึกษา ฐานะทางสังคม ด้วยเหตุนี้ลัทธิเผด็จกาจึงแบ่งคนในสังคมออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ผุ้นำ และประชาชนทั่งไป
      ลัทธิเผด็จการเป็นลัทธิการเมืองที่ไม่ยอมรับว่าประชาชนทั่วๆ ไปเป็นผุ้ม่เหตุผล ลัทธินี้เชื่อว่าเหตุผลของประชาชนทั่วๆ ไป ไม่สามารถที่จะนำมาแก้ปัญหาของสังคมได้  การใช้เหตุผลเพื่อยตุปัญหาจะนำมาซึ่งความดกลาหล ขาดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสัคม ลัทธินี้จึงสรุปว่า ประชาชนทั่วๆ ไปเป็นผุ้ไร้เหตุผล ผุ้ปกครองจึงไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลใดๆ และประชาชนโดยทั่วไปต้องมีผู้ปกครองเป็นผู้นำให้ความคุ้มครองแก่พวกเขา
      ลัทธิเผด็จการให้ความสำคัญกับเสรีภาพส่วนบุคคลน้อยกว่าอำนาจรัฐ ดังคำกล่าวของมุสโสลินี ว่า  “รัฐเป็นนายและเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของชีวิตและสังคม นั้นคือ ลัทธิเผด็จการจะยึดมั่นว่ารัฐเป็นสิ่งสูงสุดที่ประชาชนจะต้องสักการบูชา และอุทิศตนเองเพื่อความิ่งใหญ่และความเจริญก้าวหน้าของรัฐ ประชาชนจะต้องมีภาระที่จะรับใช้รัฐ ฉะนั้นสิ่งใดที่รุฐกำหนดขึ้นทุกคนที่อยู่ในรัฐก็จะต้องปฏิบัติตามโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง 
     ลัทธิเผด็จการไม่อดทนต่อความคิดที่แตกต่างกัน แนวความคิดที่ยึดถือคือ เรื่องอำนาจสูงสุดของรัฐและอำนาจเด็ดขาดของผุ้นำที่เป็นตัวแทนองรัฐ ดังนั้นกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง สมาคมอาชีพ สหพันธ์กรรมกรจะต้องเป็นกลุ่มที่ให้การสนับสนุนผุ้นำจึงจะตั้งอยู่ได้
      เผด็จการมีอยู่มานานแล้ว นับตั้งแต่มนุษย์รวมตัวกันเป็นสังคมยุคแรก ๆ สังคมเฟ่าส่วนใหญ่จะมีหัวหน้าเผ่าที่เป็นเผด็จการ ซึ่งปัจจุบันรูปแบบหรือประเภทของเผด็จการก็หลากหลายยิ่งขึ้น เนื่องด้วยความสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจสัง และการเมือง โดยมีจุดประสงค์หลักคือการอยู่บนอำนาจนั้นให้นานที่สุด
           เผด็จการอำนาจนิยม คือ รัฐบาลจะเข้าควบคุมสิทธิและเสรีภาพทางการเมืองของประชาชน มักจะไม่ยอมให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมทางการเมือง มีการตรวจสอบหรือใช้อำนาจรัฐสั่งิดหนังสือพิมพ์มักจะอ้างลัทธิชาตินิยมมาสร้าความชอบธรรมให้กับการใช้อำนาจของผุ้ปกครอง แตะรัฐจะยงคงให้เสรีภาพในทางเศรษฐกิจและสังคม พอสมควร จะมีการลงโทษผู้กระทำผิดต่อกฎเกณฑ์ของบ้านเมืองอย่างรุนแรง เพื่อให้ประชาชนเคารพเชื่อฟัง และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครด
            เผด็จการเบ็ดเสร็จ คือ การปกครองดยมีผุ้นำที่มีอำนาจสุงสุดและใช้อำนาจเด็ดขาดคนเดีย พยายามที่จะสร้างอุดมการขึ้นมาสร้างวามชอบธรรมให้กับการใช้อำนาจ มีการจัดตั้งพรรคการเมือง หรืออาจอยู่ในรูปขององค์กรผุ้นำพรรคเดียวเข้าควบคุมอำนาจทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมนั้นคือ บุคลรวมทั้งกิจกรรมของบุคคลในสังคมทุกคน ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือเศรษฐกิจ หรือสังคม จะตกอยู่ภายใต้การสอดสอ่งดุแลและควบคุมกำกับโดยอำนาจรัฐ มีการลงโทษอย่างรุนแรง พยายามสร้างความสำนึกให้ประชาชนเคารพเชื่อฟัง และปฏืบัติตามอำนาจรัฐ หรือคำสั่งของผุ้นำโดยเคร่งครัดโดยถือเป็นหน้าที่ เผด็จการประเภทนี้จะไม่ยอมให้มีฝ่ายตรงข้าม สังคมที่ปกครองโดยลัทธิเผด็จการเบ็ดเสร็จจึงมีสภาพเป็นอาณาจักรแห่งความกลัว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)