จีนแสวงหาอำนาจแข่งกับรัสเซียในโลกคอมมิวนิสต์ จีนมุ่งไปยังเอเซียอาคาเนย์ ภูมิภาคบ้านใกล้เรือนเคียง จีนแดงเริ่มนโยบายเรียกร้องให้ภูมิภาคนั้นต่อต้านลัทธิจัรกวรรดิน์นิยมอเมริกา ขณะนั้น ทั้งภูมิภาคยังมีภาวะการเมืองที่ไม่แน่นอนนัก อำนาจอิทธิพลขจองอเมริกาปรากฏเด่นชัดในเวียดนาม และลาว ทั้งสองประเทศได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกามหาศาลเพื่อให้ดำรงคงความเป็นรัฐต่อไปด้เป็นการต่อต้านภัยคอมมิวนิสต์ภายในคุกคาม ความช่วยเหลือแก่ลาวมากมายนี้ประจวบกับรัฐบาลลาวเองมีทีท่านิยมโลกเสรีมากกว่า ทำให้เวียดนามเหนือและลาวแดง ภายใต้การสนับสนุนของจีนแดงได้ก่อการร้ายขึ้นทั่วประเทศในปี 1959 ภาวะปั่นป่วนเนื่องจากรัฐบาลมิได้วางตัวเป็นกลาง และภัยคอมมิวนิสต์ ได้เป็นปัจจัยก่อเกิดรัฐประหารโดยผู้รักชาติจากฝ่ายทหารขึ้น ในเดือนสิงหาคม 1960 แต่แล้วรัฐบางใหม่ภายใต้การสนับสนุนของอเมริกาก็ยึดอำนาจคืนได้อีก
วิกฤตการณ์ในลาวยังความตระหนกมาสู่ประเทศเพื่อบ้าน คือไทย นายกรัฐมนตรีสุวรรมาขอให้สหภาพโซเวียตรัสเซียช่วย รัสเซียส่งอาวุธยุทโธปกรณ์มาให้ทางอากาศ ส่วนใหญ่อาวุธเหล่านี้ไปอยู่ในมือฝ่ายลาวแองซึ่งมีกำลังเพิ่มมากขึ้นพอที่จะเป็นกำลังสำคัญในการล้มรัฐบาลลาวและเป็ฯกลำงแก่พวกเวียตนามเหนือให้แทรกซึมเวียดนามใต้ได้อย่างดี ความช่วยเหลือของรัสเซยทางทหารก่อเกิดวิกฤติการณ์ความตึงเครียดขึ้น จนเกิดข้อสงสัยกันว่า รัฐเซียจะเข้าไปมีบทบาทแข่งกับอเมริกาและจีนแดงอย่างจริงจังมากน้อยเพียงใด และจริงจังเพียงใด ต่อข้อสงสัยนี้ และเพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่แน่วแน่มิให้โลกเสรีเข้าใจผิด ครุสเซฟได้กล่าวสุทรพจน ณ ที่ประชุมมอสโคว์ ว่า ขบวนการปลดแอกที่เกิดขึ้นนรัฐต่าง ๆ นั้นแม้จะเป็ฯขบวนการอมมิวนิสต์ รัฐบาลรัสเซียจะสนับสนุนให้ความช่วยเหลือทางทหารเท่านั้น ซึ่งหมายถึง รัฐเซียจะไม่ใช้กำลังทหารของตนเอข้าแทรกแซงช่วยเหลือฝ่ยคอมมิวนิสต์พื้นเมืองต่อต้านรัฐบาล จีนแดงถือว่า คำประกาศเป็นการปฏิเสธของรัสเซียที่จะไม่ยอมรับควาเป็นผู้นำโลกอมมิวนิสต์ จีนแดงประณามว่ารัสเซยถือนโยบายเอาตัวรอด
สิ่งที่ทำให้จีนแดงแน่ใจยิ่งขึ้น คือการที่รัสเซียดำเนินนโยบายสมานฉันท์กับอเมริกามากขึ้น ประธานาธิบดีสหรัฐคใหม่คือ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ มีทีท่าต้องการความร่วมมือกับรัสเซย ต่างฝ่ายต่างประณีประณอมกันทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นสถานะการณ์ในลาวหนักแล้วทหารเวียดนามเหนือข้ามพรมแดนเข้ามาในลาว ถุกถามเสถียรภาพความมั่นคงของลาวและประเทศเพื่อนบ้าน คือ ไทยและเวียนามใต้ อเมริกาและรัสเซยได้ร่วมปรชุม ณ วียนนา ตกลงในหลักการที่จะให้ลาวเป็นกลาง ตามข้อตกลงเดิม ณ ที่ประชุมเจนีวา ได้มีการประชุมเจนีวาครั้งที่สองในเดือนพฤษภาคม ผุ้แทนจีนแดงเรียกร้องให้ยุบเลิกองค์การ ซีโต้ ซึ่งขณะนั้นมีทีท่าว่า ถ้าสงครามลาวจะขยายตัวมาถึงไทย ทหารจากองค์การนี้จะเข้าสงครามคุกคามเสถียรภาพความมั่นคงของจีนแดง แต่ข้อเรียกร้องนี้มิได้รับความสนใจจากบรรดประเทศต่าง ๆ ที่เข้าประชุม
ที่ประชุมลงมติให้ยุติการยิง และกำหนดลาวเป็นเขตปลอดทหาร ถึงกระนั้น ทหารเวียดนามเหนือก็ยังคงปรากฎอยู่ในลาว วิกฤติการณ์ในลาวสั่นสะเทือนเสถียรภาพความั่นคงของจีนแดงมิใช่น้อย เพราะถ้าตกลงกันมิไดในระหว่งมหาอำนาจ ลาวก็อาจเป็นยุทธภูมิของโลกเสรีและโลกคอมมิวนิสต์ ซึ่งจีนแดงไม่ปรารถนา เพราะสงครามใกล้ประเทศตน จีนแดงพยายามหลีกเลี่ยงเต็มที่ ดังเห็นไดจากกรณีที่จีนแดงบีบังคับเวียดนามเหนือมิให้ใช้กำลังรวมประเทศ
คอมมิวนิสต์ในลาว ขบวนการประเทศลาวนั้นมิได้มีพลังอำนจเพื่อขึ้นเท่าที่ควร เพราะเวียดนามเหนือพอใจทีจะเห็นพรรคคอมมิวนิสต์ลาวมีอำนาจในทีราบสูงภาพเหนือใช้เป็นเส้นทางส่งกำลังอาวุธและเสบียงอาหารส่งเสริมแก่สงครามเวียดนามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนจีนแดงไม่ต้องการที่จะเสี่ยงเผชิญหน้าอเมริกา ทั้งจีนแดงและเวียดนามเหนือจึงมิได้หนุนหลังลาวแดงให้ทำสงครามล้มอำนาจรัฐบาลลาว อีกประการหนึ่งการเมืองในเอเซียอาคเนย์ ถ้าเล่นเสียงเกินไปก้เป็นอันตรายต่อตนเอง จีนแดงได้เลือยุทธภูมิใหม่ที่ไกลตัวเองแล้ว คือ อัฟริกา
ตั้งแต่ปี 1960 อัฟริกาเพิ่งจะได้รับเอกราชมากขึ้น จักรวรรดิ์ใหญ่น้อยของยุโรปค่อย ๆ สลายตัวลงก่อเกิดช่องว่างแห่งอำนาจขึ้นในอัฟริกา อเมริกาก็ดี รัสเซียก็ดี ก้าวเข้าไปแทนที่จีนแดงถือเป็นนิมิตหมายของพลังปฏิวัติเหนือพลังจักรวรรดินิยมในอัฟริกาจีนแดงเริ่มแสดงตนเป็นผู้นำโดยปริยาย จีนแดงถือทวีปนี้เป็นที่มาแห่งแนจเดียรติภูมิของจีนแดงในการก่อเกิดปฏิวัติตามแบบจีนแดงซึ่งจะมีอำนาจอิทธิพลพอที่จะดึงดุดความสนใจของอเมริกาจากอาเซียนมาสู่อัฟริกา ตลอจนการทุ่มกำลังความช่วยเลืหแก่อาเซียนและอัฟริการวมทั้งการใช้กำลังทหารจะทำให้อเมริกาต้องอ่อนกำลังด้วยเผชิญศึกหลายด้าน เสมือนคนไข้ถูกภัยไข้เจ็บคุกคามจนหมดแรง
ตามนโยบายกร่อนกินอำนาจอเมริกานี้ จีนแดงได้ส่งเสริมการปฏิวัติขึ้นในที่ต่าง ๆ ที่สำคัญ คือ คองโก ทั้งที่เป็นของเบลเยี่ยมและฝรั่งเศส บูรุนดี สาธารณรับอัฟริกากลาง ผู้นำจีนแดงได้เดินทางไปเยื่อรัฐเหล่านี้เป็นการผูกสัมพันธไมตรีและหาสมัครพรรคพวกด้วยในเวลาเดียวกัน จีนแดงถือว่าอนาคตของการปฏิวัติสดใจ่งนักในอัฟริกา คองโกเป็นกรณีตัวอย่างที่จีนแดงหวังที่จะให้มีการปฏิวัติขึ้น ณ ไคโร (อียิปต์) จู เอน ไหล ยอมรับว่าการเชื่อมันพันธไม่ตรีกับโลกอาหรับและอัฟริกานั้นค่อนข้องจะล่าช้า การมาเยือนอาหรับและอัฟริกานั้น จีนแดงมีจุดประสงค์เรียกร้องให้มีการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันโดยสันติ และต้องการมิตรภาพตลอดจนความร่วมมือจากโลกอาหรับและอัฟริกา เป็นการเผยแพร่สปิริตอันดีมิให้ลืมไปจากใจโลกที่สาม ในขณะเดียวกัน ก็ยืนหยัดในหลักการสนับสนุนส่งเสริมการปลดแอกและต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยม
แต่ในขณะที่จีนแสดงบทบาทเจ้าตำรับการปฏิวัติในอัฟริกา พรมแดนจีนทางตอนใต้ติดอินเดียเริ่มเกิดความตึงเครียดขึ้นที่ละน้อย เพราะการเจรจาระหว่างจีนแดงกับอินเดียยังไม่ยุติลงได้ แม้จูเอน ไล จะเดินทางไปเจรจาด้วยตนเอง จีนแดงคงไม่มีจุดประสงค์ที่จะก่อศึกหรือควมตึงเครียดดวยกรณีพิพาทพรมแดนกับอินเดียในระยะนั้น เพราะจีนแดงเริ่มแตกแยดกับรัสเซียแล้ว จีนไม่ต้องการศัตรูทั้งรัสเซียและอินเดียกระหนาบอย่างแน่นอน การที่อินเดียผูกมิตรกับรัสเซีย ซึงแม้แต่ครุสซอฟก็เดินทางไปเยื่อนอินเดียซึ่งเป็นการข้ามหน้าข้ามตาจีนเป็นอันมากซึ่งมีข้อสังเกตว่า รัสเซยเริ่มแสวงหาอิทธิพลในอาเซียนมากขึ้นแข่งกับจีนแดง เป็นหมายที่สำคัญคือ อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึงสองชาตินี้มีสัมพันธภาพไม่ราบรื่นกับจีนแดง
อินโดนีเซียไม่มีข้อตกลงกับจีนแดงเรื่องชาวจีนโพ้นทะเลในอินโดนิเวีย ต่อมาอินโดนีเญียทนรอมิได้ จึงต่อต้านพ่อค้าคนจีนมากขึ้นกดขค่ต่าง ๆ จีนแดงได้ประท้วงอย่างแข็งขัน ซึ่งแทนที่สัมพันธภาพจะเลวร้ายลงกับดีขึ้น เพราะการที่รัสเซียเข้าแทรกแซง รัสเซียแข่งขันกับจีนในการช่วยเหลืออินโดนีเซีย เป็นเหตุให้จีนต้องรักษาไม่ตรีกับอินโดนีเซียให้ดีที่สุด
กรณีอินเดีย อินเดียรุกล้ำเข้าไปในดินแดนจีนเอง ผลจากโครงกรณ์กระโดดล้ำหน้าที่ล้มเหลวผลักดันให้ผู้นำในทณฑลนั้นอพยพข้ามพรมแดนไปสู่รัสเซีย รัสเซียให้ควมสนับสนุนเต้ฒที่ วิกฤติการณ์ในลาวที่ตึงเครียด กระตุ้นให้ไทยของกำลังทหารอเมริกา ทหรอเมริกาได้มาประจำในไทยเป็นครั้งแรกที่ทหารอเมริกาประจำในประเทศย่ายเอเซียอาคเนย์ ซึ่งคุกคามเสถียรภาพของจีนแดง ยิ่งหว่านั้น ในปีเดียวกันความไม่สงบภายในประเทศเนื่องจากโครงการณ์กระโดดล้ำหน้าล้มเหลว และกรณ๊พิพาทชายแดกับอินเดียคุกกรุ่น ส่งเสริมห้ไต้หวันเคลื่อไหวกำลัง แสดงท่าที่จะยกพลขึ้นบก
วิกฤตณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ที่เป็นอันตรายแก่จีนแดงมาที่สุดคือ แผนยกพลขึ้นบกของไต้หวัน เพราะมุ่งจะทำลายคอมมิวนิสต์โดยตรง จีนตระหนักดีว่าตนจะพึ่งพารัสเซียมิได้โดยแน่ จีนจำต้องใช้ความสามารถทางการทูตเจรจากับอเมริกา ณ วอร์ซอร์มิหใข้แทรกแซงช่วยไต้หวัน อเมริกาเองต้องการผูกมิตรกับจีน จึงยินยิมตกลง
จีนประชุมกำลังแสนยานุภาพกว่า หกล้านคน ประจัญหน้ากับไต้หวัน เตรียมพร้อมที่จะปกป้องกำนาจเต็มที่ ว่าไปได้หวันมีโอกาสจะแสดงความสามารถได้ดีตาทที่ได้สัญญาแก่ชาวจีนเสมอมาว่าจะยกพลขึ้นบกทำลายล้างคอมมิวนิต์ ถ้าเพียงแต่สหรัฐอเมริกาจะยินยอมเห็นด้วยและสนับสนุนไต้หวัน แต่อเมริกไม่ต้องการเปลี่ยนสถานะเดิม นโยบายสองจีนเป็นที่ยอมรับของมหาอำนาจโลกเสรีและโลกคอมมิวนิสต์ อเมริกาไม่ต้องการหนุนหลังไต้หวัน ด้วยเกรงจะก่อให้เกิดความตรึงเครียด อันหมายถึงการที่อเมริกาและรัสเซียอาจต้องเข้าร่วมสงครามช่วยพัมธิมตรของตนด้วยความจำเป็น
ความแตกแยกระหว่างรัสเซียและจีนแดงในระยะนั้น ยังไม่มีผู้ใดภายนอกปลงใจเชื่อนัก อเมริกาจึงมีเหตุที่จะต้องระมัดระวังไว้ก่อน แผนยกพลขึ้นบกของไต้หวันจึงล้มเหลวโดยปริยาย
จีนระดมกำลังมุ่งสู่พรมแดนตะวันตกและใต้ทันที่ เมื่อมีการปะทะกันหลังจากจีนได้ยื่นคำขาดให้อินเดียถอนกำลังทหารมมิให้รุกล้ำเข้าไปในดินแดนที่กำลังเป็นกรณีพิพาท รัสเซียได้พยายามร้องขอให้อินเดียยินยอมแต่อินเดียยังคงก้าวต่อไป สงครามระหว่างจีนและอินเดียจึงเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วโดยจำกัดขอบเขตเฉพาะในดินแดนที่เป็นกรณีพิพาทโดยชัยชนะเป็นของฝ่ายจีน
ในขณะเดียวกัน วิกฤติการ์คิวบาได้คุกรุ่นพร้อมีที่จะระเบิด สืบเนื่องมาจากการที่รัสเซียตั้งฐญานทัพจรวดขับเคลื่อนนิวเคลียร์ไว้ในคิวบาคุกคามอเมริกา อเมริกได้ยื่นคำขาดให้รัสเซียถอนฐานทัพ มิฉะนั้นจะใช้กำลัง สถานการณ์โลกตรึงเครียด จีนแดงกลังมีความพอใจ จีแดงสนับสนุนรัสเซียเต็มที่ในกรณีคิวบา ในขณะเดียวกัน จีนแดงก็ฉวยโอกาสดำเนินการตอบโต้อินเดียดังที่กล่าวมา
ครั้งรัสเซียถอนฐานทัพจากคิวบา คิวบาแสดงความไม่พอใจ จีนเริ่มประณามรัสเซียว่ายอมผ่อนปรนโดยไม่จำเป็น ฝ่ายรัสเซ๊ยมิได้รอช้าที่จะประณามจีนแดงว่าเจตนารอคอยความหายนะจากการเผชิญหน้ากันระหว่างรัสเซียและอเมริกา รัสเซยตราหน้าจีนแดงว่า ม้าคลั่งสงครามล้างโลก ทั่วโลกเองก็เห็นพ้องกับรัสเซียในภายหลัง
จีนในโลกคอมมิวนิสต์ และในสังคมโลกช่วงทศวรรษที่ 1950-1960 นั้นเป็นนโยบายที่ทั้งแสวงหาสันติภาพแลส่งเสริมการปฏิวัติโลก ในช่วงระยะเวลานั้นเองที่พันธมิตรกลายเป็นศัตรู รัสเซียคุกคามเสถียรภาพความมั่นคงของจีนแดง อันตรายกว่าภัยอเมริกาหลายเท่า โลกคอมมิวนิสต์แตกแยก จีนตัดสินใจสร้างอาวุธนิวเคลียร์ นโยบายจีนแดงเริ่มเน้นหนักการพึงพาตนเอง และเน้นหลักการปฏิวัติโลก นโยบายที่ขัแย้งกันอยู่ในลักษณะ คือ แสวงหาสันติภาพโดยอยู่ร่วมกันดดยสันติและการสนับสนุนขบวนการปลดแอก เป็นลักษณะเด่นชัดและเป็นปัญหาแก่จีนมิใช้น้อย มหามิตรกลายเป็นศัตรู ศัตรูของจีนเพิ่มเป็นสามประเทศ คือ รัสเซีย อเมริกา และอินเดีย คุกคามเสถียรภาพของจีนแดง นโยบายล้อมกรอบจีนแดงแผ่ขยายวงล้ำเข้าไปในโลกคอมมิวนิสต์ และเข้าไปในโลกที่สาม อเมริกาเข้ามามีอิทธิพลในเอเซียอาคเนย์ ภัยทั้งสามด้านปรากฎเป็นเงาดำทะมึนคุกคามจีนแดง