บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2012

รูปภาพ
 ราชวงศ์ถัง หลังการเสื่อมอำนาจของราชวงศ์ฮั่น แผ่นดินจีนจึงแตกเป็นก๊ก หรือเรียกว่ายุค สามก๊ก กระทั้ง สมุมาเอี๋ยน สถาปนาตนเองเป็นจิ้นอู่ตั้ ก่อตั้งราชวงศ์จิ้นตะวันตก แทนที่ราชวงศ์วุ่นของเฉาเขา หรือโจโฉ  จิ้นตะวันตกปราบว่อก็กได้ รวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น ยุติยุคสามก๊ก ราชวงศ์จิ้นเปิดรับเผ่านอกต่านทางเหนือเข้ามาเป็นจำนวนมาก สุดท้ายหัวหน้าเผ่าชนเผ่าซงหนู หลิวหยวน ก็ประกาศตั้งตนเป็นอิสระ ยกกำลังเข้าบุลั่วหยาง นครหลวงของจิ้นตะวันตก จับจิ้นหวยตี้ เป็นตัวประกันและสำเร็จโทษในเวลาต่อมา       การล่มสลายของราชวงศ์จิ้นตะวันตก ทำให้แผ่นดินจีนโกลาหล ราชสำนักจิ้นย้ายฐานที่มั่นทางการปกครองและเมืองหลวงลงใต้ สถานการณ์ทางตอนเหนือวุ่นวายหนัก แผ่นดินแตกออกเป็นแว่นแค้วนต่างๆ โดยเรียกยุคนี้ว่า ยุคห้าชนเผ่าสิบหกแคว้น เป็นยุคสั้นๆ ที่เกิดการหลอมรวมทางวัฒนธรรมของชาวจีนเชื่อสายต่าง ๆ    ภาคเหนือของจีนตกอยู่ในภาวะจลาจลและสงครามชนเผ่า หัวหน้าเผ่าทั่วป๋าเซียน สถาปนาแคว้นเป่ยวุ่ย และตั้งนครหลวงที่เมืองผิงเฉิง (มณฑล ซันซีในปัจจุบัน) ยุติความวุ่นวายจากสงครามแย่งชิงอำนาจทางภาคเหนือ..     หยางเจียนปลดโจวจิ้งตี้จากบัล

Silk Road

รูปภาพ
  ทางสายไหม แต่เดิมใช้เป็นเส้นทางขนหยกจากโขตานเข้าสู้จีน(ปัจจุบัน โขตานอยู่ในมณฑลซินเกียง) พระโอรสพระเจ้าอโศกแห่งอินเดีย พระองค์หนึ่ง ตั้งอาณาจักรขึ้นที่นั้น ต่อมา กษัตริย์ฮั่น-วู่ตี่ของจีน ใช้เส้นทางนี้เชื่อมเมืองฉางอันกับกรุงโรม เพื่อนำกองเกวียนขนส่งไหมไปยังเปอร์เซีย        เส้นทางสายไหมเรื่มต้นจากเมืองฉางอันของจีน ผ่านเอเซียกลาง มายังตักศิลาแห่งคันธาระ เข้าสู่โยนกหรือแบคเตีรย ต่อไปยังแบแดด จนถึงชายฝั่งของทะเลเมติเตอเรเนียนเชื่อมต่กจักรวรรดิโรมัน  อารยธรรมจีน อินเดีย และเปอร์เซียจึงถูกเชื่อมเข้าด้ยกันผ่านเส้นทางสายไหม        เส้นทางสายไหม คือเส้นทางการค้าของโลกยุคโบราณ เชื่อมต่ดจีนกับกรุงโรม เริ่มต้นจากนครซีอานหรือ ฉางอาน ในเขตลุ่มแม่น้ำหวงโฮ ผ่านตรงไปทิศตะวันตกเข้าสู่ นครตุงหวาง เส้นทางผ่านทะเลทรายทากลิมากัน ที่เมืองโคทานและเมืองกุจจะ ทางแยกใหญ่อยู่ที่เมืองคาชการ์ Khaksarและทุ่งเปอร์กาน่า Ferhana ใจกลางทวีปเอเซียพอดี เส้นทางแยกตะวันตกสู่นครซามาร์คานด์ (อุซเบกีสถานในปัจจุบัน)  นครเมิร์ฟ ใช้เส้นางเลียบทะเลสาปแคสเปี้ยน เข้าสูนครฮามาดัน ปาล์ไมล่า ในเปอร์เซียโบราณ ไมสู่เมือง่ท่า

Taxila

รูปภาพ
ตักศิลา  เป็นชื่อเมืองอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐปัญจาบ เป็นมหาวิทยาลัยและเป็นศูนย์กลางของศิลปวิชาการ ในอดีตของอินเดีย ตั้งแต่ก่อนพุทธกาล    ที่มาของชื่อ ตักศิลา มีผู้รู้อธิบายไว้แตกต่างกัน เซอร์ จอห์น มาร์แชล นักโบราณคดีชาวอังกฤษ กล่าวว่า คำว่าตักศิลา แปลตรงตัวว่า หินขัด จึงน่าจะมีความหมายว่า เมืองหินตัด แต่อย่างไรก็ตาม ดร. อะหมัด ฮะซาน ดานี นักโบราณคดีชาวปากีสถานไ้ด้แย้งว่า คำทั้งสองสามารถแปลไดได้ว่า เนินเขาอันเป็นที่อยู่ของตักษะหรือตักกะ ซึ่งเป็นพญางูที่สำคัญในปกรณัมฮินดู ได้เช่นกัน โดยโยงเข้ากับชื่อภาษาเอร์เซียของเมืองว่า มาระกะลา ซึ่งหมายถึงป้อมบนเนินเขาพญางู ซึ่งคำแปลนี้สอดคล้องกับเรื่องราวในมหากาพย์มหาภารตะ...    มีสำนักอาจารย์ทิศาปาติโมกข์ สั่งสอนศิลปวิทยาต่างๆ แก่ศิษย์ที่เล่าเรียนในแถบดินแดนชมพูทวีป..บุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงหลายท่านที่สำเร็จการศึกษาจากที่แห่งนี้ อาทิ พระเจ้าปเสนทิโกศล หมอชีวกโกมารภัจจ์ และองคุลีมาล พันธุลกุมาร เจ้าชายมหานิ      การศึกษาในตักศิลาและแหล่งอื่นๆ ในอินเียสมัยโบาณนั้นไม่ได้มีลักษณะเป็นสถาบันการศึกษาที่มีโครงสร้างเป็นระเบียบชัดเจนเช่นท

Fifth Crusade.. Children Crusade..

รูปภาพ
 Children Crucade    (วิจิพีเดีย)“สงครามครูเสดเด็ก”เป็นชื่อที่ใช้เรียกเหตุการณ์จินตนาการเเละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1212 ที่อาจจะประกอบด้วยบางอย่างหรือทุกอย่างที่เกิดขึ้นดังนี้        การเห็นมโนทัศน์ของเด็กเยอรมันและฝรั่งเศส ความประสงค์ที่จะเปลี่ยนมุสลิมในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้หันมารับคริสต์ศาสนา กลุ่มเด็กรวมตัวกันเดินทางสู่อิตาลี และเด็กถูกค้าเป็นทาส        งานศึกษาในปี ค.ศ. 1977 ตั้งข้อสงสัยถึงความเป็นจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและนักประวัติศาสตร์หลายคนในปัจจุบันเชื่อว่า ผู้ที่เข้าร่วมในเหตุการณ์(หรือส่วนใหญ่)มิใช่เด็กแต่เป็นกลุ่คนจนที่เร่ร่อนในเยอรมนี และ ฝรั่งเศส ที่บ้างก็พยายามจะไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือบ้างก็เพียงแต่ตั้งใจจะทำเหตุการณ์ที่บรรยายกันมาในประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นตำนานที่เล่าขานกันมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ..     สตีเฟนแห่งคลอยส์ อ้างว่าเห็นนิมิตจากพระเยซูที่ทรงเรียกร้องให้เขาระดมกองทัพเด็กเพื่อช่วงชิงดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเล็มกลับคืนมาจากชาวมุสลิม     หัวใจอันบริสุทธิ์ของเหล่าเด็ก ๆ จะเป็นพลังที่เหนือกว่าอาวุธใด ๆ และจะทำให้นครเยรูซาเลมกลับคืนมาเป็นของชาวค

Pope Innocent III

รูปภาพ
        ทรงเป็นพระสันตะปาปาที่สำคํยที่สุดองค์หนึ่งในยุคกลาง เป็นอีกผู้หนึ่งไม่คิดว่าจะเจริญเติบโตในวาติกัน เนื่องจากตระกูลท่านมีปัญหากับพระสันตะปาปาเซเลสทีน ที่ 3 ท่านอุทิศชีวิตให้กับการศึกษาและการเขียนหนังสือมากมายเกี่ยวกับเทววิทยา …และโดยไม่คาดคิด บรรดาพวกพระคาร์ดินัง เลือกท่านด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ให้ดำรงตำแหน่งสันตะปาปา เมือพระสันตะปาปาเซเลสทีนสิ้นพระชนม์ เมือพระองค์มีอายุเพียง 38 ปีเท่านั้น…     เมื่อได้รับตำแหน่งแล้วประกาศจุดยืนของสันตะปาปา ว่าเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งพระคริสต์ (รองพระคริสต์) อยู่สูงกว่ามนุย์ใดๆ แต่ต่กว่าพระเจ้า..     Albigensian Crusade หรือ Cathar Crusade เป็นสงครามครูเสดที่ยาวนาน ริเร่มโดย สถาบันโรมันคาทอลิก ในการพยายามกำจัดคาธาร์ในบริเวฯลองเกอด็อก ที่ทางสถาบันถือว่าเป็นพวกนอกรีต เป็นสงครามที่เกี่ยวข้องกับฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่..กล่าวคือ เมื่อ สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ทรงใช้วิธีการทางการทูตในการพยายามลดอำนาจของลัทธิคาธาร์ ซึ่งได้รับผลเพียงเล็กน้อยและหลังจากตัวแทนพระองค์ถูกฆาตกรรมแล้วพระสันตะปาปาอินโนเซนต์จึงทรงประกาศครูเสดต่องลองเกอด็อก โดยการประกาศมอบดิ

Kings' Crusade..Third Crucade..

รูปภาพ
จักรพรรดิเฟรดเดอริคที่ 1 แห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์     พระจ้าริชาร์ดแห่งอังกฤษ    พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งฝรั่งเศษ  ศอลาฮุดดี อัลอัยยูบีย์ หรือ ที่ชาวตะวันตกเรียกว่า ซาลาดิน เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ปกครองมุสลิมผู้มีชื่อเสียงที่สุดและเป็นสุลต่าลมุสลิมผู้ปกครองอียิปต์ ซีเรีย เยเมน และปาเลสไตน์ และเป็นผู้ก่อตั้ง ราชวงศือัยยูบีย์      อุโฆษ เศาะลาหุดดีน เป็นผู้รับตำแหน่งอุปราชในเมืองไคโร และขนามนามว่า อัลมาลิก อันนาศิร อัล-สุลฎอน เศาะลาหุดดีนยูสุฟ เป็นชาวเคริส เชื้อสายตุรกี ในขณะนั้นเคาะลีฟะหฺ สุขภาพไม่แบ็งแรง ป่วยหนัก เศาะลาหุดดีน ได้ประกาศอไนจของเคาลีฟะหฺแห่งแบกแดดเหนือดินแดนอียิปต์    ปี ค.ศ. 1170 เคาลีฟะหฺแห่งอียิปต์เสียชีวิต ลูกชายรับตำแหน่งแทน ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับ ลูกชายคนที่ 3 ของเซ็งกี ก็เสียชีวิตและลูกชาย ขึ้นครองตำแหน่งแทน..ในตอนนั้น โมกุล จึงเกิดความวุ่นวาย นุรุดดีนก็ได้ยกทัพมาช่วย    ต่อมา เคาลีฟะหฺแห่งอียิปต์ก็เสียชีวิตลงเนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรง เศาะลาหุดดีนจึงได้เป็นอุปราชของนูรุดดีน และได้ปกครองดินแดนอียิปต์ทั้งหมด   เมืองนูรุดดีนเสียชีวิต เศาะลาหุดดีน

๋่Jerusalem

รูปภาพ
       เยรูซาเลม ตั้งอยู่บนที่ราบสูงทางตอนใต้ของเทือกเขาจูเดียน มีอาณาเขตติดกับ ทะเลเดดซี Dead Sea ทางด้านตะวันออก และข้างฝั่งแม่น้ำจอร์แดนเป็นเทือกเขาโมอาบ Moab ที่แห้งแล้งทางตะวันตกกิดกบที่ราบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Mediterranean Sea ห่างจากชายฝั่ง 58 กิโลเมตร ถนนหลวงเป็นเ้ส้นทางสู่เมืองเยริโค Jericho ห่างประมาณ57.6 กิโลเมตร ไปทางตะวันออกทางเหนือมุ่ง สู่จอร์แดนและทะเลสาบกาลิลี ถนนอาลอน Allon หรือ ยิกัล Yigal ตัดผ่านทะเลทรายยูเดียรนำสู่เมืองสะมาเรีย - กว่าพันปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ได้ปรับปรุงเมืองนี้และสร้างพระวิหาร - ชาวบาบิโลนยึดกรุงเยรูซาเลมทำลายพระวิหารและนำชาวยิวไปเป็นทาสในบาบิโลน - ห้าสิบปีต่อมาชาวยิวได้กลับสู่กรุงเยรูซาเลมและสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ - พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ได้ยึดกรุง เยรูซาเลม เมือครั้งนำทัพไปตีอียิปต์ - 168 ปี ก่อนครอสตกาล กษัตริย์อันติโอกุส เอปีฟาเนส ทำลายกำแพงกรุงเยรูซาเลม - ชาวโรมยึดเมือง - เฮโรดได้แต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของชาวยิว พระองค์ทรงปรับปรุงกรุงเยรูซาเลม และสร้างกำแพงและพระวิหาร ขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระเยซูเจ้าดำรงพระชนชีพย์ ซึ่

Second Crusade

รูปภาพ
     สงครามครูเสดครั้งที่ 2 เป็นสงครามที่เริ่มจากยุโรปในปีค.ศ. 1145 ในการโต้ตอบการเสียอาณาจักรเอเดสสาในปีก่อนหน้านี้      สงครามครูเสดครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นจากความพ่ายแพ้ของ เอเดสสาฐานรักษาการณ์ทางเหนือของอูเตอร์ แมร์      ระบบศักินา “ฟิวดัล”ที่พวกครูเสดนำมาใช้ในเอเซียไมเนอร์นี้ “ระบาด”ในหมู่พวกมุสลิมเช่นกัน พวกมุสลิมชนชาติต่าง ๆ ในตะวันออกกลางต่างก็แก่งแย่งถืออำนาจกัน แตกออกเป็นหลายนคร      เซ็งกี หังหน้าวมุสลิมจากโมซูล ผู้มีกองทัพเข้มแข็งมุ่งหมายที่จะรวบรวมดินแดนชาวมุสลิมในพื้นที่ชายฝั่งทะเล พวกอูเตรอแมร์เพิกเฉยต่อภัยคุกคามนี้ แต่คริสตชนในตะวันตกกลับลุกฮือเพราะเกรงกลัวชาวมุสลิมจะรุกรานต่อไป      อาณาจักรเอเดสสาเป็นอาณาจักรครูเสดอาณาจักรแรกที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างสงครามครูเสดครั้งที่ 1 และเป็นอาณาจักรแรกที่ล่ม      สงครามครูเสดครั้งที่ 2 ได้รับการประกาศโดยสมเด็จพระสันตะปาปายูจีนที่ 3 และเป็นสงครามครูเสดครั้งแรกที่นำโดยพระมหากษัตริย์ยุโรปที่รวมทั้งพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 แห่งฝรั่งเศส ซึ่งถือเอาสงครามครูเสดเป็นฉากบังหน้า เพื่อปิดบังซ่อนเร้นการกระทำอันโหดร้ายต่อพลเมืองที่เป็นกบฎต่อพระองค์ 

First Crucade

รูปภาพ
        สงครามครูเสดครั้งแรกเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1095                        “ Let the truce of god be observed at home and let the arms of the Christians be direct to congue tring the infidels.”                           “ด้วยบัญชาของพระเจ้า ให้เจ้าหยุดยั้งการทำสงครามกันเอง และให้เขาเหล่านั้นหันมาถืออาวุธมุ่งหน้าไปทำลายผู้ปฏิเสธ(มุสลิม)”                      ประกฎว่าโป๊ปรวบรวมคนได้ถึง 150,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝรั่งเศสไปร่วมทำสงครามครูเสด จะเห็นว่าในบรรดาชายชาวยุโรปที่กระเหี้ยนกระหือรือในการทำสงครามครูเสดมาที่สุดก็คือชาวฝรั่งเศษ           ในขณะที่ทัพครูเสดกำลังจะยกมารบกับอิสลาม ก็ได้มีกองทัพของประชาชนผู้มีศรัทธาแรงกล้าเดินทัพมาก่อนแล้วในปี ค.ศ. 1094 ตามคำชักชวนของ ปีเตอร์ นักพรต (Peter of Amines) เขาผู้นี้ได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วยุโรป เพื่อป่าวประกาศเรื่องราวการกดขี่ของชาวเติร์กต่อชาวคริสเตียนในปาเลสไตน์ ซึ่งหาได้เป็นความจริงไม่            นักรบครูเสดชาวนา ผู้รณรงค์ประการชวนเชื่อเรื่องครูเสดสามารถกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกศรัทธาแท้จริงได้ ความศรัทธานี้เริ่มมาจากการปฏิ

There'noting inside

how can you see into my eyes like open doors leading you down into my core where I’ve become so numb without a soul my spirit sleeping somewhere cold until you find it there and lead it back home (Wake me up) Wake me up inside (I can’t wake up) Wake me up inside (Save me) call my name and save me from the dark (Wake me up) bid my blood to run (I can’t wake up) before I come undone (Save me) save me from the nothing I’ve become now that I know what I’m without you can't just leave me breathe into me and make me real bring me to life (Wake me up) Wake me up inside (I can’t wake up) Wake me up inside (Save me) call my name and save me from the dark (Wake me up) bid my blood to run (I can’t wake up) before I come undone (Save me) save me from the nothing I’ve become Bring me to life (I've been living a lie, there's nothing inside) Bring me to life frozen inside without your touch without your love darling only you are the life among the dead all this time I can't believ

Crusade

รูปภาพ
           สงครามครูเสด หรือ อัลฮุรุบอัศศอลีบียะหฺหรือ อัลฮัมลาส อัศศอลีบียะหฺ แปลว่า สงครามไม้กางเขน คือสงครามระหว่างศาสนา ซึ่งอาจหมายถึงสงครามระหว่าชาวคริสต์ต่างนิกายด้วยกันเอง แต่โดยส่วนใหญ่มักหมายถึงสงครามครั้งสำคัญระหว่างชาวมุสลิมและชาวคริสต์ ในช่วงศตวรรษที่ 11-13            ชาวเติร์ก เป็นคนส่วนใหญ่ของตุรกีในปัจจุบันมีพื้นเพดั้งเดิมเป็นชนเผ่าเร่ร่อนแบ่งเป็นหลายเผ่าเป็นหลายเผ่าด้วยกัน เดิมที่อาศัยอยู่แถบเทือกเขาอัลไตในเอเซียกลาง กระทั่งในราวศตวรรษที่ 6 เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและการเมือง ทำให้ชาวเตร์กต้องเร่ร่อนไปในดินแดนต่าง ๆ            ชาวเติร์กเผ่าหนึ่งคือเผ่าเซลจุก เลือกอพยมายังพื้นที่”อนาโตเลีย”(ดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ของเอเซียที่เชื่อมต่อระหว่างเอเซียกับยุโรป ปัจจุบันคือพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศตุรกี)  และได้พยายามเข้าตีเมืองเมืองอิซนิก ที่อยู่ใกล้กรุงคอนสแตนโนเปิล แห่งอาณาจักรไบแซนไทน์ เพื่อยึดเป็นเมืองหลวง แต่ว่าไม่สามารถตีเมืองได้จึงถอยไปปักหลักอยู่ในอานาโตเลียตอนกลาง พร้อมสถาปนาอาณาจักแห่งแรกของตนขึ้น โดยเลือกเอาเมืองคอนยาเป็นราชธานี   จุดเริ่มต้นของสงครามครู

อายะฮฺ

รูปภาพ
   "การสู้รบนั้นได้ถูกกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว ทั้งๆ ที่มันเป็นที่รังเกียจแก่พวกเจ้า     และอาจเป็นไปได้ว่าการที่พวกเจ้ารังเกียจสิ่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีแก่พวกเจ้า     และก็อาจเป็นไปได้ว่าการที่พวกเจ้าชอบสิ่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายแก่พวกเจ้า     และอัลลอฮ์นั้นทรงรู้ดีแต่พวกเจ้าไม่รู้"                                                                                อัล-บะกอเราะฮ.2:216         สำหรับการเผยแพร่ศาสนาอิสลามเป็นไปอย่างยากลำบากในเพาะต้องหลบๆ ซ่อนๆ จากพวกปฏิเสธศรัทธาชาวมักกะฮฺ พวกกุเรซ(ตระกูลเครือญาติของท่านนบีในนครมักกะฮฺ)พยายามทำทุกวิถีทางที่จะขัดขว้างการเติบโตของอิสลามแทนความเชื่อเดิมๆ ที่พวกตนยึดถือ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงถูกปองร้าย กลั่นแกล้ง กล่าวหา หรือแม้กระทั่งลอบสังหาร        ช่วงเวลาเดียกันบรรดาอัครสาวกก็ได้รับการทารุณกรรม ด้วยวิธีที่ไร้มนุษยธรรมเพื่อบังคับในละทิ้งอิสลาม และกลับสู่ศาสนาเดิม       เหตุการณ์เป็นดังนี้ตลอดระยะเวลา 13 ปี แต่ อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ยังไม่ทรงอนุมัติให้มีการตอบโ

Opium Wars

รูปภาพ
         ฝิ่นเป็นยาเสพย์ติดที่ชาวจีนติดกันอย่างงอมแงมและติดกันมานาน ใน สมัยราชวงศ์ชิง รัชกาลจักรพรรดิหย่งเจิ้น เคยมีดำริที่จะทำการปราบปรามฝิ่นแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ชาวจีนส่วนใหญ่ยังติดฝิ่นเรื่อยมา       ฝิ่นนำเข้ามาขายในประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ชิงโดยอังกฤษนำเข้าในนามบริษัทอีสต์อินเดีย จำกัดแต่ด้วยวิธีทางเมืองของจีน ทำให้อังกฤษค้าขายกับจีนลำบาก อังกฤษขาดดุลการค้ากับจีน จังหาวิธีด้วยการนำข้าฝิ่นมาขายโดยอ้างว่าฝิ่นเป็นยา ต่อมาชาวจีนจึงติดฝิ่นงอมแงม ประเทศที่ค้าฝิ่นกับจีน ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และรัฐเซีย โดยมีการนำเขาอย่างมโหราฬ ทั้งที่ทางการประกาศห้ามจำหน่ายและสูบฝิ่น แต่ราษฎรทั่งประเทศติดฝิ่น เงินทองหมดไปกับการสูบฝิ่น วิธีการของอังกฤษคือ ใช้กำลังทหารคือกองเรือข่มจีน และติดสินบนพวกขุนนางกังฉินชั้นสูง       รัชสมัยจักรพรรดิเต้ากวง พรองค์มีเจตนารมณ์อย่างแรงกล้าที่จะทำการปราบฝิ่น ทรงแต่งตั้งหลินเจ๋อสวีเป็นตรวจราชการ สอง มณทฑ เป็นผู้นำในการกวาดล้างฝิ่นจากแผ่นดินจีย หลิน’รู้ว่าอังกฤษปลูกฝิ่นที่อินเดียมานานแล้ว แต่การปราบปรามการค้าฝิ่นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก จึงต้องใช้กฎหมายของประเทศ ประกาศ

Cold War

รูปภาพ
 สงครามเย็น เป็นการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มประเทศ 2 กลุ่มที่มีอุตมการณ์ทางการเมืองและระบอบการเมืองต่างกัน เกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ฝ่ายหนึ่งคือ สหภาพโซเวียต เรียกว่า ค่ายตะวันออก ซึ่ง ปกครองด้วยระบอบคอมมิงนิสต์ อีกฝ่ายหนึ่ง คือ สหรัฐอเมริกา และกลุ่มพันธมิตร เรียกว่า ค่ายตะวันตก ซึ่งปกครองด้วยระบอบเสระประชาธิไตย ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวทั้งสองฝ่ายได้แข่งขันในด้านการสะสมอาวุธ เทคโนโลยีอวกาศ "การจารกรรม" เศรษฐกิจ และ “สงครามตัวแทน”          จารกรรม คือการล้วงความลับจากคู่แข่งหรือศัตรูเพื่่อให้เปรียบทางการทหาร การเมือง หรือเศรษฐกิจ           จารชน คือ บุคคลที่รัฐส่งไปล้วงความลับจากศัตรูหรือฝ่ายที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งความลับทางการทหาร แต่แาจรวมถึงการล้วงความลับจากตางบริษัท เรียกว่า จารกรรมทางอุตสาหกรรม..      โดยทั่วไป จารกรรมกระทำโดยพลเมืองของประเทศเป้าหมาย ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการกบฎ หลายประเทศถือว่าจารกรรมเป็นความผิดอาญา ต้องได้รับโทษประหารชีัวิตหรือจำคุตลอดชีวิต  เช่น สหรัฐอเมริกากำหนดห้จารกรรมเป็นความผิดอาญาขั้นอุกฤษฎ์โทษ  สหราชอาณาจักร

Three Kingdom

     กวนอูแทนคุณ เมือครั้งโจโฉยกทัพเรือเพื่อจะมาตีเกงจิ๋ว ในครั้งนั้นซุนกวน และจิ่วยี่รวมถึงขุนนางทั้งหลายจะไม่ทำการสู้รบ ยังตกลงความมิได้ ทางฝ่ายเล่าปี (จ๊กก๊ก) เห็นว่าหากซุนกวนยอมสวามิภักดิ์แผ่นดินย่อมตกเป็นของโจโฉ  จึงสงขงเบ้งไปหาซุนกวนและจิวยี่      ขงเบ้งต้องเจรจาและเกลี้ยกล่อมพร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าหากสวามิภักดิ์ต่อโจโฉเท่ากับยกแผ่นดินในโจโฉ กระนั้นก็ไม่เป็นผล ขงเบ้งจึงว่าแก่ซุนกวนและจิวยี่เป็นทำนองว่า ถ้าเช่นนั้นก็ยก แม่นางเกี้ยวทั้งสอง ซึ่งมีรูปงามและเป็นเมียของซุนกวนและจิวยี่ให้โจโฉจึงหมดเรื่อง กล่าวต่อว่าอันที่จริงโจโฉต้องการแผ่นดินเกงจิ๋ว ที่ยกทัพมาหมายจะได้แม่นางสองเกี้ยวเท่านั้น เมือซุนกวนและจิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงตัดสินใจทัพสงครามกับทัพโจโฉ…          เมือกองทัพเรือโจโฉ   บุกเข้ามาจิวยี่เป็นแม่ทัพเข้าต่อสู้กับทัพโจโฉ ด้วยทัพโจโฉมีลี้พลจำนวนมากและมีทหารเอกเป็นจำนวนมากจึงมิหาวิธีที่จะไปรบอย่างไร จึงผูกอุบายเชิญขงเบ้งว่าจะปรึกษาการสงครามแก่โจโฉ โดยให้พี่ชายขงเบ้ง คือ จูกัดกิ๋นมาเชิญโจโฉไปยังกองทัพ        โจโฉรู้ว่าการครั้งนี้ร้ายมากว่าดี แต่จำต้องไป โจโฉบอกวิธีการเอ

Greco - Persian Wars

รูปภาพ
              สงคราม  เป็นสมบัติของมนุษยชาติ เป็นสิ่งคู่กับอารยธรรม ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จวบจนปัจจุบัน และสู่อนาคต  ไม่มีจบสิ้น อุบายการทำสครามจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยก็คือ อาวุธยุททโธปกรณ์ และอาวุธยุทโธปกร์นั้นก็วิวัตณน์ไปตามอารยธรรมและเทคโนโลยีของของมนุษยชาติ ซึ่งจะพิจารณาได้จากสงครามหรือการรบตามภูมิภาคต่างๆ ในอายุของเรา….    การใช้กำลังเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ เป็นเครื่องมือของการดำเนินความสัมพันธ์แบบสุดท้าย หลังจากวิธีการแบบอื่นๆ ไม่ได้ผลแล้วแต่ในบางยุคบางสมัย ก็มีผู้นำที่นิยมใช้สงครามเป็นเสมือน   “เกมส์(พระราชา)”เท่านั้น    ร้อยละแปดสิบถึงเก้าสิบของกิจกรรมของมนุษยชาตินั้น ออกมาในรูปของการใช้กำลัง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หมายความว่า มนุษย์ใช้เวลาไปในการสู้รบ มากว่าเวลาที่เอาไปใช้เพื่อการสร้างสรรค์  สิ่งประดิษย์อันยิ่งใหญ่ของมนุษย์จำนวนมาก เกิดขึ้นด้วยแรงผลักดันในความพยายามที่จะทำลายล้างกัน…  เทพแห่งสงคราม ดูอัลบั้มทั้งหมด               สงคราม กรีก-เปอร์เซีย   คือสงครามของพวกกรีกกับชาวเปอร์เซียที่บุกมาจากทางฝั่งอาหรับเข้ามาทางตอนเหนือ ประวัติศาสตร์ได้จดบันทึกวีรกรรมของชาว

Turks

รูปภาพ
                  คาบสมุทรอาราเบียอยู่ทางตะวันตกสุดทวีปเอเซีย เป็นคาบสมุทรยื่นออกไปในมหาสมุทรอินเดีย ล้อมรอบด้วยทะเลแดง ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ราบสูงอาร์เมเนียและอ่าวเปอร์เซียปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกลุ่มอาหรับ แต่เดิมดินแดนนี้ไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย การดำเนินชีวิตมี 2 แบบคือ            พวกเร่ร่อนตามทะเลทราย มีอาชีพเลี้ยงสัตว์ ต้องเร่ร่อนหาทุ่งหญ้าและแหล่งน้ำ ทำให้ไม่สามารถหนุดตั้งหลักแหล่งได้ ดำเนินชีวิตอยู่ในกระโจมเรียงรายเป็นกลุ่มเพื่อสะดวกในการโยกย้าย  และพวกอาหรับชาวเมืองซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพคาขายมีสำพชีวิตสะดวกสบาย อุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง คุมอำนาจทั้งด้านการเมืองและเศษฐกิจ เมืองใหญ่ๆ เหล่านี้ได้แก่ เมกกะ ยาเทรปซึ่งปัจจุบันคือเมืองเมอินา ในคาบสมุทรอราเบีย            ชาวอาหรับไม่เคยรวมกันได้ ไม่มีบทบาททั้งทางการรบและอารยธรรมแต่กลับมีความสำคัญขึ้นอย่างมากเพราะศาสนาอิสลามเป็นสำคัญ           อาณาจักรมุสลิม   แบ่งการปกครองออกเป็น 3 ระยะ ระหว่าง ค.ศ. 632-1258                   - สมัยการปกครองของเคาะรีฟะหฺ ค.ศ. 632-661 มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองเมดินา ในประเทศซาอุดิอาระเบียปัจจุบัน