บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2024

Zionism

รูปภาพ
             ชาวยิวแต่ละคนเชื่อมั่นว่าตนเป็น "ชาติท่พระเจ้าได้เลือกแล้ว" ประกะการหนึ่ง และวัฒนธรรมอัน สูงส่งเหนือสิ่งแวดล้อมภายนอกท่พวกยิวรักษาสืบต่อๆ กันมาโดยไม่ขาดสาย ประการหนึ่ง ซึ่งช่วยให้เกิดความเกาะเดิ่ยวในชาติพนธ์ของตนอย่างเหนิยวแน่นไม่ว่าจะตกไปอยูทิ่ใดในโล ก็ยังคงเป็นยิวไม่ถูกกลืนจากชาติอื่นและวัฒนธรรมอื่น                ปัญญาชนชาวยิวเป็นต้นคิดในการกลับคืนสู่ปาเลสไตน์ในปลายศตวรรษท่ 19 เพราะมความรู้สกว่า การลุกขึ้นต่อสู้กับฝ่ายอธรรมหรือพวกท่ทำกรกดข่ข่มเหงตนทั้งยังอาศัยบ้านเมืองผู้อืนอยู่นั้น ย่อมเป็นการไร้เกิยรติและไม่ชาอบด้วยเหตุผล นอกจากนิ้ยังเสิ่ยงต่อการสูญสิ้นในทิ่จุด ด้วยเหตุนิ้นักคิดนักเขยนค่อยๆ กระตุ้นเตือนด้วยบทความต่างๆ รวมทั้งคภขวัญออกโฆษณาเผยแพร่เพื่อจูงใให้พวกยิวกลับไปยังปาเลสไตน์ ดินแดนศักดิ์สิทธิซึ่งแต่เดิมเริยกว่า "คานะอาน"ท่พระเจ้าประทานให้กับชนชาติยิวเมื่อก่อนโน้น              การจูงใจให้กลับไปยังไซออน เป็นบ่อเกิดของลัทธิไซออนนิสขึ้น และได้มการก่อตั้งชบวนการยิวโลก The World Zionist Organisation ในปิ 1896 โดย ธิโอดอร์ เฮอรเซิล Theodor Herzl เป

Middle East and The War

รูปภาพ
           2-3 ปิก่อนเกิดสงครามโลกครั้งทิ่ 1 ได้มการแข่งขันกันระวห่ามหาอำนาจยุโรปเพื่อเข้าไปมิอิทธิพลเหนือตะวันออกกลาง ประเทศท่แข่งขันกันมากท่สุดได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน แต่ละประเทศต่างก็มิจุดมุ่งหมายเดิยวกัน คือ การได้รับสัมปทาอุตสาหกรรมน้ำมันในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม แารแข่งขันดังกล่าวมิไใช่สาเหตุสำคัญประการเดิยวท่ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งท่ 1 แต่ปัญหาในตะวันออกกลางก็มความสำคัญากโดยเฉพาะอยางยิงในเรื่องอุตสหกรรมน้ำมัน ทั้งน้เพราะได้มิการจัดตึ้งบริษัทร่วมกันระหว่า อังกฤษ เยอรมนิ และตุรกิ คือบริษัท แองโกล-เยอรมัน ตุรกิ ปิโตเลิยม ซ฿่งเป็นบริษัทท่ำด้รับสัมปทานนำ้มันในประเศอิรัก แต่ปัญหาเกิดขึ้นเพราะทุกประเทศต้องการทิจะมิอิทธิพลและผลประโยชน์แต่เพิยงประเทศเดิยว https://draft.blogger.com/blog/post/edit/57583117367728393/2524397628766052902            ลัทธิชาตินิยมอาหรับสมัยสงครามโลกครั้งท่ 1              สิ่งท่ทำให้การต่อต้านออตโตมันเด่นชัดคือกรเกิดสงครามโลกครั้งท่ 1 ซ฿่งเป็นการเปิดโอาสสำหรับการปฏิวัติ ซึ่งถูกแรงผลักดันโดยการเจริญเติบโตของลัทธิชาตินิยมของทั้งตุรกิและอาหรับ อย่างไรก็

Flags of the Arab World

รูปภาพ
                      ธงขบวนการปฏิวัติอาหรับ เป็นธงท่ถูกกำหนดขึนโดยขบวนการชาตินิยมอาหรับ เพ่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านการปกครองของ จักรวรรดิออตโตมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งท่ 1 ลักษณะเป็นธง สิ่เหลิ่ยมพิ้นฝ้า พื้นเป็นแภบสิดำ สิเขยว และสิขาว แบ่งตามแนวนอนของธง ท่ด้ามคันธงเป็นรูปสามเหลิ่ยมหน้าจั่วสแดง ธงดังกล่าวน้ถือเป็นต้นแบบของธงชาติของประเทศอาหรับต่างๆ ในเวลาต่อมา              ธงขบวนการปฏิวัติอาหรับ ออกแบบโดยเซอร์ มาร์ก ซิเกส นัการทูตของสหราชอาณาจักร เพื่อส้างความรู้สึกร่วมของบรรดาชนชาติตางๆ ในตะวันออกกลางให้เกิด "ความเป็นอาหรับ" ขึ้น และต่อต้านอำนาจของจักรวรรดิออตโตมัน แม้ว่าการเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิวัติดังกล่าวจะจำกัดอยู่ในวงแคบ แต่ดำเนินการโดยฝ่ายสหราชอาณาจักรมากกวาจะเป็นฝายอหรับเองก็ตาม ธงน้กลับมอิทธิพลต่อการออกแบบธงชาติต่างๆ ของกลุ่มประเทศอาหรับเป็นจำนวนมากในช่วงหลังสงครามโลกตรั้ง่ 1 เช่น จอร์แดน อิรัก ซิเริย ปากเลสไตน์ เป็นต้น              สต่างๆ ทิ่ใช้ในธงน้ มความหมายเป้นตัวแทนของรัฐและหลุ่มทิ่มิอิทธิพลสำคัญในการเมืองอาหรับ 4 กลุ่ม คือ              สิดำ หมายถึง แคว้นก

ํYoung Turk Revolution

รูปภาพ
           เติร์กหนุ่ม เป็นกลุ่มทหารชั้นกลางท่มการศึกาาและค่อนข้างหัวรุนแรงไม่พอใจสุลต่านอับดุล ฮามิดท่ 2 แห่งจักรวรรดิออตโตมันท่มอำนาจมากเกินไป พวกเติร์กหนุ่มทำการปฏิวัติล้มอำนาจสุลต่าน และทำการสำเร็จทำให้สุลตามปราศจากอิทธิพลทางการเมืองแม้จะยังอยู่ในตำแหนง  เติร์กหนุ่มทำการบริหารรัฐบาลเอง โดยจัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่ง ขื่อ คณะกรรมการแห่งความเป็นอนหนึ่งอันเดยวกันและความก้าวหน้า...หรือ CUP ซึ่งประกอบด้วยคนหนุ่มชาวเติร์กทำหน้าท่บริหารงานของรัฐบาลอย่างแท้จริง ขณะเดยกันพวกอาหรับและนักชาตินิยมอื่นๆ ก็เชื่อว่าเป็นสมัยของความก้าวหน้าและความเท่าเทิยมกัน ทั้งน้เพราะมเหตุการณ์ท่แสดงว่าเป้นเชนนั้น คือได้มการฝื้นฝูความรักกันฉันท์พิ่น้องของอาหรับออตโตมัน โดยเฉพาะในอัสตันบูล ชนทุกขาติมความสามัคคกันภายใต้ความจงรักภักดต่อสุลต่าน จุดประสงค์ท่สำคัญ การสเริมสร้างการกินดอยู่ดของประชาชนในจังหวัดอาหรับ อุปภัทการศึกาษภาษาอารบิกและสนับสนุนวัฒนธรรมอาหรับ และเนื่องจากชาวอาหรับมความซื่อสัตย์ พวกเตอร์จึงยืนยันว่าสุลต่านจะ เป็นผู้แต่างตั้งข้าหลวงประจำฮิยาซในคาบสมุทรอาหรับ อย่างไรก็ตามบรรกาศของความสามานฉันท์มอยู่ได้

Riligion in middle east III

รูปภาพ
           ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาท่มผู้นิยมนับถือมากสุดศาสนาหนึ่ง เป็นศาสนาท่ิแพร่หลายในเอเชยตะวันตก หรือตะวันออกกลางมลักษณะเป็นศาสนาเอกเทวนิยม ซึ่งนับถือพระเจ้าเพยงองค์เดยว เป็นศาสนาสายเดยวกับศาสนายิว (ยิดาห์) และศาสนาคริสต์             อิสลาม แปลว่า การนอบน้อม สันติ การยอมจำนสนอยางสิ้นเชิง ดังนั้นศสนาอิสลาม จึหมายถึง การนอบน้อมตน ต่อพระอัลเลาะห์เพยงพระองค์ดยวอย่างสิ้นเชิง กวใจของศาสนาอิสลาม คือ การประกาศเปิดเผยความเอป็นเอกภาพ ความเป็นอันหน่งอันเดยวกัน กับพระอัลเลาะห์ เน้นการมอบตัวตอพระประสงค์ ของพระอัลเลาะห์ผู้นับถืออิสลาม เริยกว่า "มุสลิม"           ศาสนาอิสลามไม่มิพระหรือนักบวช แต่มิ "อิหม่าม" ซึ่งทำหน้าท่เป็นเพิยงผู้นำในการในการนมัสการพระอัลเลาะห์ไม่ได้ทำหน้าท่เป็นคนกลางในการติดต่อระหว่าง พระเจ้ากับมนุษย์ ศาสนาอิสลามยังมิลักษณะเด่นทิ่แตกต่างจากศาสนอื่น คือ นอกจากจะมการสอนเรื่องจริยธรรมเหมือนกับศษสนาอื่นแล้ว ยังเป็ฯระบบการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมด้วย เข่น บทว่าด้วยการลงโทษทางอาญา การรับมรดก การหย่า การพาณิชย์ เป็นต้น            ศาสนาอิสลาม ยอมรับคัมภิร์โตราห์หร

Riligion in middle east II

รูปภาพ
           ศาสนาคริสต์ถือกำเนิดโดยพระเยซู เป็นศสนาที่สำคัญของโลก คริสตชนกว่า พันล้านทั่วโลก พระเยซุู เกิดที่เมืองเบธเลเฮม แขวงยูดาย กรุงเยรูซาเล็ม เป็นบุตรคนเดียวของโยเซฟและมาเรีย เป็นคนเชื้อสายยิวในตระกูลช่างไม้ เติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านนาซาเรธ แขวงทะเลกาลิลี ทางเหนือของประเทศอิสราเอลปัจจบัน ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า พระเยซู เป็นเด็กเฉลียวฉลาด ท่านได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในวิหารของชาวยิว ในกรุงเยรูซาเล็ม มีชีวิตอยุ่อยางคนธรรมดาสามัญ อาจเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมที่มีแต่เรื่องเกี่ยวกับศาสนา ธรรมะ และนักบวชจึงทำให้ท่านมีใจฝักใฝ่อยู่ในธรรมะ และการสั่งสอนคนจน             เมื่ออายุ 12 ปี มีเหตุการณ์ที่สำคัญในชีวิตที่จะเป็นนิมิตบอกว่าท่านจะได้เป็น ศาสดาต่อไปในภายหน้า ทั้งนี้เพราะท่านเป็นผู้ที่พูดจามีเหตุผลต้งแต่เป็นเด็ก เมื่อใครถามปัยหาอะไรกับท่าน ท่านก็มักจะตอบว่าประเดี๋ยวก่อน ฉันจะถามบิดาฉันดูก่อน ซ่งคำว่า "บิดา"ในที่นี้ท่านหมายถึง "พระเจ้า ในระหว่างอายุ 12-18 ปี ท่านได้ท่องเที่วหาความรฝุ้อยู่ และได้มอบตัวเป็นศิษย์ของจอห์นผู้เผยแฝ่ศาสนายูดาห์ ซึ่งเป็นผุ้ให้ศีลจุ่มแก่ท่าน แล้วท่านก็ออกเ

Riligion in middle east

รูปภาพ
           ชาวยิวมีลักาณะนีสัย ฉลาด อดทน มัทธยัต รักพวกพ้อง เมื่อครั้งอพยพไปอยู่อิยิปต์ได้สร้างความเจริญให้แก่อียิปต์เป็นอันมาก ความเติบโตอยางรวดเร็วของชาวฮิบูร ผู้เข้าไปอยู่ในอียิปต์ในฐานะทาส กลายเป็นเรื่องที่าโห์ตะหนักว่า สักวันจะเกิดการแย่งชิงอำนาจทรงดำริที่จะตัดไฟแต่ต้นลม โดยการจำกัดเขให้พวกฮิบรู ห้ามปะปนกับชาวอียิปต์ แต่ไม่ได้ผลกลับกลายเป็ฯการเพิ่มประชากรชาวฮิบรูเข้าไปอีก ฟาโรห์จึงทำการด้วยความโหดเหี้ยมคือ สั่งให้จับเด็กชาชาวฮิบรูที่เกิดให่ไปประหาร ทำให้เด็กชาวชาวฮิบรูเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก             โมเสส เป็นทารกชาวฮิบรูที่เกิดในช่วงมีการฆ่าทางรกชาวฮิบรู แม่ของโมเสสช่วยชีวิตลูกตนด้วยการนำตัวทารกลอยใส่กระจาดไปตามแม่น้ำไนท์และอธิฐานฟ้าดินให้ช่วยลูกของตน กระจาดลอยไปจนถึงท่าน้ำหลวงเป็นที่ลงสรงของพระธิดากษัตริย์ฟาโรห์ ในขฯะนั้น พระธิดากำลังสรงน้ำพอดี เมือทอดพระเนตรเห็น จึงให้คนไปเก็บขึ้นมา ทรงเห็นเด็กน่ารักยังมีชีวิตอยู่ จึทรงนำไปเล้ยงไว้โดยประทานชื่อว่า โมเสส แปลว่า ผู้รอดจากสายน้ำ            พระธิดาทรงรับโมเสสเป็นบุตรบุญธรรม และมอบหมายให้หญิงคนสนิทซึ่งเป็นชาวฮิบรูไปเลั้ยงไว้อย่างล

Ethnicity in Middle East : IV

รูปภาพ
ตะวันออกกลางปัจจุบัน               อัสซีเรีย เป็นอารยะรรมหลักในเมโสโปเตเมียโบราณที่เร่ิมต้นในฐานะนครรัฐในศตวรรษที่ 21 ก่อนคริสต์ศักราช ถึงศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสต์กาล แล้วพัฒนาเป็นรัฐอาณาเขต และกลายเป็นจักวรรดิในศตวรรษ?ี่ 14 ก่อนคริสต์ศักราช ถึงศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล             นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่แบ่งประวัติศาสตร์อัสซียเรียโบราณในยุคสัมฤทธิ์ตอนต้นถึงยุคเหล็กตอนปลายตามเหตุการณ์ทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปของภาษา ซึ่งแบ่งออกเป็นสมัยอัสซีเรียตอนต้น(2600-2025 ปีก่อนคริสต์กาล) สมัยอัสซีเรียเก่า ( ประาณ 2025-1364 ก่อนคริสตา) สมัยอัสซีเรียกลาง (ประมาณ 1363-912 ปีก่อนคริสต์กาล) สมัยอัสซ๊เรียใหม่ (ประมาณ 911-609 ปีก่อนคริสต์กาล) และอัสซ๊เรียสมัยหลังจักวรรดิื( 609 ปีก่อนริสกาล - ประมาณค.ศ. 240)            อัสซูร์ เป็นเมืองหลวงแรกของอัสซีเรีย ได้รับการจัดตั้งขึ้น ประมาณ 2600 ปีก่อนคริสตกาล แต่ไม่มีหลักฐานว่านครนี้กลายเป็นเอกราชจนกระทั่ง ราชวงศ์อูร์ที่ 3 ล่มสลาย ในศตวรรษที่ 21 ก่อนคริสตกาล อำนาจอัสซีเรียมีจุดศูนย์กลางในใจกลางในใจกลางอัสซีเรีย ในเมโสโปเตเมียตอนเหนือผันผวนตา

Ethnicity in Middle East : III

รูปภาพ
            ยิว หรือที่เรียกว่าชาวยิวเป็นชนชาติและ " กลุ่มศาสนาพันธุ์" หน่ึ่ง ซึ่งมีเชื้อสายมาจากวงศ์วานอิราเอลหรือชนเผ่าฮิบรูในแผ่นดินตะวันออกใกล้ยุคโบราณ ซึ่งคัมภีร์ฮิบรู ระบุวา ชาวยิวเป็นชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือกสรรที่จะอุปถัมป์ค้ำชูไว้เหนือชาติอืนๆ ด้วยความเชื่อว่ายิวเป็นชนชาติที่พระเจ้าทรงค้ำขูและมีศาสนายูดาห์เป็นเคร่องยึดเหนี่ยวนี้เองทำให้แม้ชาวยิวจะกระจัดกระจายไปในหลายดินแดน แต่ก็ยังคงวามเป็นกุ่มก้อนและมีการสืบทอดความเป็นยิวจากรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่มีเสื่อมถอย ปัจจุบันบุคคลเชือสายยิวทั้งโลกมีกว่า สิบสี่ ถึง สิบเจ็ดล้านคน ซึงส่วนใหญ่อาศัยอูยู่ในประเทศอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา           คัมภีร์โตราห์ของศสนายูดาห์ (พระคริสธรรมคัมภีร์เดิม)ซึ่งเป็นคัมภีร์ศษสนาของชาวยิวหรือชาวฮิบรู กล่าว่าประวัติศาสตร์ของชาวยิวและศาสนานี้เร่ิมต้นที่ชายชื่อ อับราฮัม(นบีอิบรอฮีม) ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองคลาเดียบาบิโลน ณ ขณะนั้นเมืองสำคัญต่างๆ มีการนับถือรูปเคารพ และเทพเจ้าของตนเอง แต่อับราฮัมคิดว่าพระเจ้าที่แท้จริงจะมีเพียงพระองค์เดียว เขาได้พบพระเจ้าและพระอง๕ืทางให้อัมบราฮัมและครอบครัวออกเดินทางไปยังดิ

Ethnicity in Middle East II

รูปภาพ
      ชาวเติร์ก ตุรกีเชื่อว่าบรรพบุรุษของเขาคือชนเผ่าเติร์กกลุ่มหนึ่งซึ่งชาวจีนเรียกว่า "ชาวถูเจี๋ย" ดินแดนของถูเจี๋ยในยุคราชวงศ์ยังเลยขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเล็กน้อย ถ้ามองจากแผนที่จะอยู่บริเวณด้านเหนือของทะเลทรายทากลามากัน ค่อนไปทางตะวันตก บทบาทและอิทธิพลของชาวเฟ่าถูเจี๋ยมีสูงมากในสมัยราชวงศ์สุยต่อมาเมือเปลี่ยนมาเป็นราชวงศ์ถัง ชาวถูเจี๋ยเป็นภัยคุกคามทางตอนเหนือย่างยิ่ง ถังไท่จง ฮ่องเต้ (หลีชื่อหมิน) ในเทโศบายผูกมิตรไว้ก่อนในช่วงแรกจนะมือรัฐบาลถงแช็.แรงพร้อมจึ้งก่อสงครามกับชาวถูเจี๋ยจนได้รับชัยชนะ ขับไล่ขาวถูเจี๋ยออกไปจากแดนซื่อวี๋ได้สำเร็จ           ขาวถูเจี๋ยที่พ่ายศึกเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ผ่านยูเรเซียไปถึงที่ราบสูงอนาโตเลีย แล้วก็เป็นพรรพบุรุษของขาวเติร์กที่เป็นประเทศตุรกีในปัจจุบัน...      (ข้อมูลเพ่ิมเติม :  https://draft.blogger.com/blog/post/edit/57583117367728393/2487512331205007712 )           ชาวเปอร์เซ๊ย เป็นกลุ่มชนอิหร่านที่มีประชากอาศัยอยู่ในประเทศอิหร่านมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ โดยมีระบบวัฒนธรรมคล้ายกันและพูดภาษาเปอร์เซ๊ยเป็นภาษาแม่ เช่นเดียวกันกับภาษ

Ethnicity in middle east : Arab

รูปภาพ
          " ตะวันออกกลาง" ในภาษาอังกฤษ น่าจะมีกำเนิดในคริสต์ทศวรรษ 1850 ที่สำนักงานอินเียของบริติช อย่างไรก็ตาม ศัพท์กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเมือนักยุทธศาสตร์ทางเรืออเมริกัน อัลเฟรด เธเยอร์ มาฮาน ใช้คำนี้ใน ค.ศ. 1902 เพื่อ "กำหนดพื้นที่ระหวา่งอาระเบียกับอนเดีย ในช่วงทีจักรวรรด์บริติชและรัสเซีย กำลังแย่งชิงอิทธิพลกันในเอเซียกฃลาง การแข่งขันนี้จะกลายเป็นทีรู้จักในฐานะ The Great Game มาฮาน ไม่เพียงตระหนักถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของภูมิภาคนี้เท่านั้น แต่ยังตะรหนักถึงอ่าวเปอร์เซีย ศูนย์กลางของบริเวณนี้ด้วย เขาระบุพื้นที่รอบอ่าวเปอร์เซียเป็นตะวันออกกลาง และกล่าวว่าเป็นดินแดนที่สำคัญต่อคลองสุเอชของอิยิปต์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำคัญที่สุดในการควบคมสำหรับอังกฤษ เพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซ๊ยรุกคืบเข้ามายังบริติชราช            ก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเรื่องปกติที่จะอ้างถึงพื้นี่ที่มีศูนย์กลางรอบตุรกี เป็นชายฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็น "ตะวันออกใกล้" ส่วน "ตะวันออกไกล" มีจุดศูนย์กลางที่จีน จากนั้นในช่วงปลายคริสทศวรรษ 1930 ทางอังกฤษ ได้จัดตั้งกอ

Israel II

รูปภาพ
           คริสตศตวรรษที่ 7 ทั่วภูมิภาครวมทั้งเยรูซาเลม ถูกอาหรับที่เพิ่งเข้าอิสลมยึดครอง และเปลี่ยนแปลงระหว่าง รัฐเคาะลีฟะโ์รอซิดิน อุมัยยะฮ์ อับบาซียะฮ์ ฟาดิมียะห์ เซลจุก ครูเซเตอร์ และอัยยูบิคในช่วงสามศตวรรษถัดมา           ระหว่างการล้อมเยรูซาเลมในสงครามครูเสดครั้งที่ หนึ่ง(ครูเสด ครั้งที่ 1  https://draft.blogger.com/blog/post/edit/57583117367728393/7978371754150860399 ) ผู้อยู่อาศัยในนครชาวยิวร่วมกันต่อสุู้เคียงบ่าเคียงไหลกับกำลังประจำ ที่ตั้งฟาดีมียะห์ และประชากรมุสลิมซึ่งพยายามปกป้องนครจากนักรบครูเสดอย่างไร้ผล เมื่อนครแตก มีผู้ถูกสงหารหมู่ประมาณ 60,000คน รวมทั้งยิวกว่า 6,000 คนที่ลี้ภัยในธรรมศาลาแห่งหน่ึ่ง ในเวลานั้นซึ่งล่วงเลยการล่มสลายของรัฐยิวมาครบ 1,000 ปี  มชุมชนยิวกว่า 50 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ อลเบิร์ตแห่งอาเดน ระบุว่า ผู้อยู่อาศัยในไฮฟา  ชาวยิวเป็นกำลังสู้รบหลักของนคร และ "ปะปนกับทหารซาราเซ็น (ฟาดิมียะห์" พวกเขาต่อสู้อย่างกล้าหาญเกืบเดือนจนถูกกอบทัพเรือและทัพบกนักรับครูเสดบับให้ล่าถอย           ปี 1165 ไม่นอนีติซ เยือนเยรู่ซาเลมและสวดภาวนาบนเนินพระวิหารใน &q

Herod The Great

รูปภาพ
     ในปี 63 ก่อนคริสตกาลพวกโรมันได้บุกโจตีเยรุูซาเลมและตั้งฮีร์คานุสเป็นกษัตริย์ แต่ฮีร์คานุสไม่ได้ปกครองเอย่างเอกเทศ พวกโรมันได้เข้ามาและไม่ถอนอิทธิพลออกจากดินแดนนี้ ฮีร์คานุสกลายเป็นผู้นไประชาชนที่ต้องปกครองภายใต้อำนาจของโรม และต้องพึ่งการสนับสนุนจากโรมเพื่อรักษาพัลลังก์เอาไว้ เขาสามารถจะบริหารจัดการเรืองภายในได้ตามที่ต้องการ แตะในเรื่องความสัมพันธ์กับชาติอื่นๆ เขาจะต้องทำตามนโยบายของโรม        ฮีร์ดานุสเป็นผู้ปกครองที่ไม่เข้มแข็ง แต่เขาได้รับการสนับสนุนจากอันทิพาเทอร์ชาวอดูเมัยซึ่งเป็นบิดาของเฮโรดมหาราช อันทิพาเทอร์เป็ฯผู้มีำนาจที่ให้การช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง เขาสามารถควบคุมพวกยิวกลุ่มต่างๆ ที่คิดจะต่อต้านกษัตริย์ได้ และในไม่ช้าตัวเขาเองก็มีอำนาจเหนือยูเดียท้งหมด อินทิพาเทอร์ได้สอนลูกของตนว่าไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตามต้องอยู่ในความเห็นชอบของโรม ซ่ึ่งเฮโรดก็ได้จำคำสอนนี้ไว้เป็นอย่างดี เฮโรดในวัย 25 ปี ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการ และกลายเป็นที่ชื่อชอบของทั้งชาวยิวและชาวโรมันเนื่องจากเขาได้ปราบปรามกองโจรทั้งหลายอย่างแข็งขันให้หมดไปจากเขตปกครอง        43 ปีก่อนคริสตกาลอันทะพาเทอร์ถูกวาง

Israel

รูปภาพ
        Israel อิสลาเอลเป็นประเทศที่มีภูมิลักษณ์หลากหลายมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก กรุงเทลาวีฟเป็นศุูนย์กลางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ที่ตั้งของรัฐบาลตามประกาศคือกรุงเยรูซาเล็มแม้ยังไม่ได้รับรองในระดับนานาชาติ..      ในคัมภีร์อิบรู  ราชอาณาจักรอิสลาเอลเป็นหนึ่งในสองรัฐที่ก่อตั้งขึ้นหลังจากกษัตริย์ชาโลมอนสวรรคต นักประวัติศาสตร์มักใช้ชื่อว่า "อาณาจักรสะมาเรีย" เพื่อให้มีชื่อแตกต่างกับอาณาจักรยูดาห์ตอนใไต้       ราชอาณาจักรอิสราเอลก่อตั้งใน 930 ปีก่อนคริสตกาลจน๔ุกพวกจักรวรรดิอิสซีเรยใหม่ยึดครองใน 720 ปีก่อนคริสตกาล มีเมืองสำคัญได้แก่ เซเคม.ทิรซาห์ และ สะมาเรีย        คัมภีร์ฮบรูพรรณนาถึงอาณาจักรสะมาเรีย เป็นหนึ่งในสองรัฐที่สืบทอดต่อจากสหราชอาณาจักรอิสราเอล ซึ่งเคยถูกปกครองโดยกษัตริย์ดาวิดและซาโลมอนพระราชโอรส อีกแห่งคืออาณจักรยูดาห์ทองตอนใต้ อย่างไรก็ตามนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีไม่เชื่อเรืองราวที่มีอยู่พระคัมภีร์        อาณาจักรต่างๆในดินแดนนี้มีหลายอาณาจักรปกครองผ่านเวลานับพันปี อาณาจักรที่สำคัญอาทิ         อิสซีเรีย  เป็นอารยธรรมหลักในเมโสโปเตเมียโบราณที่เร่ิมต้นในฐานะนครรัฐในศตวรร