พุุทธสุดโต่ง คือ...
เมื่อพูดถึงลัทธิสุดดต่ง คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงการกระทำของขาวมุสลมหรือผู้ที่นับถือศาสนาทีั่มีต่อผู้นับถือศาสนาอื่น แต่ในความเป็นตริงแล้ว ผุึ้ที่นัถือศาสนาพุทธ ก็มีแนวคิดสุดโต่งด้วยเช่นกันดังที่จะเห็นได้จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ชาวพุทธในประเทศศรีลังกาและเมียนมา กระทำต่้อผู้่ที่่นับถือศาสนาอื่น โดยเฉพาะศาสนาอิสลาม แม้กระทั้งในประเทศไทยเอง ก็มีการแสดงออกที่สะท้อนฃัทธิสุดโต่งด้วย เพียงแต่การกระทำเหล่านั้น รับรู้กันในวงแคบ
มีผู้ให้นิยามความสุดโต่งไว้ว่า "คือกระบวนการที่ปัจเจกบุคคลหรือชุมชลปฏิเสธระบบที่มอยู่ และ หรือหมดหวังกับการเปลี่ยนแลงทางสังคมผ่านทางกฎหมาย และกลุ่มคนเหล่านั้นซึ่งเป็นคึนส่วนน้อย มักคิดอยู่เสมอว่าจะใช้ความรุนแรงต่อต้านพลเรือนคนอื่นๆ เืพ่อแสดงให้เห็นถงความโกรธเคืองของพวกเขา"
แต่ในกรณีของกลุ่มพุทธุดโต่งนั้น ไม่ใช่เป็นการแสดงออกของคนส่วนน้อยในประเทศ ลัทธิพุทธสุดโต่ง เกิดขึ้นประเทศทีทมีผุ้นับถือศสราพุทธเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้่น หากจะตั้องให้คำนิยามของคำว่า
พุทธสุก็คงจะหมายถึง การแสดงออกของพระสงฆ์และพุทืธศาสนิกชนบางกลุ่ม ในการต่อต้าน ไม่ยอมรับ ไม่เห็นด้วยเกลียดชัง ผู้ที่นับถือศาสนาอื่น รวมถึงปฏิเสธที่จะปรับตัวให้เข้ากับผุ้ที่ไม่เห็นด้วยกับค่านิยมและนโยบายของตน
(บางส่วนจาก พุทธสุดโต่ง ความหมายและการแสดงออก..ผส. ดร. วราภรณ์ แัตราติชาต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย)
..พุทธสุดโต่งในเมียนม่า ความบาดหมางระหว่างชาติพันธุ์และศาสนา
ภาพของกลุ่มพระสงฆ์ในเมียนมาออกมาร่วมประท้องร่วมกับชาวพุท่ธเพื่อเรียกร้องและผลักดันให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาออกนอกประเทศการก่อการจราจลและการใช้ความรุนแรงของชาวพุทธในเมียนมาต่อชาวมุสลิมในเมืองเมี่ยนมา ทำให้มีการตั้งคำถามถึงแนวคิดของพุทธศาสนาที่เน้นเรื่องความไม่เบียนยดเบียนไม่ทำร้ายผู้อืิ่้น แต่เหตุใดพระภิกษุสงฆ์ถึคงมาร่วมในการคเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย
บทบาทนี้ นำเสนอให้เห็นถึงบทบาทของกลุ่มพระภิกษุที่แนวคิดชาตินิยม ปลุกกระแสความเกลียดกลัวมุสลิมท จนนำไปสู่ความบาดหมางและการใช้ความรุนแรงระหว่างเชื้อชาตและศาสนาในเมียนมา...
..... กลุ่มพุทธหัวรุนแรงในเมียมา
พระภิกษุถภือเป็นกลุ่มหนึ่ง ที่มีบทบามในความเคลื่อนไหวต่อต้านและขับไล่ชาวมุสลิมโรฮิงญา ซึ่งกลุ่มพระสงฆ์ที่มีบทบาทมากที่สุดคือกลุ่ม มารบาธา หรือ คณะกรรมการเพื่อป้องกันเชืิ้อชาตและศาสนา ซึ่งไม่ทราบต้นกำเนิดที่ชัดเจน
ในทัศนะของกลุ่มมาบาธา ความจริงเพียงอย่างเดียวคือชาวพุทธเป็นเหยื่อของอิสลาม พระบางรูปในกลุ่ม กล่าวว่า กลุ่มมะยะธาไม่มีปัญหาใดๆ กับพลเมืองชาวมุสลิมที่เคารพกฎหมาย แต่ต้องไม่ลืมมองย้อนกลับไปถภึงสิ่งที่เคยเกิดในอินเดีย ที่กลุ่มอิสลามผุ้รุกรานบังคับให้คนเหลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม ทำให้พระสงห์กลุ่มนี้เห็นว่า การปราบปรามชาวโรฮิญาอย่างเหี้ยมโหดในตอนั้เป็นส่วนหนึ่งของการต่้้อสู้อันยาวนานเพื่อขับไล่ขาวมุสลิมที่มารุกรานดินแดนชาวพุทธ
นอกจากการ่อต้านและขับไล่ชาวมุสลิมโรฮิงญาแล้ว กลุ่มมาบาธายังประสบความสำเร็จอย่างสูงที่ทำให้ เต็ง เส่ง อดีตประธานาธิบดีเมียนมา ผ่านกฎหมายจำนวน สี่ ฉบับเกี่ยวกัีบเชื้อชาติและศารสนาได้แก่
กฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนศาสนาโดยต้องของอนุ(ญาตทางการ
กฎหมายการมีคึู่สมรสเพียงคนเดียว
กฎหมายการควบคุมประชากรและด้านสุขภาพ
กฎหมายการแต่งงานข้ามเชื้อชาติของหญิงชาวพุทธ วึ่งกำหนดให้หญิงชาวพุทธที่จะแต่างงานกับชายที่นับถือศาสนาอื่นจะต้องขออนุญาตจากผุ้นำชุมชนก่อน ซึ่งกฎหมายเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่ชาวมุสลิมและศาสนาอิสลาม...
(บางส่วนจาก South Asia Insight พุทธสุดโต่งในเมียนมา ความบาดหมายระหว่างชาติพันธ์และศาสนา)