Closing argument

              เมดิสันสแคร์ว การ์เด้น เ็นสนามกีฬาในร่วเอนกประสงค์ ความจุประมาณ 5,600-60,000  ตั้งอยู่บน
ถนนสายหลักเลขที่ 7 และ 8 ต้งแต่ถนนสาย 31-33 แมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก เปิดทำการเมอ 11 กุมภาพันธ์ 1968

         สื่อจำนวนมากวิพากษ์วิจาร์การชุมนุมประวัติศาสตร์ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในคือนวันอาทิตย์ที่เมดสันสเควร์การ์เดน โดยอ้างวการชุมนุมดังกล่าวมีลักษณะคล้ายการชุมนุมของพวกนาซีที่สถานที่ที่มีชื่อสเียงแหน่งนี้ในช่วงทศวรรษ 1930 แม้ว่าจะมีผุ้เข้าร่วมเป็นชาวยิวและธงชาติอิสราเอลเป็นจำนวนมากก็ตาม

          พอล เมาโร อดีตสารวัตรตำรวจนิวยอร์ก กล่าวว่าเป็นเรือง "ร้สาระ" ที่จะเปรียบเทียบการชุมนุมของทรัมป์กับสิ่งทีเ่กิดขึ้นที่ MSG ในปี 1930

          "การที่คุรเล่นในสนามนั้นทำให้คณรู้สึเหมือนเป็นพวกนาซีหรือเป่า และขอให้ฉันบอกคุณว่าในการชุมนุมของพวกนาซีนั้น มีธงอสราเอลอยุ่เต็มไปหมดในอาคารหลังนั้น" เมาโรกล่าวในรายการ "อเมริกัน นิวส์รูม" เมือวันจันทร์ MSG เป็นบ้านเกิดของทีม นิวยอร์ก นิคส์ แหง เอ็นบีเอ และ นิวยอร์ก แรงเจอร์ แห่ง เอ็นเอชแอล มานานแล้ว ซึ่งทั้งสองเป็นแฟรนไชส์ที่มีประวัติสาสตร์ยาวนานที่สุดในกีฬาประเภทนั้นๆ ส่วนแห่งนี้เป็นสภานที่จัดการประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรคเดโแมครตมาแล้ว 4 ครั้ง เป็นสภานที่แสดงฉลองวันเกิดประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดีของมาริลีน มอนโร ในประวัติศาสตรืเมือปี 1962 และสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสเมือปี 2015 อีกด้วย นอกจานี้ยังเป็นสถานที่จัดงาน USO ร่วมกับ บ็อบ โฮปและ บิง ครอสบี รวมถึงศึก "ไฟท์ ออฟ เดอะ เซนจูรี่" เมือปี 1971 ระหว่างมูฮัมหมัด อาลีและ โจเฟรเซียร์ และงานการกุศลอีกมากมาย..."

 สุนทรพจน์ของทรัมป์เน้นที่ เศราฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่ถุ่งสูงขึ้น รวมถึง "การฟื้นคือนคามฝันแบบอเมริกัน" รวมถึงให้คำมั่นต่อ(ุ้ฟังว่าเขาจะลดต้นทุนด้านพลังงานลงครึงหนึ่งภายในเดือนมกรคม 2026  หากเยาได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง นอกจากนั้น เขายังให้คำมั่นว่าหากเขาชนะการเลือกตั้งในสัปดาห์หน้า เขาจะลดต้นทุนสำหรับผุ้บิรโภค รวมถึงยุติการเก็บภาษีทิป ค่าล่างหวลา และผลประโยชน์ด้านประกันสังคม ทรัมป์ยังกล่าวเสริมอีว่าภายใต้การนำของเขา พรรครีพับลิกันได้กลายเป็น"พรรคแห่งการรวมเอาทุกฝ่ายเข้าดด้วยกัน" "ชาวยิว ชาวมุสลิม ชาวคาทอลิก ชาวอีแวนเจลิคัล และชาวมอร์มอน และพวกเขาทังหมดเข้าร่วมกับพวกเรเป็นจำนวนมาก มากว่าที่ใครก็ตามเคยพบเห็นในประเทศนี้มาก่อนมากว่าที่พวกเขาเคยพบเห็นในประเทศใดๆ" เขากล่าว..https://www.foxnews.com/media/media-erupts-over-trump-msg-rally-but-history-of-arena-and-firsthand-accounts-belie-narrative

         การชุมนุมครั้งใหญ่นี้ถือเป็นการเปิดตัวขั้นตอนสุดท้ายของความพยายามของทรัมป์ในการพลิกกลบชับยชนะครังยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติสาสตร์การเมืองอเมริกัน หลังพยายามพลิกผลการเลือกตังเมือปี 2021 ผุ้สนับสนุนบางส่วนใช้เถ้อยคำที่หยาคาย และอิงตามเชื้อชาติ

         สุทรพจน์ของทรัมป์เต็ไปด้วยควาเท็จและการพูดเกินจริง ซึ่งเป็นวาทกรรมที่ทีมหาเสียงแฮร์ริสเชื่อว่าสามารถกระตุ้นให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งสายกลายแและพรรครีพับลิกันที่ไม่พอใจหันกลับมาเลือกรองประธานาธิบดีได้ แต่ในขณะเดียวกัน วาทกรรมดังกล่าวยังเป็นการเติมพันจากผุ้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันว่าเขาสามารถขับไล่ฐานเสียงจำนวนมากออกไปได้ และกรุ้นผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่ปกติไม่ไปใช้สิทะิเลือกตั้งแต่เห็นด้วยกับนโยบายหัวรุนแรงของเขา

         ถ้อยคำต่อต้านผุ้อพยพที่รุนแรงของอดีตประะานาธิบดีถือเป็นถ้อยคำโจมตีที่โจ่งแจ้งที่สุดในบรรดานัการเมืองคนสำคัญของประเทศตะวันตกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถ้อยคพดังกล่าวยังเสริมด้วยถ้อยคำทางเศราฐกิจที่รุนแรงซึ่งเป็นส่วนที่สองของคำกล่าวปิดท้ายของทรัมป์ และมุ่งเป้าไปที่ความหงุดหงิดของชาวอเมตริกันจำนวนมากที่ต้องดิ้นรนกับราคาอาหารที่สูงขึ้น แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงแล้วก็ตาม

"ผมอยากเร่ิมต้นด้วยการถามคำถามง่ยๆว่า ตอนนี้คุณดีขค้นกว่าเมือสี่ปีที่แล้วหรือไม่" ทรัมป์ถาม "วันนี้ผมมาที่นี่พร้อมกับข้อความแห่งความหวงสำหรับชาวอเมริกันทุกคน ด้วยการลงคะแนนของคุณในการเลือกตังครั้งนี้ ผมจะหยุดเงินเฟ้อได้ ผมจะหยุดการรุกรายของอาชญากรที่เข้ามาในประเทศของเรา และผมจะนำความฝันแบบอเมริกันกลับคืนมา" เขายังกล่าวอีกว่าเขาจะผลักดันให้มีการเครดิตภาษีสำหรับ "ผู้ดูแลครอบครัวที่ดูแลพ่อแม่หรือคนที่เขารัก" หลังจากที่แฮร์ริสเปิดัวนดยบายของเะฮเองโดยเสนอให้เมดิแคร์ครอบคลุมการดูแลสุขภาพที่บ้าน

         "หากกมลา แฮร์ริสได้ดำรงตำปน่งตอีก 4 ปี เศราฐกิจขอวเราจะไม่มีทางฟื้นตัวได้ หากฉันชนุ เราจะสร้างเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกได้อย่างรวดเร็ว" เขากล่าว

         เหตุการณ์ที่สร้างความดกลาหลในวันอาทิตย์เน้นย้ำว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 กำลังทำลายกรอบเดิม เนื่องจากทรัมป์ไม่น่าจะแข่งขันในรัฐนิวยอร์กได้ในสัปดาห์หน้า แต่การที่อดีตประธานาธิบดีเดินทางกลับบ้านเกิดในเมืองที่เข้าสร้างตึกระฟ้าเพื่อสะท้อนบุคลิก แสดงให้เห็นว่าผุ้สมัครพยายามสร้างพาดหัวข่าวจากที่ห่างไกลจารัฐสมรภูมิ 

       แฮร์ริสอยุ่ทีเท็กซัสซึ่งเป็นรัฐฝายค้านในวันศุกร์เพื่อเน้นย้ำถึงนโยบายการทำแท้งของพรรครีพับลิกันหัวรุนแรงที่เธอเตือนว่าอาจแพร่กระจายไปทั่วประเทศหากทรัมป์ชนะและในวันอังคาร เธอจะจัดงานที่วอชิงตัน ดี. ซี.

        ผุ้สมัครทั้งสองคนกำลังเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียง โดยผลสำรวจแสดงให้เห็นวาผลการเลือกตั้งในรั้ฐที่ผลต่งคะแนนสูสีกันและในระดับประเทศ การเลือกตั้งได้เร่ิมต้นขึ้นแล้ว โดยมีชาวอเมริกัน 40 ล้านคนลงคะแนนเสียงล่วงหน้าด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ผลสำรวจของ ซีเอ็นเอ็ฯ แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีผุ้นำที่ชัดเจนในระดับประเทศ ซึ่งต่างกัน อยุ่ 1% การแข่งชันจะตัดสินกันในสมรภุมิต่างๆ รวมถึงวรัฐเพนซิชเวเนีย มิชิแกน และสิสคอนซิน ซึ่งเป็นรัฐที่อยุ่ภายใต้การปกครองของสหรัฐฯ รวมไปถึงรัฐนอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย แอริโซนา และเนวาดา ซึ่งผลการเลือกตั้งอาจขึ้นอยุ่กับคะแนนเสียงเพียงไม่กี่หมื่นคะแนนซึ่งอสจทำให้การนับคะแนนเป็นไปอย่างตึงเครียดเป็นเวลาหลายวันซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดความว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นที่โต้แย้งกัน

        การลงคะแนนเสียงล่วงหน้าเป็นเหตุผลที่แฮร์ริสจะกลาวปิดท้ายการเลือกต้ืงหนึ่งสัปดาห์เต็มก่อนวันเลือกตัง โดยจะมีการชุมนุมในเย็นวันอังครที่เอลลิปส์ในวอชิงตัน เชิงสัญลักษณ์เนื่องจากเป็นสภานที่ชุมนุมอันน่าอับอายของทรัมป์เมือวันที่ 6 มกราคม 2021 เมื่อเขาบอกับฝุงชนของเขาว่า "สู้สุดใจ" ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่มีประเทศ ก่อนที่ฝูงชนของเขาจะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐเพื่อพยายามล้มล้างการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งอขงประธานาธิบดี โจ ไบเดน การชุมนุมของแฮร์ริสจะเป็นเครื่องหมายคำถามที่ชัดเจนสำหรับธีมแคมเปญหาเสียงของเธอ ว่า "ทรัมป์เป็นตัวแทนของภัยคุกคามต่อการดำรงอยุ่ของประชาธิปไตยของอเมริกา ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นศุนย์กลางของแคมเปญหาเสียงของไบเดน จนกระทั่งเขายุติการเสอนตัวเพื่อเลือกตั้งอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 

       ทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างก็มุ่งเป้าไปที่กลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งหลักในช่วงวันสุดท่้าย  อาทิ เมื่อวันอาทิตย์ แฮร์ริสได้พยายามอีกครั้งกับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งชายผิวสี ซึ่งบางคนดูเหมือนจะกำลังเคลือนตัวไปสนับสนุนทรัมป์  ที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่งในเวสต์ฟิลาเดลอเฟีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เธอต้องการผุ้มีสทิธิเลือกตั้งจำนวนมากเพื่อต่อต้านข้อได้เปรียบของทรัมป์ในชนบทของรัฐเพนซิลเวเนย รองประะานาธิบดีได้เข้ารวมการอภิปรายกับชายผิววสี โดยมุ่งเน้นที่การสร้างโอากสที่ดีกว่า และเธอเน้นย้ำถึงะรรมชาติอันสำคัญของเครือจักรภพและคะแนนเสียงผุ้มีสิทธเลือกตั้ง 19 เสียง ซึ่งอาจขวางทางเธอในการเข้าสุ่ทำเนียบขาวหากเลือกทรัมป์ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงที่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2016

  "เราจะทำมัน ชัยชนะจะต้องเกิดขึ้นทีฟิลลี่และที่เพนซิลเวเนย "แฮร์ริสกล่าว

        รองประธานาะิบดียังตั้งเป้าไปท่กลุ่มผุ้มสิทะเิลืกตังอีกกลุมหนึ่งที่อาจช่วยเธอได้คะแนนเสียสุ่ทำเนียบขาว นัั่นคือกลุ่มผุ้หญิงที่มีสิทธเลือกตั้ง เนื่องจากเธอพยายามใช้ประโยชน์จากช่องวางทางเพศที่มีอยู่แล้วนี้ เธอปรากฎตัวที่มิชิแกนเมือวันเสราณ์พร้อมกับมิเชลล์ โอบามา นักการเมืองที่ไม่เต็มใจแต่กลับได้รั้บความนิยมอย่างมากในหมุ่พรรคเดโมแครต ในสุนทรพจน์อันทรงพลััง อดีตสภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนนี้ไม่ได้ดึงดุแเฉพาะผุ้หญิงเท่านัน แต่ยังดึงดูด "ผู้ชายที่รักเรา" อีกด้วย โดยเตือนว่าประวัติศาสตร์ของทรัมป์ในการสร้างศาลฎีกาฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ล้มล้างสิทธิของรัฐบาลกลางในการทำแ้งจะส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้หญิง 

       "ได้โปรดอย่ามอบชุตากรรมของเราให้กับคนอย่างทรัมป์ ซึ่งไมารู้อะไรเกี่ยวกับเราเลย และแสดงความดูถูกเราอยางที่สุด" โอบามากล่าว "เพาระการโหวตให้เขาก็คือการโหวตต่อต้านเรา ต่อต้านสุขภาพของเรา และต่อต้านคุณค่าของเรา" ...https://edition.cnn.com/2024/10/28/politics/trump-extreme-closing-argument/index.html?iid=cnn_buildContentRecirc_end_recirc

์Neck and neck

        เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในการหาเสียงของทรัมป์ที่มิชิแกน ทรัมป์พยายามให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันเชื่อสายอาหรับและมุสลิมที่ผิดหวังหรือโกรธเคืองต่อนโยบายของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอลและฉนวนกาซาในรัฐสมรภุมิ ทรัมป์กล่าวที่เมืองโนวี ชานเมืองดีทรอยด์ โดยเมืองนี้เมื่อปีที่แล้วกลายเป็นเมืองที่มีชาวอาหรัีบเป็นส่วนใหญ่เมืองแรกในสหรัฐฯ ว่า "พวกเขาสามารถปลิกผลการเลือกตั้งไปทางใดทางหนึ่งได้" 

        ในการสัมภาษณ์กับฮิวจ์ ฮิววิตต์ พธีกรรายการวิทยุแนวอนุรักษ์นิยม ในวันครบรอบ 1 ปี การโจมตีขอ

งกลุ่มฮามาสในอิสราเอล ทรัมป์ครุ่นคิดถึงแนวโน้มด้านอสังหาริมทรัพย์ในฉนวนกาซาที่กำลังประสบปัญหาซึ่งมีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ประมาณ 2 ล้านคน "ในฐานะนักพัฒนา ที่นี้่อาจเป็นสถานที่ที่สวยงามที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ น้ำ ทุกสิ่งทุกอย่ง สภาพภูมิอากาศ" ทรัมป์กล่าว "มัอาจสวยงามมาก" 

        แม้ทรัมป์จะเคยออกคำสั่งฝ่ายบริหารห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศที่มีชาวมุสลิมเป็นส่วนใหญ่เข้าประเทศเป็นเวลา 90 วัน  (และเพิดถอนคำสั่งดังกล่าวในสมัยไบเดน) อย่างไรก็ตาม แคมเปญหาเสียงของทรัมป์และพันธมิตรได้พยายามใบช้ความโกรธแค้นของชาวอาหรับอเมริกันและมุสลิมต่อากรสนับสนุนอย่งต่อเนื่องของสหรัฐฯ ต่อการณรงค์ทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาและล่าสุดในเลบยานอน โดยการวิพากษ์วิจารณ์แฮร์ริสและไบเดนจากทั้งสองฝ่่าย โดยบอกกับผุ้มีสิทธเิลืกตัืงที่ต่อต้านสงครามวย่าทรัมป์จะรักษาสันติภาพ และอ้างกับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่สนับสนุนอิสราเอลว่าพรรคเดโมแครตไม่ได้สนับสนุนพวกเขา

        ทรัมป์ตั้งคำถาม วาทำไใ่ชาวอเมริกันเชื่อสายยิวจึงพิจารราลงคะแนนเสียงให้กับแฮร์ริส โดยกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าชาวยิวในพรรคเดโแมครต "ควรได้รับการตรวจหัว" ในงานที่จัดขึ้นในเือนกันยายน ซึ่งมีเพนื่อหาต่อ้านการต่อต้านชาวยิว เขายังได้เตือน้ดวยซ้ำว่า "ชาวยิวจะมีส่วรเกี่ยวข้องกยอย่างมากฎ กับการที่เขาอาจพ่ายแพ้ในเดือนพฤศจิกายน

        กลุ่มผุ้สนับสนุนแลผุ้นำชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับกดดันแฮร์ริส "ให้แสดงให้เห็นถึงระยะห่างระหว่างวิธีที่เธอจะปกครองในเรื่องนี้กับนโยบายของรัฐบาลในปัจจุบัน ซึ่งเราไม่เห็นด้วย" ตามที่ วาเอล อัลซายัด ซีอีโอของกลุ่มสนับสนุนชาวอเมริกันเชื่อสยมุสลิม บอกกับ ซีเอ็นเอ็น ในเวลาตอมา 

        ชาวยิว ชาวคาเทอลิก ชาวอีแวนเจลิคัล ชาวมอร์มอน และชาวมุสลิม กำลังเข้าร่วมกับพวกเราในจำนวนทีมากขั้นกว่าที่เคยเป้นมา และตอนนี้สิ่งที่วิเศษที่สุดกำลังเกิดขั้น " "ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นมุสลิมและอาหรับในมิชิแกนและทั่วประเทศต่องการให้สงครามไม่มีวันสิ้นสุดยุติลง และให้สันติภาพกลับคืนมาในตะวันออกกลาง นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ" ทรัมป์กล่าว

        ทรัมป์ยังได้ใช้การหาเสีงรอบล่าสุดของแฮร์ริสร่วมกับลิช เชนีย์ อดีตสมชิกสภาผู้แทนราษฎรไวโอมิงอีกคร้ง ซึ่งบิดาของลิซ เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดี เป็นหนึ่งในผุ้วาแผนหลักในการุกรานอิรักของสหรัฐฯ และสงครามที่กินเวลานานหลายปีที่ตามมา เชนีย์ทังสองต่างก็สนับสนุนแฮร์ริส 

        หลายชั่วโมงต่อมา แฮร์ริสกำลังหาเสียงที่เมืองคลามาซู มิชิแกน และถูกขัดจังหวะโดยผุ้ประท้วง โดยผู้ประท้วงตะโกนว่า "ม่มีสงครามกาซาอีกต่อไป" ...ในประเด็นกาซา เราต้องยุติสงครามนั้น และเราต้องยุติสงครามและนำตัวประกันกลับบ้าน" แฮร์ริสกว่า ขณะที่ผุ้ฟังพยายามกลบเสียงผุ้ประท้วง...

       ตอมาในการชุมนุมที่ เมดิสัน สแควร์ ในวันอาทิตย์ที่ 27 ทรัมป์พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับแผยการของวเขาที่จะหยุดยั้งการอพยพยที่ผิดกฎหมายและเนรเทศผุ้อพยพที่เขาบรรยายว่าเป็น "อาชญากรที่โหดร้ายและกระหายเลือด" หากเขาชนะการเลือกตั้งวัที่ 5 พฤศจิกายน ทรัมป์เรียกวแฮร์ริสว่าเป็น"บุคคลที่มีไอคิวต่ำมาก" และได้รับเสียงเชียร์จากผุ้สนับสนุนสำหรับคำพูดท่เข้มงวดต่อผุ้อพยพของเขา

       วิทยากรที่เปิดงานมีความหลากหลายตั้งแต่อดีตนักมวยปล้ำอาชีพ ไปจนถึงอดีตนายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก รวมไปถึงลูกชายของทรัมป์บางคนใช้ภาษาเหยีจดเชื้อชาติและเหยีนดเพศ รวมถึงการกล่าวเท็จให้ร้าย นักแสดงตลก ใช้ภาษาหยาบคายในการล้อเล่นว่าชาวละติน "ชอบมีลูก" และเรียกดินแดนแคริบเบียนของสหรฐฯ อย่งเปอร์โติโกว่าเป็น "เกาะขยะลอยน้ำ" ริกกี มาร์ติน นักร้องชาวเปอร์โตริโก โพสต์คลิปควมเห้ฯบนอินสตาแกรมของเขา และเขียนเป็นภาษาสเปนว่า "นี่คือส่ิงที่พยกเขาคิดเกี่ยวกับเรา"

ที่ปรึกษาอาวุโสของทีมงนหาเสีงของทรัมป์ กล่าวกับรอยเตอร์วาเรื่องตลกเกี่ยวกับเปอร์โตริโก "ไม่ได้สะท้อนมุมุองของประธานาธิบดีทรัมป์หรือทีมงานหาเสียง" 
        แม้ว่าชาวเปอร์โตริโกจะเป็นพลเมืองสหรัฐฯ แต่ผุ้ทีอาศัยอยู่ในเกาะนี้ไม่สามารถลงคะแนนเสียงในการเลือกตังทั่วไปของสหรัฐฯได้  อย่างไรก็ตาม ชาวเปอร์โตริโกหลายล้านคนที่ย้ายไปยังแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯอเมริกาสามารถลวงคะแนนเสียงได้ และยังมีชุมชนขนาดใหญ่ในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิการเลือกตั้งอีกด้วย 

        ก่อนหน้านี้เมือวันอาทิตย์ แฮร์ริสได้ไปเยือนร้านอาหารเปอร์โตริโกในเมืองฟิลเดลเฟียซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเพนซิชเวเนีย และได้โพสต์วีดีโอบนโซเชียลมีเดีย โดยสัญญาว่าจะ "ลทุนในอนาคตของเปอร์โตริโก" ในฐานะประธานาธิบดี

        แคมเปญหาเสียงของแฮร์ริสระบุในอีเมลว่าการชุมนุมที่เมดิสันสแควร์การ์เดน "สะท้อนข้อความสร้างความแตกแยกและดุดูกอันราย" เช่นเดียวกับทรัมป์

       ฮิลลารี คลินตัน คุ่แข่งชิงตำปน่งประะานาธิบดีของทรัมป์ฬนปี 2016 จากพรรคเดโมแครต กล่าวหาทรัมป์ว่า "สร้างเหตุการ์จำลอง" การชุมนุมสนับสนุนนาซีที่จัดขึ้นที่เมดสันสแควร์การ์เดนในปี 1939 ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง..ซึ่งทรัมป์ปฏิเสธ โดยเขากล่าวว่า "นี่คือสิ่งที่เรียกว่า เมค อเมริกา เกรท อเกลน MAGA" 

        ผลการสำรวจแสกงให้เห็นวาแฮร์ริสและทรัมป์อยู่ในสภานะสูสีกันในรัฐที่กำลังจะตัดสินว่าใครจะป็นประธานาธิบดีคนต่อไป โดยเหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เกียวก่อนถึงวันเลือกตัง โดยผุ้ลงคะแนนเสียงทั่วปะเทศได้ลงคะแนนไปแล้วกว่า 38 ล้านเสียง

        แฮร์ริสซึ่งจัดชุมนุมร่วมกับบรูซ สปริงส์ทีนในแอตแลนตาเมือวันพฤหัสบดี และร่วมกับบียอนเซ ในเมืองฮุลตันเมือวันศุกร์ จะจัดงานสำัญอีกครั้งโดยมีคำปราศรัยในวันอังคารที่ เนชันแนล มอลล์ ในวอชิงตัน ซึ่งเธอจะเน้นย้ำถึงความแตกต่างระหว่างตัวเธอเองกับทรัมป์ 

        แฮร์ริสกล่าวถึงทรัมป์ที่ฟิลลาเดลเฟียเมือวันอาทิตย์ว่า "เขาเต็มไปด้วยความคับข้องใจเขาเต็มไปด้วยถ้อยคำที่หม่นหมองเกี่ยวกับการแก้แค้น" 

       แฮร์ริสกล่าวกับนักชข่าวในเมืองฟิลาเดยเฟียว่า "การสำรวจภายในของฉันเป็นสัญชาตญาณของฉัน" เมื่อถูกถามว่าแคมเปญหาเสียงมีผลงวานเป็นอย่างไรในการคาดการณ์การเลือกตังภายใน "โมเมนตัมอยุ่กับเราแล้ว" เธอกล่าว....

       https://edition.cnn.com/2024/10/26/politics/muslim-leaders-michigan-trump-endorse/index.html

       https://www.reuters.com/world/us/trump-kick-off-final-week-campaign-with-madison-square-garden-rally-2024-10-27/

S&P 500

            ดัชนี S&P 500 หรือเรียกสั้นๆ ว่า เอส แอนด์ ปี 500 เป็นดัชนีตลาดหุ้นที่ติดตามผลการดำเนินงานข
องหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา ดัชนี้นี้เป็นหนึ่งในดัชนีหุ้นที่ติดตามกันมากที่สุดและรวมมูลค่าตลาด รวมประมาณ 80% ของบริษัท มหาชนในสหรัฐอเมริกา โดยมีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 43 ล้านล้านอดลลาร์ ณ เดือนมกราคม 2924 

           ดัชนี เอสแอนดืพี ห้าร้อยเป็นดัชนีถ่วน้ำหนักแบบลอยตัว ถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าหลักทรัพย์ ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 บริษัทที่ใหญ่ที่สุด 9 แห่งในรายชื่อบริษัท เอสแอนด์พี ห้าร้อย คิดเป็น 34.6% ของมูลคาหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของตัชนี และเรียงตามลำดับน้ำหนักจากสุงสุดไปต่ำสุด ได้แก่ แอปเปิล, ไมโครซอฟต์, เอ็นวิเดีย, อเมซอน.คอม, เมตา แพลตฟรอร์ม , อัลฟ่าเบท(รวถึงหุ้นทั้งคลาส เอ และ ซี) แฮทอะเวย์, บรอดคอม และเทสล่า ส่วนประกอลบที่เพ่ิมเงินปันผลให้ 25 ปีติดต่อกันนั้นเรียกว่า เอสแอนพี  500 ดิวิเดด อริสโตคราทส์ 

        ดัชนีเป็นหนึ่งในปัจจัยในการคำนวณดัชนีเศราฐกิจชั้นนำของ คอนเฟอเร้นท์ บอร์ด ซึ่งใช้ในการคาดการณ์ทีิศทางของเศราฐกิจ ดัชนีมีความเกี่ยวข้องกับสัฐลักษณ์หลายตัว เอสแอนด์พี 500 ได้รับการดุแลโดย เอสแอนด์พี ดาวโจห์น อินดิเซส ซึ่งเป็บริษัทร่วมทุนที่ เอสแอนด์พี 500 โกลบอล ถือหุ้นสวนใหญ่และสวนประกอบต่างฟ จะได้รับการคัดเลือกโดยคณะกรรมการ

          ตั้งแต่ปี 1961 เป็นต้นมา ดัชนี เอสแอนด์พี 500 มีให้ผลตอบแทนเป็นบวกตลอดระยะเวลาดำรงตำแหน่งประธานาธิบด โดยริชาร์ด นิกสัน และจอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นเพียงสองข้อยกเว้นในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา

          ผลงานในอดีตไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันผลงานในอนาคต ข้อมุลรวมถึงผลตอบแทนจากราคาเพียงอย่งเดียวของ เอสแอนด์พี 500 ไม่รวมเงินปันผล การกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดนจนถึงสิ้นไตรมาสแรกของปี 2024 

        นักวิเคราะห์หลายคนได้ระบุถึงวงจรประธานาธิบดี 4 ปี ที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งผลตอบแทนของตลาดหุ้นมักจะต่ำกว่าในช่วงครึ่งแรกของวาระการดำรงตำแหน่งปของประธานาธิบดี ก่อนที่ในปีที่สามและสี่จะแข็งแกร่งกว่าเมืองดำรงตำแหน่ง คำอะิบายทั่วไปคือ เมื่อเพิ่งดำรงตำแหน่ง มักจะเน้นที่การตำตามสัญญาหาเสียงที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจ และจะกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง(หรือทำให้สมาชิกพรรคของเขาได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง) 

        แน่นอนว่าประธานาธิบดีไม่ใช่นัการเมืองคนสำคัญเพียงคนเดียวในประเทศการพิจารราว่าพรรคใดควบคุมรัฐสภาก็อาจเป็นขอ้มุลสำหรับนักลงทุนได้เช่นกัน อาจไม่แปลกใจที่ภายใต้ประธานาธิบดีจากเดโมแครตและรีพับลิกัน ผลตอบแทนรายปีที่ดีที่สุดสำหรับดัชนี เอสแอนพี 500 เกิดขึ้น-ายใต้รัฐสภาที่แบ่งแยกกัน โดยพรรคหนึ่งควบคุมสภาผุ้แทนราษฎรหรือวุฒิสภา และอีกพรรคหนึ่งครองเสียงข้างมากในสภาที่สอง

          ในอดีต เอสแอนด์พี 500 ยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ลดลงในช่วงที่เดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผุ้แทนราษฎรและวุฒิสภา แม้ว่าโดยทั่วไแล้วตลาดจะเห็นผลตอบแทนเป็นพวกโดยไม่คำนึงถึงองค์ประกอบของรฐบาลก็ตาม

       แม้ว่าการจดจำรูปแบบทางประวัติศาสตร์เหล่านี้อาจเป็นประโยชน์ แตก่ารพิจารรเรื่องนโยบาย ภูมิรํฐศาสตร์ และการประเมินมูลค่าที่เร่งด่วนกว่ามักจะเป็นแรงผลักดันที่มีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับผลการดำเนินงานของตลาอหุ้น

       อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของหุ้นสหรัฐฯ มีประวัติอันน่าประหลาดใจในการคาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี  ตั้งแต่ปี 1874 เอสแอนด์พี 500 ได้ชี้ให้ผุ้ชนะใน 20 จาก 24 การเลือกตั้ง ตามการวิเคระห์ของบริษัทให้บริการทางการเงิน แอลพีแอล ไฟแนลเชียล 

         เมื่อหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้่นในช่วงสามเดือนก่อนวันเลือกต้ง พรรคการเมืองที่ดำรงตำแหน่งอยุ่สามารถรักษาทำเนยบขาวไว้ได้ 12 ครั้ง จากทั้งหมด 15 ครั้ งและพรรคการเมืองที่อยุ่ในอำนาจก็พ่ายแพ้ถึง 8 ครั้งจาก 9 ครังหลังสุดที่ตลาดอยุ่ในแดนลลก่อนการลงคะแนนเสียง ซึ่งเมื่อเทียบกับโมเดลพยาการณ์ถือว่าเป็นผลงานที่ดี

        เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง ดัชนี เอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้นอย่างแ็งแกร่ง 11.8% นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม หากถือว่าหุ้นสหรัฐฯ ไม่ร่วงอย่างระเนระนาดในช่วงวันสุดท้ายของการรณรงค์ แนวโน้มในประวัติศาสตร์ก็ชัดเจนว่าเป็นไปในทางบวกต่อแฮร์ริส 

        ผุ้ลงคะแนนเสียงดูเหมือนจะไม่เชื่อมโยงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้นกับเศราฐกิจที่กำลังดี แม้ว่าชาวอเมริกันประมาณ 61% จะถือหุ้น แต่ผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียงจำนวนมากกลับไม่ได้รับความสนใจจากตลาด 

        จากการสำรวจของศุนย์วิจัยสาธารณะ แอสโซซิเอส เพลส-เอ็นโออาร์ซ๊ ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์นี้ พบว่าผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียงร้อยละ 52 ซึ่งรวมถึงผุ้สนับสนุนรีพับลิกันและผุ้ไม่สังกัดพรรคส่วนใหญ่ ให้คะแนนภาวะเศราฐกิจว่า "แย่" ด้านดีของเดโมแครตคื อผุ้ลงคะแนนแสดงความมั่นใจที่เพ่ิมมากขึ้นในความสามารถของพรรคในการจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งบ่งบอกว่าข้อได้เปรียบที่ชัดเจนของทรัมป์ในด้านเศราฐกิจนั้แทบจะหายไปทังหมด

        แม้ว่าเมื่อพิจารณาจากตัวชี้วัดส่วนใหญ่รวมถึงการเติลโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และอัตราการว่างงาน พบว่าเศราฐกิจของสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพในระดับที่ประทเศที่พัฒนาแล้วยังอิจฉา แต่ความรุ้สึกเชิงลลที่เกิดขึ้นก็คือ ผุ้บริโภครุ้สึกเบือหน่ายกับราคาที่สุงขึ้น แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งเมือเดือนที่แล้วลดลงใกล้เคียงกับเป้าหมายของธนาคารสหรัฐฯแล้ว 

        แม้ว่าค่าจ้างจะเพ่มิข้นเร้ซกว่าอัตราเงินเฟ้อเปนเวลาหนึ่งปีเศษแล้ว แต่ก็ยังไม่เติบโตเพียงพอที่จะชดเชยค่าครองชีพที่สุงขึ้นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดได้ทั้งหมด

        แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ระหว่างเดือนมกราคม 2021 ถึงมิถุนายนปีนี้ แต่ค่าจ้างกลับเพ่ิมขึ้นเพียง 17.4% ตามการวิเคราะห์ของ แบงค์เรท โดยใช้สถิติของกระทรวงแรงงาน

        แม้ว่าการเติลโตของค่าจ้างจะยังคงเอาชนะอัตราเงินเฟ้อตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดดยอยู่ที่ 4.2% เทียบกับ 2.6% ในช่วงเดือน กรกฎาคม-กันยายน แบงค์เรท คาดการณ์ว่าช่องว่างหลังการระบาดใหญ่จะไม่ปิดลงอย่งสมบูรณ์จนกว่าจะถึงไตรามาสทีสองของปี 2025

        ไม่ว่าจะมีการเผยแพร่สภิติเศราฐกิจเชิงบวกมากมายเพียงใดเพื่อยกย่องบันทึกของรัฐาลชุมปัจจุบัน ผุ้บิรโภคก็ยังคงตระหนักได้ว่าราคาสินค้าในชีวิตประจำวันมีราคาแพงกว่าเมือก่อนมากทุกครังที่ไปจ่ายเงินที่ซูเปอร์มาร์เก็ต

        แม้ว่าชัยชนะของทรัมป์ จะทำลายบรรทัดฐานมากมาย แต่ตำปน่งของทรัมป์ในบัตรลงคะแนนของพรรครีพับลิกัน แม้จะโดนตั้งข้อกล่าวหาทางอาญาถึงสี่ครั้ง เกิดเรื่องอื้อฉาวมากมาย และได้รับการรายงานข่าวในเชิงลบมาหลายปี ก็ยังเป็นการท้าทายต่อแนวคิดแบบเดิมๆ 

       อันที่จริง ครั้งสุดท้ายที่ เอสแอนด์พี 500 ไม่สามารถคาดการณืผุ้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปได้ก็คือการเลือกตังครั้งล่าสุด หลังจากครองส่วนแบ่งตลาดได้ 2.3% ทรัมป์ก็พ่ายแพ้ต่อประธานาธิบดี โจ ไบเดน

         https://en.wikipedia.org/wiki/S%26P_500

         https://www.investing.com/analysis/how-do-us-elections-impact-the-stock-market-200651831?utm_source=google&utm_medium=cpc&utm_campaign=18997415990&utm_content=636481528026&utm_term=dsa-1547773562090_&GL_Ad_ID=636481528026&GL_Campaign_ID=18997415990&ISP=1&npl=1&af_adset_id=146757837107&ppu=9801673&gad_source=1&gclid=CjwKCAjwyfe4BhAWEiwAkIL8sCrdK5DI4ywGfThBHIAsmhis6x4P1ZDM4VoxjRprlDqqCqbcKWOUchoC0ZUQAvD_BwE

         https://www.aljazeera.com/economy/2024/10/24/want-to-know-who-will-win-the-us-election-take-a-look-at-the-stock-market

      

Celebrities

           ผลการศึกษาของฮาร์วาร์ดพบว่าคนดังมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าพวกเขาส่ง
เสริมการมีส่วนร่วมของพลเมืองและสงผลต่อจำนวนการสำรวจความคิดเห็น

          แม้ว่าคนดังจะมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในญานะนักแสดง แต่โดยทั่วไปแล้ว คนดังมักไม่ค่อยได้รับความวไ้วางใจให้เชี่ยวชาญด้านการเมือง อย่างไรก็ตาม ผุ้สมัครจากทุกกลุ่มการเมือง ต่างก็ให้ความสนใจที่จะเน้นย้ำถึงพลังของดาราในานหาเสียงของพวกเขา

          จากการศึกษาวิจัยใหม่ล่าสุดพบว่าคนดังไม่เพียงแต่สร้างกระแสบนโลกออนไลน์เท่านั้น แต่ยังสมารถส่งผลต่อการเลือกตั้งได้ด้วย ตามการวิจัยของ แอช เซ็นเตอร ฟอร์ เดโมเคติค กอฟเวอร์แนนซ์ และ อินโนเวชั่น แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มี "หบักฐานที่ชัดเจนว่าเสียงของ ผุ้มีชื่อเสียง มีพลังอย่างเหลือเชื่อ" ในการส่งเสริมการมีส่วรร่วมของพลเมืองและการเปลี่ยนแปลงตัวเลขการสำรวจความคิดเห็น

        "ขณะนี้ ผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียงรุ่นเยาว์มีระดับความไว้วางใจตอผุ้นำและสถาบันต่างๆ ค่้อนข้างต่ำ รวมถึงสื่อข่าวแบบดั้งเดิมด้วย แต่คนดังมักะเป็นข่อยกเว้นที่หายาก" แอชลีย์ สปิลเลบน ผุ้เขียนผลการศึกษาและผุ้เชียวชาญการมีส่วนร่วมของพลเมืองและการมเืง อกล่วกับ เอบีซี นิวส์ ผลการศึกษาที่เผยแพร่เมือวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้กล่าวถึงเรื่องที่ว่าอเมริกายังคงตามหลังประเทศประชาธิปไตยที่พัฒนาแล้วอื่นๆ ในแง่ของจำนวนผุ้มีสิทธิออกเสียงที่ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงจริง 

         สปิลเลน กล่าวว่า "แม้ว่าระดับการมีส่วรร่วมของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งตั้งในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดจะทำลายสถิติ แต่สหรัฐอเมริกายังคงอยุ่ในอันดับที่ 31 จาก 50 ประเทศพัฒนาแล้วในแง่ของการมีสวนร่วมของผุ้มสิทะิเลือกต้้ง" เธอบอกว่าการขาดแรงจูงใจและการระดมกำลังเป็นสาเหตุผลักประการหนึ่งเบื้องหลังการจัดอันดับดังกล่า และคนดังอาจเป็นปัจจัยสำัญในการแก้ไขการขาดการมีส่วนร่วมของพลเมืองจะเปนต้องเปลี่ยนแปลง "กาลงคะแนนเสียงควรเป็นส่ทงิที่เป็นกระแสและเท่" เธอกล่าว "และการศึกษายังแสดงให้เห็นว่ามีหลักฐานว่าเมือผุ้คนรุ้สึกแบบน่ี้เกี่ยวกับยการลงคะแนนเสีียงพวกเขาก็มีส่วนร่วม" การศึกษาระบุว่าในแง่ของการเลปียนแปลงวัฒนธรรมนี้ คนดังมี "ตำแหน่งเฉพาะตัวในการเสริมพลังให้กับชาวอเมริกันทั่วไป" อัตราการขึ้นทะเบียนผุ้มีสิทธิเลืิอกตั้งออนไลน์และอาศสสมัครเจ้าหน้าที่่หน่วยเลือกตั้งเพ่ิมข้นเมือคนดังโปรโมตพวกเขา

        "ส่ิงที่การศึกษาวิจัยพบก็ค ือ การแบ่งปันข้อมุลที่ช่วยให้ผุ้คนสามรถดำเนินการต่างๆ ได้ (เช่น ลิงค์ลงทะเบียน, วิธีค้นหาสวภานที่ลงคะแนนเสียง, วันเลือกตั้งเมือไร ) อาจมีผลกระทบทากที่สุด" เธอกล่าวเสริม

        การศึกษาครั้งนี้ยังเน้นย้ำถึงวิะีการที่ "ความถูกต้องแท้จริงช่วยขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของพลเมือง" ซึ่งทำให้ความพยายามของคนดังต้องสอดคล้องกับผลประโยชน์สาธารณะและแพลตฟอร์มโดยรวมเพื่อให้เกิดประสิทธิผล

        แม้ว่าคนดังบางคนยังคงระมัดระวัง "ปฏิกริริยาตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นและการยกเลิก" แต่ผลการสึกษาพบว่าผุ้มี่สนับสนุนใหุ้้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าร่วมเชื่อว่าการกระทำดังกล่าว" ดีต่อประชาธิปไตย" และ "ดีต่อแบนด์ของพวกเขา" ดังที่เห็นตลอดรอบการเลือกตั้งปัจจุบัน คนดังได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับการมีส่วนร่วมของพลเมืองโดยไม่ได้แจ้งให้พวกเขารู้หรือตั้งใจอย่างชัดเจน

        สปิลเลน บอกกับ เอบีซี นิวส์ ว่า ไการที่ชุมชนแฟนๆ เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมการมีส่วนร่วมของพลเมือทำให้พวกเขาสามารถเป็นส่วนหนงอของการทำงานร่วมกัน ซึ่งช่วยสร้างความไววางใจในการะบวนการประชาธิปไตยและแรงจูงใจในการมีส่วนร่วม" 

         กลุ่ม เจน-ซ๊ และ มิลเลนเนล มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากการศึกษายืนยันว่ากลุ่มดังกล่าวจะคีองส่วนแบ่งเสียงส่วนใหญ่ในปี 2028 นอกจาเวลาที่กลุ่ม เจน ซี  และเลนเนล ใช้หน้าจอโซเชียลมีเดียวโดยเฉลี่ยในแต่ละวันแล้วแพลตฟรอ์มดังกล่าวยังถือเป็นแหล่งข่าวหลักอีกด้วย จากการค้นพับดังกล่าว มีแนวโน้มว่าการจับตาดุเสียงของคนดังอย่งใกล้ชิดตอลดช่วงที่เลหือของวัฎจักรเหลือตั้งอันประวัติศาสตร์และวุ่นวายนี้

       "หลักฐานชัดเจนว่า บุคคลที่มีอิทธิพลเหล่านี้สามารถสนับสนนุแลส่งเสริมให้ชาวอมเริกันทัี่วไปใช้เสียงและใช้สิทธิพลเมืองของตนได้มากขึ้น โดยอาศัยแพลตฟอร์มอันทรงพลังของพวกเขา" สปิลเลนกล่าว

 เมื่อวัีนศกร์(เมื่อวาน) บียอนเซ่ ร่วมกับผุ้สมัคีชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แฮร์ริส บนเวที่ในรัฐเท็กซัสเพื่อสนับสนุน "เสรรีภาพในการควบคุมร่างกาย" ของผุ้หญิง ขณะที่โดนัลด์ทรัมป์บันทึกเทปการสัมภาษณ์นานสามชัวโมงสำหรับพ็อดแคสต์ชื่อดังของสหรัฐฯ ชือ "เดอะ โจ โรแกน เอก็ดีเรียนซ์" นักร้องสาวเจ้าของรางวัลแกรมมี่อย่งเคลลี โรว์แลนด์ ขึ้นเวทีพร้อมกับดาราสาวเพื่อร่วมรายการ เดสตินี้ อีส ชายด์ แนะนำแฮร์ริสให้เป็นที่รู้จักตอกลุ่มผุ้สนับสนุนที่ส่งเสรียงเชียร์อย่างกึกก้องกว่า 20,000 คนในเมืองฮุสตัน รัฐเท้กซัส ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบียอนเซ

        "ถึงเวลาที่อเมริกาต้องร้องเพลงใหม่" บียอนเซ กล่าว พร้อมกระตุ้นให้ผุ้มีสิทธิออกเสียงออกมาใช้สิทธิ ถึงแม้เธอจะไม่ได้แสดงเพลงฮิตใดๆ แตก่ารปรากฎตัวของเธอก็ยิ่งทำให้การชุมนุมของแฮร์ริสได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งเน้นไปที่ข้อจำกัดการทำแท้งในรัฐที่พรรครีพับลิกันเป็นผุ้นำ

        บียอนเซ่ กล่าว่าเธอไม่ได้ไปที่นั้นในฐานะคนดัง แต่ในฐานะ "แม่ที่ใส่ใจโลกอย่งมาก... โลกที่เราสามารควบคุมร่วงกายของเราได้อย่างอิสระ"

        เท็กซัสไม่ใช่สนามรบแห่งหนึ่งในจำนวนน้อยที่คาดว่าจะตัดสินผลการเลือกตั้งประธานาะิบดี หรือที่ซุึ่งพรรคเดโมแครตและคู่แข่งจะรณรงค์หาเสียในช่วงโค้งสุดท้ายตามปกติ แต่แฮร์ริสคาดหวังให้รายการของเธอซึ่งเต็มไปด้วยดาราดัง ซึ่งยังมีวิลลี เนลสัน ตำนานคันทรีวัย 91 ปี ร่วมแสดงด้วย จะช่วยทำให้การทำแ้งกลายเป็นที่สนใจของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในช่วงวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง

       ขณะที่แฮร์ริสอยุ่ในฮุสตัน ทรัมป์ก้อยุ่ในออสติน เพื่อบันทึกเทปสัมภาษณ์ยาวสามชั่วโมงในรายการ "เดอะ โรแกน เอ็กเพเรียนซ์" ซึ่งเป็นพอตแคสต์ยอดนิยมของอเมริกา การสนทนาอย่างเป็นมิตรครอบคลุมหัวข้อต่างๆ รวมถึงเรื่องยูเอฟโอและไฟล์ลัลเกี่ยวกัยการลอยสังหารประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี แต่แทบจะไม่มีการลงรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบยเลย และหลักเลี่ยงประเด็นการทำกท้งโดยสิ้นเลิง ตามวิดีโอการสนทนาที่เผยแพร่เมือเย็นวันศุกร์

        เหล่าคนดังที่สนับสนุนแฮร์ริส และทรัมป์ อาทิ

       จูเลีย โรเบิร์ตส์ แสดงการสนับสนุแฮร์ริสเมือเดือนกันยายน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการชุมนุมหาเสียงของแฮร์ริสที่เมืองแคนตัน รัฐจอร์เจีย ดดยเธอสนับสนุให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในเมืองแคนตันสนทนากับคนที่รักเกี่ยวกับการเมืองและการเลือกตั้ง นักแสดงที่ได้รับรางวัลออสการ์คนนียังแสดงการสนับสนุนสิทะิการสืบพันธุ์อีกด้วย "ฉันเชื่อในจอร์เจีย ฉันคงไม่กลัีบบ้านถ้าฉันไม่เชื่อว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายอันสวยงามที่ขยายออกไปนอกขอบเขตของรัฐได้" โรเบิร์ตส์กล่าว "ฉันแค่หวังว่าผุ้หญิงทุกคนที่นี่้ในคืนนี้จะพูดคุยกับผุ้ชายทุกคนที่ไม่อยุ่ที่นี่ในคืนนี้ และคุณผุ้ชายที่กล้าหาญทุกคนที่อยุ่ที่นี่ในคืนนี้ พุดคุยกับผุ้ชายคนอื่นๆ ที่ไม่อยุ่ที่นี่ในคืนนี้"

      ลิซโซ ป็อฟสตาร์ ที่เกิดในดีทรอยต์เข้าร่วมงานกับแฮร์ริสในเมืองเมือวันที่ 19 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่การลงคะแนนเสียงล่วงหน้ามนรัฐเร่ิมต้น "ถ้าคุณถามฉันว่าอมเริกาพร้อมหรือยังสำหรับประธนาธิบดีหญิงคนแรก ฉันบอกได้เพียงว่าถึงเวลาแล้ว "ลิซโซกล่าวโดยอ้างอิงถึงชื่อเพลงฮิตที่สุดเพลงหนึ่งของเธฮ

      นำ อัชเชอณ์กล่าวในงานหาเสียงที่ีเมืองแตอลนตาเมือ 19 ตุลาคม โดยเขาสนับสนุนให้ผุ้ มีสิทธเิลือกตั้งเลือก "ผุ้นำรุ่นใหม่" "ผมสนับสนุนรองประะานาธิบดีแฮร์ริสเพราะเธอต่อสุ้เพื่อสิทธิของทุกคน เพื่อเสรีภาพ และไม่สำคัญว่าคุณมาจากไหน" เขากล่าว "เธอมีวิสัยทัศน์สำหรับประเทศของเราที่รยมทุกคนไว้ด้วยกัน วิสัยทัศน์ที่สนัยสนุนธุรกิจขนาดเล็กลงทุนในด้านสุขภาพและชุมชนของเรา และให้โอกาสทุกคนได้ก้าวหน้า" 

          บรูซ สปริงส์ทีน ได้ขึ้นกล่าวปราศรัจในการชุมนุมท่จอร์เจีย ในวันที่ 24 ตุลาคม "ฉันต้องการประะานาธิบดีที่เคารพรัฐธรรมฯูญ ไม่ข่มขู แตต้องการปกป้องและชี้นำประชาธิปไยอันยิ่งใหญ่ของเตา เชื่อในหลักนิติะรรมและากรถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ ต่อสู้เพื่อสิทธิในการเลือกของผุ้หญิงและต้องการสร้างเศรษฐกิจชนชันกลางที่จะให้บริการพลเมืองทุกคน" สปริงส์ทีนกลาว "ในการเลือกตั้งครังนี้ มีผุ้สมัครเพีงคนเดียวเท่านั้นที่ยึดั่นในหลักการเหล่านี้ นั้นคือ กมลา แฮร์ริส" 

          เอ็มมิเน็ม แรปเปอร์รายนี้พุดสั้นๆ ในการชุมานุมเพื่อฉร์ริสเมือวันที่ 22 ตุลา ในเมืองดีทรอยต์ ก่อนที่การลงคะแนนเสียงล่วงหน้าจะเร่ิมข้นในรัฐ "อย่างที่พวกคุณส่วนใหญ่ทราบกันดีว่า เมืองดีทรอยต์และทั้งรัฐมิชิแกนมีความหมายต่อผมมาก และในการเลือตั้งคร้งนี้ ความสนใจจะจับจ้องมาที่เรามากว่าที่เคย" เขากล่าว "และผมคิดว่าการใช้เสียงของคุณเป็นิ่งทสำคัญ ดังนั้น ผมจึงขอสนับสนุนให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียง"

         และนอกจากนี้ยังมี ซามุเลอ แอล.แจ็คสัน,ไทเลอร์ เพอรณ์รี่, สตีวี่ วันเดอร์, เมจิก จอห์นสัน, เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์, โอปราห์ วินฟรีย์, ควาโว แรปเปอร์ชาวแอตแลนต้า, เมแกน ธี สตัลเลี่ยน แรปเปอร์สาว, และการกล่าวผ่าน อินสตรแกรมของ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ว่าสนับสนุน แฮร์ริส และล่าสุดบียอนเซ่...

       คนดังที่สนับสนุนทรัมป์

       เจสันอัลดีน เขากล่าวว่า "การสนับสนุนผุ้สมัครรายนี้เป็นรเื่องที่ ไม่ต้องคิดมาก เราต้องการอนาคตที่เสรีภาพของเราได้รับการปกป้อง เศราฐกิจของเราแข็งแกร่ง เด็กๆ ของเราปลอดภัย พรมแดนของเรามั่นคง" เขากล่าว และสำหรับผม ผุ้นำคนนี้ไม่ใช่ใครื่อนนอกจากนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯคนที่     45"

       แซ้คารี เลวี นัแสดงปรากฎตัวในงานที่มิชิแกน ร่วมกับ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ และทัลซี แกบบาร์ด เพื่อสนับสนุนทรัมป์ "เราจะนำประเทศนี้กบับคืนมา เราจะทำให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง เราจะทำให้มันมีสุขภาพดีขึ้นอีกครั้ง"

       บี กรีน วูด "ก่อนที่ผุ้สมัครรายนี้จะปรากฎตัวต่อสาะารณชนเป็นครังแรกหลังจากถูกพยายามลอบสังหาร" เขามีความกล้าหาญ ความแข็งแกร่ง และเขาจะป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ" เขากล่าว

      แอนโตนิโอ บราวน์ และเลอเวอน เบลล์ อดีตผุ้เล่น NFL ที่เคยเล่นให้กับทีม พิทเบิร์ค สตีลเลอร์ สนัีบสนุนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในการชุมนุมหาเสียงที่เพนซิลเวเนีย

       อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีรายน้เข้าร้วมการชุมนุมร่วมกับทรัมป์ในเมืองบัติเลอร์ ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อชุดสีคำทั้งหมดของเขา มัสก์ ซึ่งทำงานร่วมกับรัฐบาลกลางอยางกว้างขวางผ่านบริษัทของเขาอย่าง เทสล่า และ สเปชเอ็ก และได้ทุ่มเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ให้กับกลุ่มภายนอกที่สนับสนุนการหาเสียงของทรัมป์ "นี่ไม่ใช่การเลือกตั้งธรรมดา" มัสก์กล่าว "อีกฝ่ายต้องการพรากเสรีถาพในการพุดของคุณไป พวเขาต้องการพรากสิทธิในการพกอาวุธของคุณไป พวกเขาต้องการพรากสิทะิในการลงคะแนนเสียงของคุณไป" 

        เดนนิส เควค กล่าวสุนทรพจน์ในการชุมนุมของทรัมป์ที่โคเชลลา แคลิฟอร์เนีย "ถึงเวลาต้องเลือกข้างแล้ว" เขากล่าวกับผูงชน" เราจะป็นประเทศที่ยืนหยัดเพื่อรัฐธรรมฯุญหรือเพื่อ ติก ต็อก.. เราจะเป็นประเทศที่มีกฎหมายและระเบียบหรือพรมแดนที่เปิดกว้าง"...

          https://time.com/7098928/celebrities-hitting-the-trail-for-harris-trump/

          https://abcnews.go.com/Politics/celebrities-impact-elections-harvard-study-finds/story?id=112806120

          

Democracy issues

         เหลือเวลาอีก 11 วันการเลือกตั้งประธานาธิบสหรัฐฯ ก็จะเร่ิมขึ้น การแข่งขันกันระหว่างผุ้สมัครทั้งสองดุเดือดและสูสีเป็นอย่างยิ่ง ต่อจากนี้เป็นการบทสัมภาษณ์ บทความ รายการ ที่ถูกเผยแพร่โดยสื่อของแต่ละฝ่าย 

         การวิเคราะห์โดย แซคชารี บี. วูฟ, ซีเอ็นเอ็น

         ผุ้คนเรียกทรัมทป์ว่าเป้ฯพวกฟาสซิสต์ นั่หมายยความว่าอย่างไร ?

          ฟาสซิสต์เป็นคำน่ารังเกียจสนวงการการเมืองสหรัฐฯ ดังนั้นเมือพลเอกจอห์ เคลลี อดีตหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของอดีตประะานาธิบดีโอนัลด์ ทรัมป์ ซี่งเป็นอดีตนาวิกโยธินที่เกษียณอายราชการแล้วกล่าวว่าทรัมป์เขาข่ายคำว่า "ฟาสซิสต์" นั่นจึงถือเป็นข่าวการกระทำดังกล่าวทให้ชื่อของทรัมป์อยุ่ในอุดมการณ์เดียวกันกับนักฟาสซิสต์ที่ฉาวโฉ่ที่สุดอย่าง อดอฟล์ฟ ฮิตเลอร์ และเบนิโต มุสโสลินี ทรัมป์ปฏิเสธแนวคิดดังกล่างและเรียกเคลลีว่า "คนเสื่อมทราม" 

          เมื่อถูกถามที่สษลากลางของ ซีเอ็นเอ็น ที่เพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐ,สมารภูมิ ว่าเธอเห็นด้วยกับเคลลีที่ว่าทรัมป์เป็นพวกฟาสซิสต์หรือไม่ แฮร์ริส ไม่ลังเลที่จะตอบว่า "“Yes, I do. Yes, I do,” เธอกล่าว  เคลลี่ชี้ให้นิวยอร์ก ไทมส์เห็นถึงคำจำกัดความของลัทะิฟาสซิสต์ว่า "ลัทะิฟาสซิสนั้นเป็นนอุดมการ์และการเคลื่นไหวทางการเมืองแบบขชวาจัดและชาตินิยมสุดโต่ง ซึ่งมีลักษณะเด่นคือผุ้นำแบบเผด็จการ ระบอบเผด็จการที่รวยมอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ลัทะิทหาร การปราบปรามฝ่ายค้านโดยใช้กำลัง และความเชื่อในลำดับชั้นทางสังคมตามธรรมชาติ"

        ดังนั้นจากประสบการณของผม นั่คือส่งิที่เขาคิดว่าจะใช้ได้ผลดีกว่าในการบริหารอเมริกา เคลลี่กล่าว เคลลี่ยังกล่าวเสริมว่าทรัมป์อยุ่ใน "กลุ่มขวาจัด" และชขื่นชมคนที่เป็นผด็จการ" ซึ่งในมุมมองของเคลลี่ทำให้ทรัมป์อยุ่ใน "กลุ่มนิยามทั้งไปของพวกฟาศซิสต์

         การใช้ทหารเพื่ปิดปากผุ้เห็นต่างมีข้อโต้แย้งที่นาสนใจเพื่อสนับสนุเคลลี ข้อเสนอขงอทรัมป์ว่าเขาสามารถใช้กองทัพเืพ่อต่ต้าน "ศัตรูจากภายใน" ซึงเขากล่าววารวมถึงสมาชิกพรรคเดโแมครต เช่น ส.ส. แนนซี เพโลซี และอดัน ชิฟฟ์ จากแคลิฟอร์เนีย ฟังดุเป็นฟาสซิสต์อย่างแน่นอน ผุ้สนับสนุนพรรครัพับลิกัน ของเขาโต้แย้งวว่านั่นเป็นเพียงการพุดเกินจริง ทรัมป์ต้องการใช้กองทัพเพื่อดขัดขวางการประท้วงในประเทศเมือเขาอยู่ในตำแหน่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่นายพลระดับสุงของเขาในขณะน้น ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะเสนาธิการร่วม พลเอกมาร์ก มิลลีย์ ปฏิเสธ ตามรายงานในปี 2021 นอกจาหนี้ มิลลีย์ยังเปรียบเทียบการปฏิเสธการเลือกตั้งของทรัมป์กับ "คำโกหกครังใหญ๋" ของฮิตเลอร์เป็นการส่วนตัวอีกด้วย

        แม้ว่าเขาจะไม่มีความตังใจที่จะใช้กองทัพกับพรรคเดโมแครต แต่เขาก็ีประวัิการพยายามใช้กองทัพเพื่อปราบปรามการประท้วงในสหรัฐฯถือเป็นภัยคุกคามต่อการปราบปรามผุ้เห็นต่าง

         ทรัมป์กล่าวเมื่อเร้ซๆ นี้ว่าเชาจะไลอัยการพิเศษแจ็ค สมิธออก" ภายในสองวินาที" หากเขาชนะการเลือกตั้ง ซึ่งดุเหมือนจะชัเเจนเนืองจากสมิธได้ฟ้องทรัมป์ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงการเลือกตังแลการจัดการเอลกสารลับอย่างไม่เหมาะสม

         คดีการแทรกแซงการเลือกต้งถุกเลือนออกไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นการเลือกต้งแ ละมีผุ้พิพกาษาอีกคนยกฟ้องคดีเอกสารลับ แม้ว่าสมิธจะได้ยืนอุทธรณ์ก็ตาม ทรัมป์มีประวัติการไล่เจ้าหน้าที่ที่ซักถามเขาออกเขาไล่เจมส์ โคมีผุ้อำนวนการเอฟบีไอออกตอนที่ดำรงตำปนงประธานาธิบดี เขาไล่เจฟฟ์เซสชั่นส์ อัยการสูงสุดคนแรกของเขาออก หลังจากที่ไม่เียให้อภัย เซสชั่นส์ที่แต่งตงอัยการพิเศษเพื่อสืบสวนการสมคบคิดระหว่างทีมหาเสียงของทรัมป์กับรัสเซียในช่วงการเลือกตั้งบปี 2016 

         รายงานที่ได้จากอัยการพิเศษโรเบิร์ต มูเลอร์ถุกเรียกว่า "การหลอกลวงเรื่องรัสเซีย" หลายครั้งโดยทรัมป์และพันธมิตรของเขา จนชาวอเมริกันส่วนใหญ่คงจำไม่ได้ว่ามูลเลิอร์ไม่ได้กล่าวโทษทรัามป์ในรายงานอย่างชัดเจนว่าขัดขวางกระบวนการยุติะรรม มุลเลอร์ระบุถึงการติดต่อหลายค่งระหวางทัมหาเสียงของทรัมปืกัรัสเซียในปี 2559 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รัสเซียพยายามช่วยเหลือทัมหาเสียงของทรัมป์อย่างจริงจัง มูลเลฃอร์สรุปว่การติดต่อดังกล่าวไม่ได้เขาข่ายการสมคบคิด 

          บิล บาร์ อัยการสูวสุดคนที่สองของทรัมป์ ค่อยๆ เผยแพร่ตายงานของมูลเลอร์เพื่อลดผลกระทบ ต่อมาบาร์ได้ลาออกจากรัฐบาลของทรัมป์หลีังการเลือกตั้งปี 2020 หลังจากปฏิเสธที่จะสนับสนุนทฤษำีสมคบคิดที่ท รัมป์กล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้ง พรรคเดโมแครตสงสัยว่าใครจะหลืออยุ่คอยรงับความอยากของทรัาป์หากเขาได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง

          หากเขาชนะการเลือกต้ง ทรัมป์ ได้สัญญาว่าจะดำเนิอนการมกขึ้นเพื่อทำสงครามกับส่งิที่เขามองว่าเป็น "รัฐลึก" ของข้าราชการที่กระทรวงยุติธรรม เอๆบีไอ และเพนตากอน เขายังเสนอว่าเขาจะใช้ระบบยุติธรรมเพื่อดำเนินคดีเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งด้วย ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงความสอดคล้องอย่างน้อยกับองค์ประกอบบางส่วนของลัทธิฟาสซิสต์ ซึ่งสร้างขึ้นโดยมีผุ้นำที่เข้มแข็งและปฏิเสธความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยในรัฐบาล แต่ลัทะฟาสซิสต์อาจมีอะไรมากกว่านี้ เช่น การควบคุมเศราฐกิจและสังคมของเยอรมันอย่างสมบูรณ์ ทรัมป์ไม่ได้เสนอแนะอะไรแบบนั้น ทรัมป์ไม่ได้เสนอแนะอะไรแบบนั้น 

         ขณะเดียวกันแอร์ิสกำลังจะเร่ิทติดป้ายให้ทรัมป์เป็นพวกฟาสซิสต์ แต่เขากลับเรียกเธอว่าเป็นพวกมาร์ซิสต์มาตลอดช่วงการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาะิบดี โดยเรียกว่า "สหายกมลา" ....

         ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายรัฐธรรมนูญรื้อถอน "การเมืองตื่นตระหนก"ของพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับชะตากรรมของประชาะิปไตยภายใต้ทรัมป์

          เรามีระบบประชาธิปไตยที่เก่าแก่และมั่นคงที่สุดในประวัติศาสตร์โล โจนาะาน เทิร์ลลีย์ กล่าว 

          โดย เจ้าหน้าที่ฟ็อกนิวส์ ฟ็อกนิวส์

        ผุ้ร่วมรายการ ฟ็อกนิวส์ โจนาธาน เทิร์ลลีย์ ออกมาวพากษ์วจารณ์ความพยายาม"ทำลายล้างโลก" ของพรรคเดโมแครตในการพยายามสร้างภาพอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ให้เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย โดยเขากล่าวกับรายการ "ฟ็อกซ์ แอนด์ เฟรนด์" ว่ากลวิะีการขู่ขวัยดังกล่าวถือเป็นการ "หมิ่นประมาทรัฐะรรมนูญ" ต่อ "ระบบประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก" 

         โจนาธาน อทร์ลีย์ กล่าว นี่เป็นการเมืองแบบตื่นตระหนกที่แฝงไปด้วยกล่ินอายของวันฮาโลวีน ซึ่งคุณคงทราบดีว่า "ถ้าคุณลงคะแนนเสียงไม่เลือกฉัน คุณก็กำลังลงคะแนนเสียงไม่เลือกประชาธิปไตยและชีวิตตามที่คุณรู้จัก สิ่งที่ขาดหายไปจากเรื่องนี้คือความรุ้สึกทางประวัติศาสตร์และกฎหมายรัฐธรรมนุย เป็นเวลากว่าสองศตวรรษแล้วที่เรามีระบอบประชาธิปไตยที่เก้าแก่และมั่นคงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เราผ่านสงคราม วกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตสังคม และเรายังคงดำรงอยุ่มาจนถึงทุกวันนี้ เป็ระบบที่ได้รับการออกแบบให้คงอยุ่ตลอดไป เพราะามีมาตรการป้องกันที่ทับซ้อนกัน การตรวจสอบและถ่วงดุล และระบบไตรภาคี ทั้งหมดนี้ต้องลมเลหงเพื่อให้คำทำนายที่น่ากลัวและทำลายล้างเหล่านี้เป็นจริง และส่งิที่อันตรายเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ การเมืองแบบตื่นตระหนกได้รับการออกแบบมาเพื่อเพบี่ยงเบนความสนใจของผุ้มีสิทธิเลือกตังให้พุดว่าไม่ว่าจะอะไรอีกที่ทำให้คุณกังวลใจก็ตาม ถุกต้องไหม ลงคะแนนเสียงเพือชีวติของคุณเอง เพราะคุณกำลังมองไปที่จุดจบของระบอบประชาธิปไตยและวิถีชีวิตของคุณ เว้นแต่แฮร์ริสจะได้รับการเลือกต้้ง

          ปัญหาคือ คนอเมริกันมีสัญชาตญาณโดยสัญชาตญาณว่าเมือใดที่พวกเขาถุกหลอกให้เป็นคนโง่ การตัดสินใจระหว่างทรัมป์กับแฮร์ริสไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขา แต่พวกเขาไม่เชื่อ  พวกเขาไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าหลังจากสองศตวรรษแห่งประชาธิปไตยที่ประสบความสำเร็จ ทุกอย่างจะต้องจบลงเว้นแต่แฮร์ริสจะได้รับเลือกเป็นประะานาธิบดี

         ประธานาธิบดีไบเดน ย้ำข้อโต้แย้งที่ยาวนานของเขาเมือวันอังคารว่าการเลือกตั้งอีกสมัยของทรัมป์จะเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยของชาติ "ประชาธิปไตยของเราตกอยู่ในอันตราย" เขากล่าวในการประชุมทางการเมืองที่นิวแฮมป์เชียร์ "ลองคิดดูสิ ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้" 

        ไบเดน กล่าวว่า "ฉันรู้ว่ามันฟังดูแปลก ดุเหมือนว่าถ้าฉันพูดแบบนี้เมือห้าปีก่อน คุณคงจับฉันขังคุกแน่ๆ เราต้องจับเขาขังคุก"  แต่ประธานาธิบดีดุเหมือนจะจับตัวเองได้ทันที โดยเสริมวา "ต้องขังเขาไว้ทางการเมือง ขังเขาไว้ข้างนอก นันคือส่ิงที่เราทำได้" 

        รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสเน้นย้ำการเปรียบเทียบทรัมป์กับอดอล์ ฮิตเลอร์ โดยกล่าวในการประชุมสภาของ ซีเอ็นเอ็น เมื่อวันพุธว่าเะอเชื่อว่าทรัมป์เป็น "พวกฟาสซิสต์" "ใช่ ฉันเชื่อ ใช่ ฉันเชื่อ" แฮร์ริสบอกกับผุ้ดำเนินรายการ เมือถูกถามวาเธอเชื่อว่าทรัมป์เป็น "พวกฟาสซิสต์" หรือไม่

        แฮร์ริสกล่าวในรายการ X เมื่อช่วงเช้าของวันพุธว่า "ทรัมป์ต้องการอำนาจที่ไร้การตรวจสอบ" และคล้ายกบเผด็จการนาซีเยอรมัน แฮร์ริสโพสต์ว่า "เขาต้องการกองทัพแบบที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ มี ซึงจะจงรักภักดีต่อเขาไม่ใช่รัฐธรรมนูญเขาเรา เขาเป็นคนไม่มั่นคง ไม่มั่นคง และหากได้ดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง จะไม่มีใครมาหยุดเขาจากการกระทำตามแรงกระตุ้นที่เลวร้ายที่สุดของเขาได้"

          https://www.foxnews.com/media/constitutional-law-expert-dismantles-democrats-panic-politics-over-fate-democracy-under-trump

          https://edition.cnn.com/2024/10/24/politics/fascism-trump-what-matters/index.html

Early voting

           เหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ ก่อนวันเลือกตั้งชาวอเมริกันหลายล้านคนได้ลงคะแนนเสียงผ่านทาง

ไปรษณีย์หรือด้วยตนเองแล้ว ขณะที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสและ อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัป์ กำลังไล่ตามผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐ?ี่เป็นสมรภูมิการเลือกตั้ง

           การลงคะแนนเสีียง ล่วงหน้าแบบพบหน้ากันได้เร่ิมขึ้นในวันอังคารในวสคอนซินโดยเพี่มรายชื่อรัฐสำคัญที่ผุ้มีสิทธิลงคะแนนได้เร่ิมลงคะแนนเสียงไปแล้ว ตามที่ วิสคอนซิน เอ็กแซมไม่เนอร์ รายงาน

          จอร์เจีย เป็นสมรภูมิอีกแห่งมีผุ้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์แรก โดยมีผุ้มาฝช้สิทธิมากกวา 1.4 ล้านคน หรือมากกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนผุ้มาใช้สิทธิทั้งหมดในการเลือกตังประธานาธิบดี 2020 ตามที่ จอร์เจีย เรคคอร์ด รายงาน

        ผลสำรวจความคิดเห็นระดับชาติ 2 ฉบับที่เผยแพร่เมือ่วันอังคารแสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสมีคะแนนนำโดยเฉพาะในกลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกต้้งที่เป็นคนรุ่นใหม่ ผลสำรวจของ รอยเตอร์/อิปโสซ ที่ดำเนินการตั้งแต่าวันทืี่ 16 ตุลาคมจนถึงวันจันทร์ พบว่าแฮร ์ริสมีคะแนนนำห่างเพียง 3 คะแนน ซึ่งแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากผลการสำรวจของ อิปสอซ เมื่อสัปดาห์ก่อน

        ผลสำรวจรายไตรมาสล่าสุดของ CNBC / เจนเนอร์เรชั่น แลป พบว่าแฮร์ริสมีคะแนนนำ 20 คะแนนในกลุ่มอายุ 18-34 

        ชาวละตินเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เมื่อเช้าวันอังคาร แคมเญของแฮร์ริสได้เตือนสื่อมวลขนถึง วาระโอกาส สำหรับผู้ชายละติน ข้อเสนอดังกล่าวสัญญาว่าจะให้เงินกุ้ที่ยกเลิกได้ 1 ล้านรายการสุงสุด 20,000 ดอลลาร์สำหรับผุ้ชายละติน "และคนอื่นๆ" เพื้อเป็นทุนเร่ิมต้น ยกเลิกข้อกำหนดการสำเร็จการศึกาาระดับวิทยาลัยสำหรับงานบางประเภท และส่งเสริมการเป็นเจ้าของย้านครั้งแรในหมู่ชาวละตินด้วยการสร้างบ้านราคาไม่แพงและเสนอการลดหย่อนภาษี 25,000 ดอลลาร์สำหรับผุ้ซื้อรายใหม่ ซึ่งเป็นแนวคิดนโยบาย 2 ประการสำหรับชาวอเมริกันทุกคนที่เธอได้นำเสนอมาเป็นเวลาหลายเดือน

        ตัวเลขสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่เมือวันจันทร์แสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสยังคงทำผลงานเหนือกว่าทรัมป์ในกลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งชาวละตินในสมรภุมิการเลือกต้งของรัฐแอริโซนา มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน

ชาวคริสเตียนละตินกลุ่มหนึ่งได้แสดงความชื่นชมทรัมป์ในเมืองไม่อามี รัฐฟลอริดา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยผุ้นำศาสนาได้วางมือบนไหล่ของทรัมป์และอธิฐานภาวนาให้เขาในงานประชุมโต๊ะกลมที่จัดขึ้นที่ ทรัมป์ เนชั่น โดรอล กอล์ฟ คลับ กเยร์โม มัลโดนาโด ผุ้ก่อตั้งกระทรวงคิงเยซูอินเตอร์เนชี่นแนลกล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ "ไม่ใช่้สงครามระหว่างฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวา แต่นี่คือสงครามระหว่างความดีและความชั่ว เราสามารถต่อสู้กับันได้ และเราต้องการอาวุธทางจิตวิญญาณ" 

        "พระบิดา วันนี้เราได้เจิมเขาแล้ว เราเจิมเขาให้เป็นประะานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯเพื่อฟื้นฟูค่านิยมในพระคัมภีร์ ไม่มีอาวุธใดที่สร้างขึ้นเพื่อต่อต้านเขาที่จะประสบความสำเร็จได้" มัลโดนาโด ผุ้ไดรับฉายาว่า "อัครสาวก" กล่าวสวดภาวนาต่อทรัมป์ เหตุการณ์นีถ่ายทอดสดทาง ซี-เอสพีเอเอ็น 

        ทันที่หลังจากการสวนมนจ์ เพรลงหาเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของทรัมป์  "วายเอ็มซีเอ" ของวง วิินเลจ พีเพิล ก็ดังขึ้น และบรรดาผุ้นำโต๊ะกลมก็เร่ิมส่งหนังสือและหมวกให้ทรัมป์ลงนาม ในระหว่างประชุมโต๊ะกลม ทรัมป์กล่าวหาแฮร์ริสว่า "นอนหลับ" และ "หยุดงานหนึ่งวัน" นอกจากนี เขายังกล่าวหาเธออีกครั้งว่าเธอ "มีไอคิวต่ำ" "มีอะไรบางอย่างผิดปกติกับเธอ" เขาบอกกับฝูงชน

        แฮร์ริสหาเสียงเมือวันจันทร์ร่วมกับลิซ เชนี้ย อดีตสมาชิกสภาผุ้แทนราษำรพรรรีัับลิกันในเขตชานเมืองของ 3 รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน เชนีย์เป็นลูกสาวของดิก เชนีย์ อดีตประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน ซึ่งสนับสนุนแฮร์ริสด้วย

       "สำหรับฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างในประสบการณ์และภูมิหลังของฉันล้วนมีส่วนในการตัดสินใจสนับสนุนรองประธานาธิบดีแฮร์ริส" ลิซ เชนีย์ ซึ่งเคยเป็นสมาชิกสภาผุ้แทนราษำรพรรครีพับลิกันที่มีตำแหน่งสูงสุดเป็นอันดับสาม กล่าว "นั่นเริ่มต้นด้วยความจริงที่ว่าฉันเป็ฯพวกอนุรักษ์นิยม และฉันรุ่้ว่าหลักการอนุรักษ์นิยมที่อนุรักษ์นิยมที่สุดก็คือการยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ" 

         ตามหนดการที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แฮร์ริสกำหนดบันทึการสัมภาษณ์สองครังในบ่ายวันอังคารกับ เอ็นบีซี และ เทเลมันโด และในคืนวันพุธ 21.00 น. ทางช่อง อีสเทิร์น เธอจะเข้าร่ว่มการประชุม ซีเอ็นเอ็น เทาว์ ฮอล ในเพนซิลเวเนีย ซึ่งดำเนินรายการโดยผุ้ประกาศช่าว แอนเดอสัย คูเปอร์  จากนั้นในวันพฤหัสบดี แอร์ริสและอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะนำการชุมนุม "เกท เอาท์ เดอะ โหวต" ซึ่งมีการแสดงของบรูซ สปริงส์ทีน ในจอร์เจีย เพื่อส่งเสริมการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า 

        ในวันศุการ์ แฮร์ริสจะเดนทางไปที่เมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส เพื่อหาเสียงสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง ดดยเธอจะเดินทางร่วมกับ โลิน ออลเรด สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎรจากเดโมแครต ซึ่งพยายามโค่นล้มเท็ด ครูซ วุฒิสภา

       ทรัมป์ยกเลิกากรปรากฎตัว ตามกำหนดการในวันอังครามในงานที่มีชื่อว่า "เมค อเมริกา เฮลตี้ อเก็น" และยกเลิกคำปราศรัญของตนที่กำหนดไว้ในวันอังคารในงานของสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติในจอร์เจีย" เนื่องจากตารางงานที่ขัดแย้งกัน และยกเลิกการสัมภาษณ์ ที่วางแผนไว้ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ในรารยการ 60 มินัทส์ ของ ซีบีเอส รวมถึงการปรากำตัวตามกำหนดากรล่าสุดในรายการ "สแครค บ็อก ของ ซีเอ็นบีซี และ เอ็นบีซี นิวส์ อีกด้วย

         ทัมป์มีกำหนดจัดการชุมนุมในคืนวันอังคารที่เมืองกรีนส์โบโร รัฐนอร์ธแคโรไลนา และในวันพุธ ตารางของเขาประกอบด้วยงานสองงงาน ได้แก่ "บีลีฟ แอน บออลอตส์ เฟียท ทาวน์ ฮอล" ที่เมือง เซบูลอน รัฐจอร์เจีย โดยมีรองผุ้ว่าการรัฐ เบิร์ต โจนส์ เข้าร่วมด้วย ตาวมถึงการชุมนุมของ เทิร์นนิ่ง พอยส์ พีเอซี และ เทิร์นนิ่ง พอส์ย แอคชั่น ที่มเืองดุลูธ รัฐจอร์เจีย ทรัมป์มีกำหนดจะกล่าวสุนทรพจน์สำคัยในคือวันพฤฤสัสบดีที่ลาสเวกัน เนวาดา ในงานชุมนุม "ยูนิเต็ด ฟอร์ เชจ" ของ เทิร์นนิ่ง พอส์ย" สำหนังข่าว โพลิติโค รายงานเมือวันอังคารว่าอดีตประธานาธิบดีจะบันทึการสัมภาษณ์กับโจ โรแกน พิธีกรรายการพอตแคสต์ชื่อดังในวันศุกร์ที่สตูดิโอของเขาในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส

        https://wisconsinexaminer.com/2024/10/22/early-voting-now-underway-trump-and-harris-crisscross-the-battleground-states/

Washoe County , Nevada,

            วอโซ เคาน์ตี้ เป็นมณฑลรัฐใน เนวาดา ในปี 2020 มีประชากร เกือบห้าแสนคน ทำให้เป็นมณฑลที่
มีประชากรมากเป็นอันดับสุองของเนวาดาศุนย์กลางมณฑลคือเมือง รีโน วอโช เคาน์ตี้ รวมอยุ่ในเขตสถิติ มหานคร รีโน รัฐเนวาดา

           วอโซก่อตั้งขึ้นมืเอปี 1861 เป็นหนสึ่งในเก้ามณฑลดั้งเดิมของอินแดนเนวาด มณฑลนี้ได้รับการตั้งชื ่อตามชาววอโช ที่อาศัยอยู่ในบบริเวณนี้ในตอนแรก ต่อมาในปี 1864 มณฑลนี้ก็ได้รวมเข้ากับ มณฑลรูป มณฑลนี้ เมืองวอโชเป็นเมืองหลวงมณฑลแห่งแรก ในปี 1861 และถูกแทนที่ด้วยเมืองรีโนในปี 1871 

            เคาน์ตี้วอโชเป็นฐานที่มั่นของพรรครีพับลิกันตลอดช่วงปลายศตวรรษที่ 20 โดยลงคะแนนเสียงให้กับผุ้สมัครจากพรรคเดโแมครตเพียงครั้งเดียวระหว่าง 1944 ถึง 2004 (ซึ่งเดโมแครตชนะขาดลอยในปี 1964 ) ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เคาน์ตี้แห่งนี้่กลายเป็นเมืองที่มีการแข่งขันกันสูง โดย นปี 1988 จอร์จ เอช. ดับเบิลยุ บุช ชนะไปเพียง 22 คะแนน แต่ในปี 1992 บุชชนะไปเพียง 3 คะแนน ตั้งแต่ปี 1996 ถึง 2004 ผุ้สมัครจากพรรครีพับบิกันมีคะแนนนำมากกว่า 4 คะแนน บารัค ดอบามาชนะด้วยคะแนนนำ 12 คะแนนในปี 2008 และนับตั้งแต่นั้นมา เคาน์ตี้ก็โหวตให้พรรคเดโแมครตในการเลือกต้งประะาานาะิบดีมาโดยตลอด แม้ว่าจะมีคะแนนห่างกันเพียงเล็กน้อยก็ตาม อยางไรก็ตาม รีพับลิกันยังคงครองที่นั่งส่วนใหญ่ในสภนิติบัญญํติของรัฐ พรรคเดโแมครตมีความแข็งแกร่งในเมืองรีโนและสปาร์กส์ ในขณะที่เมืองอื่นๆ นั้นเป็นพรรครีพับลิกันมากกวามาก

         มณฑลนี้ถุกปกครองโดยคณะกรรมมาธิการเทศมณฑลที่ได้รับการเลือกตังห้าคนและผุ้จัอการเทศมณฑลที่ได้รับการแต่งตั้ง คณะกรรมาธิการจะดำรงตำแหน่งแบบสลับกันครั้งละสี่ปี โดยสามคนได้รับการเลือกตั้งในระกว่างการเลือกตั้งกลางเทอม และสองคนได้รับการเลือกตั้งในระกว่าง การเลือกตั้ง ประธานาธิบดี

         ใน บรรดารัฐที่เป็นสมารรภุมิการเลือกตั้งประะานาะิบดีเหนวาดามีคะแนนเสียงเลือกตั้งน้อยที่สุด โดยมี 6 คะแนน แต่ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา รัฐนี้ก็มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดใน 4 จาก 6 คร้้งหลังสุด ผุ้ชนะในเนวาดามีคคะแนนเหนือกว่าผุ้แพ้ 2-3 % แม้ว่าอดีตประธาาธิบดีบารัค โอบามาจะชนะเนวาดาด้วยคะแนน 12และ 6 คะแนนในการแข่งขัน 2 ครังของเขาในปี 2008 และ 2012

          เขตคลากร์ ซึ่งรวมถึงลาสเวกันและบริเวณโดยรอบ เป็นที่อยุ่อาศัยของประชากรเกือบสามในสี่ของเนวาดา ส่วนเขตวอโช ซึ่งรวมถึงริโน เป็นที่อยุ่อาศัยของประชากรน้อยกว่า 16% ของแนวาดา แตถือเป็นกลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่สำคัญ เนื่องจากเขตวอโชมักทำหน้าที่เป็นตัวตัดสินระหว่างคลากร์กซึ่งเป็นฐานที่มั่นของเดโมแครต และพื้นที่ประมาณ 10% ของรัฐที่ตั้งอยุ่ในเขตที่มีพรรครีพัลลิกันหนุหนหลังจำนวนมาก ซึงเรียกว่า "ชนบท" 

 เดวิด ดามอร์ นักวิทยาศาสตร์การเมืองจากมหาวิทยาลัยเนวาดา ลาสเวกัน กล่าวว่า "ทุกพท้นที่ที่พรรครีับลิกันได้มาในคลาร์ก พวกเขาก็สูญเสียไปในวอโช" หลังจากที่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ชนะในเนวาดาทั้ง 2 ครั้ง ลงสมัคร พรรคเดโแมครตก็ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี 4 ครั้งติดต่อกัน การเคลื่อนไหวเพื่อชิงเสียงจากเดโมแครตอยุ่เกือบตลอดเวลา แต่ก็ใกล้เคียงพอที่จะทำให้ความหวังของพรรครีพับลิกันยังคงอยู่

      เจเรมี่ เกลแมน นักวิทยาศาสตร์การเมือง จากมหาวิทยาลัยเนวาด รีโน กล่าวว่า "วอโช เป็นผุ้นำ เป็นมณฑลที่มีคะแนนนิยมสูงวเพียงแห่งเดียวในรัฐการชนะการเลือกตั้งมักเป็นลางบอกเหตุของชัยชนะ เพราะการเปลี่ยนแปลงของ วอโชสะท้อนถึงการเมืองในระดับรัฐโดยทั่วไป" 

         ประมาณ 55% ของประชากร วอโช เคาน์ตี้ อาศัยอยุ่ในเมือง รีโน ซึ่งมีประชากร 275,000 คน ทำให้เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ รองจากเมือง ลาวเวกัส และ เฮนเดอร์สัน ซึ่งเป็นชานเมืองของ ลาสเวกัน เมืองี่ใหญ่เป็นอันดับสองของ วอโซ เคาน์ตี้ คือ สปาร์ค ซึ่งมีประชากร กว่าแสนคน วอโช เคาน์ตี้ เป็นเมืองขนาดใหญ่มีเนื่อทีีมรกกว่า 6,300 ตารางไมล์ แต่ประชากรส่วนใหญ่กระจุกตัวอยุ่ในพื้นที่ทางตอนใต้ของมณฑล ใกล้กับทะเบสาบ ทาโฮ พื้นที่ยาวที่ทอดยาวจากทางเหนือไปจนถึง ชายแดนของรัฐ โอเรกอน แทบไม่มีประชากรอาศัยอยู่เลย

        ทศวรรษที่ 20 เมืองรีโนเป็นที่รู้จักในระดับประเทศในฐานะสถานที่สำหรับการแต่งงานและการหย่าร้างอย่างรวดเร็ว ผรวมถึงสภานที่สำหรับซ่องโสเภ-ณีที่ถูกกฎหมายในบางครั้ง) และเช่นเดียวกันในเขตคลาร์ก คาสิดนเป็นส่วนสำคัญของเศราฐกิจของ วอโช แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คาสิโนจะมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลนยีขั้นสูงมากขึ้นเรื่อยๆ เทศลาได้สร้าง โรงงานกิกะแฟคทอรี" ในเขตวอโชเพื่อผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบส่งกำลังของรถยนต์ และแบตเตอรี่ ตั้งแต่นั้นมา บริษัทที่เกี่ยวข้องกันบวิศวกรรมอื่นๆ ก็ได้ย้ายมาตั้งถ่ินฐานมรบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากงานในท้องถ่ินที่ต้องกใช้วุฒิปริญญาตรีทำให้ตำแหน่งงานด้านการบริการในคาสิโนถุกเบียดเบียนไป ทำให้ วอโช เคาน์ตี้ มีพรรคเดโแมครตมากขั้นเรื่อยๆ  ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบทั่วประเทศที่ผุ้มีสิทธเิลือกตั้งที่มีการศึกษาสูงกว่าจะลงคะแนนในเดโมแครต ใน วอโช ประชากร 32.5% มีวุฒิปริญญาตรี ซึ่งสูงกว่าอัตรา 26.4% ของ คลาร์ค เคาน์ตี้ อย่างเห็นได้ชัด "กิกะแฟคทอรี่ จ้างคนงานสายการผลิต แต่ก็มีวิศวกรจำนวนมากเช่นกัน" เกลแมนกล่าว

        วอโช มีประชากรที่เป็นคนผิวดำในสัดส่วนที่น้อยกว่า (3%) ทั้งในรัฐเนวาดา (11%)  และใสนสหรัฐฯ โดยรวม(เกือบ 14%  แต่ใน วอโช มีประชากรที่เป็นชาวฮิสแปนิกมากกว่าหนึ่งในสี่ รายได้เฉลี่ยและมูลค่า

บ้านสูงกว่าระดับที่ทั้งรัฐเนวาดาและสหรัฐฯ และความยากจนก็มีน้อยกว่า

        การเลือกตั้งประธานาธิบดี วอโช เคาน์ตี้ มีความผันผวนอย่างมาก ในปี 2000 และ 2004 และ 2012 ก็สนับสนุน โอบามา ด้วยคะแนน 12.4 คะแนน แต่ในยุคของ ทรัมป์ มณฑลนี้มีแนวโน้มไปทางเดโมแครตมากขึ้น ในปี 2016 ฮิลลารี คลินตันเอชนะ ทรัมป์ในมณฑลนี้ด้วยคะแนน 1% ในขณะที 4 ปีต่อมาไบเดนชนะด้วยคะแนน 5 คะแนน "ในช่วงไม่กีทศวรรษที่ผ่นมา วอโช ได้ย้ายจากเขตที่เป็นสีแดงไปเป็นเขตสีท่วง" เกลแมนกล่าว

       นอกจากนี้ วอโชยังมีบทบาทสำคัญในการเลือกตังกลางเทอม ในปี 2022 ในการแข่งขันชิงตำแหน่งวุฒิสภาในปีนั้น แคทเทอร์ริน คลอเทจ ผุ้ดำรงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครตสามารถยกเครดิตการได้รับเลือกตั้งอีกครังของเธอให้กับเทศมณฑลได้ โดยเธอชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 8,600 คะแนน ซึ่งมากกว่าคะแนนเสียงที่ห่างกันทั่วท้งรัฐซึ่งอยุ่ที่ประมาณ 7,900 คะแนน

        ในการเลือกตั้งผุ้ว่าการรัฐ สตีฟ ชิโซแลก ผุ้ดำรงตำแหน่งจากเดโมแครต ชนะการเลือกตั้งในเขตด้วยคะแนนเกือบ 2,800 คะแนน ถึงแม้ว่าเขาจะแพ้รัฐให้กับ โจลอมบาร์โด ผุ้ท้าชิงจากรีพับลิกัน ด้วยคะแนนมากกว่า 15,000 คะแนนก็ตาม

       เกลแมน คาดว่า จได้เห็นการหาเสียง "แบบชาตินิยมสูง" แม้ว่าประวัติศาสตร์ของเนวาดาทีเศราฐกิจเฟื่องฟูและตกต่ำจะชี้ให้เห็นว่าเศราฐกิจอาจเป็นปัญหาที่ร้ายแรงเป็นพิเศษในปีนี้ 

         ในวอโช ความก้าวหน้าล่าสุดในเศรษฐกิจด้านเทคโนโลยีทำให้ "ชาวเดโมแครตที่มีการศึกษาศึกษาระดับอุดมศึกษามีบทบาทสำคัญมากขึ้น " เกลแมน กล่าว "เนวาดาไม่ใช้รัฐที่เคร่งศาสนา ดังนั้นปัญหที่กระตุ้นให้กลุ่มขวาที่เคร่งศาสนาไม่ได้รับความสนใจมากนักที่นี่" และคลากณ์เคานตี้  คือมณฑล ซึ่่งพรรคเดโแมครตต้องรวบรวมคะแนนเสียงให้มากพอที่จะบลล้างระดับกาาสนับสนุนที่สูงอย่างมากของรีพับลิกันใน "ชนบท" ที่มีประชากรเบาบาง

         https://www.usnews.com/news/elections/articles/why-it-matters-washoe-county-nevada-and-the-presidential-election

        https://en.wikipedia.org/wiki/Washoe_County,_Nevada