วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557

habit

      วิเคราะห์ลักษณะอุปนิสัยของคนไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ โดย รองศาสตราจารย์ วิรัช วิรัชนิภาวรรณ
- เชื่อเรื่องเวรกรรม ทำให้คนไทยปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเวรตามกรรม "แล้วแต่เวรแต่กรรม" โดยปล่อยตัวตาสบาย ไม่มีชีิวิตจิตใจ ไม่มุมานะดิ้นรนต่อสู้ ไม่ทะเยอทะยาน และไม่เข้ามาร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม จึงเป้นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศในแง่ที่ทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะความรู้ควยามสามารถของคนไทยไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
- ถ่อมตัวและยอมนับชนชั้นในสังคม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องว่างระหว่างชนชั้นในสังคม และมีส่วนทไใ้ผู้มีอำนาจและประชาชนใกล้ชิดกันน้อยลงผู้ปกครองหรือผู้มีอำนาจที่ขาดคุณธรรมอาจ "เหลิงอำนาจ" และเข้าใจตนผิด
- ยึดถืออุปถัมภ์ การพึ่งพาอาศัยกันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการอยู่ร่วมกันในสังคมแต่หากมากเกินไปจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา
- ไม่ยอมรับคนที่มีอายุเท่ากันหรือต่ำกว่า ซึ่งสืบเนื่องมาจากระบบอุปถัมภ์มีส่วนให้คนไทยยกย่องเฉพาะผู้มีอาวุโสกว่าตนเป็นส่วนมาก แนวคิดที่ยอมรับคนที่มีอายุเท่ากันหรือต่ำกว่ามีแนวโน้มที่จะปรากฎให้เห็นในสังคมหรือในประเทศที่ให้ความสำคัญกับระบบเลือกตั้ง ความมีอาวุโสน้อยจะถูกนำมากล่วอ้างและถูกกีดกันโดยผู้มีอาวุโสมากกว่า
- พึ่งพาพึ่งพิงคนอื่น คนไทยติดนิสัยต้องคอยพึ่งผู้อื่น  มีความรู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่แน่ไม่นอนและเชื่อว่าตนเองไม่อาจกำหนดชะตาชีวิตของตนเองและครอบครัวได้ จึงทำให้คนไทยต้องหาหลักประกันที่มั่นคงกว่าหรือเชื่อว่ามั่นคงกว่า ด้วยการไปพึ่งพาพึ่งพิงคนอื่น และ หรือ สิ่งอื่นที่มีตัวตน เช่น ผู้อุปถัมภ์และผุ้นำ สำหรับสิ่งที่ไม่มีตัวตน เช่น ผีสาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่มีอำนาจเหนือมนุษย์..
- ไม่รู้จักประมาณ ความพยายามรักษาหน้าตาหรือชื่อเสียงเกียติยศทำนอง "หน้าใหญ่ใจโต" หรืออาการ ไจมไม่ลง" ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ
- รักอิสระเสรี รักความเป็นไท ดังคำกล่าวที่ว่า "ทำได้ตามใจคือไทยแท้" อันทำให้ขาดระเบียบลวินัย ส่งผลต่อการพัฒนา
- ไม่ชอบค้าขาย คนไทยมีคำกล่าวที่ว่า "สิบพ่อค้าไม่เท่าหนั่งพระยาเลี่่้ยง" ซึ่งปัจจุบันนี้ประเทศไทยนักธุรกิจเข้ามามีบทบาทในประเทศมากขึ้น แต่อุปนิสัยคนไทยก็ยังเป็นเช่นเดิม
- เอาตัวรอดโยนความผิดให้คนอื่น ดังปรากฎในเรื่องศรีธนชัย
- ไม่ชอบรวมกลุ่มและขาดการร่วมมือประสานงาน มีลักษณะชอบ "ฉายเดี่ยว"
- ขาดการวางแผน คนไทยขาดการวางแผนอย่างเป็นทางการ
- ถ้วย ขวด กลอง มีลักษณะอุปนิสัย ชอบการพนัน เหล้า และความสนุกสนาน
- เกียจคร้าน ไม่ชอบทำงานหนัก ขาดความมุมานะ อดทน การทำงานของคนไทยเข้าทำนอง "หลีกเลี่ยงงานหนักคอยสมัครงานสบาย"
- ไม่ชอบการเปลียนแปลง และยังมีนิสัยต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
     ส่วนหนึ่งจากทั้งหมด 30 อุปนิสัยคนไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา
     นักคิดชาวเยอรมัน จอร์จ เจลิงเนค  แบ่งองค์ประกอบอันเป็นสาระสำคัญของรัฐออกเป็น 3 ประการ คือ ราษฎร อาณาเขต และอำนาจรัฐ  บรรดาทั้ง 3 นี้ พลเมืองและดินแดนเป็นองค์ประกอบในทางข้อเท็จจริงตามธรรมชาติ แต่ราษฎเป็นเพียงองค์ประกอบเดียวที่มมีชีวิตจิตใจและเป็นองค์ประกอบสำคญในการบำรุงรักษาดินแดนและอำนาจรัฐให้คงอยู่ เจริญหรือเสื่อม ดังนั้นในบรรดาองค์ประกอบของรัฐทั้ง 3 ประการนั้น องค์ประกอบที่ต้องพัฒนาคือราษฎร
      อุปนิสัยต่างๆที่จะส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศ..(จากธรรมนิพนธ์หลายเรื่องของพระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ. ปยุตฺโต)
- ความเห็นแก่เสพ แต่ไม่คิดสร้าง ความปรารถนาที่จะบำรุงตน ความอยากได้อยากเอา เพื่อบำรุงบำะรอผลประโยชน์
- ความถือตัว ความสำคัญตนว่าเป็ฯนันเป็นนี้ ถือสูงถือต่ำ ยิ่งใหญ่เท่าเี่ยมหรือด้อยกว่าผู้อ่ืน ความอยากเด่นอยากยกชูตนให้ยิ่งใหญ่ อันให้คพนึกที่จะแบ่งแยกเราเขา ...
- ความคิดเห็น ความเชื่อถือ ลัทธิ ทฤษฎี อุดมการณ์ต่างๆ ที่ยึดถือไว้ดดยงมงายหรือโดยอาการเชิดชูว่าอย่างนี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นเท็จทั้งนั้น เป็นต้น..
      การจะปฏิรูปทั้งโครงสร้างทางกายภาพและปรับแก้ได้ถึงรากโคนของอุปนิสัยอันเป็นที่มาของพฟติกรรมต่างๆ ที่แสดงออกภายนอก ดังส่ิงที่ยกมาเป็นตัวอย่างโดยสังเขป ย่อมนำมาซึ่งความเจริญของประเทศ สรุปได้ว่าสังคมไทยยอมเป็นตามการกระทำ(กรรม)ของคนไทย....

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

to results to reason...to traget

       ประเทศไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ New Industrialized Countries : NIC เป็นประเภทการจำแนกประเทศโดยนักรัฐศาสตร์และนักเศรษฐศาสตร์ เป็นประเทศทีมีสถานะทางเศรษฐกิจยังไม่เทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ถือว่มีสถานะดีกว่าประเทศใกล้เคียงในทางเศาษฐศาสตร์มหภาค และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยมีตัวบ่งชี้ที่สำคัญคือ การพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมในระยะแรกเร่ิมและมีการพัฒนาต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ในบางประเทศมีการอพยพของประชากรจากชนบทหรือภาคเกษตรกรรมเข้าสู่เมืองใหญ่
     ลักษณะประเทศอุตสาหกรรมใหม่ จะมีลักษณะคือประชากรมีสิทธิและเสรีภาพมากขึ้น เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงจากภาคเกษตรกรรมไปเป็นภาคอุตสา โดยเฉพาะภาคการผลิต เศรษฐกิจตลาดเสรีเพิ่มมากขึ้น มีการค้าเสรีกับชาติอื่นๆ มีองค์กรขนาดใหญ่ของชาติดำเนินงานอยู่ในหลายภูมิภาคของโลก มีการลงทุนจากต่างประเทศมาก มีความเป็นผู้นำทางการเมืองภายในภูมิภาค ประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วย ประเทศมาเลเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ส่วนสิงคโปร์เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
      ประเทศไทยเป็นประเทศที่ดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจระบบเปิดมีการค้าติดต่อกันกับต่างประเทศมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงสุโขทัย..มีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับประเทศในเอเซียด้วยกันคือ สิ่งคโปร์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และฮ่องกง ในระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประเทศต้องนำเข้สินค้าประเภททุน เช่น เครื่องจักร เครื่องยนต์ และสินค้าประเภทกึ่งวัตถุดิบ และวัตถุดิบ อาทิ โลหะ เคมีภัณฑ์ กระดาษและเยื้อกระดาษ สินค้าออกของไทย ในระยะ 30 ปีที่ผ่านมาสินค้าอกของไทยมีมูบค่าเพ่ิมขึ้น 60 เท่าตัว เมื่อเริ่มแผนพัฒนาฉบับที่ 1 สินค้าออำประเภทผลิตผลเกษตรกรรมจะมีสัดส่วนค่อยช้องสูงในช่วงต้นๆ ของแผนพัฒนาฯ แต่ภายหลังรัฐบาลได้ส่งเสริมสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าอุตสาหกรรมทีสัดส่วนการส่งออกสูงกว่าสินค้าเกษตรกรรม
      แม้ประเทศไทยจะประสบปัญหาการขาดดุลการค้ากับต่างประเทศติดต่อกันโดยตลอด แต่ในด้านความเชื่อถือทางการเงินระหว่างประเทศ เงินบาทของประเทศไทยก็ได้ชื่อว่มีความมั่นคง เนื่องจากดุลการชำระเงินของไทยเกินดุลทุกปี สาเหตุสำคัญที่ทำให้ดุลชำระเงินของประเทศไทยเกินดุลคือมีการเคลื่อนย้ายเงินตราต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทยจึงผูกพันเข้ากับระบบการค้าโลกอย่างเหนียวแน่น ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็นประเทศสมาชิกในช้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ของการรวมกลุ่มคล้ายกับการรวมกลุ่มของประเทศในภูมิภาคอื่นๆ คือ การยกเลิกกำแพงภาษีที่มีระหว่างประเทศสามชิก และกำหนดมาตรการทางเศรษฐกิจอื่น ร่วมกัน ข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและสินค้า GATT ซึ่งเป็นองค์กรที่เีก่ยวข้องกับการปฏิบัติทางการค้าของโลก ซึ่งประเทไทยมีพันธะสัญญาที่จะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงเหล่านนั้น แต่ละประเทศต่างรวมตัวกันเป็นเขตเศาษฐกิจในลักษณะต่าง กันประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะดำเนเนการเฉพาะภายในกลุ่มในขณะเดียวกันก็มีนโยบายกีดกันสินค้าจากภายนอกกลุ่ม ทำให้เป็นการยากที่ประเทศไทยจะหาตลาดทางการค้า ประเทศไทยจึงต้องดำเนินนโยบายทางการค้าโดยการเจรจาทางการค้ากับประเทศคู่ค้าดดยตรงเพื่อรักษาตลาดทางการค้า ในขณะเดียวกันก็พยายามหาทางขยายตลาดไปสู่ภูมิภาคที่ยังมีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยแข้มแข็งนัก
    
     ประเด็นปัญหาการพัฒนาประชาธิปไตยไทย
     ปัญหาจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ในการยึดอำนาจครั้งนี้พื้นฐานขแงวิธีคิดและการใช้วิธีการเป็นการขัดแย้งกับประชาธิปไตย ที่เกิดจาัฒนธรรมอำนาจนิยม ทั้งนี้ทั้งผู้ยึดอำนาจและผู้ถูกยึดอำนาจในครั้งนี้จึงมีทั้งด้านที่ถูกและด้านที่ผิดประชาธิปไตยที่ได้มาโดยการกำลังหรือโดยการซื้อมาล้วนสร้างปัญหาต่อกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยทั้งส้ิน แม้ว่าอาจจะมีมิติของปัญหาแตกต่างกัน ก็ตาม
     วงจรอุบาทว์ วงจรความขัดแย้งทางอำนาจ อิทธิพล และผลประโยชน์ระหว่งชนชั้นนำทางการเมืองสองกลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มที่กำลังอำนาจและควบคุมบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มธุรกิจนายทุนที่ถือเงินทุน และฐานรากกลุ่มการเมืองใต้อุปถัมภ์ โดยประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีส่วนร่วมตัดสินใจในการเลือกวิธีการแก้ปัญหา จากพื้นฐานความอ่อนแอของวัฒนธรรมประชาธิปไตยของสังคม ประกอบกับการให้คุณค่ากับการเมืองของ "เจ้านาย" หรือชนชั้นนำ ตามพื้นฐานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมศักดินาและระบบอุปถัมภ์ คนไทยจำนวนไม่น้อยจึงพอใจเพียงการเลือกฝ่ายทางการเมืองหรือกลุ่มชนชั้นนำ โดยไม่ได้ยึดถอืความศรัทธาหลักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
     ปัญหาการขาดดุลยภาพระหว่างแนวคิดและสถาบันทางการเมืองแบบเก่ากับใหม่ กล่าวคือ ระหว่างแนวคิดและสถาบันอำมาตยาธิปไตยกับสถาบันการเมืองประชาธิปไตย ที่พยายามสร้างขึ้นมาตั้งแต่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งหากหาดุลภาพทีเหมาะสมของสองแนวคิดนี้จะเป็นการสะสางปัญหาการขาดการพัฒนาและปัญหาการเมืองในไทยได้เป็นอย่างดี
     AEC Asean Economics Community คือการรวมตัวของชาติในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ 10 ประเทศ อันประกอบด้วย ไทย พม่า ลาว เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา บรูไน เพื่อที่จะให้มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วกัน รูปแบบคล้าย กลุ่ม Euro Zone
      การเปรียนแปลงที่จะตามมา คือ การลงทุนจะเสรีอย่างมาก ใครจะลงทุนที่ไหนก็ได้ ไทยจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และการบิน เพราะเป็นศูนย์กลางทางภูมิภาค การค้าขายจะขยายตัวอย่างน้อย ยี่สิบห้าเปอร์เซนต์ ภาษาอังกฤษจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นเป็นอย่างมาก...หากไม่มีการวางแผนที่ดีปัญหาสังคมจะรุนแรงมาก
      ระบบการขนส่งใน AEC จะส่งผลดีต่อประเทศไทยเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลางของอาเซียน
      ความพร้อมของภาคเอกชนไทยที่กำลังก้าวสู่การแข่งขันบนเวทีโลกเพื่อรับโอกาสและศักยภาพที่กลุ่มอาเซียนมีอยู่ เพราะประเทศไทยมีความคุ้นเคยและพอใจกับคำว่าแค่นี้ แต่ในเศรษฐกิจยุคโลกาภิวัตน์เป็นสิ่งที่สามารถให้ธุรกิจไปโตในต่างประเทศได้ อย่างที่สิงโปร์และญี่ปุ่นเป็น และมาเลเซียกำลังเริ่มเข้าสู่การเปลี่นแปลงครั้งนี้ เห็นได้จากการลงทุนของกลุ่มซีไอเอ็บี จากมาเลเซียที่เข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเซียมากขึ้น
     ผลกระทบจาก เออีซีต่อผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือ sme ของไทยประกอบด้วย
     เชิงบวก ขยายช่องทางและโอกาสของสินค้าไทยในการเข้าถึงตลาด อาเซียนซึ่งประกอบด้วยประชากรกว่า หกร้อยล้านคน รวมถึงการใช้อาเซียนเป็นฐานในการส่งออกไปยัง อาเซียน + สาม (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี) และอาเซียน + หก (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย)
     โอกาสในการเพ่อมพูนการค้าระหวางประเทศสามาชิกอาเซีนเนื่องจากประเทศสมาชิกต้องยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี
      ลดต้นทุนการผลิตจากการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่ใช้ในการผลิตได้ในระาคาต่ำลง และเพ่มทางเลือกให้ผู้ผลิต สามารถนำเข้าได้จากหลายแหล่งมากขึ้น
      ผู้บริโภคได้รับประโยชน์
      เชิงลบ คู่แข่งและสภาพการแข่งในตลาดเพิ่มสูงขึ้น
      สินค้าที่ไม่ได้มาตฐาน คุณภาพต่ำเข้ามาขายในประเทศมากขึ้นหากไม่มีมาตรการป้องกัน
      จากการสำรวจพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหย๋คาดการณ์ว่า เออีซี จะส่งผลกระทบทางบวกต่อกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างแลเครื่องใช้ในบ้าน กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็ทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและยา นกอจานี้น ยังส่งผลกระทบทางบวกต่อกิจการขนาดใหญ่และกิจการที่มีการส่งออกและการนำเข้า
    

composition

     นักโบราณคดีชาวฮอลันดา ดร. เอช. อาร์. แวน ฮิงเกอิรนได้ขุดค้นพบเครื่องมือหินเทะซึ่งทำขึ้นโดยมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์บริเวณใกล้สถานีบ้านเก่า จ.กาญจนบุรี ดดยมีข้อสันนิษฐานว่ามนุษย์เหล่านี้อาจเป็นมนุษย์ชวาและมนุษย์ปักกิ่ง ซึ่งอยู่อาศัยเมื่อประมาณห้าแสนปีมาแล้ว อันเป็นหลักฐานในยุคหินเก่า
     ในประเทศไทยพบหลักฐานของมนุษย์ยุคหินกลางในหลายจังหวัดโดยที่อำเภอไทรโค ได้ขุดค้นพบเครื่องมือหินและโครงกระดูกจึงทำให้สันนิษฐานว่าดินแดนซึ่งแม่น้ำหลองไหลผ่านได้มีมนุษย์อยู่อาศัยมานานกว่า 20,000 ปี ส่วนเครื่องปั้นดินเผาที่เก่าที่สุดในประเทศไทย อายุเกือบพันปี ถูกค้นพบที่แม่ฮ่องสอนจึงทำให้เกิดแนวคิดที่ว่าเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เป็นถิ่นกำเนิดของการกสิกรรมครั้งแรกของโลกนอกจานี้ยังค้นพบขวามหินขัดในหลายถาคของประเทศไทย ซึ่งเป็นหลักฐานของมนุษย์ยุคหินมหท่
     จากหลักฐานด้านโบราณคดี ตำนาน นิทานพื้บ้าน บันทึกราชการของจีนและบันทุกของพระภิกษุจีนในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในพุทธศตวรรษที่ 12 ทำให้ทราบว่ามีอารยธรรมมนุษย์ได้สถาปนาอำนาในประเทศไทยเป็นเวลานานแล้วโดยอาณาจักรโบราณในอินแดนประเทศไทยปัจจุบัน....

     ประเทศไทยมีพื้นที่ 513,115 ตารางกิโลเมตรตั้งอยุ่ใจกลางคาบสมุทรอินโดจีนในเอเซียตะวันออกเฉฉียงใต้ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศมีอิทธิพลต่อสังคมและวัฒนธรรมไทย ประเทศไทยยังเป็นทางบกทางเดียวที่ติดต่อกับมาเลเซียและสิงคโปร์ ด้วยสภาพพื้นที่ราบซึงน้ำท่วมถึงอันอุดมสมบูรณืและภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อนทำให้ประเทศไทยมีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเกษตรกรรมการทำนา และดึงดูดผู้ตั้งถิ่นฐานมายังใจกลางดินแดนมากกว่าพื้นที่สูงและภูเขาในภาคเหนือและที่ราบสูงโคราชในทางตะวันออกเฉียงเหนือใจคริสต์ศตวรรษที่ 12 รัฐจำนวนหนึ่งซึ่งติดต่อกันอย่างหลวมๆโดยการปลูกข้าวและการค้าได้เกิดขึ้นในแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนเริ่มตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 รัฐเหล่านี้ค่อย ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอาณาจักรอยุธยา ซึ่งตั้งอยู่ใต้สุดของที่ราบลุ่มแห่งนี้ เมืองหลวงในอดคตของไทยซึ่งตั้งอยู่บนหลายจุดตามแม่น้ำ
เจ้าพระยากลายมาเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรคนไทยซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนการปลูกข้าวและการค้าระหว่างประเทศไม่เหมือนกับเืพ่อบ้าน ชาวเขมรและขาวพม่าไทยได้มุ่งหน้าค้าขายกับเมืองท่าต่างชาติโดยอาศัยอ่าวไทยและทะเลอันดามัน...
      ประเทศไทยมีลักษณะคล้ายขวาน โดยภาคใต้เป็นด้ามขวาน แนวด้านตะวันตกเป็นสันขวานภาคเหนือเป็นหัวขวาน ภาคตะวันออกเฉพียงเหนือและภาคตะวันออกเป็นคมขวาน จากลักษณะดังกว่าความยาวจาเหนือสุดถึงใต้สุด วัดจาอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายถึงอำเภอเบตง จังหวัดยะลามีความยาว 1,650 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างสุดจาตะวันออกไปตะวันตก วัดจาอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ไปยังอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตร บริเวณแผ่นดินส่วนที่แคบที่สุดของประเทศต้งอยู่ระหว่างแนวชายแดนกัมพูชากับพื้นที่บ้านโขดทราย ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด มีระยะเพียง 450 เมตร และส่วนพื้นที่ย้านวังก์ด้วน ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วัดจากชายแดนประเทศพม่าจนถึงทะเลอ่าวไทย มีระยะยทาง 10.6 กิโลเมตร สำหรับส่วนที่แคบทีสุดของแหลมมลายู อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดชุมพรและระนองมีระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร เรียก่วนนี้ว่า "คอคอดกระ"
    
     โครงสร้างสังคมไทย  
      - กลุ่มต่าง ที่อยู่ร่วมกันในสังคมไทย
          ครอบครัวไทย มีลักษณะเป็นครอบครัวขยายประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็นประชากรไทย จำนวนครัวเรือนในสังคมไทยมีทั้งสิ้นประมาณ 11.3 ล้านครัวเรือน มีจำนวนสมาชิกโดยเฉลี่ยครัวเรอนละ 4.99 คน และมีแนวโน้มว่า จำนวนสมาชิกเฉลี่ยในแต่ละครัวเรือนจะลดลง ทั้งนี้เนื่องจากนโยบายควบคุมขนาดประชากรของรัฐ
          - ชุมชน คือ กลุ่มครอบครัวซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ในท้องถิ่นเดียวกัน มีวัฒนธรรมและกิจกรรมบางประการร่วมกันเพื่อสนองความต้องการของสมาชิก และเพื่อแก้ปัญหาในการดำเนินชัวิตประจำวันร่วมกันชุมชนในสังคมไทยมี 2 ประเภอ คือ ชุมชนชนบทและชุมชนเมืองซึ่งมีลักษณะเปรียบเทียบได้คือ
      ชุมชนชนบท มีประชากรจำนวนมากแต่อยุ่กระจัดกระจายเป็นชุมชนเล็ก สถาบันการศึกษามีไม่มากนักรายได้ยังน้อย มีอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เป้นการปกอรงส่วนภูมิภาค มีส่วนร่วมทางการเมืองน้อย สถาบันศาสราสำคัญมากของชุมชนบทไทยมีศรัทธาในศาสนาเคร่งครัด มีความสัมพันธ์เป็นแบบส่วนตัวแลกันเองเป็นไปตามประเพณี มีการเปลี่ยนแปลงช้าและมีปัญหาสังคมน้อย
       ชุมชนเมือง ประชากรมีเป็นจำนวนมากและอยู่กันอย่างหนาแน่นมักเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาที่สำคัญ เศรษฐกิจ มีรายได้รายจ่ายสูง เป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจและมีอาชีพหลากหลาย เป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองของประเทศเป็นศูนย์รวมของศาสนาและความเชื่อ แต่ระดับความศรัทธาในศาสนาไม่สูง มีความสัมพันธ์แบบทางการ ยึดถือประโยชน์เป็นเกฑณ์ มีการเปลี่นแปลงรวดเร็ซและมีปํยหาสังคมมาก
           - ชาติพันธ์ต่างๆ ในสังคมไทย นอกจากสังคมไทยจะประกอบไปด้วยชนเช้อชาติไทย ซึ่งเป็นสมาชิกส่วนใหญ่ของสังคมแล้ว ยังประกอบไปด้วยชนชาติพันธ์ุือ่นๆ ซึ่งดำรงชีวิตอยุ่ร่วมในสังคมไทยดัวยกัน เช่น ชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นต้น
     ค่านิยมทางสังคมไทย ได้มาจากศษสนาพุทธ ปะปนกับศาสนาพราหมณ์ ระบบศักดินา เช่น การนับถือเจ้านาย ยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นต้น จากระบบสังคมเกษตร เช่น ความเฉื่อย ขาดความกระตือรือร้น ยึดตัวบุคคล ความเชื่อในอำนาจศักดิ์สิทธิ์โชคลาภ
     ปัญหาสังคมไทยมีลักษณะ คือ ปัญหาความยากจน ปัญหารสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมในสังคมไทย ปัญหายาเสพติด ปัญหาโรคเอดส์  ปัญหาอาชญากรรม  ปัญหาสุขภาพอนามัย ปัญหาการฉ้อราษฎรบังหลวง ปัญหาโสเภณี เป็นต้น
   
      เศรษฐกิจไทย เป็นประเทศอุตสาหกรรมใม่ ที่พึงพาการส่งออกเป็นหลัก โดยมีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นสองในสามของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแป่งชาติ รายงานว่า ประเทศไทยมีจีดีพี 11.375 ล้านล้านบาท เศรษฐกิจไทยเติบโต 6.5% โดยมีอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 3.02%
      ประเทศไทยมีเศรษฐกิจใหญที่สุดเป็นอันดับสองในเอเซียตะวันออกเฉพียงใต้ รองจากประเทศอินโดนีเซีย ทว่าจีดีพีต่อหัวในปี 2555 ค่อนข้องต่ำ ในเอเซียตะวันออกเฉพีงใต้ ประเทศไทยจัดว่ามีจีดีพีต่อหัวกลาง  รองจากประเทศสิงคโปร์ บรูไนและมาเลเซีย ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 ประเทศไทยถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศ 171,200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ มากเป็นอันดับสองในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้(รองจากประเทศสิ่งคโปร์) ประเทศไทยยังมีปริมาณการค้าต่างประเทศมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจาสิ่งคโปร์
       ธนาคารโลกกว่าถึงประเทศไทยว่าเป็น "หนึ่งในนิยายความสำเร็จการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" จากตัวชี้วัดทางสังคมและการพัฒนาแม้รายได้มวลรวมประชาชาิต ต่อหัวก่ำ และมีดัชนีการพัฒนามนุษย์ อยู่ในอันดับ 103 แต่ประชากรมีอยู่ตำ่กว่าเส้นความยากจน อัตรว่างงานของไทยอยู่ที่ 0.7% ซึ่งเป็นอันดับ สี่ของโลก

      การเมืองการปกครอง ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 โดยคณะณาษฎร ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นแบบประชาธิปไตย มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามบั่วคราว เมื่อวันที่ 27 มิถนายน ปีเดียวกัน ซึ่งเป็นัฐธรรมนูญฉบับแรก แม้จะเป็นกฎหมายที่ใช้ชั่วคราวก็ตาม
      ประเทศไทยมีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและทรงอยุ่ใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นหลักหรือกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2534 กำหนดไว้ว่า "องค์พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสัการะ ผู้ใดะละเมิดมิได้ จะหล่าวหาหรือฟ้องร้องใดๆ มิได้" ในระบอบประชาธิปไตยพระมหากษรัริข์จะทรงเป็นกลางทางการเมืองคือจะไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งโดยเฉพาะเมือใดบ้านเมืองมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น พระองค์จะทรงอยู่ในฐานะพระประมุข
       การบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำคณะรัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆ ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินจึงแบ่งการปกครองออเป็น 3 ส่วนคือ
        การปกครองส่วนกลาง มีลักษณะเป็นการรวบอำนาจได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงทบวง มีรัฐมนตรีเป็นผู้บริหาราชการแต่ละกระทรวงจะมีหน้าที่และความรับผิดชอบตามที่กำหนดไว้อย่างเป็นสัดส่วน อันจะทำให้แต่ละกระทรวงปฏิบัติภารกิจบังเกิดผล การบริหารงานแบ่งออกเป็นกรม กรมแบ่งเป็นกอง มีข้าราชการรับผิดขอบบริหารงานตามลำดับ
       การปกครองส่วนภูมิภาค เป็นการแบ่งอำนาจจากส่วนกลางเพื่อสร้างเอกภาพและความมั่นคงของประเทศ การบริหารงานแบ่งออกเป็นจังหวัดต่างๆ มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บริหารร่วมกับคณะกรรมการจังหวัด แต่ละจังหวัดแบ่งส่วนราชการออกเป็นอำเภอ มีข้าราชการคอยปกครองดูแล
       การปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นการกระจายอำนาจ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล และการปกครองแบบพิเศษ ได้แก่ กรุงเทพและเมืองพัทยา...

       กฎหมายไทย..ประเทศไทยคงความเป็นเอกราชมากว่าพันปี นับแต่ไทยมีการรวมกันเป็นหน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างเจ้านครในอดีต 3 พระองค์ อันได้แก่ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งอาณาจักรสุโขทัย ทพ่อขุนงำเมืองแห่งแคว้นพะเยา และพญามังรายแห่งอาณาจักรล้านนา มีการปกครองภายใต้กฎหมายอาทิ "มังรายศาสตร์" โดยมีการปครองแบบพระโอรสและเครอญาติไปปกครองตามหัวเมืองต่างๆ และเข้าใจว่ากฎหมายฉบับนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก กฎหมายธรรมศาสตร์ ของมอญ เป็นต่น เช่นเดียวกับการปกครองในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ซึ่งนับเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงและอาณาจักรสยามได้มีการปครองแบบพอ่ปกครองลูก โดยมีกฎหมายแรกที่ปรกกฏเป็นหลักฐายอยู่ในศิลาจารึกพ่อขุนรมคำแหง เรียกว่า กฎหมายสี่บท เป็นต้น
      สมัยกรุงศรีอยุทธยา ราชธานีที่สองของไทย พระมหากษรัิย์ในยุคนั้น ได้สร้า กฏหมายซึ่งเรียกว่าพระราชศาสตร์ไว้มากมาย พระราชศาสตร์เหล่านี้เมื่อเริ่มต้นได้อ้างถึงพระธรรมศาสตร์ฉบับของมนูเป็นแม่บทเรียกกันวว่า "มนูสาราจารย์" เป็นกฎหมายที่มีต้นกำเนินในอินเดีย เรียกว่าคำภีร์พระธรรมศาสตร์ ต่อมามอญได้เจริญและปกครองดินแดนแหลมทองมาก่อนได้แปลต้นฉบับคำภีร์ภาษาสันสกฤตมาเป็นภาษาบาลีเรียกว่ "คำภีร์ธรรมสัตถัม" และได้ดัดแปลงแห้ไขบทยัญญัติบยางเรื่องให้เมีความเมหาะสมกับชุมชนของตน ต่อจานั้นนักกฎหมายไทยในสมัยนั้นจึงนำคำภีร์ของมอญมาเป็นหลักในการบัญญัติกฎมหายของตน ลักษณะเป็นกฎหมายอาญาเป็นส่วนใหญ่ เชื่อกันว่าการออกกฎหมายในสัมยก่อนนั้น จะคงมีอยู่ในราชการเพียงสามฉบับเท่านั้น ได้แก่ ฉบับที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้งาน ฉบับให้ขุนนางข้าาชกรทั้งไปได้อ่นกัน หรือคัดลอกนำไปใช้ ฉบับสุดท้ายจะอยู่ที่ผุ้พิพากษา...
      กรุงธนบุรี ซึ่งส่วนใหญ่อ้างอิงจากกรุงศรีอยุธยา
      สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กฏหมายที่สำคัญ ได้แก่ "ตราสามดวง" ถือเป็นประมวลกฎหมายของแผ่นดินที่ไดรับการปรับปรุงให้มีความรัดกุม ยิตุธรรมทั้งทางแพ่งและอาญา นอกจาจะได้บรรจุพระธรรมศาสตร์ตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว ยังคงมีกฎหมายสำคัญๆ อีกหลายประการ
      ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้อยู่หัว ได้ทรงจัดวางระบบศาลขึ้นใหม่ และได้ให้ผู้เชียวชาญทางกฎหมายทั้งจากอังกฤษ ฝรั่งเศษ เบลเยี่ยม ญี่ปุ่น และลังกามาเป็นที่ปรึกษากฎมหาย และในสัมยนั้นพระราชโอรสของพระองค์ที่ได้ทรงให้ไปศึกษาด้านกฎหมายคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ก็ได้ร่วมกันแก้ไขชำระกฎหมายตราสามดวงเดิมขึ้นใหม่ และจัดพิมพ์ลงในหนังสือเป็นรูปเล่ม ขึ้นในชื่อ "กฎหมายราชบุรี" ... กระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงได้จัดทำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นบังคับใช้

       ความเป็นพลเมืองไทย การอยู่ร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยนั้น นอกจากจะมีสิทธิเสรีภาพแล้ว ส่ิงที่จะขชาดไม่ได้อีกประการคือ หน้าที่และความรับผิดชอบ ในสังคมประชาธิปไตยนอกจากได้กำหนดในเรื่องของสิทธิเสรีภาพไว้แล้ว ยังได้กำหนดหน้าที่ของประชาชไว้อีด้วย การที่ต้องกำหนดหน้าที่ของประชาชนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรัฐไว้เช่นนี้ก็เพื่อให้ประชาชนในระบอบประชธิปไตยได้เกิดความตระหนักวว่า ภายใต้การปกครองนี้ประชาชนจะต้องเสียลสละความรู้ความสามารถของตนเองเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและความเจริญก้าวหน้าของการปกครองระบอบประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้กำหนดหน้าที่สำคัญๆ อัน จะเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมของชนชาวไทยไว้ในหลายๆ ด้าน
              สังคมประชาธิปไตยจะพัฒนสได้นั้น จำเป็นต้องสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิไตยใให้เกิดขึ้นโดยประชาชน ต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่อง "พื้นฐานความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย" ที่ถูกต้อง เมื่อมีความรู้แล้ว จะต้องนำไปปฏิบัติให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตตามวิถีสังคมไทย

      วัฒนธรรมไทย คนไทยมีความสัมพันะ์กับพระพุทธศาสนามาเป็นเวลานานนับพันปีมาแล้ว พุทธ ศาสนิกชนทั้งหลายมีความรู้สึกเคารพศรัทธา พุทธศาสนราฝังรากลงในจิตใจของ คนไทยทั้งในอดีต ปัจจุบัน คนไทยจึงแสดงออกทางศิลปกรรมต่าง ดนตรีจะเป็นแนวเยือกเย็นตามแนวทางสันติของพุทธศาสรา  ความเชื่อที่พบอยู่ในสังคมไทยนับแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้แก่ เรื่อง ไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ ที่มีความใกล้ชิดซึ่งกันและกัน และใกล้ชิดกับชีวิตของคนไทยทั้งที่อยุ่ในสังคมดั้งเดิมและที่อยู่ในสังคมเมือง คนไทยมีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ความเชื่อที่รู้สึกเกรงขามหรือกลัวในส่ิงที่เข้าใจว่า อยุ่เหนือธรรมชาติหรือในส่ิงลึกลับ อันไม่สามารถจะทราบด้วยเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ และสิ่งนั้นอาจจะให้ดีหรือร้ายแก่ผู้ที่เชื่อถือก็ได้ และสท้อนออกมาในรูปแบบพิธีกรรมประกอบด้วยคาถาและเวทมนตรืเพื่อส่งผลดีต่อผู้ที่เชื่อถือ การเชื่อเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่ไม่นอนและไม่มั่นคงของสังคม
      ประเพณีไทย เอกลัษณ์ของประเพณีไทย ได้แก่การผสมผสานทั้งลัทธิ ผีสางเทวดา ศาสนาพราหมณ์ และศาสนาพุทธเข้าด้วยกัน 
      ประเพณีที่เกียวกับชีิวิต เช่น ประเพณีการเกิด เช่น การทำขวัญโกนผมไฟ พิธีลงอู่ ตั้งชื่อ ปูเปลเด็ก โกนจุกเป็นต้นประเพณีการบวช เช่นการบวชเณรเมื่อยังเป็นเด็ก และการบวชพระเมื่ออายุครบ 20 ของผู้ชายชาวไทยส่วนใหญ่ ประเพณีการแต่งงาน จะต้องเกิดขึ้นภายหลังเมื่อผู้ชายได้บวชเรียนแล้ว ประเพณีเกี่ยวกับการตาย ตามคติพุทธ ถือตามความจริงที่ว่าร่างกาย ประกอบด้วยธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ การเผาจึงเป็นส่ิงที่ดี
      ประเพณีเกี่ยวกับสังคม ประเพณีสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ประเพณีการทำบุญสารท ประเพณีลอยกระทง
      ประเพณีเกี่ยวกับศาสนา เช่นการทำบุญวันพระ และวันสำคัญทางศาสนา ประเพณีการทอดกฐิน ทอดผ้าป่า
     
      ลักษณะนิสัยคนไทย ความเชื่อมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตและเป็นตัวกำหนดการแสดงออกทางพฤติกรรมของคนในสังคมไทยมาตั้งแต่อดีต เมื่อคนมีความเชื่อย่างใดอย่างหนึ่ง อสจทำให้เกิดการกระทำหรือพฤติกรรมที่ตอบสนองความเชื่อนั้น  ๆแสดงในลักษณะข้อห้าม ข้อปฏิบัติ หรือค่านิยมในการดำนเนินชีวิตของคนในสังคมนั้นๆ
       บุคคลิกของคนไทยมีัลักษณะ คือ ไม่รักษาเวล ขาดความกระตือรือร้น ขาดระเยียบวินัย อยากรู้อยากเห็น รักพวกพ้อง ไม่ชอบเห็นคนอื่นดีกว่าตนหรือชอบจับผิดหรือตำหนิ เชื่อโชคลาง ตัดสินใจด้วยความรู้สึกมากกว่าเหตุผล ชอลต่อรอง ไม่กล้าเสี่ยงหรือไม่ชอบอะไรที่เสี่ยง แต่ก็ชอบพนันขันต่อ ชอบงานพิธีเป็นการทำเืพ่อเกี่ยรติหรือศักดิ์ศรี ขอบของแจกหรือของแถม  ขาดความอดทน ชอบทำอะไรตามใชอบ...ขี้เกรงใจ ลืมง่าย ยิ้มแย้มแจ่มใส ขี้เล่นและเป็นกัเอง สถภาพเรียบร้อย...
         จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจึงส่งผลให้ลักษณะนิสัยและการใช้ชีวิตของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย อิทธิพลของค่านิยมและวัฒนธรรมจากต่างประเทศที่แพร่กระจายเข้ามา ก่อให้เกิดการครอบงำทางสังคมวัฒนธรรมโดยผ่านทางข้อมูลข่าวสาร ซึ่งมีผลต่อความเชื่อ ค่านิยมร่วมถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป  ปัจจุบันเด็กไทยกำลังเผชิญกระแสวัฒนธรรมบริโภคที่เรียกว่า วัฒนธรรมกิน ดื่ม ช็อป ซึ่งพบว่าเด็กและเยาวชนไทย อายะ 5-14 ปี มีเงินซื้อขนมปีละ 161,580 ล้านบาท

     
    

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...