โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวีซาห์ แห่งอิหร่านเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ มาตั้งแต่การรัฐประารในอิหรานในปี 1953 ในช่วงหลายปีหลังการรัฐประหาร สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลืออิหร่านอย่างเต็มที่ ในขณะที่อิหร่รนเป็นแหล่งส่งออกน้ำมันแก่สหรัฐฯ ประธานาธิบดี คาเตอร์ แวนซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ เบรซินสกี ที่ปรึกษา ต่่างมองว่าอิหร่านเป็นพันธมิตรที่สำคัญในช่วงสงครามเย็น ไม่เพียงเพราะน้ำมันที่ผลิตได้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอิทธิพลในโอเปกและตำแหน่งทางยุทศาสตร์ระหวางหสภาพโซเียตและอ่านเปอร์เซียด้วย แม้จะมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน คาร์เตอร์ยังคงเดินทางเยือนอิหร่านในช่วงปายปี 1977 และอนุมัติการขายเครื่องบินรบสหรัฐฯ แก่อิหร่าน ในปีเดียวกัน เกิดการจลาจลในหลายเมือง และไม่นานก็แพร่กระจายไปทั่วประเทศ สภาพเศราฐกิจที่ย่ำแย่ ความไม่นยิมของ "การปกิวัติขาวไ ของราชวงศ์ปาห์ลาวี และการฟื้นฟูศาสนาอิสลามล้วนนำไปสู่ความดกระแค้นที่เพ่ิมมากขึ้นในหมู่ชาวอิหร่าน ซึ่งหลายคนยังคงดูถูกสหรัฐฯ ที่สนับสนุนราชวงศ์ปาห์ลาวีและมีบทบาทในการทำรัฐประหารในปี 1954
ปี 1978 การปฏิวัติอิหร่านได้ปะทุขึ้นเพื่อต่อต้านการปกครองของซาห์ รัฐมนตรีตางประเทศแวนซ์โต้แย้งว่าซาห์ควรจัดทำชุดการปฏิรูปเพื่อบรรเทาเสียงแห่งความไม่พอใจ ในขณะที่เบรซินสกีได้แย้งเพื่อสนับสนุนการปราบปรามผุ้เห็นต่าง ข้อความที่ไม่ชัดเจนที่ซาห์ได้รับจากแวนซ์และเบรซินสกีได้ก่อให้เกิดความสับสนและลังเลใจ ซาห์ลี้ภัยทิ้งให้รัฐบาลรักษาการเป็นผุ้ควบคุม อายาดอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคมัยนี บุคคลทางศาสนาที่เป็นที่นิยม ได้กลับมาจาการลี้ภัย และได้รับการสนับสนุจากประชาชน ในขณะที่ความไม่สงบยังคงดำเนินต่อไป
คาร์เตอร์อนุญาตให้ปาหืลาวีเข้าสหรัฐอเมริกาเพื่อรับการักษาพยาบาล ในตอนแรก คอาร์เตอรืและิวนซ์ไม่เต็มใจจะรับปาห์ลาวีเนื่องจากังวลเกี่ยวกับปฏิกิรกยาในอิหร่าน แต่ผุ้นำอิหร่านรับรองกับพวกเขาว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ
ไม่นานหลังจาก ปาห์ลาวีได้รับอนุญาติให้เข้าสหรัฐฯ กลุ่มมชาวอิหร่านได้บุกสภานทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงเตหะรานและจับจตัวประกันชาวอเมริกัน 66 คน ทำให้เกิดวิกฤตการณืตัวประกันอิหร่าน นาบกรับมนตรีอิหร่น "เมห์ดี บาซาร์กัน" สั่งให้กลุ่มก่อการร้ายปล่อยตัวประกัน แต่เขาลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่โคมันนีสนับสนุนการก่อการร้าย
วิกฤตการณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากนานาชาติและในประเทศอย่างรวดเร็ว และคาร์เตอร์ก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปล่อยตัวประกันให้ได้ ขาปฏิเสธข้อเรียกร้องของอิหร่านฝในการส่งตัวปาห์ลาวีกลับประเทศเพื่อแลกกัการปล่อยตัวประกัน คะแนนนิยมของเขาพุ่งสูงขบึ้นเมือชาวอเมริกันสนับนุนการตอบสนองของเขา แต่วิกฤตตัวประกันกลับกลายเป็นปัญหาสำหรับรัฐบาลของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ศูนย์กลางของเรื่องนี้คือ ประธานาธิบดีคาร์เตอร์ ว฿่งพยายามหาเสียงเลือกตั้งอีกครั้งในปี 1980 นั้นซึ่งมีปัญหาอยู่แล้วจากการท้าทายในการเลือกตั้งขั้นต้นของวุฒิสมาชิก คาร์เตอร์ได้ระงับการเดินทางต่างปรเทศและการณรงค์ทางการเมืองทันที่เพื่อมุ่งเน้นไปที่วิกฤตการณ์นี้ แต่ก็ไม่มีทางออกทางการทูตใดๆ ที่จะด้มาและส่ิงที่ต่อมารเรียกว่า "กลยุทธ์สวนกุหลาบ" (ซึ่งหมายถึงสวนกุหลาบในทำเนยยบขาวป กลับกลายเป็นกับดักสำหรับประธานาธิบดี ผุ้ช่วยคนหนึ่งและนักเขียนผู้ได้เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับ คาร์เตอรณ์ เขียนไว้ว่า "กลยุทธ์สวนกุหลาบ มีผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจและแพร่กระจายอยางลึกซึ้งอีกประการหนั่ง กลยุทธ์นี้ทืำให้สื่ออเมริกัจมองเห็นวิกฤตการณ์ได้ชัดเจนย่ิงขึ้นด้วยการเน้นความรับผิดชอบไปที่ห้องทำงานรูปไข่ และแสดงให้ผุ้ก่อการร้ายเห็นว่าพวกเขาสามารถทำให้ตำแหน่งประธานาธิบดีของอเมริกาเกิดภาวะเสื่อมถอยได้"
ในต่้อนแรก คาร์เตอรื พยายามเจรจากับรัฐบาลอิหร่นที่ตกอยุ่ในความสับสนวุ่นวายจาการจับตัวประกัน แต่เนื่องจากคาร์เตอร์ เชิญซาห์เข้าไปในสหรัฐฯ นักศึกษาที่ควบคุมสถานการณ์จึงไม่เต็มใจที่จะป
ลอยให้เขารอดตัวไป นอกจากนี้ อายาดอลเลอะห์ รูฮอลเลอะห์ โคมัยนี ยังเป็ฯผุ้สั่งการ และเขาคัดค้านการยุติข้อพิพาทใดๆ ในรยะเร่ิมต้น ดังนั้น เดือนแล้วเดือนเล่า ขณะที่คาร์เตอร์ติดอยู่ในทำเนียบขาว การเจรจาก็ไม่มีความคือหน้า นี้คือสาเหตุที่ในฤดูใบไม้ผลิ เขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือตัวประกันด้วยกำลังทหาร
ปฏิบัติการอีเกิลคลอว์ เป็นหายนะที่จบลงด้วยการเสียชีวิตของชาวอเมริกัน เครื่องบินทหารที่พังพินาศ และตัวประกัน ที่ไม่สามารถเข้าใกล้อิสรภาพได้อีกต่อไป ซึ่งทำให้เห็นผลของการเลือกตั้งที่ยังไม่มาถึง และก็เป็นดังนั้นจริงๆ คาร์เตอร์พ่ายแพ้การเลือกตั้ง
เรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญมากในการหาเสียงเลือกตั้ง การต่อสู้ระหว่างคาร์เตอร์และคู่แข่งเป็นข่าวใหญ่และผู้มีสิทธิเลือกต้้งต่างก็ให้ความสนใจ ชาวอเมรกันต่างหลงใหลในเรืองราวการบุกดจมตี "เอนแทบเบ" ของอิสราเอลในปี 1976 ซึ่งเป็นหนึ่งในกภารกิจปฏิบัติการพิเศษครั้งแรกที่ได้รับความสนใจจากสาะารณชน การช่วยเหลือตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกชาวปาเลสไตน์จับตัวไปในยูกันดา อย่างน่าตื่นเต้นและน่าตื่นตะลึงจึงได้จุดประกายจินตนาการของสาะารณชน สีปีต่อมา สหรัฐฯ ได้พยายามช่วยเหลือตัวประกันด้วยวิธีที่กล้าหาญแต่ก็ล้มเหลว ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับคาร์เตอร์ มีบางคนกล่าวว่า คาร์เตอร์แพ้การเลือกตั้งแต่คืนนั้นแล้ว
ภารกิจที่ล้มเหลวถือเป็ฟางเส้นสดท้าย เมือเข้าสู่ปี 1980 จิมมี่ คาร์เตอร์ ถุกมองว่าเป็นปรธานาะิบดีที่อ่อนแอและไร้ความสามรถ เศรษฐกิจตกต่ำอย่างน่าตกใจ คะแนนนิยมของเขาตกต่ำมาก และการท้าทายจากเคนเนดี สิงโตแห่งพรรคเดโมแครต ถือเป็นการท้านทายการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แม้ คาร์เตอร์จะชนะการเสนอชื่อชิงประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครตแต่เขากลับแพ้ไปเกือบทั้งหมดในการเลือกตั้งประธานาธิบดี นักศึกษาชาวอิหร่านได้นับตัวประกันไว้เป็นเวลานานกว่าที่ใครๆ จะคาดคิด และตัวประกันก็ได้รับการปล่อยตัวในวันที 20 มกราคม 1981 ซึ่งเป็นวันที่ "โรนัลด์ เรแกนเข้ารับตำแหน่ง...
บันทึกความจำที่เปิดเผยในปี 2017 ซึ่งผลิตโดย CIA ในปี 1980 สรุปว่า "พวกหัวรุนแรงชาวอิหร่าน โดยเฉพาะ อายาดอลเลาะห์ โคมัยนี" มุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากปัญหาตัวประกันเืพ่อให้ประธานาธิบดี "คาร์เตอร์" พ่ายแพ้ในการเลือตั้งเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ ในปี 1980 เตหะรานต้องการให้ คนทั้งโลกเชื่อว่าอิหม่าม โคมันนี เป็นสาเหตุที่ทำให้ประธานาธิบดีคาร์เตอร์ต้องล่มสลายและเสื่อมเสียชื่อเสียง...
การปฏิวัติอิหร่านเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหวางแวนซืและเอบร์ซินสกีแตกร้ายเมื่อความปั่นป่วนทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งสองก็ก้าวไปสุ่จุดยืนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เยอรืซินสกีต้องการควบคุทการปฏิวัติและเสนอแนะให้ดำเนินการทางทหารมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ อะยาดอลเลาะห์ โคมัยนี ขึ้นสุ่อำนาจ ในขณะที่แวนซืต้องการตกลงกับสาะารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านแห่งใหม่ ผลที่ตามมาคือคารืเตอร์ไม่สามารถพัฒนาวิธีการจัดการสถานในอิหร่านได้อย่างสอดคล้องกัน การลาออกของแวนซืหลังจากภารกิจช่วยเหลือตัวประกันไม่ประสบความสำเร็จ โดยไม่สนใจคำคัดค้านของคาร์เตอร์ ถือเป็นผลลัทธ์ขึ้นสุดท้ายของความขัดแย้งอย่างลึกซึ้งระหว่างเบยอร์ซินสกีและแวนซ์...
จากวิกฤตการณ์ตัวประกันอิหร่าน ส่งผลต่อการเลือกตั้ง "โรนัลด์ เรแกน ผุ้ได้รับการเสนแชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ได้รับชัยชนะอย่างถล่มถลาย ในปี 1980 ซึ่งส่งผลต่อไปทำให้ภูมทัศน์ทางการเมืองเปลี่ยนไป ผุ้สนับสนุนเดโมแครตหันไปสนับสนุนรีพับลีกันกันในอกีหลายปีข้องหน้า การหลังไหลเขามาของเดโมแครตสายอนุรักษ์นิยมในพรรครีพับลิกัน ถูกอ้างถึงว่าเป็นเหตุผลที่พรรครีพัลลิกันเปลี่ยนแปนวทางไปทางขวามากขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เช่นเดียวกับการย้ายฐานเสียงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและมิดเวสต์ไปทางใต้....
ที่มา : วิกิพีเดีย
https://www.brookings.edu/articles/the-iranian-hostage-crisis-and-its-effect-on-american-politics/