พรรครีพับลิกันภายใต้การนำของ โรนัลด์ เรแกน มีความเจ้าแข็งมาก แม้เดโมแคต จะเสนอผุ้ชือผู้ชิงตำแหน่งประะานาธิบดี คือ วอลเตอร์ มอนเดล และ ไม่เคิล ดุคาดิส แต่ก็แพ้ให้กับเรแกร และจิร์จ เอช. ดับเบิลยู .บุช ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 1984 และ 1988 ตามลำดับ เโมแคตรหลายคนฝากความหวังไว้กับ แกรี่ ฮาร์ต ผุ้ท้าทาย มอนเอลในการเลือกตั้งข้นต้น ปี 1984 โดยเสนอแนวคิดเรื่อง "แนวคิดใหม่" และในการเลือกตั้งขั้นต้นปี 1988 ต่อมา พรรคก็กลายเป็นตัวเต็งโดยพฤตินัยและ "ตัวเต็ง" สำหรับการเสนิชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ก่อนที่เรื่องอื้อฉาวทางเพศจะทำให้หาเสียงของเขาต้องยุติลง อย่างไรก็ตาม พรรคเร่ิมมองหาผุ้นำรุ่นใหม่ ซึ่งเช่นเดียวกับ ฮาร์ตมทีได้รับแรงบันดาลใจจากอุดมคติที่เน้นหลักปฏิบัติของ จอห์น เอฟ. เคเนดี้
บิล คลินตัน ผุ้ว่าการรับอาร์คันซอ เป็นบุคลหนึ่งที่ได้รับเลือกเป็นปรธานาธิบดีในปี 1992 ในฐานะผุ้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครต สภาพ(ู้นำพรรคเดโมแครต เป็นองค์การหารเสียงที่เชื่อมโยงกับคลินตัน ซึ่งสนับสนุนการจัดแนวและการแบ่งฝ่ายภายใต้ป้ายชื่อ "พรรคเดโมแครตใหม่"พรรคได้นำนธยบายเศราฐกิจแบบเสรีนิยม ใหม่มาผสมผสาน กับเสรีนิยมทางวัฒนธรรม ดดยฐานเสียงหลังจากเรแกนเปลี่ยนไปทางขวา อย่างมาก ในความพยายามที่จะดึงดูดทั้งเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยมทางการคลัง พรรคเดโมแครตเร่ิมสนับสนุนงบประมาณที่สมดุลและเศรษฐกิจตลาด ที่ผ่านปรนด้วยการแทรกแซงของรัฐบาล(เศรษฐกิจแบบผสม) ควบคู่ไปกับการเน้นย้ำอย่างต่อเนื่องต่อความยุติะรรมทางสังคมและการดำเนินการเชิงบวก นดบายเศรษฐกิจที่พรรคเดโมแครตนำมาใช้ รวมถึงรัฐบาลของคลินตั้นในอดีต เรียกว่า "ทางที่สาม" คลินตันเป็นเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตคนแรกนับต้งแต่แฟรงลิน ดี. โรสเวลต์ ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งถึงสองสมัย
"ทางที่สาม"ในทางการเมือง เป็นทางเลอก ที่เสนอขึ้น ระหว่างสองรูปแบบที่ยังคงมีอิทธิพลมาจนถึงปัจจุบัน นั่นคื อกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายและขวา ในอดีต คำว่า ทางที่สามถุกใช้เืพ่อ้างถึงรูปแบบการปกครองที่หลากหลาย ตั้งแต่ประชาธิปไตยสังคมนิยมของ ชาวนอร์ติก ไปจนถึง ลัทธิฟาสซิสต์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 คำว่าทางที่สามได้รับความหายที่ีเเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเมือง แอนโธนี กิตเดนส์ นัก นักสังคมวิทยาชาวอังกฤษ ใช้คำนี้เพื่ออธิบายทางเลือกอื่นของลัทะิเสรีนิยามใหม่ และประชาธิปไตยสังคมนิยม ในยุคโลกาภิวัตน์ คำว่า ทางที่สามอาจใช้เพื่อ้างถึงแผนนโยบายใหม่และโดดเด่นเศรษฐศาสตร์การเมืองใหม่ แนวคิดใหม่เกี่ยวกับความยุติธรรมทางสังคม และนักวิจารณืหลายคนอาจหมายถึงการยอมจำนนของฝ่ายซ้ายกลางต่อโลกาภิวตน์แบบเสรีนิยมใหม่
แนวทางที่สามนั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนที่สุดกับการบริหารงานของโทนี่แบลร์ พรรคแรงงานใหม่ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสหรัาชอาณาจักรตั้งแต่ปี 1997-2007 นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงไม่มากนักกับการบริหารงานของฝ่ายกลางซ้ายหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรธานาธิบดี บิล คลินตัน(1993-2001) และ เกอร์ฮาร์ต ชโรเดอร์ นายกรัฐมนตรีเยรมัน ( 1998-2005)
แอนโธนี่ กิดเดนส์ เกิดเมือปี 1938 เป็นที่ปรึกษาทางการเมืองและนัการศึกษาชาวอังกฤษ เขาได้รับ
การฝึกฝนให้เป็นนักสังคมวิทยาและนักทฤษฎีสังคม โดยเขาเคยบรรยายที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ในยุโรป อเมริกาเหนือและออสเตรเลีย ก่อนที่จะร่่วมก่อตั้งสำนักพิมพ์วิชาการ ในปี 1985 และต่อมาในปี 1997 เขาได้เป็นผุ้อำนวยการของสำนักพิมพ์ LSE ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาดำรงอยุ่จนถึงปี 2003 และต่อมาได้เป็นศาสตราจารย์กิตติคุณในฐานะที่ปรึกษาผุ้ทรงอิทธิพลของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ "โทนี่ แบลร์" เขามีแนวคิดเรื่อง "แนวทางที่สาม" ซึ่งเป็นโครงการทางการเมืองที่ไม่จำกัดอยุ่เพียงการแบ่งซ้าย-ขวาตามแบบแผน ซึ่งถือเป็นรากฐานของรัฐบาล แรงงานของแบลร์ ในปี 2004 กิดเดนส์กลายเป็นสมาชิกสภาขุนนางและได้รับตำแหน่งขุนนางตลอดชีพในฐานะบารอนกิดเดนส์แห่งเซาท์เกตในเขตปกครองลอนดอนของเอนฟิลด์เขาเขียนหนังสือหลายเล่ม เช่น สังคมวิทยา..
"แนวทางที่สาม" ในยุคของความทันสมัยและเศราฐกิจหลังภาวะขาดแคลนที่สะท้อนกลับศาสตร์ทางการเมืองกำลังถูกเปลี่ยนแปลง กิดเดนส์ตั้งข้อสังเกตว่ามีความเป็นไปได้ที่ "การเมืองแห่งชีวิต" (การเมืองแห่งการเติมเต็มตนเอง" อาจมองเห็นได้ชัดเจนกว่า "การเมืองเพื่อการปลดปล่อย"(การเมืองแห่งความไม่เท่าเที่ยมกัน และดครงการสะท้อนกลับของตัวตนและการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเพศและความสัมพันธ์ทางเพศอาจนำทางผ่าน "การทำให้ประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตย" ไปสูสยุคใหม่ของ "ประชาธิปไตยเชิงสนทนาไ ของฮาเบอร์มาเซียน ซึ่่งความแตกต่างได้รับการยุติลงและการปฏิบัติถูกสั่งการผ่านวาทกรรมแทนความรุนแรงหรือคำสั่งของอำนาจ
โดยอาศัยธีมทีคุ้นเคยในอดีตของเขาเกี่ยวักบการไตร่ตรองและการบูรณาการระบบ ซึ่งทำให้ผุ้คนมีความสัมพันธ์ใหม่แห่งความไว้วางใจและการพึ่งพากันและกับรํฐบาลของพวกเขา กิดเดนส์ โต้แย้งว่าแนวคิดทางการเมืองของฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวากำลังพังทลายลงเหนืองมาจากปัจจัยหลายประการ โดยปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือการไม่มีทางเลือกอื่นที่ชัดเจนสำหรับระบบทุนนิยมและโอกาสทางการเมืองที่หายไปตามชนชั้นทางสังคม เพื่อสนับสนุนทางเลือกด้านวิถีชีวิต
กิดเดนส์ เลิกอธิบายวว่าสิ่งต่างๆ เป็นอย่างไร และหันมาพยายามเรียกร้องมกขึ้นว่าสิ่งต่างๆ ควรเป็นอย่างไร ใน "บียอนด์ ลีฟ แอน ไรท์" (1994) กิดเดนส์ วิพากษ์วิจารณ์ลัทธิสังคมนิยมแบบตลาดและสร้างกรอบแนวคิด 6 ประการสำหรับการเมืองแบบหัวรุนแรงที่ฟื้นคืนมา : 1 ซ่อมแซมความสสามัคคีที่เสียหาย 2. ตระหนักถึงความสำคัญของการเมืองชีวิต 3. ยอมรับว่าการไว้วางใจที่กระตือรือร้นบ่งบอกถึงการเมืองที่สร้างสรรค์ 4. ยอมรับประชาธิปไตยแบบมีการโต้ตอบ 5. คิดใหม่เกี่ยวกับรัฐสวัสดิการและ 6. เผชิญหน้ากับความรุนแรง
"แนวทางที่สาม : การฟืนฟูสังคมประชาธิปไตย (1998) นำเนอกรอบแนวคิดทางที่สาม ซึ่งกิดเดนส์ เรียกอีกอย่างว่า ศุนย์กลางที่หัวรุนแรง มีเหตุผลสับสนุน นอกจากนี้แนวทางที่สามยังเสนอนโยบายที่หลากหลายซึ่งมุ่งเป้าไปที่สิ่งที่กิดเดนส์เรียกว่า "ฝ่ายซ้ายกลายที่ก้าวหน้า" ในการเมืองอังกฤษ ตามที่กิดเดนส์กล่าวไว้ว่า "เป้าหมายโดยรวมของการเมืองแนวทางที่สามควรเป็นการช่วยให้พลเมืองสามารถฝ่าฟันการปฏิวัติคร้้งใหญ่ในยุคของเราได้ ได้แก่ โลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงในชีวิตส่วนตัว และความสัมพันธ์ของเรากับธรรมชาติ กิดเดนส์ยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของมนุษยชาติ "ไม่มีตัวแทน กลุ่ม หรือขบงวนการใดที่สามารถแบกรับความหวังของมนุษยชาติได้ อย่างที่ชนชั้นกรรมมาชีพของมาร์กซ์ ควรจะทำได้ แต่มีหลายประเด็นในการมีส่วนร่วมทางการเมืองที่เป็นสาเหตุที่ดีสำหรับการมองโลกในแง่ดี
กิดเดนส์ ละท้ิงความเป็นไปได้ของอุดมการณ์หรือโครงการทางการเมืองที่เชืีอมโยงกันทั้งหมดและครอบคลุมโดยไม่มีดตรงสร้างแบบคู่ขนานแทนท่ี่จะเป็นเช่นั้น เขาสนับสนุนให้มุ่งไที่ภาพเล้กๆ ที่ผุ้คนสามารถส่งผลกระทบโดยตรงได้ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือชุมชนท้องถ่ินสำหรับ กิดเดนส์ นี่คือความแตกต่างระหว่างอุดมคติ แบบไร้จุดหมาย และควาเมป็นจริงแบบอุดมคติที่มีประโยชน์ ซึ่งเขาให้คำจำกัดความว่าเป็นการจินตนาการถึง "อนาคตทางเลือกที่การแพร่กระจายอาจช่วยให้เกิดขึ้นจริงได้" (ผลที่ตามมาของความทันสมัยป โดยที่อุดมคติ เขาหมายถึงสิ่งใหม่และพิเศษ และเมือพูดว่าสมจริง เขาเน้นย้ำว่าแนวคิดนี้มีรากฐานมาจากกระบวนการทางสังคมที่มีอยุ่และสามารถมองได้ว่าเป็นการขยายความอย่างง่ายๆ อนาคตดังกล่าวมีศุนย์กลางอยุ่ที่ระเบียบโลกระดับโลกที่เป็นสังคมนิยมมากขึค้นปลอดทหารและห่วงใยโลก ซึ่งมีการแสดงออกอย่างหลากหลายภายในขบวนการสีเขียว สตรี และสันติภาพ และะภายในขบวนการ
ประชาธิปไตยที่กว้างขึ้น
แนวทางที่สามนั้นไม่เพียงแต่เป็นผลงานทางทฤษฎีที่เป้นนามะรรมเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลต่อพรรคการเมืองฝ่ายกลางซ้ายมากมายทั่วดลก ไม่ว่าจะเป็นในยุโรป ละตินอเมริกา และออสเตรเลีย แม้จะใกล้เคียงกับพรรคแรงงานใหม่ในสหรัชอาณาจักร แต่กิดเดนส์ก็แยกตัวออกจาการตีความแนวทางที่สามหลายๆอย่างในแวดวงการเมืองประจำวัน สำหรับเขาแล้ว แนวทางที่สามนั้นไม่ได้หมายถึงการยอมจำนนต่อลัทธิเสรีนิยมหม่หรือการครอบงำของตลาดทุนนิยม ประเด็ก็คือการก้าวข้ามทั้งลัทะิตลาดนิยมพิ้นฐานและสังคมานิยมแบบลงล่าง แบบดั้งเดพิม เพื่อให้ค่านิยมของฝ่ายกลางซ้ายมีความสำคัญในโลก ที่กำลังโลกาภิวัตน์เขาโตแย้งว่า "การควบคุามตลาดการเงินเป็นประเด็นเร่งด้วยที่สุดในเะศราฐกิจโลก" และความมุ่งมั่นทั่วดลกต่อากรค้าเสรีขึ้นอยุ่กับการควบคุมที่มีประสิทธิปลมากว่าการลทิ้งความจำเป้นใสนกาควบคุม
ในปี 1999 กิดเดนส์ ได้บรรยายเรื่อง รีท เลคเทอร์เรส ของ BBC ในหวข้อโลกที่หลุดลอยไป ซึ่ต่อมาได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อเดียวกัน วัตถุประสงค์คือเพื่อแนะนำแนวคิดและนัยของโลกาภิวัติน์ให้กับผุ้ังทั่วไป เขาเป็นวทิยากร คนแรกที่บรรยายในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และเป็นคนแรกทีีตอบกลับอีเมลที่ส่งมาโดยตรงในขณะที่เขากลังบรรยาย การบรรยายจัดขึ้นในลอดดอน วอชิงตัน นิวเดลี และฮ่องกง และมีผุ้ฟังในพื้นที่ตอบรับ.. กิดเดนส์ ได้รับรางวัล ออกเตเลียส ไพรซ์ สำหรับสาขาสังคมศาสตร์ปี 2002 รางวัลนี้ไพ้รับการขนานนามว่าเป็นรางวัลโนเบลของสเปน แต่รางวัลนี้ครอบคลุมไปไกลเกินกว่าขอบเขตของวิทยาศาสตร์
ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Anthony_Giddens
https://en.wikipedia.org/wiki/Democratic_Party_(United_States)
https://www.britannica.com/biography/Anthony-Giddens