กระทรวงกลาดหมสหรัฐฯ แถลเมือวันจันทร์ว่าสหรัฐฯ กำลังส่งทหารเพ่ิมเติมจำนวนเล็กน้อยไปยัง
ตะวันอกกลางเพื่อตอบสนองต่อความรุนแรงที่เพ่ิมสุงขึ้น ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลยบานอน ซึ่งส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามในภุมิภาคที่รุนแรงขึ้น
พล.ต. แพต ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ยอมเปิดเผยว่าจะส่งกำลังทหารเพ่ิมอีกกี่นาย หรือจะมีหน้าที่ทำอะไร ปัจจุบันสหรัฐฯมีทหารอยุ่ประมาณ 40,000 นานในภูมิภาคนี้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เรือบรรทุกเครื่องนิน "ยูเอสเอส แอร์รี่ เอส. ทรูแมน" เรือ่พิฆาตของกองทัพเรือ 2 ลำ และเรือลาดตะเวน 1 ลำ ออกเดินทางจากเมืองนอร์ฟอร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ุ่งหน้าสุ่พื้นที่ของกองเรือที่ 6 ในยุโรปตามกำนหดการปกติ การออกเดินทางของเรือลำนี้เปิดโอกาสให้สหรัฐฯ สามารถคงเรือบรรทุกเครืองบัน "ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น" และเรือบรรทุกเครือ่งบิน "ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น" ที่อยุ่ในอ่าวอาหรับไว้ในพื้นที่ดังกล่าวได้หากเกิดความรุนแรงขึ้นอีก
"เนื่องจากความตึงเครียดที่เพ่ิมขึ้นในตะวันออกกลาง และเืพ่อความระมัดระวังเป็นพิเศษ เราจึงสงทหารสหรับฯ เพ่ิมเติมจำนวนเล็กน้อยไปสมทบกับกองกำลังของเราที่มีอยุ่แล้วในภูมิภาคนี้ " ไรเดอร์กล่าว "แต่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติการ ฉันจะไม่แสดงความคิดเห็นหรือให้รายละเอียดใดๆ"
การวางกำลังใหม่ดังกล่าวเกิดขึ้หลังจากที่อกองกำลังอิสราเอลโจมตีเป้หมายภายในเลยานอนอย่างหนักจนมีผุ้เสียชีวิตหลายร้อยคน และขณะที่อิสราเอลกำลังเตรียมปฏิบัติการเพ่ิมเติม
เนทันยาฮู ได้ส่งวิดีโอเตือนพลเรือนชาวเลบานอนให้อพยพออกจาบ้านเรือนของตนเอง ก่อนการโจมตีทางอากาศที่ขยายวงกว้างขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขากล่าวขณะที่เครื่องบินรบของอิสราเอลโจมตีเป้าหมายที่คาดว่าเป็นกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนตอนใต้และตะวันออก
สหรัฐฯ มี "ปนวคิดที่เป็นรูปธรรม" สำหรับการฟื้นฟูความสงลบตามแนวชายแอนอิสราเอล เลยานอน ซึ่งสหรัฐฯ จะนำเสนอต่อพันธมิตรและหุ้นส่วนในสัปดาห์นี้ในงานประชุมสมัชชาใหญ๋แห่งสหประชาชาติประจำปีของผุ้นำโลก เจ้าหน้าที่ระัดบสูงของกระทรวงการต่างประเทศกล่าวเมือวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ซึ่งให้สัมภาษณ์กับผุ้สื่อข่าวดดยขอไม่เปิดเผยชือเกี่ยวกับความพยายามทางการทุตแบบส่วนตัว กล่าว่า สหรัฐฯ และอกีหลายประเทศต่างกระตือรือร้นที่จะเสนอ "ทางออก" ให้ทั้งอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันไม่ให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบ
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ยอมให้รายละเอียดว่า "แนวคิดที่เป็นรูปธรรมฯเหล่านี้คืออะไร เนื่องจากเขากล่าววาแนวคิดเหล่านี้ยังไม่ได้ถุกนำเสนอต่อพันธมิตรและหุ้นส่วนเืพ่อทำส่ิงที่เขาเรียกว่า "การทดสอบความเครียด" ต่อความน่าจะเป็นที่จะประสบความสำเร็จ
กระทรวงการต่างประเทศเตือนชาวอเมริกันให้ออกจากเลบานอนเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิสงครามในภุมิภาคเพิ่มมากขึ้น "เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮิซบัลเลาห์และอิสราเอลที่ยังคงดำเนินอยุ่นั่นมีลักษณะที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ทั่วเลบานอน รวมถึงกรุงเบรุต สภานทูตสหรัฐฯ จึงขอเรียกร้องให้พลเมือสหรัฐฯ ออกจากเลบานอนในขณะที่ยังมีทางเลือกทางการค้าอื่นๆ อยุ่" กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำเตือนเมือวันเสาร์ ไรเตอร์ไม่บอกว่ากองกำลังเพ่ิมเติมอาจสนับสนุนการอพยพพลเมืองอเมิรกันหากจำเป็นหรือไม่ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า คาดว่าจะมีการตัดสินใจเร็วๆ นี อาจเป็นสัปดาห์นี้ ว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน "ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น" จะยังคงประจำการอยุที่ตะวันออกกลางหรือประจำการอยุ่ทีภูมิภาคเอเชยแปซิฟิกต่อไป
ทการมีกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีสองกองในตะวันออกกลางในเวลาเดียวกันนั้นถือเป็นเรื่องที่หายากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เนือ่งจากความรุนแรงเพ่ิมขึ้นระหว่างอิสราเอลกับฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนนุนจากอิหร่าน รัฐบาลของไบเดนจึงสั่งให้กองทัพเรือส่งเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือรบของพวกเขาไปประจำการทับซ้อนกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ในบางโอกาส
เรือบรรทุกเครื่องบินทรูแมนจะใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์ในการขช้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและข้าสุ่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เจ้าหน้าที่ได้พุดคุยกันโดยขอไม่เปิดเผยชื่อเพื่อหารือเกี่ยวกับการเคลื่อนพล
ขณะนี้มีกาองเรือพร้มรบสะเทินน้ำสะเทินบกของนาวิกโยธินอยุ่นทะเลเมดิเตอร์เรเนียตะวันออกแล้ว ดดยมีหน่วยนาวิกดยะิสำรวจที่ 26 อยุ่บนเรือ และคาดว่าจะสามารถช่วยในการอพยพยได้หากจำเป็น "เมื่อพิจารณาถึงความตึงเครียดและความรุนแรงที่เพ่ิมมากขึ้น ดังที่ผมได้เน้นย้ำไว้ มีแนวดน้มว่าความขัดแย้งในภุมิภาคนนี้จะวงกว้างขึ้นผมไม่คิดว่าเราจะไปถึงจุดนั้นในตอนนี้ แต่เป็นสภานการณ์ที่อันตราย" ไรเดอร์กล่าว
นโยบายตะวันออกกลางของไบเดน แฮร์ริสกำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกับภูมิภาคนี้ เมือพิจารณาว่ารองประธานาธิบดีแฮร์ริสูดได้เพียงเรื่องอิสราเอลและฮามาสเท่านันว่า "เราต้องบรรลุข้อตกลง" เธอจะพูดอะไรเกี่ยวกับอิสราเอลและเลบานอน อดีตประะานาธิบดีทรัมป์พูดอยู่เสมอวาอิสราเอลจำเป็นต้องได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็ว
หากชาวอิสราเอลจะเลือกใครหากพวเกขาสามารถลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้ ชนชั้นปกครองที่เป็นอสิลาของอิกร่านจะเลือกมคร (อิหร่านไม่ใช่ประเทศเสรีเหมือนอิสราเอล) ซึ่งแทบจะไม่มีข้อมูลให้ติดตาม สถาบันนโยบายชาวยิวได้ทำการสำรวจชาวยิวในอิสราเอลครั้งหนึ่งในเดือนกรกฎาคม ก่อนที่ประะานาธิบดีไบเดนจะถอนตัว และพบว่าชาวยิวในอิสราเอล 51 % ชอบทรัมป์ เมื่อเทียบกับ 35 % ที่ชอบไบเดน โดย 14 % ระบุว่าไม่มีความคิดเห็นใดๆ
อิหร่านตั้งเป้าไปที่แคมาเปญหาเสียงของอดีตประะานาธิบดีทรัมป์แล้ว เดิมพันได้เลยว่าพวกมุลละห์ชอบชัยชนะของแอร์ริส วอลซ์มากกว่ชัยชนะของทรัมป์ แวนซ์ เพราะทรัมป์ใช้แคมเปญ "กดดันสูงสุด" กับเตหะราน ซึ่งเหรือบจะทำให้รัฐบาลที่นั่นล้มละลาย จนกระทั่งประธานาธิบดีไบเดนยุติแคมเปญนี และเร่ิมไม่เพียงแค่ผ่านปรมมาตรการคว่ำบาตรเท่านั้น แต่ยงปลดอายัดทรัพย์สินของอิหร่รานหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อให่้แน่ใจว่าจะปล่อยตัวประกัน คาเมเนอีไม่ต้องการมีส่วนร่วมในทรัมป์ 2.0
ชาวอิสราเอล เป็นประเทศที่แตกแยดทางการเมืองอบ่างรุนแรง แต่มีความมุ่งมั่นที่จะชนะสงครามในฉนวนกาซาและสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นในเลบานอนและอาจจะไกลออกไปอีก (ซึ่งอาจเร่ิมขึนในชั่วข้ามคืน) เนื่องจากไบเดน/แฮร์ริส ส่งอาวุธไปยังอิสราเอล แม้จะพยายามที่จะขัดขวางกองกำลังป้องกันประเทศของอิสราเอลอยุ่ตลอดเวลา
ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันจำนวนมากไม่สนใจอิสราเอลหรืออิหร่านเลย พวกเขากังวลเกี่ยวกับต้นทุนของอาหาร คนเหล่านี้จะลงคะแนนให้ทรัมป์ เพราะวิะีที่แน่นอนในการลดต้นทุนอาหารคือการลดต้นทุนการผลิดตอาหารและต้นทุนการขนส่งไปยังซูเปรอืมาร์เก็ต วิะีที่จะทำได้คือ ปลดปล่อยและสนัีบสนุนการผลิตพลังงานในประเทศของอเมริกาอย่างเต็มที่ ทรัมป์ได้จับกุมผุ้มีสิทธิเลือกตั้งส่นใหญ่ททีขับเคลื่อนด้วยเงินเฟ้อเช่นเดียวกับที่แฮร์ริสจับกุมผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่สั่งให้ทำแท้งตามต้องการ สำหรับคนอเมริกันไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่ลงคะแนนเพื่อความมั่นคงของชาติและ "สันติภาพโดยความแข็งแกร่ง" และโดยเฉาะอย่างยิ่งผุ้ที่สวดภาวนาเพื่อสันติภาพในเยรูซาเล็มและภูมิภาค และเพื่อเสรีภาพให้กับชาวอิหร่าน
https://apnews.com/article/israel-lebanon-violence-war-hezbollah-63a15fa390a94acf46ef886cc5fb88db
https://www.foxnews.com/opinion/morning-glory-what-israelis-could-vote-u-s-elections