นี (ในรัฐเพนซิลเวเนีย) ยูเนียน ไอรอน เวิร์ค (ซึ่งมี โรงงาน ต่อเรื่อในซานฟรานซิสโก) และบิร?ัทเล็กๆ อื่นๆ อีกหลายแห่งเข้าด้วยกัน ย้อนไปถึงปี 1875 เมือกลุ่มผุ้ทำงานรถไปและนักลงทุนจากเมืองเบธเลเฮม รัฐเพนซิลเวเนีย ก่อตั้งบริษัท เซาโคนา ไอรอน คอมปานี ซึ่สี่ปีต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น เบธเลเฮม ไอรอน คอมปานี โดยโรงงานได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อผลิตรางรถไฟเหล็ดัด ในปี 1899 บริษท เบธเลเฮม สตีล คอมปานี ซึ่งเป็น บริษัท ที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ ได้เข้าซื้อกิจการโรงงานแห่งนี้
ปัจจัยที่ทำให้ เบธเลเฮม สตีล ล้มละลายมากจากหลายประการ รวมถึงการแข่งขันจากต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำและากรสูญเสียเงินหลายล้าดอลลาร์ในคดีความ ในปี 2001 บริษัทได้ยื่นฟ้องล้มละลาย และอีกสองปีต่อมา บริษัทพร้อมกับบริษัทในเครือมากกว่า 20 แห่ง รวมถึง เบธเลเฮม เรล. กรีนวูด มินนิ่ง, และชิคาโก โคล์ โรลลิ่ง ก็ถูกยุบ เลิกและขายทรัทพ์สิน การล่มสลายของบริษัทเป็นทั้งสัญญาณและแรงผลักดันให้เกิด "รัส เบลส์" ภุมิภาคที่ฉาวโฉ่ของสหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่การผลิตและการผลิต เหล็กเจริญรุ่งเรืองมาก่อนจะต้องเผชิญกับการว่างงานและความยากจนอย่างกว้างขวาง...https://www.britannica.com/money/Bethlehem-Steel-Corporation
เรย์ วรามบลีย์ อธิบายว่า เบธเลเฮม สตรี และ สตีลเมคคิ้ง ใน จอห์นทาวน์ ทำงานร่วมกันในช่วงปลายทศวรรษ 1800 ซึ่งผลิตรางเหล็กได้มากกว่า พิทท์เบิร์ก หรือ คลีฟแลนด์ ดังนั้นเมืองและอุตสาหกรรมนี้จึงเป็นตัวขับเคลื่อกนการปฎิวัติอุตสาหกรรม แม้จะมีการสูญเสียจากการปิดตั้วของโรงงาน แต่ ส.ส. มูร์ธา ก็ยังคงมีอิทธิพลและอำนาจในวอชิงตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองพิจารณาถึงบทบาทของเขาในคณะกรรมการจัดกสรรงบประมาณ และใน่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาสามารถใช้เงินช่;ยเหลือที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้เืพ่อดำรงภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่นี่ในจอห์นทาวน์ได้
ดังนั้นจึงยังคงมีเศณาฐกิจด้านการป้องกันประเทศที่มีเทคโนโลยีสุงอยู่บ้าง ซึ่งยังคงดำนเนิต่ไปหลังจากที่โรงงานเหล็กปิดตัวลง แต่ด้วยการจากไปของ ส.ส. มูร์ธา ในปี 2012 แม้ภาคส่วนการป้องกันประเทศก็ลดลง จำนวนประชากรในเขตนี้จึงลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าประชากรมีอายุมากขึ้น ฐานะยากจน และเป็นประชากรที่มีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นพิเศษ
แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีภาคธุรกิจที่นี่ ยงคงมีภาคเทคโนโลยีขั้นสูง ยังคงมใีการผลิตเหล็กและการผลิตเหล็กเฉพาะทางอยู่บ้าง ดังนั้น ฉันคิดว่าการอธิบายแคมเบรียเคาน์ตี้ ่าเป็นเมืงเก่าแก่ ผิวขาวและยากจนที่ถุกท้องไว้ข้างหลังนันอาจทำให้เขาใจผิดได้
สิ่งที่น่าสนใจทอย่างหนึ่งคือการสนับสนุนของทรัมป์ ที่นี่และความจริงที่ว่าเขาชนะด้วยคะแนนเสียง 68 % และมีคะแนนเสียงเป็นสีแดงทับทิมนอกจากนั้นยังเป้นผลจากการที่เขายังคงได้รับการสนับสนุนจากผุ้นำธุรกิจและเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในแคมเบรียเคาน์ตี้ด้วย
ช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 แคมเบรีย เคาท์ตี้ มีคะแนนเสียงจากเดโมแครตเหนือกว่า 2ต่อ 1 แต่ปัจจุบัน รีพับลิกัน มีเสียงข้องมากของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในเขตี้ แต่ถึงปม้ว่าช่วงรุ่งเรืองของเดโมแครต พื้นที่แห่งนี้ก็ยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์นิยม ดังเดโมแครต ในเขตนี้จงสนับสนุสหภาพแรงงาน มีแนวคิดแข็งกร้าว สนับสนุนค่าจ้างขั้นต่ำ หลักประกันสังคม แต่ก็มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมทางวัฒนะรรม และเป็นแบบอย่างของพวกเดโมแครตแรงงานในพื้นที่อย่าง แคมเบรีย เคาท์ตี้ และ รัสเบลส์ การผสมผสานระกว่างพรรคการเมืองประชาธิปไตยที่มีประสิทธิผลกับองค์กรแรงงานช่วยให้สามารถเรียกคะแนนเสียงที่เป็นประชาธิปไตยในพื้นที่นี้ได้
วรามบลีย์ กล่าวว่า "สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในทางการเมืองของ แคมเบรีย คือ ความแตกต่างระกว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ซึ่งในหลายๆ กรณีเคยขึ้นอยุ่กับนโยบาย ฝายหนึ่งอาจเป็นฝ่านแรงงานหรือฝ่ายธุรกิจ และคิดว่ามันกลายเป็นเรื่องของอัตลักษณ์มากขึ้น และพรรคกมรเมืองต่างๆ ก็มีเช่นกัน พวกเขาสวมเสื้อคนละตัวและยืนหยัดเพื่อคุณค่า" "พวกเขาเป็นตัวแทนของผุคนที่แตกต่างกันไปในบางแง่มุม ดังนั้น คิดว่าสิ่งที่เห็นตอนนี้คือความรู้สึกว่า "ใครอยุ่ข้างฉัน ใครอยุ่ในทีมของฉัน ฉันอยุ่ทีมไหน และนโยบายต่างๆ ก็ลลดความสำคัญลงแม้ว่าประเด็นอย่างเช่นการย้ายถ่ินฐานซึ่งเป้นปัฐหาที่อาจมาแทนที่อัตลักษณ์ของฉันก็ตาม"
Q .ศาสตรจารย์ วรามบลีย์ ในความเห็นของคุฯ ที่อาศัยอูยใน แคมเบรีย เคาท์ตี้ โดยเฉพาะใน จอห์นทาวส์ พรรคเดโมแครตสูญเสียผุ้มีสิทธิเลือกตั้งใน แคมเบรีย หรือ รีพับลิกันได้รับชัยชนะเหนือพวกเขา..
A : คิดว่าเป็นการผสมผสานของทั้งสองอย่าง และอย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี ผุ้ที่ลงทะเบียนเป็นเดโมแครตมาเป็นเวลานานที่นี่ในเขตนีเร่ิมลงคะแนนเสียงให้กับรีพับลิกันในระดับประเทศด้วย ซึงการเปลี่นแปลงบางอย่างในแง่มุมของพรรคการเมือง มันไม่ได้กิดขึ้นในชั่วข้ามคืน มันเป็นสิ่งทีเ่กิดขึ้นมานานแล้ว แต่ความรุ้สึกที่วว่าคุณรุ้ไหม พรรคการเมืองหนึ่งกำลังเข้าข้างคนบางประเภทและฉันคิดว่าคุณได้ยิสน่ิงนั้นเมืองเทียบกับพรรคอื่น ดังนั้น เมือพิจารณาจากความรู้สึกของแต่ละทีมว่่าใครอยุ่ข้างใครและใครอยู่ข้างฉัน ฉันคิดว่าการรับรู้ของฝ่ายตางๆ ได้เปลี่ยนไป
ใครอยุ่ข้างแันในแง่ของการช่วยให่้ฉันใช้ชีวิตได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในานะชาวอเมริกัน หรือ ใครอยุ่ข้างฉันในแง่ของผุ้ที่สะท้อน ถึงค่านิยมของฉันมากที่สุด น่อาจเป็นมาตรการพื้นฐานที่ผุ้คนใช้ในการตัดสินว่าจะลงคะแนนให้ใคร แต่ฉันสงสัยว่าถ้าลองนึกย้อนกลับไำปถึงเหตุกาณ์สำคัญ ที่พูดถึงก่อนหน้านี้ คือ การล่มสลายของอุตสาหกรรมเหล็กและถ่านหิน และการที่สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎร มูร์ธา เสียชีวิต ชัดเจนมากว่า จอห์น เมอร์ธาอยุ่ ฝ่ายผระชาชนในเขตแคมเบรีย ในเขตนั้น เขาเป็นผุ้นำในการจัดสรรงบประมาณพิเศษคนอื่นๆ คงจะพุดประมาณว่า เขารู้วิธีนำเงินก้อนโตกลับบ้านมีเงินไหลเข้าสุ่เขตทังจากงานและการเมือง ทำให้เป็นชัดเจนว่าใครอยุ่ฝ่ายประชาชนในเขตแคมเบรีย
แน่นอนว่าสำหรับอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ สำหรับสนามบินที่คุณกล่าวถึง สิทะิพิเศษที่ มูร์ธา และที่เขาถุกวิพากษ์วิจารณ์ ฉันคิดว่าถ้าลองดุเปอร์เซ็นต์ของผุ้อยุ่อาศัยใน แคมเบรีย ที่ได้รับความช่วยเลหือจากรัฐบาล หรือได้รับการจ้างงานจากรัฐบาล น่าจะสุงกว่าเขตต่างๆ ทั่วทั้งรัฐ
เป็นเรื่องประชดประชันที่น่าสนใจ เรพาะฉันคิดว่ามีการรับรู้ว่าโครงการและการใช้จ่ายของรัฐบาลบางประเภทมีประโยชน์ต่อผุ้ที่ได้รับเินช่วยเหลือ ฉันคิดว่านั่นเป็นการยอยกลับไปสู่ความรุ้สึกถงเอกลักษณ์และความรู้สึกของพรรคการเมืองหนึ่งที่มีควมเป็นสากลและหลากหลายมากกว่าา และเป็นตัวแทนของกลุ่มประชากรของเราที่มีความเป็นสากลและหลากหลายกว่า ซึ่งบางคนอธิบายว่าเป็นพวกหัวสูง และฉันคิดว่าที่นี่และอีกครัง ไม่ใช่แค่เสียงที่คุณได้ยินจากผุ้อยุ่อาศัยมายาวนานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผุ้นำธุรกิจที่นี่ที่ติดป้ายทรัมป์เป็นแหล่งทำเงิน และพวกเขามีความรุ้สึกว่าเดโมแครตไม่ได้อยุ่ข้างเมืองเล็กๆ ในชนบทของอเมริกา...
Q : จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าปัญหาเรือ่งเอกลักษณ์ประจำชาติเกิดขึ้นหากไม่มีภาวะสูญญากาศที่เกิดจากการเปลียนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่และการสูญเสียอิทธิพลที่สามาชิกสภาผุ้แทนราษฎร มูร์ธา มีอยู่
A : มันเป็นเรือ่งที่ขัดแย้งกัน แบางที่เราอาจรอบไม่ได้ แต่มันก็เป็นคำภามที่แันไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้เช่นกัน ฉันคิดวาอีกอ้านหนึ่ชของกาหายตัวของพรรคเดโมแครตอนุรักษ์นิยมก็คือเพนซิลเวเนยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของระบอบสาธารณรัฐเสรีนิยมและอดีตวุฒิสมาชิกของเรา อัลเรน สเปคเทอร์ เป็นตัวอย่างหนคึ่ง รวมถึงผุ้วาาการรัฐเพนซิลเวเนียบางคนก็เป็นตัวอย่างอื่นๆ
มีบางกรณีที่เรามีการเลือกตั้งผุ้ว่าการรัฐ โดยผุ้ว่าการรัฐที่สนับสนุนการทำแท้งคือ รีพับลิกัน และผุ้สมัครที่ต่อต้านการทำแท้งคือ บ็อบ เคซีย์ ซึ่งเป็น เดโมแครต ดังนั้น ฉันคิดว่าสิ่งที่รีุณเห็นในเพนซิลเวเนีย คือการเปลี่ยนแปลงไปสู่ รีพับลิกัน ของ เดโมแครตอนุรักษ์นิยมในพื้นที่ของเรา แต่การเปลี่นนยแปลงไปสู่พรรคเดโมแครตของ รีพับลิกันที่มีแนวคิดเสรีนิยมในเคาน์ตี้เชสเตอร์ เคาน์ตี้มอนต์โกเมอรรี และเคาน์ตี้ชานเมืองเหล่านั้น ดังนั้จึงเป็นแนวโน้มระยะยาว และฉันคิดว่าคำถามี่ถามเป็นคำถามที่ดีในสมมติฐานที่ขัดแย้งกัน หากโรงงานเหล็กไม่ได้ปิดตัวลงและสมาชิกสภาผุ้แทนราษำร มูร์ธา ยังมีชีวิตอยุ่ เราจะเห็นความแกตต่างบ้างไหม ฉันคิดว่าแนวโน้มเหล่านี้เกิดขึ้นมาตลอด
..ดังนั้นคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพรรคเดโมแครตเองที่จะต้องคิดว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อชนะใจผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เคยเป็นผุ้มีสิทธิเลือกตั้งเดโมแครตอย่างน่าเชื่อถือกลับคืนมา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเดโมแครตสายอนุรักษ์นิยมก็ตาม...
https://www.wbur.org/onpoint/2024/10/01/cambria-county-pennsylvania-voters-2024-trump-harris