วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567

If there’s a tie in 2024!!!

          แม้วาจะไม่น่าจะเกิดผลเสมอกัน แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ต่อไปนี้คือสถานการณ?ี่เป็นไปได้สำหรับ

การเลือกตั้งในปี 2024 
          หากแฮร์ริสชนะในรัฐวิสคอนซิน มิชิแกน แอริโซนา และเนวาดา และชนะคะแนนเลือกตั้งเพียงคะแนนเดียวในเนแบรสกา ซึ่ง โจไบเดนชนะทังหมดในปี 2020 และถ้าเธอแพ้ในัฐเพนซิลเวเนียและจอร์เจีย ก็จะเสมอกันที่ 269-269 และยังมีสถานการณ์การเลือกตั้งที่อาจเสมอกันอีกมากมาย ( website 270 to Win) 
           ต่่างจากรัฐอื่นๆ เมนและเนแบรสกาจะมอบผุ้เลือกตั้งสองคนให้กับผุ้ชนะในระดับรัฐและอีกหนึงคนให้กับผุ้ชนะในแต่ละเขตเลือกตั้งของรัฐสภา คะแนนเสีียงเลือกตั้งที่แข่งขันกันเองในเมนและเนแบรสกาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่คะแนนเสียงเสมอกัน 
          หากมีคะแนนเท่ากันที่ 269-269 หรือหากผุ้สมัครจากพรรคการเมืองทีสามหรือผุ้สมัครอิสระชนะคะแนนเลือกตั้งและทำให้ผุ้สัครรายหนึ่งไม่สามารถได้คะแนนเสียงคะณผุ้เลือกตั้ง 270 เสียง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นแบบเดียวกัน เรียกว่า "การเลือกตังแบบมีเงือนไข" 
          ตามการแก้ไขเพ่ิมเติรมรัฐธรรมฯุญครั้งที่ 12 ซึ่งบัญญัติขึ้นภายหลังการเลือกตั้งที่แตกแยกในปี 1800 หากไม่มีผุ้สมัครคนใดได้รับคะแนนเสียงจากคณะผุ้เลือกตงส่วนใหญ๋ รัฐสภาชุดใหม่ซึ่งเพ่ิงจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมือวันที่ 3 มกรคม จะเป็นผุ้เลือกประธานาธิบดี ส่วนวุฒิสภาจะเป็นผุ้เลือกรองประธานาธิบดี ตามการวิเคราะห์ของ "คองเกรสชั่นแนล รีเสิร์ต เซอร์วิส" การเลือกตังฉุกเฉินจะเกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม ทันที่หลังจากสมาชิกรัฐสภาประชมเพื่อนับคะแนนเสียงลเือตั้งและตัสินใจว่าไม่มีผุ้สมัครคนไดมีเสียงข้างมาก
          ซึ่งจะเห็นความแตกแยกชัดเจน สมาชิกรัฐสภาอาจต้องตัดสินใจเลือกระกว่างการสนับสนุนผุ้สมัครที่ตนต้องการและผุ้สมัครที่ประชาชนในรัฐต้องการ 
          ในการเลือกต้งแบบมีเงื่อนไข สภาผุ้แทนราษฎรจะเลือกประธานาธิบดีและวุฒิสภาจะเลือกรองประธานาธิบดี สมาชิกสภผุ้แทนราษฎรสามารถเลือกจากผุ้เข้าชิงตำแหนงปรธานาธิบดีจาก 3 อันดับแรกในคณะผุ้เลือกตั้งเท่านั้น ส่วนวุฒิสมาชิกสามารถเลือกจาก 2 อันดับแรกในการเลือกรองประะานาธิบดีได้ เคนเนดีอาจต้องชนะคะแนนเสียงเลือกตังไม่ว่าจะเป็นชนะในรัฐหรือเขตเลือกต้งในสภาคองเกรสในเนแบรสกาหรือ เมน เพื่อที่จะเป็นตัวเลือกสนากรเลือกตั้งแบบมีเงือนไข ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ในขณะนี้
         แทนที่จะลงคะแนนเสียงเป็นรายบุคคล คณะผุ้แทนแต่ละรัฐในสภาจะมีสิทธิลงคะแนนเสียงหนึ่งเสียง แม้ว่าคะณะผุ้แทนแต่ละรัฐจะเลือกผุ้สมัคที่้องการอย่างไรก็ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจน เสียงส่วนใหญ่ธรรมดาซึ่งก็คือเสียงของคณธผุ้แทน 26 เสียง จะเป็นผุ้แต่งตั้งประธานาธบดีคนใหม่ 
        หากคณะผุ้แทนของรัฐในสภาผุ้แทรราษำรไม่เลือกประะานาธิบดีภายในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มกราคม รองประธานาะิบดีคนใหม่ที่ได้รับการคัดเลือกจากวุฒิสภา จะดำรงตำแหน่งประะานาะิบดีชั่วคราว เป็นไปได้ที่วุฒิสภาจะเลือกรองประธานาธิบดีได้เมือสภาผุ้แทนราณำรไม่มีเสียงลงมติ เนื่องจากในวุฒสภา วุฒิสมาชิกแต่ละคนจะมีสิทธิลงคะแนนเสียงหนึ่งเสียง
        หากวุฒิสภาไม่ได้เลือกรองประะานาะิบดีภายในวัจที่ 20 มกราคม แผนการสืบทอดตำแหน่งประะานาธิบดีตามการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐะรรมฯุญครังที่ 20 จะมีผยังคับใช้ชั่วคราว ผุ้ที่อยุ่ในตำแหน่งลำดับแรกรองจากรองประะานาธิบดีคือประธานาสภผุ้แทนราษฎร ซึ่งปัจุบัน คือ ไมค์ จอห์สัน แม้ว่าอาจเป็นพรรครีับลิกันหรือเดโมแครตคนอื่นก็ได้ หากพรรคเดโมแครตชนะเสียงข้างมากในสภาผุ้แทนราษำรในเดือนพฤศจิกายนนี้ ุ้
          หากคณะผู้เลือกตังได้ให้ประโยช์แก่รัฐที่มีขนาดเล็กและอยุ่ในชนบทมากขึน กระบวนการเลือกตังแบบฉุกเฉินซึ่งแต่ละรัฐไม่ว่าจะมีประชากรเท่าใดก็ตามก็จะมีข้อได้เปรียบมาก
           แคลิฟอร์เนียและเท็กซัสมีสิทธิออกเสียงเท่ากับเดลาแวร์และไวโอมิงในการเลือกตั้งฉุกเฉิน นอกจากนี้ วอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งได้รับคะแนนเสียงจากคณะผุ้เลือกตั้ง 3 เสียง จะถูกตัดออกจากการเลือกตั้งฉุกเฉิน
           ไม่จำเป็นที่ต้องให้คณะผุ้แทนรัฐต้องให้เกี่ยติผุ้ชนะการลงคะแนนเสียงของรัฐ และในรัฐที่แบ่งคะแนนกันอยา่งสุสี ผลการเลือกตังในแต่ละที่นั่งซึ่งอาจกำหนดโดยแผนที่แบ่งเขตเลือกตั้งของรัฐสภา อาจเปลี่ยนคะแนนเสียงของคณะผุ้แทนได้
          ก่อนการเลือกตั้งในปี 2024 สมาชิกรัฐสภาพรรครีับลิกันครองเสียงข้างมากใน 26 รัฐ เมือเทียงกับพรรคเดโมแครตซึ่งตรองเสียงข้างมากใน 22 รัฐ โดยมีคะแนนเท่ากันในรัฐมินนิโซตาและนอร์ทแคดรไลนา อย่างไรก็ตาม สมาชิกรัฐสภาพรรครีบลิกันในนอร์ทแคดรไลนาได้เปลี่ยนแผนผังสภาคองเกรสของรัฐ และมีแนวโ้มว่าจะมีคณะผุ้แทนรัฐสภาที่เป็นพรรครีพับลิกันในนอร์ทแคโรไลนาได้เปลี่ยนแผนผังสภาคองเกรสของรัฐ และมีแนวโน้มว่าจะมีคณะผุ้แทนรัฐสภที่เป็นพรรครีพับลิกันเสียงข้างมากในเดือนมกราคม พรรครีัพบลิกัน่าจะยังคงรักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้ในปีหน้า โดยเฉพาะอยางยิ่งหากผุ้มีสิทธิเลือกตั้งมีความเห็นแตกต่างกันมากจนสามารถลงคะแนนเสียงได้เท่ากันทั้งประเทศ
           ตัวอย่่างเช่น ในรับแริโซนา ใครจะพุดว่าสมาชิกสภาคองเกรสของพรรครีัพบลิกัส่วนใหญ่จะยังคงเลือกผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตแม้วาแฮร์ริสจะชนะ การเลบือกต้งอย่างฉิวเฉียดก็ตาม สมาชิกสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครตขอรัฐอะแลสกาจะเลือกผุ้สมัครจากพรรคเดโมแครตเป็นประะานาธิบดีหรือไม่ แม้ว่ารัฐของเธอจะมีแนวโน้มที่จะเลือกทรัมป์ในเดือนพฤศจิกายนก็ตาม
         จริงๆแล้วระบบการเลือกตั้งฉุกเฉิน คือการปรับปรุง วิธีการจัดตั้งคณะผุ้เลือกตั้งครั้งแรก ผุ้เลือกตั้งจะลงคะแนนให้กับผุ้สมัครสองคน ใครก็ตารมที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดจะเป็นปรธานาธิบดี และใครก็ตามที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดเป็นอันดับสองจะได้เป็นรองประธานาธิบดี
          ในช่วงเวลาที่เร่ิมมีการตั้งพรรคการเมองขึ้น ทั้งพรรค เฟดเดอร์ราลริสต์ และพรรคเดโแมครต-รีพับลิกันในปี 1781 ผุ้เลือกตั้งต้องประสานงานกันเืพ่อลงคะแนนเสียงให้กับผุ้สมัครชิงตำแหน่งประะานาธิบดีมากกว่ผุ้สมัครรองประะานาธิบดี 
         ในการเลือกตั้งปี 1781 ซึ่งเป็นการแข่งขันซ้ำของปี 1777 พรรคเดโแมครต-รีพับลิกันของเจฟเฟอร์สันเอาชนะจอห์ อดัมส์ ประะานาธิบดีคนปัจจุบันและผุ้เป็นสมาชิกพรรคเฟเดอรัลลิสต์ แต่ เดโมแครต-รีพับลิ
กันประสานงานกันไม่ดีหรือนับคะแนนได้ไม่ดีและลงคะแนนเสียงอย่างโง่เขลาให้กับเจฟเฟอร์สัน ซึ่งเป็นผุ้ที่จะมาเป็นประะานาธิบดี และเอบร์รี ซึ่งเป็นคู่หุของเขา ในจำนวนที่เท่ากัน เมื่อถึงคราวเลือกตั้งขั้นต้น พรรค เฟดเดอร์ราลิสต์ ซึ่งยังคงควบคุมสภาผุ้แทนราษำรในขณะนั้น ได้สนับสนุนเบิร์รด้วยความไม่พอใจ แม้จะมีอเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน ผุ้สนับสนุน เฟดเดอร์ราลิสต์ ทีีมีชื่อเสียงเขั้ามาแทรกแซง แต่ก็ต้องลงคะแกนนเสียงถึง 36 รอบจึงจะเลือกเจฟเฟอร์สันได้ในที่สุด 
         ในปี 1785 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐะรรมนูญครั้งที่ 12 ได้มีการให้สัตยาบัน
          ในปี 1824 ผุ้สมัครหลายคนได้รับคะแนนเสียงในคณะผุ้เลอกตั้งแต่ไม่มีใครได้รับคะแนนเสียงข้างมาก จึงต้องมีการเลือกตั้งฉุกเฉิน ที่น่าทึ่งจากมุมมองในปัจจุบัน คื อผุ้สมัครทั้งหมดล้วนมาจากพรรคการเมือง เดโมแครต-รีพับลิกัน พรรคเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะแยกเป็นหลุ่มตามภูมิภาคก็ตาม 
         การเลือกตั้งฉุกเฉินอีกครั้งเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งในปี 1836 แต่จัดขึ้นเพื่อรองประธานาธิบดีเท่านั้น ผุ้เลือกตั้งอขงรัฐเวอร์จิเนียไม่ชอบโรเบิร์ต เอ็ม. จอห์สัน เพื่อร่่วมทัมของมาร์ติน แวน เบอเรน ผุ้ได้รับชัยชนะในการเลือกต้้ง และไม่ลงคะแนนเสียงให้เขาในคณะผุ้เลือกตั้ง ต่อมาวุฒิสภาได้เลือนตำแหน่งจอห์นสันเป็นรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งฉุกเฉิน
         .ในปี 1876 เมือ่ผลการเลือกตั้งเกิดการโต้แย้ง ระบบการเลือกตั้งเบบเลือกทางเลือกจังถุกยกเลิก ในปีนั้น ในช่วงที่ากรฟื้นฟุกำลังถึงจุดสูงสุด ประเด็นไม่ได้อยุ่ที่ว่ามไ่มีผุ้ใดได้รับเสียงข้างมากในคณะผุ้เลือกตั้ง แต่เป็นเรือ่งที่รัฐทางใต้ 3 รัฐ ได้แก่ ฟลอริดา หลุยเซยนา และเซาท์แคโรไลนา ส่งรายชื่อผู้เลือกต้งหลายขุดไปที่วองชิงตัน ดี.ซี. หลังจากากรเลือกตั้งระดับรัฐถูกโต้แย้งและในรัฐโเรกอน ก็มีข้อพิพาทเกี่ยวกับผุ้เลือกตั้งหนึ่งราย
         รัฐสภาได้จัดตั้งคณะกรรามาะิการพิเศษี่ประกบด้วยสมาชิกพรรครีัพบลิกันมากกว่าพรรคเดโมแครตหนึงคน เพื่อตัดสินว่าผุ้สมัครคนใดควรได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้ง 20 เสียงที่ดต้แย้งกัน ในท้ายทีสุด คณะกรรมาะิการได้มองคะแนนเสียงให้กับรัทเทอร์ฟอร์ด บี. เฮย์ส สมาชิกพรรครีัพบลิกัน แม้ว่าซามูเอล ทิลเดน สมาชิกพรรคเดโมแครตจะได้คะแนนนิยมมากกว่าก็ตาม ต่อมา อฉย์ส ได้ยุติโครงการฟื้นฟุเป็นส่วนใหญ่อาจเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงลับที่ทำให้เขาได้ทำเนียบขาว....https://edition.cnn.com/2024/08/04/politics/tie-presidential-election-what-matters/index.html




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...