วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Branches of the U.S. government

           เขตชี้ขาดสองเขตในมณฑลชี้ขาดอาจเป็นตัวตัดสินว่าพรรคใดจะควบคุมสภาผุ้แทนราษฎรในรัฐ
เพนซิลเวเนีย วึ่งเป็นรัฐหนึ่งจากหลายรัฐที่มีการต่อสุ้ทางนิติบัญฐํติที่สำคัญภายใต้เงาของการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งผระธานาธิบดี

          ไบรอัน มอนโร จากเดโมแครต และ โจ โฮแกน จากรีพับลิกัน ได้รับเลือกตั้งเมือเกือบสองปีก่อนให้ดำรงตำแหน่งในเขตานเมืองทางเหนือขงฟิลาเดลเฟีย โดยชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง     515 และ 76 คะแนน ตามลำดับ จากผุ้ลงคะแนนเสียงกว่า 30,000 คน 
          การแข่งขันในปีนี้เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่สิบรายการในระดัีบประเทศที่อาจกำหนดการควบคุมของพรรคการเมืองในรัฐสภา และท้ายที่สุดแล้วใครคือผุ้กำหนดนโยบายสาธารณะในประเด็นที่ถกเถียงกัน เช่น การทำแท้ง อาวุธปืน และสิทะิของคนข้ามเศ การแข่งขันดังกล่าวมีความาำคัญเป็นพิเศษเนื่องมาจากคำตัดสินลาาสุดของศาลฎีกาสหรัฐฯที่ทำให้ากรกำกับดุแลด้านกฎระเบียบของรัฐลาลกลางอ่อนแอลง และคือนอำนาจมห้กับรัฐมากขึ้น...https://apnews.com/article/supreme-court-chevron-regulations-environment-5173bc83d3961a7aaabe415ceaf8d665..

        "สภานิติบัญญัติชองรัฐจะเป็นผุ้กำหนดสิทธิและเสรีภาพที่เรามี รวมถึงทิศทางที่ประเทศของเราจะดำเนินไป ผลกระทบมีมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว" แดเนียล สควอดรอน ผุ้ก่อตั้งร่วมของ "เดอะ สเตท โปรเจคท์" ซึ่งเพ่ิงประกาสโครงการช่วยเหลือผุ้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครตในรัฐต่างๆ กล่าว

          เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว กลุ่มที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันกำลังวางแผนที่จะทุ่มเงินกว่าสองร้อยล้านดอลลาร์เพื่อการต่อสุ้ทางกฎหมายในระดับรัฐ โดยในปีนี้จะมีที่นั่งในสภานิติบัญญติเกือบ 5,800 ที่นั่งใน 44 รัฐที่จะถูกเลือกตั้ง เป้าหมายสุสสุดได้แก่ 6 รัฐที่มีอำนาจในการควบคุมสภา ได้แก่ แอริโซนา มิชิแกน มินนิโซตา นิวแฮมเชียร์ เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน

รัฐส่วนใหญ่เหล่านี้ยังเป็นสมรภุมิรบของการแข่งขันประธานาธิบดีอีกด้วย ในบางกรณี กลุ่มการเมืองระดับชาติพยายามเชื่อมโยงผุ้สมัครรับเลือกตังกับโชคชะตาของประธานาธิบดี โจ ไบเดน และทรัมป์ในบางกรณี กลุ่มการเมืองระดับชาติพยายามแยกแยะผุ้สมัครรับเลือกตั้งจากผุ้สมัครรับเลือกตังชั้นนำ

          ...เมื่อสองปีก่อน เดโมแครตชนะเสียงข้างมากในสาผุ้แทนราษฎรเพนซิลเเนียด้วยคะแนน 102-101 แต่รีพับลิกันแสดงความเชื่อมั่นว่าพวกเขาสามารถยึดสภาคืนได้ในปีนี้ โดยอ้างถึงปัญหา เงินเฟ้อ ปัญหาผุ้อพยพ 

       เดโมแครตได้รับความช่วยเลหือจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่เมื่อสองปีก่อน เมือพวกเขาพลิกกลบมามีที่่นั่งทัังหมด 12 ที่นั่ง ทำให้กลับมาครองเสียงข้างมากได้อีกครั้งหลังจากผ่านไปกว่าทศวรรษในสภานิติบัญญัติที่ไร้ทิศทาง กฎของสภาผุ้แทนราษำรของรัฐที่เชื่อมดยงสภานะเสียงข้างมากกับผลการเลอกตั้งมากกว่าตำแหน่งว่างใหม่ ทำให้เดโมแครตยังคงควบคุมพื่นที่ในสภาได้แม้ว่าสมาชิกสภาสองคนจะลาออกในช่วงฤดูร้อนนี้ และทำให้พรรครีพับลิกันมีคะแนนนำเีพยง 101 ต่อ 100 ที่นั่งเหล่านั้นถุกเติมเต็มในวันที่ 17 กันยายน โดยเดโมแครตที่ลงสมัครโดยไร้คุ่แข่ง และทังสองยังไม่มีคู่แข่งในการเลือกตั้งทั่วไปเช่นกัน

        คำตัดสินของศาลำฎีกาในปี 2022 ที่ยกเลิกสิทธิการทำแท้ง ครึ่งศตวรรษ แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของการเมืองระดับชาติในการเลือกตั้งระดับรัฐและความสำคัญของสภานิติยัญญัติระดับรัฐ หลังจากคำตัดสินนี้ รัฐที่นำโดรีพับลิกัหลายแห่งได้ห้ามหรือจำกัดการทำแท้ง ขณะที่รัฐที่นำโดยพรรคเดโมแครตหลายแห่งได้เสริมสร้างการคุ่มครองการทำแท้ง

        คำดัดสินดังกล่าวทำให้เดโมแครตมีธีมการรณรงค์หาเสียงใหม่ สำหรับการเลอืกตั้งสภานิติบัญญัติปี 2022 ซึ่งเป็นครั้งแรที่จัดขึ้นภายใต้เขตเลือกตั้งที่แบ่งใหม่โดยใช้ขอมุลสำมะโนระชากรปี 2020 พรรคเดโมแครต แย่งชิงการควบคุมสภานิติบัญญัติไปจากพรรครีพับลิกันใน มิชิแกน มินนิโซตา แลเพนซิเวเนีย 

        การเสนอตัวเพื่อเลือกตั้งใหม่ในปีนี้ ของ โฮแกน และ อันโรว์ อยุ่ใน 15 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผุ้แทนราษฎรของรัฐเพนซิลเวเนียที่คณะกรรมการรณรงค์หาเสียงของสภานิติบัญญํติแห่งพรรคเดโมแครตแห่งชาติให้ความสนใจ เขตเลือกตั้งทั้งสองของ บัคส์ เคาท์ตี้ มอบคะแนนเสียงมากกว่าาครึ่งหนึ่งให้กับ ไบเดน เมือ 4 ปีที่แล้ว และคะแนนเสียงที่มากกว่านั้นให้กับ  จอห ์น เฟทเทอร์แมน และ โจห์ส ชาปิโร จากเดโมแครตในการเลือกตั้งวุมิสภาสหรัฐฯและผุ้ว่าการรัฐในปี 2022

          สมาชิกสภานิติบัญญัติพรรครีพับลิกันของรัฐเพนซินเวเนียต้องการผ่านข้อกำหนดเพ่ิมเติมเกี่ยวกับบัตรประจำตัวผุ้มีสิทธิเลือกตั้ง จำกัดการทำแท้ง และแก้ไขการเลือตั้งเพื่อเพ่ิมโอกาสในการชนะการเลือกตั้งเป็นตุลาการ พรรคเดโมแครตต่องการเพ่ิมค่าจ้างขันต่ำของรัฐและขยายสิทธิพลเมืองให้กับกลุ่ม LGBTQ ในสมัชชาใหญ่ซึ่งมีการแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน ข้อเสนอเหล่านัี้นไม่ได้ไปไหนเลย

         เดือนหน้า ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งของรัฐจะตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนแปลงพลวัติดังกล่าวหรือไม่ โดยจะบรรจุที่นั่งในสภาผุ้แทนราษฎรทั้งหมด 203 ที่นั่ง และครึ่งหนึ่งของที่นั่งในวุมิสภา 50 ที่นั่ง พรรคเดโแมครตจะเข้าสู่การเลือกตัืงด้วยที่นั่งในสภาผุ้แทนราษฎรที่เป็นเสียงข้างมากเพียง 1 ที่นั่ง ในขณะที่ในวุฒิสภา พรรครีพับลิกันจะมีที่นั่ง  28 ที่นั่ง ดังนั้นจึงเป็นเสียงข้างมาก

         ในปีนี้ การแข่งขันในสภานิติบัญญัติหลายสิบครั้งทั่วประเทศอาจกำหนดการควบคุมของพรรคการเมืองในรัฐสภา ซึ่งส่งผลต่อกฎหมายของรัฐเกี่ยวกับการทำแท้ง ปืน และสิทธิของคนข้ามเพศ การควบคุมรัฐสภามีความสำคัญทางการเมืองมากขึ้น หลังจากคำตัดสินล่าสุดของศาลฎีกาสหรัฐฯ ที่ทำให้การกำกับดูแลด้านกฎระเบียบของรัฐบาลกลางอ่อนแอลง ส่ง ผลให้รัฐต่างๆ มีอำนาจมากขึ้น

        https://apnews.com/article/pennsylvania-house-senate-legislature-election-2024-745e0cf65d125b309fe4766e5a051ed4

        

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Government power mechanism (USA)

         "นี่อาจเป็นข้อเท็จจริงที่น่าตกละลึงที่สุด คือการเลือกตั้งที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องยาวนานนี้
อย่างน้อยก็ในคะแนนนิยม ซึ่งด
ุเหมือนจะไม่ได้สะท้อนใวห้เห็นถึงอำนาจการปกครองที่แท้จริงในลักษณะที่เราคาดหวังจะเห็น" พอล เพียร์สัน นักรัฐศษสตร์จากมหาวิทยาลัเแคลิฟอรืเนีย เบิร์กลีย์และผุ้เขียนร่วมหนังสือ พาร์ติสัน เนชั่น ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับรัฐและการเลือกตั้งของอเมริกา

          แฮร์ริสไม่ได้รับประกันว่าจะคว้าคะแนนนิยมไ้ ทรัมป์กลังไลตามเธอในโพลสำรวจระดับชาติส่วนใหญ่มากกว่าที่เขาทำได้กับ โจ ไบเดนในช่วงนี้ในปี 2020 และรัฐสำคัญทั้ง 7 รัฐล้วนไล่ตามกันมาอย่างสุสีทำให้บรรดานักยุทธศาสตร์ของทังสองพรรคมองว่ามีโอกาสจริงที่ทรัมป์จะชนะคณะผุ้เลือกตั้งได้ แม้ว่าเขาจะแพ้คคะแนนนิยมอีกครั้งก็ตาม เช่นเดียวกับที่เขาทำในปี 2016 แม้ว่าแฮร์ริสจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่พรรคเดโมแครตก็มีโอกาสน้อยมากที่จะได้ครองวุฒฺิสภาซึ่งขณะนี้พวกเขาเกาะติดเสียงข้างมากที่ 51:49

         คลีย์ คอนดิค บรรณาธิการบริหารของจดหมายข่างการเลือกตัง คริสตอล บอล ของ ซาบาโต้ ซึงจัดพิมพ์โดยศุนย์การเมืองแห่งมหาวทิยาลับเวอร์จิเนย ชี้ให้เห็นว่า หากพรรคเดโแมครตได้รับเสียงข้างมากในวุฒิสภา (และอาจรวมถึงสภาผุ้แทนราษฎรด้วย) ร่วมกับชัยชนะของแฮร์ริส เธอจะถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกจากเดโมแครต นับตั้งแต่ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ชนะการเลือกตังในปี 1884 ที่เข้ารับตำแหน่งโดยที่ไม่อาจควบคุมสภาทั้งสองสภาได้รวมกัน นั่นจะจำกัดวาระที่ประธานาธิบดีแฮร์ริสสามารถดำเนินการได้อย่างมาก  ซึ่งอสจช่วยอธิบายได้อีกครั้งว่าพรรคเดโมแครตในยุคใหม๋นั้นยากลำบากกว่ายุคก่อนๆ มากเพียงใดในการเปลีบยนความสำเร็ขของคะแนนนิยมให้เป็นอำนาจในการผ่านวาระที่พรรคร่วมรัฐบาลลงคะแนนสนับสนุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เดโมแครตสมัยใหม่ไม่เพียงแต่จะแพ้การเลือกตั้งประะานาธิบดีถึงสองครั้งในชขณะที่ได้รับคะแนนนิยมในช่วงเวลาดังกล่าวเท่านัน แต่ยังควบคุมสภาทั้งสองสภได้เพียง 6 สภา จากทั้งหมด  20 ปีนับตั้งแต่ 1992ที่ครองทำเนียบขาว(บิล คลินตัน, บารัค โอบามา และไบเดน ต่างก็ควบคุมรัฐสภาได้เพียงสองปีแรกของการดำรงตำแนห่งประะานาธิบดี ก่อนที่จะสุญเสียการควบคุมในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งแรก) พรรครีพับลิกันควบคุมรัฐบาลได้สำเร็จในการเลือกตั้ง 2 ครั้งเมือเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีทั่วไปรเทศด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 

          "รีพับลิกัมีหนทางที่จะได้ที่นั่งส่วนใหญ่โดยไม่ต้องมีคะแนนเสียงช้างมาก" ลี ครุตแมน นักวิจัยอาวุโสในโครงการปฏิรูปการเมืองของสถาบันวิจัยนิวอเมริกาซึ่งเป็นองค์กรกลางๆ กล่าว" เป็นไปได้ที่ในการเลือกตังครั้งนี้ รีพับลิกันอาจแพ้คะแนนเสีงในวุฒิสภา แพ้คะแนนเสียงนิยมของประะานาธิบดี แพ้คะแนนเสียงนิยมของสภผุ้แทนราษฎรแต่ยังคงควบคุมทั้งสามสภาได้" 

          เนื่องจากการควงคุมรัฐสภาของเดโมแครตสั้นกว่ามา เดโมแครตจึงไม่สามารถดำเนินการตามวาระของตนได้มาเท่ากับที่พรรคร่วมรัฐบาลซ.ึ่งเคยครองเสียงข้างมากทำได้ ความแกต่งนี้เห็นได้ชัดโดยเฉพาะในกลไกสำคัญอีกปะการหนึงของอำนาจรัฐบาล นั่นคือ การแต่งตั้งผุ้พิพกาษาศาลฎีกา เมือยุคที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากในปี 1932 สิ้นสุดลงประะานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันได้แต่งตั้งผุ้พิพากษาศาลฎีกา 7 คนจากทั้งหมด 9 คน เมื่อการครองเสียงข้างมากของพรรคเดโแมครของพรรค FDR สิ้นสุดลงในปี 1968ประธานาธิบดีจากพรรคเดโแมครตได้แต่งตั้งผุ้พิพากาาศาลฎีกา 5 คนจากทังหมด 9 คนและจำนวนดังกล่าวก็ยังต่ำกว่าขอบเขตอิทธิพลของพรรคเดโมแครตในช่วงเวลาดังกล่าว เนือ่งจากศาลในปี 1968 มีผุ้พิพกาษา 4 คนที่ได้รับการแต่งตั้งโดย ดไวท์ เอลเซนฮาวเวอร์ เมือ เข้ารับตำแหน่งในปี 1953 FDR และ ทรูแมน ได้แต่งตั้งผุ้พิพากษาศาลฎีกาทั้ง 9 คน

           ในปัจจุบัน ประะานาะิบดีพรรคเดโมแครตได้แต่งตั้งผุ้พิพากษาศาลฎีกาเพียง 3 คนจากทังหมด 9 คน "ผมคิดว่าบรรดาผุ้ร่งรัฐะรรมนูญคงจะลำบากใจไม่น้อยที่พรรคการเมืองหนึ่งบชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยคะแนนเสียงนิยม 7 ใน 8 หรือ 8 ใน 9 ครั้ง และพรรคการเมืองอีพรรคหนึ่งได้ที่นั่งในศาลฎีกา 6 ใน 9 ที่นี่ง" เพียร์สันกล่าว

          ชัยชนะของการลงคะแนนเสียงนิยมของแอร์ริสในเดือนพฤศจิกายนจะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งจะป็นการเลือกตังครั้งที่ห้าติดต่อกันที่เดโมแคตรได้รับชัยชนะจากการลวคะแนนเสียงนิยม วึ่งเป็นความสำเร็จที่เคยมีมาก่อนในยุคพรรคสมัยใหม่โดยพรรคเดโมแครต รองจากแผรงคลิน รูสเวลต์ และแฮร์ริส ทรูแมน ตังแต่ปี 1932 จนถึง ปี 1948 พรรคเดโมแครตในวันนี้ได้สร้างสถติใหม่ด้วยการชนะีะแนนเสียงนิยมในการเลือตกังประธานาธิบดีถึง 7 ครั้งจากทังหมด 8 ครั้งที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ สภิติสูงสุดในการเลือกตั้ง 8 ครั้งสำหรับเดโมแครตคือ 6 ครั้ง ผลลัพธ์ของการเลือกตั้งใปีนี้จะมีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับการเปรียบเทียบในประวัติศาสตร์ เพราะไม่เคยมีพรรคการเมืองใดรักษาความได้เปรียบในการได้คะแนนเสียงนิยมประะานาธิบดอย่างต่อเนื่องได้นานเกินกว่า 9 ครั้ง ก่อนที่พรรคอื่นจะเร่ิมดำเนินการเลือกตั้งของตัวเอง

          แม้ว่าคะแนนนิยมของเดโมแครตจะสมำ่เสมอไม่มีใครเทียงได้แต่ในด้านอื่นๆ พรรคก็ดูด้อยว่าพรรคก่อนหน้ามาก นี่เป็นเหตุผลนึงที่พรรคนี้มีอำนาจในการปกครองน้อยลง

           พรรครีพับลิกันได้รับเสียงข้าบงมากเพ่ิมขึ้นในชข่วงทีี่ครองอำนาจสุงสุดในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 การที่พรรครีพับลิกันได้รับะแนนนิยม 7 ใน 9 คะแนน เร่ิมขึั้นเมือวิลเลียม แมคินลีย์ชนะการเือกตงประธานาธิบดีในปี 1896 และ 1900 ต่อด้วยชัยชนะอย่งถล่มทลายของเท็ดดี้ รูสเวลด์ ในปี 1904 และชนะของวิลเลียม โอเวิร์ต แทฟต์ ในปี 1908 และต่อเนื่องมาจนถึงชัชนะหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยวาร์เรน ฮาร์ดิง(ในปี 1920) แคลวิน คูลิดจ์ (ในปี 1924) และเฮร์เบิร์ต ฮูเวอร์ (ในปี 1928)

            ในการเลือกตั้งเก้าครั้งนี้้ ผุ้สมัครชิงตำแนห่งประธานาธิบดีจารีพับลิกันได้คะแนนเสียงนิยมเกิน 50% ถึงเจ็ดครั้ง ได้ 58% สองครั้ง และสุสสุดที่ 60,3% โดยป็นของฮาร์ดิงในปี 1920

          พรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างมากในช่วงแรกยังแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุที่กว้างขวางย่ิงขึ้นในคณะผุ้เลือกตั้งอีกด้วย ในชัยชนะการลงคะแนนเสียงนิยมทั้งเจ็ดครั้ง พรรครีพับลิกันในยุค TR ได้รับคะแนนเสียงคณะผุ้เลือกตั้งที่ม่ีอยุ่71% ส่วนพรรคเดโมแครตในยุค FDR ได้รับคะแนนเสีียงคณะผุ้เลือตกังที่มีอยุ่ถึง 80% จากชัยชะการลงคะแนนเสียงนิยมทั้งเจ็ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา พรรคเดโมแครตได้รับคะแนนเสียงคณะผู้เลือกต้้งที่มีอยู่ประมาณ 58%

        ที่สำคัญที่สุด พรรคเดโมแครตชนะคะนนนิยมและแพ้การเลือกตังประธานาธิบดีถึงสองครั้งในช่วงเวลานี้ โดยแพ้บุชใปปี 2000 และแพ้ทรัมป์ในปี 2016 ทังพรรครีพับลิกันในยุค TR และพรรคเดโมแครตในยุค FDR ต่างก็ไม่เคยแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งไหนๆ เมื่อพวกเขาชนะคะแนนนิยม แท้จริงแล้ว จนกระทั่งถึงปี 2000 ความแตกต่างดังกล่าวเกิดขึ้นเพรียงสามครั้งเท่านั้นในช่วงกว่า 200 ปีที่ผ่านมาของการเลือกตั้งประะานาธิบดีของอเมริกา ตอนนี้มีโอกาสจริงที่คะแนนเสียงของปรธานาธิบดีและคณะ(ุ้เลือตกั้งอาจแตกต่างกันเป็นครั้งที่สามในช่วง 24 ปีที่ผ่านมา...

       ...แม้ว่าการแพ้คะแนนนิยมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะเป็นปัญหา "อย่างน้อยก็ในเชิงสัญลักษณ์" แพบริก รัฟฟินี นักสำรวจความคิดเห็นของพรรครีพับลิกันกล่าวว่า "ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ในพรรคยอมรัีบความจริงที่ว่าทรัมป์มีเพดานคะแนนเสียงเสียงที่ประมาณ 47% แต่ได้รับการปรับให้เหมาะสมอย่างมากสำหรับคณะผุ้เลือตกั้ง ดังนั้น สภานการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด(สำหรับเขา) คือกาชฯะโดยไม่มีคะแนนนิยม

         เดโมแครตต่างหากที่แสดงความกังวลต่อรูปแบบผลการเลือกตั้งในปัจจุบันมากกว่า ผุสนับสนุนพรรคการเมืองสายกลางหลายคนโต้แย้งว่าแม้พรรคจะชนะการเลือกตั้งปรธานาธิบดีอย่างไม่เคยมีมาก่อนแต่การตอ่สู้ดิ้นรนในคณะ(้ืุเลือตกั้งและวุฒิสภาแสดงให้เห็นว่า "พรรคเดโมแมครตจะนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่การต่อสู้ดิ้นรนในคณะผุ้เลือกตั้งและวุฒิสถภาแสดงให้เห็นว่า "พรรคเดโมแครตต้องสามารถแข่งขันได้ในพื้นที่ต่างๆ มากขน ้องเชื่อมโยงกับผุ้คนในพื้นที่ต่างๆมากขัน" ดังที่จิม เคสส์เลอร์ รองประะานาบริหารฝ่ายนโยบายของ เทริดเวย์ ซึ่งเป็นกลุ่มเดโมแครตสายกลางกล่าว...

 รัพฟินี่โต้แย้งว่าแม้จะมีโอกาสแพ้คะแนนนิยมอีกครั้ง แต่การจะเรียกพรรครีพับลิกันว่าเป็นพรรคเสียงข้างน้อยก็คงไม่ยุตะรรม หากพรรคนี้ชนะคะแนนเลือกตั้งและชนะอย่างน้อยหนึ่งสภาในสภาคองเกรส "ทุกคนแข่งขันกันภายใต้กฎเดียกัน" เขากล่าว "และระบบนี้ได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อชัยชนะที่สูสี ซึ่งในคณะผุ้เลือกตั้งและวุฒิสภ อาจหมายถึงชัยชนะที่เสียงข้างน้อยไม่เข้าข้างใคร" 

         แต่หากทรัมป์แพ้ทัี้งคะแนนนิยมและคะแนนเลือกตั้งในช่วงเวลาที่ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่พอใจกับผลงานของไบเดน และทิศทางของประเทศ "ฉันคิดว่าจะมีช่วงเวลาแห่งการชดใช้" รัพฟินี้ ผุ้เขียนหนังสือ "ปาร์ตี้ ออฟ เดอะ พีเพิล" ซึ่งตีพิมพ์เมือไม่นานนี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแสนวรวมของพรรครีพับลิกันกล่าว ไนั่นจะเป็นปัญหาที่ร้ายแรง ร้ายแรงกว่าตอนที่เขาทำรายงานชันสุตรศพในปี 2012 มาก เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับ บารัค โอบามา นัการเมืองที่มีความสามารถหลากหลาย ซึ่งจะทำให้เกิดคำถามถึงความสามารถในการทำสิ่งพื้นฐานที่สุดในระดับชาติ" 

        ในทางกลับกัน หากทรัมป์ชนะการลงคะแนนเลือกตั้งอีกครั้งในขณะที่ล้มเหลวในการโหวตนิยม ผุ้แพ้จะรวมถึงไม่เพียงแต่แฮร์ริสและพรรคเดโมแครตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสมมติฐานในหนังสือวิชาพลเมืองพื้นฐานที่ว่าในระบอบประชาธิปไตยแบบอเมริกัน เสียงข้างมากจะปกครอง...https://edition.cnn.com/2024/10/08/politics/democrats-popular-vote-kamala-harris-analysis/index.html

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Fulton County, Georgia

           สี่ปีหลังการเลือกตั้ง 2020 คณะกรรมการเลือกตั้งที่เพ่ิงสนับสนุนรีพับลิกนในจอร์เจียกำลังผลักดัน
ให้มีการสอบสวนใหม่เกี่ยวกับการจัดการการลงคะแนนเสียงของเทศมณฑลที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ คณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐจอร์เจียลงมติด้วยคะแนน 3 ต่อ 2 เพื่อขอใ้อัียการสูงสุดของรัฐคริส ดาร์ ทำการสอบสวนรัฐบาลเคาน์ตี้ฟุลตัน ดดยพยายามจะเปิดการสอบสวนที่ปิดไปเมื่อเดือนพฤษภาคมขึ้นมาใหม่

          การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงระดับความโกรธแค้นของพรรครีัพบลิกัต่อการเลือกตั้งปี 2020 ที่ยังคงทำให้บรรดานักเคลื่อกนไหวของพรรคยังคงลุกฮือขึ้นและเกิดขึ้นทันที่หลังจากการชุมนุมเมือวันเสาร์ที่เมืองแอตแลนตา ซึ่งอดีตประะานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พยายามโต้แย้งข้อกล่าวอ้างที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขาชนะการเลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย ซึ่งประะานาธิบดีโจ ไบเดนก็ชนะการเลือกตั้งวในปีนั้นด้วยคะแนนที่ห่างกันเพียงเล็กน้อย เขายังยกข่องคณธกรรมการการเลือกตั้งของรัฐในการชุมนุมเดียวกันอีกด้วย 

         โฆษกคาร่า เมอร์เรย์ กล่าวว่า "เราให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์สุถจริตของการเลือกตั้งเป็นอย่างยิ่งและเราจะใช้รัฐะรรมนูญ กฎหมาย และข้อเท็จจริงเช่นเกียวกับที่เราทำมาโดยตลอด" เมอร์เรย์กล่าว อย่างไรก็ตาม เมอร์เรย์กล่าวว่าสำนักงานอ้ยการสุงสุดจะไม่ทำการสอบสวนหรือดำเนินคดีอาญาในกรณีที่ค๊ะกรรมการส่งมาให้ มติระบุว่าหากคาร์ไม่ดำเนินการ คณะกรรมการจะพยายามจ้างทนายความภายนอกเพื่อดำเนินการสบสวน

ไม่ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเกิดการสอบสวนขึ้น ในกฎหมายปี 2021 ที่มีการโต้แย้งกันอย่างดุเดือด คณะกรรมการได้รับอำนาจในากรควบคุมการบริหารการเลือกตั้งในแต่ละมณฑล บทบัญญํติดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่มณฑลฟุลตันที่มีสมาชิกพรรคเดโมแครตจำนวนมากเสมอมาภายหลังการเลือกตั้ง ซ่งผุ้ตาวจสอบอิสระระบุว่ามัีลักษณะของการปฏิบัติที่ละหลวมและการบริหารจัดการที่แย่ แต่ไม่มีหลักฐานของการกระทผิดโดยเจตนา

       สมาชิกพรรครัพบลิกัน 3 คน ที่สนับสนุนทรัมป์ได้ยึดอำนาจคณะกรรมการกำกับดุแล 5 คน ซึ่งไม่มีบทบาทโดยตรงในการกำหนดผลการเลือกตั้ง แตเขียนกฎเกณฑ์เพื่อให้แน่ใจว่าการเลือกตังจะดำเนินไปอย่างราบรื่น และรับฟังข้องร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิด นักเคลื่อนไหวบางคนที่ต้องการให้มีการดำเนินคดีกับฟุลตันเคาน์ตี้มาเป็นเวลานาน โต้แย้งกันว่าเจ้าหน้าที่ควรต้องเผชิญข้อกล่าวหาทางอาญานักเคลื่อนไหวเหล่านี้ยังผลักดันให้มีการเข้าถึงบัตรลงคะแนนกระดาษจากการเลือกตั้งปี 2020 อีกด้วย ซึ่งอาจทำให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ในลัษณธเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในแอริโซนาเมือ 2021

         ตามมติการสบอสวนครังก่อน คณะกรรมการพบว่าฟุลตันเคาร์ตี้นัคะแนนซ้ำโดยไม่เหมาะสม แต่ผุ้ที่ยืนเรื่องร้องเรียนกล่าวว่ายังมีปัญหาด้านอืนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เข่น การสแกนบัตรลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ที่หายไป

           ในการหาเสียงของทรัมป์ที่ จอร์เจีย เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทรัมป์โจมตีผู้ว่าการรัฐจอร์เจียจากพรรครีพับลิกันอีกครั้ง ทรัมป์โจมรีผุ้ว่าการไบรอัน เคมป์ บนเว็บไซต์โซเชียลมีเดียก่อนจะเข้าร่วมการชุมนุม และกล่าววา เคมป์ ควาร "ต่อสู้กับอาชญากรรม ไม่ใข่ตอ่สู้กับความสามัคคีและพรรครีพับลิกัน" นอกจากนี้ เขายังวิพากษ์วิจาร์ มาร์ตี ภารรยาของเคมป์ ที่กล่าวว่าเธอจะเขียนในนามของสามีเพื่อชิงตำแหน่ง
ประธานาธิบดีในฤดูใบไม้ร่วงนี แทนที่จะลงคะแนนให้กับผุ้ได้รับการเสอนชื่อจากพรรครีพับลิกัน ในการชุมนุมหาเสียง ทรัมป์โจมตี เคมป์เป็นเวลา 10 นาที่ว่าเป้นต้นเหตุที่ทำให้เขาแพ้ให้กับ โจ ไบเดน และไม่ยอมห้ามอัยการท้องถ่ินไม่ให้ดำเนินคดีเขาและผุ้ร่วมงานอีกหลายคนสำหรับความพยายามของเขาในการพลิกผลการเลือกตั้ง

           ..ไบเดน เอาชนะทรัมป์ในรัฐด้วยคะแนนเสียง 11,779 คะแนนในปี 2020 ทรัมป์กดดันแบรต ราฟเฟนสเปอร์เกอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศพรรครีพับลิกันของจอร์เจียให้ "ค้นหา" คะแนนเสียงที่มากพอที่จะเปลี่ยนสแปลผลการเลือกตั้ง และพันธมิตรของเขาพยายามเสนอรายชื่อ "ผุ้เลือตั้งปลอม" ที่จะเข้ามาแทนที่ผุ้มีสิทธิเะลือกตั้งพรรคเดโมแครตที่ไบเดนชนะ

         ต่อมมาทรัมป์ถูกตั้งข้อกล่าวหาในจอร์เจียสำหรับความพยายามของเขาที่จะพลิกผลการเลือกตั้ง แต่คดียังคงถูกระงับไว้ในขณะทีศาลตัดสินใจว่าอัยการเขตฟูตตันสามารถดำเนินดีต่อไปได้หรือไม่

          เคมป์ รับรองผลเลือกตั้งที่ไบเดนชนะเมือ 4 ปีที่แล้ว และปฏิเสธควมพยายามของพันธมิตรของทรัมป์ที่จะแทนที่พวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งนั้นมา เขาก็พิสุจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นรีพับลิกันระดับประเทศเพียงไม่กี่คนที่สามารรถขืนหยัดต่อต้านทรัมป์ได้โดยไม่ต้องเสียสละอำนาจหรือความนิยมของเขา โดยชาวจอร์เจีย 63% เห็นด้วยกับผลงานการทำงานของเขาในการสำรวจความคิดเห็นในเดือนมิถุนายนที่จัดทำขึ้นสำหรับ "แอตแลนต้า เจอร์นอล คอนสติตูชั่น" ในปี 2018 เคมป์ ได้รับชัยชนะในการดำรงตำแหน่งผุ้ว่าการรัฐอย่างหวุดหวิดหลังจากได้รับการสนับสนุนจากทรัปม์ แต่ทรัมป์กลับสนับสนุนคู่แข่งในการเลือกตั้งขั้นต้นกับ เคมป์ ในปี 2022 ซึ่งก็คืออดีตวุฒิสมาชิก เดวิด เพอร์ดิวส์ เคมป์ เอาชนะ เพอร์ดิว และเอาชนะ คุ่แข่งจากเดโแมครตซึ่งเป็นความนิยมระดับประเทศของพรรคได้ด้วยคะแนน 7.5% ซึ่งถือเป็นการถล่มทลายในรัฐสมรภูมิ

           และเมื่อเหลือเวลาอีไมไ่ถึงหนึงเดือนก่อนที่ผุ้มีสิทธิเลือกตังจะออกไปใช้สิทะเลิืกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ของรัฐก็ต้องเข้าไปพัวพันกับการทะเลาะวิวาทะกับเทศมณฑลที่มีประชากรมาทีุ่ดของจอร์เจีย เรื่องทีมติดตามเพื่อสังเกตการปฏิบัติการเลือกตั้งของเทศมณฑล

 ทีมตรวจสอบเป็นส่วนหนึงของการแก้ไขข้อร้องเรียนต่อฟุลตัสเคาน์ตี้ซึงสืบเนือ่งจากการเลือกตั้งในปี 2020 คณะกรรมการการเลือกตังอขงรัฐพบว่าเคาน์ตี้ละเมิดกฎหมายการเลือกตั้งของรัฐบางส่วนในเดืนอพฤษภาคม จึงลงมติให้ออกจดหมายตำหนิซึ่งรวมถึงคำสั่งให้ตกลงกันเรื่องผุ้ตรวจสอบที่ยอมรับร่วมกัน ซึ่งจะต้องลงมติในการประชุมคณะกรรมในเดือนสิงหาคม (ฟุลตัน เคาน์ตี้ เป็นชื่อของเคาตี้ทั้งแปดแห่งในสหรัฐอเมริกา เคาน์ตี้ส่วนใหญ่ตั้งชื่อตาม ดรเบิร์ต ผุลตัน ผุ้ประดิษฐ์เกรือกลไฟลำแรกที่ใช้งานได้จริง ได้แก่ใน จอร์เจีย,อิลลินอยส์ ,อินเดียน่า, เคนตักกี้, นิวยอร์ก, เพนซิลเวเนียและ ในรัฐอาร์คันซอ ต้งชื่อตามผุ้ว่าการวิลเลียม เซวิน ฟุลตัน) 

          อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการเลือกตั้งระดับมณฑลและระดับรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ทางเทศมณฑล ได้ดำเนินการจ้างทีมงานโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการระดับรัฐ และได้ดำินินการติดตามการปฏิบัติงานอ่นการเลือกตั้งมานานกล่าวหนึ่งเดือนแล้ว แต่ความขัดแย้งระหวางเทศมณฑลและคณะกรรมการระดับรัฐบังคงลุกลามและทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

        คณะกรรมการฟุลตันเคาน์ตี้ได้ยื่ยฟ้องโดยขอให้ผุ้พิพากษาประกาศว่าคณะกรรมการรัฐไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้ "ยอมรับและฟุลตันเคาน์ตี้จ่ายเงินสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพ่ิมเติมสำหรับการเลือกตั้้งปี 2024 ที่ได้รับการคัดเลือกโดยสมาชิกคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐบางคน"   

       ในการประชุมคณะกรรมการการเลือตกั้งของรัฐเมือวันอังคารที่ผ่านมาสมรชิกสภาผุ้แทนราษำร เจนิซ จอห์นสตัน กล่าวว่าดุเหมือนว่าเทศมณฑลจะไม่รักษาข้อตกลงตามสัญญา เธอลงคะแนนเสียงคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเพราเธอไม่เชื่ว่าการสบอสวนข้อร้องเรียนเดิมจะเสร็จสิ้น และยายามเปิดการสอบสวนใหม่หลายครังแต่ไม่สำเร็จ

       จอห์นตันเสนอให้เรียเอกสารการเลือกตั้งปี 2020 จากเสมียนศาลประจำฟุลตันเคาน์ตี้มาเป็นพยาน เธอและสมาชิกพรรครีพับลิกันอีกสองคนในคณธกรรมการลงคะแนนเสียงเห้ฯชอบให้เรียกเอกสารดังกล่าว แม้ว่าสมาชิกพรรคเดโแมครตเพียงคนเดียวและประธานที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดจะคัดคานก็ตาม โดยระบุว่าอัยการสูงสุดของรัฐกล่าวว่าคดีนี้ปิดลงแล้วและไม่สามารถเปิดขึ้นใหม่ได้...

      ในการชุมนุมหาเสียงของทรัมป์ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อริค อริคสัน ซึ่งเป็นพิธีกรอนุรักษ์นิยมชื่อดังในจอร์เจียกล่าวว่า "ทรัมป์ ยายามสร้างความสามัคคีในจอร์เจียด้วยการโจมตีผุ้ว่าการรัฐรีพับลิกัคนปัจจุบันซึ่งเขาต้องการชัยชนะ และรวมถึงภริยของผุ้ว่ากาารรัฐคนนั้นด้วย" อิรีกสันเขียบน X "และหากเขาแพ้การเลือกตั้ง นั่นก็เป็นเพราะเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะการเลือกตั้งที่ถูกขโมย" 

       ทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งความสนใจไปที่จอร์เจีย ซึ่งเป็นสมรภูมิในซันเบลท์ที่เมือสองสัปดาห์ก่อน พรรคเดโมแครตได้ส่งสัญาญาณว่าจะ"ละเลย" และหันไปเน้นที่รัฐในแถบมิดเวสต์ที่มี "กำแพงสีน้ำเงิน" แทน การตัดสินใจของไบเดนที่จะยุติการหาเสียงและสนับสนุนแฮร์ริสทำให้เดโมแครตมีความหวังที่จะขยายแผนที่การเลือกตังให้กว้างขวางขึ้น...

        https://apnews.com/article/trump-vance-atlanta-georgia-harris-rally-b21c25bbbfafdd0343c8812f6c3d7c9e

        https://apnews.com/article/fulton-county-georgia-election-monitor-state-election-board-def361d5de62242f553c61d1d55416e0

        https://en.wikipedia.org/wiki/Fulton_County

        


วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Cambria County...(2)

 เบธเลเฮม สตีล คอปปอร์เรชั่น อดีตบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ก่อตั้งขึ้นเพื่อรวมบริษัท เบธเลเฮม สตีล คอมปา
นี (ในรัฐเพนซิลเวเนีย) ยูเนียน ไอรอน เวิร์ค (ซึ่งมี โรงงาน ต่อเรื่อในซานฟรานซิสโก) และบิร?ัทเล็กๆ อื่นๆ อีกหลายแห่งเข้าด้วยกัน ย้อนไปถึงปี 1875 เมือกลุ่มผุ้ทำงานรถไปและนักลงทุนจากเมืองเบธเลเฮม รัฐเพนซิลเวเนีย ก่อตั้งบริษัท เซาโคนา ไอรอน คอมปานี ซึ่สี่ปีต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น เบธเลเฮม ไอรอน คอมปานี โดยโรงงานได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อผลิตรางรถไฟเหล็ดัด ในปี 1899 บริษท เบธเลเฮม สตีล คอมปานี ซึ่งเป็น บริษัท ที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ ได้เข้าซื้อกิจการโรงงานแห่งนี้

         ปัจจัยที่ทำให้ เบธเลเฮม สตีล ล้มละลายมากจากหลายประการ รวมถึงการแข่งขันจากต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำและากรสูญเสียเงินหลายล้าดอลลาร์ในคดีความ ในปี 2001 บริษัทได้ยื่นฟ้องล้มละลาย และอีกสองปีต่อมา บริษัทพร้อมกับบริษัทในเครือมากกว่า 20 แห่ง รวมถึง เบธเลเฮม เรล. กรีนวูด มินนิ่ง, และชิคาโก โคล์ โรลลิ่ง ก็ถูกยุบ เลิกและขายทรัทพ์สิน การล่มสลายของบริษัทเป็นทั้งสัญญาณและแรงผลักดันให้เกิด "รัส เบลส์" ภุมิภาคที่ฉาวโฉ่ของสหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่การผลิตและการผลิต เหล็กเจริญรุ่งเรืองมาก่อนจะต้องเผชิญกับการว่างงานและความยากจนอย่างกว้างขวาง...https://www.britannica.com/money/Bethlehem-Steel-Corporation

         เรย์ วรามบลีย์ อธิบายว่า เบธเลเฮม สตรี และ สตีลเมคคิ้ง ใน จอห์นทาวน์ ทำงานร่วมกันในช่วงปลายทศวรรษ 1800  ซึ่งผลิตรางเหล็กได้มากกว่า พิทท์เบิร์ก หรือ คลีฟแลนด์ ดังนั้นเมืองและอุตสาหกรรมนี้จึงเป็นตัวขับเคลื่อกนการปฎิวัติอุตสาหกรรม แม้จะมีการสูญเสียจากการปิดตั้วของโรงงาน แต่ ส.ส. มูร์ธา ก็ยังคงมีอิทธิพลและอำนาจในวอชิงตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองพิจารณาถึงบทบาทของเขาในคณะกรรมการจัดกสรรงบประมาณ และใน่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาสามารถใช้เงินช่;ยเหลือที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้เืพ่อดำรงภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่นี่ในจอห์นทาวน์ได้

         ดังนั้นจึงยังคงมีเศณาฐกิจด้านการป้องกันประเทศที่มีเทคโนโลยีสุงอยู่บ้าง ซึ่งยังคงดำนเนิต่ไปหลังจากที่โรงงานเหล็กปิดตัวลง แต่ด้วยการจากไปของ ส.ส. มูร์ธา ในปี 2012 แม้ภาคส่วนการป้องกันประเทศก็ลดลง จำนวนประชากรในเขตนี้จึงลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าประชากรมีอายุมากขึ้น ฐานะยากจน และเป็นประชากรที่มีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นพิเศษ

          แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีภาคธุรกิจที่นี่ ยงคงมีภาคเทคโนโลยีขั้นสูง ยังคงมใีการผลิตเหล็กและการผลิตเหล็กเฉพาะทางอยู่บ้าง ดังนั้น ฉันคิดว่าการอธิบายแคมเบรียเคาน์ตี้ ่าเป็นเมืงเก่าแก่ ผิวขาวและยากจนที่ถุกท้องไว้ข้างหลังนันอาจทำให้เขาใจผิดได้ 

        สิ่งที่น่าสนใจทอย่างหนึ่งคือการสนับสนุนของทรัมป์ ที่นี่และความจริงที่ว่าเขาชนะด้วยคะแนนเสียง 68 % และมีคะแนนเสียงเป็นสีแดงทับทิมนอกจากนั้นยังเป้นผลจากการที่เขายังคงได้รับการสนับสนุนจากผุ้นำธุรกิจและเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในแคมเบรียเคาน์ตี้ด้วย

         ช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 แคมเบรีย เคาท์ตี้ มีคะแนนเสียงจากเดโมแครตเหนือกว่า 2ต่อ 1 แต่ปัจจุบัน รีพับลิกัน มีเสียงข้องมากของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในเขตี้ แต่ถึงปม้ว่าช่วงรุ่งเรืองของเดโมแครต พื้นที่แห่งนี้ก็ยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์นิยม ดังเดโมแครต ในเขตนี้จงสนับสนุสหภาพแรงงาน มีแนวคิดแข็งกร้าว สนับสนุนค่าจ้างขั้นต่ำ หลักประกันสังคม แต่ก็มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมทางวัฒนะรรม และเป็นแบบอย่างของพวกเดโมแครตแรงงานในพื้นที่อย่าง แคมเบรีย เคาท์ตี้ และ รัสเบลส์ การผสมผสานระกว่างพรรคการเมืองประชาธิปไตยที่มีประสิทธิผลกับองค์กรแรงงานช่วยให้สามารถเรียกคะแนนเสียงที่เป็นประชาธิปไตยในพื้นที่นี้ได้

         วรามบลีย์ กล่าวว่า "สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในทางการเมืองของ แคมเบรีย คือ ความแตกต่างระกว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ซึ่งในหลายๆ กรณีเคยขึ้นอยุ่กับนโยบาย ฝายหนึ่งอาจเป็นฝ่านแรงงานหรือฝ่ายธุรกิจ และคิดว่ามันกลายเป็นเรื่องของอัตลักษณ์มากขึ้น และพรรคกมรเมืองต่างๆ ก็มีเช่นกัน พวกเขาสวมเสื้อคนละตัวและยืนหยัดเพื่อคุณค่า" "พวกเขาเป็นตัวแทนของผุคนที่แตกต่างกันไปในบางแง่มุม ดังนั้น คิดว่าสิ่งที่เห็นตอนนี้คือความรู้สึกว่า "ใครอยุ่ข้างฉัน ใครอยุ่ในทีมของฉัน ฉันอยุ่ทีมไหน และนโยบายต่างๆ ก็ลลดความสำคัญลงแม้ว่าประเด็นอย่างเช่นการย้ายถ่ินฐานซึ่งเป้นปัฐหาที่อาจมาแทนที่อัตลักษณ์ของฉันก็ตาม"

        Q .ศาสตรจารย์ วรามบลีย์ ในความเห็นของคุฯ ที่อาศัยอูยใน แคมเบรีย เคาท์ตี้ โดยเฉพาะใน จอห์นทาวส์ พรรคเดโมแครตสูญเสียผุ้มีสิทธิเลือกตั้งใน แคมเบรีย หรือ รีพับลิกันได้รับชัยชนะเหนือพวกเขา..

       A : คิดว่าเป็นการผสมผสานของทั้งสองอย่าง และอย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี ผุ้ที่ลงทะเบียนเป็นเดโมแครตมาเป็นเวลานานที่นี่ในเขตนีเร่ิมลงคะแนนเสียงให้กับรีพับลิกันในระดับประเทศด้วย ซึงการเปลี่นแปลงบางอย่างในแง่มุมของพรรคการเมือง มันไม่ได้กิดขึ้นในชั่วข้ามคืน มันเป็นสิ่งทีเ่กิดขึ้นมานานแล้ว แต่ความรุ้สึกที่วว่าคุณรุ้ไหม พรรคการเมืองหนึ่งกำลังเข้าข้างคนบางประเภทและฉันคิดว่าคุณได้ยิสน่ิงนั้นเมืองเทียบกับพรรคอื่น ดังนั้น เมือพิจารณาจากความรู้สึกของแต่ละทีมว่่าใครอยุ่ข้างใครและใครอยู่ข้างฉัน ฉันคิดว่าการรับรู้ของฝ่ายตางๆ ได้เปลี่ยนไป 

ใครอยุ่ข้างแันในแง่ของการช่วยให่้ฉันใช้ชีวิตได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในานะชาวอเมริกัน หรือ ใครอยุ่ข้างฉันในแง่ของผุ้ที่สะท้อน ถึงค่านิยมของฉันมากที่สุด น่อาจเป็นมาตรการพื้นฐานที่ผุ้คนใช้ในการตัดสินว่าจะลงคะแนนให้ใคร แต่ฉันสงสัยว่าถ้าลองนึกย้อนกลับไำปถึงเหตุกาณ์สำคัญ ที่พูดถึงก่อนหน้านี้ คือ การล่มสลายของอุตสาหกรรมเหล็กและถ่านหิน และการที่สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎร มูร์ธา เสียชีวิต ชัดเจนมากว่า จอห์น เมอร์ธาอยุ่ ฝ่ายผระชาชนในเขตแคมเบรีย ในเขตนั้น เขาเป็นผุ้นำในการจัดสรรงบประมาณพิเศษคนอื่นๆ คงจะพุดประมาณว่า เขารู้วิธีนำเงินก้อนโตกลับบ้านมีเงินไหลเข้าสุ่เขตทังจากงานและการเมือง ทำให้เป็นชัดเจนว่าใครอยุ่ฝ่ายประชาชนในเขตแคมเบรีย 

       แน่นอนว่าสำหรับอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ สำหรับสนามบินที่คุณกล่าวถึง สิทะิพิเศษที่ มูร์ธา และที่เขาถุกวิพากษ์วิจารณ์ ฉันคิดว่าถ้าลองดุเปอร์เซ็นต์ของผุ้อยุ่อาศัยใน แคมเบรีย ที่ได้รับความช่วยเลหือจากรัฐบาล หรือได้รับการจ้างงานจากรัฐบาล น่าจะสุงกว่าเขตต่างๆ ทั่วทั้งรัฐ

       เป็นเรื่องประชดประชันที่น่าสนใจ เรพาะฉันคิดว่ามีการรับรู้ว่าโครงการและการใช้จ่ายของรัฐบาลบางประเภทมีประโยชน์ต่อผุ้ที่ได้รับเินช่วยเหลือ ฉันคิดว่านั่นเป็นการยอยกลับไปสู่ความรุ้สึกถงเอกลักษณ์และความรู้สึกของพรรคการเมืองหนึ่งที่มีควมเป็นสากลและหลากหลายมากกว่าา และเป็นตัวแทนของกลุ่มประชากรของเราที่มีความเป็นสากลและหลากหลายกว่า ซึ่งบางคนอธิบายว่าเป็นพวกหัวสูง และฉันคิดว่าที่นี่และอีกครัง ไม่ใช่แค่เสียงที่คุณได้ยินจากผุ้อยุ่อาศัยมายาวนานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผุ้นำธุรกิจที่นี่ที่ติดป้ายทรัมป์เป็นแหล่งทำเงิน และพวกเขามีความรุ้สึกว่าเดโมแครตไม่ได้อยุ่ข้างเมืองเล็กๆ ในชนบทของอเมริกา...

       Q : จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าปัญหาเรือ่งเอกลักษณ์ประจำชาติเกิดขึ้นหากไม่มีภาวะสูญญากาศที่เกิดจากการเปลียนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่และการสูญเสียอิทธิพลที่สามาชิกสภาผุ้แทนราษฎร มูร์ธา มีอยู่

       A : มันเป็นเรือ่งที่ขัดแย้งกัน แบางที่เราอาจรอบไม่ได้ แต่มันก็เป็นคำภามที่แันไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้เช่นกัน  ฉันคิดวาอีกอ้านหนึ่ชของกาหายตัวของพรรคเดโมแครตอนุรักษ์นิยมก็คือเพนซิลเวเนยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของระบอบสาธารณรัฐเสรีนิยมและอดีตวุฒิสมาชิกของเรา อัลเรน สเปคเทอร์ เป็นตัวอย่างหนคึ่ง รวมถึงผุ้วาาการรัฐเพนซิลเวเนียบางคนก็เป็นตัวอย่างอื่นๆ 

        มีบางกรณีที่เรามีการเลือกตั้งผุ้ว่าการรัฐ โดยผุ้ว่าการรัฐที่สนับสนุนการทำแท้งคือ รีพับลิกัน และผุ้สมัครที่ต่อต้านการทำแท้งคือ บ็อบ เคซีย์ ซึ่งเป็น เดโมแครต ดังนั้น ฉันคิดว่าสิ่งที่รีุณเห็นในเพนซิลเวเนีย คือการเปลี่ยนแปลงไปสู่ รีพับลิกัน ของ เดโมแครตอนุรักษ์นิยมในพื้นที่ของเรา แต่การเปลี่นนยแปลงไปสู่พรรคเดโมแครตของ รีพับลิกันที่มีแนวคิดเสรีนิยมในเคาน์ตี้เชสเตอร์ เคาน์ตี้มอนต์โกเมอรรี และเคาน์ตี้ชานเมืองเหล่านั้น ดังนั้จึงเป็นแนวโน้มระยะยาว และฉันคิดว่าคำถามี่ถามเป็นคำถามที่ดีในสมมติฐานที่ขัดแย้งกัน หากโรงงานเหล็กไม่ได้ปิดตัวลงและสมาชิกสภาผุ้แทนราษำร มูร์ธา ยังมีชีวิตอยุ่ เราจะเห็นความแกตต่างบ้างไหม ฉันคิดว่าแนวโน้มเหล่านี้เกิดขึ้นมาตลอด

       ..ดังนั้นคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพรรคเดโมแครตเองที่จะต้องคิดว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อชนะใจผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เคยเป็นผุ้มีสิทธิเลือกตั้งเดโมแครตอย่างน่าเชื่อถือกลับคืนมา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเดโมแครตสายอนุรักษ์นิยมก็ตาม...

        https://www.wbur.org/onpoint/2024/10/01/cambria-county-pennsylvania-voters-2024-trump-harris

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Cambria County, Pennsylvania

           นักยุทธศาสตร์การเมือง เจมส์ ดาร์วิลล์ เคยบรรยายเพนซิลเวเนียอย่างโด่งดังว่าเป็นผิลาเดลเฟีย
และพิตต์สเบิร์ก โดยมีแอละแบมาเป็นตัวกลาง แต่การอะิบายลักษณะดังกล่าวไม่ถุกต้อง แม้ว่าคำอะิบายจะพาดพิงถึงลักษณะชนบทและเมืองเล็กๆ ของรัฐนอกเหนือจากเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดสองเมือง แต่คำอธิบายดังกล่าวไม่สามารถอธิบายถึงความหลากหลายหรือความซับซ้อนทางการเมืองของรัฐได้

         ต่อไปนี้คือการถอดบทความจาุกชุดสัมภาษณ์ของนักข่าวของ POLICO ที่เพิ่งลงพื่้นที่รายงานข่าวในรัฐนั้นๆ Holly Ottobein ผู้มีผลวานยอดเยีย่มจากรัฐเพนซิลเวเนีย เธอเติบโตในยอร์กเคาน์ตี้ เข้าเรียนมหาวิทยาลัยในฟิลาเดลเฟีย ทำข่าวการเมืองที่ "ฟิลาเดลเฟีย อินแคว์เรอร์" และปัจจุบันอาศัยอยู่ในฟิลาเดลเฟีย...

        ....การแช่งขันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเพนซิลเวเนียสุสีกันมา รัฐสมรภูมิ 7 รับ เพนซิลเวเนียมีคะแนนเสียงเลือกต้งมากที่สุด คือ 19 เสียง นั้นคือเหตุผลว่าทำไมจึงมีการหาเสียงที่รัฐนี้กันอย่างหนักหน่วง 

        ประเด็นในการหาเสียง ซึ่งแน่นอนว่าเศราฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่นี่และทุกที่ นอกจากนั้นปัญหาที่ไม่เหมือนกับที่ไหนสำหรับเราคือการแตกหักของหินเนื่องมาจากอุตสาหกรรมก๋าซะรรมชาติขชองรัฐ 

         ฟิลาเดลเียและเขตชานเมืองทำให้ โจ ไบเดน ได้คะแนนนำมากในปี 2020 และนั่นคือสุตรสำเร็จสำหรับเดโมแครต ทุกคนที่ชนะการเลือกตั้งในเพนซิเวเนียเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีส่วนผสมพเศษอีกนึ่งอย่างเพ่ิมเข้ามา แฮร์ริสจำเป็นตอ้งเพ่ิมจนวนผุ้มาใช้สิทธิในฟิลาเดลเฟีย เอาชนะเขตชานเมืองโดยรอบอย่างเด็ดขาด ทำผลงานได้ดีในเขตที่ีมีดฮกาสชนะสูง และลดคะนนนำของทรัมป์ในเขต MAGA 

        ส่วนทรัมป์และรีพับลิกันจะต้องทำคะแนนในชนบท MAGA อย่าให้ถุกฆ่าตายในเขตชานเมืองฟิลาเดลเฟีย ทำคะแนนให้ดีกว่าเล็กน้อยกับผุ้ชายผิวสีและละตินในเมืองฟิลาเดลเฟีย ..

        ่ การที่ฟิลาเดบเฟีย ซึ่งเป็นเมืองที่ม่ีประชากรมากที่สุดในรัฐ ลดลงตั้งแต่ปี 2021 ทำให้พรรคเดโมแครตเป็นกัวลง หลายคนในพรรคมีความหวังว่าแฮร์ริสจะทำผลงานได้ดีกว่าไบเดนในเมืองนี้ ซึ่งสน่วนหนึ่งเป็นเรพราะเธอจะสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะประธานาธิบดีหญิงผวิสีและอเมริกันเชื่อสายเอเชียคนแรก แต่ในขณะเดียวกัน ก้มีความวิตกกังวลอย่างมากกว่าทรั้มป์อาจทำผลงานได้ดีกว่าในผุ้ชายผิวสีและละตินในฟิลาเดลเฟีย 

        เพนซิลเวเนียจะใช้เวลาสองสามวันในการนับคะแนนในปี 2020 นั่นเป็นเพราะกฎหมายของรัฐที่ไม่อนุญาจให้ผุ้ดูแลการเลือกตั้งประมวผลบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จนกว่าจะถึงวันเลือตั้ง กฎหมายนั้นยังคงมีผลบังคับใชอยุ่อย่างไรก็ตาม  ข้อดีก็คือเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งกล่าวว่าอุปกาณ์และขั้นตอนการนับคะแนนของพวกเขาดีขึ้นแล้ว และจะมีการลงคะแนนทางไปรษณีย์น้อยลงในการเลือกตั้งครังนี้...https://www.politico.com/newsletters/politico-nightly/2024/10/09/what-the-campaign-feels-like-in-pennsylvania-00183150

เส้นทางสู่ชัยชนะของประธานาธิบดีในปี 2024 ทุกเส้นทางต้องผ่านเพนซิลเวเนีย ในเขตแคมเบรีย ผู้ลงคะแนนเสียงเปลี่ยนจากเดโมแครตเป็นรีพับลิกันภายในเวลาเพียงสั้นๆ ในรอบการเลือกตั้งเท่านั้น

       Cambrin County เป็นมณฑลในเครือรัฐเพนซิลเวเนีย จากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี 2020 พบว่ามีประชากร 133,472 คน เมืองหลวงของมณพล คือ อีเบนสเบิร์ก มณฑลนี้ก่อตั้งขึ้นเมือ ปี 1804 โดยแบ่งพื้นที่บางส่วนของมณฑลรอบๆ และต่อมามีการจัดตั้งในปี 1807 ตังชื่อตามประเทศเวลส์ซึ่งในภาษาละตินเรียกว่ "แคมเบรีย" มณฑ,นี้เป็นส่วนหตงของภุมิภาคเพนซิลเนียตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐ "แคมเบรีย เคาท์ตี้" ประกอบด้วยพื้นที่สถิติมหานคร จอห์สทาวน์ ซึ่งรวมอยุ่ในพื้นทีีสถิติรวม จอห์นสทาวน์- ซัมเมอร์เซท รัฐเพนซิลเวเนียด้วย 

        ในสหรัฐฯเขตมหานครสถิติ เป็นภุมิภาคทางภุมิศาสตร์ที่มีความหนสแน่นของประชากรค่อนข้างสุง เป็นแกนหลักและมีควมสัมพันธ์ทาทเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดทั่วทั้งภูมิภาค ภุมิภาคดังกล่าวไม่ได้ถุกจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเหมือนกับเมืองหรือเมืองเล็กๆ และไม่ถือเป็นเขตการปกคอรงตามกฎหมาย เป็นผลให้บางครั้งคำจำกัดความที่ชัดเจนของเขตมหานคร ที่กำหนดอาจแตกต่างกันไปตามแหล่งที่มา 

         ่เมื่อบริษัท Steel สร้างเมือง แคมเบรี เคาท์ตี้ บริษัท สตีล สร้างดรงหล่อ สร้างสำนักงาน สร้างที่อยุ่อาศัย สร้างแนวคิดใหม่ๆ ในพื้นที่เหมืองถ่านหินของเพนซิลเวเนียตะวันตก บริษัท สตีล สร้างสนามบินในท้องถ่ิน และสร้างการเมืองของมณฑล

         แคมเบรย ไอรอน ก่อตั้งขึ้นในเมืองจอห์นสทาวน์ รัฐเพนเซิลเวเนีย ในปี 1852 และเป็นดรงานเหล็ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุคนั้น ในปี 1922 ดรงานแห่งนี้ถูกซื้อโดย เบธเทอร์เฮม สตีล ซึ่งเป็นผุ้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมชื่อเสียงของอเมริกา "เบธเทอร์เฮม สตีลไ สร้างสะพานโกลเดนเกตในซานฟรานซิสโก และตึกระฟ้าที่โดดเด่นในเมืองนิวยอร์ก

       โรงงานในเมือง แคมเบรีย เคาท์ตี้ ขยายตัวและคนงานจากทั่วโลกหลัีงไหลมายังเมือง จอห์นทาวส์ และการรวมกลุ่มแรงงานก็เติบโตตามไปด้วย ภายในปี 1973 โรงงานแห่งนี้ได้จ้างคนงานเกือบ 12,000 คน และเมือเทศมณฑลเข้าสุ่ทศรรษที่ 1980 สหภาพแรงงาน "ยูนิเตต สตีลเวิร์กเกอร์" ก็รับรองกับสมาชิกว่าคนงานในดรงานเหล็กเปนกลุ่มคนงานอุตสาหกรรมที่ได้รับค่าจ้างสุงที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก 

        แต่ไม่นาน อุตสาหกรรมเหล็กล่าของอเมริกาก็เร่ิงซบเซา ในเมืองจอห์นสทาวน์ บริษัทได้ปิดดรงงานในเคาน์ตีแคมเบรียไปแล้เามือสามปีก่อน ซึ่งก็คือในปี 1992 เหล็กกล้าใน แคมเบรีย เคาท์ตี ถุกทำงานไปแล้ว แต่สนามบิน จอห์นสทาวน์ ที่สร้างยังอยุ่

         "มูร์ธา" เริ่มรับราชการในรัฐสภาเมือปี 1974 โดยป็นทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามคนแรกที่ทำหน้าที่ในสภาผุ้แทนราษฎร เขาเป็นเดโมแครต และสตียังคงดำเนินธุรกิจอยู่ ในปี 1989 มูร์ะา ได้รับเลือกเป็นประธานคณะอนุกรมการด้านการป้องกัีนประเทศของสภาผุ้แทรราษฎร

         "พวกเขามาหาฉัน ฉันได้รบสายจากประะานาธิบดี รัฐมนตรีต่างประเทศ รัฐมรนจรีกลาโหม เีก่ยวกับการป้องกันประเทศ และมัีนส่งผลกระทบอยางแท้จริง" 

          ...มูร์ะาทำหน้าที่ให้กับเขตเลือกตั้งที่ 12 ของรัฐ เพนซิลเวเนีย ได้เป็นอย่างดี เขาเป็นที่รุ้จักในฐานะผุ้เชี่ยวชาญด้านการจัดสรรงลประมาณ โดยนำ้เงินจำนวนมามาสู่เขตเลือกตั้งนี้ แต่ในปี 2009 เอบีซี นิวส์ รายงานวาตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา มูร์ธาได้จัดสรรเงินภาษีของประชาชนกว่า 150 ล้านดอลลาร์ให้กับสนามบินจอห์นสทาวน์ เขาถุกสอบสวนในข้อหาละเมิดจริยธรรมและทุจริต เขาเสียชีวิตขณะดพรงตำแหน่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 เขาดำรงตำแหน่งในรัฐสภาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี ถือเป็นสมาชิกรัฐสภาที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐเพนซิลเวเนีย ในปี 2011 รัฐสภาได้สั่งห้ามการจัดสรรวบประมาณพิเศษ

          เขตนั้นเคยลงคะแนนเสียงใหีกับเดโมแครตมาก่อน แต่เมือโรงงานเหล็กถุกปิดตัวลง และสมาชิกสภาผุ้แทรราษฎรผุ้มีอำนาจถูกปลดจากตำแหน่ง แคมเบรียเคาน์ตี้ก็กลายเป็นสีแดงเข้ม

         ในปี 2008 บารัค โอบามา และจอห์น แมคเคน แบ่งเขตแคมเปรยออกจากกัน โดยแต่ละคนได้รับคะแนนเสียงไป 49% เพียงสีปีต่อมา หลังจากสมาชิกสภาผุ้แทนราษฎร มูร์ธา เสียงชีวิต มิท รอมนี้ ก็ำดรับคะแนนเสียง 58.1% ใน แคมเบรีย เคาท์ตี้ เหนือ บารัค โอบามา จากนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ก็เข้ามาแทนที่

        ทรัมป์เดินทางเยือนเมืองจอห์นสทาวน์ เป็นคัี้งแรกในเดือนตุลาคม 2016 โดยทรัมป์ จัดการชุมนุมที่อนุสรณ์สภาสงครามเคาน์ตี้แคมเบรีย ผุ้เข้าร่วมกว่า 4,000 คน ทรัมป์ได้รับชัยชนะในเขตนี้ดวยคะแนนเสียง 66.5% 

ปี 2020 โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเนีย โดยรวม แต่ทรัมป์ยังคงชนะการเลือกตั้งในเขต แคมเบรีย เปอร์เซ้นต์คะแนนเสียงของเขาเพ่ิมขึ้นเ็น 68%

       .ในครั้งนี้ ในการเลือกตั้งประานาธิบดีปี 2024 เส้นทางสุ่ชัยชนะทั้งหมดต้องผ่านรัฐเพนซิลเวเนียอีกครั้ง มาร์ เมอรติะ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า "ผลลัพธ์ที่นาจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือผุ้ชนะของรัฐเพนซิลเนียจะเป็นผุ้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

      ชาร์ลส์ สจ๊วร์ต นักรัฐศาสตร์และหัวหน้าห้องปฏิบัติการการเลือกตังของ MIT กล่าวว่าผุ้มีสิทะิเลือกตั้งของเพนซิลเวเนียมีความสำคัญที่ต้องเขาใจ "ภูมิภาคต่างๆ ของเพนซิลเวเนียทั้งภาคกลางและภาคตะวันตำ ล้วนแสดงให้เห็นถึงชนบทของอเมริกา และเขต "รัสเบลส์" ของอเมริกา ซึ่งทั้งสองภุมิภาคนี้ แจ่นอนว่าในรัฐเพนซิลเเนียมีประวัติศาสตณืการเมืองและเศราฐกิจทีสำคัญแต่ยังสามารถเป็นตัวแทนของพื้นที่อื่นๆ ของประเทศได้อีกด้วย

      นั้นเป็นเหตุผลที่ทั้ง ทรัมป์ และแฮร์ริสจึงมุ่งเน้นความพยายามไปที่เขตสำคัญต่งๆ ในรับเพนซิลเวเนีย ทรัมป์เพิ่งไปเยือนจอห์นสทาวน์เป็นครั้งสาม และแฮร์ริสก็ได้ไปเยื่อนเมืองจอห์นสทาวน์เช่นกัน เธอไม่ได้จัดการชุมนุมใหญ่ดตแต่เลือกตั้งจะเย่ยมชมชุมชนและใช้เวลาร่วมกับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กแทน

         ต่อข้อภามที่ว่า ในทางการเมืองแล้ว แคมเบรีย เคาท์ตี้ ยังเหมือนกับตอนปี 1990 ไหม

        เรย์ แรมบลีย์ ศาสตราจารญืด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก กล่าวว่า " ไม่ใช่ และเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะได้ยินเสียงของ แจ็ค มูร์ธา เขาเคยเป็นวิทยากรรับเชิญประจำในชั้นเรียนที่นี่้ในมหาวิทยาลัยของเรา และศุนย์ มูร์ธาตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย เขาเป็นผุ้ปกป้องภูมิภาคอย่างมั่นคง รวมถึงมรดกและอดีตของอุตสาหกรรมเหล็ก 

        จอห์นสทาวน์ เป็นผุ้เล่น แคมเบรีย เคาท์ตี้ เป็นผุ้เล่นคตนหนึ่ง ในระดับประเทศ แจ็ค มูร์ธา ก็เป็นผุ้เล่นคนหนึ่ง และฉันคิดว่ามีความรุ้สึกในเคาน์ตี้และในเมืองว่าอดีตของ จอห์นสทาวน์ เป็นสิ่งที่ไม่ได้รัีบการเคารพและเสื่อมถอยลง ดังนั้นฉันคิดว่มีความคิดถึงและความขุ่นเคืองเล็กน้อย และอย่างที่คุฯชี้ให้เห็น จอห์นสทาวน์ เป็นเมืองเหล็ก "รัสเบลส์" ที่เป็นสัญลักษณ์ซึ่งเป็นตัวแทนของ จอห์นทาวน์ ไม่เพียงแต่ในเพนซิลเนียตะวันตกเฉียงใตัเท่านัน แต่ยังรวาถึงเขต รัศเบลส์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือด้วย

        https://www.wbur.org/onpoint/2024/10/01/cambria-county-pennsylvania-voters-2024-trump-harris

       

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Reasons voters support for the candidate

             หลายๆ คนทางฝ่ายซ้ายไม่เข้าใจวามครคือผุ้ลงคะแนนให้ทรัมป์และ่มีความแตกต่างกันอย่างไร
ฐานเสียงของทรัมป์ไม่สามารถถูกมอง่าเป็นพวกเหยีดผิว หรือเป็นชาวบ้านนอกที่สวมหมวก MAGA สีแดงได้ ผุ้ที่ลงคะแนนให้ทรัมป์มัีกมีอายุมากว่า เป็นคนผิวขาว เป็นชาวชนบท เป็นคนเคร่งศาสนาและมีากรศึกษาต่ำแต่พวกเขายังรวมถึงคนอื่นๆ ที่อยุ่นอกกลุ่มประชากรเหล่านั้นด้วย

           หลายๆคนมีเหตุผลที่รอบคอบในการลงคะแนนเสียงให้ทรัมป์ ปม่้ว่าเหตุผลของพวกเขา(ซึ่งก็เป็นจริงสำหรับผุ้ที่อยุ่ฝ่ายซ้ายเช่นกัน) มักได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนที่มีแนวคิดประชานิยมและแพลตฟอร์มสื่อต่างๆ ก็ตาม

           แนวคิดหลัก 5 ประการมี่เมืองใช้ผสมผสานกันจะส่งผลต่อการตัดสินใจของผุ้ลงคะแนนให้ทรัมป์

           -สื่อ กับอาการเกลียดทรัมป์ Trump Derangment Syndrome หรือ TDS ตามแนวคิดนี้ สื่อฝ่ายซ้ายวิเคราะห์ทุกคำพูดของทรัมป์ จากนั้นสือก็บิดเบือนสิ่งที่เขาพูด ผุ้สสนับสนุนทรัมป์บางคนคิดว่าคนที่เสพสื่อที่ลำเอียงมากเกินไปอาจเกิดอาการ TDS และเร่ิมเกียดทรัมป์อย่างรุแแรง ผุ้สนับสนุนหัวรุนแรงของทรัมป์เพียงโดยไม่มีหลักฐานว่าสื่อที่เสนอข่าวปลอม เป๋็นส่วนหนึ่งของแผนการของรัฐบาลกลางที่มุ่งทำลายเจตจำนกของประชาช แผนการนี้ตามที่ผุ้เผยแพร่อ้าง ไม่เพียงแต่รวมถึงกลุ่มฝ่ายซ้าย ข้ารชการ และผุ้ที่อ้างว่าตนเป็นพรรครีพับลิกัน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายด้วย

          ผุ้สนับสนุนทรัมป์บงคนยังเห็นว่าการที่เขาโต้แย้งว่าเขากำลังถุกข่มเหงอย่างไม่เป็นะรรม ก็มีความเหมาะสม เช่นเดียวกับที่บาคนมองว่าจะเลยในวันที่ 6 มกราคมถุกข่มเหงเช่น กัน 

          - เศรษกิจ  "คุณดีขึ้นกว่าเมือสี่ปีที่แล้วหรือเปล่า" สำหรับผุ้ลงคะแนนให้ทรัมป์หลายๆ คน คำตอบสำหรับคำถามอันโด่งดังของโรนัลด์ เรแกนนั้นชัดเจน.."ไม่" พวกเขาจำคำพุดของทรัมป์ได้อย่างถุกต้องว่าเป็นหนึ่งในคำพูดที่พุดถึงการลดหย่อนภาษีการเติบดตทางเศราฐฏิจและจุดสุงสุดของตลาดหุ้น 

            เป็นเรื่องจริงที่ตังเลขการจ้างงานโดยรวมและค่าจ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นภายใต้การนำของประธานาธิบดี ดจ ไลบเดน แต่สำหรับผุ้สนับสนุนทรัมป์บางส่วนการเติบโตทางเศรา,ฏิจนั้นดุเล็กน้อยเมื่อเที่ยบกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงข้นอย่างมากในช่วงที่ไบเดนดำรงตำแหน่ง โดบยราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นเกือบ 20%  แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงแล้วเมือเร็วๆ นี้  แต่ราคาสินค้ายังคงสุงอยุ่ ซึ่งผุ้มีสิทธิเลือกตังจะต้องนึกถึงเรื่องนี้ทุกวันเมือไปซื้อของที่ร้านขายของชำ 

 ผลสำรวจยงแสดงให้เห็นว่าทรั้มป์มีคะแนนนำ ในเรื่องวิะีการจัดการเศรษฐกิจ 

           - ปัญหาชายแดน อีกเหตุผลหนึ่งที่คนอเมริกันบางคนต้องการลงคะแนนเสียงให้ทรัมป์ คือ เรื่องการย้ายถิ่นฐาน เช่นเดียวกัีบอัตราเงิเฟ้อ จำนวนคนที่ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายพุ่งสุงขึ้นภายใต้การบริหารของ ไบ เดน การหลั่งไหลเข้ามาอย่างมหาศาลของ ไคนต่างดาวผิดกฎหมาย" ตามที่ทรัมป์เรียกนั้นลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ในเดื่อนกรกฎาคม 2024 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลของไบเดนทำให้ผุ้อพยพยากข้นในการยื่นขอสภานะผุ้ลี้ภัยที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ซึ่งเป็นมาตรกรนโยบายที่สอดคล้องกับแนวทางของพรรครีพับลิกันหลายคน 

            จากการสำรวจความคิดเห็นใสนปี 2022 พบว่าสมาชิกพรรครีพับลิกัน 7 ใน 10 คนมีความกัววลว่า "พรมแดนเปิด" เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของพรรคเดโมแครตที่ต้องการขยายอำนาจของพรรคเสรีนิยมโดยการแทนที่คนผิวขาวฝ่ายอนุรักษ์นิยมด้วยชาวต่างชาติที่ไม่ใช่คนผิวขาว

           ในปี 2022 พรรครีพับลิกัน 82% กล่าวว่าพวกเขาเห็นว่าการย้ายถ่ินฐานเป็นปัญหาที่ สำคัญมาก ทรัมป์ยังคงเสนอวิธีแก้ปัญหาที่เขาเสนอ ซึ่งรวมถึงการปิดพรมแกน สร้างกำำง และเนรเทศผุ้อพยพ11 ล้านคนที่อาศัยอยุ้่ในสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

           - สงคราม ผุ้ที่เลือกทรัมป์บางคนเพียงเปรียบเทียบบันทึกของทรัมป์และไบเดน แฮร์ริสแล้วพบว่าผลคะนนเอียงไปทางทรัมป์อย่างแน่นอน และไม่ใชแ่คเรื่องเศราฐกิจและการย้ายถ่ินฐานเท่านั้น  ...ไม่มีสงครามใหม่เกิดขึ้นภายใต้การนำของทรัมป์ ในทางตรงกันข้าม ไบเดน แฮร์ริสต้องแบกรับภาระการรุกรานยูเครนของรัสเซียและากรรุกรานฉนวนกาซาของอิสราเอล ผุ้สนับสนุนทรัมป์มองว่าผุ้เสียงภาษีชาวอเมริกันต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ แม้วาประเทศอื่นๆ จะบริจาคเงินให้กับยูเครน เช่นกัน และอิสราเอลก็ซื้อาวุธจากสหรัฐฯเช่นกัน ผู้สนับสนุนยังคิดว่าทรัมป์เหมาะกับการรับมือกับจีนมากกว่าแฮร์ริส

           - ลักษณะการเป็นนักสุ้ของทรัมป์ หลังจากถูกพยายามลอบสังหาร เขาชูกำปั้นขึ้นหลังจากรอดพ้นความตาย  

           และอีกด้านหนึ่ง  ห้าเหตุผลที่ผุ้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนแฮร์ริส

           - ผุ้นำที่มีความสงบและมั่นคง สำหรัีบชาวเดโมแครตจำนวนมากและชาวรีพับลกันบางคนที่ "ม่เคยเลือกทรัมป์" เหตุผลสำคัหระการหนึ่งในการลงคะแนนให้แฮร์ริสดูจะชัดเจน นั้นคือ เธอไม่ใช่ทรัมป์ พวกเขาดต้แย้งว่าทรัมป์เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปำตยแบบเบ็ดเสร็จซึค่งต้องหยุดยั่งให้ได้

           ทรัมป์เป็นผุ้จุดชนวนให้เกิดควมแตกแยก ขณะที่กล่าวร้ายผุ้หยิงผุ้อพยพและคนผิวสีเขามักโกหกไม่หยุดหย่อนและทำบายความไว้วางใจที่มีต่อสื่อลแะสถาบันของรัฐบาล 

           ผุ้เลือกแฮร์ริสยังชี้ให้เห็นว่าทรัมป์ได้กระทำการอันสมควรได้รับการถอดถอน ปฏิเสธที่จะยอมรับในการเลือกตั้งปี 2020 และยุยงให้เกิดการกบฎ นอกจากนี้ ประวัติของทรัมป์หลังจากดำรงตำแหน่งปรธานาะิบดี ผุ้สนับสนุนแฮร์ริสกล่าวว่าทรัมป์ยังคงพูดโกหก ขู่ ใช้ความรุนแรงอย่างคลุมเครือและโจมตีสถาบันของรัฐบาลว่าอยุ่ภายใต้การควบคุมของ "รัฐลึก" เขาสัญญาว่าจะข่มเหงศัตรุทางการเมืองและกลายเป็นเผด็จการใน "วันแรก" หากได้รับการเลือกตังอีกครั้ง

          ผุ้มีสิทธิเลือกตังของแฮร์ริสชขี้ให้เห็นว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนรวมถึงผุ้ที่ทำงานร่วมกับทรัมป์เดตือนเกี่ยวกับอันตรายของการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของทรัมป์ ซึ่งอาจสงผลตังแต่ความรุนแรงทางการเมอืงที่ได้รับอนุมัติไปจนถึงการละเมิดสิทะิมนุษยชนขอประชาชน

         ในทางตรงกันข้าม พวกเขาโต้แย้งว่าแฮร์ริสผสมผสานความเป็นผุ้นำที่มั่นคงเข้ากับข้อความแห่งการเปลี่ยนแปลง ความสงบ ความซื่อสัตย์และความหวังเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

        ผุ้สนับสนุนสิทธิการสือบพันธุ์ ผุ้สนับสนุนแฮร์ริสจำนวนมากเฝ้าดุด้วยความตื่นตระหนกเมือทรัมป์แต่งตังผุ้ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมเข้าสุ่ศาลฎีกาและให้คำมัี่นว่าจะพลิกคดี โรว์ วี.เวดด์ ความตื่นตระหนกดังกล่าวได้กลายมาเป็นความตื่นตระหนกเมือศาลตัดสินพลิกคำตัดสินคดี โรว์ วี. เวดด์ ในปี 2022 ซึ่นำปสุ่กฎหมายการทำแท้งที่เข้มงวดมากขั้นในรฐตางๆ ที่พรรครีัพบลิกันควบคุม 

         ในทางตรงกันข้าม แอร์ริสมีประวัติการละเมิดสิทธิการทำแท้ง อย่างกว้างขวาง เธอได้สัฐฐาว่าจะ "คือนเสรีภาพในการสืบพันธ์" และรวบรวมกฎหมาย โรว์ วี. เวดด์ แม้ว่าจะหมายถึงการขจัดการอภิปรายยืดเยื้อในรัฐสภาที่อาจป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการดังกลบ่าวขึ้นก็ตาม

        ไม่น่าแปลกใจที่การทำแท้งและการแต่งวตั้งผุ้พิพากษาศาลฎีกาเป็น 2 ใน 3 ประเด็นสำคัญขอผุ้สนับสนุนแฮร์ริส 

        สำหรับผุ้สนับสนุนแฮร์รสบางคน การที่ทรัมป์ไม่สนับสนุนสิทธิการทำแท้งและการโกหกเกี่ยวกับประเด็นนี้เป็นเพียงสัญญาณอีกประการหนึ่งของการเกลี่ยดชังผุ้หญิงของเขา คำพุดหยาค่ยของทรัมป์ที่เปิดเผยต่อสาะารณะในปี 2016 เป็นเพียงจุดเร่ิมต้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 ผุ้พิพากษาประจำเขตได้ตัดสินให้ทรัมป์ต้องรับผิดในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ

     
 ไม่น่าแปลกใจที่ผุ้หยิงสนับสนุแฮร์ริสมากกว่ทรัมป์มากกว่า 20% ผุ้สนับสนุนแฮร์ริสหลายคนมีความรู้สึเช่นเดียวกับที่โอปราห์ วินฟรีย์ แสดงออกมาเมือเธออธิบายถึงการสนับสนุนผุ้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครต โดยกล่าวในปี 2024 ว่า "เสรีภาพทั้งหมดที่แันมี ความสำเร็จที่แันมี ฉันรู้่สึกว่าสิ่งเหล่านี้กำลังตกอยู่ในควมเสี่ยงในช่วงเวลานี้" 

      นอกจากนี้ ฉอร์ริสยังได้รับกรสนับสนุจาก(ุ้ม่ีสิทธิเลือกตั้บที่เป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งในเมืองและชานเมือง ผุ้มีการศึกษาในระดับอุดมศึกา และผุ้ที่ไม่ใช่คนผิวขาวซึ่บหลายคนมอง ว่าความยุติะรรมทางสังคมหรือความมุ่งมั่นต่อความเป็นธรรมในสังคมนั้นเป็นเรื่องบที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง

         - ผู้ปกป้องการดุถแลสุขภาพ การดูแลสุขภาพเป็นอีกหนึงประเด็นสำคัญสำหรับผุ้สนับสนุนแฮร์ริส มีผุ้ลงทะเบียนแผนประกันสุขภาพ ตามพรบ. "แอฟฟอร์ดเทเบิล แคร์ แอค" มากกว่า 20 ล้านคนและมีผุ้คนอีกเกือบ 20 ล้านคนที่ได้รับความคุ้มครองจากแผน "เมดิเคอิด" ที่เกียวข้อง นั้นเป็นากว่าร้อยละ 10 ของประชากรสหรัฐฯ

          ทรัมป์พยายามยกเลิกกฎหมายนี้ ซึ่งเขาเรียกว่า "โอบามาแคร์" ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เขายังคงต้องการแทนที่กฎหมายนี้อยู่ โดยไม่ม่ีแผนที่ชัดเจนวาจะดำเนินการอย่างไร เหตุการณืดังกล่าวทำให้ผุ้ที่มีแนวโน้มจะเป็นผุ้มีสิทธิเลือกตังของแฮร์ริสหลายคนเกิดความกังวลเกี่ยกับระบบประกันสุขภาพ 

           การโจมตีของทรัมป์ต่อประเด็นด้านความยุติะรรมทางสังคมอื่นๆ โดยเฉพาะความเท่าเทียมทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์ซึ่งผุ้สนับสนุนแฮร์ริสมากกว่าครึ่งหนึ่งระบุว่า "สำคัญมาก" 

         ในทางตรงกันข้าม แฮร์ริสได้สัญญาที่จะเป็น "ประธานาธิบดีสำหรับคนอเมริกันทุกคน" โดยสงสัญญาณการสนับสนุนกลุ่มคนที่มีควมหลากหลายในประเทศ

        ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากของแฮร์ริสมีความกังวลเกี่ยวกับระบบสวัสดิการสังคมที่ได้รับเลิ่นสนับสนุจากรัฐบาล ซึ่งรวมถึงประเด็นต่างๆ 

          - ความสามารถในการประสาน เหตุผลอีกประการหนึ่งที่คนชอบแอร์ริสก็คือพวกเขาคิดว่าเธอสร้างสะพาน ในด้านในประเทศ ผุ้สนับสนุนของเธอเชื่อว่าเธอสามารถรักษาความแตกแยกที่ทำให้ประเทศแตกแยกในช่วงแปดปีที่ผ่านมาได้ 

          ในด้านกิจการต่างประเทศ แฮร์ริสสัญญาว่าจะรักษาพันธมิตรระหว่างประเทศที่สำคัญ เช่น นาโต้ ซึ่งทรัมป์ขุ่ว่าจะถอนตัีวออก

         ผุ้สนับสนุนแอร์ริสยังสังเกตุวาเธอสามารถสร้างสะพานเชื่อมระกวางสองฝ่ายในสหรฐอเมริกาได้ การบริหารของไบเดน แฮร์ริสประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งในการผ่านกฎหมายที่พรรคทั้งสองสนับสนุนรวมถึงพรบ.การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการจ้างงานปี 2021 แฮร์ริสยังสัญญาว่าจะสนับสนุนการปฏิรูปการย้ายถ่ินฐาน ที่พรรคทั้งสอง สนับสนุนซึงต่อนนี้เธอเน้นย้ำบ่อยครั้งว่าถุกขัดขวางโดยทรัมป์ แม้ว่าพรรครีพับลิกันจะสนับสนุนร่างกฎมหายปฏิรูปที่พรรคทั้งสองสนับสนุนซึ่งมีแนวโน้มที่จะผ่านสภคองเกรส ผุ้สนับสนุนบางคนยังชี้ให้เห็นถึงความสามรรถของเธอในการแก้ไขปัญหาต่งๆ เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งที่รัฐบาลของไบเดน แฮร์ริสช่วยแก้ไขผ่าน พรบ.ลดอัตราเงินเฟ้อปี 2022

         ก้าวไปข้างหน้า ผุ้สนับสนุนบางคนยังสนับสนุนแฮร์ริสเพราะพวกเขามองว่าเธอเป็นผุ้สมัครที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง 

        เมื่อแฮร์ริสเข้ามาแทนที่ปรธานาธิบดี โจ ไบเดน ผุ้มีสิทธิจากหลากหลายกลุ่มประชากรต่างก็รุ้สึกตื่นเต้นกับความเยาว์วัยของเธ เอกลักษณ์ของเธอที่เป็นลูกครึ่ง ความชัดเจน และข้อความเชิงบวกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและความเป็นไปได้ ซึ่งตรงข้ามกับความกลัว...

       https://theconversation.com/why-would-people-vote-for-kamala-harris-5-things-to-understand-about-why-her-supporters-back-her-239921

       https://theconversation.com/why-do-people-still-back-trump-after-everything-5-things-to-understand-about-maga-supporters-thinking-239031

           

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567

If there’s a tie in 2024!!!

          แม้วาจะไม่น่าจะเกิดผลเสมอกัน แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ต่อไปนี้คือสถานการณ?ี่เป็นไปได้สำหรับ

การเลือกตั้งในปี 2024 
          หากแฮร์ริสชนะในรัฐวิสคอนซิน มิชิแกน แอริโซนา และเนวาดา และชนะคะแนนเลือกตั้งเพียงคะแนนเดียวในเนแบรสกา ซึ่ง โจไบเดนชนะทังหมดในปี 2020 และถ้าเธอแพ้ในัฐเพนซิลเวเนียและจอร์เจีย ก็จะเสมอกันที่ 269-269 และยังมีสถานการณ์การเลือกตั้งที่อาจเสมอกันอีกมากมาย ( website 270 to Win) 
           ต่่างจากรัฐอื่นๆ เมนและเนแบรสกาจะมอบผุ้เลือกตั้งสองคนให้กับผุ้ชนะในระดับรัฐและอีกหนึงคนให้กับผุ้ชนะในแต่ละเขตเลือกตั้งของรัฐสภา คะแนนเสีียงเลือกตั้งที่แข่งขันกันเองในเมนและเนแบรสกาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่คะแนนเสียงเสมอกัน 
          หากมีคะแนนเท่ากันที่ 269-269 หรือหากผุ้สมัครจากพรรคการเมืองทีสามหรือผุ้สมัครอิสระชนะคะแนนเลือกตั้งและทำให้ผุ้สัครรายหนึ่งไม่สามารถได้คะแนนเสียงคะณผุ้เลือกตั้ง 270 เสียง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นแบบเดียวกัน เรียกว่า "การเลือกตังแบบมีเงือนไข" 
          ตามการแก้ไขเพ่ิมเติรมรัฐธรรมฯุญครั้งที่ 12 ซึ่งบัญญัติขึ้นภายหลังการเลือกตั้งที่แตกแยกในปี 1800 หากไม่มีผุ้สมัครคนใดได้รับคะแนนเสียงจากคณะผุ้เลือกตงส่วนใหญ๋ รัฐสภาชุดใหม่ซึ่งเพ่ิงจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมือวันที่ 3 มกรคม จะเป็นผุ้เลือกประธานาธิบดี ส่วนวุฒิสภาจะเป็นผุ้เลือกรองประธานาธิบดี ตามการวิเคราะห์ของ "คองเกรสชั่นแนล รีเสิร์ต เซอร์วิส" การเลือกตังฉุกเฉินจะเกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม ทันที่หลังจากสมาชิกรัฐสภาประชมเพื่อนับคะแนนเสียงลเือตั้งและตัสินใจว่าไม่มีผุ้สมัครคนไดมีเสียงข้างมาก
          ซึ่งจะเห็นความแตกแยกชัดเจน สมาชิกรัฐสภาอาจต้องตัดสินใจเลือกระกว่างการสนับสนุนผุ้สมัครที่ตนต้องการและผุ้สมัครที่ประชาชนในรัฐต้องการ 
          ในการเลือกต้งแบบมีเงื่อนไข สภาผุ้แทนราษฎรจะเลือกประธานาธิบดีและวุฒิสภาจะเลือกรองประธานาธิบดี สมาชิกสภผุ้แทนราษฎรสามารถเลือกจากผุ้เข้าชิงตำแหนงปรธานาธิบดีจาก 3 อันดับแรกในคณะผุ้เลือกตั้งเท่านั้น ส่วนวุฒิสมาชิกสามารถเลือกจาก 2 อันดับแรกในการเลือกรองประะานาธิบดีได้ เคนเนดีอาจต้องชนะคะแนนเสียงเลือกตังไม่ว่าจะเป็นชนะในรัฐหรือเขตเลือกต้งในสภาคองเกรสในเนแบรสกาหรือ เมน เพื่อที่จะเป็นตัวเลือกสนากรเลือกตั้งแบบมีเงือนไข ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ในขณะนี้
         แทนที่จะลงคะแนนเสียงเป็นรายบุคคล คณะผุ้แทนแต่ละรัฐในสภาจะมีสิทธิลงคะแนนเสียงหนึ่งเสียง แม้ว่าคะณะผุ้แทนแต่ละรัฐจะเลือกผุ้สมัคที่้องการอย่างไรก็ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจน เสียงส่วนใหญ่ธรรมดาซึ่งก็คือเสียงของคณธผุ้แทน 26 เสียง จะเป็นผุ้แต่งตั้งประธานาธบดีคนใหม่ 
        หากคณะผุ้แทนของรัฐในสภาผุ้แทรราษำรไม่เลือกประะานาธิบดีภายในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มกราคม รองประธานาะิบดีคนใหม่ที่ได้รับการคัดเลือกจากวุฒิสภา จะดำรงตำแหน่งประะานาะิบดีชั่วคราว เป็นไปได้ที่วุฒิสภาจะเลือกรองประธานาธิบดีได้เมือสภาผุ้แทนราณำรไม่มีเสียงลงมติ เนื่องจากในวุฒสภา วุฒิสมาชิกแต่ละคนจะมีสิทธิลงคะแนนเสียงหนึ่งเสียง
        หากวุฒิสภาไม่ได้เลือกรองประะานาะิบดีภายในวัจที่ 20 มกราคม แผนการสืบทอดตำแหน่งประะานาธิบดีตามการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐะรรมฯุญครังที่ 20 จะมีผยังคับใช้ชั่วคราว ผุ้ที่อยุ่ในตำแหน่งลำดับแรกรองจากรองประะานาธิบดีคือประธานาสภผุ้แทนราษฎร ซึ่งปัจุบัน คือ ไมค์ จอห์สัน แม้ว่าอาจเป็นพรรครีับลิกันหรือเดโมแครตคนอื่นก็ได้ หากพรรคเดโมแครตชนะเสียงข้างมากในสภาผุ้แทนราษำรในเดือนพฤศจิกายนนี้ ุ้
          หากคณะผู้เลือกตังได้ให้ประโยช์แก่รัฐที่มีขนาดเล็กและอยุ่ในชนบทมากขึน กระบวนการเลือกตังแบบฉุกเฉินซึ่งแต่ละรัฐไม่ว่าจะมีประชากรเท่าใดก็ตามก็จะมีข้อได้เปรียบมาก
           แคลิฟอร์เนียและเท็กซัสมีสิทธิออกเสียงเท่ากับเดลาแวร์และไวโอมิงในการเลือกตั้งฉุกเฉิน นอกจากนี้ วอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งได้รับคะแนนเสียงจากคณะผุ้เลือกตั้ง 3 เสียง จะถูกตัดออกจากการเลือกตั้งฉุกเฉิน
           ไม่จำเป็นที่ต้องให้คณะผุ้แทนรัฐต้องให้เกี่ยติผุ้ชนะการลงคะแนนเสียงของรัฐ และในรัฐที่แบ่งคะแนนกันอยา่งสุสี ผลการเลือกตังในแต่ละที่นั่งซึ่งอาจกำหนดโดยแผนที่แบ่งเขตเลือกตั้งของรัฐสภา อาจเปลี่ยนคะแนนเสียงของคณะผุ้แทนได้
          ก่อนการเลือกตั้งในปี 2024 สมาชิกรัฐสภาพรรครีับลิกันครองเสียงข้างมากใน 26 รัฐ เมือเทียงกับพรรคเดโมแครตซึ่งตรองเสียงข้างมากใน 22 รัฐ โดยมีคะแนนเท่ากันในรัฐมินนิโซตาและนอร์ทแคดรไลนา อย่างไรก็ตาม สมาชิกรัฐสภาพรรครีบลิกันในนอร์ทแคดรไลนาได้เปลี่ยนแผนผังสภาคองเกรสของรัฐ และมีแนวโ้มว่าจะมีคณะผุ้แทนรัฐสภาที่เป็นพรรครีพับลิกันในนอร์ทแคโรไลนาได้เปลี่ยนแผนผังสภาคองเกรสของรัฐ และมีแนวโน้มว่าจะมีคณะผุ้แทนรัฐสภที่เป็นพรรครีพับลิกันเสียงข้างมากในเดือนมกราคม พรรครีัพบลิกัน่าจะยังคงรักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้ในปีหน้า โดยเฉพาะอยางยิ่งหากผุ้มีสิทธิเลือกตั้งมีความเห็นแตกต่างกันมากจนสามารถลงคะแนนเสียงได้เท่ากันทั้งประเทศ
           ตัวอย่่างเช่น ในรับแริโซนา ใครจะพุดว่าสมาชิกสภาคองเกรสของพรรครีัพบลิกัส่วนใหญ่จะยังคงเลือกผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตแม้วาแฮร์ริสจะชนะ การเลบือกต้งอย่างฉิวเฉียดก็ตาม สมาชิกสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครตขอรัฐอะแลสกาจะเลือกผุ้สมัครจากพรรคเดโมแครตเป็นประะานาธิบดีหรือไม่ แม้ว่ารัฐของเธอจะมีแนวโน้มที่จะเลือกทรัมป์ในเดือนพฤศจิกายนก็ตาม
         จริงๆแล้วระบบการเลือกตั้งฉุกเฉิน คือการปรับปรุง วิธีการจัดตั้งคณะผุ้เลือกตั้งครั้งแรก ผุ้เลือกตั้งจะลงคะแนนให้กับผุ้สมัครสองคน ใครก็ตารมที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดจะเป็นปรธานาธิบดี และใครก็ตามที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดเป็นอันดับสองจะได้เป็นรองประธานาธิบดี
          ในช่วงเวลาที่เร่ิมมีการตั้งพรรคการเมองขึ้น ทั้งพรรค เฟดเดอร์ราลริสต์ และพรรคเดโแมครต-รีพับลิกันในปี 1781 ผุ้เลือกตั้งต้องประสานงานกันเืพ่อลงคะแนนเสียงให้กับผุ้สมัครชิงตำแหน่งประะานาธิบดีมากกว่ผุ้สมัครรองประะานาธิบดี 
         ในการเลือกตั้งปี 1781 ซึ่งเป็นการแข่งขันซ้ำของปี 1777 พรรคเดโแมครต-รีพับลิกันของเจฟเฟอร์สันเอาชนะจอห์ อดัมส์ ประะานาธิบดีคนปัจจุบันและผุ้เป็นสมาชิกพรรคเฟเดอรัลลิสต์ แต่ เดโมแครต-รีพับลิ
กันประสานงานกันไม่ดีหรือนับคะแนนได้ไม่ดีและลงคะแนนเสียงอย่างโง่เขลาให้กับเจฟเฟอร์สัน ซึ่งเป็นผุ้ที่จะมาเป็นประะานาธิบดี และเอบร์รี ซึ่งเป็นคู่หุของเขา ในจำนวนที่เท่ากัน เมื่อถึงคราวเลือกตั้งขั้นต้น พรรค เฟดเดอร์ราลิสต์ ซึ่งยังคงควบคุมสภาผุ้แทนราษำรในขณะนั้น ได้สนับสนุนเบิร์รด้วยความไม่พอใจ แม้จะมีอเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน ผุ้สนับสนุน เฟดเดอร์ราลิสต์ ทีีมีชื่อเสียงเขั้ามาแทรกแซง แต่ก็ต้องลงคะแกนนเสียงถึง 36 รอบจึงจะเลือกเจฟเฟอร์สันได้ในที่สุด 
         ในปี 1785 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐะรรมนูญครั้งที่ 12 ได้มีการให้สัตยาบัน
          ในปี 1824 ผุ้สมัครหลายคนได้รับคะแนนเสียงในคณะผุ้เลอกตั้งแต่ไม่มีใครได้รับคะแนนเสียงข้างมาก จึงต้องมีการเลือกตั้งฉุกเฉิน ที่น่าทึ่งจากมุมมองในปัจจุบัน คื อผุ้สมัครทั้งหมดล้วนมาจากพรรคการเมือง เดโมแครต-รีพับลิกัน พรรคเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะแยกเป็นหลุ่มตามภูมิภาคก็ตาม 
         การเลือกตั้งฉุกเฉินอีกครั้งเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งในปี 1836 แต่จัดขึ้นเพื่อรองประธานาธิบดีเท่านั้น ผุ้เลือกตั้งอขงรัฐเวอร์จิเนียไม่ชอบโรเบิร์ต เอ็ม. จอห์สัน เพื่อร่่วมทัมของมาร์ติน แวน เบอเรน ผุ้ได้รับชัยชนะในการเลือกต้้ง และไม่ลงคะแนนเสียงให้เขาในคณะผุ้เลือกตั้ง ต่อมาวุฒิสภาได้เลือนตำแหน่งจอห์นสันเป็นรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งฉุกเฉิน
         .ในปี 1876 เมือ่ผลการเลือกตั้งเกิดการโต้แย้ง ระบบการเลือกตั้งเบบเลือกทางเลือกจังถุกยกเลิก ในปีนั้น ในช่วงที่ากรฟื้นฟุกำลังถึงจุดสูงสุด ประเด็นไม่ได้อยุ่ที่ว่ามไ่มีผุ้ใดได้รับเสียงข้างมากในคณะผุ้เลือกตั้ง แต่เป็นเรือ่งที่รัฐทางใต้ 3 รัฐ ได้แก่ ฟลอริดา หลุยเซยนา และเซาท์แคโรไลนา ส่งรายชื่อผู้เลือกต้งหลายขุดไปที่วองชิงตัน ดี.ซี. หลังจากากรเลือกตั้งระดับรัฐถูกโต้แย้งและในรัฐโเรกอน ก็มีข้อพิพาทเกี่ยวกับผุ้เลือกตั้งหนึ่งราย
         รัฐสภาได้จัดตั้งคณะกรรามาะิการพิเศษี่ประกบด้วยสมาชิกพรรครีัพบลิกันมากกว่าพรรคเดโมแครตหนึงคน เพื่อตัดสินว่าผุ้สมัครคนใดควรได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้ง 20 เสียงที่ดต้แย้งกัน ในท้ายทีสุด คณะกรรมาะิการได้มองคะแนนเสียงให้กับรัทเทอร์ฟอร์ด บี. เฮย์ส สมาชิกพรรครีัพบลิกัน แม้ว่าซามูเอล ทิลเดน สมาชิกพรรคเดโมแครตจะได้คะแนนนิยมมากกว่าก็ตาม ต่อมา อฉย์ส ได้ยุติโครงการฟื้นฟุเป็นส่วนใหญ่อาจเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงลับที่ทำให้เขาได้ทำเนียบขาว....https://edition.cnn.com/2024/08/04/politics/tie-presidential-election-what-matters/index.html




Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...