นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่แบ่งประวัติศาสตร์อัสซียเรียโบราณในยุคสัมฤทธิ์ตอนต้นถึงยุคเหล็กตอนปลายตามเหตุการณ์ทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปของภาษา ซึ่งแบ่งออกเป็นสมัยอัสซีเรียตอนต้น(2600-2025 ปีก่อนคริสต์กาล) สมัยอัสซีเรียเก่า ( ประาณ 2025-1364 ก่อนคริสตา) สมัยอัสซีเรียกลาง (ประมาณ 1363-912 ปีก่อนคริสต์กาล) สมัยอัสซ๊เรียใหม่ (ประมาณ 911-609 ปีก่อนคริสต์กาล) และอัสซ๊เรียสมัยหลังจักวรรดิื( 609 ปีก่อนริสกาล - ประมาณค.ศ. 240)
อัสซูร์ เป็นเมืองหลวงแรกของอัสซีเรีย ได้รับการจัดตั้งขึ้น ประมาณ 2600 ปีก่อนคริสตกาล แต่ไม่มีหลักฐานว่านครนี้กลายเป็นเอกราชจนกระทั่ง ราชวงศ์อูร์ที่ 3 ล่มสลาย ในศตวรรษที่ 21 ก่อนคริสตกาล อำนาจอัสซีเรียมีจุดศูนย์กลางในใจกลางในใจกลางอัสซีเรีย ในเมโสโปเตเมียตอนเหนือผันผวนตามกาลเวลา นครนี้ตกอยู่ภายใต้ดินแดนและการปกครองของต่างชาติมาหลายช่วงก่อนที่อัสซีเรียจะรุ่งเรืองชค้นในศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสต์กาล ในสมัยอัสซีเรียกลาง ในสมัยอัสซีเรียกลางและใหม่ อัสซีเรียถือเป็นหนึ่่งในสองอาณาจักรหลักในเมโสโปเตเมีย ร่วมกับ บาบิโลนเนีย บริเวณตอนใต้ และในเวลานั้นถือเป็นมหาอำนาจในตะวันออกใกล้โบราณ อัสซ๊เรียอยู่ในช่วงสูงสุดในสมัยอัสซีเรียใหม่ โดยกองทัพอัสซีเรียเคยเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และถือเป็นหนึ่งในจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก กินนพื้นที่ในอิหร่านทางตะวันออกถึงอียิปต์ทางตะวันตกในปัจจุบัน
จักรวรริอัสซ๊เรียล่มสลายปลายศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสต์กาล โดยถูกพิชิตจากพันธมิตรของบาบิโลนและมีดส์ ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอัสซีเรียมากว่าศตวรรษหนึ่ง วัฒนธรรมและธรรมเนียมอัสซีเรยโบราณยังคงดำรงอยู่หลายศตวรรษ อัสซีเรียได้รับการฟื้นฟูในสมัยจักรวรดิ ซิลูซิดและพาร์เธีย แม้ว่าภายหลังเสื่อมสลายอีกครั้งในสมัยจักรวรรดิซาเซเนียนที่ปล้นสดมหลายเมือง รวมถึงอัสซูร์ด้วย ชาวอัสซีเรียที่เหลือในเมโสโปเตเมียตอนเหนือหันไปนับถือศาสนาคริสต์ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 เป็นต้นมา ศาสนาเมโสโปเตเมียโบราณ ยังคงอยู่ในอัสซูร์จนกระทั่งการปล้มสดมครั้งสุดท้ายในคริสต์ศตวรรษที่ 3 และในกลุ่มคนที่ยึดมั่นบางส่วนในหลายศตวรรษ่ถัดมา
ความสำเรจของอัสซเรียโบราณไม่ได้มาจกกษัตริย์ นักรบที่พลังอย่งเดียว แต่ยังมีความสามารถในการรวมและปกครองดินแดนที่ถูกยึดครองอย่างมีประสิทธิภาพฝ่านระบบการบริหารที่ซับซ้อน นวัตกรรมในสงครามและการบริหารที่บุกเบิกในอัสซีเรยโบราณถงูกนำมาใช้ในจักรวรรดิและรัฐในสหัสวรรษถัดมา อัสซีเรียโบราณบังทิ้งมรดกที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมอันย่ิงใหญ่ โดยเฉพาะในจักวรรดิิัสซีเรียใหม่สร้างความประทับแก่อัสซีเรียยุคหลัง รวมถึง กรีก-โรมัน และวรรณกรรมกับะรรมเนียมทางศาสนาในภาษาฮิบรู
เอกราชอัสซีเรีย เป็นขบวนการทางการเมืองและลัทธิสนับสนุนการสร้างดินแดนอัสซียเสำหรับชาวคริสต์อัสซีเรียที่พูดภาษาแอราเมอิกในภาคเหนือของอิรัก การต่อสู้ของขบวนการเอกราชอัสซีเรียเร่ิมตั้งแตสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงปัจจุบัน บริเวณที่ชาวอัสซีเรียอาศัยอยู่คือบริเวณเนินนาว-โมซูล ซึ่งเป็นที่ตั้งของนินเนเวห์ เมืองหลวงของอัสซีเรียในคัมภีร์ไบเบิล บริเวณนี้เป็นที่รู้จักในชื่อสามเหลี่ยนมอัสซีเรีย
ชาวอีรักเชื้อสายเติร์เมน บางครั้งเรียกเป็น เตอร์โกแมน มีอีกชื่อว่า ชาวอีรักเชื่อสายเติร์ก ชาวอิรัก-ตุรกี หรือชนกลุ่มน้อย อิรัก-เติร์ก เป็นชาวอิรักที่มีต้นกำเนิดเป็นชาวเติร์ก ซึ่งยึดมั่นในมรดกและอัตลักษณ์ของเติร์ก พวกเขาเป็นลูกหลานของทหาร พ่อค้า และข้าราชการออตโตมันที่เดินทางมาจากอานาโตเลียในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน ชาวอิรักเชื้อสายเติร์กเมนมีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมและภาษากับชาวตุรกีในประเทศตุรกีและชาวซ๊เรียเชื้อสายเติร์กเมน แต่ไม่ระบุตนเองเป็นชาวเติร์กเมน ในเคิร์กเมนิสถานและเอเชียกลาง ชาวอิรักเชื้อสายเติร์กเมนเป็นกลุ่มชาติพันธ์ที่ที่มีมากเป็นอันดับสามของประเทศอิรัก ซึ่งเป็นรองจากชาอาหรับและชาวเคิร์ต
อาณาจักรอัสซีเรีย
ข้อมูลจาก : วิกกิพีเดีย