วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Herod The Great

     ในปี 63 ก่อนคริสตกาลพวกโรมันได้บุกโจตีเยรุูซาเลมและตั้งฮีร์คานุสเป็นกษัตริย์ แต่ฮีร์คานุสไม่ได้ปกครองเอย่างเอกเทศ พวกโรมันได้เข้ามาและไม่ถอนอิทธิพลออกจากดินแดนนี้ ฮีร์คานุสกลายเป็นผู้นไประชาชนที่ต้องปกครองภายใต้อำนาจของโรม และต้องพึ่งการสนับสนุนจากโรมเพื่อรักษาพัลลังก์เอาไว้ เขาสามารถจะบริหารจัดการเรืองภายในได้ตามที่ต้องการ แตะในเรื่องความสัมพันธ์กับชาติอื่นๆ เขาจะต้องทำตามนโยบายของโรม 

      ฮีร์ดานุสเป็นผู้ปกครองที่ไม่เข้มแข็ง แต่เขาได้รับการสนับสนุนจากอันทิพาเทอร์ชาวอดูเมัยซึ่งเป็นบิดาของเฮโรดมหาราช อันทิพาเทอร์เป็ฯผู้มีำนาจที่ให้การช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง เขาสามารถควบคุมพวกยิวกลุ่มต่างๆ ที่คิดจะต่อต้านกษัตริย์ได้ และในไม่ช้าตัวเขาเองก็มีอำนาจเหนือยูเดียท้งหมด อินทิพาเทอร์ได้สอนลูกของตนว่าไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตามต้องอยู่ในความเห็นชอบของโรม ซ่ึ่งเฮโรดก็ได้จำคำสอนนี้ไว้เป็นอย่างดี เฮโรดในวัย 25 ปี ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการ และกลายเป็นที่ชื่อชอบของทั้งชาวยิวและชาวโรมันเนื่องจากเขาได้ปราบปรามกองโจรทั้งหลายอย่างแข็งขันให้หมดไปจากเขตปกครอง

       43 ปีก่อนคริสตกาลอันทะพาเทอร์ถูกวางยาพิษ เฮโรดกลายเป็นผู้อนาจมากที่สุดในยูเดีย และก็มีศัตรุูด้วยเช่นกัน ขุนนางในเยรูซาเลมถือว่าเฮโรดเป็นผู้ช่วงชิงอำนาและพยายมเกลี้ยกล่อมให้โรถอดเขาออกจากตำแหน่ง ความพยายามนี้ล้ำมเหลว โรมยังเห็นคุณความดีของอันทิพาะเทอร์และชื่นชมควาสามารถของเฮโรด

       เกิดการแย่งชิงอำนาจในาชบัลลังก์ของฮัสโมเนียนในปี 40 ก่อนคริสตกาล ฝ่ายสนับสนุนอาริสโดบุสที่ต่อต้านโรมันก็ทำสำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากชาวปาร์เทยซึ่งเป็นศัตรูของโรม และเป็นห้วงเวลาเดียวกันกับที่โรมเกิดความโกลาหลวุนวายภายในเนืองจากสงครามกลางเมือง พวกเขาฉวยโอกาสโจมตีซีเรย ถอดถอนฮร์คานุส และแต่งตั้งสมาชิกของราชวงศ์อัสโมเนียคนหนึ่งที่ต่อต้านโรมขึ้นครองอำนาจ

      เฮโรดได้หนีไปโรม และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โรมยังคงต้องการดินแดนยูเดียกลับคือนมาจึงแต่งตั้งเฮโรดเป็นกษัตริย์แห่งยูเดีย ด้วยความช่วยเหลือจากกอบทหารโรมัน เฮโรดเอาชนะศัตรูในยูเดียและวงบัลลังคืนมาได้เขาแก้แค้นผุู้ที่เคยต่อต้านอยางโหดเหี้ยม เขากำจัดราชวงศ์ฮัสโมเนียนและเหล่าขุนนางชาวยิวที่สนับสนุนราชวงศ์นี้ รวมั้งใครก็ตามที่ไ่พอใจจะอยู่ใต้อนาจผู้ปกครองที่เป็นมิตรกับโรม

       ในช่วงหลายปีหลังจากนั้น เฮโรดได้สร้างความมั่นคงให้กับอาณาจักรของตนโดยทำให้กรุงเยรูซาเลมกลายเป็นศูสย์กลงวัฒนธรรมกรีก เขาได้ริเร่ิมโครงการสร้างขนาดใหญ่ เช่น ราชวังหลายหลัง เมืองท่าซีซาเรีย และพระวิหารในกรุงเยรูซาเลม ที่ประกอบด้วยสิ่งก่อรสร้างใหม่ๆ ที่ใหญ่โตหรูหรา ตลอดช่วงเวลานั้ นโวบายของเฮโรดมุ่งเน้นที่การรักษาความสัมพันธ์กับโรมซึ่งเป็นขุมกำลังของตน..

            จักรวรรดิโรมัน สืบทอดการปกครองมาจากสาธารณรัฐโรมัน (510 ปิก่อนคริสตกาล-ศตวรรษทิ่1 ก่อนคริสตกาล) ซึ่งอ่อนแอลงหลังจากความขัดแย้งระหว่าง ไกอุส มาริอุสแลุซุลลา และสงครามกลางเมืองระหว่าง จูเลิยส ซิซ่าร์ และ ปอมปิย์ 

           จักรวรรดิโรมันมิดินแดนในครอบครองมากมายทั้งในยุโรป และ ตะวันออกกลาง และเอเซิยไมเนอร์ประชาชนทั่วไปท่ิอาศัยอยู่ในจักรวรรดิโรมันเริยกว่า ชาวโรมัน และดำเนินชิวิตภายใต้กฎหมายโรมัน  มความรุ่งเรืองถึงขิดสุดในจักรพรรดิทราจัน ด้วยชัยชนะเหนือ ตาเซย(ปัจจุบันคือประเทศ โรมาเนิยและมอลโตวา และส่วนหนึ่งของฮังการ บัลแกเรยและยูเครน) อทธิพลของโรมันได้ส่งผลต่อการพัฒนาทางด้านภาษา ศาสนา สถาปัตยกรรม ปรัชญา กฎหมายและระบการเมืองมาจนถึงปัจจุบัน

             จักรวรรดิถูกแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกในสมัย จักรพรรดิไดโอคลเซยน ปละถือเป็นการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันในช่วงเวลปิ ค.ศ. 476 เมื่อจจักรพรรดิโรมลุส เอากุสตุส จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกถูกขับไล่และเกิดการจลาลจข้นในโรม อย่างไรก็ตาม จักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือ จักรวรรดิไบแซนไทน์ ก็ได้รักษา กฎหมาย ขนบธรรมเนิยมประเพณิแบบ กริก-โรมัน รวมถึง ศาสนคริสต์นิกายออโธดอกซ์ไว้ได้อกสหัสวรรษต่อมา จนการล่มสลายเมือครั้งเสิยกรุงคอนสแตนติโนเปิล ให้กับจักรวรรดิ ออตโตมัน ใน ป 1453...

           

                              -                                ข้อมูล จาก วิกิพิเดีย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

“rural resentment.”

         บางส่วนจากบทสัมภาษณ์  Jon K. Lauck  ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งมหา วิทยาลัยเซาท์ดาโกตา ซึ่งได้คิดค้นสาขาการศึกษาเก...