ซิลเวเนียในช่วงแรก อังกฤษ (กลุ่มที่นับถื่อ สังคมของเพื่อน) เป็นกลุ่มที่สำคัญที่สุดที่ยึดครองหุบเขาเดลาแวร์ ฟิลาเดอลเฟีย ร่วมกับเขต เชสเตอร์และบัคส์ ที่อยุ่ใกล้เคียง กลายเปนเขตการค้าเกษตรกรรมแห่งแรกที่เจริญรุ่งเรือง
การปฏิบัติต่อศษสนาอย่างยอ รับและการทดลองรูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตยของเนน์ ทำให้กลุ่มอื่นๆ ตัดสินใจตั้งถ่ินฐานในเพนซิลเวเนีย ชาวเยอรมันเป็นกลุ่มใหย๋กลุ่มแรกที่อพยพมายังเพนซิลเวเนีย พวกเขาเป็น โปรเตนแตนต์เกือบทั้งหมด นับถือศาสนาต่างๆ มากมาย ไปจนถึงหลุ่มเคร่งศสนาต่างๆ รวมถึงชาวอามิวเมนโนไนต์ และดันเกอร์เมือ่ถึงช่วงปฏิวัติอเมริกากลุ่มชาวเยอรมัน(ซึ่งในขณะนั้นรุ้จักกันในชื่อชาวดัตว์เพนซิลเวเนียหรือจะพูดให้ถูกต้องกว่านั้นคือชาวเยอรมันเพนซิลเวเนียมีอยุ่หนึ่งในสามของประชากร กลุ่มใหญ่ถัดไปคือ ชาวสก็อตไอริซ จากไอร์แลนด์เหนือ พวกเขาอพยพไปทาตะวันตกไกลจากอังกฤษและเยอรมันไปยังพีคมอนต์ตะวันตกและภูมิภาคริดจ์แอนด์วัลเลย์ เมือช่วงปฏิวัติ พวกเขาคิดเป็นหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งหมดในอาณานิคม กลุ่มหใญกลุ่มที่สี่คือชาวไอรซ อพยพมาในช่วงทศวรรษที่ 1840 และ 1850 เนือ่งจากเกิด ภาวะอดอยากมันฝรั่งในไอร์แลนด์
การปกิวัตอุตสาหกรรมกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา เศราฐกิจ ที่คล่อตัวในรัฐเพนซิลเวเนีย เนื่องจากประชากรในประเทศมีไม่เพียงพอต่อการจัดหาแรงงานที่จำเป็นรับจึงกลายเป็ฯศุนย์กลางของการอพยพครั้งใหญ่ของชาวอิตาลี โปแลนด์ รัสเซีย ยูเครน และผุ้คนจากภมิภาคบอลข่าน เป็นต้น ระหว่งปี 1890-1990 ประชากรของรัฐเพ่ิมขึ้นเป็นมากกว่าหนึ่งล้านคน ส่วนใหญ่เป็นเพราะการอพยพเข้ามาในเพื้นที่เหมืองแร่
และศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ในศตวรรษที่ 20 ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ฮิสแปนิก และชาวอเมริกันพื้นเมืองรวมกันเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ของประชากรทั้งหมด
ประชากรของรับเพนซิลเวเนียเกือบจะคงที่นับต้งแต่มีประชากรถึง 10.5 ล้านคน ในปี 1950 โดยเพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่ล้านคนในทศวรรษต่อมา ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 อัตราการเติบโตของประชากรประจำปีของรัฐอยู่ที่น้อยกว่า 1%
ไฮโดรคาร์บอน ได้แก่ ถ่านหินนิทูมินัส(ถ่านหินอ่อน) แอนทราไซต์(ถ่าหินแข็ง) ปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติ เป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญของรัฐ นอกจากนี้ เพนซิลเวเนียยังเป็นผุ้ผลิตแร่ธาตะที่ไม่ใช่โลหะรายใหญ่ เช่น หินปูน หินชนวน ทรายและกรวด แหล่งแร่เหล็กขนาดเล็กเป็นพื้นฐานของเตาเผาเหล็กกในยุคแรกๆ แต่แหล่งแร่เหล็กหลักที่ตั้งอยุ่ในีคอร์นวอลล์และมอร์แกนทาวน์ก็ถูกทิ้งร้างไปแล้ว
แหล่งหินบิทูนิมัีนตั้งอยู่ในพื้นที่บางส่วนของ 33 มณฑลของรัฐเพนซิลเวเนียและครอบคลุมพื้นที่มากกว่ารหนึ่งในสี่ของพื้นที่ทั้งหมดของรัฐ การผลิตสูงสุดเกิดขึ้นในปี 1918 เมื่อมีการขุด่านหินเกือบ 200 ล้านตัน ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 การผลิตลดลงเหลือประมาณหนึ่งในสี่ของปริมาณดังกล่าวต่อปีเนื่องมาจาการแข่งขันจากปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติตลอดจนการมีอยุ่ของกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่จำกัดการบริโภคถ่านหินที่มีกำมะถัน เพรนซิลเวเนียมีแหล่งถ่านหินแอนทราไซต์ที่สำคัญเพียงแห่งเดียในประเทศ การปลิตถึงจุดสูงสุดในปี 1917 เมื่อมีการขุดมากกว่า 100 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม การผลิตก็ลดลงเช่นกัน ลดลงอย่างรวดเร็วย่ิงกว่าถ่านหินบิทูนินัส เนื่องมาจาการแข่งขันจากแหล่งพลังงานอื่นๆ ที่มีอยุ่่
เพนวิลเวเนียตะวันตกเฉียงเหนือเป็นที่ตั้งของแหล่งน้ำมันแห่งแรกของดลกที่ประสบความสำเร็จ และแหล่งน้ำมันแห่งแรกที่เฟื่องฟูในช่วงทศวรรษท 1860 ปัจจุบันแหล่งน้ำมันของรัฐเกือบจะหมดลงแล้ว แต่การผลิตก๊าซธรรมชาติยังคงมีำนวนมาก แลเพนซิลเวเนียยังคงมีกำลังการกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของรัฐใดๆบนชายฝั่งตะวันออก
แม้ว่าผลิตถ่านหินจะมีเพียงเศษเสี่ยวของระดับก่อนหน้าแต่ดรงไฟฟ้ถ่านหินยังคงผลิตพลังงานไฟฟ้า ส่วนใหย๋ของรัฐ โดยมีการใช้ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในปริมาณที่น้อยกว่่ามาก อุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ของอเมริกาเกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้า "ทรี ไมล์ ไอแลนด์" ใกล้กับเมืองแฮรริสเบิร์กในปี 1979 อย่างไรก็ตามพลังงานนิวเคลียร์ยังคงผลิตได้ประมาณหนึ่งในสามของรัฐ, โรงไฟฟ้าพลังน้ำและแหล่งพลังงานอื่นๆ คิดเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยของทั้งหมดในช่วงรุ่งเรืองทางอุตสาหกรรมของเพนซิลเวเนียในศตวรรษที่ 19และ 20 ภูมิภาค ฟิลาเดลเฟียและพิตต์สเบิร์กเป็นศุย์กลางหลักของรัฐ เพนซิลเวเนียตะวันออกมีชื่อเสียงในด้านการผลิตสินค้าเบา เช่น สิ่งทอเครื่องแต่งกาย การผลิตโลหะและสารเคมี ส่วนทางตะวันตกของรับเน้นการผลิตสินค้าหนัก เช่นเหล็ก เหล็กกล้าและเครื่องจักร
การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมถึงจุดสูงสุดประมาณ 1.5 ล้านคนในราวปี 1970 อย่างไรก็ตาม จำนวนดังกล่าวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงปลายทศวรรษ 1990 อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม เช่นสิ่งทอเครื่องแต่งกาย เหล็กและเหล็กกล้ายาสูบและผลิตภัณฑ์จาหนัง ลดลงอย่างรวดเร็ว ในช่วง้นศตวรรษที่ 21 อุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดคืออุตสาหกรรมที่ผลิตโลหะแปรรูป เครืืองจักรไม้แปรรูปและเครืองมือ ตลอดจนการพิมพ์และการพิมพ์แม้ว่าการจ้างงานโดยรวมในภาคการผลิตจะลดลง แต่คุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นยังคงมีส่วนสำคัญต่อรายได้ของรัฐ ในเขตตะวันออกเฉียงมต้ของเชซเตอร์บัคส์ เบิร์ส์มอนต์ โกเมอรี แลงคาสเตอร์ และยอร์ก อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงมีความสำคัญเพิม่มากขึ้น
ภายใต้รัฐะรรมนุยปี 1968 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับทีสี่ของเพนซิลเวเนียนับตั้งแต่ที่กลายเป็นรัฐ และการแห้ไขเพ่ิมเติมในภายหลัง ฝ่ายบริหารประกอบด้วยผุ้วาการรัฐรองผุ้ว่าการรัฐ อัยการสูงสุด ผุ้ตรวจสอบบัญชีแห่งรัฐ เหรัญญิกของรัฐ และคณะรัฐมนตรีของผุ้ว่าการรัฐ เลขาะิการรัฐและเลขาะิการกระทรวงศึกษาธิการได้รับการแต่งตั้งโดยผุ้ว่าการรัฐ โดย้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา
ผู้ว่าการรัฐจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง 4 ปี และอาจได้รับเลือกตงใหม่อีก 1 วาระ อำนาจหลักๆ ของผุ้ว่าการรัฐ ได้แก่ อำนาจยับยั้งร่างกฎหมายที่ผ่านโดยสภริติบัญัติ (สมัชชาใหญ่) รวมถึงการยับยั้งร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ และสิทธิในการส่งร่างกฎหมายกลับไปยังสมัชชาเพื่อพิจารณาใหม่ สมัชชาใหญ่ประกอบด้วยวุฒิสภา 50 คนและสภาผุ้แทนราษฎร 203 คน โดยวุฒิสมาชิกจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง 4 ปี และผุ้แทนราษฎรจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง 2 ปี
ระบบตุลาการ แบบรวมประกอบด้วยศาลฎีกา ศาลขั้นสุง ศาลเครือจักรภพ ศาลมณฑ, และระบบศาลขั้นล่าง ผุ้พิพากษา ศาลฎีกา 7 คนได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งตราวละ 10 ปี ผุ้พิพากษาศาลแขวง ศาลเทศยาล และศาลจราจรของฟิลาเดลเฟีย ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตตำแหน่งตราวละ 6 ปี
ภายใต้รัฐธรรมนูญ สมัชชาใหญ่กำหนดกฎหมายและข้อบังคับสำหรับรัฐบาลท้องถ่ิน ความรับผิดชอบหลักในเรืองนี้คือการจำแนหเทศบาลทังหมด เช่น เมือ เขตเทศบาล เทศมณฑล และตำบล ตามขนาด
ประชากร ข้อบังคับของสมัชชาทั้งหมดจะต้องเหมือนักนในทุกระดับ และไม่มีชุมชนใดได้รับการปฏิบัติพิะศษ ฟิลาเดลเฟียเป็นเมืองชั้นหนึ่งเพียงแห่งเดียวของรัฐและอาจมีกฎหมายพิเศษ พิตต์สเบิร์ก และ สแครนตันจัดอยุ่ในประเภทเมืองชั้นสอง เมืองอื่นๆ ในเพนซิลเวเนียัดอยุ่ในประเภทเมืองชั้นสาม เมืองเล็กๆ มีรุปแบบการปกครองที่หลากหลาย ในขณธที่เขตเทศบาลม่การเลือกตั้งสภาและนากยกเทศมนตรีที่มีอำนาจจำกันการแก้ไขรัฐะรรมฯุญ ในปี 1968 อนุญาตในเหศบาลเลือกการปกครองตนเองได้
ระหว่างสงครามกลางเมืองและช่วงทศวรรษปี 1920 รัฐบาลของรัฐอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรครีพับลิกัน โดยมีข้อยกเว้นเพียงไม่กี่กรณีในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 รัฐบาลอขงรัฐกลายเป็นที่นั่งของ "การปกครองของเจ้านาย" การปกครองของพรรคที่ถูกทำลายลงในชข่วงทศวรรษปี 1930 และตั้งแต่นั้นมา ผุ้ว่าการรัฐและสมัชชาใหญ่ก็แย่งกันอย่างเท่าเที่ยมกันระหว่างพรรครีพัลลิกันและพรรคเดโมแครต โดยทั่วไปแล้วเพนซิลเวเนียแสดงรุปแบบการอนุรักษ์นิยม ในชนบท และเสรีนิยมในเมืองตามลักษณะเฉพาะของอเมริกา แม้ว่าในท้องถ่ินนั้น ป้ายกำกับดังกล่าวอาจไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งโดยเฉพาะก็ตาม
13/sept./2024 แฮร์ริสจะแวะที่เพนซิลเวxเหนีย 2 แห่ง ซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่เธอและไบเดนพลิกกลับชนะกมรเลือกตั้งปี 2020 โดยเธอจะไปเยี่ยมชมธุรกิจขนาดเล็ในจอห์นสทาวน์ จากนั้นจะจัดการชุมนุมหาเสียงที่เมืองวิลด์ส แบร์รีในช่วงเย็น ที่มหาเสียงระบุ
วันนี้ วอลซืจะหาเสียต่อในมิชิแกน โดยแวะทีสำนักหาเสียงในแกรนด์ ราหิดส์ และรับประทานอารหารกลางวันเพื่อหาเสียงในแลนซิง ต่อมา เขาจะมุ่งหน้าไปที่วอซอ วิสคอนซิน ซึ่งเป็นอีกรัฐสำคัญทีมีความสำคัญ
ในเวลาเดียวกัน เฮ็มฮอฟฟ์จะดูดในงานหาเสียงทีเมืองออกซ์ฟอร์ด รัซมิสซิสซิปปี้ ก่อนจะเดนทางไปที่เดอะวิลเลจส์ ซึ่งเป็นชุมชนเกษียณอายุขนาดใหญ๋ ในใจกลางฟลอริดาที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม
"ที่บริเวณหลังบ้านของทรัมป์ สุภาพบุรุษคนที่สองจะเน้นย้ำว่าแผนงานสุดโต่งของโครงการ โปรเจคท์ 2025 ของ ทรัมป์นั้นเป็นอันตรายเพียงใดต่อผุ้สูงอายุ ซึ่งรวมถึงแผนการที่จะยกเลิกระบบ "เมดดิแคร์" และ "โซเชียล ซีคิวรีตี้ไ และยกเลิก "แอฟฟอร์ดเดเบิล แคร์ แอคท์" ซึ่งจะทำให้ชาวอเมริกาหลายล้านคนสูญเสียสิทธิในการรักษาพยาบาล" ทีัมหาเสียงของแฮร์ริสกล่าว...
https://www.nbcnews.com/politics/2024-election/live-blog/harris-trump-presidential-election-live-updates-rcna170756
https://www.britannica.com/place/Pennsylvania-state/Government-and-society