วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2567

“fracking”

            การดีเบตที่มีขึ้นที่ศูนย์รัฐะรรมนูญแห่งชาติในฟิลาเดลเฟียเมืองนี้เเป็นฐานที่มั่นของเดโมแครต ซึ่ง
ในปี 2020 ทรัมป์ได้กล่าวอยางฉาวโฉ่ว่า "สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นได้" ซึ่งเป็นหนึ่งในคำวิจารณืที่ไม่มีมูลความจริงของเขา โดยระบุว่าพรรคเดโมแครตสามารถชนะเพนซิลเวเนียได้ด้วยการโกงเท่านั้น

           ไบเดนพลิกสถานการณ์ในรัฐเพนซิลเวเนียในปี 2020 ไม่ใช่แค่ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ในฟิลาเดลเฟียเท่านั้น แต่ยังชนะใเขตชานเมาืองที่มีประชากรหนาแน่นรอบๆ ฟิลาเดลเฟียและพิตต์สเบิร์กด้วย นอกจากนี้ เขายังได้รับการสนบสนุนในเพนซิลเวเนียตะวัออกเฉียงเหนือในขตต่างๆ รอบๆ สแครนตัน ซึ่งเป็นที่ที่เขาเติบโตมา

           เอ็ด เรนเดลล์ อดีตผุ้ว่าการรัฐเดโมแครตสองสมัยซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองฟิลเดลเฟียและเขตชานเมืองกล่าวว่าแฮร์ริสสามารถทำได้ดีกว่าไบเดนในเขตชานเมือง "ยังมีคะแนนเสียงอีกมากมายที่ต้องได้มา ซึ่งพรรคเดโมแครตสาาารถได้คะแนนเสียงที่มากกว่าในเขตเหล่านั้นไ เรนเดลล์กล่าว

          ลอว์เรนซ์ ทาบาส ประธานพรรครีพับลิกันแห่งเพนซิลเวเนีย กล่าวว่าทรัมป์สามารถหากำไรได้ที่นั่นเช่นกัน การสำรวจความคิดเห็นและการเข้าถึงของพรรครีพับลิกันแสดงให้เห็นว่าผลกระทบของเงินเฟ้อต่อเศราบกิจเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชาวชานเมือง และประเด็นนี้ส่งผลดีต่อพรรค

          "ตอนนี้ผุ้คนจำนวนมากเร่ิมที่จะพุดว่า "ดูสิ บุคลิกภาพก็เป็นปกติ แต่เราต้องการจริงๆ ให้เศราฐกิจของอเมริกาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง" ทาบาสกล่าว

            เรนเดลล์ ปฏิเสธข้อกล่าหาดังกล่าว โดยกล่าววาทรัมป์กำลังออกนอกกรอบและพูดจาแปลกๆ ซึ่งจะทำให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากผุ้สนับสนุนอิสระและรีพับลิกันในเขตชานเมืองน้อยกว่าที่เขาทำได้ในปี 2020 

           แฮร์ริสได้สนับสนุนมาตรการต่างๆ ในการตอสุ้กับภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงการจำกัดค่าใช้จ่ายของยาทีต้องสั่งโดยแพทย์ื การช่วยเหลือครอบครัวในการจ่ายค่าดูแลเด็ก การลดค่าอาหาร และเสนอแรงจูงใจเพื่อส่งเสริมการเป็นเจ้าของบ้าน

            เศรษฐกิจของรัฐเพนซิลเวเนยซึ่งค่อนข้างซบซามักจะตามหลังเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในเดือนกำกฎาคม อัตราการว่างานลงลงเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของค่าจ้างภาคเอกชนของรัฐนั้นตามหลังประเทศเล็กน้อยนับต้งแต่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งในปี 2021 ตามข้อมูลของรัฐบาลกลาง

           ในขณะเดียวกับน เดโมแครตหวังว่าความกระตือรือร้นตั้งแต่ไบเดนถอนตัวจาการแข่งขันและแฮร์ริสเข้ามา จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน

          ประการหนึ่ง พวกเขาหวังว่าเธอจะทำได้ดีกับผุ้หญิงและผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวดำในฐานะผุ้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีหญิงคนแรกที่มีเชื้อสายผิวดำ เรนเดลล์กล่าวว่าเขาค่อนข้างมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับโอกาสที่แอร์ริสจะชนะในรัฐเพนซิลเวเนียมากกว่าที่เขามองไบเดนในการแข่งขันครังนี้ "ผมคิดว่าตอนนี้เราเป็นเต็งหนึ่ง" เรนเดลล์กล่าว

           ในบทสัมภาษณ์กับ CNN แฮร์ริสกล่ว่่าเธอจะไม่ห้ามการหักของหินหากได้รับเลือกเป็นประธานาะิบดี ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับจุดยืนของเธอเมื่อครั้งที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก 

        "สิ่งที่แันเห็นคือเราสามารถเติบโตแลเพ่ิมเศราฐกิจพลังงานสะอาดได้โดยไม่ต้องห้ามการแตกหักของหิน" เธอกล่าวกับ "ซีเอ็นเอ็น" 

         เมื่อเธอลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 2019 แฮร์ริสกล่าวว่าเธฮสนับสนุนการห้ามการแตกหักของหินอย่าแน่วแน่ ซึ่งต่อมาเธอได้ละทิ้งจุดยืนนี้เมือเธอเขั้าร่วมทัีมหาเสียงของประธานาธิบดีไบเดนในฐานะคุ่หูในการหาเสียงของเขา เพื่อเข้าข้างฝ่ายคัดค้านการห้ามดังกล่าว แม้ว่าฝ่ายบริหารของไบเดนจะมีความคิดริเร่ิมอย่างกว้างขวางในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ประธานาธิบดียังดุแลการขุดเจาะน้ำมันครั้งใหญ่ทีสุดที่สหรัฐฯหรือโลกเคยประสบมา อีกด้วย

          หลายปีมรแล้วที่ปัญหาเรื่องนี้ได้รับความสนใจในระดับประเทศมากขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ ครั้งสุดท้ายที่ กูเกิล พบว่ามีผุ้ค้นหาคำว่า "แฟรคกิ้ง" มากขึ้นคือเมือเดือนตุลาคม 2020 ซึ่งเป็นหนึ่งเดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุด สำหรับผุ้สมัครพรรครีพัลิลกัน อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คดว่าจะพยายามโน้มน้าวผุ้มีสิทธิเลือกตั้งให้เปลี่ยนใจต โดยแฮร์ริสต้องการหยุดการแตกหักของหิน ซึ่งแตกต่างจากเขา

         เป็นประเด็นสำคัญโดยเฉพาะสำหรับผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่อุตสาหกรรมการแตกหักของหินเป็นแรงผลักดันการเติบโตทางอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจในพื้นที่ทางตะวันตกและทางเหนือของรัฐ

         Fracking การแตกหักของหิน คำย่อของ การแตกหักด้วยแรงดันน้ำ คือกระบวนการสกัดก๊าซหรือน้ำมันออกจากใต้ดินลึกโดยใช้ส่วนผสมของน้ำ ทราย และสารเคมีที่มีแรงดันสุง เพื่อทำลายหิน

        การแตกหักของหินทำให้บริษัทน้ำมันและก๊าซสามารรถเข้าถึงแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ซึ่งครั้งหนึ่งดุเหมือนจะไม่สามรถพัฒนาได้

         ผุ้ที่เห็นด้วยเน้นย้ำถึงข้อดีของเรื่องนี้ การรุกคืบของอุตสาหกรรมขารขุดเจาะน้ำมันแบบแตกหักทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซทั่วโลกลดลง ลดการพึ่งพาการผลิตน้ำมันจากต่างประเทศของสหรัฐฯ และสร้างงานใหม่เพื่อฟื้นฟูเศราฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้สหรัฐฯ เลิกผลิดถ่านหินสำหรับโรงไฟฟ้าและหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทน

         อย่างไรก็ตาม แทคนิคการขุดเจาะยังไม่สามารถแก้ปัญหาการพึ่งพาเชื้อเลพิงฟอสซิลของประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการเปลค่วยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ การแตกหักของหินทให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศและน้ำ การขุดเจาะและขนส่งก๊าซอาจทำให้เกิดการรั่วไหลของมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศึกายภาพที่ทำให้โลกร้อนเร้ซกว่างคาร์บอนไดออกไซด์ 

         งานวิจัยได้แสดงให้เห็นวาการแตกหักของหินทำให้ระดับน้ำลดลง ก่อนให้เกิดมลพิษทางอากาศ และก่อให้เกิดเสียงดังในชุมชนใกล้เคียง นอกจากนี้ยังเชื่อโยงกับการปนเปื้อนของน้ำดื่มและแผ่นดินไหว อีกด้วย

การแตกหักด้วยแรงดันน้ำสมารถกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมแผ่นดินไหวขนาดเล็กได้ และการกำจัดน้ำเสียใต้ดินที่ใชในกระบวนการดังกล่าวทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่และสร้างความเสียหายได้ตามที่สำนักงานสำรวจธารณีวิทยาของสหรัฐฯระบุ

           ในรัฐที่ผลิตก๊าซมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ แม้แต่เดโมแครตก็ยอมรับการสนัยสนุนการห้ามการแตกหักของหินปุนของแอร์ริสก่อนหน้านี้ อาจส่งผลเสียหายได้ ใในแคมเปญหาเสียงครั้งนี้ รองประธานาธิบดีกล่าวว่าประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานสะอาดได้โดยไม่ต้องห้าม แม้ว่าทรัมป์จะยืนกรานว่าเธอจะกลับลำอีกครั้งก็ตาม 

         https://www.yorkdispatch.com/story/news/politics/elections/2024/09/08/little-debate-that-pennsylvania-is-key-as-harris-and-trump-prep-for-philly-showdown/75132454007/

             https://www.npr.org/2024/08/30/nx-s1-5096107/what-is-fracking-explained

          

วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2567

Pennsylvania's swing

           จากบันทึกของกระทรวงการต่างประเทศเพนซิลเวเนียซึ่งทำหน้าที่ดุแลการเลือกตั้งในรัฐ มีชาวเพน
ซิลเวเนียที่ลงทะเบียนใหม่เพื่อลงคะแนนเสียงประมาณ 281,861 คนในผีนี้ ซึง่ลงทพดบยนดมืแวันที่ 2 กันยายน โดยผุ้ีสิทธิลงคะแนนเสียงใหม่ประมาณ 107,511 คน(38% )ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม

           แม้ว่าพรรครีพับลิกันจะมีการเติงโตมากที่สุดในปีนี้ โดยมีผุ้ลงคะแนนเสียงใหม่ราว 103,283 รายนับตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ผุ้ลงคะแนนเสียงใหม่ของพรรคเดโมแครตกลับเร่ิมเป็นผุ้นำในการลงคะแนนเสียงใหม่รายสัปดาห์นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นสัปดาห์เดียวกับที่ไบเดนออกจากการแข่งขันและรับรองรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสเป็นผุ้ได้รับยการเสนอชื่อจากพรรคจากผุ้มีสทิธิเลือกตั้งใหม่ 96,822 คนของพรรคเดโมแครตตั้งแต่เดือนมกราคม มีผุ้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ กว่าสี่หมื่นคน (37%) ที่ลงทะเบียนเพื่อลงคะแนนเสียงในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยผุ้มีสิทธิเลือกตั้งของพรรครีัพบลิกันที่ลงทะเบียนในปีนี้ประมาณ 36.5% หรือ 39,333 คนได้ลงทะเบียนตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 

        คริส บอริก ผุ้อำนวยการสถาบันความคิดเห็นสาธารณะของวิทยาลัยมูเลนเบิร์ก กล่าวเมือวันพฤสบดีว่า การเพ่ิ่มขึนของผุ้สมัครพรรคเดโแมครตรายใหม่อาจเกิดขึ้น"ในเวลาที่เหมาะสม" สำหรับแฮร์ริส แต่เขาเตือนว่าไม่ควรตีความว่าคะแนนนำดังกล่าวเป็ฯสัญญาณว่าพรรครีพัลลิกันกำลังชะลอตัวลง

          การเลือกตั้งกลางเทอมปี 2022 ไม่สามารถนำมาซึ่งส่ิงที่ผุ้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ทางการเมืองบางคนคาการณ์ว่าเป็นคลื่นสีแดง ระดับประเทศ ซึ่งรวมถึงการแข่งขันสองครังที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในเพนซิลเวเนีย

        ผุ้ว่าการรัฐ จอห์น ชาปิโร ชนะ โดจ์ ทูมี้ วุฒสภาเลือกตั้งผุ้ว่าการรัฐในปีนั้น และวุฒิสมาชิกสหรับ
จอห์น เฟทเทอร์แมน เข้ามาแทนที่ แพท ทูมี้ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันที่กำลังจะเกษียณอายุราชการหลังจากได้คะแนนเสียงประมาณ 51% ในขณที่ ดร.เมเมท ออส ได้คะแนนเสียง 46% ในการเลือกตั้งครั้งนั้น

          พรรคเดโมแครตครอบคะนนนำพรรครีพับลิกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2022 และคำตัดสินของศาลฎีการที่พลิกคำตัดสิน โรว์ วี. เวดด์ ทำให้จำนวนผุ้สมัครใหม่ของพรรคเดโแมครตเพ่ิมขึ้นอย่างมากในเดือนมิถูนายนน้น แม้กระทั่งการลงทะเบียนผุ้สมัครใหม๋ของพรรครีพับลิกันก็ยังตามหลังการลงทะเบียนของพรรคอิสระและพรรคอื่นๆ ทั้งหมดรวมกันหลังจากคำตัดินเมือปลายเดือนกันยายน ปี 2022 มีผุ้ลงทะเบียนใหม่เป็นเดโมแครต หกหมื่นกว่าคน ในขณะที่มีผุ้ลงทะเบียนเป็นรีพับลิกันเพียง สี่หมื่นกว่าคน

        การเลือกตั้งระดับเทศบาลในปี 2023 ยังนำรีพับลิกันสู่เครือรัฐอีกด้วย เนื่องจากพรรคเดโแมครตกว่าดทุกตำแหน่งในระดับรัฐและท้องถ่ิน รวมถึงสร้างความพลิกผันครั้งใหญ่ให้กับคณะกรรมการโรงเรรยนที่นำโดยพรรครีพับลิกัน ดดยประเด็น สงครามวัฒนธรรมเป็นหัวข้อข่าวใหญ่

        ความพ่ายแพ้ในช่วงสองปีที่ผ่านมาดุเกมือนจะช่วยกระตุ้นความพยายามของพรรครีพับลิกันในการสร้างรายชื่อผุ้มีสิทะิเลือกต้งให้มากขึ้น ตามข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศ พรรครีพับลิกันได้พลิกบทบาทในการเป็นผุ้นำในการหาผุ้มีสิทะิเลือกตั้งรายใหม่แล้ว

          ในเขตบีเวอร์ เบิร์กส์ และบัคส์ พรรครีพับลบิกันได้กลายเป็นเสียงข้างมากที่ลงทะเบียนไว้ พรรคเดโมแครตมีคะแนนนำในบีเวอร์ เคาน์ตี้ 2,666 คะแนนในปี 2022 แต่ปัจจุบันเคาน์ตี้นี้รีพับลิกันมีคะแนนนำ 2,192 คะแนน ปัจจุบันเคาน์ตี้ เบิร์กมีพรรครีพับลิกันมากกว่เดโมแครต 6,140 คะแนน ซึ่งเดโมแครตเคยนำด้วยคะแนน 2,427 คะแนน และล่าสุดเคาน์ตี้บัคตส์กลายเป็นสีแดงเป็นครั้งแรกในรอบอย่างน้อย 10 ปี 

         
 บอริกกล่าววาแนวโน้มของพรรครีพับลิกันใหม่นั้นเป็น "สัญญาณที่ดี" และ "เป็นแนวโน้มเชิงบวกที่สำคัีญสำหรับพรรคในขณะที่กำลังจะเข้าสุ่เดือนพฤศจิกายน" 

           "นั้นเป็นข่าวดีสำหรับรีพับลิกัน แต่ยังคงต้องดูว่าจะเป็นข่าวดีได้แค่ไหน" เขากล่าวเสริม

          ผู้มีสิทธิเลือกต้งไม่ได้เห็นด้วยกับปรรคของตนเสมอไป และแม้ว่าจำนวนผุ้ลงทะเบียนจะมากกว่ก็ตามก็ไม่สำคัญหากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่สุสี การสำรวจความคิดเห็นล่าสุดพบว่าแฮร์ริสและทรัมป์มีคะแนนสุสีกันในรัฐเพนวิลเวเนียไม่กี่วันก่อนการดีเบต

        ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันต่างให้ความสำคัญกับเพนซิลเวียเนียเป็นอย่างมาก ซึ่งจะการหาเสียงในเพนซิลเวียเนียหลังจากทรัมป์ถูกพยายามลอบสังหารที่บริวเณงาน "บัทเทอล์ ฟาร์ม โชว์" ซึ่งสงผลให้มีผู้เสียงชีวิต 1 รายและบาเจ็บสาหัสอีก 2 ราย ก่อนที่มือปืนจะถุกเจ้าหน้าที่สังหารในวันที่ 13 กรกฎาคม 

          15 สิงหาคม แวนซ์ใช้คำพุดของเขาต่อฝูงนที่สถานี VFW ของดลเวอร์เบอร์เรลล์เพื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอขงไบเดนสำหรับการถอนกำลังจากอัฟกานิสถานในปี 2021 

          18 สิงหาคม แฮร์ริสและวอลซ์แวะหาเสียงหลายครั้งในเพนซิลเวเนียตะวันตก โดยผ่านฒณฑบีเวอร์และอัลเลเกนเพื่อพยายามสร้างแรงผลักดันก่อนการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรคเดโมแครต

           28 สิงหาคม แวนซ์พูดที่ครั้งสินค้า ทีม ฮาร์ดดิงเจอร์ ทรานสปอตเตชั่น

            30 สิงหาคม ทรัมป์กลับไปยังฐานที่มั่แห่งหนึ่งในเพนซิลเวเนียของเขาดดยเรียกคุ่แข่งด้วยชื่อที่หยาบคาย

            2 กันยายน แฮร์ริสกล่าวว่า ยูเอส สตีล ควรยังคงเป็นของบริษัทอเมริันต่อไป แฮร์ริสออกมาคัดค้านการขายหุ้นดังกล่าวอย่างแข็งกร้าวในขณะที่พุดคุยกับสมาชิกสหภาพแรงงานและผุ้สนับสนุนหลายร้อยคนที่ห้องโถงสหภาพแรงงาน IBEW Local 5 ในฝั่ง ใต้ขแงดมืแงำอตต์สดบอร์ห

          ไบเดนร่วมหาเสียงกับแฮร์ริสบนเวทีที่พิตต์สเบิร์ก ซึ่งเป็นตรั้งแรกที่พวกเขาหาเสียงร่วกันตั้งแต่ไบเดนถอนตัวออกจากการแข่งขัน การไปเยือนสตีลซีตี้ในวันแรงงานของไบเดนถือเป็นประเพณีอย่าหนึ่ง

4 กันยายน วอลซืกลับมาที่ภุมิภาคพิตส์เบิร์กเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการหาเสียงทั่วเพนซิลเวเนีย โดยสั่งมิลค์เชคในเมืองมูนและให้อาหารลูกวัวในฟาร์มแห่งหนึ่งที่เฟเยตต์เคาน์ตี้

           5 กันยายน ทิม วอลซ์ ผุ้ไดรับเสนอชือชิงตำแนห่งรองประะานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตได้ชุมนุมที่ "ไฮมาร์ค แอพิเทียเตอร์ ลิเบอร์ตี้ ปาร์คไ ในเมืองอีรี

           วันเดียวกันแฮร์ริสเดินทางกลับมาถึงเมืองพิตต์สเบิร์กในช่วงย่าย ดดยออกจากเมืองไปเพียง 72 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ หลังจากเยี่ยมชมเมืองนี้เพียงสั้นๆ ในวันแรงงาน

         7 กันยายน หลังจากใช้เวลาหลายวันในพิตสเบิร์กในสัปดาห์นี้ แฮร์ริสก็ออกเดินทางหาเสียงระยะสั้นที่ย่านสตริป 

          9 กันยายน ที่เมืองเดียวกัน แฮร์ริสกล่าวอำลาสตีลซีตี้ หลังจากใช้เวลาห้าวันที่ผ่านมาในเมืองพิตต์เบิร์ก เพื่อเตรียมตัวสำหรับการดีเบต

         13 กันยายน รองประธานาธิบดีกมลา แอร์ริสเดินทางกลับมายังรัฐเพนซิลเวนียตะวันตกอีกครั้งเพื่อหาเสียงที่จอห์นทาวน์

         https://triblive.com/news/politics-election/trump-harris-barnstorm-western-pa-heres-where-they-have-stopped/

          https://www.phillyburbs.com/story/news/politics/elections/2024/09/13/pa-voter-registration-numbers-for-2024/75194861007/

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567

Pennsylvania


           ก่อนที่ วิลเลี่ยม เพนน์ จะมาถึง มีผุ้ตั้งถ่ินฐานชาวสวีเดน ดัตช์ และฟินแลนด์ จำนวนหนึ่งอยู่ในเพน
ซิลเวเนียในช่วงแรก อังกฤษ (กลุ่มที่นับถื่อ สังคมของเพื่อน) เป็นกลุ่มที่สำคัญที่สุดที่ยึดครองหุบเขาเดลาแวร์ ฟิลาเดอลเฟีย ร่วมกับเขต เชสเตอร์และบัคส์ ที่อยุ่ใกล้เคียง กลายเปนเขตการค้าเกษตรกรรมแห่งแรกที่เจริญรุ่งเรือง

         การปฏิบัติต่อศษสนาอย่างยอ รับและการทดลองรูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตยของเนน์ ทำให้กลุ่มอื่นๆ ตัดสินใจตั้งถ่ินฐานในเพนซิลเวเนีย ชาวเยอรมันเป็นกลุ่มใหย๋กลุ่มแรกที่อพยพมายังเพนซิลเวเนีย พวกเขาเป็น โปรเตนแตนต์เกือบทั้งหมด นับถือศาสนาต่างๆ มากมาย ไปจนถึงหลุ่มเคร่งศสนาต่างๆ รวมถึงชาวอามิวเมนโนไนต์ และดันเกอร์เมือ่ถึงช่วงปฏิวัติอเมริกากลุ่มชาวเยอรมัน(ซึ่งในขณะนั้นรุ้จักกันในชื่อชาวดัตว์เพนซิลเวเนียหรือจะพูดให้ถูกต้องกว่านั้นคือชาวเยอรมันเพนซิลเวเนียมีอยุ่หนึ่งในสามของประชากร กลุ่มใหญ่ถัดไปคือ ชาวสก็อตไอริซ จากไอร์แลนด์เหนือ พวกเขาอพยพไปทาตะวันตกไกลจากอังกฤษและเยอรมันไปยังพีคมอนต์ตะวันตกและภูมิภาคริดจ์แอนด์วัลเลย์ เมือช่วงปฏิวัติ พวกเขาคิดเป็นหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งหมดในอาณานิคม กลุ่มหใญกลุ่มที่สี่คือชาวไอรซ อพยพมาในช่วงทศวรรษที่ 1840 และ 1850 เนือ่งจากเกิด ภาวะอดอยากมันฝรั่งในไอร์แลนด์

         การปกิวัตอุตสาหกรรมกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา เศราฐกิจ ที่คล่อตัวในรัฐเพนซิลเวเนีย เนื่องจากประชากรในประเทศมีไม่เพียงพอต่อการจัดหาแรงงานที่จำเป็นรับจึงกลายเป็ฯศุนย์กลางของการอพยพครั้งใหญ่ของชาวอิตาลี โปแลนด์ รัสเซีย ยูเครน และผุ้คนจากภมิภาคบอลข่าน เป็นต้น ระหว่งปี 1890-1990 ประชากรของรัฐเพ่ิมขึ้นเป็นมากกว่าหนึ่งล้านคน ส่วนใหญ่เป็นเพราะการอพยพเข้ามาในเพื้นที่เหมืองแร่


และศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ในศตวรรษที่ 20 ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ฮิสแปนิก และชาวอเมริกันพื้นเมืองรวมกันเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ของประชากรทั้งหมด

        ประชากรของรับเพนซิลเวเนียเกือบจะคงที่นับต้งแต่มีประชากรถึง 10.5 ล้านคน ในปี 1950 โดยเพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่ล้านคนในทศวรรษต่อมา ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 อัตราการเติบโตของประชากรประจำปีของรัฐอยู่ที่น้อยกว่า 1%

           ไฮโดรคาร์บอน ได้แก่ ถ่านหินนิทูมินัส(ถ่านหินอ่อน) แอนทราไซต์(ถ่าหินแข็ง) ปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติ เป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญของรัฐ นอกจากนี้ เพนซิลเวเนียยังเป็นผุ้ผลิตแร่ธาตะที่ไม่ใช่โลหะรายใหญ่ เช่น หินปูน หินชนวน ทรายและกรวด แหล่งแร่เหล็กขนาดเล็กเป็นพื้นฐานของเตาเผาเหล็กกในยุคแรกๆ แต่แหล่งแร่เหล็กหลักที่ตั้งอยุ่ในีคอร์นวอลล์และมอร์แกนทาวน์ก็ถูกทิ้งร้างไปแล้ว

          แหล่งหินบิทูนิมัีนตั้งอยู่ในพื้นที่บางส่วนของ 33 มณฑลของรัฐเพนซิลเวเนียและครอบคลุมพื้นที่มากกว่ารหนึ่งในสี่ของพื้นที่ทั้งหมดของรัฐ การผลิตสูงสุดเกิดขึ้นในปี 1918 เมื่อมีการขุด่านหินเกือบ 200 ล้านตัน ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 การผลิตลดลงเหลือประมาณหนึ่งในสี่ของปริมาณดังกล่าวต่อปีเนื่องมาจาการแข่งขันจากปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติตลอดจนการมีอยุ่ของกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่จำกัดการบริโภคถ่านหินที่มีกำมะถัน เพรนซิลเวเนียมีแหล่งถ่านหินแอนทราไซต์ที่สำคัญเพียงแห่งเดียในประเทศ การปลิตถึงจุดสูงสุดในปี 1917 เมื่อมีการขุดมากกว่า 100 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม การผลิตก็ลดลงเช่นกัน ลดลงอย่างรวดเร็วย่ิงกว่าถ่านหินบิทูนินัส เนื่องมาจาการแข่งขันจากแหล่งพลังงานอื่นๆ ที่มีอยุ่่

         เพนวิลเวเนียตะวันตกเฉียงเหนือเป็นที่ตั้งของแหล่งน้ำมันแห่งแรกของดลกที่ประสบความสำเร็จ และแหล่งน้ำมันแห่งแรกที่เฟื่องฟูในช่วงทศวรรษท 1860 ปัจจุบันแหล่งน้ำมันของรัฐเกือบจะหมดลงแล้ว แต่การผลิตก๊าซธรรมชาติยังคงมีำนวนมาก แลเพนซิลเวเนียยังคงมีกำลังการกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของรัฐใดๆบนชายฝั่งตะวันออก

        แม้ว่าผลิตถ่านหินจะมีเพียงเศษเสี่ยวของระดับก่อนหน้าแต่ดรงไฟฟ้ถ่านหินยังคงผลิตพลังงานไฟฟ้า ส่วนใหย๋ของรัฐ โดยมีการใช้ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในปริมาณที่น้อยกว่่ามาก อุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ของอเมริกาเกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้า "ทรี ไมล์ ไอแลนด์" ใกล้กับเมืองแฮรริสเบิร์กในปี 1979 อย่างไรก็ตามพลังงานนิวเคลียร์ยังคงผลิตได้ประมาณหนึ่งในสามของรัฐ, โรงไฟฟ้าพลังน้ำและแหล่งพลังงานอื่นๆ คิดเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยของทั้งหมด

           ในช่วงรุ่งเรืองทางอุตสาหกรรมของเพนซิลเวเนียในศตวรรษที่ 19และ 20 ภูมิภาค ฟิลาเดลเฟียและพิตต์สเบิร์กเป็นศุย์กลางหลักของรัฐ เพนซิลเวเนียตะวันออกมีชื่อเสียงในด้านการผลิตสินค้าเบา เช่น สิ่งทอเครื่องแต่งกาย  การผลิตโลหะและสารเคมี ส่วนทางตะวันตกของรับเน้นการผลิตสินค้าหนัก เช่นเหล็ก เหล็กกล้าและเครื่องจักร

           การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมถึงจุดสูงสุดประมาณ 1.5 ล้านคนในราวปี 1970 อย่างไรก็ตาม จำนวนดังกล่าวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงปลายทศวรรษ 1990 อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม เช่นสิ่งทอเครื่องแต่งกาย เหล็กและเหล็กกล้ายาสูบและผลิตภัณฑ์จาหนัง ลดลงอย่างรวดเร็ว ในช่วง้นศตวรรษที่ 21 อุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดคืออุตสาหกรรมที่ผลิตโลหะแปรรูป เครืืองจักรไม้แปรรูปและเครืองมือ ตลอดจนการพิมพ์และการพิมพ์แม้ว่าการจ้างงานโดยรวมในภาคการผลิตจะลดลง แต่คุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นยังคงมีส่วนสำคัญต่อรายได้ของรัฐ ในเขตตะวันออกเฉียงมต้ของเชซเตอร์บัคส์ เบิร์ส์มอนต์ โกเมอรี แลงคาสเตอร์ และยอร์ก อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงมีความสำคัญเพิม่มากขึ้น

          ภายใต้รัฐะรรมนุยปี 1968 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับทีสี่ของเพนซิลเวเนียนับตั้งแต่ที่กลายเป็นรัฐ และการแห้ไขเพ่ิมเติมในภายหลัง ฝ่ายบริหารประกอบด้วยผุ้วาการรัฐรองผุ้ว่าการรัฐ อัยการสูงสุด ผุ้ตรวจสอบบัญชีแห่งรัฐ เหรัญญิกของรัฐ และคณะรัฐมนตรีของผุ้ว่าการรัฐ เลขาะิการรัฐและเลขาะิการกระทรวงศึกษาธิการได้รับการแต่งตั้งโดยผุ้ว่าการรัฐ โดย้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา



           ผู้ว่าการรัฐจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง 4 ปี และอาจได้รับเลือกตงใหม่อีก 1 วาระ อำนาจหลักๆ ของผุ้ว่าการรัฐ ได้แก่ อำนาจยับยั้งร่างกฎหมายที่ผ่านโดยสภริติบัญัติ (สมัชชาใหญ่) รวมถึงการยับยั้งร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ และสิทธิในการส่งร่างกฎหมายกลับไปยังสมัชชาเพื่อพิจารณาใหม่ สมัชชาใหญ่ประกอบด้วยวุฒิสภา 50 คนและสภาผุ้แทนราษฎร 203 คน โดยวุฒิสมาชิกจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง 4 ปี และผุ้แทนราษฎรจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง 2 ปี 

          ระบบตุลาการ แบบรวมประกอบด้วยศาลฎีกา ศาลขั้นสุง ศาลเครือจักรภพ ศาลมณฑ, และระบบศาลขั้นล่าง ผุ้พิพากษา ศาลฎีกา 7 คนได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งตราวละ 10 ปี ผุ้พิพากษาศาลแขวง ศาลเทศยาล และศาลจราจรของฟิลาเดลเฟีย ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตตำแหน่งตราวละ 6 ปี 

         ภายใต้รัฐธรรมนูญ สมัชชาใหญ่กำหนดกฎหมายและข้อบังคับสำหรับรัฐบาลท้องถ่ิน ความรับผิดชอบหลักในเรืองนี้คือการจำแนหเทศบาลทังหมด เช่น เมือ เขตเทศบาล เทศมณฑล และตำบล ตามขนาด
ประชากร ข้อบังคับของสมัชชาทั้งหมดจะต้องเหมือนักนในทุกระดับ และไม่มีชุมชนใดได้รับการปฏิบัติพิะศษ ฟิลาเดลเฟียเป็นเมืองชั้นหนึ่งเพียงแห่งเดียวของรัฐและอาจมีกฎหมายพิเศษ พิตต์สเบิร์ก และ สแครนตันจัดอยุ่ในประเภทเมืองชั้นสอง เมืองอื่นๆ ในเพนซิลเวเนียัดอยุ่ในประเภทเมืองชั้นสาม เมืองเล็กๆ มีรุปแบบการปกครองที่หลากหลาย ในขณธที่เขตเทศบาลม่การเลือกตั้งสภาและนากยกเทศมนตรีที่มีอำนาจจำกันการแก้ไขรัฐะรรมฯุญ ในปี 1968 อนุญาตในเหศบาลเลือกการปกครองตนเองได้

          ระหว่างสงครามกลางเมืองและช่วงทศวรรษปี 1920 รัฐบาลของรัฐอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรครีพับลิกัน โดยมีข้อยกเว้นเพียงไม่กี่กรณีในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 รัฐบาลอขงรัฐกลายเป็นที่นั่งของ "การปกครองของเจ้านาย" การปกครองของพรรคที่ถูกทำลายลงในชข่วงทศวรรษปี 1930 และตั้งแต่นั้นมา ผุ้ว่าการรัฐและสมัชชาใหญ่ก็แย่งกันอย่างเท่าเที่ยมกันระหว่างพรรครีพัลลิกันและพรรคเดโมแครต โดยทั่วไปแล้วเพนซิลเวเนียแสดงรุปแบบการอนุรักษ์นิยม ในชนบท และเสรีนิยมในเมืองตามลักษณะเฉพาะของอเมริกา แม้ว่าในท้องถ่ินนั้น ป้ายกำกับดังกล่าวอาจไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งโดยเฉพาะก็ตาม

          13/sept./2024 แฮร์ริสจะแวะที่เพนซิลเวxเหนีย 2 แห่ง ซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่เธอและไบเดนพลิกกลับชนะกมรเลือกตั้งปี 2020 โดยเธอจะไปเยี่ยมชมธุรกิจขนาดเล็ในจอห์นสทาวน์ จากนั้นจะจัดการชุมนุมหาเสียงที่เมืองวิลด์ส แบร์รีในช่วงเย็น ที่มหาเสียงระบุ 

           วันนี้ วอลซืจะหาเสียต่อในมิชิแกน โดยแวะทีสำนักหาเสียงในแกรนด์ ราหิดส์ และรับประทานอารหารกลางวันเพื่อหาเสียงในแลนซิง ต่อมา เขาจะมุ่งหน้าไปที่วอซอ วิสคอนซิน ซึ่งเป็นอีกรัฐสำคัญทีมีความสำคัญ

         ในเวลาเดียวกัน เฮ็มฮอฟฟ์จะดูดในงานหาเสียงทีเมืองออกซ์ฟอร์ด รัซมิสซิสซิปปี้ ก่อนจะเดนทางไปที่เดอะวิลเลจส์ ซึ่งเป็นชุมชนเกษียณอายุขนาดใหญ๋ ในใจกลางฟลอริดาที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม

         "ที่บริเวณหลังบ้านของทรัมป์ สุภาพบุรุษคนที่สองจะเน้นย้ำว่าแผนงานสุดโต่งของโครงการ โปรเจคท์ 2025 ของ ทรัมป์นั้นเป็นอันตรายเพียงใดต่อผุ้สูงอายุ ซึ่งรวมถึงแผนการที่จะยกเลิกระบบ "เมดดิแคร์" และ "โซเชียล ซีคิวรีตี้ไ และยกเลิก "แอฟฟอร์ดเดเบิล แคร์ แอคท์" ซึ่งจะทำให้ชาวอเมริกาหลายล้านคนสูญเสียสิทธิในการรักษาพยาบาล" ทีัมหาเสียงของแฮร์ริสกล่าว...

          https://www.nbcnews.com/politics/2024-election/live-blog/harris-trump-presidential-election-live-updates-rcna170756

          https://www.britannica.com/place/Pennsylvania-state/Government-and-society

วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567

Nevana groups mobilize New Americans.

           ท่ามกลางการขยายตัวของการพนันถุกกฎหมายในสหรัฐอเมริกา สิ่งบางอย่างยงคงถุกห้าทำ เช่น
การพนันผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้อาจกำลังเปลี่ยนแปลงไป ผุ้พิพากษาของรัฐบาลกลางในวอชิงตันได้ยกเลิกคำตัดสินของคณะกรรมการการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Futures Trading Commission)  ที่ห้านบริษัทแห่งหนึ่งเสนอส่ิงที่ถือเป็นการเดิมพันผลการเลือกตั้งของรัฐสภา

       เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผุ้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ เจีย ค็อบบ์ ได้ตักสินใน คาลซิ ซึ่งอาศัยอยู่ในนิวยอร์กเป็นฝายชนะ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเหตุผลของเธอ ผุ้พิพากษาได้ระงับการพิจารณาคดีนี้ไว้จนกว่าจะมีการพิจารคดีตามแผนในวันพฤหัสบดี ซึ่งศาลน่าจะสรุปเหตุผลของการตัดสินในดังกล่าว นอกจากนี้ ศาลยังอาจตัดสินตมคำร้องขอของหน่วยงานให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไป 2 สัปดาห์ "คณะกรรมการแพ้คดีอย่่างยุติธรรมและตรงไปตรงมา" คาลซิ เขียนไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อศาล "คณะกรรมการไม่ควรปล่อยให้ชัยชนะในการดำเนินการตามขั้ตอนเกิดขึ้นในขณะที่พ่ายแพ้โดยปล่อยให้เวลาหมดลง" จนกล่าวจะมีการเลือกตัึ้งสมาชิกรัฐสภาในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้

        "เมื่อการเลือกตั้งใกล้เข้ามา Kalshi และประชาชนสมควรได้รับสิทธิเข้าถึงสัญญาที่ CFTC ปิดกั้นมานานเกินไป "บริษัทดังกล่่าวเขียน"

        สหรัฐฯไม่อนุญาติให้มีการเดิมพันเกี่ยวกับการเลือกตัง แต่การพนันที่ใช้เว็บไซต์ต่างประเทศ ในการเดิมพันการเลือกตั้งเป็นที่แพร่หลายในยุโรป 

      ในการตัดสินเมือเดือนกันยายน ปีก่อน คณะกรรมาธิการเจ้งต่อ คาลซิ ว่่าไม่สามารถเสนอการเดิมพันแบบ ใช่-ไม่ใช่ ว่าพรรคใดจะควบคุมสภาผุ้แทนราษำรและวุฒิสภาได้ โดยตัดสินว่าการกระทำดังกล่าวเป็นกิจกรรมการพนันที่ผิดกฎหมายซึ่งขัดต้อผลประโยชน์สาธารณะ หน่วยงานดังกล่าวระบุว่า การเดิมพันดังกล่าว"อาจถูกนำไปใช้ในลักษณะที่จะส่งผลเสียต่อความซื่อสัตย์สุจริตของการเลือกตั้ง หรือการรับรู้ถึงการซื่อสัตย์สุจริตของการเลือกตั้ง เช่น การสร้างแรงจูงใจทางการเงินเพื่อลงคะแนนเสียงให้กับผุ้สมัครรายใดรายหนึ่ง" 

          เจ้าหน้าที่ไม่ตอบสนองต่อคำของแสดงความคิดเห็นในวันอังคารและวันพุธ ทนายความที่เป็นตัวแทนของพวกเขาในคดีนี้ส่งการสอบสวนกลับไปยังบริษัท ในทำนองเดียวกัน ทนายความที่เป็นตัวแทนของคณธกรรมการไม่ได้ตอบสนองต่อขึ้อความที่ขอแสดงความคิดเห็นหากผุ้พิพากษา ไม่ยินยอมที่ะหยุดเรื่องนี้ไว้จนถึงอย่างน้อยวันพฤหัสบดี คาลซิ ก็จะสามารถจดทะเบียนและรับเงินจากลูกค้าในตลาดของรัฐสภาได้ 

         ยังไม่ชัดเจนทันทีว่าบริษั่ดังกล่าวหรือบริษัท่อื่นๆ จะพยายามเสนอเดิมพันในการเลือกตั้งอื่นๆ รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยหรือไม่ ในปี 2020 สำนักพนันกีฆารายใหญหลายแห่งของระเทศกล่าวกับ The Associated Press  ว่าพวกเขาต้องการรับพนันการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หากการกระทำดังกล่าถุกกฎหมาย

       รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ถูกระบุเมือวันพุะว่าเป็นต่อเล็กน้อยที่จะชนะการเลือกตั้งบนเว็บไซต์ของสำนักรับพนันยุโรปหลายแห่ง โดยระบุว่าเธอมีโอกาส 54%-55% ที่จะชนะ หลังจากากรดีเบตเมือคืนวันอังคาร

        กลับมาที่เนวาดา หนึ่งในรัฐสมรภุมิรบ ซึ่งคะแนนเสียงไม่ถึง 10% ที่สามารถเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งในเดือนพฤจิการยนได้ ผุ้เชี่ยวชาญกำลังมุ่งเน้นไปที่ชุมชนที่สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้ง ได้ นั่นคือ ชาวอเมริกันกลุ่มใหม่

ชาวเมืองลาสเวกันและผุ้จัดงานชุมชนมารวมตัวกันเพื่อสร้างควมตระหนักรู้ว่าพลเมืองที่ผ่านการแปลงสัญชาติสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งของตนได้อย่างไรในการเลือกตั้งครั้งต่อไป  งานในวันแรกเป็นการเปิดตัวทัวร์สามสัปดาห์ ซึ่งรวถึงการแวะพักทีรัฐแกว่งอื่นๆ เช่น เพนซิลเวนเนียและแอริโซนา โดยที่จัดงานจะพบปะกับชุมชนผุ้อพยพเพื่อเน้นย้ำถึงคุณค่าของการมีส่วนร่วมทางสังคม และหารือวิธีการที่จะก้าวข้ามอุปสรรคในการลงคะแนนเสียง

การหยุดครั้งแรกในลาสเวกัน ซึ่งพลเมืองที่ผ่านการแปลงสัญชาติซึ่งจะไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในปีนี้จะพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ท่พวกเขาให้ความสำคัญ

         "นิโคล มีลากุ" กล่าวว่าผุ้เข้าร่วมงานประกอบด้วยผุ้คนที่ทำงานในก้านการดูแลสุขถาพหรือเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานในท้องถ่ินและมีความกังวลเกี่ยวกับัญหาอื่นๆ นอกเหนือจากปัญหาผุ้อพยพ เช้น ความปลอดภัยของปืน ปัญหาการสืบพันธ์ และสิทธิของคนงาน งานส่วนใหญ่ของ มิลากุ ที่ทำกับ NPNA (National Partnership for New Americans (NPNA ) ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นองค์กรด้านสิทธิของผุ้อพยพและผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่สารใน 40 รัฐเพื่อเพิ่มการบูรณาการของผุ้อพยพด้วยการสนับสนุนการรณรงค์ และการริเริ่มนโยบาย

         นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้ล่าสุด ผุ้ใหญ่มากกว่า 3-5 ล้านคนทั่วประเทศ รวมถึง 41,368 คนในเนวาดา ได้เป็พลเมืองโดยการแปลงสัญชาติ ตามการประมาณการของศูนย์นดยบายการย้ายถ่ินฐานสหรัฐฯ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก เมือต้องตัดสินใจนระหวาง โจ ไบเดน และ โดนัลด์ ทรัมปืในการเลือกตั้งปี 2020 ผลปรากฎว่าคะแนนเสียงในเนวาดาลดลงเหลือประมาณ 33,000 คะแนน ซึ่งแตกต่างกันไม่ถึง 3% ตามข้อมูลจากรัฐมนตรีต่างประเทศ

       ผุ้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิการยน จะสูสีกันอีกครัง ในขณะที่รอบประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ผุ้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโแมครต และอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ผุ้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกัน เดตรียมตวสำหรับการดีเบตคร้งแรกในวันนี้ทั้งสองยังคงทำผลงานได้สูสีกัน โดยผลสำรวจความคิดเห็ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศล่าสุด แสดงให้เห็นว่า ทรัมป์นำอยู่ 1% (ก่อนการดีเบต) เอเดลไวส์ โซลาโน เป็นชาวอเมริกันหน้าใหม่คนหนึ่งที่มีศักยภาพทีจะพลิกผลการเลือกตั้ง โซบาโน ผุ้อำนสยการฝ่ายบริการครอบครัวของAsian Community Development Council (ACDC) เข้ารับตำแหน่งเมือเดือมกราคม หลังจากอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ กว่าทศวรรษ

       เธอเล่าว่างานที่เธอทำกับ ACDC ทำให้เธอเห็นว่าการที่สามชิกในชุมชนชาวเอเชียด้วยกันยื่นใบสมัครขอสัญชาติและต้องแบกรับภาระทางการเงินในการของคยามช่วยเหลือนั้นเป็นเรื่อง "น่ากังวล" เพียงใดเธอช่วยเหลือผุ้คนในเส้นทางสุ่การเป็นพลเมืองด้วยความช่วยเหลือให้เปล่าจนกระทั่งเธอสามารถเข้ารับสิทธิในการเข้ารับกระบวนการด้วยตัวเองในช่วงต้นปีนี้

       โซลาโนกล่าวว่า "การเป็นพลเมืองอเมริกันมีความหายมากวก่าแค่การถือธงชาติสหรัฐฯผืนเล็กๆ ที่โยกสะบัดในพิธีเข้ารับสัญชาติ มันเป็นเรื่องของการรับใช้จุดมุ่งหมายที่ย่ิงใหญ่กว่านั่น นั้นคือการทำให้เสียงของฉันได้ับการได้ยินในทีสุด เพื่อแสดงความคิดเห็นของฉันเกี่ยวกับผุ้สมัครที่ฉันจะลงคะแนนให้ ซึ่งสะท้อนถึงค่านิยมของฉัน และเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของชุมชนของฉัน"

       แม้ว่าจะมีความืบหน้าบ้างในกรเื่องการเข้าถคึงข้อมูลสำหรับพลเมืองที่ผ่านการแปลงสัญชาติที่ไปใช้สิทธิลงวคะแนนเสียงครังแรก เช่น การลงคะแนนเสียงสองภาษาและศูนย์ลงคะแนนเสียงในสภานที่ที่ติดต่อได้ง่ายกว่า แต่เมลากูเชื่อว่ายังมีสิ่งทั่ต้องทำอีกมากมาย

       พรรครีพับลิกันหลายคนพุดถึงเรือง "ความซื่อสัตย์ในการเลือกตั้ง" ว่าเป็นประเด็นสำคัญในรอบการเลือกตั้งครังนี้ ซึ่งเป็นผละมาจากความเชื่อของพรรคที่ว่าพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในปี 2020 ด้วยวิธีการที่ไม่เป็นธรรม พรรครีพับลิกันเหล่านี่่ยังผลักดันให้มีข้อกำหนดที่เข้มงวดย่ิงขึ้นเกี่ยวกับบัติประจำตัวผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เช่น กำหมายของรัฐบาลกลางที่กำหนดให้ต้องแสดงหลักฐานการเป็นพลเมืองเมือลงทะเบียนลงคะแนนเสียง

          ความพยายามของ กรรมาธิการรีพับลิกันแห่งชาติ ส่งผลให้ คลาร์ก เคาท์ตี้ ระงับสิทธิกาลงคะแนนของผุ้ลงทะเบียนแล้วกวา 100,000รายเพื้อป้องกันไม่ให้พวกเขาได้รับบัตรลงคะแนนโดยอัตโนมัติ และคดีความต่างๆ ยังคงดำินินอย่หลายคดี ตามที่พรรคระบุ

         ในความพยายามล่าสุด อขง RNC ทัมทรัมป์็ และพรรครีพับลิกันแหงเนวาดาได้จัดการฝึกอบรมอาสาสมัคร"ปกป้องการลงคะแนนเสียง" และ "ความซื่อสัตย์ในการเลือกตั้ง" ในเมืองรีโน ซึ่งผุ้เข้าร่วมได้เรียนรู้วิธีการเป็น "ผู้สังเกตการเลือกตั้ง" โดยตระหนักถึงการทุจริตการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้น แมททริว วิทาเกอร์ อดีตรักษาการอัยการสูงสุดในสมัยทรัมป์เข้าร่วมการฝึกอบรมและกล่าว่ามีผุ้คน 165,000 คนทั่วประเทศลงทะเบียนเพื่อรับชมการเลือกตั้ง

         "เราไม่สามารถมีระบบการลงคะแนนเสียงทั้งหมดนี้ได้หากไม่ได้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามกฎหมาย" ไวเทอเกอร์กล่าวเสริม 

        ผู้ที่คัดค้านการเปลี่นแปลวที่พรรครีพับลิกันเสนอมีความกังวลว่ากฎหมายการระบุตัวตนผุ้มีสิทธิออกเสียงที่เข้มงวดย่ิงขั้นอาจทำให้เกิดการแบ่งแยกต่ามเชื้อาติหรือทำให้กลุ่มชนกลุ่มน้อยกลัวที่จะไปลงคะแนนเสียง 

        "เรามีตัวเลขที่แน่นอนของผุ้คนที่ได้รับสัญชาติในแต่ละรัฐ ซึ่งผ่านการตรวจสอบแล้ว" เมลากูกล่าว "พวกเขามีความสามารถและมีเอกสารที่พิสูจน์ได้วาพวกเขาสามารถลงคะแนนเสียงได้ในรอบปีนี้" 

           https://lasvegassun.com/news/2024/sep/10/advocacy-groups-mobilize-new-americans-to-be-a-voi/

          https://lasvegassun.com/news/2024/sep/11/court-could-clear-the-way-for-americans-to-legally/

          https://lasvegassun.com/news/2024/sep/11/court-could-clear-the-way-for-americans-to-legally/ 

      

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567

Presidential debate between Donald Trump and Kamala Harris

            ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการแข่งขันระหว่างกมลา แฮร์ริสและโดนัลด์ ทรัมป์ มาถึงในสัปดาห์นี้
ขณะที่รองประธานาธิบดีเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสเดียวของเธอในหารเผชิญหน้าอดีตประธานาธิบดีโดยตรง ซึ่งเธอให้คำมั่นว่าจะยุติอิทธิพลทางการเมืองของเขา

           อารอภิปรายในคืนวันอังคารนั้นสำคัญเป็ฯพิเศษสำหรับแฮร์ริส ซึ่งกำลังต่อสู้ดิ้นรนเพ่อกำหนดตัวตนของเธอเองในสายตาของผุ้ลงคะแนนเสียงและรักษาโมแมนตัมเชิงบวกที่เธอได้รับมาตั้งแต่ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อคนใหม่ของพรรคเดโแมครตในช่วงฤดูร้อนนี้

         การอภิปรายที่ศุนย์รัฐธรรมนูญแห่งชาติในเมืองฟิลาเดลเฟียจะเป็นการเชิญหน้ากันครังแรกระหว่างแฮร์ริสและทรัมป์ ซึ่งแข่งขันกันอย่างดุเดือด สำหรับแฮร์ริส นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่จะแสดงให้ชาวอเมริกันเห็นว่าเธอพร้อมที่จะรับตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นคำถามที่อยุ่ในใจของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในขณะที่แคมเปญหาเสียงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกำลังเขัมข้นขึ้น

        ในขณะเดียวกัน ทรัพมป์ก็กระตือรือร้นที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีต่อคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตของเขาในเชิงลบ และหยุดยั้งชัยชนะที่เธอทำได้ตังแต่ขึ้สุ่ตำแหน่งสูงสุดในบัติรเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตในเดือนกำกฎาคม แฮร์ริสได้กำจัดคะแนนนำของทรัมป์เหนือไบเดนในการสำรวจความคิดเห็นของประธานาธิบดีตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

       ทั้งแฮร์ริสและทรัมปต่างก็เสนอตัวเป็นตัวแทนแห่งการเปลี่ยนแปลง แฮร์ริสได้วางตวเองให้เป็นจุดเปลี่ยนที่ชัดเจนจากยุคที่การเมืองถูกครอบงำโดยทรัมป์ซึ่งเต็มไปด้วยความแตกแยกอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม อดีตประธานาธิบดีชี้ให้เห็นถึงช่วงเวลาที่แฮร์ริสอยุ่ในรัฐบาลของไบเดนและกล่าวว่าเธอต้องรับผิดชอลสำหรับภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยุ่อาศัยที่สูงขึ้น และอีกมากมาย

      การดีเบตดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าใรับสำคัญหลายแห่ง ดดยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าการแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้นทั้ในระดับประเทศและในสมรภูมิสำคัญต่างๆ ซึ่งรวมถึง"กำแพงสีน้ำเงิน" ในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสอนซิน รวมถึงรัฐในแถบซันเบลท์อย่างแอริโซนา จอร์เจีย เนวาดา และนอร์ทแคโรไลนา 

        แคมเปญท้้งสองสห้ความสนใจเป็นพิเศษณกับเพนซิลเวเนียและจอร์เจีย โดยการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของ CNN พบว่าไม่มีผุ้นำที่ชัดเจนระหว่างผุ้สมัครทั้งสอง หากทรัมป์สามารถยึดครองนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นรัฐที่เขาเคยชนะมาแล้วสองครั้ง ชัยชนะในเพนซิลเวเนียและจอร์เจียอาจทำให้เขาผ่านเกณฑ์คะแนนเสียงคณธผุ้เลือกตั้ง 270 คะแนนได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับชัยชนะในรัฐสมรภูมิอื่นๆก็ตาม

         https://edition.cnn.com/2024/09/08/politics/kamala-harris-donald-trump-debate/index.html?iid=cnn_buildContentRecirc_end_recirc

       ในการดีเบต ผุ้ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่ากระตุ้นใหเกิดความแตกแยกในอเมริกา ผุ้สมัครต่างพากันเข้าสุ่ประเด็นที่ดต้แย้งกันอย่างรวเดร็ซตั้งแต่การอพยพและการแตกหักของหิน ไปจนถึงสงครามของอิสราเอลในฉนวนการซา แต่เป็นการถ่ายถอดสดจาช่อง ABC ซึ่งผุ้ชมจะชมอยุ่ทางบ้าน

          รองประธานาธิบดีได้เตรียมการสำหรับการดีเบตอย่างละเอียด และได้ใส่ความเห็นที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ทรัมป์โกระในคำตอบแทบทุกคำตอบ เธอบอกกับทรัมป์วาผุ้นำโลกำลังหัวเราะเยาะเขา และผุ้นำกองทัพเรียกเขาว่า "ความเสื่อมเสีย" เธอเรียกทรัมป์ว่า "อ่อนแอ" และ "ผิด"  เธอกล่าวว่าทรัมป์ถูกไล่ออกโดยผุ้มีสิทธิเลือกตั้งง 81 ล้านคนซึ่งเป็นจำนวนที่ลงคะแนนเสียงในประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2020 "เห็นไ้ชัดว่าเขาประสบปัญหาในการประมวลผลเรื่องนั้น " เธอกล่าว 

         ทรัมป์มักจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาพูดเสียงดังและย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเรื่องเท็จมากมายเป็นเรื่องจริง อดีตประะานาธิบดีกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงเรื่องโกหกเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นอย่าแพร่หลายในการเลือกตั้งปี 2020 เขาพูดซ้ำทฤษฎีสมคบคุดเกี่ยนวกับผุ้อพยพที่กินสัตว์เลี่ยง และโกหกเกี่ยวกับการสนับสนุนการทำแท้งหลงจากทารกเกิด ซึ่งเป็นการฆาตกรรมและผิดกฎหมายทุกที เขาวาดภาพความเลวร้ายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งชวนในนึกถึง "การสังหารโหดของอเมริกาไ ที่เขาเคยเตือนไว้ตอนที่เข้ารับตำแหน่งในปี 2017 ทรัมป์กล่าวเมื่อคือดีเบตว่า "เรามีประทศที่กำลังจะตาย" 

             เมื่อการอภิปรายสิ้นสุดลง แอร์ริสก็ได้รับการสนับสนุนอีกครั้ง ดดยเทย์เลอร์ สวิฟต์ นักดนตรีและไอคอนวัฒนะรรมป็อป โพสต์บนอินสตาแกรมว่าเธอสนับสนุนผุ้สมัครของพรรคเดโแมครต เธอลงชื่อในโพสต์ว่า "เทย์เลอร์ สวิฟต์ ผุ้หญิงแมวไร้บุตร" ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงความคิดเหน็ที่ขัดแย้งของ เจดี แวนซ์ วุฒิสมาชิกรัฐโอไฮโอ เพื่อร่วมทีมของทรัมป์ ที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนไม่พอใจ

        ต่อประเด็นอิสราเอล เมือถุกถามว่าจะรักษาสันติภาพในฉนวนกาซาได้อย่างไร แอร์ริสเ่ล่าถึงความน่ากลัวของการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลเมือวันที่ 7 ตุลาคม ปีก่อน จากนัั้นเธอวิพากษ์วิจารณืการตอบดต้ของอิสราเลซึ่งโจมตีอย่างต่อเนื่อจนทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวติหลายหมือนคนก่อนที่จะเปลียนมาสนนับสนุนแนวทางสองัฐ สิทธิของอสิราเอลในจการปกป้องตัวเอง และพันธกรณีที่จะสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่

       แฮร์ริสประกาศว่า "เราต้องการข้อตกลงหยุดยิงและต้องการให้ตัวประกันออกไป" ไบเดนและคนอื่นๆ ยอมรับเมือไม่นานรี้ว่าข้อตกลงดังกล่าวยังคงอีกนาน 

       ทรัมป์ให้รายละเอียดน้อยมาก "เธอเกลียดอิสรเอล" เขากล่าวถึงแฮร์ริส และเสริมว่าเธอยังเกลียด "ชาวอาหรับ"ด้วย ทรัมป์พยายามปลุกปั้นความโกระแค้นในหมุ่ชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับเกี่ยวกับการจัดการความขัดแย้งของไบเดนอยู่ย่อยครั้ง แต่ในวันอังคารเขากลับละท้ิงกลวิธีดังกล่าวอย่างรวดเร็ว โดยตำหนิแฮร์ริสที่สแสดงความดูถูกเบนจามิน เนทันยาฮู นากยกรัฐมนตรีอิสราเอลระหว่งการเยือนแคปิตอลฮิลล์เมือไม่นามานี้ ซึ่งเธอได้พบกับเขาจริงๆ แต่เธอไม่ได้เข้าร่วมการกล่าวสุทรพจน์ต่อรัฐสภาของเขา และประกาอีกครั้งว่าเรื่องทั้งหมดนี้ "จะไม่เกิดขึ้นไ หากเขายังอยุ่ในทำเนียบขาว

      เช่นเดียวกับสงครามรัสเซียในยูเครน ตามที่อดีตประธานาธิบดีกลบ่าวหลังจากหยุดสังเกตว่าเขา "รุ้จักปูตินอย่างดี" และกล่าวว่า "รัสเซียจะไม่มีวัน..เข้าไปในยูเครน" ภายใต้การดำรงตำแหน่งของเขา ทรัมป์กล่าวเสริมว่า "ผมจะทำให้เสร็จก่อนที่จะได้เป็นประธานาธิบดีด้วยซ้ำ" และอ้างวา่การเลือกตั้งขอวเขาจะรีเซ็ตสภานะทางภูมิรัฐศาสตร์และเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นการประกาศข้อตกลงเลยที่เดียว

       ส่วนแฮร์ริสใช้การสนทรสเรื่องรัสเซีย-ยูเครนเพื่อโจมตีทรัมป์เกี่ยวกับความชื่นชอบที่มีต่อผุ้นำเผด็จการและผุ้นำปรเทศต่างๆ ที่เป็นที่ยืนยันกันดี แฮร์ริสกล่าวว่า "เป็นที่ทราบกันดีว่าเหล่าเผด็จการและผุ้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหล่านี้กำลัเชียร์ให้คุณเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง เพราะเห็นได้ชัดว่าพวกเขาสามารถหลอกล่อคุณด้วยการยกยอและเอื้อประโยชน์ได้" 

        ทรัมป์ตอบโต้กลับโดยย้อนนึกถึงความพยายามของเขาที่จะให้ประเทศสมาชิก "นาโต้" จ่ายเงินเข้าพันธมิตรมากขั้น และวิพากษืวิจารณ์แฮร์ริสที่ไบเดนปฏิเสธที่จะทำเช่นเดียวกันก่อนจะพูดว่ารองประธานาธิบดี "ม่มีความกล้าที่จะขอ" 

        แฮร์ริสต่อบว่าเธอเชือ่วาทรัมป์อาจยุติสงครามได้อยางรวดเร็วด้วยการยอมจำนนต่อปูติน และด้วยการกรทำดังกล่าว เธอกล่าวเสริมว่า การกระทำดังกล่าวทำให้โปแลนด์ที่ชายแดนด้านตะวันตกของยูเครนตกอยุ่ในอันตราย(แฮร์ริสตั้งขอ้สังเกตว่ารเพนซิลเวเนียมีประชากรชาวโปแลนด์-อเมริกันจำนวนมาก)

        ทรัมป์หยิบยกการจัดการของรัฐบาลในการถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยให้เหตุผลว่าการกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอในทำเนียบขาว และไบเดนไม่ได้ไล่คนออกเพียงพอเพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าว แอร์ริสกล่าวว่า เธอเห็นด้วย กับการตัดสินใจของไบเดนที่จะถอนทหารสหรัฐฯ ออกจาอัฟกานิสถานในปี 2021 และยืนยันว่าทรัมป์ "เจรจาข้อตกลงที่อ่อนแอที่สุดข้อหนึ่งเท่าที่คุณจะจินตนาการได้" ในเรื่องนี้ในช่วงเวลาที่่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ...

https://edition.cnn.com/2024/09/10/politics/debate-takeaways-trump-harris/index.html


วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2567

Nevadans’ political independence,

          ชาวเนวาดาและนักวิชาการที่ศึกษาเกี่ยวกับระบบการเมืองเนวาดากว่าว่า เนวาดามีความขัดแย้งกัน
มากขึ้นตามแนวทางของพรรคการเมือง ความขัดแย้งที่เพทิ่มมากขึ้นนี้จะทำให้รัฐนี้ห่างไกลจากความเสมอภาคทางการเมืองในหรือไม่

          เศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน และความสามารถในการซื้อที่อยุ่อาศัย เป็นสิ่งที่ผุ้มีสิทธิเะลือกตั้งในเนวดาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก พรรครีพับลิกันโต้แย้งว่าเศราฐกิจกำลังแย่ลงในขณะที่ เดโมแครต แย้งว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น และปัญหาที่ถกเถียงกันซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรากฎในบัตรลงคะแนนในเดือนพฤศจริกายนนี้ เช่นสิทธิในการทำแท้ง การกำหนด ให้ต้องแสดงบัติประจำตัวผุ้มีสิทธิเลือกตั้งและการอนุญาตให้ครูหยุดงาน ล้วนมีส่วนทำให้เกิดการโต้เถียงกันระหว่งกลุ่มชาติพันธ์ในท้องถ่ินและระดับรัฐ

          เมื่อพิจารณาการเมืองของเนวาดา พบว่าตัวแทนทางการเมืองจากพรรคการเมืองหลักทั้งสองพรรคมีความสมดุลกัน อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาให้ละเอียดขึ้นจะพบว่าภุมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปในช่่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ในทางวัฒนธรรม เนวาดมีความเกี่ย่วข้องกับการแต่งงานและการหย่าร้างที่ง่ายดาย การพนัน ในคาสิโน การค้าประเวณอยางถุกกฎหมาย และความคิดที่หละหลวมและทำอะไรก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยสโลแกนอันโด่งดังที่ว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นจที่นี่จะอยู่ที่นี่" 

ในความเป็นจริง เนวาดาก็เป็นรัฐอนุรักษ์นิยมทางการเมืองเช่นกัน แม้ว่าแต่ในกลุ่มเดโแมครต ภาพที่ขัดแย้งกันนี้ทำให้ภูมิทัศน์ทางการเมืองเปลี่ยนไประหว่างการครอบงำของพรรครีพับลิกันและเดโแมครตท่ั้งในระดับรัฐบาลกลางและระดับรัฐ 

         ตั้งแต่ก่อตั้งเนวาดา ในปี 1864 จนถึงปี 1890 พรรครีพับลิกันเป็นผุ้นำรัฐ ผุ้แทนระดับรัฐกลางและระดับรัฐทั้งหมด ยกเว้นสมาชิกสภานิติบัญญัติ 2 คน เป็นเดโมแครตจในปี 1864 เมื่อเนวาดากล่ายเป็นรัฐที่ 36 

         ตั้งแต่ปี 1890-1908 เนวาดาอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคเงินซึ่งสนับการผลบิตเหรียญเวงินอย่างไม่จำกัด ซึ่งเป็นปัญหาเศราฐกิจที่สำคัญในอเมริกาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ภายในปี 1902 กลุ่มที่สนับสนุนเหรียญเงินส่วนใหญ่ในเนวาดาถุกพรรคเดโแมครตของรับเข้าควบคุม

        ตั้งแต่ปี 1908-1930 การควบคุมของพรรครีพัลิลกันและเดโแมครตแบ่งออกเท่าๆกัน โดยเดโแมครได้รับชัยชนะมากกว่าแต่พรรครพัลิกันกลับได้รับชัยชนะในระดับประธานาธิบดีและผุ้ว่การรัฐมากกว่า

        หลังจากได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเดโแมครต แฟรง กลิน ดี. โรลเวลต์ ในปี 1932เดโแมครตมีอิทธิพลทางกเารเมืองในเนวาดาจนถึงช่วงทฯศวรรษที่ 1980 เมื่อรีพัลิลกันกลัมามาีอิทธิพลอีกครั้ง และในช่วงปลายปี 1995 จำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งของพรรครีพัลิลกันก็มีมากว่าพรรคเดโแมครตในเนวาดาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 

        อย่างไรก็ตาม ในปี 2004 กระแสทางการเมืองได้เปลี่ยแลับมาที่พรรคเดโมแครตอีกครั้ง เนื่องจากความพยายามที่เข้มแข็งในการรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิลงคะแนนของพรรคเดโมแครต

          เนวาดาเป็นรัฐสหภาพที่แข็งแกร่งมาก สหภาพแรงงานด้านการประกอบอาหารซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานบริการในนวาดากว่า 60,000 คนมีอิทธฺิพลเป็นพิเศษ "เครื่องจักรรีด" ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรที่หลวมๆของกลุ่มหัวก้าวหน้าที่ตั้งชื่อตามผุ้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ผุ้ล่วงลับ แฮร์รี รีด เร่ิมทำงานในช่วงกลางทศวรรษ 1990 โดยสหภาพแรงงานพยายามลงทะเบียนสมาชิกชนชั้นแรงงาน คนหนุ่มสาว ชาวละติน คนผิวสี และชาวเอเชียเป็นผุ้มีสิทธิเลือกตั้งความพยายามเหล่านี้ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่พรรคเดโมแครตพ่ายแพ้ในปี 2002 สหภาพแรงงานและกลุ่มหัวก้าวหน้าทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าผุ้คนลงคะแนนเสียงให้ไม่ว่าจะด้วยการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า การลงคะแนนสเียงด้วยตนเองในวันเลือกตั้ง หรือทางไปรษณีย์

            ความพยายามเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุดต่อสภานิติบัญญัติของรัฐ ซึ่งพรรคเดโแมครตมักจะควบคุมสมัชชาของรัฐมาโดยตลอดนับตั้งแต่ปี 1997 ยกเว้นช่วงสมัยประชุมสองปีในปี 2015 และเป็นผุ้นำวุฒิสภาของรัฐมาตั้งแต่ปี 2009 ยกเว้นช่วงสมัยประชุมของปี 2015 

 ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา คณะผุ้แทรระดับรัฐบาลกลางของเนวาดาล้วนเป็นเดโมแครต ซึ่งเคยครองที่นั่งในสภาผุ้แทนราษฎรของสหรัฐฯ 3 จาก 4 ที่นั่ง และที่นั่งในวุ?ิสภาของสหรัฐฯ 2 ที่นั้ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการขึ้นทะเบียนสมาชิกพรรคเดโแมครตเพ่ิมขึ้นและมีการพยายามของ "เครื่องจักรของรีด" แต่ผุ้ว่าการรัฐเกือบทั้งหมดที่ได้รับการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี 1998 ล้วนเป็นพรรครีพัลลิกัน ข้อยกเว้นเพียงกรณีเดียวคือการเลือกตั้งสตีฟ ซิโซแล็ก จากพรรคเดโมแครตให้ดำรงตำแนห่งเป็นเวลา 4 ปีในปี 2018 

          ความแตกต่างระหว่างพรรคการเมืองในหมู่ผุ้ดำรงตำแหน่งในระดับรัฐบาลกลางและระดับรัฐเกิดขึ้นเนื่องจากชาวเนวาดาเป็นที่รุ้กันดีว่าเป็นผุ้แยกคะแนนเสียง โดยภาคภูมิใจในการลงคะแนนเสียงโดยพิจารณาจากประเด็นและบุคคล  มากกว่าความภักดีต่อพรรคหรืออัตลักษณ์ของตน

         เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอิสระทางการเมืองขอชาวเนวาดา ในปี 1976 รัฐได้เพ่ิม "นอน ออฟ ธีส แคนดิเดทส์" เป็นตัวเลือกสำหรับตำแหน่งในระดับรัฐและระดับรัฐบาลกางทั้งหมด รัฐนี้เป็นรัฐเดียวในสหรัฐฯ ที่มีตัวเลือกนี้

          รูปแบบการลงคะแนนเสียงของรัฐเนวาดาทำให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งของรัฐได้เลือกผุ้ชนะในการเลือกตั้ประธานาธิบดี ได้อย่าง น่าเชื่อถือ จากการเลือกตั้งประธานาธิบดี 40 ครั้ง ที่รัฐเนวาดาเข้าร่วมตั้งแต่ปี 1864 ถึงปี 2020 รัฐได้ลงคะแนนเสียงให้กับผุ้สมัครที่ได้รับชัยชนะ 33 ครั้ง และในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 23 ครั้งนับตั้งแต่ปี 1912 คะแนนเสียงเลือกตั้งของรัฐได้มอบให้กับผุ้สมัครที่ได้รับชัยชนะในการเลือตั้งเกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียสองครั้ง 

          https://lasvegassun.com/news/2024/sep/06/trump-to-jewish-republicans-at-las-vegas-conferenc/

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2567

Nevada

            ตลอดประวัติศาสตร์ของเนวาดา ไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีอิทธิพลเหนือการเมืองของรัฐ และกลุ่ม
ผุ้ม่สิทธิเลือกต้้งก็ยังคงมีความสมดุลในแนวทางทางการเมืองอย่างน่าประหลาดใจ นับตั้งแต่ที่เนวาดาเป็นรัฐในปี 1864 เนวาดาก็มีผุ้แทนเทียบเท่ากับผุ้แทนของรัฐบาลกลางโดยมีวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ 14 คนจากแต่ละพรรคการเมืองหลัก และสมาชิกสภาผุ้แทนราษฎรสหรัฐ20 คนจากแต่ละพรรคการเมืองเดโมแครตและรีพับลิกัน

            ความเท่าเทียมกันนี้มีอยุ่ในระดับรัฐเช่นกัน มีผุ้ว่าการรัฐเนวาดาทั้งหมด 31 คน ได้แก่พรรครีพับลิกัน 15 คน พรรคเดโแมครต 12 คน และพรรคซิเวอร์ 2 คน จากพรรคซิลเวอร์ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และพรรคซิเวอร์ ในที่สุด พรรคซิลเวอร์เโแมครตก็ถูกดุดซับเข้าในพรรคเดโแมครต ในณะทีี่วุฒิสภาของรัฐถูกควบคุมโดยพรรครีัพลิกัน 48 ครั้งและพรรคเดโมแครต28 ครั้ง การควบคุมสมัชชาของรัฐตามสัดส่วนกลับตรงกันข้ามโดยพรรคเดโแมครตควบคุมห้องปรุะชุม 50 ครั้ง และพรรครีพับลิกันควบคุมเสียงข้อางมาก 26 ครั้ง

          ทั้งหมดนี้ทำให้สภานะที่ไม่ธรรมดาของเนวาดาในแวดวงการเมืองปัจจุบันคือไม่ใช่เป็นรัฐสมรภูมิ

          เนวาดาตั้งอยุ่ในภูมิภาคภูเขาที่มีทุ่งหญ้ากึ่งแห้งแล้งและทะเลทรายอัลคาไลน์ทรายจำนวนมาก ชื่อรัฐมาจากคำในภาษาสเปน แปลว่า "ปกคลุมด้วยหิมะ" ซึ่งหมายถึงทิวทัศน์ภูเขาสุของเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา ที่ชายแกนด้านตะวันตกติดกับรัฐแคลิฟอร์เนีย เนวาดา ซึ่งในช่่วงต้นศตวรรษที่ 21 เป็นหนึ่งในรัฐที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ ดุเมอืหนจะห่างไกลจากสมัยที่เวรอ์จิเนียซิตี้เป็นเมืองชายแดนในตำนานที่เจริญรุ่งเรืองจาก เหมือง เงิน ที่อุดมสมบุรณ์ ของคอมสต็อกโลดอย่างไรก็ตาม คุณลักษณะ ของชายแดนหลายประการยังคงอยู่ แม้ว่าจะภูกเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดอ่อนโดยสภาพแวดล้อมในเมืองที่มีความซับซ้อน นักสำรวจที่ขุดหาสมบัติเพื่อเสี่ยงโชคถุกแทนที่ด้วยผุ้แสวงหาโชคลาภใน คาสิโน การพนัในลาสเวกัสและรีโนและ"สถานบันเทิงยามราตรี" ในอดีต ได้พัฒนาเป็นสถานบันเทิงยขามค่ำคืนที่หรูหรา

 ชาวเนวาดาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตเมือง โดยประมาษครึ่งหนึ่งของประชากรอาศัยอยุ่ในเชตมหานคร ลาสเวกัส เพืีีงแห่งเดียว พื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอันกว้างใหญ่ของรัฐเป็นแหล่งทรัพมยากรที่ยังไม่ได้รับการสำรวจเป็นส่วนใหญ่และการผสมผสานระหว่างเมืองท ี่ขยายดึวและพื้นทีททะเลทรายทำให้เนวาดากลายเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เหมือนใไครในบรรดารัฐต่างๆ ของสหรัฐอเมิรกา 

          ชาวเนวาดาส่วนใหญ่มีพรรพบุรุษเป็นชาวยุโรป ซึ่งมากว่าสี่ในห้าคนเกิดในสหรัฐฯ ชาวเนวาดาส่วนน้อยสืบเชื่อสายมาจากชาวบาสก์ที่รับคนมาเป็นคนเลืั่ยงแกะจาก บ้านเกิด ในเทือกเขาพิเรนีส ชาวฮิสแปนิก ซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายเม็กซิกันและคิวบาคิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรในรัฐและกระจุกตัวอยุ่ทางตะวันออกเแียงใต้ชาวแอฟริกันอเมริกัน ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยุ่บริเวณลาสเวกัน และรีโนคิดเป็นไม่ถึงหนึ่งในสิบของประชกรทั้งหมด ชาวพื้นเมืองอเมริกันของ อาศัยอยุ่ในเขตสงนหลายแห่งและคิเดเปศษเสี่้ยวเล็กน้อยของประชากรในรัฐกลุ่มศาสนาหลักคือ มอร์มอนและโรมันคาะอลิก มีนิกายโปรเตสแตนต์หลายนิกายและมีชาวยิวอยุ่บ้างเล็กน้อย

           ตั้งแต่ปี 1950 ถึงปี 1970 ประชากรของเนวาดา เติบดตขึ้นมากว่าสองในสาม และตลอดช่วงเวลาส่วนใหญ่ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 ถึงต้นศตวรรษที่ 21 ประชากรเติบโตเร้ซกว่ารัฐอื่นๆ โดยมีักจะเติบโตเร็วกว่ารัฐอื่นๆ โดยมักจะเติบดตมากว่าอัตราการเติบโตของประเทศถึงสามเท่า การเติบโตนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากากรอพยพจากรัฐอื่นๆ อัตราการเดิกสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศเล็กน้อย ผลกระทบจากการอพยพนี้สงปลกระทบมากที่สุดในเมืองลาสเวกัส และเขต คลาร์ก โดยรอบ และในเมืองริโนและเขตวอโชโดยรอบ ชาวเนวาดาส่วนหใญ่มีส่วนร่วมนเศราฐฏิจที่เฟื่องฟูของเขตมหานครทั้งสองแห่งนี้

          ภูมิภาคนี้มีแร่ะาตุอุดมสมบูณ์ ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศทอดยาวไปทางตะวันออกจากแคลิฟอร์เนีย ผ่านเนวาดาและเข้าไปในแอริโซนาทองแดง ซึ่งในเนวาดาเป็นส่วนใหญ่เป็นผลพลาอยได้จากการขุดทอง เคยเป็นสวนประกอบที่ใหญ่ที่สุดของการปลิตแร่ะาตุของรัฐ แต่ลดลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980 เมือความต้องการโลหะลอลงทั่วดลกแต่ภาคอุตสาหกรามนี้ฟื้นตัวขึ้นในขช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ มา เอสโก ได้เข้ามาแทรที่ทองแดงในฐานะ แร่ธาตุ ที่มีมุลค่าทางการค้าสุงสุดขอรัฐและผลผลิตประจำปีนั้นสุงที่สุดในประเทศเงินเป็นแร่ธาตุที่สมีมูลค่าทางการค้าสุงสุดของรัฐและผลผลิตประจำปีนั้นสุงที่สุดในประเทศเงินเป็นแร่ะาตุชั้นนำอีกชนิดหนึ่งของรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตแบริต์ ทั้งสเตนและปรอท รายใหญ่ แร่ธาตุสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ยิซัม ทรายและกรวด หินบด และแมกนีเซียมปิโตรเลี่ยม ถูกค้นพบในเคาน์ตั้ นีย์ ในปี 1954 และได้ขยายไปยัง เคาน์ตี้ เอนรีคา และ เอลโค นับแต่นั้นเป็นต้นมาไฟฟ้าส่วนใหญผลิตได้จากถ่านหินและก๊าซะรรมชาติแต่ส่วนน้อยผลิตได้จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงานแงอาทิตย์และกังหันลมเร่ิมตำเนิการในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ถานหินและก๊าซธรรมชาติใช้ในโรงไฟฟ้าในเนวาดาตอนใต้ เขื่น ฮูเวอร์ และเดวิสเป็นแหล่งพลังงานหลัก โดยเสริมด้วยการนำเข้าพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำ จากแคลิฟอร์เนียและโอเรกอน

            การท่องเที่ยวและกิจกรรมที่เกี่ยว้องสร้างรายได้มากกวาการทำเหมือง การเกษตร และการผลิตรวมกัน และจ้างแรงงานมากว่าสองในห้าของกำลังแรงงานทั้งหมด แม้ว่าจะมีผุ้คนหลายล้านคนมาเยื่ยมชมทะเลสาบมือด และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและทัศนียภาพอื่นๆ แต่การท่องเที่ยวมีศุย์กลางอยุ่ที่สภานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งซึ่งส่วนใหญ่มีเฉพาะในเนวาดเท่านั้น คาสิโนเปิดตลอด 24 ชัวโามง อยุ่ติดกับ "เดอะ สตริป" และ "ฟรีมอน สตรีท"ในลาสเวกัส เป็นพื้นที่ที่ได้รับการประชาสัมพันธ์มากที่สุดในด้านกฎหมาย อุตสาหกรรม การพนันส่วนเสริมที่สำคัญของคาสิโน ได้แก่ โรงแรงหรุหรา ร้านอาหารเลิศรส สนามกอล์ฟ และไนท์คลับที่ทำให้ลาสเวกันเป็นเมืองเล็กที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทะเสาบแทโฮ ซึ่งเป็นหนึ่งในศุนย์กลางความพันเทิงสดที่สำคัญของประเทศ เมืองเล็กๆ ยังเน้นอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยวอีกด้วยการค้าประเวณีถูกกฎหมายถือเป็น่งิที่ไม่เหมือนใครในเขตชนบทของเนวาดาตอนกลาง แม้วาความพยายามในการออกกำหมายห้ามการต้าประเวณีในพื้นที่ดังกล่าวจะเ่พมิมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานโยบายการเงินของรัฐเนวาดาค่อนข้างอนุรักษ์นิยมรัฐธรรมฯุญจำกัดทั้งการเก็บภาษีและหนี้สินอย่างเข้มงวดความสามารถในการชำระหนี้ไม่สามารรถเกิด 2% ของมูลค่าประเมินรวมของอสังหาริมทรัพย์ในรัฐ และมีอัตราภาษีสุุงสุดสำหรับอสังหาริมทรัพย์ สิ่งที่ผิดปกติย่ิงกว่าือไม่มีการจัดเก็บภาษีของรัฐจากมรดกและรายได้ทุกประเภท ภาษีการพนันและภาษีการชายเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐ การจัดเก็บภาษีของรัฐรายได้ทั่วไปประมาณสองในสาม โดยส่วนใหญ่มาจากเงินช่วยเหลือและเงินอุดหนุนของรัฐบาลกลาง

           รัฐเนวาดาปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับดั้งเดิมซึ่งได้รับการรับรองในปี 1864 แต่ต่อมามีการแก้ไขเพ่ิมเติมในหลายๆ ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสู ได้แก่ ผุ้ว่าการรัฐ รองผุ้ว่าการรัฐอัยพากรสุงสุด เลขาะิการรัฐ ผุ้ควบคุม และเหรัญญิก ได้รับเลือกให้ดำรงด้านแหน่งวาระละ 4 ปี  นอกเหนือจาแหนกและหน่วยงานปกติที่ทำหน้าที่กำกับดูแลด้านที่ประชาชนให้ความสนใจ คณะกรรมการสิทะิเท่าเที่ยมของรัฐยังดูแลด้านการเลือกปฏิบัติในรูปแบบต่างๆ ในขณะที่คณะกรรมการควบคุมการพนันทำหน้าที่ควบคุมการดำเนินงานของอุตคสาหกรรมการพนัน

        สภานิติบัญญัติ ของรัฐเนวาดาประกอบด้วยวุฒิสภาซึี่งมีสมาชิก 21 คน ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 4 ปี และสมัชชาซึ่งมีสมาชิก 42 คนได้รับการเลือกต้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 2 ผปี สภานิติบัญัติจะประชุมกัสนในเดือนกุมภาพันธ์อขงปีที่เป็นเลขคี่ 

        องค์กรตุลาการสุงสุดคือศาลฎีกา ซึ่งประกอบด้วยผุ้พิพากษาเจ็ดคน ซึ่งนั่งเป็นคณะผุ้พิพากาษสามคนหรือเป็นศาลเดต็มคระ ขึ้นอยุ่กับความสำคัญของคดีที่พิจารณา ผุ้พิพากาษศาลฎีกาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละหาปี นอกจากนี้ยังมีศาลแขวงซึ่งแบ้งยอยเป็นแผนกตามจำนวนประชากรศาลยุติธรรมและศาลเทศบาลเขตอำนาจศาลยุติธรรมจำกัดเฉพาะคดีอาญา คดีลหุโทษ และคดีอื่นๆ บางคดี ส่วนศาลเทศบาลจำกัดเฉพาะคดีลหุโทษและดคีจราจร สำนักงานตุลาการทั้งหมดอยู่ภายใด

      รัฐเนวาดแบ่งออกเป็น 16 มณฑลและเมื้องอิสระ 1 เมือง คือ คาร์สันซิตี้ ซึ่งมีสภานะกคล้ายกับมณฑล ในปี 1969 ได้มีการวมเข้ากับมณฑลออร์มสบี ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงมาก่อนมณฑลต่างๆ ยังคงเป็นหน่วยงานหลักของการบริหารนสส่วนทื้องถ่ิน แต่ละมณฑลมีผุ้บริหารสาะารณะ คณะกรรมการบริหารอัยการเขต นายอำเภอ และเจ้าหน้าทีอื่นๆ เมืองและเทศบาลต่างๆ จะถูกจัดตึั้งขึ้นภายใต้กฎหบัตรที่สภานิติบัญญัติให้ไว้ ดดยส่วนใหญ่มีรูปแบบการบริหารแบบนากยกเทศมนตรี-สภาโดยทั่วไปแล้วพรรคเดโมแครต มีอทิธิพลทางการเมืองในเนวาดา แต่ในช่วงทศวรรษท 1980 พรรครีพับลิกันอิทธิพลมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในโปรไฟล์ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งของรัฐซึ่งเหิดจาการไหลบ่้าเข้ามาของผุ้มาใหม่ นับแต่นั้นมา รัฐก็เปลีทืยนไปมาระหว่างพรรคการเมืองต่างในการเลือกตั้งระดับท้องถ่ินและระดับชาติ แม้ว่าสในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 จะมีแนวโน้มไปทางพรรคเดโแมครต ซึ่งอาจเป็นเพราะผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนหนุ่มสาว ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีการศึกษาดี และ(ุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นชาวฮิสแปนิก บารัค โอบามา ซึ่งเป็นผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาะิบดีจากพรรคเดโแมครตในปี 2008 ได้รับคะแนนเสีียงในรัฐนี้ถึง 55 % มีการกล่าวกันวาชาวเนวาดาให้ความสำคัญกับประเด็นมากกว่าพรรคการเมือง และเท้จริงแล้ว ตั้งแต่ปี 1976 เป็นต้นมา บัตรลงคะแนนเสียงในเนวาดาทำให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถเลือก "ไม่เลือกข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น" ได้

          https://www.britannica.com/place/Nevada-state/Cultural-life

          https://theconversation.com/nevada-is-a-battleground-state-and-may-be-a-bellwether-of-more-extreme-partisanship-232969

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...