ธนาคารกลางมาเลเซียไม่ได้เจาะจงว่ากองทุนต้องคืนเงินกลับประเทศมากน้อยเพียงใดเพียงธนาคารแห่งนี้เคยกดดัน เกี่ยวกับเงิน 1,830 ล้านดอลลาร์ที่กองทุนยอมรับว่าได้ส่งไปยังต่างแดน ณะที่มีคำถามมากมายหมุนวนอยุ่รอบๆ เงินหลายพันบล้านดอบบาร์ที่เคลื่อนไหวอู่ทั่วโลก ทางธนาคารกลางมาเลเซียบอกว่ากองทุนแห่งนี้ล้มเหลวในการพิสูจน์การใช้เงินดังกล่าว หรือปฏิบัติตามคำสั่งก่อนหน้าทนี้ให้คืนเงิน 1,830 ล้านดอลลาร์
1MDB ระบุว่า จะยอมจ่ายเงินค่าปรับทีไม่ระบุจำนวน ฐานไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของธนาคารกลางมาเลเซีย แต่ไม่บอกว่าจะคืนเงินส่วนที่ถูกสงสัยหรือไม่
ก่อนหน้านี้ กองทุนฯ ซึ่งมี นายนาจิบ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการทีปรึกษา ผิดนัดชำระหนี้พันธบัตร 1,750 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หลังไม่จ่ายกอกเบี้ยจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กระพือความกังวลว่ารัฐบาลอาจเข้าแทรกแซงและปล่อยกู้แก่ 1MDB ที่อาจสั่นสะเทือนตลาดและส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของมาเลเซีย
ปัจจุบัน 1NDB มีหนี้พันธบัตรรวมกว่า 11,000 ล้านดอลล่าร์ (ราว 387,046 ล้านบาท)และยืนยันว่า ไม่มีการถ่ายโอนเงินออกนอกกองทุน หรือมีปัญหาทางการเงิน แต่คณะกรรมการชุดหนึ่งในัฐสภากล่าวว่า กองทุนนี้โอนเงินไปต่าประเทศอย่างน่าสงสัยไม่ต่ำกว่า 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ...(ผู้จัดการ Online 28 เมษายน 2559, กองทุนฉาว 1MDB อ่ม ธนาคารกลางมาเลเซียบี้คืนเงินที่ส่งไปต่างประเทศ)
.... กองทุน 1MDB ก่อตั้งโดยนา ราจิบ ในปี 2008 โดยใช้เงินรัฐบาลเมือตอนเขาเป็น รองนายกรัฐมนตรีเพื่ออำนวยประโยชน์ให้เกิดการลงทุนในตะวันออกกลาง หลังจากตั้งไม่นานก็ก่อหนี้มูลค่า 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังซื้อสินทรัพย์ในด้านพังงานและอสังหาริมทรัพย์ เมื่อแผนการที่จะขยหุ้นพลังงานล้มเหลว กองทุนก็ประสบปัญหาในการชำระหนี้จนต้องเปลี่ยนผุ้ตรวจสอบบัญชีอย่างน้อย 2 ครั้ง
เมื่อมีการเปิดเผยการดำเนินงานของ 1MDB ประชาชนก็เห็นความซับซ้อนซ่อนเงือนของธุรกรรมของกองทุนสังเกตเห็นได้ว่ากองทุนมักจ่ายเงินซื้อทรัพย์สินจากบริษัทเอกชนในระคาที่สูงเกินจริง และบริษัทเหล่านี้ต่อมาบริจาคเงินให้การกุศลอีกทีโดยนาย นาจิบ เป็นหัวเรือใหญ่ของกองทุนการกุศลในช่วงเวลาก่อนหน้าเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหญ่ในบางรัฐในปี 2013
Jho Low หนุมนักต่อรองผลประโยชน์ธุรกิจ และเป็นเพื่อของลูกเลี้ยงนาย นาจิบ อีเมลที่ร่วออกมาระบุว่าเขากู้ยืมเงินก้อนใหญ่โดยใช้บริการค้ำประกันเงินกู้ของรัฐโดยไม่มีการอนุมัติจาธนาคารกลาย่ิงไปกว่านั้น เขามีบทบาทสำคัญในหารดำเนินงานร่วมลงทุนของกองทุนกับบริษัทน่าสงสัยในกาบูดาบีจนกองทุนสูญเงินไป 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
กองทุนฯ อื้อฉาวในหลายเรื่องเกี่ยวกับการใช้เงินกองทุนในลักษณะซื้อทรัพย์สินจากเพื่อเศรษฐีที่คุ้นเคยผุ้บริหารกองทุนในระคาแพง แต่เวลาขายกลับขายราคาถูกจนหนี้ท่วมกองทุน นอกจานี้ยงยักย้ายถ่ายเทเงินแบบซ่อนเงื่อนเข้าบัญชีนาย นาจิบ อีกดังที่กล่าวแล้ว..(http//www.thaipublica.org,"หนังตื่นเต้นชื่อการเมืองมาเลเซีย".16 กรกฎาคม 2015)
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลใหยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่ยักยอกมาจากกองทันเพื่อพัฒนามาเลิเวีย พร้อมชีวา่ เงินจำนวนมหาศาลที่เข้าไปอยู่ในบัญชีของนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลิเซีย ไม่ได้มาจากการบริจาคของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียดังที่กล่าวอ้าง
สำนวนฟ้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า เงินจำนวนมากถูกโอนออกจากกองทุน เข้าบัญชีธนาคารหลายแห่งในหลายประเทศ โดยบุคคลใกล้ชิดของนายนาจิบหลายคนได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาใช้ซื้อของมีค่าต่างๆ
อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเงินมูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลล่าร์ ซึ่งถูกยักยอกจากกองทุนฯ โดยมีสถาบันการเงินหลายแห่งนสหรัฐฯ ทำหน้าที่ฟอกเงิน พร้อมย้ำว่าต้องการปกป้องระบบการเงินของประเทศจกาากรถูกใช้เป็นชข่องทางในการคอร์รัปชั่น...(http//www.org, สหรัฐฯฟ้องอายัดทรัพย์สินจากการยักยอกเงินคดีกองทุน 1MDB, 24 กรกฎาคม 2016)
กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิรูปเลื้อกตั้ง "เอบร์ซิห์ Bersih" ได้นัดชุมนุมใหญ่เพื่อบีบให้การดำเนินคดีกับนายกฯ นาจิบ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินนับพันๆ ล้านดอลลาร์ไปจากกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว
สภานการณ์ทางการเมืองมาเลเซียทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากกลุ่ม "เสื้อแดง" ที่มีแนวคิดขวาจัดประกาศจะระดมมวลชนที่สนับสนุน นาจิบ ออกมาชุมนุมต้านม็อบเสื้อเหลือง
รัฐบาลมาเลเซียได้สั่งจับกุมแกนนำทั้ง 2 ฝ่ายเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะถึงเวลานัดชุมนุมใหญ่ แต่ยัไม่แน่ว่าการทำเช่นนี้จะโหมกระพือสถานการณ์ให้ย่ำแย่ลงอีกหรือไม่.
สถานการณ์ทางการเมืองในมาเลเซียปั่นป่วนมานานกว่าปี หลังจากที่ นาจิบ ถูกครหาว่ายักยอกเงินนับพันๆล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ไปจากกองทุนพัฒนามาเลเซียซึ่งเขาเป็นผุ้ก่อตั้ง
นาจิบ วัย 63 ปี และกองทุนฯ ต่างยืนกรามในความบริสุทธิ์ ทว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ออกมาแฉข้อมูลอย่างเป็นนัยๆ ว่าคดียักยอกเงินจำนวนมหาศาลนี้พัวพันไปถึงผู้นำมาเลเซีย บุตรบุญรธรรม และคนสนิทอีกหลายคน
นาจิบ ใช้อิทธิพลยุติกระบวนการสอบสวนภายในประเทศเมือปีที่แล้ว ทำให้นักวิจารณ์หลายคนออกมาตำหนิ ว่าใช้อำนาจ"เผด็จการ"ปกปิดความฉาวโฉ่ ทั้งยังจับกุมฝ่ายตรงข้าม และปิดก้้นการทำงานของสื่อมวลชน
ผุ้นำมาเลเซียแถลงผ่านสื่อวิทยุ ว่า การเคลื่อหนไหวของกลุ่มเบอร์ซิห์เป็นเพียง "แผนลวง" เพื่อ "โค่นล้มรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย"(ผุ้จัดการ Online หวั่นม๊อบชนม็อบ! "เหลืองมาเลย์" ชุมนุมใหญ่กลางกรุงขับไล่นายก เสี่ยงปะทะ "เสื้อแดง"หนุนนายกฯ, 19 พฤศจิกายน 2559)
4 ธันวาคม 2559 ชาวมาเลเซียและชาวดรฮิงญาที่พำนักในมาเลิเซียรราว หนึ่งหมือนคน ออกมาร่วมชุมนุมในกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อประท้วงรัฐบาลพม่าที่เดินหน้ากวาดล้างชาวมุสลบิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ โดยนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ได้เข้าร่วมการชุมนุมด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลพม่าได้ออกมาเตือนผู้นำมาเลเซียมิให้เข้าร่วมเพราะจำถือว่าเป็นการละเมิดหลักไม่แทรกแซงกิจการภายในของเพื่อสมาชิกอาเซียน แต่นาจิบประกาศในที่ชุมนุมว่า ไม่แคร์!!!
"เราอย่างจะบออกอองซาน ซุจีว่า พอกันที เราต้อบงปกป้องมุสลิมและอิสลาม" ผู้นำมาเลเซียกล่าวท่ามกลางผู้สนับสนุนที่พากันร้องตะโกนสรรเสริญพระเจ้า...
มาเลเซีย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และให้ที่พักพิงแก่ชาวโรฮิงญาในานะผู้ขอลี้ภัยราว 5.6 หมื่นคน ยกระดับการวิพากษ์ตำหนิพม่ากรณีวิกฤตโรฮิงจาอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการออกแถลงการณ์ กล่าวหาพม่าว่ากำลังกำจัดชาติพันธ์..
อย่างไรก็ดี นายเจมส์ ชิน ผู้อำนวยการสถาบันเอเชีย มหาวิทยาลััทาสมาเนีย ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า การออกมาร่วมชุมนุมของนายนาจิบ ก็เพื่อยกสถานะองตนเองในฐานผู้นำมุสลิม ขณะการเลือกตั้งทั่วไปกำลังใกล้เข้ามา และตัวเขาเองกำลังต่อสู้กับข้อหาทุจริตยักยอกเงินหลายพันล้านดอบบาร์
เช่นเดียวกับ บริดเจ็ท เวลช์ ผุ้เชี่ยวชาญการเมืองมาเลเซีย มหาวิทยาลัย อีเปค ในตุรกี ที่มองว่า นายนาจิบ กำลังมองหาอะไรบางอย่างเพื่อทำให้ตนเองดูดีขึ้นและประเด็นโรฮิงจา ก็เป็นเครื่องมือง่ายๆ ที่นำมาใช้ได้ หากรัฐบาลอาทรโรฮิงจาจริงๆ ก็คงจะหันมาสำรวจการปฏิบัติต่อชุมชนกนกลุ่มนี้ภายในประเทศ ทั้งนี้ มาเลเซียอาจเป็นความหวังหนึ่งของโรฮิงจาที่หนีออกจากพม่า แต่สุดท้ายแล้ว พวกเขาจำนวนมากก็ยงคงตกอยู่ในสภาพไร้รัฐ และถุกเอารับเอาเปรีบในรูปแบบใหหม่ในมาเลเซีย( คม ชัด ลุึก "นาจิบ ซัด อองซาน ซูจี ต้องหยุดฆ่าล้างโรฮิงจา" 4 ธันวาคม 2599)
มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 91 ปี เปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพี ว่า จะเดินหน้ากดดันนาจิบต่อไป การอยู่ในอำนาจต่อไปของนาจิบเป็นตัวการทำลายประเทศ เนื่องจากความวุ่นวายไม่เปิดทางให้กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจชุลอตัวและอัตราเงินเฟ้อที่เพ่ิมสูงขึ้น อดีตนายกรัฐมนตรียังระบุอกีว่า นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันมีการจุดประเด็นด้านชาติพันธ์ด้วยการดึงฐานเสียนงขชาวมาเลเซียเชื้อชาติมาเลย์และนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งจะสร้างความขัดแย้งทางชาติพัน
ธ์กับชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เปิดเผยว่า นาจิบเปิดเผยก่อนหน้าทนี้ต่อหน้าพรรคอัมโน ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดระหว่างพรรค อัมโน พรรครัฐบาล และพันธมิตร ซึ่งสนับสนุนชาวมาเลเซยเชื้อสาย มาเลย์กับ พรรคฝ่ายค้าน นำโดยพรรคกิจประชาธิปไตย(ดีเอพี) ซึ่งนาจิบระบุว่า เป็นพรรคที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซียเชื้อชาติจีน และมีการต่อ
"ถ้าประเทศนี้ตกอยู่ในมือของดีเอพี ซึ่งมีแนวคิดเสรีนิยมสุดโต่งและแนวคิดไม่เชื่อในศาสนา จะส่งผลให้สิทธิและเอกสิทธิ์ของชาวมาเลเซีย ซึ่งอัมโนปกป้องมาโดยตลอด ต้องหายไป" นาจิบ กล่าว
สิวามุรุกัน ปานเตียน ผุ้เชียวชาญด้านรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ไซแอนซ์ ในมาเลเซีย กล่าวว่า นาจิบพยายามดึงความภักดีและการอยู่ในโอวาทขึ้นมาเพื่อรวบรวมพรรคให้เป็นหนึ่งเดี่ยว และเพื่อต่อสู้กับฝ่ายดีเอพี รวมถึงกำจัดอิทธิพลของมหาเธร์ ซึ่งเคยเป้นหัวหน้าพรรคอัาโน นาจิบพยายามดึงความกลัวทางเชื้อชาติเพื่อรวบรวมพรรคมอัมโนอีกครั้ง
หนังสือพมิพ์ไฟแนนเซีลไทมส์ รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐวิสาหกิจจากจีนเตรียมเป็นผุ้จ่ายค่ายอมความให้กับ 1MDB ในการยุติความขัดแย้งกับกองทีนดินเตอร์เนชันแนล ปิโตรเลียม อินเวสต์เมนต์ โค (IPIC) กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสหรัฐอาหรับ เอมิเรดส์ ซึ่งเรียกร้องค่าเสีย หายรวม 6,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(ราว2.2 แสนล้านบาท) IPIC ระบุว่า 1MDB ไม่ชำระหนี้กว่า พันล้านเหรียญสหรัญที่มีกำหนดชำระตั้งแต่ปีก่อน และยังเป็นผุ้จ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้แทนว1MDB เป็นเงิน 52,4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(ราว 1,824 ล้านบาท) ในฐานะ ผุ้ค้ำประกันหุ้นกู้ซึ่งมีกำหนดไถ่ถอน ปี 2022 ก่อนที่IPICจะยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศแห่งลอนดอน
ไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า ที่ผ่านมา จีนกลายเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับ 1MDB โดยรัฐวิสาหกิจจากจีนเข้าซื้อสินทรัพย์ ซึ่งหมายรวมถึงธุรกิจพลังงาน โดยนายนาจิบ เปิดเผยว่า กาเข้าซื้อของจีนช่วยให้ กองทุนฯ ลดหนี้ไปถึง 4.04 หมื่นล้าน ริงกิต (ราว 3.3ล้านบาทไทย) ทามกลางความสัมพัน
ธ์ระหว่างสองชาติที่แน่นแฟ้นขึ้น ขณะที่สหรัฐเข้าสอบสวนกองทุน ดังกล่าว และพบว่ามีความผิปกติของการเคลื่อนย้ายเงินทุนกว่า สามพันห้าร้อยล้านเหรียญสหรัฐณ(ราว 1.22แสนล้านบาท) ...(โพสต์ทูเดย์, วิเคราะห์, "การเมืองมาเลเซียปั่นป่วนจุดประกายขัดแย้งเชื้อชาติ" 8 ธันวาคม 2599)