คนไทยคือกลุ่มชาติพันธ์ุซึ่งพูดภาษาไทยกฃลาง หรือมี เชื้อชาติไทยสยามผสมอยู่ ส่วนใหญ่อาหสัญอยุ่ในประเทศไทย และอาศัยอกระจายอยู่ในประเทศอื่นทั่วโลก โดยคนไทยส่วยใหญ่นับถือศาสนาพุทธ รองลงมาคือ ศาสนาอิสลาม และศาสนาคริสต์ ในความหมายทางชาติพันธ์ุ ใช้เฉพาะเจาะจงถึงคนไทยภาคกลาง หรือเดิมเรียกว่า ชาวสยาม แต่ในความหายมุมกว้าง สามารถหมายคึถงามครอบคลุมถึงกลุ่มชาติพันธ์ุไทย อื่นๆ ทั้งนอกและในราชอาณาจักร เช่น ไทยโคราช ไทยอีสาน ไทยโยเดีย หรือไทยเกาะกง เช่นกัน
ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไทยเป็นพุทธศาสนิกชน นิกายเถรวาท ซึ่งในปัจจุบันศาสนาพุทธในประเทศไทยได้ผสมผสานเข้ากับความเชื้อพื้นบ้าน อย่างเช่น การตั้งศาลพระภูมิเจาที่ กรถือฤกษ์ นอกจากนี้จำนวนประชากรชาวไทย-จีน ขนาดใหญ่ที่อพยพเข้ามาในประเทศก็นับถือทั้งศานนาพุทธและประเพณีตั้งเดิม วัดพุทธในประเทศเอกลักาณ์ที่เจดีย์สัทองสุง แลบะสถาปัตยกรรมพุทธในประเทศไทยคล้ายคลึงกับในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดดยเฉฑาะอย่างยิ่ง กัมพูชาและลาว ึ่งมีภุมิหลังทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ร่วมกัน อิสลามมีผุ้นับถือทางภาคใจ้ของประเทศคิดเป็นประชากรร้อยละ 30.4 ของประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ และคริสต์ศาสนาเป็นลำดับต่อมา..(th.wikipedia.org..ไทยสยาม,ศาสนาในประเทศไทย)
เมืองไทยมีความอุดมสมบูรณืในด้านทรัพยากรธรรมชาติ เป็นอุ่ข้าวอู่น้ำ อีกทั้งคนไทยสมัยก่อนรู้จักนำพืชผักสมุนไพรที่หาได้ง่ายมาประงแต่งเป็นเมนูอาหารรับประทานภายในครอบครัว ส่งผลให้วิถีการใช้ชีวิตของคนไทยสอดคล้องกับวิถีความเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ ซึ่งคนในสมัยก่อนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายเพราะรู้จักนำสมุนไพรในท้องถ่ิน ที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคและใช้บำรุงร่างกายมาปรุงอาหารอีกด้วย..(https://infothaifood.wordpress.com..วัฒนธรรมการรับประทานอาหารของคนไทย)
อาหารไทยที่เป็นที่รุ้จักของคนต่างชาติ อาทิ ต้มยำกุ้ง เป็นอาหารที่ครบเครื่องมาก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุงหรือเครื่องเทศก็มรเต็มในเมนูนี้ยิ่งใส่เนื้อสัตว์ลงไปทานได้อร่อยมาขึ้น เป็นเมนูที่หาทานได้ง่ายมีรสชาติครบรส เปรียว หวาน เค็ม เผ็ด ได้อย่างลงตัว บางครั้งก็ทำเป็นน้ำข้น
ผัดไทย เป็นอาหารที่ทานได้ง่ายมีเครื่องเทศมากมาย ย่ิงเป็นผัดไทยกุ้งสด เป็นอะไรที่เข้ากันเป็นอย่างมาก เป็นอาหารที่ไม่เผ็ดร้อยจนเกินไปจึงเป็นเมนูที่ชาวต่างชาติชอบทานเป็นอย่างมาก
ส้มตำ เป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยและยังดังไกลถึงต่างแตน ส้มตำจะมีหลากหลายชนิดมีทั้ง ตำไทย ตำปู ตำโคราช ตำถั่งว ตำแดง เป็นต้น
ต้มข่าไก่ เป็นเมนูคล้ายกับต้มยำไก่และต้มยำกุ้ง โดยที่ต้มข่าไก่จะมีกะทิมาเกี่ยวข้องในส่วนของน้ำให้รสชาติที่อร่อยหอมหวาน มัน กลมกล่อมเป็นอย่างมาก
แกงเขียวหวานไก่ เป็นอาหารที่นิยมในหมู่คนไทยและต่างชาติ เป็นเมนูที่หาทานได้ง่ายและตัวขอแกงเขียวหวานสามารถทานคุ่กับข้าวและขนมจีนได้เป็นอย่างดี ด้วยรสชาติของเครื่องเทศที่มีสวนผสมของน้ำกะทิจึงทำให้เมนูนี้มีรสชาติที่อร่อยลงตัว พร้อมกับความเผ็ดที่พอดี เพราะชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะไม่ชอบทานเผ็ดมากนักจึงเป็นเมนู่ที่ตอบโจทก์..(http://www.ietr.org/10-อันดับ-อาหารไทยที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ)
ทางด้านการกีฬาของไทยนั้น กีฬาที่เป็นที่นิยมของคนไทยอาทิ ชกมวย แบตมินตัน ตะกร้อ วอลเลย์บอล ฟุตซอล ฟุตบอล เป็นต้น
มวยไทย เป็นกีฬาประจำชาติของไทยและเป็นที่รุ้จักกันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ กีฬามวยไทย เป็นศิลปะการต่อสุ้ป้องกันตัวที่สามารถนำไปใช้ได้ทังในเชิงกีฬาและการต่อสุ้จริงๆ ศิลปะประเภทนี้มีมาตั้งแต่โบลราณกาลบรรพบุรุษของชาติไทยไได้ฝึกฝนอบรมสั่งสอนกุลบุตรไว้เพื่อป้องกันตัวและป้องกันชาติ ชายฉกรรจ์ของไทยได้รับกาฝึกฝนวิชามวยไทยแทบทุกคน นักรบจะไดัรับการฝึกฝนอบรมศิลปะประเภทนี้อย่างชัดเจน เพราะการใช้อาวุธรบในสมัยดบราณ เชน กระบี พลอง ดาบฯลฯ ถ้ามีความรุ้วิชามวย ประกอบด้วยแล้วจะทำให้เกิดประโยชน์ แต่เดิมศิลปะมวยไทยมีมีชั้นเชิงสุงมักจะฝึกสอนกันในบรรดาเจ้านายชั้นผุ้ใหญ่ หรือเฉพาะพระมหากษัตรยิ์และขุนนางฝ่ายทหารเท่านั้น ต่อมาจึงได้แพร่หลายไปถึงสามัญชน..(project532.wordpress.com/..กีฬาประจำประเทศไทย)
การแต่งกายประจำชาติไทย สำหรับชุมประจำชาติอย่างเป็นทางการของไทย รุ้จักกันในนาม่
ว่า"ชุดไทยพระราชนิยม" โดยชุดประจำชาติสำหรับบุรุษจะเรียกว่า "เสื้อพระราชทาน"สำหรับสุภาพสตรีจะเป็นชุดไทยที่ประกอบด้วยสไบเฉียง ใช้ผ้ายกมีเชิงหรือยกทั้งตัว ซิ่นมีจีบยกข้งหน้า มีชายพกใช้เข็มขัดไทยคาดส่วนท่อนบนเป็นสไบ จะเย็บให้ติดกับซ่ินเป็นท่อนเดี่ยวกันหรือ จะมีผ้าสไบห่มต่างหากก็ได้ เปิดบ่าข้างหนึ่ง ชายสไบคลุมไหล่ ท้ิงชายด้านหลังยาวตามที่เห็นสมควรความสวยงานอยู่ที่เนื้อผ้าการเย็บและรูปทรงของผุ้สวมใส่..(sites.google.com..การแต่งการประจำชาติไทย)
ชีวิตยามค่ำคืนที่กรุงเทพนอกจากถนนข้าวสารที่เป็นรู้จักกันเป็นอย่างดีของชาวต่างชาติแล้ว หรืออาร์ซีเอ ที่เป็นผับทีเป็นแหล่งชุมนุมมีวัยรุ่นวัยโจ๋ หรือถนนรัชดาที่มีผับ และสภานที่บัญเทิงสำหรับผุ้ใหญ่และกิจกรรมอีกมากมายแล้ว จะขอนำผับกลางใจเมืองที่จัดเต็ทั้งควสามสนภ และเครื่องดื่มหลากหลายชนิดเริ่มต้นด้วย
Muse มิวส์ แหล่งแฮงค์เอ้าท์สุดฮอตในย่านทองหล่อที่นักท่องราตรีรุ้จักกันเป็นอย่างดี ร้านนี้นอกจากมีโซนผับในแดนซืกระจายแบบสนุกสุึดเหวี่ยงกันด้านล่างแล้ว บนดาดฟ้าชั้นสามยังมีบาร์ให้นั่งดินเนอร์ฟังเพลงเบาๆ ตลอดทั้งคืนอีกด้วย
Lizm ลิซึ่ม ผับแนวสบายๆ ที่ชวนให้คุณสนุกสนานไปกับเสียงเพลง ทั้งแบบเล่นสด สลับเปิดแผ่นด้านในร้านแบ้งพื้นที่เป็น 2 โซน คือ โซนดนตรีสด และโซนฮิปฮอป แถมบางวันบังมีเพลงสกามาเล่นให้ฟังแบบสนุกสนานด้วย ร้านนี้ถ้าใครชอบความสนุึกสนานแนะนำให้จองโต๊ะด้านล่าง แต่ถ้านั่งฟังเพลงแบบชิลล์ๆ เลือกนั่งข้างบนจะเพลินกว่า
Funky Villa ฟังกี้ วิลล่า ที่นี่ครบสุตรด้วยความสนุกสและบรรยากาศ นอกจากออกแบบตัวร้านเป็นสไตล์บ้านพักสุดชิคแล้ว ฟังกี้ วิลล่า ยังเป็ฯแหล่งชุมนุมทางแฟชันที่ทุกคนมาร้านนี้ต้องแต่งตัวประชันกันแบบสุดฤทธิ์สุดเดช เหมาะสำหรับนักดื่มที่ขอบความทันสมัย และสีสันความสนุกแบบเต็มๆ
Escobar เอสโคบาร์ เป็นผับสุชิคที่มีลูกค้ามาอุดหนุนความสนุกันแน่นร้านเกือบทุกวัน อยู่ในโซนเดี่ยวกับร้านนั่งเล่น วันจันทร์ถึงพฤหัสบดี ทางร้านจเน้นดนตรีฟังแบบสบายๆ ส่วนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะเน้นเพลงสนุกสนานคึกคัก ทั้งฮิปฮอป อาร์แอนด์บี ฯลฯ ให้แดนซ์ักนแบบกระจาย
Route 66 รูท 66 ผับดังในตำนานย่าน RCA ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ผับที่ป๊อปฯที่สุดในประทเศไทย รูท 66 แบ่งโซนตามความชอบของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น .โซนไม่สูบบุหรี่ สำหรับคนไม่ชอบควันบุหรี่ โซน สำหรับสาวกฮิปฮอป โซน สำหรับคนชอบฟังเพลงสบายๆ โซน สำหรับขาเเด็นซ์สุดฤทธิ์ และโซนสำหรับชาวโซเซียนเน็คเวิร์ค เพราะมี ไว-ฟาย บริการฟรีตลอดทั้งคืน..(http://travel.sanook.com..5 ผับสุดชิคในกรุงเทพฯ)
วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2560
วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560
LifeStyle ASEAN (Filippine)
ชาวฟิลิปปินส์มีระบบคิดและวัฒนธรรมคล้ายชาวตะวัตรตก เพราะเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกมานานมักไม่ค่อยหลงไปกับกระแสสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงแต่มีความซื้อสัตย์ต่อแบรนด์สินค้าที่เลือกแล้วสุง มีรสนิยมค่อนข้างหลากหลาย เน้นความเรียบง่าย สะดวก เหมาะสมกับรายได้ ใส่ใจการดูแลสุชภาพ การดูแลความสวยงามแลผิวพรรณ ชาวฟิลิปปินส์นิยมรับประทานอาหารนอกบ้านเ็นหลักแนวโน้มนิยมซื้อสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกสบายมากขึ้นโดยเฉพาะรถยนต์และอุปกรณืเทคโนโลยี เช่น ดทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ชนิดต่างๆ
คนไทยน่าจะเข้าใจลักษณะนิสัยของคนฟิลิปปินส์ได้ไม่ยากเพราะมีอุปนิสับยคล้ายคนไๆทยมากนเรืองการเป้นคนร่าเริง รักความสนุกสนาน ชอบเข้าสังคม บุคลิกสบายๆ แต่มีความต่างคือ คนฟิลิปปินส์มีความพร้อมที่จะเข้าใจความเข้าใจความเป็นสากลมากกว่ามความเป็นประชากรโลกสูงมาก บุคลิกและระบบคิดเหมือนฝรั่งที่หน้าตาเป็นเอเชีย คนฟิลิปปินส์ไม่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ ชอบไปเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเอง..(http://www.rd.go.th.."ไลฟ์สไตล์ รสนิยม และวัฒนธรรมของคนประเทศต่างๆ ในเอเชีย")
ชาวพื้นเมืองฟิลิปปินส์ มีความเชื่อถือในพระเจ้าที่เรียกว่า Bathalang Majkapall เชื่อว่าพรเจ้าเป็นผู้สร้างโลก นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้าอื่นๆ อีกมาก ที่มีอำนาจรองลงมา
คนพื้นเมือง จะมพิธีทางศาสนาด้วการสวนดมนต์ และบูชายัญต่อเทพเจ้า และส่ิงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โดยมีนักบวชนิกายนั้นๆ เป็นผู้ทำพิธี
นอกจากเทพเจ้าแล้ว ชาวพื้นเมืองยังนับถือสิ่งที่เป็ฯธรรมชาิ เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ดาวตก ผีพุ่งใต้ และรวมไปถึงการนับถือบุชาสัตว์บางชนิด เช่น นก และจรเข้ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีต้นไม้ใหญ่ ที่มีอายุมาก แม้น้ำ ก้อนหิน ที่ถูกธรรมชาติตกแต่งไว้อย่างสวยงาน และแปลก
นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าเมื่อตายไปแล้ว วิญญาณก็จะต้องท่องเที่ยว จะได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าคนนันมีพฤติกรรมดี สวนผุ้ที่กระทำชั่ว ดุร้าย โหดเหี้ยม ไม่ยุตธรรมต่้อเพื่อมนุษย์ ก็จะถูกพระเจ้าลงโทษ และนำไปสู่นรก ความเชื่อในยุคโบราณดังกล่าวยังคงมีอยุ่ เป็นมรดกสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันสังเกตเห็นได้จากงานเทศกาล และะิธีการต่างๆ ของชาวฟิลิปปินส์
ศาสนาอิสลาม เร่ิมเข้ามาสู่คนเพ้เมืองฟิลิปปินส์ เมื่อคริสตศตวรรษที่ 14 ดดยชนชาวอาหารับได้เ้ามาระหว่างที่มีการติดต่อค้าขายกับฟิลิปปินส์ ปัจจุบันศาสนอาสลามเริ่มมีบทบาทและอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของชาวฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก พวกนี้จะเรียกตนเองวา ดมโรซึ่งอยุ่ทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่เกาะมินดาเนา และเกาะซูลู เป็นส่วนมาก
ศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาะอลิค เป็นนิกายที่สเปญนำเข้าเผยแพร่ในฟิลิปปินส์ ในระหวางที่สเปญปกครองฟิลิปปินส์ คนฟิลิปปินส์ ให้การรยอมรับนับถือนิกายนี้มากและศาสนาคริสต์มีอิทธิพลในวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวฟิลิปปินส์มาก นอกจากนี้การนับถือศาสาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิค ยังสาสามารถมีสิทธิในการยกเว้นภาษี และได้รับผลประโยชน์อื่นๆ อีกด้วยเพราะบาทหลวงจะเป็นผุ้คอยปกป้องบุคคลเหล่านั้นตลอดเวลา ด้วยสาเหตุดังกล่าว คริสตศาสนา จึงเป้ฯศาสนาประจำชาติ ของฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน นิกายโรมันคาธอลิค มีผุ้นับถือประมาณร้อยละ 83 นิกายโปรเตสแตนท์ประมาณร้อยละ 3 รวมเป็นประมาณร้อยละ 86
หลังจากที่สหรัฐฯ เข้ามามีบทบาทในการปกครองฟิลิปปินส์แล้ว สหรัฐฯ ได้ให้สิทธิและเสรีภาพแก่ชาวฟิลิปปินส์อย่างมาก และเปิดโอกาสให้ประชาชน มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และได้นำเอานิกายดปรเตสเตนท์เข้ามาเผยแพร่ในฟิลิปปินส์ด้วย
จากสถิติของประชกรที่นับถือศาสนาต่างๆ นอกจากศานาคริสต์ แล้ว มีผุ้นับถือศาสนาอิสลามประมาณร้อยละ 4 ไม่นับถือศาสนาใดประมาณร้อยละ 2..(https://sites.google.com..ประเทศฟิลิปปินส์ ศาสนา)
อาหารฟิลิปปินส์ ประกอบด้วยอหาร วิธีการเตรียมและประเพณีการรับประทานอหารที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศฟิลิปปินส์ รูปแบบของการทำอาหารและอาหารที่เกี่ยวข้องมีการพัฒนาตลาดระยะหลายศตวรรษจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของกลุ่มชนที่พูดภาษาในตะกูลออสโตรนีเซียนผสมกับอาหารสเปนและโปรตุเกส จีน อเมริกัน และอาหารอื่นๆ ในเอเชียที่ปรัีบให้เข้ากับส่วนผสมพื้นเมืองและความนิยมในท้องถิ่น
คนฟิลิปปินส์รับประทานอาหารวันละ 5 รอบ คือ เช้า เที่ยง ค่ำ และอาหารว่างระหว่างวันช่วงสายและบ่ายที่เรียกว่า เมอร์เยียนดา อหารจานหลักของชาวฟิลิปปินส์คือข้าวเช่นเดี่ยวกัยชาวไทย จาน
กับข้าวของฟิลิปปินส์มัมีรสอ่อนไม่เผ็ดร้อนเหมือนกับประเทสอื่นๆ ในเขตเพื่อนบ้าน และเน้นรับประทานอาหารที่ทำจากเนื้อมากกว่าผักทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อปลา โดยชาวฟิลิปปินส์นิยมบริโภคหมูหัน หรือและปลานวลจันทร์ และผักที่ได้รับความนิยมในการบริโภคได้แก่ แครอท มะเขือเทศ ใบมะรุม ใบมันเทศผักบุ้งคนฟิลิปปินส์สมัยหม่นอยมรับประทานอาหารฟาสท์ฟู้ดจานด่วน เช่น ข้าวไก่ทอด สปาเกตตี้ พิซซ่า เบเกอรี่จากกลุ่มเครือร้านอาหารอเมริกัน เชน แมคโดนัลด์ เคเอฟซีสตาร์บัค ดดยระยะหลังมีการสร้างแบรนด์ร้านอาหารท้องถ่ินซึ่งมีเจ้าของเป็นชาวฟิลิปปินส์ที่มัเปดให้บริการ 24 ชัวโมง เช่น ร้านฟาสท์ฟู้ดไก่ทอด ร้านอาหารฟิลิปปินส์ ที่มีสาขาอยุ่ทั่วประเทศ
อาหารเช้าแบบพื้นเมืองในฟิลิปปินส์ได้แก่ ปันเดซิล ขนมปังม้วนขนาดเล็ก เกซอง ปูตี ชีสขาว , ซัมโปราโด โจ๊กข้าว, ซีนางัก ข้าวผัดกระเทียม, และเนื้อสัตว์ ปลา และไข่เค็ม กาแฟ เป็นที่นิยมดื่มเช่นกัน
เมเรียนดา เป็นคำที่มาจากสเปน ใช้เรียกอาหารว่างที่นิยมรับประทานตอนบ่าย ซึ่งมีตัวเลือกมากมาย เช่น การแฟ ขนมปัง และเพสตรีหลายชนิด (ขนมที่ทำจากข้าวเหนี่ยว) อาหารบางชนิดวช้รับประทานในช่วงเมเายนดา เช่น ก๋วยเตี่ยวผัด ปูลาบอก (เส้นก๋วยเตี๋ยวจากข้าวผัดกับซอสกุ่ง) ..
ปุลูตันเป็นอหารประเภทใช้มือหยิบรับประทาน เป็นของว่างที่รับประทานคู่กับเหล้าหรือเบียร์ ปูลูตันที่ปรุงดดยการทอด เช่น ชิชาร์โรน เป็นหมูที่ทอดจนกรอบ บางส่วนเป็นอาหารย่าง เช่น อีซอว์เป็นไส้หมูหรือไก่นำไปต้มแล้วย่าง
ขนมปังและเพสตรี สำหรับเบเการีท้องถ่ินของฟิลิปปินส์ ปันเดซัล โมบาย และเอ็นซายมาดาเป็นขนมที่มีขายทั่วไป บันเดซัลมาจากภาษาสเปน นิยมรับประทานกับกาแฟ ทำเป็นรูปขนมปังม้วนโรยด้วยเหล้ขนมปังก่อนอบ แต่ไม่ได้มีรสเค็ม โมนายเป็นขนมปังที่แน่น เอนชายมาดา มาจากภาษาสเปน..(th.wikipedia.org/wiki/อาหารฟิลิปปินส์)
อโดโบ้า Adobo เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยม ของประเทศฟิลิปปินส์ เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจาก ภาคเหนือของฟิลิปปินส์ และเป็นที่นิยมของนักเดินทางหรือ นักเดินเขา อโดโบ้ทำจากหมูหรือไก่ที่ผ่านกรรมวิธีหมักและปรุงรสโดยจะใส่ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู กระเที่ยมสับ ใบกระวาน พริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดยใส่ในเตาอบ หรือทอด และรับประทานกับข้าว
sinigang ซึ่งเป็นจานซุปรสเปรี้ยว จานสามารถปรุงสุกกับทุกชนิดของปลาและเน้อแม้ปรุงสุกแล้วกับมะขามและผัก นอกจากนี้ยังพบทั่วไปในฟิลิปปินส์รับประทานอาหารร่วมกับ อโดโบ
Sisig คือ หัวหมุนำไปต้นกับเครื่องเทศจนเปื่อยแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก นำมาผัดอีกครั้ง จัดเป็นอาหารยอดนิยมอีกจานของชาวฟิลิปปินส์
ในด้านกีฬาจะเห็นได้จากกีฬาบาสเก็ตชอบ ซึ่งจัดเป็นกีฬายอดนิยมของชาติ กีฬาทำชื่อเสียงให้กับฟิลิปปินส์อื่นๆ ได้แก่ ชกมวย ว่ายน้ำศิลปะการต่อสู้ นักมวยที่ทำชือเสียงในระดับนานาชาติ เช่น แมนนี่ ปาเกียว, เเชมป์เปี้ยนบิลเลียด ได้แก่ เอฟเฟรน เรเยส, เเชมป์เปี้ยนหมากรุกได้แก่ เออกีส เทอเร่, กีฬาบาสกตบอลฟิลิปปินส์มีทีมอาชีพและมีการจัดการแข่งขันที่มีบริษัทและองค์กรสนับสนุนอย่างดีและมีผุ้ชมหนาตา
ชีวิตยามค่ำคืนในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์หรือมะนิลานั้น เป็นเมืองที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในเอเซีย ไนท์คลับ บาร์ ที่ฟังเพลง ผับ หรือจะดื่มหร้อมกับฮัมเพลงคลอไปกับวงดนตรีและนักร้องฟิลิปปินส์ที่แสดงสดตามโรงแรมหรู สำหรัฐผู้ที่ชอบเสียงโชคบริเวณใกล้ๆ เดอะเบย์ หรือที่ NAIA TERMINAL 3 มีคาสิโน คอมเพล็กอยู่ นกเขตมะนิลาคาสิโนมีอยู่ที่แองเจลลิส โอลองกาโป ทาเกเต เซบู ฯลฯ..(http://www.philippinetourism.in.th..ฟิลิปปินส์)
วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560
LifeStyle ASEAN (Malaysia)
เนื่องจากประเทศมาเลเซียมีเศรษฐกิจที่พัฒนาไปในระดับค่อนข้างสูงแล้ว ทำให้ชาวมาเลเซียมีกำลังซื้อสุง มีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าที่อำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันมากขึ้น กลุ่มวัยรุ่นให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มีการใช้จ่ายสินค้าไอทีสูงกว่าด้านอาหารและการพักผ่อนอื่นๆ คนมาเลเซียมีคความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีและสนใจเรื่องข้อมูลข่าวสาร
มาเลเซียมีความหลฃากหลายทางเชื้อาติ กลุ่มหลักๆ คือ ชาวมาเลย์ ชาวจีนและชาวอินเดีย รสนยมจึงแบ่งย่อยตามกลุ่มเชื้อชาติด้วย แต่กลุ่มผู้บริโภคที่มีระดับการศึกษาสูงและรายได้สูงมักสนใจและชืนชอบวัฒนธรรมตะวันตก นิยมสินค้าฟุ่มเฟือยเพ่ิมขึ้น ด้านอาหารนิยมบริโภคอาหารสด แต่ด้วยความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น อาหารแปรรูปก็เริ่มแนวโน้มได้รับความนิยม ระหว่างวันมักพักดื่มน้ำชาพร้อมอาหารว่างเป็นขนมต่างๆ เช่น บิสกิต ประชนกลุ่มวัยทำงานิยมบริโภคอาหารและเครื่องดือมเพื่อสุขภาพ..(http://www.rd.go.th/.."ไลฟ์สไตล์ รสนิยม และวัฒนธรรมของคนประเทศต่างๆ ในอาเซียน)
ชาวมาเลเซียสามารถนับถือและประกอบพิธีทางศาสนาได้อย่างอิสระ ด้วยเหตุนี้ มาเลเซียจึงเป้นประเทศที่มีความหลากหลายทางจิตวิญญาณ ทุกศาสนาอยุ่ร่วมกันอย่างสันติ หากคุณไปเยือนมาเลเซีย ย่อยครั้งจะเห็นสุเหร่า โบสถ์คริสต์ วัดพุทธ และวัดฮินดู ตั้งเรียงรายกันอยุบนถนนเส้นเดียวกัน ในขณะที่สมาชิกในครอบครัวใหญ่ของมาเลเซียอาจนับถือศาสนาที่แตกต่างกัน ไม่วว่าจะเป็นอิสลามหรือคริสต์ เนื่องจากชาวมาเลเซียส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ตังนั้น วัฒนะรรมมาเลบย์ดั้งเดิมจึงไได้รับอิทธิพลของศาสนาอิสลามอย่างแยกไม่ออก เมือคุณเดินไปตามถนนที่พลุพล่านในเมืองกัวลาลัมเปอร์ คุณอาจได้ยินเสียงประกาศให้ชาวมุสลิมทำกรละหมาดจากเครื่องขยายเสียงของสุเหร่าที่อยุ่ใกล้ ๆ บ่ายวันศุกร์ คุณจะเห็นกลุ่มชายมุสลิมกลุ่มใหญนุงโสร่งและสวมหมวกซอเกาห์ (หมวกไม่มีปีกของชาวมุสลิม) เดินมุ่งหน้าไปทกการละหมาดที่สุเหร่า...(http://www.nuks.nu.ac.th/..ศาสนาของชาวมาเลเซีย)
อาหารมาเลเซีย มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้สมุนไพร เครื่องเทศ พริก มีรสเผ็ด และมักจะใช้ผงกะหรี่ คนในปีนังไม่ว่าจะเป็นคนอินเดีย คนจีนหรือคนมาเลเซียเองชอบทานอาหารที่มีผลกระหรี่ปละไม่มีใครปฏิเสธิอาหารที่มีผลการหรี่ สมุนไพรที่นำมาประกอบอาหารนอกจากสมุนไพรท้องถ่ินซึ่งมีอยู่มากมายย บางครั้งบยังมีการวมสมุนไพรหลายชนิดเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีเกลุ่นหอม มัใช้ในการผัดข้าว อาหารมาเลเซียส่วนใหญ่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นอาหารมุสลิม เพราะไม่ใช้เนื้อหมู และไม่ใส่ไวน์ เนื้อสัตว์ที่นิยมรับประทานกันจึงเป็ฯ เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อแพะ เนื้อเเกะ และอาหารทะเล และภูมิภาคของมาเลเซีย
อาหารจะมีลักษระเฉพาะต่างกัน ในปีนังจะใช้ผงกระหรี่ในการประกอบอาหารมาก เพราะคนส่วนใหญ่ชอบผงกะหรี่ ขณะที่ทางตอนใต้ของประทเศจะนิยมใช้กะทิ คล้ายกับอาหารไทย โดยจะใช้กะทิกับอาหารเกือบทุกอยาง ข้าว เป็นอาหารจานหลักในทุกมอของอาหารมาเลเซียเหมือนอาหารไทย ต่างกับอาหารยุโรปที่บางมื้อเป็นขนมปัง บางม้อเป็นเนื้อหลายคนเห็นหน้าตาอาหารมาเลเซียคล้ายกับอาหารอินเดีย แต่ อาหารอินเดียจะใช้กะทิเป็นส่วนผสมน้อยมาก ในอาหารมาเลเซียยังมีเครื่องจ้ิมคล้ายน้ำพริกกะปิ เรียกว่า ซัมบัล ทำจากพริกป่น หัวหอมและน้ำมะขาม เป็นส่วนหนึ่งของสำรับอาหารของชาวมาเลเซีย นอกจากนี้ยังนิยมใช้ กะปิ ในการปรุงอาหารแทบทุกชนิดไม่ว่าจะผัดหรือแกง
อาหารมเลเซียมีการสั่งสมและถ่ายทอดมาอย่างต่อเนื่องตั้งอดีตจนเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติอย่างหนึ่งที่ชวนให้ไปสัมผัส..(th.answers.yahoo.com..ประวัติอาหารมาเลเซีย) เมนูอาหารที่ขึ้นชื่อของมาเลเซียอาทิ
Mee Goeng Mamak อาหารที่ขึ้นชื่อของประเทศมาเลเซียที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของชาวอินเดียมุสลิมที่ย้ายมาอยู่ในประเทศแห่งนี้ไว้อย่างจัดจ้าน เมนูที่เป็ฯการผสมผสานอาหารจีนและเครื่องเทศของอินเดียไว้อย่างลงตัว ดดยจะทำจากบะหมี่ไข่เส้นเหนียวนุ่ม ผัดกับเนื้อสัตว์ต่างๆ ตามชอบไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ กุ้งหรือเนื้อวัน พร้อมกับเติมไข่และผักเพิ่มความเข้มข้น ก่อนจะปรุงรสด้วยซีอิ๊ว บางท้องถ่ินอาจจะเติมพริกและเครื่องเทศลงไปให้รสเผ็ดนิดๆ พอกลมกล่อม เมนูนี้สามารถหารับประทานได้ทั่วไป โดยเฉพาะที่ปีนังตามตลาดชาวอินเดียจะมีให้เห็นอยู่หลายร้าน
Fried Beehoon หรือหมีข้าวผัดกับผักต่างๆ อาหารจีนแต้จิ่วหน้าตาบ้านๆ ที่รสชติไม่บ้านตาม เป็นอาหารที่หาไ้ตามร้านอาหารจีนทั่วไปในกรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่ร้านที่คุณไม่ควรพลาดคือ เรสเตอแรน เซตาแพก เทียเชียว ที่ยืนหยัดมากกว่า ร้อยปี ภายในร้านมีอาหารจีนสำตล์แต้จิ๋วแบบดั้งเดิมให้เลือกมากมาย
Asam Laksa ชื่อเมนูนี้คงคุ้นหูใครหลายคนด้วยเปนอีกหนึ่งเมนูที่ติดอันดับที่ 26 อาหารที่อร่อยที่สุดในโลกปี 2011 จากการจัดอันอับโดย CNN GO ทั้งยังเป็นเมนูเอาใจคนชอบกินรสจัดเพราะ ลัดซา เป็นอาหารลักษณะคล้ายขนมจีนที่น้ำราดจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค มีทั้งน้ำราดจากกะทิผสมเครื่องเทศรศเผ็ดร้อน หรือจะเป็นลักซาที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ ปีนังลักซา ที่เลือกใช้ปลาทูเป็นส่วนผสมหลักให้ได้กลิ่นอายทะเลอยางลงตัว เข้ากันดีกับน้ำราดรสเปรียวจากมะขามหรือส้มแขก อีกทั้งยังได้กล่ินหอมๆ จาก คอนเคซุป (ผักแพว) และ บุหงากันตัน (ดอกขิงป่า) จากนั้นตัดด้วยรสหวานจากสับปะรด เป็นอีกหนึ่งเมนูรสเข้มข้น ที่หากใครไปเยือนปีนังแล้วไม่ได้ลองกินก็เหมือนกับไปไม่ถึง
Nasi Lemak เป็นอาหารประจำชาติของประเทศมาเลเซียที่คุณสามารถเห็นได้ทั่วทุกภูมิภ-าคดดยจะห่อในใบตองให้รบประทานได้สะดวก ข้าวนาซิเลอมัก มีปรากฎให้เห็นเป็นหลักฐานในปี 1909 คำว่า นาซิเลอมักในภาษามลายูแปลว่าข้าวมัน โดยนำข้าวไปแช่กับกะทิแล้วนึ่งให้สุกจนได้ความหอมมันเป็นเอกลักษณ์แล้วกินคู่กับซอสซัมบัลรสเผ็ด แตงกว่าหั่นหรือไก่ทอดทำให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป โดยเครื่องเคียงนี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละภุมิภ-าคและวัมนธรรม เช่นที่เกาะรีเยาะจะรับประทานคู่กับอีกันดัมบันซึ่งเป็นปลาชิ้นเล็กๆ ทอดให้กรอบ คนมาเซียเชื้อสายจีนจะกินคู่กับเนื้อหมุ หรือคนมาเลเซียเชื้อสายอินเดียจะรับประทานกับแกงรสนจัดต่างๆ จึงทำให้นาซิเลอมักเป้นทั้งอาหารประจำชาติและมรกดทางสวัฒนธรรมของประเทศมาเลซียอยางแท้จริง
Steamboat เป็นเมนูที่กลายมเป็นคู่ของพื้นที่ราบสูง ในรัฐอิโปห์ไปแล้ว ด้วยสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้องชื้นด้วยฝนตกชุกตลอดปี ทั้งยังเป็นแหลงทอลองปลูกพืชหลากหลายชนิดจึงทำให้เป็ฯอาหารช่วยคลายหนาวได้อย่างลงตัว โดยจะมีลักษระเป็นหม้อน้ำซุปร้อนๆ บางร้านจะเสิร์ฟแบบดั้งเดิมด้วยเตาถ่านทำให้ได้กลิ่นหอมควันไฟเป็นเอกลักษณ์ และคุณสามารถนำเอาเครื่อง เชื่อ เนื้อสัตว์ และผักลงไปลวกจนสุกก่อนจะซดน้ำซุปที่ได้รสหวานธรรมชาิจากเนื้อและผัก สถานที่ที่ขึ้นชื่อที่สุด คือเมือง บริงชาง ที่มีกลากหลายแบบให้เลือไม่ว่าตจะเป็นร้านที่เต็มไปด้วยผักออร์แกนนิคหรือร้านที่คัดเลือกเนื้อชั้นดีให้ได้ลิ้มลอง อีกทั้งยังมีคลาดนัดกลางคือซึ่งคุณสามารถเดินเลือกซื้อของได้มากมายอีกด้วย
Nasi Kerabu อาหารประจำรัฐกลันตัน ที่มีข้าวเป็นส่วนผสมหลักหุงกับอกอัญชันจนได้สีฟ้าใสสวยงาน แล้วกินคู่กับผักและสมุนไพรหลากชนิด บางที่อาจจะเสิร์ฟมาพร้อมเนื้อสัตว์เช่นไก่ทอด ทั้งยังรดหน้าด้วยน้ำบูดุ และมะพร้าวคั่วให้เนื้อสัมผัสกรุลปรอบ ทั้งยังได้กลิ่นหอมๆ จากสมุนไพรหลกชนิดทไใ้ นาซิเกอราบู กลายเป็นอีกหนึงอาหารที่เหล่านักเดินทงไม่ควรพลาด
ด้วยผุ้คนหลากหลายเชื้อชาติ และวัฒนธรรมที่ปสมปสานรวมอยุ่ในประเทศมาเลเซียอยางกลมกล่อม ก่อให้เกิดอาหารหลากหลายชนิดที่ไม่เพียงแต่จะดึงดูดนักเดินทางจากทั่วดลกให้มาล้ิมลองแต่ยังอเป็นการบอกเล่าประวัจติและวัฒนธรรมอย่าลงตัวอีกด้วย
กีฬาที่ได้รับความนิยมในมาเลเซียได้แก่ silat โดยศิลปะกอรป้องกันตัวชนินี้มีมาเป็นเวลานานแล้ว ลักษระของศิลปะการป้องกันตัวที่เรียกว่า Silat นั้นมีอยู่ 3 ลักษณะ คือ
Silat คื อการเคลื่อนไหวของร่างกายในการป้องกันตัวจากการโจมตีของศัตรูหรือคุ่ต่อสุ้
Silau คือการตอบดต้ทใช้จากการป้องกันตัวที่ศัตรุหรือคุ่ต่อสู้ดจมตีตัวเรา
ดังนั้น ศิลปะการป้องกันตัว นี้จึงสามารถที่จะหล่าวได้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวช่วงจังหวะและลีลา การตอบโต้ที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นดดยเป็นระบบ เป็นระเบียบและละเอียดอ่หนในการป้องกันตัวจากการดจมตีของศัตรูและคู่ต่อสู้ในการเรียนเกี่ยวกับศิลปะการ้องปันตัว Silat นั้น คนหนึ่งๆ มีการเียนรู้ที่อยุ่ในระดับที่แตกต่างกนตามความสามารถและประสิทธิภาพของแต่ละคน ดดยปกติแล้วระดับความสามารถของศิลปะการป้องกันตัว Silat มีอยุ่ 5 ระดับ คือ ระดับที่รู้เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ช่วงลีลา ศิลปะการตอบโต้ ระดับการเรียนรุ้วิถีชีวิตและคำสั่งการ พร้อมการเผยแพร่ศิลปะการป้องกันตัว, ระดับการศึกษาเชิงลักของศิลปะการป้องกันตัว และภูมิหลังของศิลปะการป้องกันตัว, ระดับการเรียนรุ้ เขาใจกฎระเบียบ และหลักเกณฑ์ของศิลปะการป้องกันตัว, ระดับสร้างจิตสำนึกในศิลปะการป้องกันตัว และศึกษาความเร้นลับของศิลปะการป้องกันตัว, ระดับการเผยแพร่ศิลปะการป้องกันตัว และสร้างหรือรักษากฎเกณฑ์ของศิลปะการป้องกันตัว ให้อยุ่ในจิตวิญญาณของนักศิปละการป้องกันตัว
ศิลปะการป้องกันตัว Silat มีกาีเคลื่อไหว ช่วงลีลาการก้าว ลูกไม้ การหลีก การตอบโต้ การต่อย การถบ การโจมตี ที่แตกต่างกันตามที่ครุศิลปะการป้องกันตัวต่างๆ เป็นผุ้คิดลูกไม้ของศิลปะการป้องกันตัว ดังนั้น ศิลปะการป้องกันตัวจึงมีหลากหลายชื่อ..(http://sportasean2012.blogspot.com/..กีฬาประจำชาติของประเทศในอาเซียน)
การแต่งกายของชาวมาเลเซีย เนื่องจากศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชติของมาเลเซียน ซึ่งเคร่งครัดในระเบียบปฏิบัติตามบทบัญญัติของศาสนา ดดยฌแาพะการแต่งกายที่สภาพมิดชิดทั้งหญิงและชาย ในอดีต ผุ้ชายชาวมาเลเซียมักนุ่งดสร่งไม่สวมเส้อ หรือถ้าจะสวมใส่ก็เป็นเสื้อแขนสั้นหรือกางเกงขาสั้นแทนโสร่งแทน ส่วนผุ้หยิงนิยมนุ่งผ้ากระโจมอก บางคนอาจมีผ้าบางๆ ไว้คลุ่มไหล่ องค์สุลต่านอาบูกาการ์แห่งรัฐยะโฮร์ ทรงเห็นว่การแต่งกายของชาวมาเลเซียไม่เรียบร้อย อีกทั้งไม่มีชุดประจำชาติที่ดูสภาพพระองค์จึบทรงคิดให้ชุด บาจู กูทรง ซึ่งเป็นภาษามลายู แปลว่าปกปิด มิดชิด
ลักษณะเด่นของชุดบาจู กูทรงไม่วาของผุ้ชายหรือผุ้หญิง มักจะตัดเย็บด้วยผ้าผืนเดี่ยวกัน เพาระฉะนั้นทั้งสีแลดลวดลายบนผืนผ้า จึงป็นแบบเดี่ยวกันทั้งชุด แต่ชุดของผุชายกลับมีเครื่องเครามากว่าของผุ้หญิงชุดผุ้ชาย ทั้งเสื้อและกางเกงลวดลายสีสันเดียวกันทั้งชุด
ไม่นิยมลวดลายสัตว์หรือผิดหลักศาสนาอิสลาม เสื้อผุ้ชายเป็นแขนยาว ทั้งแบบคอลมแและคอจีน ซึ่งรังดุมราว 2-5 เม็ด ผ่าจากคอเสื้อลงมาถึงกลางอก ส่วนท่อนล่างจะเลือกใส่กางเกงหรือผ้าโสร่งก็ได้ ถ้าใส่กางเกงต้องมีผ้าพัน หรือมองดุคล้ายดสร่งสั้น จากสะดือถึงเข่า ภาษามลายูเรียกผ้าพันนี้ว่า ซัมปิ่น ซึ่งสัไม่ฉูดฉาด แต่ก็สวยงามบางที่เป็นผ้าไหม ดิ้นทาง ซัมปินทำให้ชุดผู้ชายดุสภาพเรียบร้อย ทั้งยังสามารถกันเปื้อนได้อีกด้วย ที่ศรีษะผุ้ชายจะสวมหมวกแขกกำมะหยี่สีดำ ภาษามลายูเรียก่า ซองโก๊ะ แต่ถ้าจะให้เต็มยสก็จะสวมผ้าพันเป็นรูปมงกุฎสวมทับไปบนหมวกอีกชั้นหนึ่ง การพับผ้าเป็นรูปมงกุฎมีแบบต่างๆ เช่น รูปนกอินทรีปีกหัก รูปช้างรบ รุปสู้ลม ถือเป็นศิลปะทีต้องใช้เวลาประดิดประดอย จึงไม่เป็นที่นิยม ในอดีตการสวมผ้าพับรูปมงกุฎนี้เป็นเครื่องบอกชนชั้นในสังคมมาเลเซียน ส่วนใหญ่เป็นเครื่องทรงขององค์สุลต่านและราชขวงศื ส่วนสามัญชน จะสวมใส่ผ้าพันมงกุฎนี้ในวันสำคัญเช่นในวันแต่างงาน ซึ่งหมายถึงเจ้าบ่ายเป็นเจ้าชายในวันั้นสิ่งสำคญอีกอย่่างหน่งของชาวมาเลเซีย คือ กริซ ซึงเยเป็นอาวุธประจำกายของผู้ชายที่ต้องติดตัวอยุ่ตลอดเวลา แต่ปัจจุบันกรซ ใช้เป็นเครืองประดับในชุดบาจุ กูทรง โดยเหร็บข้างเอวให้เห็นเท่านั้น การแต่งการแบบนี้สำหรับชาวมาเลเซียถือว่าสุภาพมาก มักแต่งไปในงานพิธีเช่นงานแต่างงาน
ที่กล่ามานี้ค่อนข้างเป็ฯการแต่างกายที่เป็นางการ แต่ถ้าต้องการความสะดวกเรียบว่าย เพื่อไปประกอบพิธีกรรมที่มัสยิด ก็เพรียงโสร่ง สวมเสื้อปล่อยชายยาวคลุมทับดสร่ง สวมหมวกกำมะหยี่สีดำบางครั้งผุ้ชายก็แต่งตัวอย่างสกล ใส่เสื้อแขนยาวสีขาวหรือสีอ่อน ดุสุภาพ กับกางเกงสีเข้ม และที่ขาดไม่ได้คือใส่หมวกกะปิเยะห์ชุดผุ้หญิง มีเครื่องแต่งการน้อยิ้นกว่าชาย ทั้งสื้อและกระโปรงตัดด้วยผ้าบางเบา เนื่องจากภูมิอากาศที่ร้อนอบอ้าว ผ้าเป็นลวดลายและสีเดียวกันทั้งชุด หรือสีที่เข้ากัดีระหว่างเสื้อกับผ้านุ่ง นิยมลวดลายดอกไม้สีสันสดใส เสื้อผุ้หยชญิงเป็นปบบปขนยาว ชายเส้ื้อยาวลงมาถึงเข่า บางคนิยมตัดเย็บเสื้อเข้ารูป แต่บางคนปล่อยให้หลวมๆ ไม่เน้นรูปร่างส่วนท่อนล่างเป้ฯกระฏปรงยวคบุมตาตุ่ม ไม่ผ่าข้า เมื่อออกนอกบ้าน ผุ้หญิงมาเลเซียนิยมคลุมศรีษะด้วยผ้าบางเบา มีสีสันลวดลายดุกลมกลืนหรือเป็นลายเดียวกับเสื้อและกระโปรง ผ้านี้บางที่ก็นำมาคลุมไหล่เป็นเครืองประดับได้ดวยสตรีมุสลิมที่เคี่งคัดก็มักคลุมฮิญาบ หรือที่ชาวมลายูเรียกว่า ตุดล ซึ่งปัจจุบัเป็นที่นิยมมากขึ้น..(amoreiiz.wordpress.com/..การแต่งกายของชาวมาเลเซีย)
ไนท์ไลท์ที่ กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย เป็นเมืองที่มีการผสมผสานกันระหว่างประวัติศาสตร์ และความโมเดิร์นอย่างลงตัว
ตึกแฝดปิโตรนาส ตึกแฝดปิโตนาสคืออาคาร 88 ชั้น รุ้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า อาคาร KLCC อาหารแห่งนี้เป็นตึกแผดที่สุงที่สุดในโลกความสูง 451.9 เมตร สร้างขึ้นนโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิตของสถาปัตยกรรมอิสลาม อีกฝั่งหนึ่งของตกนี้ติดกับสวน KLCC ที่กินเนื้อที่กว้างขวางและตกแต่างอย่างสวยงาม สถานที่ที่น่าสนใจในอาคาร KLCC คือ ซูเรียชอปปิ้ง คอมเพล็กซ์, ปิโตรนาส ฟิลฮาร์โมนิก ฮอลล์, ศุนย์วิทยาศาสตร์ เปโตรซินและศุนย์ประชุมกัวลาลัมเปอร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ลักษณะเด่นของตึกแผดนี้เมื่อเปรียบเทียบกับตึกระฟ้าอื่นๆ ของโลก คือการที่เป็นอาคารหอคอย 2 อาคาร เชื่อโดยสะพานลอยฟ้า สถาปัตยกรรมดดยเด่นูงตระหงานแห่งนี้หลายเป็นแลนด์มาร์ดใจกลางย่านฑุรกิจของกรุงกัวลาลัมเปอร์ จากกาลงวันเปลี่ยนสู่กลางคือนตึกแผดแห่งนี้จะถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟที่อลังการยิ่งทำให้ตึกที่สูงดูสูงขึ้นอีก ท่ามกลางท้องฟ้าสีดำ
ถนนฟู้ดทรัค กระแสเมนูติดล้อมาแรง ที่กัวลาลัมเปรอื เหล่า ฟู้ดทรัค จะยกทัพปิดทนน จาแลน สุลตาน อิสมาอิล บริเวณจตุรัสเมอร์ดิก้าเพื่อสร้างสีสันยามค่ำคือ พร้อมจัดเต็มเรื่องกินด้วยอาหารนานาชนิดหลากหลายเชื้อชาติ ให้ได้ลิ้มรสกันอย่างจุใจ โดยงานจะจัดทุกวันเสา 9.00-01.00น.(ค่ำ) และอาทิตย์ตั้งแต่ 6.30-9.30น.(เช้า) ในสัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน งานนี้ใครที่เป็นนักชิมตัวยงไม่ควรพลาด งานเดียวครบรส
ย่านบูกิตบินตัง คือสวรรค์ของนักช้อปที่ไม่ว่มองไปทางไหนก็เนืองแน่นไปด้วยห้าสรรพสินค้า และสถานที่สำหรับช้อปปิ้งแบบที่เลือกเดินกันไม่ถูกเลยที่เดียว นอกเหนือจากที่ช้อปปิ้งทังกลงวัน ละกลางคืนแล้ว ที่นี้ยังมีตรอกซอยให้ได้เดินเล่น สัมผัสวัฒนะรรมท้องถ่ินยามค่ำคือน เช่น อาหรับ สตรีท ตามชื่อถนน ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารสไตล์อาหรับซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่ ที่ชาวต่างชาติและชาวมาเย์นิยม หรือหากชอปปิ้งแล้วหิว ก็แวะไปที่ จาราน อลอ ถนนสายสตรรีทฟู้ดชื่อดังที่ถนนทั้งถนนเต็มไปด้วยอหารแบบท้องถิ่นให้เหลือทานทั้ง จีน มาเลย์ อินเดีย
ไชน่าทาวด์ ไนท์ มาเก็ตติ้ง ที่นี่จะเปิดตั้งแต่กลางวันแต่จะคึกคักเป็นพิเศษช่วงกลางคืน เพราะอากาศไม่ร้อน และมีร้านค้ามาเปิดขายของเยอะกว่า สินค้าทั่วไปจะเป็นของฝากและอาหาร ของท้องถ่ินต่างๆ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อยเพระสามารถเดินไปกินไปช้อปของฝากได้ในที่ที่ทเดียว
กำปง บารู แม้กัวลาลัมเปอร์จะเป็นเมืองทันสมัย เป็นเมืองธุรกิจที่มีตคึกสูงตระหวาน แต่ในใจกลางกรุงนั้น ยังมีตรอกเล็กๆ ที่มีหมู่บ้านดบราณอย่าง กัมปง บารู ที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมดั้งเดิม หลังจากเป็นเอกราชการการปกครองของอังกฤษ ชาวบ้านที่นี้ก็ลุกข้นต่อต้านการเป็น โมเดิร์น ซิตี้ ที่จะลุกล้ำเข้า ทำให้ กัมปง บารู กลายเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านดบราณจกลายกรุงจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ดีชาวบ้านที่นี้มีการปรับตัวได้ออย่างดีให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการปสมปสานวิถีชิวิตแบบใหม่และดั้งเดิม แม้กลางวันจะดูเป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ธรรมดา ที่นักท่องเที่ยมาเยี่ยมเยือน แต่เมื่ออาทิตย์ตกดินที่นี่จะกลายเป็นอีกตลาดสตรีทฟู้ดกลางคืนที่อยู่ท่ามกลางหมุ่บ้านดบราณ ในบรรยากาศย้อยุคแบบมาเลย์ มาเลย์ ดดยเฉพาะร้านขายข้าวแกงมาเลย์ที่โด่งดัง เมนูเด็ดคือ นาซิเลอมัก อาหารประจำชาติมาเลเซีย..(http://travel.trueid.net..5 แหล่ง ไนท์ไลฟ์ ในกัวลาลัมเปอร์ ย่ำเท้าเดินเลี้ยว เที่ยวชิมเพลินๆ)
วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2560
LifeStyle ASEAN (Loas)
ชาวลาวมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่หรูหราฟุ่มเฟือย รักสบาย รู้จัพอ ไม่ใช่คนขีเกี่ยจ แต่ใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ ไม่โลภ ส่วนใหญ่มีกำลังซื้อไม่สูง มีความเหลื่อมล้ำทางเศราฐกิจน้อย การตัดสินใจตซื้อสินค้าเน้นพิจารณาจากประโยชน์การใช้งานเป็นสำคัญ อาหารการกินของชาวลาวได้รับอิทะพลทางวัฒนธรรมทางอาหารจากฝรั่งเศสมากพอสมควร แต่อาหารท้องถ่ินก็ยังคงเป็นที่นิยมแพร่หลายเป็นหลัก นิยมทำอาหารทานเองที่บ้าน หากออกไปทานอาหารที่ร้านอาหารต้องเป็นโอกาสพิเศษและเลือกทานในร้านอาหารระดับกลางถึงสูง ซึ่งยังมีให้เลือกน้อย
เมื่องหลวงเวียงจันทน์เป็นเมืองที่กำลังโต การก่อสร้างมีมากขึ้นประชาชนในเมืองโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นติดตามกระแสแฟชั่นสมัยใหม่จากไทย สื่อโทรทัศน์ของไทยมีอิทะพลต่อการเลือกซื้อสินค้า สินคัาด้านเครื่องแต่งกายและการดุแลสุขภ-าพได้รับความสนสนใจมากขึ้นในกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ลาวไม่นิยสินค้าเงินผ่อนมักเก็บออกมแล้วซื้อเงินสด คนลาวยังมีทศนคติที่ไม่ดีกับสินค้าเงินผ่อนอยู่ สินค้าอุปโภาคบริโภคในตลาดยังมีให้เลือกไม่หลากหลายนักในขณะที่ตลาดมีกำลังซื้อเพ่ิมขึ้นเรนื่อยๆ สินึค้าส่วยหใญ่เป็นสินค้าจากไทย จีน และเวียดนาม แต่ถ้าเป็นกลุ่มสินค้าที่ใช้บริโค ของกินของใขช้สสินค้าทีใช้กับร่างกายและมีผลต่อสุขภาพ ชาวลาวเช่อถือในคุณภาพ ความปลอดภัย และนิยมสินค้าไทยมากว่าสนิค้าจากจีนและเวียดนาม..(http://www.rd.go.th/..ไลฟ์สไตล์ รสนิยม และวัฒนธรรมของคนประเทศต่างๆ ในอาเซียน"
ประชากรลาวประมาณร้อยละ 75 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 16317 นับถือผี ซึ่งเป็นความเชื่อดั้งเดิมตามแต่ละท้องถ่ินที่เหลือเป็นคริสต์ มุสลิม และอื่นๆ แม้ว่าทางรัฐบาลลาวให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่พุทธศาสนาแบบเถรวาท ได้นำมาสร้างอำนาจความชอลธรรมในการปกครองของรัฐและเป็นแบบแผนหลักของวัฒนะรรมลาวซึ่งปรากฎให้ก็นทั่วประเทศ ทั้งในด้านภาษา ศิลปะ วรรณคดี วิถีชีวิตการเป็นอยุ่ ทำให้ลาวมีประเพณีวันสำคัญทางพระพุทธศาาสนาเช่นเดียงกับไทย เห้นได้จากวันและเทศกาลสำคัญต่างตามารีตประเพณีของลาวจะเรียกว่า "ฮิตสิบสองคองสิบสี่ ฮิตยี่คองเจียง" ซึ่งบางวันรัฐบาลได้กำหนดให้เป็วันหยุดสำคัญของทางราชการได้แก่ วันสงกรานต์ปีใหม่ลาว วันวิสาขบูชา วันอาฬหบูา และวันมาฆบุชา โดยวันสำคัญดังกบ่าวจะถูกกำหนดตามปฏฺิทินจันทรคติ ดังนี้ เดือน 3 วันมาฆบูชา มีงานแลองพระธาติงฮังที่แขวงสะหวันนะเขต และงานวัตถุจำปาสักเดือน 5 วันสงคกรานต์ปีใหม่ลาว เดือน 6 วันวิสาขบุชาเดือน 8 วันเข้าพรรษา และอาสาฬหบูชา เดือน 9 บุญข้าวประดับดิน เดือน 10 บุญช้าวฉลาก เดือน 11 ออกพรรษา งานแข่งเรือ ที่นครเวียงจันทน์เดิืน 12 บุญพระธาตุหลวงเวียงจันทน์..(http://www.boi.go.th..ศาสนาและวัฒนธรรม)
อาหารลาวหลายอย่างคล้ายอาหารอีสานของประเทศไทยเรา โดยทั่วไปแล้วอาหารลาวรสชาติมักไม่ค่อยจัดจ้าน มีรสชาติมาก เครื่องปรุงรสแต่เดิมใช้เกลือเพียงอย่างเดียว มาปัจจุบันชาวลาวทั้งประเทศนิยมใช้ผงชูรส(คนลาวเรียกแป้งนัว) กันมากขึ้น ถึงขนาดร้านอาหารหลายร้านต้องมีกระปุกผงชูรสไว้บนโต๊ะกันเลยที่เดียว
เมนูท้องถ่ินที่ขึ้นชื่อ เฝอ เป็นอาหารจานด่วยที่มีทั่วไปทุกเมือง หน้าตาไม่ต่างกับก๋วยเตี๋ยวน้ำใสประเทศไทยนิยมใส่เนื้อสัตว์เพิ่มรสชาติและจะมีผักสดเป็นเครืองเคียง ปรุงอยุ่กลางโต๊ะ พริกเผา และน้ำปลา จะให้อร่อยมันต้องเติมซอสพริก (ที่นำเข้าจากไทย) ซึ่งวางเป็นเครื่องปรุงอยู่กลางโต๊ะ มันจะทำให้นำ้ซุปเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้า รสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ
บาแกตต์ (ข้าวจี่, แป้งจี่) เป็นขนมปังฝรั่วเศส หน้าตาคล้ายแซนด์วิช สามารถใส่ไส้ ผักสด เนื้อสัตว์ "ฉม หมูยอ ตับบด เป็นต้น มีให้เลือกทั้งก้อนเล็ก กลาง ใหญ่ เรียกได้วาก้อนเดี่ยวอ่ิมไปทั้งมื้อ
ลาบ เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของคนลาวอีกอย่างกนึ่ง ส่วนกค่งมาจากชื่อของอาหารที่มีความหมายดี ฉะนั้นในงานเลี้ยงต่างๆ ของประเทศลาวมักจะมีัลาบเสิร์ฟอ้วย และลาบที่นิยมมากที่สุด คือ ลาบไก่งวงที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวคือ จะใส่ดีวัวลงไปด้วยให้มีรสชลาติขมนิดๆ
ส้มตำ หรือตำหมากห่ง หน้าตา รสชาติ วัตถุดิบ เหมือส้มตำประเทศไทย แต่ที่ประเทศลาวบางร้านจะใส่กะปิลงไปด้วยจึงทำให้รสชาติมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยัวถือว่าส้มตำเป็นอาหารที่นิยมของคนลาวที่หากินได้ง่าย
ข้าวเปียก หน้าตาจะคล้ายก๋วยเตี๋ยวประเทศไทยและเผอของประเทศลาว แต่ที่จะแตกต่างอย่รางเห็นได้ชัดคือเส้นของข้าวเปี่ยวจะเป็นเส้นกลมๆ และมีความเหนี่ยวกว่า จะดรยหน้าด้วยผักชี หมูยอและมีผักสดเป็นเครื่องเคียง
ไคแผ่นทอด เป็นอาหารกินเล่น ยอดนิยชอสข่สบ่ส "ไค" คือสาหร่ายน้ำจืด ที่ล้างสะอาดแล้วมาทำเป็นแผ่นแล้วนำไปตากให้แห้ง และนำไปทอด โรยด้วยงาและมะเขือเทศ เป็นอาหารกินเล่นขึ้นชื่อของหลวงพระบาง
กีฬาพื้นบ้านลูกข่าง เป็นกีฬาสาะิตในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 25 ซึ่งประเทศลางเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมี่วิธีการเล่นเหมือนกับประเทศไทยลูกข่างถอเป็นการละเล่นชนิดหนึ่ง ที่มีการเล่นดดยการผุถกด้วยเชือก และขว้างลุกขว้างลงพื้นให้เกิดการหมุน โดยมีกติการการเล่น คือ หากขว้างลูกข่างไม่หมุนเหรืออกนอกวงถือว่าแพ้ และผุ้แพ้จะต้องนำลูกข่างของตนวางในวงกลมเพื่อให้คนอื่นใช้ลุกข่างที่พันเชื่อก ขว้างไปบนลูกข่างนั้นเป็นการลงโทษ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นประกอบด้วย ลูกข่าง ส่วนมากจะทำจากไม่มะยมกลึงมีตะปูเป็นเดือยแปลมตรงกลางคนละ 1 ลุก, เชือกยาวประมาณ 40-50 เชนติเมตร ปลายเชือกด้านหนึ่งผุกด้วยไม้ หรือร้อยด้วยผาเบียร์ และวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50-60 เซนติเมตร
ในการเล่นลูกข่างไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น ก่อนเล่นจะมีขีดวงกลมขนาด 50-60 เซนติเมตรบนพ้นดิน แล้วจัดลำดับการเล่นตามวิธีการจัดลำดับก่อนการเล่นดังกล่วแล้วก่อนเล่นทุกคนใช้เชือกพันลูกข่างของตน ดดยพันจากปลายเดือยขึ้นมาจนถึงตัวลูกข่าง แล้วถือายหนึ่งไว้ระหว่างซอกน้ิวชี้และนิ้วกลาง ส่วนหัวแม่มือหงายรองรับปลายเดือยลูกข่างไว้ เมื่อเริ่มเล่นผู้เล่นจะข้างลุกข่างตกถึงพื้นจะหมุนหากลุกข่างของผุ้ใดไม่ หมุน หรือออกนอกวงถือว่าแพ้จะถูกทำโทษด้วยการให้เจ้าของลูกข่างนำลูกข่างของตวาง ไว้ในวงกลม ให้ผุ้อื่นนำลูกข่างที่พันเชือกเตรียมไว้ขว้างลงไปบนลูกข่างนั้นเรียกว่า "โจ๊ะลุกช่าง" ที่ละคน หากลูกข่างทำจากไม้ไม่ดีจะแตก แถ้ถ้าทำจากไม้มะยมจะเป็นรอยเจาะเท่านั้น..(sites.google.com/..กีฬาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว)
ประเทศลาวอยุ่ชิดชายแดนไทยทางด้านตะวันออกเแียงเหนือทางจังหวัดหนองคาย ข้ามแม่น้ำโขงไปอีกฟากหนึ่งก็จะถึงเวียงจันทน์ นอกจากชนชาติลาวซึ่งบางครั้งเรียกว่าลัวะ หรือละว้า ยังมีชนเผ่าต่างๆ อีก ได้แก่ กลุ่มชนเผ่าไทย-ลาว คือพวกไทยแดง ไทขาว ไทยดำ ย้อ ลื้อ กลุ่มม้ง-เย้า กลุ่มพม่า-ธิเบต รวมถึงมูเซอ ล่าฮู และกลุ่มมอญ-เขมร รวมถึงขมุ
การทอผ้าของกลุ่มชาวไท-ลาว ใช้เทคนิการทออาทิ มัดหมี่ จก ชิด และเหยียบเกาะ ผ้าทอมีบทบาทสำคัญในชีวิตครอบครัวของชาวไท-ลาว ทุกวันนี้พิธีแต่างงานแบบดั้งเดิมของ คนไท-ลาวยังคงใช้เครื่องแต่งกายที่งดงาม ประณีต ชุดเจ้าสาวทอด้วยไหมเส้นละเอียด สอดแทรก ด้วยเส้นเงินเส้นทอง ผ้าเบี่ยง ซิ่นและตีนซิ่น จะมีสีและลวดลายรับกน เจ้าบ่าวนุ่งผ้านุ่งหรือผ้า เตรียวทอด้วยไหมละเอียดสีพื้น อาจจะใช้เทคนิคการทอแบบ "หมากไม" คือการปั่นเส้นใย สวมเสื้อแบบฝรั่ง มีผ้าพาดบ่าเพื่อเข้าพิธีสู่ขวัญ
การแต่งกาย ผู้หญิง นุ่งผ้าลักษณะคล้ายผ้านุ่งของไทย นิยมทำเป้นลายทางๆ เชิงผ้าเป็น สีแดงแก่ หรือน้ำตาลเข้ม ถ้าผ้านุ่งเป็นไหมเชิงก็จะเป็นไหด้วย มีกจะทอทองและเงนิแทรกเข้าไป ไว้ผมเหล้ามวยประดับดอกไม้ ผุ้ชายนุ่งผ้านุ่งเป็นกระโจงกระเบน สวมเสื้อชิ้นนอก กระดุมเจ็ดเม็ด
ไนท์ไลท์ในเวียงจันทน์ประเทศ มีกิจกรรมต่างๆ อาทิ โยนโบว์ลิ่งที่ลานโบว์ลิ่งลาว หรือ ลาวโววีวิ่งเซ้นเตอร เป็นสถานบันเทิงอีกลักษณะหนึ่งของเวียงจันทน์ สถานที่โอโถงดีมาก มีทั้งคนลาวและนักท่องเที่ยวมาใชข้บริการมากมาย โดยเฉพาะอย่างิย่ง ช่วง 22.00 น. คนจะเยอะ เปิดบริการตั้งแต่ 0.900-01.00น. ตั้งอยู่หลังสนามกีฬาแห่งชาติลาว อละอยู่ใกล้กับตลาดแลงเวียงจันทน์
สปริตเฮ้าส์ เป็นร้านอหารบรรยากาศสวยงาน เปิดตั้งแต่ 7 โมงเข้า -ห้าทุ่ม เมากสำหรับการนั่งชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน อาหารมีตั้งแต่อาหารฝรั่งกระทั่งซูชิ
ร้านบ่เป็นหยัง เป็นร้านดังมากร้านนึงของเวียงจันทน์ อยุ่ติดกับแม่น้ำโขง นักท่องเที่ยวมากายต่างต้องแวะมาร้านนี้ เป็นร้านนั่งชิว อาหารอาจไม่หลากลาย เน้นอาหารง่ายๆ เช่น เบอร์เการ์ บาเก็ต พิซซ่าแบเวฟก่อนรับประทาน "ตลาดกลางคือเวียงจันทน์" เป็นจุดสำคัญที่ใครมาเวียงจันทน์ก็ควรที่จะมาเดินมาชมกันสักหน่วย ลักษณะเหมือนไนท์บาซ่า มีของขายมากมาย ต่อรองได้นิดหน่อยมีของฝากของที่รึกวางขายมากมาย "ตลาดแลงเวียงจันทน" อันนี้เป็นแนวแซป กินดิ่มจุกอก เดินไปกินไป มีโต๊ะนั่งเป็นร้านๆ ได้แซปกับอาหารท้องถิ่นอย่างแท้จริง ไก้ย่าง ตำบักหุ่ง ปลาเผา เป็นต้น..(http://www.huglaos.com ร้านอาหารลาว..)
วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2560
LifeStyle ASEAN (Indonesia)
ชาวอินโดนีเซียมีความเลื่อมล้ำทางเศราฐกิจสูง มีช่องว่างเรื่องรายได้ คนมีรายได้น้อยมีอยุ่จำนวนมาก ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงยังอ่อนไหวกับราคาสินค้า ไม่ค่อยนอยมสินค้าราคาแพง ในกลุามผุ้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไปนิยมบริโภคสินค้านำเข้าจากต่างประเทศทั้งสินค้านำเข้าจากเเอเซียและจากประเทศตะวันตก มีแนวโน้มใส่ใจกับการดุแลสุขภาพเพิ่มขึ้น
ขาวอินโดนีเซียนใช้จายเพื่อซื้ออาหารค่อนข้างสูง สัดส่วนประมาณร้อยละ 51 ของรายได้ นิยมออกมารบประทานอาหารนอกบ้านเพื่อเป็นการผ่อนคลาย และใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เนื่องจากมีความเป็นสังคมเมืองเพ่ิมขึ้นจึงมีแนวโน้มเร่ิมหันมานิยมซ้ออาหารสำเร็จรูป อาหารพร้อมปรุง และอาหารพร้อมรับประทานมทาเก็บไว้ที่บ้านแทนการออกไปซื้ออาหารสดทุกวันเช่นเดิน อาหารจำพวกซีเรียลเป้ฯอาหารหลักในชิวิตประจำวันสำหรับทุกกลุ่มรายได้ และคนอินโดนีเซียนชอบรับประทานอาหารรสเผ็ด
เกือบ 90 เปอร์เซ็นของประชากรอินโดนีเซีย นับถือศาสนาอิสลาม คริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ แคทอลิก ฮินดู และพุทธตามลำดับ อินโดนีเซีย เป็นรัฐอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามศาสนาอิสลามในอินโดนีเซียไม่เหมือนกับอิสลามทั่วไปที่พบอยู่ในประเทศอาหรับ หรืออินเดีย ความแตกต่างที่เห็นชัดคือสตรีมุสลิมในอินโดนีเซียไม่ต้องแต่งกายหรือคลุมร่างกายทุกส่วนเหมือนสตรีอาหรับ สำหรับเทศการทางศาสนาอิสลามที่สำคัญได้แก่ รอมฎอน คือ เดือนที่ชาวมุลิมถือศีลอดไม่รับประทานอาหารหรือน้ำ ระหว่างอาทิตย์ขึ้งถึง
อาทิตย์ตก โดยจะรับประทานอาหารได้หลังดวงอาทิตย์ตกดอินไปแล้ว, "วันตรุษอิดุลฟิตริ" หรือ "ฮารีรายา" หรือวันขึ้นปีใหม่ ตรงกับวันแรกของเดือนสิบในปฏิทินมุสลิมและเป็นวันสิ้นสุดของการถือศีลอด โดยจะมีพิธีฉลองใหญ่ 2 วัน 2 คือ, "วันตรุษอิดุลอัฐฮา คืองานเฉลิมฉลองประจำปี ซึ่งตรงกับช่วงการทำพิธีฮัจย์เสร็จสิ้น โดยชาวอินโดนีเซียที่นับถือศาสนาอิสลามจะนิยมทำพิฑีฆ่าสัตว์ใหญ่ เช่น ควาย วัว แพาะ เเกะ เพื่อให้เนื้อสัตคว์แก่คนยากจน, "เทศกาลกาลุงงัน เป็นงานประจำปีของชาวบาหลีเทศกาล 10 วันนี้จัดขึ้นเพื้อฉลองชัยชนะของเทพเจ้าที่มีต้อวิญญาณร้าย และชเื่อว่ัญญาณบรรพบุรุษจะมาร่วมงานเฉลิมแลองนี้ด้วย ทั้งนี้ ในแต่ละปีจะจัดไม่ตรงกัน , "กาซาด้า คืองานประจำปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคมของทุกปี โดยเป็นการบวงสรวงภูเขาไฟไบรโม ทางตะวันออกของเกาะชวา เพื่อมอบสิ่งของต่างๆ ทั้งอาหาร และครื่องใช้ต่างๆ ให้แก่ภูเขาไฟ..(http://www.aseanthai.net/กิจกรรมทางศาสนาในอินโดนีเซีย)
อินโดนีเซียมีวิธีการปรุงอาหารที่น่าสนใจ อาทิ อาหารของชาวบาหลี, เบตาวี หรือปาดัง ซึ่งก็ต้องไปแยกย่อยอีกตามชนชาติที่อาศัยอยุ่ในพื้นที่นั้นๆ แต่โดยหลักแล้วอาหาของประเทศอินโดนีเซียนมีส่วนผสมของเครื่องเทศค่อนข้างมาก และการใช้เครื่องเทศอย่างแพร่หลายในอาหารนี้ ก็มีที่มาจากการค้าขายเครื่องเทศอันเฟื้องฟูในอดีตกับชาวดัชต์นั่นเอง
ส่วนผสมสำคัญอีกย่างของอาหารอินโดนีเซียนก็เห็นจะเป็นพืชและผลไม่พื้อนเมือง ซึ่งโดยมากใช้วิธีการปรุงที่เรียบง่ายเช่น การย่างหรือการผัด ซึ่งไม่มีการเพ่ิมเครื่องปรุงดัดแปลงกลิ่นหรือรสชาติมากนัก จึงทำให้อาหารแต่ละจานยงคงประโยชน์ สีสัน และรูปแบบที่เป้ฯธรรมชาิมากที่สุด ตังอย่าง สไตล์อาหรที่มีขายกันอยางแพร่หลายในอินโดนีเซียนและนักท่องเที่ยวได้รับคำแปนะนำว่าให้ลองชิมรสชาติดูก็คือ โตราจา ฟู้ดส์ ศึ่งเป็นอาหารของชาว โตราจา ซึ่งมักจะปรุงจากหมูและผักนำไปย่างหรือต้มปรุงรสชาติด้วยผลไม้พื้นเมือง ส่วนใหญ่รับประทานคู่กับข้าวสวยและ ราวอน ซึ่งเป็นซุปข้นที่ทำจากผักและหมูเช่นเดี่ยวกัน
อาหารอีประเภทที่น่าสนใจคือ มินิน ริสตาฟเฟล สไตล์ ที่นิยมกันมากในจาร์กาต้า ซึงจัดเนรียงกับข้าวหลากหลายไว้ให้เลือกกินคู้กับข้าวสวย ไข่ต้ม และเนื้อย่าง ดูคล้ายข้าวแกงในเมืองไทย หรือสูตรเฉพาะของร้าน แพค อัน ที่ประสบความสำเร็จบนเกาะ บังก้า ไอแลนด์ ซึ่งจะเสิร์ฟอาหารจานปลาเป็นหลัก ที่มีเมนูซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง lempah ซึ่งเป็นแกงเผ็ดที่ทำจากปลาท้องถ่ินเจ้าของร้านบอกว่าหากมีคอนเมนต์จากลูกค้าเกี่ยวกับรสชาติของอาหาร นันก็หมายถึงวัตถุดิบไม่ดีเท่าที่ควรซึ่งทางร้านก็จะเปลี่ยนจานใหม่ให้ลูกคาฟรีทันที่ เพื่อรักษามาตรฐานของอาหารเอาไว้ เชฟในร้านอาหารชื่อดังหลยแห่งในอินโดนีเซียได้บอกไว้ว่าอาหารของอินโดนีเซียส่วนใหญ่ ส่วนผสมก็แทบจะไม่ต่างกันมากนัก แต่เคล็ดลับของรสชาติว่าแต่อาหารแต่ละจานจะอร่อยหรือไม่นั้นอยู่ที่ความสดของวัตถุดับที่มาจากธรรมชาติซึ่งหาจากที่ไหนไม่ได้ในโลกนี้ และพวกเขาก็กังวลว่าธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้วัตถุดับที่ดีของพวกเขาจะหมดไปด้วย..(http://www.dooddot.com/.. วัฒนธรรมอาหารกับวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติของดินแดนภูเขาไฟประเทศอินโดนีเซีย)
อาหารอินโดนีเซีย "สะเต๊ะ"ซึ่งมีจุดกำเนิดอยู่ที่อินโดนีเซีย เป็ฯอาหารอยางหนคึ่งซึ่งทำจากเนื้อที่หั่นบางๆ หรือหั่นเป็นอ้น อาจจะเป็นเหนื้อหมุ เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ เนื้อปลา ฯลฯ เสียบลดวยไม้เสียบที่ทำจากไม้ไผ่ แล้วนำไปย่างบนเตาฟืนหรือเตาถ่าน เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงรส ที่มีรสจัด (ซึงแตกต่างกันออกไปในแต่ละตำรับ สะเต๊ะมีจุดกำเนิดมาจากเกาะชวาหรือเกาะสุมาตรานประเทศอินโดนีเวยน แต่ก็ยังได้รับวามนิยมในประเทศอื่นๆ ด้วย เช่น มาเลเซียน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศไทย หรือแม้แต่เนเธอร์แลนด์ซึ่งรับเอาวัฒนธรรมไปกับอาณานิคมของตน สะเต๊ะของอินโดนีเซีนอาจได้รับอทะิพลจากคาบับที่เป็นอาหารพื้นเมืองของอินเดียภาคเหนือ ซึ่งด้รับอิทธิพลจากชาวเตอร์กอีกต่อหนึ่ง ตำรับดั้งเดิมของชาวตุรกีเป็นเนื้อแพะหั่นเป็นชินหมักแล้วเสียบเหล็กแหลมย่างไฟ ชาวเปอร์เซียนและชาวอินเดียรับมาดัดแปลง อาจใช้เนื้อบทหรือเนื้องทั้งชิ้น จะเสียบหรือไม่เสียบไม้ก็ได้ เมื่อแพร่หลายมาถึงมลายู ชวา จึงหลายเป็น
สะเต๊ะอย่างในปัจจุบันนี้ "บักโซ" เป็นเนื้อปั้นก้อนแบบอินโดนีเซียมีลักษณะคล้ายลูกชิ้นแบบจีน ปกติทำจากเน้อวัว แต่ก็สามารถทำจากเนื้อชนิดอื่นๆ ได้ เช่น ไก่ ปลากุ้ง อาจเิร์ฟในชาวน้ำซุปกับหมี่เหลือง หมี่หุน ผักดอง เต้าหู้ ไข่ กะหล่ำปลี ถั่วงอก ขนมจีบ เกี๊ยวกรอบ หอมเจียวและเซเลอรี พบได้ทั่วไปที่อินโดนีเซียน บักโซหั่นเป็นชิ้นใช้เป็นส่วนผสมของหม่โกเร็ง นาซีโกเร็ง "นาซีโกเร็ง" เป็นข้าวผัดที่ผัดกับน้ำมันหรือเนยเที่ยม ปรุงรสด้วยซีอิ็วหวาน หอมแดง หระเที่ยม มะขามและ
พริกอาจมีส่วนปสมอืนได้วย เช่น ไข่ ไก่ กุ้ง "กาโดกาโด" หรือโลเต็ก เป็นอาหารยอดนิยมของประเทศอินโดนีเซีย ประกอบด้วยผัก ทั้งผักสด ผักต้มและผักลวก และธัญพืชหลายชนิด ราดด้วยซอสที่ทำจากถั่ว ทั้งแคร์รอต มันฝรั่ง กะหล่ำปลี ถั่วเขียว ถั่วฝักยาว ขนุนอ่อน ผักกาดหอม นอกจากนี้ยังมีเต้าหู้ และไข่ต้าสุก และกินกับข้าวเกรียบทอดหลายชนิด เช่น กรูปุก์ ซึ่งเป็นข้าวเกรียบกุ้งหรือปลา เอิมปิง เป็นขช้าวเกรียบใส่เมล็ของผักเหมียง หรือจะกินกับเต็มเปทอด หรือข้าต้มแบบลตงก็ได้ รับประทานกับซอสถั่วที่คล้ายกับซอสะเต๊ะ ซึ่งประกอบด้วย กะปิ ถัวลิสงบด กะทิ น้ำตาลโตนด พริกแดง กระเที่ยวม กะทิ มะขามเปียก คำว่ากาโดนี้ ภาษาอินโดนีเซียหมายถึงยำ กาโด-กาโด มีความหลากหลายในแต่ละท้องที่ ในซุราบายาเรียว่า "กาโด-กาโดซีรัมไ ซึ่งจะราดน้ำซอสลงไปบนเครื่องปรุงอื่น ในบันดุงและโบกอร์ จะเคล้าน้ำซอสให้เข้ากับเครืองปรุงก่อนเสิร์ฟ ในจาการ์ตาเรียกว่า "กาโ-กาโด
โบโปล" ใช้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์แทนถั่วลิสง "โซโต" เป็นซุปแบบพื้นเมืองในอาหารอินโดนีเซีย ใส่เนื้อและผัก ในบางครั้งจัดเป็นอาหารประจำชาติ มีรับประทานตั้งแต่สุมาตราไปจนถึงปาปัว ดยมีความแตกต่างกันมากมีตั้งแต่ขายข้างถนนไปจนถึงในภัตตาคาร ผุ้อพยพาวชวาได้้นำอาหารชนิดนี้ไปยังสุรินมเมและเรียกว่าเซาโต..(http://www.aeckids.com/ อาหารอินโดนีเซีย)
กีฬาประจำชาติสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้แก่ เคมโป คาราเต้ เป็นกีฬาที่มีรากฐานมาจากประเทศญีปุ่่น ดดยมีสำนักงานใหญ่ของสหพันธ์อยุ่ที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น ได้รับความนิยมในมาเล
เซย, เวียดนาม, ติมอร์และบรูไน โดยในอินโดนีเซียมีคนเล่นกีฬาชนิดนี้กว่า สีแสนคน ซึ่งจะแตกต่่างจากคาราเต้ ดดยจะเป้นการผสมผสานกันระหว่างเทควันโด-ยูโด-คาราเต้ ซึ่งการแต่งตัวก็มีลัษณะคล้ายกันด้วย ส่วนการออกอาวุธจะใช้ทั้งการเตะ ต่อย ทุ่ม บิด ล็อก ตัดสินแพ้ชนะด้วยคะแนน แบ่งการแช่งชขันเป็นรุ่นน้ำหนัก.."ตารุง เดราจัด เป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวของชาวชวาตะวันตก เเป็นกีฒาที่ใช้ทอสอบความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ เป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวที่คนอินโดนีเซียทุกเพศทุกวัยรู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยมีนายอัชหมัด เดดจัต หรือคนที่นี่เรียกว่า "ซาง กูรู" เป็นผุ้คิดค้นศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้ขึ้นมาเมื่อประมาณ 40 ปีก่อน
การแต่งกายของชาวอินโดนีเซีย ผุ้หญิงจะสวมเสื้อ "คะบาบ่า" เสื้อแขนยาว คอแหลม ผ่าหน้าอกเข้ารูปยาวปิดสะโพก ปักฉลุลายลูกไม้เข้ากับผ้าโสร่งที่เป็ฯผ้าพื้นเมืองที่เรยกว่า "ปาเต๊ะ" หรือ "บาติก" โดยมีผ้าคล้องคอยาว และสใมรองเท้าแตะหรือส้นสูงแบบสากล ผู้ชาย จะสวนเสื้อคอปิด สวมหมวกคล้าหมวกหนีบ นุ่งกางเกงขายาว หรือโสร่างสีและลงคลายเข้ากับหมวกสวมรองเท้าแตะหรือรองเท้าหุ้มส้น หากเข้าพิธีสำคัญ จะเหน็บกริชด้วย ซึ่งวิธีการแต่งกายจะแตกต่างกันไปตามแต่ละเกาะ..(http://www.asean-info.com/ อินโดนีเซีน-ศิลปะ/วัฒนธรรม/ประเพณี)
อินโดนีเซียมัีกจะถูกมองข้ามดดยการบดบังของประเทศเพื่อบ้านจำนวนชาวตางชาติมีน้อยแม้แต่ในห้างสรรพสิค้าสุดหรุหรือย่านคนต่างชาติคือสิ่งที่คุณสามาถสังเกตเห็นได้ทันที ดดยเฉพาะหากคุณเดินทางมาแล้วหลายที่ทั่วโลก มันไม่ใช่เรื่องร่าประหลาดใจเพราะจาการ์ต้าไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวมากเท่ากับประเทศเพื่อบ้าน แลที่นี่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของมลภาวะและกาจราจร
แต่หากคุรเป็นหนุ่มโสดที่มองการการปาร์ต้และอาจจะมองหาเพื่อร่วมเส้นทางปาร์ต้ การที่มไ่มีชาวต่างชาติที่นี่จะเป็นผลดีกับคุน ชาวจาการ์ตาโดยเฉพาะสาวๆ นั้นจะต้อนรบคุณอย่างดีแบบทีไม่เคยสัมผัสมาก่อน เหตุผลง่ายๆ เพราะชาวต่างชาติถือเป็นของแปลกสำหรับพวกเธอ สำหรับหนุ่มโสดนั่นหมายคึวามว่าหากคุณเดินเกมส์อย่างถูกต้ง โอกาสที่คุณจะ ท่องราตีอย่างเดียวดายแทบจุไม่มีเลย (และโดยไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าเช่นกัน)
ด้วยจำนวนประชากร 20 ล้านคนทำให้จาการ์ตาเป็นเมืองใหญ่ แต่จริงๆ แล้วไมได้ยากที่จะหาสถานที่ปาตรีที่ดีที่สุดในเมืองนี้ สถารที่ส่วนใหญ่ที่คุณต้องไปเยือนในฐานะหนุมโสดตั้งวอยงุ่ในทางตอนใต้ของเมือง โดยเฉพาะในย่าน โกลเด้น ไทแองเจิล ออฟ เจแปน สุไลมาน, จาลาน กาทอท และจาแลน ราสุนะ หากคุณพักในดรงแรมย่าน พลาซ่า อินโดนีเซียน คุณจะสามารถพบบาร์และคลับที่ดี่ที่สุดได้ในาัศมี 30 นาที
ช่วงหัวค่ำหลายๆ คนอาจจะชอบเร่ิมการท่องราตรีในช่วงดึกมากว่าหัวค่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรี่ติดขัด แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุฯตะไม่สามารถเริ่มต้นตอนหัวค่ำได้ หากคุณกำลังมองหาการดือมเพื่อเริ่มต้นเพียงแก้วสองแก้วก่อนจะปาร์ตี้จริง สถานที่ที่ดีที่สุดคือ Loewy, Bluegrass, Cork and Screw และ Social House อีกทั้งมันยังเป็นที่ที่ยอดเยี่ยมในการพบปะสาวๆ ที่คุณอาจจะได้ออกท่องราตรีด้วยทั้งคืน
บาร์บนดานฟ้า เป็นของขึ้นชื่อของอินโดนีเซียนเช่นกัน และสองที่ที่ทขึ้นชื่อที่สุดได้แก่ จาการ์ตา แอนด์ สกาย และ โคลด เลาจ์ ทั้งสองที่นี้มีดนตรีที่ไพเราะและวิวที่มหัศจรรย์และยังเป็ฯสถานที่สุดเพอร์เฟ็คในการพบปะสาวๆ อีก้วย อีกทั้งยังตั้งอยุ่ใกล้กับ พลาซ่า อินโดนีเซีย
ไนท์คลับ หากดนตรีและการเต้นรำคือส่ิงที่คุฯชื่นชอบ คุณไม่ควรพลาด อิมมิแกรน, กราก้อนฟลายด์หรือ X2ทั้งสามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับชาวต่างชาติการปาร์ตี้ในจาการ์ต้ามีบรรยากาศที่จิดจรัสเสมอ ผุ้คนที่นีเป็นมิตรและคุณจะไม่รุ้สึกเครียดเมื่อพูดคุยกับพวกเขา (http://www.10010688.com/ ปาร์ตี้ไม่เคยเดียวดายที่อินโดนีเซีย)
ขาวอินโดนีเซียนใช้จายเพื่อซื้ออาหารค่อนข้างสูง สัดส่วนประมาณร้อยละ 51 ของรายได้ นิยมออกมารบประทานอาหารนอกบ้านเพื่อเป็นการผ่อนคลาย และใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เนื่องจากมีความเป็นสังคมเมืองเพ่ิมขึ้นจึงมีแนวโน้มเร่ิมหันมานิยมซ้ออาหารสำเร็จรูป อาหารพร้อมปรุง และอาหารพร้อมรับประทานมทาเก็บไว้ที่บ้านแทนการออกไปซื้ออาหารสดทุกวันเช่นเดิน อาหารจำพวกซีเรียลเป้ฯอาหารหลักในชิวิตประจำวันสำหรับทุกกลุ่มรายได้ และคนอินโดนีเซียนชอบรับประทานอาหารรสเผ็ด
เกือบ 90 เปอร์เซ็นของประชากรอินโดนีเซีย นับถือศาสนาอิสลาม คริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ แคทอลิก ฮินดู และพุทธตามลำดับ อินโดนีเซีย เป็นรัฐอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามศาสนาอิสลามในอินโดนีเซียไม่เหมือนกับอิสลามทั่วไปที่พบอยู่ในประเทศอาหรับ หรืออินเดีย ความแตกต่างที่เห็นชัดคือสตรีมุสลิมในอินโดนีเซียไม่ต้องแต่งกายหรือคลุมร่างกายทุกส่วนเหมือนสตรีอาหรับ สำหรับเทศการทางศาสนาอิสลามที่สำคัญได้แก่ รอมฎอน คือ เดือนที่ชาวมุลิมถือศีลอดไม่รับประทานอาหารหรือน้ำ ระหว่างอาทิตย์ขึ้งถึง
อาทิตย์ตก โดยจะรับประทานอาหารได้หลังดวงอาทิตย์ตกดอินไปแล้ว, "วันตรุษอิดุลฟิตริ" หรือ "ฮารีรายา" หรือวันขึ้นปีใหม่ ตรงกับวันแรกของเดือนสิบในปฏิทินมุสลิมและเป็นวันสิ้นสุดของการถือศีลอด โดยจะมีพิธีฉลองใหญ่ 2 วัน 2 คือ, "วันตรุษอิดุลอัฐฮา คืองานเฉลิมฉลองประจำปี ซึ่งตรงกับช่วงการทำพิธีฮัจย์เสร็จสิ้น โดยชาวอินโดนีเซียที่นับถือศาสนาอิสลามจะนิยมทำพิฑีฆ่าสัตว์ใหญ่ เช่น ควาย วัว แพาะ เเกะ เพื่อให้เนื้อสัตคว์แก่คนยากจน, "เทศกาลกาลุงงัน เป็นงานประจำปีของชาวบาหลีเทศกาล 10 วันนี้จัดขึ้นเพื้อฉลองชัยชนะของเทพเจ้าที่มีต้อวิญญาณร้าย และชเื่อว่ัญญาณบรรพบุรุษจะมาร่วมงานเฉลิมแลองนี้ด้วย ทั้งนี้ ในแต่ละปีจะจัดไม่ตรงกัน , "กาซาด้า คืองานประจำปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคมของทุกปี โดยเป็นการบวงสรวงภูเขาไฟไบรโม ทางตะวันออกของเกาะชวา เพื่อมอบสิ่งของต่างๆ ทั้งอาหาร และครื่องใช้ต่างๆ ให้แก่ภูเขาไฟ..(http://www.aseanthai.net/กิจกรรมทางศาสนาในอินโดนีเซีย)
อินโดนีเซียมีวิธีการปรุงอาหารที่น่าสนใจ อาทิ อาหารของชาวบาหลี, เบตาวี หรือปาดัง ซึ่งก็ต้องไปแยกย่อยอีกตามชนชาติที่อาศัยอยุ่ในพื้นที่นั้นๆ แต่โดยหลักแล้วอาหาของประเทศอินโดนีเซียนมีส่วนผสมของเครื่องเทศค่อนข้างมาก และการใช้เครื่องเทศอย่างแพร่หลายในอาหารนี้ ก็มีที่มาจากการค้าขายเครื่องเทศอันเฟื้องฟูในอดีตกับชาวดัชต์นั่นเอง
ส่วนผสมสำคัญอีกย่างของอาหารอินโดนีเซียนก็เห็นจะเป็นพืชและผลไม่พื้อนเมือง ซึ่งโดยมากใช้วิธีการปรุงที่เรียบง่ายเช่น การย่างหรือการผัด ซึ่งไม่มีการเพ่ิมเครื่องปรุงดัดแปลงกลิ่นหรือรสชาติมากนัก จึงทำให้อาหารแต่ละจานยงคงประโยชน์ สีสัน และรูปแบบที่เป้ฯธรรมชาิมากที่สุด ตังอย่าง สไตล์อาหรที่มีขายกันอยางแพร่หลายในอินโดนีเซียนและนักท่องเที่ยวได้รับคำแปนะนำว่าให้ลองชิมรสชาติดูก็คือ โตราจา ฟู้ดส์ ศึ่งเป็นอาหารของชาว โตราจา ซึ่งมักจะปรุงจากหมูและผักนำไปย่างหรือต้มปรุงรสชาติด้วยผลไม้พื้นเมือง ส่วนใหญ่รับประทานคู่กับข้าวสวยและ ราวอน ซึ่งเป็นซุปข้นที่ทำจากผักและหมูเช่นเดี่ยวกัน
อาหารอีประเภทที่น่าสนใจคือ มินิน ริสตาฟเฟล สไตล์ ที่นิยมกันมากในจาร์กาต้า ซึงจัดเนรียงกับข้าวหลากหลายไว้ให้เลือกกินคู้กับข้าวสวย ไข่ต้ม และเนื้อย่าง ดูคล้ายข้าวแกงในเมืองไทย หรือสูตรเฉพาะของร้าน แพค อัน ที่ประสบความสำเร็จบนเกาะ บังก้า ไอแลนด์ ซึ่งจะเสิร์ฟอาหารจานปลาเป็นหลัก ที่มีเมนูซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง lempah ซึ่งเป็นแกงเผ็ดที่ทำจากปลาท้องถ่ินเจ้าของร้านบอกว่าหากมีคอนเมนต์จากลูกค้าเกี่ยวกับรสชาติของอาหาร นันก็หมายถึงวัตถุดิบไม่ดีเท่าที่ควรซึ่งทางร้านก็จะเปลี่ยนจานใหม่ให้ลูกคาฟรีทันที่ เพื่อรักษามาตรฐานของอาหารเอาไว้ เชฟในร้านอาหารชื่อดังหลยแห่งในอินโดนีเซียได้บอกไว้ว่าอาหารของอินโดนีเซียส่วนใหญ่ ส่วนผสมก็แทบจะไม่ต่างกันมากนัก แต่เคล็ดลับของรสชาติว่าแต่อาหารแต่ละจานจะอร่อยหรือไม่นั้นอยู่ที่ความสดของวัตถุดับที่มาจากธรรมชาติซึ่งหาจากที่ไหนไม่ได้ในโลกนี้ และพวกเขาก็กังวลว่าธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้วัตถุดับที่ดีของพวกเขาจะหมดไปด้วย..(http://www.dooddot.com/.. วัฒนธรรมอาหารกับวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติของดินแดนภูเขาไฟประเทศอินโดนีเซีย)
อาหารอินโดนีเซีย "สะเต๊ะ"ซึ่งมีจุดกำเนิดอยู่ที่อินโดนีเซีย เป็ฯอาหารอยางหนคึ่งซึ่งทำจากเนื้อที่หั่นบางๆ หรือหั่นเป็นอ้น อาจจะเป็นเหนื้อหมุ เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ เนื้อปลา ฯลฯ เสียบลดวยไม้เสียบที่ทำจากไม้ไผ่ แล้วนำไปย่างบนเตาฟืนหรือเตาถ่าน เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงรส ที่มีรสจัด (ซึงแตกต่างกันออกไปในแต่ละตำรับ สะเต๊ะมีจุดกำเนิดมาจากเกาะชวาหรือเกาะสุมาตรานประเทศอินโดนีเวยน แต่ก็ยังได้รับวามนิยมในประเทศอื่นๆ ด้วย เช่น มาเลเซียน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศไทย หรือแม้แต่เนเธอร์แลนด์ซึ่งรับเอาวัฒนธรรมไปกับอาณานิคมของตน สะเต๊ะของอินโดนีเซีนอาจได้รับอทะิพลจากคาบับที่เป็นอาหารพื้นเมืองของอินเดียภาคเหนือ ซึ่งด้รับอิทธิพลจากชาวเตอร์กอีกต่อหนึ่ง ตำรับดั้งเดิมของชาวตุรกีเป็นเนื้อแพะหั่นเป็นชินหมักแล้วเสียบเหล็กแหลมย่างไฟ ชาวเปอร์เซียนและชาวอินเดียรับมาดัดแปลง อาจใช้เนื้อบทหรือเนื้องทั้งชิ้น จะเสียบหรือไม่เสียบไม้ก็ได้ เมื่อแพร่หลายมาถึงมลายู ชวา จึงหลายเป็น
สะเต๊ะอย่างในปัจจุบันนี้ "บักโซ" เป็นเนื้อปั้นก้อนแบบอินโดนีเซียมีลักษณะคล้ายลูกชิ้นแบบจีน ปกติทำจากเน้อวัว แต่ก็สามารถทำจากเนื้อชนิดอื่นๆ ได้ เช่น ไก่ ปลากุ้ง อาจเิร์ฟในชาวน้ำซุปกับหมี่เหลือง หมี่หุน ผักดอง เต้าหู้ ไข่ กะหล่ำปลี ถั่วงอก ขนมจีบ เกี๊ยวกรอบ หอมเจียวและเซเลอรี พบได้ทั่วไปที่อินโดนีเซียน บักโซหั่นเป็นชิ้นใช้เป็นส่วนผสมของหม่โกเร็ง นาซีโกเร็ง "นาซีโกเร็ง" เป็นข้าวผัดที่ผัดกับน้ำมันหรือเนยเที่ยม ปรุงรสด้วยซีอิ็วหวาน หอมแดง หระเที่ยม มะขามและ
โบโปล" ใช้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์แทนถั่วลิสง "โซโต" เป็นซุปแบบพื้นเมืองในอาหารอินโดนีเซีย ใส่เนื้อและผัก ในบางครั้งจัดเป็นอาหารประจำชาติ มีรับประทานตั้งแต่สุมาตราไปจนถึงปาปัว ดยมีความแตกต่างกันมากมีตั้งแต่ขายข้างถนนไปจนถึงในภัตตาคาร ผุ้อพยพาวชวาได้้นำอาหารชนิดนี้ไปยังสุรินมเมและเรียกว่าเซาโต..(http://www.aeckids.com/ อาหารอินโดนีเซีย)
กีฬาประจำชาติสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้แก่ เคมโป คาราเต้ เป็นกีฬาที่มีรากฐานมาจากประเทศญีปุ่่น ดดยมีสำนักงานใหญ่ของสหพันธ์อยุ่ที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น ได้รับความนิยมในมาเล
เซย, เวียดนาม, ติมอร์และบรูไน โดยในอินโดนีเซียมีคนเล่นกีฬาชนิดนี้กว่า สีแสนคน ซึ่งจะแตกต่่างจากคาราเต้ ดดยจะเป้นการผสมผสานกันระหว่างเทควันโด-ยูโด-คาราเต้ ซึ่งการแต่งตัวก็มีลัษณะคล้ายกันด้วย ส่วนการออกอาวุธจะใช้ทั้งการเตะ ต่อย ทุ่ม บิด ล็อก ตัดสินแพ้ชนะด้วยคะแนน แบ่งการแช่งชขันเป็นรุ่นน้ำหนัก.."ตารุง เดราจัด เป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวของชาวชวาตะวันตก เเป็นกีฒาที่ใช้ทอสอบความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ เป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวที่คนอินโดนีเซียทุกเพศทุกวัยรู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยมีนายอัชหมัด เดดจัต หรือคนที่นี่เรียกว่า "ซาง กูรู" เป็นผุ้คิดค้นศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้ขึ้นมาเมื่อประมาณ 40 ปีก่อน
การแต่งกายของชาวอินโดนีเซีย ผุ้หญิงจะสวมเสื้อ "คะบาบ่า" เสื้อแขนยาว คอแหลม ผ่าหน้าอกเข้ารูปยาวปิดสะโพก ปักฉลุลายลูกไม้เข้ากับผ้าโสร่งที่เป็ฯผ้าพื้นเมืองที่เรยกว่า "ปาเต๊ะ" หรือ "บาติก" โดยมีผ้าคล้องคอยาว และสใมรองเท้าแตะหรือส้นสูงแบบสากล ผู้ชาย จะสวนเสื้อคอปิด สวมหมวกคล้าหมวกหนีบ นุ่งกางเกงขายาว หรือโสร่างสีและลงคลายเข้ากับหมวกสวมรองเท้าแตะหรือรองเท้าหุ้มส้น หากเข้าพิธีสำคัญ จะเหน็บกริชด้วย ซึ่งวิธีการแต่งกายจะแตกต่างกันไปตามแต่ละเกาะ..(http://www.asean-info.com/ อินโดนีเซีน-ศิลปะ/วัฒนธรรม/ประเพณี)
อินโดนีเซียมัีกจะถูกมองข้ามดดยการบดบังของประเทศเพื่อบ้านจำนวนชาวตางชาติมีน้อยแม้แต่ในห้างสรรพสิค้าสุดหรุหรือย่านคนต่างชาติคือสิ่งที่คุณสามาถสังเกตเห็นได้ทันที ดดยเฉพาะหากคุณเดินทางมาแล้วหลายที่ทั่วโลก มันไม่ใช่เรื่องร่าประหลาดใจเพราะจาการ์ต้าไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวมากเท่ากับประเทศเพื่อบ้าน แลที่นี่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของมลภาวะและกาจราจร
แต่หากคุรเป็นหนุ่มโสดที่มองการการปาร์ต้และอาจจะมองหาเพื่อร่วมเส้นทางปาร์ต้ การที่มไ่มีชาวต่างชาติที่นี่จะเป็นผลดีกับคุน ชาวจาการ์ตาโดยเฉพาะสาวๆ นั้นจะต้อนรบคุณอย่างดีแบบทีไม่เคยสัมผัสมาก่อน เหตุผลง่ายๆ เพราะชาวต่างชาติถือเป็นของแปลกสำหรับพวกเธอ สำหรับหนุ่มโสดนั่นหมายคึวามว่าหากคุณเดินเกมส์อย่างถูกต้ง โอกาสที่คุณจะ ท่องราตีอย่างเดียวดายแทบจุไม่มีเลย (และโดยไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าเช่นกัน)
ด้วยจำนวนประชากร 20 ล้านคนทำให้จาการ์ตาเป็นเมืองใหญ่ แต่จริงๆ แล้วไมได้ยากที่จะหาสถานที่ปาตรีที่ดีที่สุดในเมืองนี้ สถารที่ส่วนใหญ่ที่คุณต้องไปเยือนในฐานะหนุมโสดตั้งวอยงุ่ในทางตอนใต้ของเมือง โดยเฉพาะในย่าน โกลเด้น ไทแองเจิล ออฟ เจแปน สุไลมาน, จาลาน กาทอท และจาแลน ราสุนะ หากคุณพักในดรงแรมย่าน พลาซ่า อินโดนีเซียน คุณจะสามารถพบบาร์และคลับที่ดี่ที่สุดได้ในาัศมี 30 นาที
ช่วงหัวค่ำหลายๆ คนอาจจะชอบเร่ิมการท่องราตรีในช่วงดึกมากว่าหัวค่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรี่ติดขัด แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุฯตะไม่สามารถเริ่มต้นตอนหัวค่ำได้ หากคุณกำลังมองหาการดือมเพื่อเริ่มต้นเพียงแก้วสองแก้วก่อนจะปาร์ตี้จริง สถานที่ที่ดีที่สุดคือ Loewy, Bluegrass, Cork and Screw และ Social House อีกทั้งมันยังเป็นที่ที่ยอดเยี่ยมในการพบปะสาวๆ ที่คุณอาจจะได้ออกท่องราตรีด้วยทั้งคืน
บาร์บนดานฟ้า เป็นของขึ้นชื่อของอินโดนีเซียนเช่นกัน และสองที่ที่ทขึ้นชื่อที่สุดได้แก่ จาการ์ตา แอนด์ สกาย และ โคลด เลาจ์ ทั้งสองที่นี้มีดนตรีที่ไพเราะและวิวที่มหัศจรรย์และยังเป็ฯสถานที่สุดเพอร์เฟ็คในการพบปะสาวๆ อีก้วย อีกทั้งยังตั้งอยุ่ใกล้กับ พลาซ่า อินโดนีเซีย
ไนท์คลับ หากดนตรีและการเต้นรำคือส่ิงที่คุฯชื่นชอบ คุณไม่ควรพลาด อิมมิแกรน, กราก้อนฟลายด์หรือ X2ทั้งสามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับชาวต่างชาติการปาร์ตี้ในจาการ์ต้ามีบรรยากาศที่จิดจรัสเสมอ ผุ้คนที่นีเป็นมิตรและคุณจะไม่รุ้สึกเครียดเมื่อพูดคุยกับพวกเขา (http://www.10010688.com/ ปาร์ตี้ไม่เคยเดียวดายที่อินโดนีเซีย)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Official vote counting...(3)
แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป รองป...
-
องค์ประกอบของโยนิโสมนสิการ ลักษณะการคิดแบบโยนิโสมนสิการมี 10 ประการ สรุปได้ดังนี้ครับ สืบสาวเหตุปัจจัย แยกแยะส่วนประกอบ สามัญลักษณ...
-
อาจกล่าวได้ว่า สงครามครูเสดเป็นความพยายามครั้งรแกๆ ของยุโรป และเป้นสำเร็จโดยรวมในความพยายามที่จะค้นหาตัวเองภายใต้วัฒนธรรมท่เป็...
-
วรรณกรรมในสมัยยุโรปกลาง จะแต่งเป็นภาษาละติน แบ่งเป็นวรรณกรรมทางศาสนา และ วรรณกรรมทางโลก วรรณกรรมทางศาสนา...