LifeStyle ASEAN (Indonesia)

          ชาวอินโดนีเซียมีความเลื่อมล้ำทางเศราฐกิจสูง มีช่องว่างเรื่องรายได้  คนมีรายได้น้อยมีอยุ่จำนวนมาก     ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงยังอ่อนไหวกับราคาสินค้า ไม่ค่อยนอยมสินค้าราคาแพง ในกลุามผุ้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไปนิยมบริโภคสินค้านำเข้าจากต่างประเทศทั้งสินค้านำเข้าจากเเอเซียและจากประเทศตะวันตก มีแนวโน้มใส่ใจกับการดุแลสุขภาพเพิ่มขึ้น
          ขาวอินโดนีเซียนใช้จายเพื่อซื้ออาหารค่อนข้างสูง สัดส่วนประมาณร้อยละ 51 ของรายได้ นิยมออกมารบประทานอาหารนอกบ้านเพื่อเป็นการผ่อนคลาย และใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เนื่องจากมีความเป็นสังคมเมืองเพ่ิมขึ้นจึงมีแนวโน้มเร่ิมหันมานิยมซ้ออาหารสำเร็จรูป อาหารพร้อมปรุง และอาหารพร้อมรับประทานมทาเก็บไว้ที่บ้านแทนการออกไปซื้ออาหารสดทุกวันเช่นเดิน อาหารจำพวกซีเรียลเป้ฯอาหารหลักในชิวิตประจำวันสำหรับทุกกลุ่มรายได้ และคนอินโดนีเซียนชอบรับประทานอาหารรสเผ็ด              
เกือบ 90 เปอร์เซ็นของประชากรอินโดนีเซีย นับถือศาสนาอิสลาม คริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ แคทอลิก ฮินดู และพุทธตามลำดับ อินโดนีเซีย เป็นรัฐอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามศาสนาอิสลามในอินโดนีเซียไม่เหมือนกับอิสลามทั่วไปที่พบอยู่ในประเทศอาหรับ หรืออินเดีย ความแตกต่างที่เห็นชัดคือสตรีมุสลิมในอินโดนีเซียไม่ต้องแต่งกายหรือคลุมร่างกายทุกส่วนเหมือนสตรีอาหรับ สำหรับเทศการทางศาสนาอิสลามที่สำคัญได้แก่ รอมฎอน คือ เดือนที่ชาวมุลิมถือศีลอดไม่รับประทานอาหารหรือน้ำ ระหว่างอาทิตย์ขึ้งถึง
อาทิตย์ตก โดยจะรับประทานอาหารได้หลังดวงอาทิตย์ตกดอินไปแล้ว, "วันตรุษอิดุลฟิตริ" หรือ "ฮารีรายา" หรือวันขึ้นปีใหม่ ตรงกับวันแรกของเดือนสิบในปฏิทินมุสลิมและเป็นวันสิ้นสุดของการถือศีลอด โดยจะมีพิธีฉลองใหญ่ 2 วัน 2 คือ, "วันตรุษอิดุลอัฐฮา คืองานเฉลิมฉลองประจำปี ซึ่งตรงกับช่วงการทำพิธีฮัจย์เสร็จสิ้น โดยชาวอินโดนีเซียที่นับถือศาสนาอิสลามจะนิยมทำพิฑีฆ่าสัตว์ใหญ่ เช่น ควาย วัว แพาะ เเกะ  เพื่อให้เนื้อสัตคว์แก่คนยากจน, "เทศกาลกาลุงงัน เป็นงานประจำปีของชาวบาหลีเทศกาล 10 วันนี้จัดขึ้นเพื้อฉลองชัยชนะของเทพเจ้าที่มีต้อวิญญาณร้าย และชเื่อว่ัญญาณบรรพบุรุษจะมาร่วมงานเฉลิมแลองนี้ด้วย ทั้งนี้ ในแต่ละปีจะจัดไม่ตรงกัน , "กาซาด้า คืองานประจำปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคมของทุกปี โดยเป็นการบวงสรวงภูเขาไฟไบรโม ทางตะวันออกของเกาะชวา เพื่อมอบสิ่งของต่างๆ ทั้งอาหาร และครื่องใช้ต่างๆ ให้แก่ภูเขาไฟ..(http://www.aseanthai.net/กิจกรรมทางศาสนาในอินโดนีเซีย)
           
อินโดนีเซียมีวิธีการปรุงอาหารที่น่าสนใจ อาทิ อาหารของชาวบาหลี, เบตาวี หรือปาดัง ซึ่งก็ต้องไปแยกย่อยอีกตามชนชาติที่อาศัยอยุ่ในพื้นที่นั้นๆ แต่โดยหลักแล้วอาหาของประเทศอินโดนีเซียนมีส่วนผสมของเครื่องเทศค่อนข้างมาก และการใช้เครื่องเทศอย่างแพร่หลายในอาหารนี้ ก็มีที่มาจากการค้าขายเครื่องเทศอันเฟื้องฟูในอดีตกับชาวดัชต์นั่นเอง
            ส่วนผสมสำคัญอีกย่างของอาหารอินโดนีเซียนก็เห็นจะเป็นพืชและผลไม่พื้อนเมือง ซึ่งโดยมากใช้วิธีการปรุงที่เรียบง่ายเช่น การย่างหรือการผัด ซึ่งไม่มีการเพ่ิมเครื่องปรุงดัดแปลงกลิ่นหรือรสชาติมากนัก จึงทำให้อาหารแต่ละจานยงคงประโยชน์ สีสัน  และรูปแบบที่เป้ฯธรรมชาิมากที่สุด ตังอย่าง สไตล์อาหรที่มีขายกันอยางแพร่หลายในอินโดนีเซียนและนักท่องเที่ยวได้รับคำแปนะนำว่าให้ลองชิมรสชาติดูก็คือ โตราจา ฟู้ดส์ ศึ่งเป็นอาหารของชาว โตราจา ซึ่งมักจะปรุงจากหมูและผักนำไปย่างหรือต้มปรุงรสชาติด้วยผลไม้พื้นเมือง ส่วนใหญ่รับประทานคู่กับข้าวสวยและ ราวอน ซึ่งเป็นซุปข้นที่ทำจากผักและหมูเช่นเดี่ยวกัน
           อาหารอีประเภทที่น่าสนใจคือ มินิน ริสตาฟเฟล สไตล์ ที่นิยมกันมากในจาร์กาต้า ซึงจัดเนรียงกับข้าวหลากหลายไว้ให้เลือกกินคู้กับข้าวสวย ไข่ต้ม และเนื้อย่าง ดูคล้ายข้าวแกงในเมืองไทย หรือสูตรเฉพาะของร้าน แพค อัน ที่ประสบความสำเร็จบนเกาะ บังก้า ไอแลนด์ ซึ่งจะเสิร์ฟอาหารจานปลาเป็นหลัก ที่มีเมนูซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง  lempah ซึ่งเป็นแกงเผ็ดที่ทำจากปลาท้องถ่ินเจ้าของร้านบอกว่าหากมีคอนเมนต์จากลูกค้าเกี่ยวกับรสชาติของอาหาร นันก็หมายถึงวัตถุดิบไม่ดีเท่าที่ควรซึ่งทางร้านก็จะเปลี่ยนจานใหม่ให้ลูกคาฟรีทันที่ เพื่อรักษามาตรฐานของอาหารเอาไว้ เชฟในร้านอาหารชื่อดังหลยแห่งในอินโดนีเซียได้บอกไว้ว่าอาหารของอินโดนีเซียส่วนใหญ่ ส่วนผสมก็แทบจะไม่ต่างกันมากนัก แต่เคล็ดลับของรสชาติว่าแต่อาหารแต่ละจานจะอร่อยหรือไม่นั้นอยู่ที่ความสดของวัตถุดับที่มาจากธรรมชาติซึ่งหาจากที่ไหนไม่ได้ในโลกนี้ และพวกเขาก็กังวลว่าธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้วัตถุดับที่ดีของพวกเขาจะหมดไปด้วย..(http://www.dooddot.com/.. วัฒนธรรมอาหารกับวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติของดินแดนภูเขาไฟประเทศอินโดนีเซีย)
         
อาหารอินโดนีเซีย  "สะเต๊ะ"ซึ่งมีจุดกำเนิดอยู่ที่อินโดนีเซีย เป็ฯอาหารอยางหนคึ่งซึ่งทำจากเนื้อที่หั่นบางๆ หรือหั่นเป็นอ้น อาจจะเป็นเหนื้อหมุ เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ เนื้อปลา ฯลฯ เสียบลดวยไม้เสียบที่ทำจากไม้ไผ่ แล้วนำไปย่างบนเตาฟืนหรือเตาถ่าน เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงรส ที่มีรสจัด (ซึงแตกต่างกันออกไปในแต่ละตำรับ สะเต๊ะมีจุดกำเนิดมาจากเกาะชวาหรือเกาะสุมาตรานประเทศอินโดนีเวยน แต่ก็ยังได้รับวามนิยมในประเทศอื่นๆ ด้วย เช่น มาเลเซียน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศไทย หรือแม้แต่เนเธอร์แลนด์ซึ่งรับเอาวัฒนธรรมไปกับอาณานิคมของตน สะเต๊ะของอินโดนีเซีนอาจได้รับอทะิพลจากคาบับที่เป็นอาหารพื้นเมืองของอินเดียภาคเหนือ ซึ่งด้รับอิทธิพลจากชาวเตอร์กอีกต่อหนึ่ง ตำรับดั้งเดิมของชาวตุรกีเป็นเนื้อแพะหั่นเป็นชินหมักแล้วเสียบเหล็กแหลมย่างไฟ ชาวเปอร์เซียนและชาวอินเดียรับมาดัดแปลง อาจใช้เนื้อบทหรือเนื้องทั้งชิ้น จะเสียบหรือไม่เสียบไม้ก็ได้ เมื่อแพร่หลายมาถึงมลายู ชวา จึงหลายเป็น
สะเต๊ะอย่างในปัจจุบันนี้ "บักโซ" เป็นเนื้อปั้นก้อนแบบอินโดนีเซียมีลักษณะคล้ายลูกชิ้นแบบจีน ปกติทำจากเน้อวัว แต่ก็สามารถทำจากเนื้อชนิดอื่นๆ ได้ เช่น ไก่ ปลากุ้ง อาจเิร์ฟในชาวน้ำซุปกับหมี่เหลือง หมี่หุน ผักดอง เต้าหู้ ไข่ กะหล่ำปลี ถั่วงอก ขนมจีบ เกี๊ยวกรอบ หอมเจียวและเซเลอรี พบได้ทั่วไปที่อินโดนีเซียน บักโซหั่นเป็นชิ้นใช้เป็นส่วนผสมของหม่โกเร็ง นาซีโกเร็ง "นาซีโกเร็ง" เป็นข้าวผัดที่ผัดกับน้ำมันหรือเนยเที่ยม ปรุงรสด้วยซีอิ็วหวาน หอมแดง หระเที่ยม มะขามและ
พริกอาจมีส่วนปสมอืนได้วย เช่น ไข่ ไก่ กุ้ง "กาโดกาโด" หรือโลเต็ก เป็นอาหารยอดนิยมของประเทศอินโดนีเซีย ประกอบด้วยผัก ทั้งผักสด ผักต้มและผักลวก และธัญพืชหลายชนิด ราดด้วยซอสที่ทำจากถั่ว ทั้งแคร์รอต มันฝรั่ง กะหล่ำปลี ถั่วเขียว ถั่วฝักยาว ขนุนอ่อน ผักกาดหอม นอกจากนี้ยังมีเต้าหู้ และไข่ต้าสุก และกินกับข้าวเกรียบทอดหลายชนิด เช่น กรูปุก์ ซึ่งเป็นข้าวเกรียบกุ้งหรือปลา เอิมปิง เป็นขช้าวเกรียบใส่เมล็ของผักเหมียง หรือจะกินกับเต็มเปทอด หรือข้าต้มแบบลตงก็ได้ รับประทานกับซอสถั่วที่คล้ายกับซอสะเต๊ะ ซึ่งประกอบด้วย กะปิ ถัวลิสงบด กะทิ น้ำตาลโตนด พริกแดง กระเที่ยวม กะทิ มะขามเปียก คำว่ากาโดนี้ ภาษาอินโดนีเซียหมายถึงยำ กาโด-กาโด มีความหลากหลายในแต่ละท้องที่ ในซุราบายาเรียว่า "กาโด-กาโดซีรัมไ ซึ่งจะราดน้ำซอสลงไปบนเครื่องปรุงอื่น ในบันดุงและโบกอร์ จะเคล้าน้ำซอสให้เข้ากับเครืองปรุงก่อนเสิร์ฟ ในจาการ์ตาเรียกว่า "กาโ-กาโด
โบโปล" ใช้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์แทนถั่วลิสง "โซโต" เป็นซุปแบบพื้นเมืองในอาหารอินโดนีเซีย ใส่เนื้อและผัก ในบางครั้งจัดเป็นอาหารประจำชาติ มีรับประทานตั้งแต่สุมาตราไปจนถึงปาปัว ดยมีความแตกต่างกันมากมีตั้งแต่ขายข้างถนนไปจนถึงในภัตตาคาร ผุ้อพยพาวชวาได้้นำอาหารชนิดนี้ไปยังสุรินมเมและเรียกว่าเซาโต..(http://www.aeckids.com/ อาหารอินโดนีเซีย)
              กีฬาประจำชาติสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้แก่ เคมโป คาราเต้ เป็นกีฬาที่มีรากฐานมาจากประเทศญีปุ่่น ดดยมีสำนักงานใหญ่ของสหพันธ์อยุ่ที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น ได้รับความนิยมในมาเล
เซย, เวียดนาม, ติมอร์และบรูไน โดยในอินโดนีเซียมีคนเล่นกีฬาชนิดนี้กว่า สีแสนคน ซึ่งจะแตกต่่างจากคาราเต้ ดดยจะเป้นการผสมผสานกันระหว่างเทควันโด-ยูโด-คาราเต้ ซึ่งการแต่งตัวก็มีลัษณะคล้ายกันด้วย ส่วนการออกอาวุธจะใช้ทั้งการเตะ ต่อย ทุ่ม บิด ล็อก ตัดสินแพ้ชนะด้วยคะแนน แบ่งการแช่งชขันเป็นรุ่นน้ำหนัก.."ตารุง เดราจัด เป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวของชาวชวาตะวันตก เเป็นกีฒาที่ใช้ทอสอบความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ เป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวที่คนอินโดนีเซียทุกเพศทุกวัยรู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยมีนายอัชหมัด เดดจัต หรือคนที่นี่เรียกว่า "ซาง กูรู" เป็นผุ้คิดค้นศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้ขึ้นมาเมื่อประมาณ 40 ปีก่อน
              การแต่งกายของชาวอินโดนีเซีย ผุ้หญิงจะสวมเสื้อ "คะบาบ่า" เสื้อแขนยาว คอแหลม ผ่าหน้าอกเข้ารูปยาวปิดสะโพก ปักฉลุลายลูกไม้เข้ากับผ้าโสร่งที่เป็ฯผ้าพื้นเมืองที่เรยกว่า "ปาเต๊ะ" หรือ "บาติก" โดยมีผ้าคล้องคอยาว และสใมรองเท้าแตะหรือส้นสูงแบบสากล ผู้ชาย จะสวนเสื้อคอปิด สวมหมวกคล้าหมวกหนีบ นุ่งกางเกงขายาว หรือโสร่างสีและลงคลายเข้ากับหมวกสวมรองเท้าแตะหรือรองเท้าหุ้มส้น หากเข้าพิธีสำคัญ จะเหน็บกริชด้วย ซึ่งวิธีการแต่งกายจะแตกต่างกันไปตามแต่ละเกาะ..(http://www.asean-info.com/ อินโดนีเซีน-ศิลปะ/วัฒนธรรม/ประเพณี)
              อินโดนีเซียมัีกจะถูกมองข้ามดดยการบดบังของประเทศเพื่อบ้านจำนวนชาวตางชาติมีน้อยแม้แต่ในห้างสรรพสิค้าสุดหรุหรือย่านคนต่างชาติคือสิ่งที่คุณสามาถสังเกตเห็นได้ทันที ดดยเฉพาะหากคุณเดินทางมาแล้วหลายที่ทั่วโลก มันไม่ใช่เรื่องร่าประหลาดใจเพราะจาการ์ต้าไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวมากเท่ากับประเทศเพื่อบ้าน แลที่นี่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของมลภาวะและกาจราจร
               แต่หากคุรเป็นหนุ่มโสดที่มองการการปาร์ต้และอาจจะมองหาเพื่อร่วมเส้นทางปาร์ต้ การที่มไ่มีชาวต่างชาติที่นี่จะเป็นผลดีกับคุน ชาวจาการ์ตาโดยเฉพาะสาวๆ นั้นจะต้อนรบคุณอย่างดีแบบทีไม่เคยสัมผัสมาก่อน เหตุผลง่ายๆ เพราะชาวต่างชาติถือเป็นของแปลกสำหรับพวกเธอ สำหรับหนุ่มโสดนั่นหมายคึวามว่าหากคุณเดินเกมส์อย่างถูกต้ง โอกาสที่คุณจะ ท่องราตีอย่างเดียวดายแทบจุไม่มีเลย (และโดยไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าเช่นกัน)
           
  ด้วยจำนวนประชากร 20 ล้านคนทำให้จาการ์ตาเป็นเมืองใหญ่ แต่จริงๆ แล้วไมได้ยากที่จะหาสถานที่ปาตรีที่ดีที่สุดในเมืองนี้ สถารที่ส่วนใหญ่ที่คุณต้องไปเยือนในฐานะหนุมโสดตั้งวอยงุ่ในทางตอนใต้ของเมือง โดยเฉพาะในย่าน โกลเด้น ไทแองเจิล ออฟ เจแปน สุไลมาน, จาลาน กาทอท และจาแลน ราสุนะ หากคุณพักในดรงแรมย่าน พลาซ่า อินโดนีเซียน คุณจะสามารถพบบาร์และคลับที่ดี่ที่สุดได้ในาัศมี 30 นาที
             ช่วงหัวค่ำหลายๆ คนอาจจะชอบเร่ิมการท่องราตรีในช่วงดึกมากว่าหัวค่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรี่ติดขัด แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุฯตะไม่สามารถเริ่มต้นตอนหัวค่ำได้ หากคุณกำลังมองหาการดือมเพื่อเริ่มต้นเพียงแก้วสองแก้วก่อนจะปาร์ตี้จริง สถานที่ที่ดีที่สุดคือ Loewy, Bluegrass, Cork and Screw และ Social House อีกทั้งมันยังเป็นที่ที่ยอดเยี่ยมในการพบปะสาวๆ ที่คุณอาจจะได้ออกท่องราตรีด้วยทั้งคืน
            บาร์บนดานฟ้า เป็นของขึ้นชื่อของอินโดนีเซียนเช่นกัน และสองที่ที่ทขึ้นชื่อที่สุดได้แก่ จาการ์ตา แอนด์ สกาย และ โคลด เลาจ์ ทั้งสองที่นี้มีดนตรีที่ไพเราะและวิวที่มหัศจรรย์และยังเป็ฯสถานที่สุดเพอร์เฟ็คในการพบปะสาวๆ อีก้วย อีกทั้งยังตั้งอยุ่ใกล้กับ พลาซ่า อินโดนีเซีย
             ไนท์คลับ หากดนตรีและการเต้นรำคือส่ิงที่คุฯชื่นชอบ คุณไม่ควรพลาด อิมมิแกรน, กราก้อนฟลายด์หรือ X2ทั้งสามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับชาวต่างชาติการปาร์ตี้ในจาการ์ต้ามีบรรยากาศที่จิดจรัสเสมอ ผุ้คนที่นีเป็นมิตรและคุณจะไม่รุ้สึกเครียดเมื่อพูดคุยกับพวกเขา (http://www.10010688.com/ ปาร์ตี้ไม่เคยเดียวดายที่อินโดนีเซีย)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)