ยอมรับว่าเป็นองค์กรผู้ก่อการร้าย ก่อตั้งในปี 1988 โดย อุซามะฮ์ บิน ลาดิน อับดุลลาห์ อัซซัม และทหารอาสาสมัครชาวอาหรับอีกหลายคนในช่วงสงครามโซเวียต-อาฟกานิสถาน
ภายหลังการรุกรานอัฟกานิสถาน โดยโซเวียตในปี 1979 ชาวอาหรับจากต่างประเทศบริหารในชื่อมุญาฮิดี ได้รับการสนับสนุนทางการเงินโดย บิน ลาดินและการบริจาคของชาวมุสลิม สหรัฐมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของสงครามเย็น หน่วยสืบราชการลับสหรัฐให้การช่วยเหลือองค์กรผ่านทางปากีสถาน อัลกออิดะฮ์ พัฒนาจากกลุ่ม มากแทบ อัล คัลดามัท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมุญาฮิดีน สมาชิกส่วนใหญ่เป็นทหารชาวปาเลสไตน์ และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐเช่นเดียวกับมุญาฮิดีนและกลุ่มอื่นๆ การสู้รบดำเนินเป็นเวลา 9 ปี สหภาพเวียตจึงถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานในปี 1989 รัฐบาลสังคมนิยมขถูกมุญาฮิดีนล้มล้าง แต่เนื่องจากผุ้ำกลุ่มมุญาฮิดีนไม่สามารถตกลงกันได้ ความวุนวานจากการแย่งชิงอำนาจจึงตามมา
หลังจากสงครามนักรบมุจาฮีดนบางกลุ่มต้องการขยายการสู้รบออกไปทั่วโลกในนามนักรบอิสลาม เช่นความขัดแย้งในอิสราเอล และแคชเมียร์ และอัลกออิดะฮ์ก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อสงครามอัฟกันจบลง บินลาดิน เดินทางกลับสู่ซาอุดิอาระเบีย เมื่อเกิดการรุกรานคูเวตของอิรัก บิน ลาดิน ได้เสนอให้ใช้นักรบมุญาฮิดีนของเขาร่วมมือกับกษัตริย์ฟาฮัต เพื่อปกป้องซาอุดิอาระเบีย แต่ราชวงศืปฏิเสธและไปให้ความร่วมมือกับสหรัฐดดยอนุญาตให้ตั้งฐานทัพในซาอุดิอาระเบีย บิน ลาดินไม่พอใจ เขาไม่ต้องการให้มีกองทหารต่างชาติในดินแดนศักดิ์สิทธิของศาสนาอิสลาม ( เมกกะ และ เมดินา) การที่เขาออกมาต่อต้านส่งผลให้เขาถูกบีบให้ไปซูดานและุถูกถอนสัญชาตซาอุดิอาระเบีย
ซูดาน ปี 1991แนวร่วมอิสลามแห่งชาติซูดาน ขึ้นมามีอำนาจและเชิญกลุ่มอัลกออิดะฮ์ให้ย้ายเขามาในประเทศ เขาช่วยในการพัฒนาซูดาน .ปี 1996 และถูกสหรัฐสร้างแรงกดดันเขาจึงย้ายกลุ่มอัลกออิดะฮ์ไปต้งมั่นในเมืองจะลลาบาต อัฟกานิถาน
บอสเนีย การประกาศเอกราชของ บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ออกจากยูโกสลาเวีย ในปี 1991 ทำให้เกิดความขัดแย้งทางเชื้อชาติศาสนาแห่งใหม่ในยุโรป บอสเนีย คนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมแต่มีชาวเซิร์บ ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายกรีกออร์ทอดอกซ์ และชาว โครแอต นับถือศาสนาคริสต์ นิกายดรมันคาทอลิก ทำให้เกิดความขัดแย้งเป็นสามเส้า โดยเซอร์เบีย และโครเอเซียหนุนหลังชาวเซิร์บและชาวโครแอตที่มีเชื้อชาติเดียวกันตามลำดับ เหลานักรบอาหรับในอัฟกานิสถานเห็นว่าสงครามในบอสเนียเป็นโอกาสที่จะปกป้องศาสนาอิสลาม ทำให้กลุ่มต่างๆ รวมทั้งอัลกออิดะฮ์เข้าร่วมในสงคราม ตั้งเป็นกลุ่มมุญาฮีดินบอสเนีย โดยนักรบส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับไม่ใช่ชาวบอสเนีย
การลงนามในข้อตกลงวอชิงตัน มีนาคม 1994 ทำให้สงครามสิ้นสุดลง กลุ่มมุจาฮิดินยังคงสุ้รบกับชาวเซิร์บต่อไป จนกระทั้งบันทึกสันติภาพเดย์ตัสในเดือนพฤศจิกายน 1995 ทำให้สงครามสิ้นสุด นักรบต่างๆ ถูกบีบให้ออกนอกประเทศ ผุ้ที่แต่งงานกับชาวบอสเนียหรือไม่มีที่ให้กลับ จะได้รับสัญชาติบอสเนียและอนุญาตให้อยุ่ต่อได้
ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถาน หลังจากโซเวียตถอนตัว อัฟกานิสถานอยู่ในสภาพวุ่นวายถึง 7 ปี จากการสุ้รบของกลุ่มที่เคยเป็นพันธมิตร ในช่วงปี 1992 มีกลุ่มเกิดขึ้นใหม่คือกลุ่มตาลีบัน แปลตรงตัวปว่า นักเรียน เป็นปลุ่มเยาวชนที่เกิดในอัฟกานิสถานยุึคสงครามได้รับการศึกษาในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม ในเมือง ดันดะฮาร์ หรือ ค่ายผู้อพยพตามแนวชายแดนปากีสถาน-อัฟกานิสถาน
ตาลีบัน แปลวา นักเรียน หรือผู้แสวงหา เรียกตนเองว่า เอมิตส์อิสลามแห่งอัฟากนิสถาน เป็นขบวนการทางศาสนาทางการเมืองของอิสลามมิสต์ดิปันดี และองค์กรทางทหารในอัฟกานิสถาน ซึ่งหลายรัฐบาลและองค์กรต่างๆ ยังมองว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้าย เป็นหนึ่งในสองหน่วนานที่กล่าวอ้างว่่าเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายของอัฟานิสถาน ควบคู่ไปกับสาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ในขณะที่ ตาลีบันมีเพียง ปากีสภาน ซาอุดิอารเบีย และสหรัฐอาหลับเอมิรตส์ตั้งแต่ปี 1996 -2001 ตาลีบันเข้ายึดอำนาจสามในสี่ของอัฟกานิสถาน และบังคับใช้กฎ๓กมายชารีอะฮ์ หรือกฎหมายอิสลามอย่างเคร่งครัด ตาลีบันเป็นกลุ่มที่เกิดในช่วงสงครามกลางเมืองอัฟการนสสถาน สวนใหญ่ประกอบด้วยนักเรียน(ตาลิบ) จารกพื้นที่ ปัชตุน ทางตะวันออกและทางใต้ของอัฟกานิสถาน ที่ได้เข้าศึกาาในดรงเรียนอิสลามแบบดั้งเดิม และต่อสู้ในช่วงสงครามโซเวียต-อัฟกานิสถาน ภายใต้การนำของมุฮัมมัด อุมใัร และแผ่ขยรยไปทั่้วอัฟกานิสถาน อำนาจชองกลุ่มขุนศึกมุจาฮีดิจึงต้องจบลง
ผู้นำ 5 คนของตาลีบันจบการศึกษาจากดรงเรียนสอนศาสนาอิสลามใกล้กับเมือง"เปศวาร์"ในปากรีสภาน ผุ้เข้าเรียนส่วนใหญ่เป็นผุ้อพยพจากปากีสถาน โรงเรียนแห่งนี้สอนศสนาตามลัทธิซาลาฟีย์ และได้รับการสนับสนุนจากชาวอาหรับโดยเฉพาะ บิน ลาดิน ชาวอาหรับในอัฟกานิสถานและตาีบีนมีความเีก่ยวพันกันมาก หลังจากโซเวียตถอนตัวออกไป ตาลีบันมีอิทธิพลขึ้นในอัฟกานิสถาน
หลังจากซูดานได้บีบให้บิน ลาดินและกลุ่มของเขาออกนอกประเทศ เป็นเวลาเดียวกับที่ตาลีบบันมีอำนาจในอัฟกานิสถาน บิน ลาดินจึงเข้าไปตั้งมั่นในเขตจะลาลาบาต ซึ่งมีเพียง 3 ประเทศที่กล่าวแล้วยอมรับการเป็นรัฐบาลอัฟการนิสถานของตาลีบัน บิน ลาดินจัดตั้งค่ายฝึกรักรบมุสลิมจากทั่วโลก กระทั้งรฐบาลตาลีบันถูกชับไล่โดยกองกำลังผสม+ภายในประเทศร่วมกับกองทัพสหรัฐในปี 2001 หลังจากนั้นเชื่อกันว่า บิน ลาดิน ยังคงพำนักกับกลุ่มตาลีบันในบริเวณชายแดนปากีสถาน
ปฏิบัติการ ปี 1993 ผุ้นำคนหนึงของอัลกออิดะฮ์ ใช้การวางระเบิดในรถยนต์ โจมตีตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนิวยอร์ก แต่ไม่สำเร็จ และถูกจับในปากีสถาน แต่ก็เป็นแรงบันตาลใจให้กลุ่มของ บิน ลาดิน ทำสำเร็จ ในเหตุการณ์ 9/11
อัลกอดิอะฮ์เร่ิมสงครามครูเสดใน ปี 1996 เพื่อขับไล่กองทหารต่างชาติออกจากดินแดนอิสลามโดยต่อต้านสหรัฐและพันธมิตร 23 กุมภาพันธ์ 1998 บินลาดิน และผุ้นำกลุ่มญิฮาดอิยิปต์และผุ้นำศาสนาอิสลามอีกสามคน ร่วมลงนาม ใน "ฟัตวาห์" หรือคำตัดสินภายใต้ชื่อ แนวร่วมอิสลามโลกเพื่อญิฮาดต่อต้านยิวและครูเสด โดยประกาศว่าเป็นหน้าที่ของชาวมุสลิมทุกประเทศในการสังหารชาวสหรัฐและพันธมิตรทั้งทหารและพลเรือนเพื่อปลดปล่อย "มัสยิตอัลอักซา" ในเยรูซาเลม และมัสยิตศักดิ์สิทธิในเมกกะ หลังจากนั้นได้เกิดการวางระเบิดสถานทูตสหรัฐในแอฟริกาตะวันออกภายในปีเดียวกัน มีผุ้เสียชีวิต กว่า 300 คน ตุลาปี 2000 เกิดระเบิดพลีชีพในกองทัพเรือสหรัฐในเยเมน
9/11/2001 การก่อวินาศกรรม ครั้งนี้ทำให้สกรัฐและเนโทออกมาต่อต้านอัลกออิดะฮ์ และผัตวาห์ปี 1998 การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นวินาศภัยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ผุ้เสียชีวิตกวา 3,000 คน รวามทั้งความเสียหายจากการพังทลายของตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และตึกเพนตากกอนถูกทำลายบางส่วน หลังจากนั้นสหรัฐ มีปฏิบัติการทางการทหารโต้ตอบเรียกร้องให้ มุลลาร์ โอมาร์ ผุ้นำตาลีบันส่งตัว บิน ลาดินมาให้ แต่ตาลีบนเลื่อกที่จะส่งตัว บิน ลาดินให้ประเทศที่เป็นกลาง สหรัฐจึงส่งกองทัพอากาศทิ้งระเบิดทะลายที่มัี่นที่เชื่อว่าเป็นแหล่งกบดานของ อัลกอดิอะฮ์ และส่งปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดินร่วมกับพันธมิตรฝ่ายเหนือเพื่อล้มล้างรัฐบาลตาลีบัน..
อิรัก บินลาดิน เริใสนใจอิรักตั้งแต่สงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรกเมือ ปี 1990 อัลกอดิอะฮ์ ติดต่อกับกลุ่มมุสลิม ชาวเคิร์ตในปี 1999 ระหวางการรุกรานอิรักในปี 2003 อัลกอดิอะฮ์ให้ความสนใจเป็นพเศา หน่วนทหารของอัลกออิดะฮ์เริ่มวางระเบิดกองบัญชาการของ UN และกาชาดสากล พ.ศ. 2004 ฐานที่มัี่นของอัลกออิดะฮ์ในเมือง ฟาลุยะห์ ถูกดจมตีและปิดล้อมด้วยกองทหารสหรัฐ แต่อัลกออิดะฮ์ยังคงโจมตีทั่วอิรัก แม้จะสูญเสียกำลังคนไปมากในระหวางการเลือกตั้งในอิรัด ปี 2005 กลุ่มอัลกออิดะฮ์ประกาศความรับผิดชอบระเบิดพลีชีพ 9 ครั้ง ในแบกแดด
ทหารชาวจอแดนจัดตั้งองค์กรและประกาศเป็นตัวแทนของอัลกออิดะฮ์ในอิรัก แม้วาการต่อสุ้ของอัลกออิดะฮ์ในอิรักไม่ประสบผลในการขับไล่กองทหารอังกฤษและสหรัฐ ร่วมทั้ล้มล้างรัฐบาลของผุ้นับถือนิกายชีอะฮ์ แต่ก็ได้สร้างความรุนแรงกระจายไปทั่วประเทศ
แคชเมีย 13 กรกฏาคม 2005 ชายลึกลับอ้างว่าเป็นสมาชิกอัลกออิดะฮ์โทรศัพท์ไปสำนักข่าวท้องถ่ินในศรีนคร ประกาศวาขณะนี้อัลกออิดะฮ์เข้าในแคชเมียร์แล้ว เพื่อปกป้องชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมที่ถูกรัฐาลอินเดียกดขี่ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า อัลกออิดะฮ์ แทรกซึมเข้าในบริเวณนี้ตั้งแต่การรุกรานอัฟการนิสถานของสหรัฐ และน่าจะมีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายในปากีสภาน
กลุ่มอัลกออิอะห์ใช้อินเทอร์เน็ตในการสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์ผลงาน การโอนเงินจากบัญชีของ บิน ลาดิน จากธนาคารแห่งชาติบาห์เรนจะถูกส่งต่อยังบัญชีผิดกฎหมายที่ไม่แสดงข้อมูลใน เคลียร์สตรีม ซึ่งเป็นแหล่งฟอกเงิน
อิสราเอล อัลกออิดะฮ์ ไม่ค่อยมีบทบาทในการต่อต้านอิสราเอล ทฤษฎีหนึ่งคือ อัลกออิดะฮืไม่ยอมร่วมือกับกลุ่มนิกาย "ชีอะห์" อาทิ "ฮิซบุลลอฮ์" ซึ่งสนับสนุนการต้อต้านอิสราเอลของ ปาเลสไตน์ หรือมิฉะนัน ชาวปาเลสไตน์ไม่ต้องการต่อสุ้ภายใต้กลัการของอัลกออิดะห์ แต่ต้องการต่อสู้ด้วยหลัการของตนเอง อัลกออิดะฮ์เคยถูกตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะม่ส่วนในการโจมตีพลเรือน อิสราเอล เมือ ปี 2003 ที่เคนน่ เช่นการระเบิดดรงแรมที่มีชาวอิสราเอลเข้ัาพัก หรือยายามดจมตีเครื่องบิน
ที่มา : วิกิพีเดีย