ขณะที่รองประธานาธิบดีเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสเดียวของเธอในหารเผชิญหน้าอดีตประธานาธิบดีโดยตรง ซึ่งเธอให้คำมั่นว่าจะยุติอิทธิพลทางการเมืองของเขา
อารอภิปรายในคืนวันอังคารนั้นสำคัญเป็ฯพิเศษสำหรับแฮร์ริส ซึ่งกำลังต่อสู้ดิ้นรนเพ่อกำหนดตัวตนของเธอเองในสายตาของผุ้ลงคะแนนเสียงและรักษาโมแมนตัมเชิงบวกที่เธอได้รับมาตั้งแต่ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อคนใหม่ของพรรคเดโแมครตในช่วงฤดูร้อนนี้
การอภิปรายที่ศุนย์รัฐธรรมนูญแห่งชาติในเมืองฟิลาเดลเฟียจะเป็นการเชิญหน้ากันครังแรกระหว่างแฮร์ริสและทรัมป์ ซึ่งแข่งขันกันอย่างดุเดือด สำหรับแฮร์ริส นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่จะแสดงให้ชาวอเมริกันเห็นว่าเธอพร้อมที่จะรับตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นคำถามที่อยุ่ในใจของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในขณะที่แคมเปญหาเสียงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกำลังเขัมข้นขึ้น
ในขณะเดียวกัน ทรัพมป์ก็กระตือรือร้นที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีต่อคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตของเขาในเชิงลบ และหยุดยั้งชัยชนะที่เธอทำได้ตังแต่ขึ้สุ่ตำแหน่งสูงสุดในบัติรเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตในเดือนกำกฎาคม แฮร์ริสได้กำจัดคะแนนนำของทรัมป์เหนือไบเดนในการสำรวจความคิดเห็นของประธานาธิบดีตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
ทั้งแฮร์ริสและทรัมปต่างก็เสนอตัวเป็นตัวแทนแห่งการเปลี่ยนแปลง แฮร์ริสได้วางตวเองให้เป็นจุดเปลี่ยนที่ชัดเจนจากยุคที่การเมืองถูกครอบงำโดยทรัมป์ซึ่งเต็มไปด้วยความแตกแยกอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม อดีตประธานาธิบดีชี้ให้เห็นถึงช่วงเวลาที่แฮร์ริสอยุ่ในรัฐบาลของไบเดนและกล่าวว่าเธอต้องรับผิดชอลสำหรับภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยุ่อาศัยที่สูงขึ้น และอีกมากมาย การดีเบตดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าใรับสำคัญหลายแห่ง ดดยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าการแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้นทั้ในระดับประเทศและในสมรภูมิสำคัญต่างๆ ซึ่งรวมถึง"กำแพงสีน้ำเงิน" ในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสอนซิน รวมถึงรัฐในแถบซันเบลท์อย่างแอริโซนา จอร์เจีย เนวาดา และนอร์ทแคโรไลนาแคมเปญท้้งสองสห้ความสนใจเป็นพิเศษณกับเพนซิลเวเนียและจอร์เจีย โดยการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของ CNN พบว่าไม่มีผุ้นำที่ชัดเจนระหว่างผุ้สมัครทั้งสอง หากทรัมป์สามารถยึดครองนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นรัฐที่เขาเคยชนะมาแล้วสองครั้ง ชัยชนะในเพนซิลเวเนียและจอร์เจียอาจทำให้เขาผ่านเกณฑ์คะแนนเสียงคณธผุ้เลือกตั้ง 270 คะแนนได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับชัยชนะในรัฐสมรภูมิอื่นๆก็ตาม
https://edition.cnn.com/2024/09/08/politics/kamala-harris-donald-trump-debate/index.html?iid=cnn_buildContentRecirc_end_recirc
ในการดีเบต ผุ้ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่ากระตุ้นใหเกิดความแตกแยกในอเมริกา ผุ้สมัครต่างพากันเข้าสุ่ประเด็นที่ดต้แย้งกันอย่างรวเดร็ซตั้งแต่การอพยพและการแตกหักของหิน ไปจนถึงสงครามของอิสราเอลในฉนวนการซา แต่เป็นการถ่ายถอดสดจาช่อง ABC ซึ่งผุ้ชมจะชมอยุ่ทางบ้าน รองประธานาธิบดีได้เตรียมการสำหรับการดีเบตอย่างละเอียด และได้ใส่ความเห็นที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ทรัมป์โกระในคำตอบแทบทุกคำตอบ เธอบอกกับทรัมป์วาผุ้นำโลกำลังหัวเราะเยาะเขา และผุ้นำกองทัพเรียกเขาว่า "ความเสื่อมเสีย" เธอเรียกทรัมป์ว่า "อ่อนแอ" และ "ผิด" เธอกล่าวว่าทรัมป์ถูกไล่ออกโดยผุ้มีสิทธิเลือกตั้งง 81 ล้านคนซึ่งเป็นจำนวนที่ลงคะแนนเสียงในประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2020 "เห็นไ้ชัดว่าเขาประสบปัญหาในการประมวลผลเรื่องนั้น " เธอกล่าวทรัมป์มักจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาพูดเสียงดังและย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเรื่องเท็จมากมายเป็นเรื่องจริง อดีตประะานาธิบดีกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงเรื่องโกหกเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นอย่าแพร่หลายในการเลือกตั้งปี 2020 เขาพูดซ้ำทฤษฎีสมคบคุดเกี่ยนวกับผุ้อพยพที่กินสัตว์เลี่ยง และโกหกเกี่ยวกับการสนับสนุนการทำแท้งหลงจากทารกเกิด ซึ่งเป็นการฆาตกรรมและผิดกฎหมายทุกที เขาวาดภาพความเลวร้ายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งชวนในนึกถึง "การสังหารโหดของอเมริกาไ ที่เขาเคยเตือนไว้ตอนที่เข้ารับตำแหน่งในปี 2017 ทรัมป์กล่าวเมื่อคือดีเบตว่า "เรามีประทศที่กำลังจะตาย"
เมื่อการอภิปรายสิ้นสุดลง แอร์ริสก็ได้รับการสนับสนุนอีกครั้ง ดดยเทย์เลอร์ สวิฟต์ นักดนตรีและไอคอนวัฒนะรรมป็อป โพสต์บนอินสตาแกรมว่าเธอสนับสนุนผุ้สมัครของพรรคเดโแมครต เธอลงชื่อในโพสต์ว่า "เทย์เลอร์ สวิฟต์ ผุ้หญิงแมวไร้บุตร" ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงความคิดเหน็ที่ขัดแย้งของ เจดี แวนซ์ วุฒิสมาชิกรัฐโอไฮโอ เพื่อร่วมทีมของทรัมป์ ที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนไม่พอใจ ต่อประเด็นอิสราเอล เมือถุกถามว่าจะรักษาสันติภาพในฉนวนกาซาได้อย่างไร แอร์ริสเ่ล่าถึงความน่ากลัวของการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลเมือวันที่ 7 ตุลาคม ปีก่อน จากนัั้นเธอวิพากษ์วิจารณืการตอบดต้ของอิสราเลซึ่งโจมตีอย่างต่อเนื่อจนทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวติหลายหมือนคนก่อนที่จะเปลียนมาสนนับสนุนแนวทางสองัฐ สิทธิของอสิราเอลในจการปกป้องตัวเอง และพันธกรณีที่จะสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่แฮร์ริสประกาศว่า "เราต้องการข้อตกลงหยุดยิงและต้องการให้ตัวประกันออกไป" ไบเดนและคนอื่นๆ ยอมรับเมือไม่นานรี้ว่าข้อตกลงดังกล่าวยังคงอีกนาน
ทรัมป์ให้รายละเอียดน้อยมาก "เธอเกลียดอิสรเอล" เขากล่าวถึงแฮร์ริส และเสริมว่าเธอยังเกลียด "ชาวอาหรับ"ด้วย ทรัมป์พยายามปลุกปั้นความโกระแค้นในหมุ่ชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับเกี่ยวกับการจัดการความขัดแย้งของไบเดนอยู่ย่อยครั้ง แต่ในวันอังคารเขากลับละท้ิงกลวิธีดังกล่าวอย่างรวดเร็ว โดยตำหนิแฮร์ริสที่สแสดงความดูถูกเบนจามิน เนทันยาฮู นากยกรัฐมนตรีอิสราเอลระหว่งการเยือนแคปิตอลฮิลล์เมือไม่นามานี้ ซึ่งเธอได้พบกับเขาจริงๆ แต่เธอไม่ได้เข้าร่วมการกล่าวสุทรพจน์ต่อรัฐสภาของเขา และประกาอีกครั้งว่าเรื่องทั้งหมดนี้ "จะไม่เกิดขึ้นไ หากเขายังอยุ่ในทำเนียบขาว
เช่นเดียวกับสงครามรัสเซียในยูเครน ตามที่อดีตประธานาธิบดีกลบ่าวหลังจากหยุดสังเกตว่าเขา "รุ้จักปูตินอย่างดี" และกล่าวว่า "รัสเซียจะไม่มีวัน..เข้าไปในยูเครน" ภายใต้การดำรงตำแหน่งของเขา ทรัมป์กล่าวเสริมว่า "ผมจะทำให้เสร็จก่อนที่จะได้เป็นประธานาธิบดีด้วยซ้ำ" และอ้างวา่การเลือกตั้งขอวเขาจะรีเซ็ตสภานะทางภูมิรัฐศาสตร์และเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นการประกาศข้อตกลงเลยที่เดียว
ส่วนแฮร์ริสใช้การสนทรสเรื่องรัสเซีย-ยูเครนเพื่อโจมตีทรัมป์เกี่ยวกับความชื่นชอบที่มีต่อผุ้นำเผด็จการและผุ้นำปรเทศต่างๆ ที่เป็นที่ยืนยันกันดี แฮร์ริสกล่าวว่า "เป็นที่ทราบกันดีว่าเหล่าเผด็จการและผุ้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหล่านี้กำลัเชียร์ให้คุณเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง เพราะเห็นได้ชัดว่าพวกเขาสามารถหลอกล่อคุณด้วยการยกยอและเอื้อประโยชน์ได้"
ทรัมป์ตอบโต้กลับโดยย้อนนึกถึงความพยายามของเขาที่จะให้ประเทศสมาชิก "นาโต้" จ่ายเงินเข้าพันธมิตรมากขั้น และวิพากษืวิจารณ์แฮร์ริสที่ไบเดนปฏิเสธที่จะทำเช่นเดียวกันก่อนจะพูดว่ารองประธานาธิบดี "ม่มีความกล้าที่จะขอ"
แฮร์ริสต่อบว่าเธอเชือ่วาทรัมป์อาจยุติสงครามได้อยางรวดเร็วด้วยการยอมจำนนต่อปูติน และด้วยการกรทำดังกล่าว เธอกล่าวเสริมว่า การกระทำดังกล่าวทำให้โปแลนด์ที่ชายแดนด้านตะวันตกของยูเครนตกอยุ่ในอันตราย(แฮร์ริสตั้งขอ้สังเกตว่ารเพนซิลเวเนียมีประชากรชาวโปแลนด์-อเมริกันจำนวนมาก)
ทรัมป์หยิบยกการจัดการของรัฐบาลในการถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยให้เหตุผลว่าการกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอในทำเนียบขาว และไบเดนไม่ได้ไล่คนออกเพียงพอเพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าว แอร์ริสกล่าวว่า เธอเห็นด้วย กับการตัดสินใจของไบเดนที่จะถอนทหารสหรัฐฯ ออกจาอัฟกานิสถานในปี 2021 และยืนยันว่าทรัมป์ "เจรจาข้อตกลงที่อ่อนแอที่สุดข้อหนึ่งเท่าที่คุณจะจินตนาการได้" ในเรื่องนี้ในช่วงเวลาที่่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ...
https://edition.cnn.com/2024/09/10/politics/debate-takeaways-trump-harris/index.html