กบขเาแอปเลเซียน นอกจากจะมีภุมิประเทศที่สวยงามแล้ว ความแกต่างในแต่ละภูมิภาคยังส่งผลต่อสภาพอากาศ ดิน พืชพรรณ และภูมิศาสตร์ของมนุษย์ในรัฐอีกด้วย
นอร์ทแคโรไลนาในยุคแรกเป็น กลุ่มคนที่มีความหลากหลายเป็นตัวแทนของศาสนา สัญชาติ และชนชั้นทางเศราฐกิจและสังคมที่หลากหลาย คริสตจักรแองกลิกันก่อตั้งขึนดดยกฎหมายในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 แต่ยังมีเพรสไบทีเรีย ควาเกอร์ ลูเทอรัน รีฟอร์ม แปบทิสต์ เมธอดิสต และชาวยิวจำนวนเล็กน้อย เชื้อชาติที่เป็นตัวแทน ได้แก่ อังกฤษ สก็อต ไอรช เวลส์ สวิส ฝรั่งเศส และเยอรมัน ชุมชนผิวขาวและยุดรปอเมริกันขยายตัวขึ้นตลอดหลายศตวรรษ มีจำนวนเกือบสามในสี่ของประชากรนอร์ทแคโรไลนาในช่วงต้นสตวรรษที่ 21
ทาสเชื้อสายแอฟริกันเป็นส่วนสำคัญของประชากรในยุคแรกของนอร์ทแคโรไลนา พืชผลที่ใช้แรงงานจำสนมาก กระตุ้นให้ีการใช้แรงงานทาศ แพร่หลายในรัฐ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคิดเป็นประมาณหนึ่งในห้าของประชากรทั้งหมดถึงแม้ว่าความแตกต่างระหว่างสภาพความเป็นอยุ่ของชาวนอร์ทแคโรไลนาผิวขาวและผิวดำจะยังคงมีอยู่ แต่ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันจำนวนมากขึ้นในรัฐได้ครองตำแหน่งที่โดดเด่นในด้านการศึกษา ศิลปะ กีฬา ธุรกิจ และการเมือง
แม้ว่าประชากรฮิสแปนิกของรัฐนอร์ทแคโรไลนาจะยังเป็นชนกลุ่มน้อย แต่ก็ได้เติบโตอย่างรวดเร้ซ โดยจำนวนชุมชนฮิสแปนิกเพ่ิมขึ้นมากกว่าสองเท่าในช่วง 1999-2000 ประชากรฮิสแปนิกใหม่จำนวนมากในรัฐมาจากเม็กซิโก โดยส่วนใหญ่มาเพื่อแสวงหางานในภาคเกษตรกรรมหรือการผลิต หรือในฐานทัพแห่งหนึ่งของรัฐปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 การเติงดตอย่างรวดเร็วของเมืองต่างๆ เช่น เลอแรบกรีนส์โบโร และวินสตัน-เซเลน ทำให้นอร์ทแคดรไลนาเป็นผุ้นำในอุตสาหกรรมยาสุบของปรเทศ และมีความสำคัญในด้านการผลิตสิ่งทอและเฟอร์นิเจอร์ วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยที่มีอิทะิพลมากที่สุดในประวัติสาสตร์ของรัฐยังดึงดุดผุ้อยุ่อาศัยให้มาที่ภุมิภาคพีคมอนต์อีกด้วย
แม้จะมีการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมจำนวนมาก แต่ประชากรประมาณหนึ่งในสามของนอร์ทแคโรไลนายังคงอาศัยอยุ่ในชนบท ดรรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งตั้งอยุ่ในเมืองเล็กๆ แต่แรงงานส่วนใหญ่เดินทางอกจากพื้นที่ชนบทการขยายตัวของเมืองอย่างรวอเร็วและพื้นที่ชนบทที่ยังคงหลงเหลืออยู่ทำให้ความแตกต่างทางประชากรในรัฐนี้ดูเด่นชัดขึ้น อย่างไรก็ตาม รุปแบบดั้งเดิมของการยังชีพแกละการเกษตรแบบฟาร์มขนาดเล็กกำลังหลีกทางให้กับฟาร์มรวมของธุรกิจการเกษตร
เศรษบกิจของรัฐ มีพื้นฐานมาจากการปลูกยาสูบเป็นหลักในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1700 และ 1800 และจากการผลิตผลิตภัฒฑ์ยาสูบและสิ่งทอในช่วต้นคริสต์ศตวรรษที่ 1900 แม้ว่ากิจกรรมเหล่านี้ยังคงเป็นส่วนสำคัญของเศราฐฏิจของรัฐ แต่ก็ถูกบดบังด้วยอุตสาหกรรมและบริการอื่นๆ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 เศราฐกิของรัฐ สร้างงานได้ในอัตราที่สุงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในหลายพื้นทึ่
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้นอร์ทแคโรไลนาจึงเป็นผุ้นำในการผลิตไม้แปรรูป ไม้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ ต้นคริสต์มาส เยื่อกระดาษ และผลิตภัฒฑ์จากไม้ชนิดอื่นๆ มานาน ต้นไม่หลักคือตันสน ซึ่งส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวจากที่ราบชายฝั่งและบริเวงณพีดมอนต์ ไม้เนื้อแข้ง เช้น ต้นโอ้ก ฮิคคอรีแอช และป็อปลาร์มาจากเทือกเขา แอปพาเลเซียน แลบางส่วนของพีตมอนต์ เป็นหลัก โครงการปลูกป่าทดแทนและรักษาความยั่งยบืนของป่าที่ดำิเนินการอยู่หลายดครงการส่งผลให้ป่าสงวนเติบโตขึ้น ทั้งเพื่อการพาณิชย์และส่วนตัวหรือเพื่อการอุตสาหกรรมอื่นๆ
นอกจากทรัพมยากรป่าไม้แล้ว นอร์ทแคดรไลนายัมีแหล่งสำรองหินและแร่ธาตุที่ไม่ใช่ดลหะจำนวนมาก รัฐนี้เป็นผุ้นำในการผลิตหินฟอสเฟตแร่ลิเธียม เฟลต์สปาร์ โอลีวีน ไม่กา และไพโรฟิลไลต์ทรัพยากรเหล่านี้จำนวนมารกใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ร่วมกับ หินสำหรับทำหินตกแต่าง หินแกรนิค นอกจากนี้ รัฐยังพบอัญมณีชนิดต่างๆ อีกด้วย
พลังงานไฟฟ้าของรัฐผลิตขึ้นจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นหลัก ดดยมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งผลิตไฟฟ้าได้เกือบหนึ่งในสามของทั้งหมด ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่ผลิตึ้นจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำจนวนมากของรัฐเป็นเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษที่นอร์ทแคดรไลนายังคงเป็นรัฐที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในภาคการผลิตทางตอนใต้และเป็นหนึ่งในรัฐที่มีการผลิตมากที่สุดในประเทศ นอกเหนือจากการพัฒนาอุตสาหกรรมยาสุบและสิ่งทอที่มั่นคงในศตวรรษที่ 20 แลบ้วรัฐยังกลายเป็นศุนย์กลางที่สำคัญสำหรับการผลิตเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย ตลอดครึ่งแรกของศตวรรษท แรงงานนอกภาคเกษตรของรัฐเกือบครึ่งหนึ่งทำงานในอุตสาหกรรมทั้งสามด้านส่ิงทอไปอย่างต่อเนื่อง ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 การผลิตคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าหนึ่งในห้าของการจ้างงานทั้งหมดและคิดเป็นประมาณหนึ่งในห้าของผลิตภัฒฑ์มวลรวมในประเทศ ฐานอุตสาหกรรมทีีวามหลากหลายมากขึ้น ดดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของคอมพิวเตอร์อุปกรณ์สื่อสารอิลเ็กทรอนิกส์ สารเคมี และเครื่องจักร การผลิตอาหารแปรรูป โดยเฉพาะเพื่อบริโภค ภายในประเทศ ยังมีส่วนแบ่งที่สำคัญในภาคส่วนนี้ด้วย
โครงสร้างของรัฐบาลของรัฐนอร์ทแคดรไลนาอิงตามรัฐะรรมนุญของปี 1776,1868,1971 การบริหารรัฐอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผุ้บิรหารที่ได้รับการเลือกตั้ง รวมถึงผู้ว่าการรัฐและรองผุ้ว่าการรัฐผซึ่งแตละคนมีวาระสี่ปีได้เพียงสองวาระ ไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน) และโดยหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ซึ่งบางส่วนได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสี่ปี และบางส่วนได้รับการแต่งตั้งง สมัชชาใหญ่ประกอบด้วยวุฒิสภา 50 คนและสภาผุ้แทนราษฎร 120 คน ทังวุฒิสมาชิกและผุ้แทนราษำรได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสองปี ผุ้ว่าการรัฐมีอำนาจแต่งตั้งอย่างมาก และตั้งแต่ปี 1996 ก็มีอำนาจยับยั้งกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การยับยั้งของผุ้ว่าการรัฐอาจถุกยกเลิกได้ด้วยการลงคะแนนเสียงสามในห้าของผุ้ที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แต่ละ
แห่ง
รัฐแบ่งออกเป็นเขตตุลาการมากว่า 40 เขต ศาลแขวงมีหน้าที่พิจารณาคดีแพ่งและคดีอาญาที่ไม่ร้ายแรงมากนักเป็นหลักแต่ละเขตจะเลือกผุ้พิพกาษาศาลแขวงและอัยการเขตซึ่งเป็นตัวแทนขงอรัฐในคดีอาญาทั้งหมดเป็นระยะยเวลา 4 ปี ศาลชั้นสูงของแต่ละเขตจะได้รับเลือกจากการเลือกตั้งในระดับรับเป็นระยะเวลา 8 ปี ศาลชั้นสุงจะอยุ่เหนือศาลชั้นสุงคือ ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา ศาลฎีกาเป็นศาลสุงสุดของรับดดยมีผู้พิพากษา 7 คน ที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 6 ปี (ผู้พิพากษาอาจลงสมัครรับเลือกตั้งซ้ำได้) ศาลอุทธรณ์ก่อตั้งขึ้นดดยการแก่้ไขรัฐะรรมฯุญ ในปี 2510 เพื่อช่วยบรรเทาภาระหน้าที่ของศาลฎีการของรัฐ โดยมีผุ้เพิพาาษา 15 คน ซึ่งทั้งหมดได้รับการเลือกต้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 8 ปี
รัฐแคดลไลนาประกอบด้วย 100 มลฑล รัฐบาลมณฑลทำหน้ที่แทนรัฐในการจัดหาการศึกษา การดุแลสุขภาพ และบริการสวัสดิการ ได้แก่ คณะกรรมะิการมณฑล นายอำเภอ เจ้าหน้าทีทะเบียนทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่ศาลชั้นสูง และสมาชิกคณะกรรมการโรงเรียน
https://www.britannica.com/place/North-Carolina-state/Government-and-society
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น