วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Trump’s untraditional strategies

            เมื่อบัตรลงคะแนนล่วงหน้ามาถึงหน้าประตูบ้านในรัฐมิชิแกนครังแรกเมือเดือนที่แล้ว พลอ ฮัตสัน
ทนายความจากแกรนด์ ราปิดส์ และผุ้สมัครชิงตำแหน่งผุ้แทนพรรครีพับลิกันในสภคองเกรสก็ส่งบัตรลงคะแนนล่วงหน้าเชืนกัน เขาใช้แอพที่บอกตำแหน่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่น่าจะเป็นไปไ้และบ้านหลังใดที่อาจได้รับอิทธิพลจากนั้นเขาก็ใช้เวลาเช้าวันนั้นเดินไปตามชุมชนที่มีประชกรหนาแน่นซึ่งเป็นฟาร?ชันเดียวที่มีธงทรัมป์อยู่ที่บ้นของเพื่อย้านซึ่งมีป้าย "แฮร์ริส วอลซ์" อยู่บนสนานหญ้าเขียวขจีที่ได้รับการดูแลอย่างดี

          การแข่งขันกันอย่าสุสีถือเป็นกลยุทธ์แบบเดีม ซึ่งแคมเปญหาเสียงทุกแคมเปญไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต่างก็เคยเผชิญมาแล้ว และนี่คือแผนการที่แคมเปญหาเสียงของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ละทิ้งไป

           การกำหนดเป้าหมายไปที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งตั้งทีี่ไม่ปกติ การสอบผุ้สนับสุนให้เผ้าติดตามสถานที่ลงคะแนนเสียง และการโจมตีรัฐต่างๆ ด้วยการฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับการลงคะแนนเสียง นี้คือกลไกที่ทีมหาเสียงของทรัมป์ สร้างขึ้นสำหรับการเลือกตั้งที่หลายคนคาดหวังว่าจะใช้บัตรลงคะแนนเพียงหมื่อนใบจาก 7 รัฐที่เป็นสมรภูมาิการเลือกตั้ง ทีมหาเสียงของทรัมป์ยอมรับภายในว่าเป้ฯการพนัน แต่พวกเขายืนกรานว่าสร้างขึ้นจากข้อมูลที่พวกเขาได้รวบรวมมาเกือบทศวรรษและทดสอบในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา

          รวมถึงเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ที่ได้รับการจัดสรรเมืองเร็วๆ นี้โดยกลุ่าม PAC ที่ร่วมมือกับมหาเศราฐษีด้านเทคโนโลยีอย่างอีลอน มัสก์ หนึุ่งในผุ้สนับสนุนทรัมป์ที่มีเสียงดังและมีอิทะิพลมากที่สุด 

         กลยุทธ์ที่ไม่ะรรมดาของแีมเปญนี้ปรากำให้เห็นเมือทัคเกอร์ คอร์ลสันนักวิจารณ์ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเดินทางมาที่เมืองแกรนด์ ราปิดส์ เมือเดือนที่แล้ว เขากระตุ้นให้ผุ้ฟังดาวห์โหลดแอป 10xVotes ซึ่งรับรองว่าจะช่วยให้พวกเขาค้นหาผุ้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมที่ไม่ปไลงคะแนนเสียงได้ในครอบครัวและเพื่อฝูงของพวกเขา ไม่กี่วันต่อมาา ประธานพรรคแก่งรัฐมิชิแกนยังเปิดตัว 10xVotes เมื่อเขาเดินทางไปที่เมืองทราเวิร์สซิตี รัฐมิชิแกน พร้อมกับ เจดี แวนซ์ เพื่อนร่วมทีมทรัมป์

 ในพื้นที่อื่นๆ ของรัฐ แคมเปญหาเสียงของทรัมป์กำลังจัดการฝึกอบรมเรื่อง "ความซื้อสัตย์ในการเลือกตั้ง" โดยสอนให้ผุ้ยึดมั่นในแนวคิดอนุรักษ์นิยมเป็นผุ้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง วึ่งรวมถึงในพื้นทีที่พรรครีพับลิกันมักจะชนะการเลือกตั้งก้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ในขณะเดียวกันแคมเปญหาเสียงของทรัมป์และพรรครีพับลิกันกำลังฟ้องรอ้งรัฐมิชิแกนเพื่อขอให้สำนักงานกิจการทหารผ่านศึกและหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่นๆ ไม่ให้เปิดบริการลงทะเบียนผุ้มีสิทธิเลือกตั้ง

        แนวทางดังกล่าวถือเป็นความแกต่างอย่างิส้นเชิงกับวิะีที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในเขตมหานครแกรนด์ ราปิดส์ และสนามรบอื่นๆ เมือ8 ปี ก่อน ซึ่งความพยายามในการเข้าถึงผุ้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับการประสนงานโดยพรรครีพัลลิกัและจัดดดยสำนักงานภาคสนามในภุมิภาค และแนวทางดังกล่าวยังดึงดูดผุ้คัดค้านจำนวนมากในกลุ่มนักยุทธศาสตร์ของพรรครีับลิกัน ซึ่กลบ่วว่าพวกเขาไม่เห็นหลักฐานใดๆ ของกลไกทางการเมืองที่ซับซ้อนที่ทีมหาเสียงของทรัมป์อ้างว่ากำลังเคลือนไหวอยู่ พวกเขากังวลว่ามีการเน้นย้ำมากเกินไปกับผุ้คนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเาืองและการเอาใจความหลงไหลของทรัมป์ด้วยกาฟ้องร้องการเลือกตั้งในปี 2020 อีกครั้ง

        "มันคือการทุจริตทางการเมือง" เดนนิส เลนน็อกซ์ เจ้หน้าที่อวุโสของพรรครีพับลิกันในมิชิแกนกล่าว "มันเหมือนการของพร" 

          ทีมงานหาเสียของทรัมป์เชื่อว่าแนวทางังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผุ้สมัครที่พวกเขาพยายามที่จะเ้าเส้นชัยในการแข่งขันที่สูสีกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งมีชื่อสเียงและสำตล์ที่ทะนงตน ทำให้เขามีเสน่ห์ดึงดุดใจในหมู่ผุ้ที่ไม่ค่อยได้ไปลงคะแนนเสียง แต่การที่เขาเข้าชิงตำแหน่งในทำเนียบขาวเป็ฯครั้งแรกกลับทำให้ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งหลายคนที่มักจะแข่งขันเพื่อเขาไม่พอใจ

        งานดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นในพื้นที่บางส่นขงอประทเศที่ทีมหาเสียงของทรัมป์ไม่เคยไปเมือ 4 ปีที่แล้ว เจมส์ แบลร์ ผุ้อำนวนการฝ่ายการเมืองของทรัมป์กล่า ตัวอย่งเช่น ในรัฐมิชิแกน ทีมหาเสียงของทรัมปืในปี 2020 มุ่เงน้นความพยายามในการเข้าถึงหลุ่มคนในเขตชานเมืองดีทรอยต์และรอบๆ แกรนด์ ราปิดส์ ตามแผนที่ขอ้มูลภายในที่ทีมหาเสียงพุดคุยกับผุ้มีสิทธิเลือกตั้ง ครังนี้ แผนที่ซึ่ง CNN ตรวจสอบแล้วแสดงให้
เห็นกิจกรรมที่เข้มข้นมากขึ้นทั่วมิชิแกนตอนกลาซึ่งมีประชากรน้อยกว่า รวมถึงกิจกรรมที่มากขึ้นในดีทรอยต์ ซึ่งทีมหาเสียงระบุว่ากำลังระสานงานผลักดันผุ้ชายผิวดำ

           แบลร์กล่าวว่าผุ้มีสิทธิออกเสียงที่ต่อต้านทรัมป์จะไม่เปลี่ยนใจเพียงเพราะมีคนมาเคาะประตูบ้านพวกเขา

         "เรามีมุมมองที่แคบกว่าคนอื่นๆ ที่สามารถโน้มน้าวใจผุ้ือนไดอย่างมีประสิทธิภาพ" แบลร์กล่าว "แต่สิ่งที่ประตูทำได้ดีมากก็คือการออกมาใช้สิทธิ โดยเฉพาะสำหรับผุ้มีสิทเลือกตั้้งที่มีแนวโน้มต่ำและปานกลางซึงไม่ได้รับการติดต่อจากแคมเปญหาเสียงเป็นประจำ และอาจต้องการคำอะิบายว่าพวกเขามีทางเลือกในการลงคะแนนเสียงใดบ้าง"

          ในย่านใจกลางเมืองที่มีชีวิตบีวาและละแวกใหล้เคียงที่รายล้อมไปด้วยสวนแอผเปิลและทุ่งนา มีผุ้มี่สิทธิเลือตกังจำนวนมาก เช่นเดียวกับพรรครัพับลิกันสายกลาง ซึ่งเป็นหลุ่มผุ้ตั้งถ่ินฐานชาวดัตช์ในยุคแรกๆ ในภุมิภาคนี้ และอิทธพลที่ยังยืนของอดีตประธานาธิบดีเจอรัลด์ ผอร์ด บุตรชายที่โ่งดังทีสุดในภุมิภาคนี ซึ่งเคยเป้นตัวแทนของมิชิแกนตะวันตกแห่งนี้ในรัฐสภา พรรครีพับลิกันปรากฎตัวให้เห็นชัดเจนในการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน ดดยสมาชิกพรรครีับลิกันหนึ่งในสามในเขตเคนต์เคาน์ตี้ ดดยรอบลงคะแนนเสียงให้กับนิกกี เฮลีย์ อดีตผุ้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา แทนทรัมป์

           แต่แทนที่จะพยายาดึงดุดผุ้มสิธิเลือกตัืงเหล่านั้น แคมเปยหาเสียงของทรัมป์กลับมองหาผุ้มีสิทธิเลือตกั้งรายใหม่ๆ 

ฮัตสัน ซึ่งกำลังท้าทายฮิลารี ชอลเทน สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎรใหม่ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตคนแรกที่เป็นตัวแทนของแกรนต์ ราปิดส์ ในรอบสามทศวรรษ ยอมรับว่าความเป็นเอกลักณ์ของทรัมป์อาจช่วยให้เขาสามรถคว้าชัยชนะในเขตเลือกตั้อของตนได้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขามุ่เงน้นที่การคว้าชีัยชนะในเขตกลาง ฮัตสันกล่าวว่า "กลยุทธ์นั้นคงจะดูบ้าๆ บอๆ สำหรับคนอื่นๆ เหตุผลก็คือพวกเขามีแนวโน้มี่จะได้คะแนนเสียงต่ำ แต่ฉันรู้สึกว่าพวกเขาทุ่มเทให้กับมัน" 

        ตลอดทั้งปีนี้ แคมเปญหาเสียงอขงทรัมป์ต้องอาศัยอลุ่มภายนอกที่ยังไม่มีการทดสอบเพื่อดำเนินกาพื้นฐานแบบดั้งเดิมมากขึ้น เช่น การลงทะเบียนผุ้มีสิทธิเลือกตั้งและากรสอนผุ้คนวิธีลงคะแนนเสียง 

        กลุ่มที่ให้ความช่วยเหลือในการหาเสียงนี ได้แก่ "จูนนิ่ง พอท์ย แอคชั่น" ซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยมทที่มุ่งเน้นไปทีผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่อารยุน้อยกว่าซึ่งนำโดยชาร์ลี เคิร์ก พันะมิตใกล้ชิดของทรัมป์ และ "อเมริกา แพค" ซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับมัสก์ ซึ่งได้จัดสรรเงินเกือบ 46 ล้านดอลลาร์ในการทำงานหาเสียงเพียงอย่างเดียวเพื่อประโยชน์ของทรัมป์ ตามเอกสารที่ย่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งรัฐบาลกลาง

        แนวทางที่ยังพิสุจน์ไม่ได้ ซึ่งเป็นไปได้ดวยการตัดสินใจในปีนี้ ของ FEC ที่ให้อำนาจแก่แคมเปญในการประสานงานกับคณะกรรมการดำเนินการทางการเมืองภายนอกในการหาเสียงแบบจ่ายเงิน ทำให้เงินทุนของแคมเปญมีอิสระในการรองรับการโฆษณาและการชุมนุมทางการเมืองที่ทรัมป์เป็นพาดหัวข่าว

         มัสก์มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ ซึ่งต้องด้นรนอย่าางหนักเพื่อตามมให้ทันแคมเปญหาทุนของแฮร์ริส รวมถึงการใช้จ่ายด้านเจ้าหน้าที่และปฏิบัติกาภาคสนามนอกจานี้ "แพค" ประจำอเมริกาของเขายังใช้เงินไปเกือบ 12 ล้าน ดอลลาร์ในการพิมพ์และค่าไปรษณีย์สำหรับการเลือกตังประะานาธิบดี การจัดแคมเปญส่งข้อคามและโทรศัพท์ธนาคาร

        อย่างไรก็ตาม มัสก์มีประสบการณ์น้อยมากในการบริหารงานทางการเมือง และไม่ชัดเจนวาการลงทุนแปดหลักของเขานั้นสร้างผลดีอย่างไรต่อการสนับยนุนทรัมป์ครั้งใหม่ มัสก์ซึ่งกล่าวในรายการ X ว่าเขาจะเข้าร่วมการชขุมนุมของทรัมป์ที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย

        ในขณะเดียวกัน "จูนนิ่ง พอยท์ แอคชั่น" ยังต้องพิสูจน์ว่ารู้วิะีที่จะเปล่ยนผู้ติดตรม จำนวนมากของ "เคิร์ค" ให้กลายเป็นการดำเนินการทางการเมือวงที่ประสบความสำเร็จ ความพยายามก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2022 ในรัฐแอริโซนาซึ่กลุ่มได้ทำงานอย่างแข็งขัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพื่อเลือก คารี เลค จากพรรครีพับลิกันให้เ็ฯผุ้ว่าการรัฐ และ บลาร์ค มาสเตอร์ ให้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ

        สำหรับการเลือกตั้งครังนี กลุ่มดัวกล่าวได้จ้าวพนักงานประจำที่ได้รับการฝึกอบรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในชุมชนที่พวกเขาถูกส่งไป แต่ละคนมีรายชื่อ 400-600 ชื่อที่ตนต้องรับผิดชอบในการลงคะแนนเสียงเช่นเดียวกับแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ พวกเขากำลังกำหนดเป้าหมายไปที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีแนวโน้มไปทางขวจัด ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกคนที่มีแนวโน้มน้อยที่สุดที่จะไปใช้สิทธิในเดือนพฤศจิกายน

          หลังจากประกาศเป้าหมายในการขยายฐานการสนับสนุของทรัปม์ในรัฐแอริโซนา วิสคอนซิน และมิชิแกน กลุ่มดังกล่าวได้ลดความพยายามลงเหลือเีพยงหนึ่งเขตในรัฐวูล์ฟเวอรีน ขณะที่ยังคงรักษาสภานะของตนในอีกสองรัฐสมรภูมิการเลือกตั้ง

         ปัจจุบัน "จูนนิ่ง พอยท์" กำลังรวมความพยายามกับกลุ่ม มักส์ ในวิสคอนซิน เนื่องจากพรรครีพับลิกันเร่ิมกัวลมากขึ้นเกี่ยวกับโอากสของทรัมป์ที่นี่นในการต่อสุ้กับแฮร์ริส คาดว่าปกิบัติการร่วมนี้จะนำโดย "อเมริกา แพค" ซึ่งจะจ่ายเงินค่าพนักงานและใช้ทรัพยากรเพื่อจ้างพนักงานต่อไปผ่าน "จุนนิ่ง พอยท์" 

           ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังคงผลักดันให้ผุ้สนับสนุนที่ชุมนุมลงคือเข้าร่วม "ทรัมป์ ฟอร์ซ 47" ซึ่งเป็น "กองทัพ" อาสาสมัครที่มุ่งมั้นที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกต้้งในวันเลือกตั้ง นับเป็นกบยุทธ์ในการเลือกตั้งทั่วไปที่นำมาใช้ครั้งแรกในช่วงที่อดีตประะานาธิบดีประสบความสำเร็จวนการประชุมคอคันที่ไอโอวาเมือต้นปีนี้ โดยแคมเปญดังกล่าวได้คัดเลือกและฝึกอบรมหัวหน้าคณะอาสาสมัครประมาณ 2,000 คนทั่วทั้งรัฐ และแต่ละคนตกลงที่จะรับคำมั่นสัญญาจากผุ้มีสิทธิเลือกตั้งครังแรก 10 คนในการประชุมคอคัสที่ไอโอวา จากรายชื่อผุ้สนับสนุนที่มีแนวโน้มจะเป็นผุ้สนับสนุน 25 คนซึ่งแคมเปญได้ระบุในละแวกบ้านของพวกเขา ...

           ความพยายามที่เพิ่มขึ้สและทับซ้อนกันของกลุ่มต่างๆ ทำให้เกิดควาสับสนในพื่้นทีเป็นบางครั้ง อาทิ ในการประชุมที่จัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนในเมืองดีทรอยต์ โดย "จูนนิ่ง พอยท์ แอคชั่น" ผุ้เข้าร่วมการประชุมให้ข้อมุลเกี่ยวกัีบ "ทรัมป์ ฟอร์ซ 47" ไดรับแจ้งอย่าละเอียดเกี่ยวกับปกิบัติการเพื่อกำหนดเป้าหมายผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีแนวโน้มต่ำ ผู้หญิงคนหนึ่งรุ้สึกงุนงงกับการนำเสนอและถามว่าเธอได้รับอนุญาจให้เป็นอาสาสมัครให้กับ "จุนนิ่ง พอยท์"และแคมเปยหรือไม่ ชขายคนหนึ่งที่เดินทางมาจากโอไฮโอสังเกตเห็นกลุ่มจัดงานและแอปต่างๆ จากนั้นเขาก็ซักถามผุ้จัดงานว่า "เราจะมั่นใจได้อยางไรว่าทุกอย่างจะทำงานร่วมกันได้"...https://edition.cnn.com/2024/10/04/politics/trump-campaign-ground-game/index.html

        

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567

POTUS

             มาตรา II ของรัฐธรรมนูญสหรัฐ ได้กำหนดฝ่ายบริหารของรัฐบาลกลางและมอบอำนาจบริารให้แก่
ประธานาธิบดี อำนาจดังกล่าวรวมถึงการดำเนินการและบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางและความรับผิดชอบในการแต่งตั้งเจ้าหน้าทีทฝ่ายบริหาร เจ้าหน้าที่ทางการทูต เจ้าหน้าที่กำกับดูแล และเจ้าหน้าที่ตุลาการของรัฐบาลกลาง ดดยองิตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจประะานาะิบดีในการแต่างตังและรับเอกอัครราชทูต และทำในธิสัญญากับมหาอำนาจต่างประเทศและกฎหมายที่ออกโดยรัฐสภาในเวลาตาอมา ตำแหน่งประธานาธิบดีในปัจจุบัมีความรับผิดขอบหลักในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ บทบาทดังกล่าวรวมถึงความรับผิดชอลบในการกำกับดูแลกองทัพที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในโลก ซึ่งมีคลังอาวุธนิวเคลียร์ใหญ่เป็นอันดับสอง

          นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังมีบทบาทนำใหนการตรกฎกมายของรัฐบาลกลางและการกำหนดนดยบายในประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบการแบ่งแยกอำนาจมาตรา 1 หมวด 7 ของรัฐธรรมนูญ ให้อำนาจประธานาะิบดีในการลงนามหรือยับยั้งกฎหมายของรัฐบาลกลาง เนื่องจากประธานาธิบดีใยุคใหม่มัถุกมอง
ว่าเป็นผุ้นำของพรรคการเมือง การกำหนดนโยบายที่สำคัญจึงถูกกำหนดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยผลของการเลือกตั้งตั้งประธานาะิบดี ดดยประธานาธิบดีมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมลำดับความสำคัญของนดยบายองตนต่อสมาชิกรัฐสภาที่มักขึ้นอยุ่กับยประธานาธิบดีในการเลือกตั้ง ในทศวรรษที่ผ่านมา ประธานาธิบดียังใช้คำสั่งฝ่ายบริหารกฎระเบียบของหน่วยงาน และการแต่่างตังตุลาการมากขึ้นเรือยๆ เพื่อกำหนดนโยบายในประเทศ...https://en.wikipedia.org/wiki/President_of_the_United_States

            ระบบแรกที่คนอเมริกันสร้างขึ้นมาคือระบบปกครองตนเอง ทำ "สัญญาสังคม" ในทฤษฎี ของล็อก เลือตั้งหัวหน้าและออกกฎหมายสำหรับอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เป็นประชาธิปไตรชาวบ้านแบบธรรมชาติ ดั่งธรรมนูญที่ทุกคนต้องทำตามกฎของชุมชน มีการเลือกหัวหน้าชุมชนโดยดูจากคุณสมบัติทางศาสนาเป็นเกณฑ์ มีการประชุมเป็นประจำ ซึ่งกลายมาเป็นสภาผุ้แทนราษฎรหลังจากได้เอกราช หรือ กล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า คือการเลือกตั้งคนที่เป็นหัวหน้าหรือตัวแทนเป็นประเพณีเก่าของคนอเมริกันนับแต่มาก่อตั้งอาณานิคม และสภาผุ้แทนก็เป็นสภานที่พบปะปรึกษาหารือกัน

           
หลังจากเป็นเอกราชและประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้ว คือกการประสานระหว่างเสรีภากับระเบียบสังคม ผลประโยชน์ส่วนตัวกันส่วนรวมา

          อเมริกันกลัวอำนาจรัฐบาลกลางมาก ประสบการณ์สมัยอยุ่ใต้องกฤษเชื่อวารัฐบาลอำนาจมากมกป็นทรราชย์ และคอร์รัปชันจึงออกกฎหมายเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญเรียกว่า "บิลส์ ออฟ ไรท์" หรือบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิเสรีภ่พลเมืองในทุกด้านจากอำนาจรัฐบาล 

         ในทางหลักการอุดมการณ์การเมืองของประชาชนอยู่เหนือรัฐบาลและผุ้มีอำนาจ อันเป็นลักษณะเด่นของมหาชนรัฐ (รัฐที่ไม่มีกษัตริย์) รัฐบาลแรกไม่มีการเลือกตังเพราะทุกคนให้ความเห็นชอบต่อ จอร์จ วอชิงตัน ผุ้นำการปฏิวัติ หลังจากนั้น เขายืนยันไม่ต่อวาระอีก และขอให้คนอื่นขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี เกิดความแตกแยกออกเป็นสองฝ่าย คือ กลุ่มการเมืองที่เน้นอำนาจรับฐาลกลาง กับ กลุ่มที่เน้นอำนาจมลรัฐเหนือรัฐบาลกลาง นำไปสู่การเกิดพรรคการเมืองสองพรรค จากนั้นนำมาสู่การเกิดพรรคเดโมแครตกับพรรควิก จนเมือมีปัญหาเรื่องทาศ ที่เป็นนโยบายระดับชาติฐานเสียงแยกกันระหว่างภาคเหนือที่ไม่เอาระบบทาสกับภาคใต้ที่สนับสนุนระบบทาส พรรควิกจึงสลายตัวไป เกิดเป็นพรรครีพับลิกันขึ้นมาที่ไม่สนับสนุนระบบทาส จำนำไปสุ่สงครามกลางเมืองและปลดปล่อยทาสในที่สุด

        จากนั้นระบบสองพรรคระหวางเดโมแครตกับรีัพบลิกัก็กลายเป็นระบบพรรคการเมืองที่ลงรากลึกในโครงสร้างเศราฐกิจระบบทุนนิยมและสภาบันการเมืองอเมิรกันที่ไม่อาจยุบหรือทำลายลงได้ไม่วาจะอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญก็ไม่อาจทำได้ ทั่งสองพรรคมีอุดมการณ์หลักและจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน รวมถึงฐานเสียงอของทั้งสองพรรค

         การเลือกตั้งเป็นเส้นเลือดใหย๋ในระบบการเมืองอเมิรกัน ข่าวการเลือกไพรมารีของทั้งสองพรรคตึ้งแต่ปลายปีที่แล้วถึงกลางเดือนสิงหาคมปีนี้แสดงวให้เห็นถึงความศักดิ์สิทะิ์ของการเลือกตั้งในอเมริกา มีการเลือกตัึ้งทุกระดับจากสวนกลาง มลรัฐ แขวง เมือง หมู่บ้าน ตำแหน่งมากมาย รวมถึงผุ้พิพากาษระดับมลรัฐ คณะกรรมการการศึกษา ในเมืองและอำเภอ ระบบเลือกตังอเมิรกาจึงเป็นระบบกระจายอำนาจด้วย จากการที่ประชาชนมีบทบาทหลักในการดำเนินการเลือกตั้ง ทำให้เกิดการดำเนินการเลือกตั้งไพรมารีหรือการเลือตั้งขั้นต้นสำหรับคัดเลือกผุ้สมัครเข้าแข่งเป็นสมาชิกสภาผุ้แทนราษฎรและผุ้วาการมลรัฐ ไม่ปล่อยให้อยุ่ในมือของแกนนำและผุ้มีอิทธิพลเข้ามาครอบงำเหนือพรรค ในระยะยาวกรรมการพรรคหมดอำนาจในการผูกขาดเหนือการเลือกผู้สมัครในการเข่งขันเลือกตั้งระดับต่างๆ ของพรรค จำต้องยอมให้การแต่งตั้งและการหาเสียงคนของพรรคในตำแหน่งต่างๆ ดำเนินไปโดยสมาชิกของพรรคการเมืองในมลรัฐและเมืองนั้น
เอง อีกด้านหนึงคือมีองค์กรทางสังคมอื่นๆ เช่น กลุ่มอาชีพ เอกชน รวมถึงอาสาสมัครเข้ามาทำหน้าที่ในการสนับสนุนควบคุมกำกับและให้คำเสอนแนะต่อพรรคว่าควรเลือกใหคร ควรแต่งตั้งใครให้เป็นอะไร เป็นต้น ในที่สุดระบบพรรคการเมืองลดบทบาททางสัคมลงไป กลายเป็นสภาบันหนึงมีบทบาทพอๆ กับสถาบันังคมอื่นๆ เพระาไม่ได้มีอำนาจพิเศษมากกว่าคนอื่น

        การออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตัง เป็นอำนาจของแต่ละมลรัฐจัดการดูแลการเลือกตั้งกันเอง ไม่มีกฎหมายเลือกตั้งซึ่งเป็นการละเมิดอำนาจในรัฐะรรมนูญเรื่องเสรีภาพทางการเมืองของพลเมือง รัฐะรรมฯุญอเมริกาจึงพุดถึงการจำกันสิทธิเสรีภาพประชาชนน้อยที่สุด แต่ควบคุมกำกับประธานาธิบดี(ฝ่ายบริหาร) และสมาชิกรัฐสภามากว่า ส่วนากรลงโทษก็ต้องกระทำโดยรัฐสภาคองเกรสเท่านั้น...https://www.the101.world/sanctity-of-us-elections/

           การเมืองอเมริกาไม่เคยหยุดนิ่ง ที่เป็นเช่นนี้มมีหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยทางการเมืองคือมีระบบที่มั่นคง รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสำคัญสุงสุด ปัจจัยทางเศรษฐกิจคือมีระบบทุนนิยมเสรีที่เปิดให้มีการแข่งขันเสรีของุทุกคน คนที่มีความสามารถ ทำให้ปัจเจกบุคลมีโอากสในการเคลือนไหวได้มาก ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมคืออเมริกาเป็นสังคมที่มีความหลากหลายทงเชื้อชาติศาสนาและสีผิว ทำให้มีประเด็นจุดประกายให้แก่การปะทะโต้แย้งกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะระบบที่พรรคการเมืองมีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกคนที่จะเข้าไปนั่งในรัฐสภาแห่งอำนาจ แต่ไม่เคยมียุคไหนที่าการเืองอเมริกันมีความชัดแย้งอย่างหนักเท่าสมัย
โดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2016 นับตั้งแต่เขาในช้วิธีการปกครองและบริหารรัฐบาลอย่างที่ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนก่อนๆ เคยทำกันมา ที่สำคัญือการใช้อำนาจของประธานาธิบดีอย่างไม่มีขีดจำกัด เป็นอำนาจอันล้นเกินที่เขาอ้างวามาจากรัฐะรรมฯุญ ที่ไม่มีการระบุการจำกัดอำนาจของหัวหน้าฝ่ายบริหารคือประธานาธิบดีไว้ นำไปสู่การประกาศคำสั่งในหลายเรือง เช่น การห้ามคนมุสลิมจากหกประเทศตะวันออกกลางเข้าสหรัฐฯ ด้วยข้อหาการกก่อการร้าย ปิดพรมแดนแม็กซิโก และจับกุมผุ้เขาประเทศผิดกฎหมายอย่ารุนแรง...https://www.the101.world/absolute-presidential-immunity/

          ไม่มีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งที่ชี้ชัดว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของภูมิทัศน์การเมืองสหรัฐฯ แต่ความเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุดอาจจะเป็นการชนะเลือกตั้งของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในสหรัฐฯ หลงจากทรัมป์ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี เราได้เห็น "แบล็ก ไลฟส์ แมทเทอร์" เห้นการขยายตัวของ กลุ่ม "ไวท์ ซูพรีมมาซิส" ไปจนถึง เหตุจลาจล  6 มกราคม 2021 ที่แสงให้เห็นว่าสังคมอเมริกันมีคามแตแยกในระดับที่ประนีประนอมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จากงานวิจัยจาอ พิว รีเสริซ์ เซ็นเตอร์ แสดงให้ห็นว่าการแบ่งฝ่ายแบ่งขั้นเร่ิมาตั้งแต่สมัยโอบามาแล้ว แต่อาการคอนนั้นอาจไม่รุนแรงเท่ายุค ทรัมป์

         มีงานวิจัยเกี่ยวกับทัศนาะของคนเอมิรกันต่อเหตุจลาจล 6 มกราคม จากผุ้ชุมนุมไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งแล้วบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา จากมหาวิทยาลัย แมริแลนด์ ทำร่วมกับ วอชิงตัน โพสต์ ให้ข้อมุลที่น่าสนใสจ คือตอนที่เหตุการณืเพ่ิงเกิดขึ้น นักกรมเืองรวมถึงผุ้สนับสนุนพรรครีพับลิกันต่างก็ประณามเหตุการณ์นั้น แต่พอผ่านมาสามปีมีการทำโพบนั้นอีกครั้งในปี 2024 พบว่าฝ่ายผุ้สนับสุนรีพับลิกันประณามเหตุการณ์นี้น้อยลง

         ผลสำรวจนี้สะท้อนว่าตอนการจลาจลเพิ่งเกิดขึ้นคนยังไม่ได้ตกผลึกำับเหตุการณ์นั้นอย่งเต็มที่ยิ่งเป็นเหตุกาณ์ที่ตนไม่เคยคาดคิดวาจะเกิดปฏิกิริยาจึงออกมาเป็นการต่อต้านและการมอืงว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีความชอบธรรม พอเวลาล่วงผ่านไปหลายปี ผุ้คนพยายามจัดการกับชุดขั้อมุลในหัวให้เป็นไปในทิศทางที่ตนเชื่อ เทรนด์เลยออกมาเป็นแบบนี้...https://www.the101.world/pongkwan-sawasdipakdi-interview/

            

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2567

"I'm coming back to Butler"

           โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาอย่างท้าทายอีกครั้งในวันเสาร์ที่เมืองเล็กๆแห่งในรัฐเพนซิลเวเนย ซึ่งเป็น
สถานที่ที่ทมือปืนพยายามยิงเขาระหว่างหาเสียงทีีมีผุ้สนับสนุนหลายพันคนเข้าร่วม

          อดีตประธานาธิบดีจะปรากฎตัวร่วมกับเจดี แวนซ์ คู่หูของเขชาในการเลือกตั้งเงดือนพฤศจิกายน รวมไปถึงสมาชิกครอบครัวของผุ้ที่ได้รับบาดเจ็บจารกการโจมตีเมือวัยที่ 13 กำกฎาคม เจ้าหน้าที่กุ้ภัย และเศรษฐกพันล้านด้านเทคโนโลบี อีลอน มัสก์

           ทรัปม์ ยืนกรานซ้ำแล้วซ็ำเล่าว่่าเขาต้องการกลับไปยังสถานที่เกิดการยิงซึ่งมีชายคนหนึ่งเสียชีวิตและผุ้เขัาร่วมงานได้รับบาเจ็บอีกสองคน ก่อนที่มือปืนจะถูกยิงเสียชีวิต

         "บัตเลอร์ได้กลายมาเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมาก ตอนนี้กลายเป็นนเมืออนุสรณืสภานไปแล้ว" ผุ้สมัครพรรครีับลิกันกล่าวในกรชุมนุมเมือเร็วๆ นี้ในมิลวอกี ทีมหาเสียงของทรัมป์กล่าวว่า "เขายอมถุกยิงเพื่อประชาธิปไตยในเมืองบัตเลอร์ และขาจะพุดต่อหน้ากระจกป้องกันเมือเขากลับมา

           ทรัมปื ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาะิบดีสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2017-2021 กำลังอยุ่ในช่วงกลางการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อชิงตำแหน่งสมัยที่สองในเดือนพฤศจิกายน และเพนซิลเวเนียถือเป็นรัฐสำคัญที่มีจังหวะชี้ขาด ในวันเสาร์นี้(วันนี้) ยังมีคูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอย่างวุฒิสมาชิกเจดี แวนซ์ และลูกชายของเขา เอริก ทรัมป์ เข้าร่วมด้วย

         "ผมจะไปที่นั่นเพื่อสนับสนุน" มัสก์เขียนบนแพลตฟรอ์มโซเชียลมีเดีย X และรีทวัตข้อความส่งเสริมการชุมนุมของทรัมป์ ซีอีโอ ของ "สเปซเอ็กซ์ และ เทสลา" มีความใกล้ชิดกับทรัมป์มากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

        อีลอน รีฟ มัสก์ เป็นนักธุรกิจและนักลงทุนที่รุ้จักกันในบทบาทสำคัญในบริษัทอวกาศ "สเปซเอ็กซ์" และบริษัทผลิตรถยนต์ "เทสล่า" ความเกี่ยวข้องอื่นๆ ได้แก่ การเป็นเจ้าของ "เอ็กซ์ ครอป." ซึ่งเป็ฯบริษัที่ดำเนินการแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดีย "เอ็กซ์" (เดิมเรียกว่า ทวิตเตอร์) และบทบาทของเขาในการก่อตั้ง บอริ่ง คอมปานี, เอ็กซ์ เอไอ, นิวรอลิงค์ และ โอเปน เอไอ เขาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งในโลก ณ เดือนสิงหาคม 2024 ฟอร์บส์ ประมาณการมูลค่าสุทธิของเขาอยุ่ที่ 247 พันล้านเหรียญสหรัฐ

            มัสก์ วัย 53 ปี ประาศเมือวันศุกร์ว่าเขาจะปรากฎตัวในงานที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ในวันถัดไป

            มัสก์มีส่วนรวมทางการเมืองมากขึ้นเมือการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนใกล้เข้ามา ดดยบ่อยครั้งที่ดพสต์เกี่ยวกับการสนับสนุนทรัมป์และโจมตีเดโมแครต เมือเดือนที่แล้ว มัสก์ลบโพสต์หนึ่งของเขาที่ระบุว่า "ใม่มีใครพยายาม" ที่จะลอลสังหารประธานาธิบดี โจ ไบเดน หรือรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นอดีตผุ้สมัครชิงตำแนห่งผระธานาธิบและปัจจบุันจากพรรคเดโมแครต

          ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทีเ่กิดขึ้น มัสก์ปัดความคิดเห็นของเขาไปโดยอ้างว่าเป็นเรื่องตลก "ปรากฎว่าเรืองตลกจะตลกน้อยลงมากหากผุ้คนไม่รุ้บริบทและถ่ายทอดออกมาเป็นข้อความธรรมดา" เขากล่าว

         เมื่อต้นปีนี้ มัสก์กล่าวว่าเขาบริจาคเงิน 45 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับคณะกรรมการดำนินการทางการเมือง ซึ่งสนับสนุนการลงสมัครของทรัมป์ 

         ทรัมป์มักพุกถึงมัสก์ในแง่ดีถึงชนาดบิกว่าเขาสนับสนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของมหาเศรษฐีรายนี้ แม้ว่าเขาจะโจมตีอุตสาหกรรมนี้มายาวนานโดยอ้างว่ามัน่งผลเสียตอ่คนงานในโรงงานผลติรถยนต์แบบดั้งเดิมก็ตาม

          ในเดือนสิงหาคม ทรัสมปืตกลงให้สัมภาษณ์กับมัสก์ในรายการ "เอ็กซ์" ระหว่างการสนทนานานกว่าหนึ่งชั่วโมง อีดตประะานาธิบดีกล่าวว่าเขาชื่นชมที่มัสก์ไล่พนักงานบางส่วนออกหลังจากที่พวกเขาร้อง
เรียนเกี่ยวกับสภาพการทำงาน "ผมชอบนะ" ทรัมป์กล่าว "ผมมองดุสิ่งที่คุณทำ คุณแค่เดินเข้าไปแล้วพุดว่า "คุณอย่ากลาออกไหม" พวกเขาหยุดงาน ฉันจะไม่เอ่ยชื่อบริษัท แต่พวกเขาหยุดงานแล้วคุณก็พอกว่า "ไม่เป็นไร คุณหายไปหมาด..คุณหายไปหมดทุกคน" 

           ทรัมป์ยังให้คำมั่นที่จะแต่งตั้งมัสก์ให้เป็นหัวหน้าสำนักงาน "ประสิทธิภาพของรัฐบาล" ที่เสนอไว้ ซึ่งจะลดกฎระเบียบและตรวจสอบสาขาอื่นๆ ของรัฐบาล

           การที่มัสก์สนับสนุนทรัมป์ไม่ใชืการก้าวเข้าสุ่วงการการเมืองครั้งแรกของเขา มัสก์เคยทะเลาะกับอเล็กซานเดร เด โมรเอส ผุ้พิพากษาศาลฎีกาของบราซิลอย่างเปิดเผย และนเดือนพฤษภาคม 2023 เขาได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับ รอน เดซาติส ผุ้ว่าการรัฐฟลอริดา ขณะที่นักการเมืองพรรครีพับลิกันประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงระยะสั้น

          เช่นเดียวกับการสนทนาระหว่างมัสก์กับทรัมป์ในเดือนสิงหาคม การสนทนนากับเอซานติสก็ถุกถ่ายทอดทาง ช่อง X และเต็มไปด้วยข้อผิดผลาด

          ความพยายามบอลสังหารในเดือนกรกฎาคมในเมืองบัตเลอร์กระตุ้นหให้เกิดการหารืออย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองในสหรัฐฯ เช่นเดียวกับคำถามเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่และการฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่หนวยข่าวกรองที่มีหน้าที่ปกป้องทรัมป์ มือปืนวัย 20 ปี โทมัส แมทธิว ครูกส์ เสียงชีวิตในที่เกิดเหตุเมือยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่

        เมือเดือนที่แล้ว ทรัมป์ยังเป็นเป้าหมายของการวางแผนบอลสังหารครั้งที่สองอีกดัวย ความพยายามดังกล่าวถูกขัดขวางโดยเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองซึ่งกำลังคุ้มกันอดีตประธานาธิบดีขณะที่เขากำลังเล่นกอล์ฟ ที่สนามกอล์ฟส่วนตัวของเขเาในฟลอริดาเจ้าหน้าที่รางานว่าเห็นปลายกระบอกปืนไรเผิลเล็งผ่านรั้วและเปิดฉากยิง 

         ไรอัน รูธ ผุ้ต้องสงสัยวัย 58 ปี ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา 5 กระทง รวมทั้ง "พยายามลอยสังหารผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี"

          สมาชิกครอบครัวขงอ "คอมเปเรเตอร์ไ หลายคน รวมทั้งผุ้คนอื่นๆ ที่เคยเข้าร่วมการชุมนุมครังแรกที่เมืองบัตเลอร์และเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินตอบรับ จะเข้าร่วมการชุมนุมในวันเสาร์นี้ด้วย

          "การที่ประธานาธิบดีทรัมป์หลับมาที่บัตเลอร์จะเป็นการยกย่องจิตวิญญาณอเมิรกัน" ทีมงานหาเสียงของเขาระบุในแถลงการณ์ "ในอเมริก เราจะไม่ปล่อให้สัตว์ประหลาดอย่างนักฆ่าชั่วร้ายมีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้าย" ...

          https://www.aljazeera.com/news/2024/10/5/elon-musk-to-join-trump-for-rally-at-site-of-first-assassination-attempt

         https://www.france24.com/en/live-news/20241005-bullet-for-democracy-trump-returns-to-site-of-rally-shooting

         https://en.wikipedia.org/wiki/Elon_Musk

          

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Latino

           ละตินอเมิรกาซึ่งทอดยาวจาทะเลทรารยทางตอนเหนือองเม็กซิโกไปถึงป่าน้ำแข็งของ "เทียร่า เอล
ฟิวโก ในชิลี และอาร์เจนตินาครอบคลุมประเทอศเหล่านี้ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคา ะอลก และพูด ภาษาสเปน เป็นหลัก แต่ด้วยประวัติศาสตร์ร่วมกันของการลาอาณานิคม โดยสเปน ประเทศเหล่านี้จึงมีความแกต่างกันอย่างน้อยเท่าๆ กับความคล้ายคลึงกัน ในสหรัฐอเมริกาคำว่า "ฮิสแปนิกฎ และ "ลาติน" (หรือ "ลาติดน่่าไ สำหรับผุ้หญิง บางครั้งเขียนเป็น "ลาติน่า" เพื่อให้เป็นกลางทางเพศ) ถูกนำมาใช้เพื่อพยายามจัดกลุ่มผุ้อพยพและลูกหลานของพวกเจาที่มาจากส่วนนี้ขอโลกอย่างหลวมๆ คำศัพท์ทั้งสองมักใช้แทนกันได้ แม้ว่าคำเหล่านี้อาจสือความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อยก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องชี้แจงว่าหมวดหมู่เหล่านี้หมายถึงต้นกำเนินและบรรพบุรุษของยุคคลเท่านั้น บุคคลลาติน/เอหรือ อิสแปนิกสามารถเป็นเชื้อชาติหรือสีผิวใดก็ได้

           หลังจาก เทย์เลอร์ สวิฟท์ สนับสนุน แฮร์ริส และโพสต์ข้อความถึงแฟนๆ 284 ล้านคนทาง "อินสตราแกรม" นักยุทธศาสตร์ของเดโมแครตบางคนก็แนะนำว่าการสนับสนุนจาก "แบด บันนี" ศิลปินชาวเปอร์โตริโกน่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งได้มากว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐเพนซิเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่เป็นแหล่งรวมผุ้มีสิทธิเลือกตั้งชาวเปอร์โตริโกราว 300,000 คน

          แต่เมือคนอเมริกันจำนวนมากนึกถึงเขตทางตะวันออกของเพนซิลเวเนียที่อุตสาหกรรมเร่ิมถอถอย รวมถึงเขตที่เป็นผุ้นำด้านการเลือกตั้งประธานาธิบดีเช่น นอร์ะแธมป์ตัน พวกเขาอาจจะนึกถึงเพลง "อัลเลนทาวน์" ของ บิลลี่ โจ มากกว่า "อูน่า วีลิต้า" ของ แบด บันนี้ ซึ่งเป็นเพลงงเกี่ยวกับผลพวงของพายุเฮริเคนมาเรีย

       ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และผุ้อำนวยการด้านการศึกษาลาตินอเมริกา ที่ เพนน์ สเตท คิดว่านักแสดงทั้สองคน นักร้องนักแต่งเพลงในตำนนานและศิลปินแนวเร็กเก และ แทร็ป ที่ได้รางวัลแกรมมี่ สามารถช่วยอธิบายภูมิประเทศทาสงการเมืองในรัฐคีย์สโตน ซึ่งถูกมองโดยทั่วไปว่าเป็นสรารบที่จะกำหนดประธานาธิบดีคนต่อไปได้

           ในปี 1982 เมื่อบิลลี โจเอล ยันทึกเพลงเหสร้ษเกี่ยวกับคนงานที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพราะ "พวกเขากำลังปิดโรงงานทั้งหมดลง " เขากำลังพรรยายถึงสภานการณ์ในเมืองเพธเลเฮม รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งอยุ่ห่างจากมืเองอัลเลนทาวน์ไป 6 ไมล์ 

          ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 บริษัม "เบธเทอร์เฮม สตีล คอร์ป." ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ได้เร่ิมเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคนแต่โจเอลพบว่าคำดังกล่าวไม่ได้คล้องจองกับคำว่ "เบธเทอร์เฮม" มากนัก เขาจึงใช้ชื่อเมืองใกล้เคียงแทน

         ในช่วงทศวรรษที่ 1970  เมืองอุตสหกรรมขนาดเล็กของเพนซิลเวเนีย เช่น เบธเลเฮม เฮเซิลตัน ยอร์ก เรดดิ้งและ แลงคาสเตอร์  เร่ิมมีประชากรลดลงและมีชีวิตลดลง และในหลายๆ กรณี เมืองเหล่านี้ก็มีจำนวนประชากรลดลงวมานานหลายทศวรรษแล้ว

        และสำหรับชาวอเมริกันจำนวนมาก โดยเฉพาะผุ้ที่อยุ่นอกรัฐเพนซิลเวเนียภาพลักษณ์ของเมืองเหล่า


นีไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่นั้นมา พวกเขายังคงนึกถึงเมืองเล็กๆ ที่มีคนงานโรงงานผิวขาวอาศัยอยุ่

          เมืองอัลเลนทาวน์ เบธเลฮม และเมืองอุตสหกรรมเก่าแก่แห่่งอื่นๆ ในเพนซิลเวเนียได้ฟื้นตัวอย่างน่าทึ่ง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการมาถึงของผู้อยุ่อาศยรายใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวละตินจากเปอร์โตลิโกและสาะารณรัฐโมินิกัน นับต้งแต่ทศวรรษ 1990 เมือยงใหม่เหล่านี้ได้ช่วยฟื้นฟูการเติบโตของประชากรสร้างครามมั่นคงให้กับตลาดที่อยุ่อาศัยและจัดหาแรงงานให้กับอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น การจัดเก็บสินค้าและการขนส่ง ปัจจุบัน เมืองอัลเลนทาวน์ มีชาวละติน 54% ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ้นต์ชาวละตินที่สุงกว่าเมืองลอสแองเจลิส 

        เมืองแลงคาสเตอร์ และยอร์กซึ่งมีชาวบะติน 40% และ 38% ตามลำดับมีสัดส่วนของละตินมากกว่า เมืองชิคาโกและนิวยอร์ก อย่างมีนัยสำคัญและเมืองเรดดิ้งซึ่งมีชาวละติน 69% มีชาวละตินเกือบเท่านเมืองไมอามีที่ 70% แน่นอนว่าจำนวนผุ้มีสิทธิเลือกตั้งชาวละตินทังหมดในเมืองใหญ่ทั้งสองแห่งนี้สุงกว่ามาก..

         จากการสำรวจของ พิว รีเซิร์ต เซ็นเตอร์ ในปี 2022 พบว่า ชาวละตินผุ้ใหญ่ในสหรับฯร้อยละ 60 กล่าวว่าเดโมแครตเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของ "คนที่ชอบพวกเขา" เมือเที่ยบกับร้อยละ 34 ที่กล่าวแบบเดียวกันเกี่ยวกับรีพับลิกัน ชาวละตินผู้มีสิทะิเลือกตังประมาณ 580,000 คนในเพนซิลเวนีย ถึงแม้ว่าชาวละตินจะมีแนวโน้มที่จะลงทะเบียนและลงคะแนนเสียงในอัตราที่ต่ำกว่าผุ้ลงคะแนนเสียงผิวขาวและผิวดำที่ไม่ใช่ชาวละตินมากก็ตาม แน่นอนว่าเป็นการกล่าวอ้างที่ง่ายเกินไปที่จะระบุให้ชัยชนะในระดับรัฐหรือประเทศอยุ่กับกลุ่มประชากรเพียงกลุ่มเดียว แต่ในการเลือกต้งที่สุสีเช่นนี้กาเรเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในผลต่างระกว่างกลุ่มสำคัญๆ เช่น ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งชาวละตินในเพนซิลเวเนียอาจกำหนดได้ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดี

         หลังจากการดีเบต ทิม วอลซ์ เดนิทางมาถึงร้านอาหารของชาวเปอร์ดตริโกในรฐเพนซิลเวเนีย ตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อพูดคุยกบผุ้มีสิทธิเลืิกตังชาวละติน  "เรื่องนี้จะลงมาที่รัฐ กำแพงสีน้ำเงินของเรา ลงมาที่เพนซิเวเนีย" ผุ้ว่าการรัฐมินมิโซตา กล่าวที่ร้่านอาหาร "โมฟองโก" ในขณะที่ลูค้าจิบเครื่องดืมสีสันสดใส "อาจจะมาผ่านร้านอาหารแห่งนี้" เขากล่าวเสริม

        ในเวลาเดียวกัน ห่างออกไปเพียงไม่กี่ช่วงตึก สำนักงานหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ก็เต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ขณะที่ผุ้สนับสนุนชาวละตินของอดีตประะานาธิบดีก็ดทรศัพท์คุยกันป็นภาษาอังกฤษและภาษาสเปน

         "ครอบครัว ชีวิต และสงคราส้ินสุดลงแล้วไ เฮราสกล่าวกับ ซีเอ็นเอ็น นี่คือเหตุผลที่นักอนุรักษ์นิยมทีอยุ่เคียงข้างทรัมป์มาอย่างยาวนาน ครอบครัว ชีวิต และการยุติสคราม

          ภาพสแน็ปซ้อตของความพยายามในการเข้าถึงที่ขัดแย้งกันในคืนวันะรรมดาที่มีผนตกนี้ทำให้เห็นภาพเล็กๆน้อยๆ ว่าคะแนนเสียงของชาวละติน มีความสำคัญเพียงใด ต่อแคมเปญของทรัมป์และกมลา แฮร์ริส ในเพนซิลเวเนีย 

          https://theconversation.com/latino-voters-are-a-growing-force-in-pennsylvanias-old-industrial-towns-and-they-could-provide-harris-or-trump-with-their-margin-of-victory-239796

          https://edition.cnn.com/2024/10/03/politics/pennsylvania-latino-voters-harris-trump/index.html

           https://www.britannica.com/story/whats-the-difference-between-hispanic-and-latino

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567

“October surprise”

           คนงานท่าเรือหลายหมื่อนคนทั่วสหรัฐฯ ร่วมกันหยุดงานประท้วงเมือวนอังคารเพือเรียกร้องค่าจ้างที่
สูงขึ้นและการคุ้มครองจากการใช้เครื่องจักร การเคลือนไหวใหญ่ของอุตสาหกรรามส่งผลให้การขนส่งสินค้าที่ท่าเรือ 36 แห่งต้องหยุดชะงัก และอาจทำให้เศราฐกิจของประทเศสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ทุกสัปดาห์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพียงเดือนเศษ

         สมาคมคนงานขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ ILA กล่าวว่าการหยุดงานครั้งนี้เป็น "การหยุดงานทัี้วปชายฝั่งครั้งแรกในรอบเกือบ 50 ปี" การปิดท่าเรือจะทำให้การขนส่งสินค้าจากท่าเรือ 36 แห่งหยุดชะงัก สงผลกระทบต่อสิค้าหลากหลายประเภท้งแต่อาหารไปจนถึงปุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอาจสงผลให้เศราฐกิจของสหรัฐสูญเสียรายได้ หลายพันล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์

         "เราพร้อมที่จะสุ้ให้นานเท่าี่จำเป็น เพื่อหยุดงานประท้วงเป็นระยะเวลนานเท่าที่จำเป็น เพื่อรับค่าจ้างและการคุ้มครองจากระบบอัตโนมัติที่สมชิก ILA ของเราสมควรได้รับ" ฮาโรลด์ แด็กเกตต์ ซึ่งเป็ฯหัวหน้าสหภาพแรงงานที่มีสมาชิก 85,000 คนกล่าวในแถลงการณ์

           การหยุดงานดังกล่าวเป็ฯความท้ัาทายที่ยากลำบากสำหรับทำเนียบขาวและแคมเปญหาเสียงอขงรองประธานาธิบดี แฮร์ริส เนือ่งจากทั้งสองฝ่ายต่างพยายามเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่สนับสนุนสหภาพแรงงาน ขณะเดียวกันก็ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบทางเศราฐฏิจใดๆ ในช่วงใหล้การเลือกตั้ง 

        ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ให้รัฐบาลกลางเชข้าแทรกแซงแต่กลุ่มล็อบบี้ภาคธุรกิจก็จะเรียกร้องให้ดำเนินการเพ่ิมมากขึ้น หากการหยุดงานยังคงลากยาวต่อไป 

          เคทรี้ โฮชูล์ ผุ้ว่าการ รัฐนิวยอร์ก กล่าวเมือวันจันทร์่า เจ้าหน้าที่ท่าเรือกำลังเร่งเคลียร์สิ่งของต่างๆ ออกไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่จะเกิดการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้น ท่าเรืออื่นๆ เช่น นิวออร์ลีนส์ ลุยเซียนา และซาวันนาห์ รัฐจอร์เจีย เสนอขยายเวลาทำการในช่วงไม่กี่วันก่อนกำหนดเส้นตามย 

 สหภาพแรงงานกดดันให้มีการคุ้มครองต่อการศุญเสียงานที่เกี่ยวข้องกับระบบอัตโนมัติ และการขึ้นค่าจ้างอย่างหนัก หลังจากคนงานท่าเรือยังคงให้บริการที่จำเป้นตลอดช่วงการระบาดของโควิด 19 

       กลุ่มเดินเรือ United States Maritime Alliance (USMX) กล่าวว่าข้อเสนอล่าสุดจะ "เพ่ิมค่าจ้างเกือบ 50% เพิ่มเงินสมทบของนายจ้างเข้าแผนเกษียณอายุของพนักงานเป็นสามเท่า เสริมสร้างทางเลือกด้านการดุแลสุขภาพ และควภาษาที่ใช้อยุ่ปัจจุบันเกี่ยวกับบระบบอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติ" 

           รายงานสือระบุว่า ILA กำลังเรียกร้องเพ่ิมค่าจ้างร้อยละ 77 ในช่วงเวลา 6 ปี...https://www.france24.com/en/live-news/20241001-us-dockworkers-launch-mass-strike-month-before-election

          ผุ้สังเกตการณ์การเมืองในสหรัฐฯ มักพูดกันถึง "ความประหลาดใจในเือนตุลาคม" ซึ่งอาจพลิกโฉมการแข่งขันชิงตำแหนงประธานาธิบดีในช่วงโค้งสุดท้าย

          เมือคนงานทาเรือกว่า 45,000 คนหยุดงานประท้วงที่ท่าเรือหลายสิบแห่งทั่วสหรัฐฯ ช่วงเวลาเช่นนี้อาจมาถึงแล้ว

          การตัดสินใจของสหภาพแรงงานคนงานขนถ่านสินค้าระหว่างประเทศ ILA ที่จะหยุดงานในอังคาร คุกคามที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการลงคะแนนเสียงที่จะมาถึง

         เจพี มอร์แกร ประมาณการก่อนการหยุดงานว่าการปิดท่าเรือทางชายฝั่งตะวันออกและอ่าวเม็กซิโกอาจทำให้เศรษฐกิจเสียหายถึ 5 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน

       ฮาโรลด์ แด็กเกตต์ ประธาน ILA เตือนว่าคนงานที่หยุดงานอาจ "ทำลายเศรษฐกิจ" หากสหภาพแรงงานเรียกร้องขอปรับขึ้นค่าจั้างร้อยละ 77 ในช่วงเวลา 6 ปี และไม่ยุติดครงการควบคุมท่าเรือให้ทำงานอัตดนมัติ เขากล่าวในคำปราศัยที่ออกอากาศทาง ฟ็อกนิวส์ ว่า ไรถยนต์จะไม่เข้ามา อาหารจะไม่เข้ามา เสื้อผ้าจะไม่เข้ามา คุณรู้ไหมว่ามีคนอีกกี่คนที่ต้องพึ่งพางานของเรา ครึ่งหนึ่งของโลก" 

      ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผุ้แสดงตนเป็นผุ้นำที่สนับสนุนสหภาพแรงงานมากที่สุดในประวัติสษสตร์สหรัฐฯ ได้แสดงการสนับสนุนต่อข้อเรียกร้องของคนงาน และปฏิเสธการเรียกร้องให้ใช้อำนาจที่มีอยุ่ในพระราชบัญญํติแทฟฟท์ฮาร์ตลีย์ ปี 1947 เพื่อสั่ีงให้คนงานกลับไปทำงาน


       ทั้งหมดนี้ถือเป็นสัญญาณอัตรายที่อาจเกิดขึ้นกับ แฮร์ริส ผในขณะที่เธอกำลังได้รับความไว้วางใจจากผุ้ลงคะแนนเสียงในประเด็นเศรษฐกิจ

        การสำรวจความคิดเห็นล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสซึ่งมามีคะแนนนำอย่างหวุดหวิดในผลสำรวจส่งนใหญ่ของการแข่งขัน ดดยไล่ตามอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในด้านผุ้ที่มีความเหมาะสมที่สุดในการบริหารเศราฐกิจ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งของเดโมแครตมาอย่างยาวนาน

        สาเหตุที่เป็นไปได้อย่างหนึ่งคือ ผุ้บริโภคชาวสหรัฐฯ วึ่งมักโทษไบเดนว่าเป็นเหตุให้สินค้าขึ้นราคา เร่ิมรู้สึกว่ากระเป๋าสตางค์ของตนไม่ลำบากอีกต่อไป หลังจาแตะระดับสูงสุดทีี่ 9.1% ในกลางปี 2022 อัตราเงินเฟ้อก็ลดลงเหลือเพียง 2.2% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบมากกว่าสามปีครึ่ง

         เมื่อเดือที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งถือเป็ฯสัญญาณอันทรงพลังว่าความกังวลเกี่ยวกับราคาที่พุ่งสุงในที่สุดก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว การที่ราคาพุ่งสุงขึ้นในขณะที่ประชาชนกำลังจะไปลงคะแนนเสียงนั้น ทำให้เกิดการรับรุ้ว่าเศราฐกิจได้พลิกกลับไปสู่จุดเพิมภายใต้การดุแลของเดโมแครตแล้ว ความเสียงส่วนใหญ่ของแฮร์ริสขึ้นอยุ่กับว่าผุ้มีสิทธิเลือกตั้งจะมองเธอในฐานะส่วนหนึ่งของรัฐบาลชุดปัจจุบันหรือเป็นผุ้สมัครเพื่อากรเปลี่ยนแปลงที่เธอพยายามนำเสนอต่อสาธารณะ

       แฮร์ริสถือเป็นผุ้ได้รับการเสนอชื่อที่ไม่ะรรมาดาเหนืองจาเธอเข้าร่วมการแข่งขันล่าช้ากว่ากำหนดต่อจากไบเดน ในเดือนกรกฎาคม แต่มีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าผุ้ลงคะแนนมองว่าเธอเป็นตัวแทนของการสานต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน

        ในการสำรวจความคิดเห็นของ นิวยอร์กไทม์/เซียน่า ที่เผยแพร่เมือต้นเดือน ผุ้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 55 กล่าวว่า แฮร์ริสเป็น "บุคคลประเภทเดิมๆ" มากกว่า เมือเที่ยบกับร้อยละ 34 ที่กล่าวแบบเดียวกันเกี่ยวกับทรัมป์

         ทรัมป์ไม่เสียเวลาในการพยายามเชื่อโยงการหยุดงานกับแฮร์ริส โดยตำหนิการหยุดงานว่าเป็นผลจาก "ภาวะเงินเฟ้อมหาศาลที่สร้างขึ้นโดรบะบอบการปกครองของแฮร์ริส-ไบเดน

  "ทุกคนเข้าใจคนงานท่าเรือ เพราะพวกเขาได้รัผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อเช่นเดียวกับคนทั่วไปในประเทศของเราและที่อื่นๆ "ทรัมป์กล่าวกับ ฟ็อกนิวส์ ดิจิตอล ไม่นานหลังจากการหยุดงานเร่ิมต้นขึ้น 

          ความพยายามใดๆ ของแอร์ริสที่จะแยกแยะตัวเองออกจากไบเดนในการหยุดงานก็มีความเสี่ยง โดยเฉพาะอยางยิ่งการทำให้สมาชิกสหภาพแรงงานที่โดยปกติแล้วลงคะแนนให้เดโมแครตไม่พอใจ ผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเหล่านี้คือกลุ่มที่แอร์ริสอาจลังเลเป็นพิเศษที่จะรับรองหลังจากที่สหภาพแรงงานสหภาพแรงงาน "อินเตอร์เนชันแนล บรอเทอร์ฮุด ออฟ เทมสเตอร์" ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ได้แหกกฎเดิมที่เคยสนับสนุนพรรคเดโมแครตเมือ่เดือนที่แล้ว ดดยปฏิเสะที่จะับรองผุ้สมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามทศวรรษ

         แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทราบได้ว่าการหยุดงานจะส่งผลต่อผลการเลือกตั้งอย่างไร แต่ทัีมหาเสียงของแฮร์ริสจะไม่พอใจที่ต้องจัดการกับความประหลาดใจเช่นนี้เมือเหลือเวลาอีกเพียง 5 สัปดาห์เท่านั้น...https://www.aljazeera.com/economy/2024/10/2/could-us-port-strike-be-the-october-surprise-that-trips-up-kamala-harris

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2567

VP debate 2024

           วอลซ์ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการโต้วาทีโดยพุดถึงโครงการที่เขาอางว่าได้ดำเนินการสำเร็จในรัฐ
มินนิโซตา เช่น การลาเพื่อดุแลครอบครัวแบบมีเงินเดือน สิ่งที่เขาควรจะทำในคืนวันอังคารคือการสนับสนุนกมลา แฮร์ริส 

           ในกรณีของการดีเบตระหว่างประธานาธิบดีดดนัลด์ ทรัมป์และกมลา แฮร์ริสของ ABC ผุ้ดำเนินรายการของ ซีบีเอส นิวส์ สร้างความอับอายแก่ตัวเองด้วยการชี้นำผุ้เขาแข้งขันจากพรรคเดโมแครตอย่างชัดเจน นอกจากนี้ มาร์การเร็ต เบรนแนนและโนราห์ โอดอนเนลล์จาก ซีบีเอส ยังแสดงท่าที่เหมือนเด็กเรียนที่โรงเรียน โดยกระตือรือร้นเกินไปที่จะควบคุมการดีเบตที่เป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างยิ่ง

           ตลอดการดีเบตที่กินเวลานานเกือบสองชั่วโมง แวนซ์ได้ถามคำถามที่สำคัญที่สุดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งทรัมป์ก็ถามเชนกันระหว่างการดีเบตของเขา แฮร์ริสอยุ่ในทำเนียบขาวมาเป็นเวลาสามปีครึ่งแล้ว ทำไมเธอถึงไม่ดำเนินการตามนโยบายในทำเนียบขาวมาเป็นเวลาสามปีครึ่งแล้ว ทำไมเธอถึงไม่ดำินินการตามนดยายที่เธออ้างวาจะช่วยแก้ปัญหาของประเทศได้

         แวนซ์ จนะการโต้แย้งเรื่องพรมแดน อย่างชัดเจน โดยระบุว่าแฮร์ริสคุยโวมาเป็นเวลาสามาปีแล้วว่าได้ยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดที่ทรัมป์กำหนดไว้เมือเบรนแนนท้าทายแวนซ์ว่าทรัมป์จะจัดการกับการแยกครอบครัวระหว่างการเนรเทศอย่างไร แวนซ์อ้างถึงรายาานที่น่าสยดสยองที่ระบุว่ากระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิไม่สามารถติดตามเด็กมากว่า 320,000 คนที่ถุกนำข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่าสลดใจและน่าสลดใจและน่าสลดใจที่เกิดจากพรมแดนเปิดของแฮร์ริส

         ไม่น่าแปลกใจที่การถกเถียงกันอย่างดุเดอืดในประเ็นการทำแท้งแวนซ์วิจารณืกำหมายของาินนิโซตาที่ลงนามดดยวอลซ์ซึ่งไม่กำหนดให้แพทย์ต้องทำทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการดูแลทารกที่รอดชีวิตจากการทำแท้งในระยะท้ายวอลซ์โต้แย้งลักษณะแฑาะดังกล่าว แต่แวนซ์พุดถูกในขณะเดียวกัน วอลซ์กล่าวหาว่าแวนซ์สนับสนุนการห้ามทำแท้งทั่วประเทศเป็นเวลา 15 สัปดาห์ แวนซ์อะิบายว่าเขามีความคิดเห็นเหมือนกับทรัมป์ที่ว่ารัฐต่างๆ มีหน้าที่กำหนดกฎระเบียบดังกล่าว

         ผุ้สมัครต่างก็ดต้เถียงกันในประเ็นอื่นๆ และโจมตีเพื่อร่วมทีพมของอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง แต่ท้ังคุ่ก็ยังคงมีสติสัมปชัญญะและห็นด้วยว่าในบางประเด็นเช่น ความปลอดภัยในโรงเรียนพวกเขาน่าจะหาจุดร่วมกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิงเมือพิจารณาจากกลยุทธ์ของแฮร์ริส วอลซ์ในการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและพยายามปกปิดวาระก้าวหน้าของพวกเขา เหตุการณ์นี้จึงเป็นประโยชน์อย่างมากสหรับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในอเมริกา https://www.foxnews.com/opinion/vance-vs-walz-debate-top-takeaways-from-vp-candidates-face-off

          การดีเบตระหว่าง ผู่สมัครรองประธานาธิบดี เจ. ดี. แวนซ์ และ ทิม วอลซ์ ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมากขันเรื่อย ในแวดวงการเมืองอเมริกันยุคใหม่ และถือเป็นเรืองปกติ

         ในเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเปลี่ยนวิถีการแข่งขันชิงตำแหน่งประะนาธิบดีทั้งสองฝ่ายพุ่งเป้าไปที่ผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของแต่ละฝ่าย และเน้นไปที่ความแกต่างของนโยบายเป็นสวนใหญ่ แวนซ์โจมตีแฮร์ริสซ้ำแล้วซ้ำเล่เกี่ยกวับความปลอดภัยที่ชายแดน ขณะที่วอลซ์โจมครอดีตประะานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์เกี่นยวกับสิทธิในการทำแท้ง เมื่อเริ่มการดีเบตบนเวที โดยภาพรวม แวนซ์ ดุจะมีความได้เปรียบมากกว่า ทิม วอลซ์ อยุ่เล็กน้อย 

         การอภิปรายส่วนใหญ่เน้นไปที่ประเด็นในประเทศ ผุ้ดำเนินรายการของซีบีเอสเป็นายการด้วยคำถามเกี่ยวกับความขัดแย้งทีททวีความรุนแรงขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน แต่ไม่ได้ถามเกี่ยวกับการสนับสุนนของสหรัฐฯ ต่อยูเครนในการทำสงครารมกับรัสเซีย

        การดีเบตที่ปกติอย่างผิดปกติจบลงด้วยช่วงเวลาปกติที่สดขื่นอีกครังซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการดีเบตชิงตำแหน่งประะานาธิบดีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผุ้สมัครต่างจับมือและพุดคุยกันนอกไมโครโฟน และยังคงพุดคุยต่อไปในขณะที่ภรรยาของพวกเขาเข้าร่วมด้วย

        ความแตกแยกที่ชัดเจนที่สุดในคืนนี้เกิดขึ้นเมือง วอลซ์ ทำให้ แวนซ์ ตกที่นั่งลำบากระหว่างการอภิปรายเกี่ยวกับเหตุกาณ์กบฎเมือวันที่ 6 มกราคม 2021 และข้ออ้างอันเป็นเท็จของทรัมป์ว่าเขาชนะการเลือกตัึ้งปี 2020 

        การดดีเบตระหว่งรอบประะานาธิบดีครั้งนี่สะท้อนให้เห็นถึงวิะีที่คนอเมริกันทั่วไปถกเถียงกันเกี่ยวกับประเด็นที่ขัดแย้งกัน  ไม่มีการเรียกขื่อ ไม่มีการเหน็บแนม และมีคำสั่งชัดเจนสำหรับทั้งแวนซ์และวอลซ์ว่าอย่าพุดเรื่องส่วนตัว เว้นแต่พวกเขารจะเห็นด้วยอย่างจริงจังว่าเป็ญหาเหล่านั้นเป็นปัญหาจริงๆ วิกฤตที่อยู่อาศัยเป็นวิกฤต ทั้งคู่เห็นด้วยว่าความรุนแรงจากอาวุธปืนต้องลดลง

        "ทิมเพิ่งพุดถึงแนวคิดหล่ายอย่าง ตอนนี้ แันคิดว่าแนวคิดบางอย่างนั้นดีในระดับหนึ่ง และบางอย่งแัไม่เห็นด้วย "แวนซ์กล่าว ก่อนจะกลับมามีสมาธิอีกครั้งและเสริมว่า "แต่ส่ิงที่สำคัญที่สุดคือ กมลา แฮร์ริสไม่ได้ลงสมัครในฐานะผุ้มารใหม่ในวงการเมือง เธอเป็นรองประธานาธิบดี"

        ระหว่างการอภิปรายเกี่ยวกับการย้ายถ่ินฐานและความปลอดภัยที่ชายแดน วอลซ์ได้อ้างถึงข้ออ้างอันเท็จ ของแวนซ์ เกี่ยวกับผุ้อพยพชาวเฮติที่กินสัตว์เลึ้ยงของชาวเมืองในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ "เรื่องนี้จะมีผลกระทบตามมา" วอลซ์กล่าว โดยชี้ให้เห็นว่า ไม่ค์ เดอไวน์ผุ้ว่าการรัฐโอไฮโอ ซึ่งเป็ฯพรครีพับลิกัน ได้ส่งตำรวจรัฐไปที่ปริงฟิลด์เพื่อดุแลความปลอดภัยของเด็กๆ หลังจากที่ได้รับคำขู่วางระเบิดหลายครั้ง แวนซ์ โต้กลับว่า "คนที่ีฉันห่วงใยมากที่สุดในสปริงฟิลด์คือพลเมืองอเมริกัน" 

       การตั้งคำถามต่อคำกล่าวอ้างของ วอลซ์ เกี่ยวกับความถี่ในการเดินทางไปจีน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าว่ามากถึง "ประมาณ 30 ครั้ง" รายงานดังกล่าวแย้งกับคำกล่าวอ้างดังกล่าว และเมือถูกถามถึงรายงานและความคล่ดเคลือน โฆษกของแคมเปญหาเสียงของแฮร์ริสกล่าวว่า "น่าจะใกล้เคียง 15 เท่า" 

       และเมื่อถุกถามตรงๆ ในระหว่างการดีเบต วอลซ์ก็พุดขัด โดยอะิบายถึงการเติบโตและความก้าวหน้าขบองเขาในแวดวงการเมืองการเลือกตั้งก่อนจะยอมรับว่าบางครังเขาอาจมัวแต่ยึดติดกับช่วงเวลานั้น จนกลายเป็น "คนโง่เขลา" และเขาก็บอกว่าเขา "พุดจาไม่ดี" 

        แวนซ์ไม่ได้พยายามหาประโยชน์โดยตรงจาการยอมรับของวอลซ์ แต่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ในคำถามอื่นไม่นานหลังจากนั้น โดยกล่าวว่า "เมื่อคุณพุดผิด คุณควรจะซื่อสัตย์กับคนอเมริกันเกี่ยวกับเรื่องนั้น" 

          สิทธิของรัฐหรือสิทธิมนุษยชน นั่นคือประเด็นสำคัญของการถกเถียงระหว่างวอลซ์และแวนซ์เกี่ววกับสิทธิในการ่ทำแท้ง แน่นอนว่าผุ้สมัครทั้งสองคนเกตรียมตัวมาเพื่อหาเรือเกี่ยวกับประเด็นนี้ แต่สิ่งที่สะดุดตาคือีความชัดเจนของทังสองฝ่าย

           แวนซ์และวอลซ์พุดคุยกันอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับความรุนแรงจากอาวุธปืนในอเมริกา โดยเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นเรื่องเลวร้ายและเลวร้ายลงเร่อยๆ และต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะอยางในโรงเรียน

           แวนซ์ถุกถามถึงประเด็ฯที่ว่าา "แนวคิดเรื่องแผน" ที่ีทรัมป์อ้างในการดีเบตครั้งล่าสุดซึ่งเขาต้องแทนที่ แอฟฟรอดเดเบิล แคร์ แอค จะใช้ไดผลหรือไม่..วอลซ์โจมตีอย่างหนัก โดยเน้นย้ำถึงคำมั่นสัญญาของทรัมป์ในปี 2016 ที่จะยกเลิกกฎหมายลายเซ็นของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่ง วอลซ์ ตั้งข้อสังเกตว่าความพยายามดังกล่าวจะประสบความสำเร็จ หากอดีตวุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน ไม่ลงคะแนนเสียงชี้ขาดต่อต้านการเพิกถอน ....https://edition.cnn.com/2024/10/01/politics/vp-debate-takeaways-vance-walz/index.html

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567

A presidential campaign to tell the American story

            เรื่องราวของอเมริกา เป็นเรื่องที่ไม่น่่าจะเป็นไปได้ เต็มไปด้วยความพลิกผันที่บงครั้งู้สึกเหมือน
"ภาพยนตร์" อย่างที่ใครๆพุด-ถือเป็นแก่นกลางของวัฒธรรมอิมิกันด้วยเหตุผลที่ไม่เหมือนใคร

            ชาวอเมริกันอาศัยอยู่ในสังคมเพียงไม่กี่แห่งที่ไม่ได้สร้างขึ้นจากวัฒะรรมร่วมหลายร้อยี แต่สร้างขึ้นจาะเรื่องราวต่างๆ ในตัวมันเองเช่น "เมืองที่ส่งอประกายบนเนินเขา" "ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข" "มนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน" แม้แต่แคมเปญโฆษณาที่น่าจดจำ เช่น "เบสบอล ฮอทดอก พายแอปเปิด และเชฟโรเลต" ก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนี้ ในบางแง่ สหรัฐอเมิรกา ซึ่งไม่ใช่เรื่องยังเอิญที่เป็นสถานที่ที่ตำนานชายแดนอย่างฮอลลีวูดและเมดิสันอเวนิวถือกำเนิดขึ้น ได้มุ่งมั่นที่จะดำรงอยุ่และมีความสำคัญด้วยการเล่าเนื่องราวของตนซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปเรื่อยๆ 

          แคมเปญเข้าใจเรื่องนี้ดี พวกเขาจึงเสนอเรื่องรวในอเมริกา 2 เวอร์ชันที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจบอกว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

          พรรครีพับลิกั ีเรื่อราวที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือ การยืนกรานว่าหากเราต้องการ "ทำให้ประเทศอเมรกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง" ในอนาคตเราต้องต่อสู้เพื่อฟื้นคืนคุณค่าแบบดั้งเดิม และเรียกร้องคุณธรรมและความกล้าหาญของรุ่นก่อนๆ กลับมา ในสุนทรพจน์ที่การประชุมใหญ่เมือเดือนที่แล้ว ทรัมป์ได้อ้างถึงความชัดแย้งสามประการ ได้แก่ สงครามปฏิวัติ สงครามกลางเมือ และสงครามโลกครั้งที่สอง  เพื่อเรียกร้องความรุ่งโรจน์ของประวัติศาสตร์อเมริกา

          เพื่อเสริมวิสัยทัศน์ของตน พรรครีพัลบลิกันได้ส่งนักดนตรีอย่าง "คิด ร็อค" นักมวยปล้ำชื่อดัง "ฮองค์
โฮเกน" และ "ลี กรีนวูด" มาร่วมร้องเพลง "ก็อด บลีซ เดอะ ยูเอสเอ." ทรัมปืคุกเข่าลงกับชุดดับเพลิงของ คอรี้ย์ คอมเปอร์เรเทอร์ ซึ่งถูกฆ่าตายในการพยายามบอลสังหารผุ้สมัครรับเลือกตั้งไม่กี่วันก่อนหน้านี้ แวนซ์ พูดถึง "คนร้าย" และเล่าเรื่องราวการเติบโตในแถบเทือกเขาแอพบเลเชียนที่เขาเล่าใน "ฮิลบิลลี่ อีลีจี้"

         พรรครีพบลิกัมีักจะอนเอียงไปตามเรืืองราวทางการทหาร โดยนำครอบครัวทหารที่เสียชีวิตมาวิพากษ์วจารณ์ภาวะผุ้นำที่ "อ่อนแอ" ของประะานาะิบดี โจ ไบเดน และพวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อบริหารจัดการฐานเสียงของตนเอง อุชา ภรรยาของแวนซ์ ซึ่งมีเชื่อสายอินเดียยกย่อเขาว่าเป็น "คนประเภทที่กิเนื่องและมันฝรั่ง" ซึ่งเป็นสำนวนอเมริกันแลลคลาสสิก ในขณะเดียวกันก็เน้นย้ำว่าเขาเคารพอาหารมังสวิรัติของแม่เธอและได้เรียนรุ้วิธีทำอาหารอินเดียให้แม่ของเธอ

 "ฉันพูดอะไรได้อีกในเมือไม่มีใครเคยพุดมาก่อน" เธอกล่าวและแนะนำแวนซ์ "ท้ายที่สุดแล้ว ผุ้ชายคนนี้ก็เป็นตัวละครหลักในหลังของรอนโฮเวิร์ตอยู่แล้ว" 

         พรรคเดโมแครต การประชุมที่่ผ่ามามุ่งเน้นไปที่อนาคตใหม่และแตกต่าง เต็มไปด้วย "ความสุข" และปราศจากสิ่งที่ พีท บัตติจิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรียกว่า ไการเมืองที่มืดมนของทรัมป์ " ซึ่งเปรียบเสมือนกับ "สตารร์ วอร์ส" อย่างแท้จริง

          เป็นเรื่องยากที่จะละเลยที่พรรคเดโมแครตไม่เพียงแต่รวมคัวกันเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหลายเชื้อชาติและหลายวัฒนะรรมที่แฮร์ริสเป็นตัวแนเท่านั้น แต่ในเวลาเดียวกันก็พยายามอย่างเป็นระบบที่จะเรียกคืนส่วนที่พุตรงไปตรงมาของประวัติศาสตร์อเมริกันที่อยุ่ในมือของพรรครีพัลลิกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

          มีธงชาติอยุ่ทุกหนทุกแห่ง เช่นเดียวกับแนวคิดเรื่องเสรีภาพ ทิม วอลซ์ ร้องเพลิง "สมอล ทาวน์ไ ของ จอห์น เมเลนแคมป์ ซึ่งเป็นเพลงสรรเสริญวิสัยทัศน์ของอเมริกาที่พรรครีพับลิกันมีกจะยกย่องวุฒิสมาชิก เอมี่ คลอบัชเชอร์ จากรัฐมินนิโซตา ได้อธิบายถึงลักษณะนิสัยของ วอลซ์ ที่เป็นผุ้ชายธรรมดาๆ เช่น คนที่สามารถเปลี่ยนไฟรถได้เป็นนักล่า และเป็น "คุณพ่อที่สมชุดลายสก็ต" 

           นอกจากนี้ เขายังขุดคุ้ยประวัติ ของอดีตครูสอนภูมิศาสตร์ในฐานะโค้ชฟุตบอลด้วยโดยมีหนุ่มร่างใหญ่สามเสื้อทีม แอนคาโต เวสต์ สแครเล็ทส์ กระจายออกไปทั่วเวทีพร้อมกับเพลง "เดอะ ฮอลส์ ออฟ มอนเทซูมา" ของวงโยธวาทิต พวกเขายังได้ขอให้อดีตสมาชิกสภาคองเกรสของพรรครีพับลิกันคนหนึ่งช่วยย้ำภาพลักษณ์ทั้งหมดโดยพูดส่วนที่เงียบๆ ออกมาดังๆ 

เมือชมวิโีโอและคำรับรองจากทั้งสองงานสัมปนา เทคนิคการเล่รเรือ่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับก็คือเรื่องราวที่นักข่าวเรียกว่า "เรื่องราวที่เน้นที่ตัวละคร" ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง การเตือนเกี่ยวกับการอพยพยเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายจำนวนมาก หรือการระบายความดกระเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ชาวอเมริกัน "ทั่วไป" กลายมาเป็นรากฐานของการเล่าเรื่องสำหรับปัญหาระดับชาติ

          นักประวัติศาสตร์ "ฮีทเชอร์ ค็อค ริชาร์ดสัน" ได้กล่ายถึง DNC ไว้ดังนี้ในบท "ซับสแตค" ของเะอเรื่อง "เล็ทเทอร์ ฟร์อม แอน อเมริกา" เมือสัปดาห์ที่ผ่านมา "เรื่องราวต่างๆ มากมายที่ชาวอเมริกันทั่วไปสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ผ่านการทำงานหนัก ความมีคุณธรรม และกาารรับใช้ผุ้อื่นั้น ล้วนเชื่อมโยงการต่อสู้ดินรนของแต่ละคนเข้ากับการต่อสู้ดิ้นรนของสหรัฐอเมริกาเองโดยปริยาย" 

        ในเจเนอเรชั่นที่ผ่านมา เครื่องทมทือในการเล่าเรื่องมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ตานนี้เราทุกคนต่างก็เป็นผุ้ะผยแพร่ไม่ว่าจะเป็นบน X , ติกตอก, อินสตาแกรม, ทรัสท์ โซเชียล และเราทุกคนต่างก็เป็นนักเล่าเรื่องที่เล่รเรืองราวอเมริกันในรุปแบบย่อๆ ในแบบที่เราต้องการ มุมมองที่ถุกปิดปากและกดขี่มานานกำลังถุกเปิดเผย 

       หากมองข้ามคำถามเรื่องความจริงและข้อมูลที่ผิดพลาดไปสักครู่เราจะรวบรวมเรื่งอของอเมริกาที่เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร เมือผุ้คนหลายร้อยล้านคนสามารถบอกเล่าเรืองราวเหล่านั้นได้ในรูแบบที่แตกรต่างและจากมุมองของตนเอง การสร้างประชาธิปไตยนั้นมีประโยชน์แต่ก็อาจเกิดความวุ่นวายและเข้าใจได้ยากเช่นกัน

        "ประชาชนที่ไม่สามารถยืนหยัดร่วมกันได้นั้นไม่สามารรถยืนหยัดอยุ่ได้เลย" กวี อแมนดา กอร์แมน กล่าวในคำปราศรยของเธอที่ DNC แต่เมือมีเรื่องราวมารกมายที่ต้องคัดแยก ความสามัคคีนั้นยากยิ่งวกว่าที่เคยหรือไม่มี ไเร่องราวอเมริกัน" เพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อมดยงถึงกันหรือไม่ควรมีหรือไม่มี "เรื่องราว


อเมริกัน" เพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อมโยงถึงกันหรือไม่ ควารมีหรือไม่

         ในท้ายที่สุด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นเรื่องของการเล่าเรืองมากกว่าที่เคย เพราะเรื่องราวที่ดังที่สุดแลน่าเชื่อที่สุด ซึ่งบอกเล่าอย่างชาญฉลาดด้วยเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาถขอศตวรรษที 21 มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะในวันนั้น

        ในระหว่างนี้ ความยพายามที่จะยึดครองและขยายความเรือ่งราวดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไป จนถึงวันเลือกตั้งและต่อจากนั้น ตราบใดที่ยังมีชาติอเมริกาอยู่ ก็จะมีผุ้ัคนนับล้านที่พยายามบอเราวาเรื่องราวนั้นหมายถึงอะไร อย่างสิ้นหวัง โกรธเคือง มองโลกในแง่ดี และน่ำดึงดูดใจ เรื่องเราวเป็นอาวุธที่ทรงพลัง และเป็นอุปมาอุปไมยที่ทรงพลัง เช่นกัน ดังที่วอลซืกล่าวเกี่ยวกับการทิ้งทรัมป์และแวนซ์ไว้ขางหลัง "ฉันพร้อมที่จะพลิกหน้ามแล้ว"  https://apnews.com/article/election-2024-american-story-conventions-68aad96e58a7786c2603544f606cf8ed

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...