วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567

A presidential campaign to tell the American story

            เรื่องราวของอเมริกา เป็นเรื่องที่ไม่น่่าจะเป็นไปได้ เต็มไปด้วยความพลิกผันที่บงครั้งู้สึกเหมือน
"ภาพยนตร์" อย่างที่ใครๆพุด-ถือเป็นแก่นกลางของวัฒธรรมอิมิกันด้วยเหตุผลที่ไม่เหมือนใคร

            ชาวอเมริกันอาศัยอยู่ในสังคมเพียงไม่กี่แห่งที่ไม่ได้สร้างขึ้นจากวัฒะรรมร่วมหลายร้อยี แต่สร้างขึ้นจาะเรื่องราวต่างๆ ในตัวมันเองเช่น "เมืองที่ส่งอประกายบนเนินเขา" "ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข" "มนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน" แม้แต่แคมเปญโฆษณาที่น่าจดจำ เช่น "เบสบอล ฮอทดอก พายแอปเปิด และเชฟโรเลต" ก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนี้ ในบางแง่ สหรัฐอเมิรกา ซึ่งไม่ใช่เรื่องยังเอิญที่เป็นสถานที่ที่ตำนานชายแดนอย่างฮอลลีวูดและเมดิสันอเวนิวถือกำเนิดขึ้น ได้มุ่งมั่นที่จะดำรงอยุ่และมีความสำคัญด้วยการเล่าเนื่องราวของตนซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปเรื่อยๆ 

          แคมเปญเข้าใจเรื่องนี้ดี พวกเขาจึงเสนอเรื่องรวในอเมริกา 2 เวอร์ชันที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจบอกว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

          พรรครีพับลิกั ีเรื่อราวที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือ การยืนกรานว่าหากเราต้องการ "ทำให้ประเทศอเมรกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง" ในอนาคตเราต้องต่อสู้เพื่อฟื้นคืนคุณค่าแบบดั้งเดิม และเรียกร้องคุณธรรมและความกล้าหาญของรุ่นก่อนๆ กลับมา ในสุนทรพจน์ที่การประชุมใหญ่เมือเดือนที่แล้ว ทรัมป์ได้อ้างถึงความชัดแย้งสามประการ ได้แก่ สงครามปฏิวัติ สงครามกลางเมือ และสงครามโลกครั้งที่สอง  เพื่อเรียกร้องความรุ่งโรจน์ของประวัติศาสตร์อเมริกา

          เพื่อเสริมวิสัยทัศน์ของตน พรรครีพัลบลิกันได้ส่งนักดนตรีอย่าง "คิด ร็อค" นักมวยปล้ำชื่อดัง "ฮองค์
โฮเกน" และ "ลี กรีนวูด" มาร่วมร้องเพลง "ก็อด บลีซ เดอะ ยูเอสเอ." ทรัมปืคุกเข่าลงกับชุดดับเพลิงของ คอรี้ย์ คอมเปอร์เรเทอร์ ซึ่งถูกฆ่าตายในการพยายามบอลสังหารผุ้สมัครรับเลือกตั้งไม่กี่วันก่อนหน้านี้ แวนซ์ พูดถึง "คนร้าย" และเล่าเรื่องราวการเติบโตในแถบเทือกเขาแอพบเลเชียนที่เขาเล่าใน "ฮิลบิลลี่ อีลีจี้"

         พรรครีพบลิกัมีักจะอนเอียงไปตามเรืืองราวทางการทหาร โดยนำครอบครัวทหารที่เสียชีวิตมาวิพากษ์วจารณ์ภาวะผุ้นำที่ "อ่อนแอ" ของประะานาะิบดี โจ ไบเดน และพวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อบริหารจัดการฐานเสียงของตนเอง อุชา ภรรยาของแวนซ์ ซึ่งมีเชื่อสายอินเดียยกย่อเขาว่าเป็น "คนประเภทที่กิเนื่องและมันฝรั่ง" ซึ่งเป็นสำนวนอเมริกันแลลคลาสสิก ในขณะเดียวกันก็เน้นย้ำว่าเขาเคารพอาหารมังสวิรัติของแม่เธอและได้เรียนรุ้วิธีทำอาหารอินเดียให้แม่ของเธอ

 "ฉันพูดอะไรได้อีกในเมือไม่มีใครเคยพุดมาก่อน" เธอกล่าวและแนะนำแวนซ์ "ท้ายที่สุดแล้ว ผุ้ชายคนนี้ก็เป็นตัวละครหลักในหลังของรอนโฮเวิร์ตอยู่แล้ว" 

         พรรคเดโมแครต การประชุมที่่ผ่ามามุ่งเน้นไปที่อนาคตใหม่และแตกต่าง เต็มไปด้วย "ความสุข" และปราศจากสิ่งที่ พีท บัตติจิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรียกว่า ไการเมืองที่มืดมนของทรัมป์ " ซึ่งเปรียบเสมือนกับ "สตารร์ วอร์ส" อย่างแท้จริง

          เป็นเรื่องยากที่จะละเลยที่พรรคเดโมแครตไม่เพียงแต่รวมคัวกันเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหลายเชื้อชาติและหลายวัฒนะรรมที่แฮร์ริสเป็นตัวแนเท่านั้น แต่ในเวลาเดียวกันก็พยายามอย่างเป็นระบบที่จะเรียกคืนส่วนที่พุตรงไปตรงมาของประวัติศาสตร์อเมริกันที่อยุ่ในมือของพรรครีพัลลิกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

          มีธงชาติอยุ่ทุกหนทุกแห่ง เช่นเดียวกับแนวคิดเรื่องเสรีภาพ ทิม วอลซ์ ร้องเพลิง "สมอล ทาวน์ไ ของ จอห์น เมเลนแคมป์ ซึ่งเป็นเพลงสรรเสริญวิสัยทัศน์ของอเมริกาที่พรรครีพับลิกันมีกจะยกย่องวุฒิสมาชิก เอมี่ คลอบัชเชอร์ จากรัฐมินนิโซตา ได้อธิบายถึงลักษณะนิสัยของ วอลซ์ ที่เป็นผุ้ชายธรรมดาๆ เช่น คนที่สามารถเปลี่ยนไฟรถได้เป็นนักล่า และเป็น "คุณพ่อที่สมชุดลายสก็ต" 

           นอกจากนี้ เขายังขุดคุ้ยประวัติ ของอดีตครูสอนภูมิศาสตร์ในฐานะโค้ชฟุตบอลด้วยโดยมีหนุ่มร่างใหญ่สามเสื้อทีม แอนคาโต เวสต์ สแครเล็ทส์ กระจายออกไปทั่วเวทีพร้อมกับเพลง "เดอะ ฮอลส์ ออฟ มอนเทซูมา" ของวงโยธวาทิต พวกเขายังได้ขอให้อดีตสมาชิกสภาคองเกรสของพรรครีพับลิกันคนหนึ่งช่วยย้ำภาพลักษณ์ทั้งหมดโดยพูดส่วนที่เงียบๆ ออกมาดังๆ 

เมือชมวิโีโอและคำรับรองจากทั้งสองงานสัมปนา เทคนิคการเล่รเรือ่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับก็คือเรื่องราวที่นักข่าวเรียกว่า "เรื่องราวที่เน้นที่ตัวละคร" ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง การเตือนเกี่ยวกับการอพยพยเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายจำนวนมาก หรือการระบายความดกระเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ชาวอเมริกัน "ทั่วไป" กลายมาเป็นรากฐานของการเล่าเรื่องสำหรับปัญหาระดับชาติ

          นักประวัติศาสตร์ "ฮีทเชอร์ ค็อค ริชาร์ดสัน" ได้กล่ายถึง DNC ไว้ดังนี้ในบท "ซับสแตค" ของเะอเรื่อง "เล็ทเทอร์ ฟร์อม แอน อเมริกา" เมือสัปดาห์ที่ผ่านมา "เรื่องราวต่างๆ มากมายที่ชาวอเมริกันทั่วไปสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ผ่านการทำงานหนัก ความมีคุณธรรม และกาารรับใช้ผุ้อื่นั้น ล้วนเชื่อมโยงการต่อสู้ดินรนของแต่ละคนเข้ากับการต่อสู้ดิ้นรนของสหรัฐอเมริกาเองโดยปริยาย" 

        ในเจเนอเรชั่นที่ผ่านมา เครื่องทมทือในการเล่าเรื่องมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ตานนี้เราทุกคนต่างก็เป็นผุ้ะผยแพร่ไม่ว่าจะเป็นบน X , ติกตอก, อินสตาแกรม, ทรัสท์ โซเชียล และเราทุกคนต่างก็เป็นนักเล่าเรื่องที่เล่รเรืองราวอเมริกันในรุปแบบย่อๆ ในแบบที่เราต้องการ มุมมองที่ถุกปิดปากและกดขี่มานานกำลังถุกเปิดเผย 

       หากมองข้ามคำถามเรื่องความจริงและข้อมูลที่ผิดพลาดไปสักครู่เราจะรวบรวมเรื่งอของอเมริกาที่เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร เมือผุ้คนหลายร้อยล้านคนสามารถบอกเล่าเรืองราวเหล่านั้นได้ในรูแบบที่แตกรต่างและจากมุมองของตนเอง การสร้างประชาธิปไตยนั้นมีประโยชน์แต่ก็อาจเกิดความวุ่นวายและเข้าใจได้ยากเช่นกัน

        "ประชาชนที่ไม่สามารถยืนหยัดร่วมกันได้นั้นไม่สามารรถยืนหยัดอยุ่ได้เลย" กวี อแมนดา กอร์แมน กล่าวในคำปราศรยของเธอที่ DNC แต่เมือมีเรื่องราวมารกมายที่ต้องคัดแยก ความสามัคคีนั้นยากยิ่งวกว่าที่เคยหรือไม่มี ไเร่องราวอเมริกัน" เพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อมดยงถึงกันหรือไม่ควรมีหรือไม่มี "เรื่องราว


อเมริกัน" เพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อมโยงถึงกันหรือไม่ ควารมีหรือไม่

         ในท้ายที่สุด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นเรื่องของการเล่าเรืองมากกว่าที่เคย เพราะเรื่องราวที่ดังที่สุดแลน่าเชื่อที่สุด ซึ่งบอกเล่าอย่างชาญฉลาดด้วยเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาถขอศตวรรษที 21 มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะในวันนั้น

        ในระหว่างนี้ ความยพายามที่จะยึดครองและขยายความเรือ่งราวดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไป จนถึงวันเลือกตั้งและต่อจากนั้น ตราบใดที่ยังมีชาติอเมริกาอยู่ ก็จะมีผุ้ัคนนับล้านที่พยายามบอเราวาเรื่องราวนั้นหมายถึงอะไร อย่างสิ้นหวัง โกรธเคือง มองโลกในแง่ดี และน่ำดึงดูดใจ เรื่องเราวเป็นอาวุธที่ทรงพลัง และเป็นอุปมาอุปไมยที่ทรงพลัง เช่นกัน ดังที่วอลซืกล่าวเกี่ยวกับการทิ้งทรัมป์และแวนซ์ไว้ขางหลัง "ฉันพร้อมที่จะพลิกหน้ามแล้ว"  https://apnews.com/article/election-2024-american-story-conventions-68aad96e58a7786c2603544f606cf8ed

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...