ชื่ออู่ฮั่น มาจากการรวมกันของเมืองในประวัติศาสตร์ ได้แก่ เมื่องอู่ชาง ฮั่นโข่วและฮั่นหยาง ซึ่งทั้งสามเมืองรุ้จักกันในชื่อ "เมืองทั้งสามของอู่ฮั่น" นครอู่ฮั่นตั้งอยู่ในทางตะวันออกของที่ราบเจียงฮั่น ซึ่งเป็นที่บรรจบของแม่น้ำแยงซี กับลำน้ำสาขาที่ใหญ่ที่สุดของแม่น้ำแยงซีซึ่งก็คือ แม่น้ำฮั่น และนครอุ่ฮั่นรู้จักกันนชื่อ "ทางสู่มณฑลทั้งเก้า"...
อู่ฮั่นถือเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศณาฐกิจ การเงิน การค้า วัฒนธรรมและการศึกษา ของภาคกลางของประเทศจีน เป็นศูนย์กลางการขนส่ขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยทางรถไฟ ถนน และทางด่วนจำนวนมากที่ผ่านตัวเืองและเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่อื่นๆ เนืองจากมีบทบาทสำคัญในการขนส่งภายในประเทศ ทำให้บางครั้งอุ่ฮั่นถูกเรียกว่า "ชิคาโกของจีน" ในแหล่งข้อมูลต่างประเทศ "ปม่น้ำสายทองคำ"อย่าง แม่น้ำแยงซี และลำน้ำสาขาที่ใหญ่ที่สุดซึ่งก็คือ แม่น้ำฮั่น ไหลผ่านตัวเมืองเมืองและแบ่งอู่ฮั่นออกเป็น 3 เขต ได้แก่ อู่ชาง ฮั่นโขว่ และฮั่นหยาง มีสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีภายในตัวเมือง และห่างออกไปทางตะวันตกของมณฑลหูเปย์ จะีเบื่อนซานเสียต้าป้า ซึ่งเป็นถานพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของกำลังผลิตติดตั้งhttps://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AE%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99
นานาชาติกำลังเผชิญภัยคุกคามทางสาธารณสุขครั้งใหญ่ จากการระบาดของเชื้อไวรัสดคโรนาสายพันธุ์หม่ที่เริ่มจากจีน องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็น "การระบาดใหญ่" หรือ pandemic หลังจากเชื้อลุกลามไปอย่างรวดเร็วในกว่า 100 ประเทศและดินแดนทั่วโลก..(ปัจจุบันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ให่แพร่ระบาดไปแล้วใน 116 ประเทสและดินแดนทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อกว่า 126,000 คนทั้งได้คร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 4,600 คน,12 มีนาคม 2020 (ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอบกินส์ สหรัฐอเมริกา)
โลกได้รับรู้เรื่องโรคติดต่อปรสศนา หลังจากทางการจีนยืนยันเมื่อ 31 ธันวาคม 2019 ว่าเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งมีประชากรกว่า 11 ล้านคน โดยหลังจากเก็บตัวอย่างไวรัสจากคนไข้นำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ในเวลาต่อมาจีน และองค์กาอนามัยโลก ระบุว่า ไวรัสชนิดนี้คือ "เชื้อไวรัสโคโรนา" ซึ่งก่อนหน้านี้ พบไวรัสโคโรนามาแล้ว 6 สายพันธ์ุ ที่เคยเกิดการระบาดในมนุษย์สำหรับไวรัสโคโคนาสายพันธ์ุใหม่ที่กำลังระบาดเป็นสายพันธ์ุที่ 7
โลกเคยรู้จักไวรัสในตระกูลนี้มาแล้วจากโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรงหรือ โรคซาร์ส ซึ่งมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นกัน โดยพบการระบาดคร้งแรกปลายปี 2002 เริ่มจากพื้นที่มณฑลกวางตุ้งของจีน ก่อนที่จะแพร่กระนายไปในหลายประเทศ จนมีผุ้ติดเชื้อกว่า8,000 คน และมีผุ้เสียชีวิตไปเกือบ 800 คนทั่วโลก
องค์กรอนามัยโลก ประกาศชื่อที่เป็นทางการสำหรับใช้เรียกโรคทางเดินหาใจที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ว่า "โควิด-ไนน์ทีน (โควิด-19) ในขณะที่คณะกรรมการระหว่างประเทศด้วยอนุกรมวิธานวิทยาของไวรัส ได้กำหนดให้ใช้ชื่อไวรัสที่ทำให้เกิดโรค โควิด 19 ว่า SARS-CoV-2 หรือไวรัสโคโรนาโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงชนิดที่สอง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมอย่างใกล้ชิดกับเชื้อไวรัสโรคซาร์ส
ในขณะนี้ยังไม่มีใครทราบชัดเจนถึงแหล่งกำเนิดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก่อนหน้าทนี้มีการสันนิษฐานว่า ไวรัสชนิดนี้อาจเิ่มติดต่อจากสัตว์ป่ามาสู่คน โดยมีต้นตอของการแพร่ระบาดจากงูเห่าจีน และงุสามเหลี่ยมจีน ที่นำมาวางจายจำหน่ายในตลาดสดเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่พบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกๆ
ทีมผู้วิจัยสันนิษฐานว่า งูอาจเป็นสัว์ตัวกลางที่ส่งต่อเชื้อไวรัสโคโรลาสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาสู่คน เนื่องจากงูพิษที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติล่าค้างคาวในถ้ำเป็นอาหาร แต่ก็ยังคงมีข้อสงสัยว่า ไวรัสดคโนาสามารถปรับัวให้อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ในร่างกายของทั้งสัตว์เลือดเย็นและสัตว์เลือดอุ่นได้อย่างไร
ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ตัวนิ่ม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ชาวจีนเชื้อว่าม่สรรพคุณตามตำรายาแผนโบราณนั้น อาจเป็นพาหนะนำเชื้อไวรัสโคโตนาสายพันธ์ให่จากค้างคาวมาแพร่สู่คนที่ตลาดค้าสัตวป่าเมืองอู่ฮั่น..
หากมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ กลุ่มคนที่มีโอากสเสียชีวิตมากกว่า ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และอาจจะรวมถึงผุ้ชายด้วย การวิเคราะห์ขนาดใหญ่ครั้งแรกในผู้ติดเชื้อมากว่า 44,000 ในประเทศจีน พบว่า อัตราการเสียชีวิตในผุ้สุงอายุต่ำกว่า 30 ปี ต่ำที่สุด โดยมีผุ้เสียชีวิต 8 คนในจำนวนผู้ติดเชื้อ 4,500 คน ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหว่า ความดันโลหิต โรคหัวใจ หรือปัญหาในการหายใจ มีโอกาศเสียชีวิตมากว่าคนปกติอย่างน้อย 5 เท่า และผู้ชายมีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อย...https://www.bbc.com/thai/features-51734255
ในการปฏิบัติตนต่อ การแพร่ระบาด ซึ่งไม่ทำให้ตนเข้าไปติดเชื้อโรคโดยการป้องกัน เช่นการใช้หน้ากากอนามัย การรักษาสุขอนามัย เช่น ล้างมือ ล้างเท้า หรือ หากพบว่าตนเองติดเชื้อโรคแล้ว ก็ไม่นำตนเองเข้าไปในที่มีผู้คนแออัด ไม่พยายามแพร่เชื้อโรคให้กับผู้อื่น ซึ่งในการแพร่เชื้อจากคน 1 คนสามารถแพร่เชื้อให้กับคนอื่นๆ ได้ถึง 4-5 คน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อกันได้ทางลมหายใจจึงเป็นการยากที่จะควบคุม อย่างไรก็ตาม ในหลายประเทศขณะนี้ได้มีการกำหนดมาตรการ ป้องกัน และรวมถึง การรวมแรงรวมใจกันต้อสู้กับ โควิด 19 กันแล้ว ก็ขอให้ในหลายๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทย พ้นจาก วิกฤต และผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสสายพันธ์ุใหม่ และหยุดตัวเลขของผู้เสียชีวิต และติดเชื้อโรคในเร็ววันนี้...