วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Statistics with Election

          โจ ไบเดน ก้าวขึ้นสุ่ตำแหน่งประธานาธิบดี คนที่ 46 ของประเทศท่ามกลาวสภาพแวดล้ามทางการเมืองที่ขัดแย้งและประชาชนที่แตกแยกกันอย่างรุนแรง ผุ้คัดค้านไบเดนบางคนชี้ให้เห็นถึงชัยชนะเหนือโดนัลด์ ทรัมป์ที่เฉียดฉิวในรัฐสมรภูมิหลายรัฐว่าเป็นหลักฐานว่าชัยชนะในเดื่อนพฤศจิกายนของเขาไม่ได้โดดเด่นแต่อย่างใด แม้ว่าไบเดนจะชนะคะแนนนิยมด้วยคะแนนที่ห่างกันกว่า 7 ล้านคน จากผุ้ลงคะแนนทั้งหมด 159 ล้านคนก็ตาม
          ทั้งหมดที่อาศัยอยุ่ในเขตที่ไบเดนและทรัมป์ชนะ จากมุมมองดังกลา่วประชากร 67 ล้านคนอาศัยอยู่ในเขตที่ไบเดนชนะ 197.9 ล้านคน มากกว่าเขตที่ทรัมป์ชนะ 130.3 ล้านคน นี่คือความแกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างประชากรในขเตที่ผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสองคนสำคัญชนะมาตั้งแต่ปี 1996 เมือ บิน คลินตันเอาชนะ บ็อบ โดล ได้

           มีการกล่าวถึงการแบ่งแยกระหว่างเมืองและชนบทในวงการการเมืองอเมริกันมากมาย อย่างไรก็ตาม มีการแสดงใสห้เห็นว่าแท้จริงแบ้วการลงคะแนนเสียงของคนในเขตชานเมือง ต่างหากที่ทำให้คะแนนเสียงเปลี่ยนไปในทางที่สนับสนุนไบเดน นอกจานี้ ขนาดประชากรของเขตที่ไบเดนและทรัมป์ชนะยังได้รับการจัดประเภทตามหมวยดหมุ่สภานะของเมืองที่พัฒนาโดยสถาบัน "บรูคกิ้ง" อีกด้วย เขตศุนย์กลางเมืองขนาดใหญ่ (เขตที่มีความหนาแน่นของประชากรสูง) คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของประชารกรทั้งหมด 97 ล้านคน จากเขตทั้งหมดที่ลงคะแนนเสียงให้กับไบเดน เขตชานเมืองในเขตมหานครขนาดใหญ่มีประชากรเพ่ิมขึ้นอีก 72 ล้านคนในเขตที่ไบเดนชนะ
          ในทางกลับกัน ประชกรในเขตที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งมีเพียงไม่กี่คนในเขตเมืองใหญ่ ซึ่งคิดเป็น 4.7 ล้านคน ประชทกในเขตทรัมป์ส่วนใหญ่กระจายตัวอยุ่ในเขตชานเมืองขนาดใหญ่ เขตมหานครขนาดเล็ก และื้นที่นอกเขตมหานคร
           เนื่องจากเขตเมืองขนาดเล็กและขตนอกเขตเมืองมีประชากรน้อยกว่าเขตเมืองขนาดใหญ่มาก จึงมีเขตที่ทรัมป์ชนะมากกว่าเขตที่ ไบเดนชนะ  ดังนั้นเมือดุจากแผนที่ผลการเลือกตั้งประจำปี 2020 ของทุกรัฐ จะเห็นว่ามีหลายเขตทีสนับสนุนการเลือกตั้งดดยทรัมป์ล้อมรอบกลุ่มเขตที่สนับสนุนการเลือกรตั้งโดยทรัมป์ แต่เหตุผลที่เขตที่สนับสนุนการเลือกตั้งโดยทรัมป์มีประชากรมากว่าเขตที่สนับสนุนการเลือกตั้งโดยทรัมป์ถึง 67 ล้านคนนั้นเป็นเพราะเขตที่สนับสนุนการเลือกตัึ้งโดยทรัมป์คตรองพื้นที่เขตเมืองหลักและเขตชานเมืองในเชตเมืองใหญ่
         หากคำนวฯเป็นสัดส่วนของประชากรทั้งประเทศแล้ว ประชากร 60% ของสหรัฐฯ อาศัยอยุ่ในเขต ไบเดน อย่างไรก็ตาม สัดส่วนนี้แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละกลุ่มหประชากร โดยเชตไบเดนมีแนวโน้มที่จะเป้นที่ตั้งของกลุ่มประชกรที่เติบโต และเขตที่มีลักษณะ "เป็นเมือง" ในแง่ของเชื้อชาติ การศึกษา สถานะที่เกิดในต่างประเทศ และแม้แต่สถานะสมรสในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ประชกากรผิวสี จำนวนมากของประเทศอาศัยอยุ่ในเขตไบเดน ประมาณสามในาี่อาศัยอยุ่ที่นั่น เช่นเดียวกับชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย 86% และเกือบสองในสามของผุ้ที่ระบุว่าตนเป็นคนสองเชื้อชาติหรือมากกว่า ในทางตรงกันข้าม ประชากรผิวขาวเพียงครึ่งเดียวของประเทสอาศัยอยู่ในเขตไบเดน
         

ประชากรผิวขากลุ่มนี้มีควาแตกต่างกันมาก ดดยผุ้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาผิวขาวมีเกือบสองในสามที่อาศัยอยู่ในเขตไบเดนส่วนประชกรผิวขาวกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่มัีการศึกษาระดับอุดมศึกษาจะมีแนวโน้มที่จะอาศัยอยุ่ในเชตทรัมป์มากกว่า ดดยเฉพาะคนผิวขาวที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาหรือต่ำกว่า
          คุณบักษณะทางประชากรอีกสองประการที่แตกต่างกันอย่างลชัดเจนระหว่างเคาน์ตี้ไบเดน และ ทรัมป์คือการเกิดและสภานะการสมาร ชาวอเมริกันที่เกิดในต่างประเทศมากว่าสี่ในห้าคนอาศัยอยุ่ในเคาน์ตี้ไบเดน เมือเที่ยวกับชาาวอเมริกันที่เกิดในประเทศน้อยกว่าสามในห้าคนที่อาศัยอยู่ในเคาน์ตี้ ไบเดน ในทำนองเดียวกัน คนดสดมีแนวโน้มที่จะอาศัยอยุ่ในเคาน์ตีไบเดนมากกว่าที่แต่างงานแล้ว
          เมือพิจารณาครัวเรือนที่จำแนกตามรายได้ ครัวเรือนส่วนใหญ่ในทุกหมวดหมู่รายได้อาศัยอยู่ในเขบตไบเดน แต่ความแตกต่างจะกว้างที่สุดสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้สูงที่สุด ดดยครัวเรือนมากกว่าสองในสามที่มีรายได้อย่างน้อย 150,000 ดอลลาร์ต่อี อาศัยในเขตไบเดนเมือเทียบกับครัวเรือนที่มีรายได้น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์เพียงครึ่งเดียว
         โปรไฟล์ที่แตกต่างกันของอเมิรกาของ ไบเดนและทรัมป์นั้นสามารถเปรียบเทียบได้ดีที่สุดเมือพิจารณาจกอายุและองคืประกอบทางเชื้อชาติของเขตที่ผุ้สมัครแตละคนสังกัดอยุ่ เพื่อให้สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างเมืองและชนลบทที่กล่าวข้างต้นอเริกาของทรัมป์นั้นชัดเจนว่าเป็นคนผิวขาวและอายุมากกว่า แม้แต่คนหนุ่มสาวที่อาศัยอยู่ในเขตของทรัมป์ก็ยังเป็นคนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าประชากรที่มีอายุตำ่กว่า 16 ปี ในระดับประเทศจะเป็นชนกลุ่มน้อยผิวขาวก็ตาม 
          ประชากรในเขตที่ไบเดนชนะการเลือกตึ้งนั้นมีอายุน้อยกว่าและมีความหลากหลายมากกว่าอย่างเห็นไดชัด โดยกลุ่มชนกลุ่มน้อยมีจำนวนมากกว่าคนผิวขาวที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี และตามหลังคนผิวขาวที่มีอายุระหว่าง 45-54 ปีไม่มากนัก
          สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ มีการแบ่งแยกอย่างลึกซึ้งในด้านประชากรศาสตร์และการเมือง แต่การที่ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในเขตที่มีประชการส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ถือเป็นลางดีสำหรับพรรคเดโมแครตในปีการเลือกตั้งประธานาะิบดีในอนาคต โดยเแพาะอย่างยิ่งเนืองจากกลุ่มประชกรที่อาศัยอยู่ในเขตเหล่านี้อย่างไม่สมส่วน ได้แก่ คนผิวสี บัณฑิตจบใหม่ คนที่เกิดในต่างปะเทศ และบุคคลที่ไม่ได้แต่งงาน เป็นกลุ่มประชากรที่เพ่ิมมากขึ้นเรื่อยๆ 

          เป็นไปได้ที่ประชกรส่วนใหญ่ยังควมีจำนวนมากในเขตที่มีทรัมป์อาศัยอยุ่ ได้แก่ ชาวชนบทและเมองเล็ก ชาวอเมริกันสุงอายุ และคนผิวขาวที่ไม่มีการศึกษรระดับอุดมศึกษา อาจทำให้พรรครีพับรีกันยังคงแข่งขันได้ หากพรรคหลังทรัมป์สามารถรักษาฐานเสียงนี้ัไว้ได้ แต่หากการคาดการณ์ล่าสุดเป็นเจริง พรรครีพับลิกันอาจไม่ใช่กลยุทธ์ระยะยาวที่ใช้ได้ผล 
       
            https://www.brookings.edu/articles/a-demographic-contrast-biden-won-551-counties-home-to-67-million-more-americans-than-trumps-2588-counties/

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Israel-Hamas,Ukrian-Russia...Damrocrac-Replubligan

           17/62024

           ความสำคัญของนโยบายตางประเทศก่อนการเลือกตั้งยังคงไม่ชัดเจน ในอดีต การหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมักเน้นที่ประเด็นภายในประเทศ เศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ การย้ายถ่ิอนฐานและอาชญากรรม การทำแท้งและการดูแลสุขภาพ อย่างไรก็ตาม นโยบายต่างประเทศในการเลือกตั้งปธน.ครั้งนี้ดุเหมือนจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นกว่าปกติ ความโดดเด่นบางประการอาจสะท้อนถึงแนวทางที่แตกต่างกันอย่างมากที่ผุ้สมัครแตละคนมีต่อนโยบายต่างปรเทศ ไบเดนเป็นนักสากลนิยมเสรีนิยมแบบดั้งเดิมที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมในระดับโลก เขาเน้นย้ำถึงความสอดคล้องกับประเพณีสากลนิยมขงอสหรัฐฯ ที่มีมาต้้งแต่สงครามโลกคารั้งที่สองในสุนทรพจน์  ของเขา ที่อนุสรณืสภานครบรอบ 80 ปี วันดีเดย์ในนอร์มังดี และการสัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์ ในทางตรงกันข้ามทรัมป์ใช้แนวทางผลรวมเป็นศูนย์ในการเจรจาระหว่างประเทศและแสดงความดูถูกเหยียดหยามองค์กรพหุภาคีเช่น NATO และเช่นเคย ทรัมป์ยังคงเป็นบุคคลที่ค่าดเดาไม่ได้และขัดแย้งในตัวเองเมือถูดถึงนโยบายต่างประเทศ

        ประเด็นเฉพาะสองประเด็น ได้แก่ สงครามรัสเซีย-ยูเครน และ สงครามอิสราเอล-ฮามาส ได้ผลักดันนโยบายตางประเทศให้กลายมาเป้นประเด็นสำคัญในการเล่อตั้งครั้งนี้ รัสเซียรุกรานยูเครนเมือวันที่ 22/2/2022 และฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7/10/2023 ความขัดแย้งทั้งองยังคงดำเนินอยุ่และทดสอบไบเดนและทีมนดยบายต่างประเทศของเขาอย่างหนัก



       ในช่วงแรก ไบเดน ได้รับการสนับสนุนจกท้งสองพรรคอย่างแข็.แกร่งในการสนับสนุนยูเครนในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย อย่างไรก็ตามสงครามได้ดำเนินไปสู่ภาวะชะงักงันโดยไม่มีทีที่าว่าจะยุติลง การตอบโต้ของยูเครนที่รอคอยกันมานานในปี 2023 ล้มเหลว และการโจมตีของรัสเซียได้ผลักดันกองกำลังยุเครนให้ถอยกลับไโดยทั้งสองฝ่ายต้องสุญเสียอย่างหนัก ในขณะเดียวกัน การสนับสนุนยุเครนของประชาชนของสนหรัฐฯ ก็ลดลง ดดยเฉพาะในหมุ่พรรครัพัลลิกัน แท้จริงแล้วสภาผุ้แทนราษฎรซึ่งควบคุมโดยพรรครีพัลลิกัน ได้ชะลอการช่วยเหลือใหม่สำหรับเคียฟเป็นเวลาหลายเดือนและผ่อนปรนลงเมืองทรัมป์ให้การรับรองแพ็คเกจดังกล่าวโดยปริยาย

         ทรัมป์ซึี่งไม่เป็นที่รุ้จักในเรืองความสุภาพในการใช้คำพูดได้ประกาศว่า เขาจะยุติสงครามในยุเครนภายใน 24 ชั่วโมง รายงานบางฉบับ ระบุว่าในฐานะประธานาธิบดี เขาอาจเรียกร้องให้ยูเครนยอมประนีประนอมดินแดนกับรัสเซียเพื่อให้เกิดสันติภาพ อย่างน้อยที่สุด คาดว่าเขาจะใช้จุดยืนที่สนับสนุนรัสเวียมากขึ้นในความขัดแย้งครั้งนี้

        ความชื่นชมที่ทรัมป์มต่อประธานาธิบดีรัสเซีย วลาติมีร์ ปูติน มีมาตั้งแต่ช่วงเร่ิมต้นดำรงตำแหน่งปธน. เมือรัสเซียบุกยูเครนในปี 2022 ทรัมป์ยังกล่าวถึงปูตินว่าเป็น "อัจฉริยะ" ด้วย ดังนั้น เคียฟจึงวิตกกังวลกับการที่ทรัมป์จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่หากสงครามยังคงดำเนินต่อไป ไบเดนอาจต้องทนทุกข์ทรมานจากการถุกโยงใยกับความขัดแย้งที่ดุเหมือจะมไ่มีวันจบสิ้น

       11/8/2024

        ประธานาธิบดีดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมายอมรับเป็นครั้งแรเมือวันที่ 10 สิงหาคม ว่่ากองกำลังยุเครนกำลังสุ้รบในปฎิบัติการบุกโจมตีกะทันหันในเมืองเคิร์สก์ของรัสเซียขณะที่ทางการในพื้นที่ชายแดนกำลังเร่งอพยพพลเรือนั้บหมื่นออกจาพื้นที่เสียงภัย

       การออกมายอรับของเซเลนสกีมีขึ้หลังจากที่มอสโกสุ้รบกับกองกำลังของยุเครนเป็นวันที่ 6 ที่ถือเป็นการรุกรานดินแดนรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดของยุเครนนับตั้งแต่สงครามระหว่างกันเร่ิมต้นขึ้น ทำให้พื้นที่ตะวันตกเแียงเหนือของรัสเซียตกอยุ่ในอันตรยก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึง เห็นได้จากที่รัสเซียได้กำหนดมาตาการรักาาความปลอดภัยที่เข้มงวดตามพื้้นที่ชายแดน 3 แห่ง เมือวันเสาร์ที่ผ่านมา 

       ปุติน กล่าวว่า การดจมตีของยุเครนเป็นการยั่วยุดอย่างมีนัยสำคัญ ที่นักวิเคราะห์ทางทหารชี้ว่า ทำให้รัสเซียตั้งตัวไม่ทัน ขณะที่นายพลวาเลรี เกราซิมอฟ ผุ้บัญชาการทหารสุงสุดของรัสเซีย กล่าวตังแต่กลางสัปดาห์ก่อนว่า การดจมตีดังกล่าวถุกระงับไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จนถึงปัจจุบัน รัสเซียก็ยังไม่สามารถผลักดันกองกำลังงยุเครนให้ข้ามกลับไปยังพรมแดนของตนเองได้

          อเล็กเซย์ สมีร์นอฟ รักษาการผุ้ว่าการเคิร์สก์ ได้สั่งให้หน่วงานท้องถ่ินเร่งอพยพพลเรือนในพื้นที่เสี่ยงภัย ดดยสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานเมือวันเสาร์ว่่า มีการอพยพประชาชนมากกว่า 76,000 คนแล้ว

         บล็อกเกอร์ด้านทหารของรัสเซียเผยว่า การสุ้รบเกิดขึ้นในพื้นทีทีลึกเข้ามาในภุมิภาเคิร์สก์ถึง 20 กิโลเมตร ทำให้มีคนตั้้งคำถามว่า เหตุใดยุเครนจึงสามารถเจาะเข้ามาในพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย....

      31/7/2024 

       กลุ่มอามาสออกแถลงการณืว่า นายอสิมาอิล อานิเยห์ หัวหน้าฝ่ายการเมืองของขบวนการอามาส ถุกสังหารในกรุลเตหะรานของอิหร่าน จากการบุกสังหารของอิสราเอล 

        ฮิวดก บาเชกา ผุ้สือข่าวบีบีซีประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง ชี้ว่าการสังหารนายอานิเยห์ ในหรุงเตหะราน ซึ่งเขากำลังไปเข้าร่วมพิะีสาบานตนประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านเป็นพัฒนากรที่ ไสำคัญและอันตรายไ ที่จะรื้อฟื้นความหวาดวิตกว่าความรุนแรงจะยกระดับขึ้นไปทั่วทั้งภูมิภาค

       เหตุการณืที่ผุ้นำอามารายนี้ถุกสังหารเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วดมงหลังจากอสราเอล เปิดปฎิบัติการโจมตีในกรุงเบรุตของเลยานอน ดดยพุ่งเป้าโจมตีฐานทางการทหารสำคัญที่อิหร่านหนุนหลังและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ 



     11/8/2024

      ขณะที่การเลือกตั้งในเดือนพฤศจิการยนของหสรัฐใกล้เข้ามา พลวัตทาการเมืองที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล-ปาเลสไตน์ยังคงมีอิทะิพลต่อการพัฒนาที่สำคัญในเวทีการเมืองของสหรัฐฯ ความคิดเห็นของประชาชนไม่สนับสนุนอสิราเอลเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป ซึ่งทำให้รัฐบาลอิสราเอลและผุ้สนับสนุนชาวอเมริกันเป็นกังวล

       ความคิดเห็นของประชาชนเปลี่ยนไปในทิศทางที่สมดุลมากขึ้น ดดยขาวอเมริกันจำนวนมาขึ้นเห็นใจปาเลสไตน์ จากการสำรวจของ แกลลับ ในดือนมีนาคม พบว่าตัวเลขดังกล่าวทั่วประเทศอยุ่ที่ 27% ในกกลุ่มเดโมแครตอยุ่ที่ 43 % และในกลุ่มคนหนุ่มสาวอยุ่ที่ 45% ความคิดเหน็เกี่ยวกับสงครามยังวิพากษ์วิจารอิสราเอลมากขึ้นไปอีก ผลสำรวจของ ดาต้า ฟอร์ โปรเกรส ที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาครเผยให้เห็นว่าชาวเดโมแครร้อยละ 56 เชื่อว่าอิสราเอลกำลังก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ผลสำรวจ อีกครั้งที่เผยแพร่เมืองเดือนมิถุนายนแสดงให้เห็นว่าผุ้มีสิทธิเลือกตั้งร้อยละ 64 สนับสนุนการหยุดยิงและการถอนทหารอิสราเอลออกจาฉนวนกาซา ในขณะที่ชาวเดโมแครตมีจำนวนร้อยล 86 และผลสำรวจยังบ่งว่าชาวอเมริกันร้อยละ 55 ปฏิเสธที่จะสงทหารอเมริกันไปปกป้องอิสราเอลหากถูกเพื่อนบ้านดจมตี 

      นัการเมืองสหรัฐฯ ไม่สามารถเพิกเฉพยต่อทัศนคติของประชาชนที่เปลี่ยนแปลไปอย่างต่อเนืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมุ่เดโมแครต และดูเหมือนว่พวกเขากำลังพิจารณาเรืองนี้อยุ่ เมือเดือนที่แล้ว เมือนายนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวปราศรัยต่อรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นครั้งที่สี่สมาชิกพรรคเดโมแครตเกือบครึ่งหนึ่งไม่ได้เข้าร่วมประชุม

       นอกจากความคิดเห็นของสาะารณชนที่เปลี่ยนไปแล้ว ยัวมีปจจัยอื่นที่สร้างรอยร้ายในความเห็นพ้องต้องกันของฝ่ายสนับสนุนอิสราเอลในแวดวงการเมืองของสหรัฐฯอย่างต่อเนือง ปัจจัยหนึ่งก็คือชวยากรไม่ยึดมั่นในอุดมกาณ์แห่งชาติ ซึ่งในการเลือกตั้งขึ้นต้นของพรรคเดโมแครตได้ขอให้ผุ้ลงทะเบียนในพรรคเดโมแครตลงคะแนนเสียงว่า ไไม่ยึดมั่นในอุดมการณ์"เพื่อแสดงให้เห็นถึงการไม่ยอมรับนโยบายของรัฐบาลไบเดนเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุอสิราเอลในฉนวนกาซา

       แคมเปญนี้ได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 700,000 คะแนนซึ่งส่วนใหญ่มาจากรัฐที่เป็นสมรภุมิสำคัญอย่าง มิชิแกน และวิสคอนซิน หากการเคลื่อนไหวนี้ดำเนินต่อไปได้จนถึงเดือนพฤศจิกายนและการเลือกตั้งใกล้เข้ามาคะแนนเสียงของพวกเขาอาจเพียงพอที่จะทำให้ กมลา แฮร์ริส ผุ้สืบทอดตำแหนงของ โจ ไบเดน ในนามพรรค เดโมแครต ซึ่งสนับสนุนนโยบายสนับสนุนอิสราเอลในฉนวนกาซา พ่ายแพ้

           https://www.matichon.co.th/foreign/news_4730431

            https://www.bbc.com/thai/articles/c51yn578ln3o

           https://www.aljazeera.com/opinions/2024/8/11/aipac-is-growing-desperate

           https://www.bakerinstitute.org/research/how-will-gaza-and-ukraine-shape-2024-us-presidential-election

       

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2567

History with Election

           ชุมชนที่เป็นคนผิวขาวและมีฐานะยากจนในเขตอุตสาหกรรมของอเมริกา ซึ่งผุ้อยุ่อาศัยมักไม่ค่อยมีวุฒิการศึกษาระดับวิทยาลัย ยังคงจงรักภักดีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ แม้จะผ่านมาเจ็ดปีแล้วก็ตาม ชุมชนเหล่านี้หลายแห่งตั้งอยู่ในรัฐสำคัญไม่กี่รัฐ ที่จะกำหนดผลการเลือกตั้งในปี 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน การทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ของชุมชนเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะอธิบายได้ว่า


พวกเขาได้กลายเป็นเมืองของทรัปม์ได้อย่างไร แต่ยังอธิบายได้ด้วยว่าการเมืองของพยวกเขราอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

          ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าความแข้.แกร่งของการเคลื่อนไหวด้านแรงงานในชุมชนมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการสนับสนุนพรรคเดโมแครตในช่วงเวลาหนึ่ง การจัดระเบียบแรงงานทำให้สารของพรรคเดโมแครตไปถึงคนงนในเมืองต่างๆ ใจกลางประเทศในช่วงทศวรรษปี 1930-1940 และการเสื่อมถอยอของแรงงานเป็นเหตุผลว่าทำไมเมืองต่างๆ จำนวนมากจึงหันเข้าหาลัทธิทรัมป์ แม้บางเมืองจะต้านสารก็ตาม

        ปธน. แฟรงคลิน ดี. โรสเวลต์ พยายามโน้มน้าวคนงานอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ด้วยคามสำเร็จอย่างล้นหลาม แขาสนับสนุนให้คนงานเหล่านี้มองว่าพรรคเดโมแครตเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการแก้ปัญหาและผลการสำรวจคือได้รับการตอบรับที่ดีจากเมืองอุตสาหกรรม

       พรบ.วากเนอร์ซึ่งผ่านเมือ ปี 1935 เป็นหัวใจสำคัญของแนวคิดของ รูสเวลต์ พรบ.ดังกล่าวให้สิทธิแก่คนงานในภาคอุตสหกรรมในการรวมตัว กำหนดให้นายจ้างไม่สามารถปกิเสธการต่อรองร่วมกันได้ และจัดตั้งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์แห่งชาติ ขึ้นเพื่อตัดสินข้อพิพาทระหว่างคนงานและฝ่ายบริหาร พรบ.วากเนอร์ ช่วยฟื้นฟูขบวนการแรงงานที่ซบเซาในข่วงทศวรรษ 1920 เพื่อเป็นการตอบสนอง สหภาพแรงงาน ดดยเฉพาะสหภาพที่สังกัดกับรัฐสภาขององค์กรอุตสาหกรรม ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น ได้สนับสนุนรูสเวลต์ และช่วยเผยแพร่ข้อความว่าพรรคเดโมแครตเป็นเพื่อนของคนงานความสัมพันธ์แบบพึงพาอาศัยกันระหว่างแรงงานที่จัดตั้งและการบริหารภายใต้นดยายนิวดีล ที่เบ่งบานขึ้นนั้นเห้ฯได้ชัดจากประวัติศาสตร์ของเมืองทางตะวันตกกลาง 3 แห่ง เมืองหนึ่งในวิสคอนซิน เมืองหนึ่งในมินนิโซตา และอีกเมืองในอินเดียนา 

         เมืองในวิสคอนซิน ประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายทศวรรษของการจัดตั้งแรงงานและสังคมนิยมได้จาหายไปในช่วงทศวรรษที 1920 แต่คนงานสามารถฟื้นคือนองค์กรเหล่านี้ขึ้นมารได้ในช่วงนโยบายนิวดีล และในเมืองอื่นๆ ขบวนการแรงงานที่กระตือรือร้นได้เกิดขึ้นและรวมตัวกันเป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1930 โดยได้รับความชข่วยเหลือบางส่นโดยตรงจากรพะราชบัญญัติวากเนอร์ 

 อิทธิพลของสหรภาพแรงงานและการสนับสนุนพรรคเดโมแครตเป็นคำอะิบาย่าเหตุใดเมืองทั้งสามแห่งนี้ และเมืองอื่นๆ ที่คล้ายกันในพื้นที่อุตสาหกรรมมิดเวสต์ ยังคงเป็นส่วนสำคัญของแนวร่วมนิวดีลจนถึงช่วงทศวรรษ 1950

          แต่สิ่งนั้นเร่ิมเปลี่ยนแปลงไปในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 เมื่อเชื้อชาติและศาสนากลายเป็นศูนย์กลางทางการเมืองอเมริกันในรุปแบบใหม่

         ประการแรก สิทะิพลเมือง ดดยเฉพาะ พรบ. สิทธิพลเมือง และพระราชบัญญัติสิทธิในการลงคะแนนเสียง ได้เร่งให้เกิดการปรับแวทางพรรคการเมืองตามแนวทางเชื้่อชาติ ซึ่งย้อนไปถึงช่วงทศวรรษ 1940 เมื่อผุ้มีสิทธิเลือกตั้งผิวดำในภาคเหนือเร่ิมเปลี่ยนไปเลือกพรรคเดโมแครต ในช่วงทศวรรษ 1960 แม้ว่าผุ้มีสิทธิเลือกตั้งผิวดำจะยังคงย้ายฐานไปอยุ่พรรคเดโมแครต แต่ผุ้มีสิทิเลือกตัึ้งผิวขาวโดยเฉพาะในภาคใต้ กลับหันไปเลือกพรรครัพับลิกัน ซึ่งเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะหลังจากการเลือกตั้งในปี 1964 ซึ่งประธานาธิบดี ลินดอน บี. จอห์สัน จากเดโมแครต ผุ้ลงนาม ในพรบ.สิทธิพลเมือง ต้องแข่งขันกับ วุฒิสมาชิกแบร์รี โกลต์วอเตอร์ จากพรรครัพัลลิกัน ซึ่งลงคะแนนเสียงคัดค้าน

         จากนั้นในช่วงทศวรรษ 1970 ชาวคริสเตรียนผิวขาวเร่ิมเคลื่นไหวเพื่อรณรงค์เรื่องการศึกษาเรื่องเพศ การสวดมนต์ในโรงเรียน การต่อต้านการแก้ไขรัฐะรรมนูญว่าด้วยความเท่าเทียมกัน การทำแท้ง และการยกเว้นภาษีสำหรับโรงเรียน คริสเตียน ในที่สุด พรรครัพัลิกันก็เห็นชอบการแก้ไขรัฐะรรมนูญเพื่อห้ามการทำแท้งในปี 1976 ระหว่างนั้น ตั้งแต่ปี 1972 เป็นต้นมา พรรคเดโมแครตก็เร่ิมสนับสนุนเป้าหมายของสตรีนิยมอย่างช้าๆ รวมถึงการสนับนุการทำแท้งอย่างถูกกฎหมายในปี 1976 การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ชาวคริสเตียนนิกาย โรมันคาทอลิก และอีแวนเจลิคัลจำนวนมากไม่พอใจ และก่อตั้งพรรครัพัยลิกันให้เป็นบ้านทางการเมืองของคริสเตียนผิวขาวที่เป็นอนุรักษ์นิยม

        ภายในปี 1980 พรรครีพับลิกัน ได้เคลื่นไหวเพื่อยอมรับอนุรักษนิยมทางสังคมอย่างเต็มที่ เพื่อพยายามดึงดูดผุ้มีสิทธิเลือกตั้งผิวขาวทีเคร่งศาสนาจากทุกนิกาย โรนัลด์ เรแกน ผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในขณะนั้นกล่าวในงานที่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดอย่างเป็นทางการซึ่งเต็มไปด้วยผุ้เคร่งศาสนาหัวอนุรักษ์นิยมในปี 1980 ว่า "คุณไม่สามารถสนับสนุนฉันได้(ตามกฎหมาย) แต่ฉันอยากให้คุณรุ้ว่าฉันสนับสนุนคุณ"

       ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจอเมริกาก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เร่ิมตั้แต่ช่วงทศวรรษ่ 1970 บริษัทต่างๆ เร่ิมจ้างงานห่วงโซ่อุปทานภายนอก เนือ่งจากการเติบโตทางเศราฐกิจของสหรัฐฯ หยุดชะงักและอัตราเงินเฟ้อสุงขึ้น ส่งผลให้จำนวนงานด้านการผลิตลดลง พนักงานในภาคการผลติตลดลงจาก 26% ของพนักงานนอกภาคเกษตรในช่วงหลังสงครามโลกครั้งท่ 2 ในปี 1970 เป็น 13% ในปี 2000 

        โรงงานปิดตัวลงประกอบกับการโจมตีสหภาพแรงงานของกลุ่มอนุรักษืนิยมอย่างไม่ลดละมหาหลายทศวรรษ ทำให้จำนวนสมาชิกสหภาพลดลงอย่างรวดเร็ว จำนวนสมาชิก สหภาพสูงสุดที่ 25% ในปี 1954 และลดลงเหนือ 20.9% ในปี 1980

       บทบาทที่เพ่ิมมากขึ้นของศาสนาและเชื้อชาติในทางการเมือง ประกอบกับการเสือมถอยของสหภาพแรงงาน ก่อนให้เกิดแรงกดดันใหม่ๆ ต่อผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวขาวและชนชั้นแรงงาน โดยเฉพาะคริสเตียนการลงคะแนนให้พรรคเดโมแครตเป็นทางเลือกที่ง่ายในสมัยที่การเมืองเป็นเรื่องของอัตลักษณ์ของชนชั้น แต่ในตอนนี้ พรรคการเมืองต่างๆ กำลังแข่งขันกั้นใประเด็เรื่องเชื้อชาติ ศาสนา เพศ และรศนิยมทางเพศเช่นกัน ซึ่งในชณะเดียวกัน ความผูกพันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างพรรคเดโมแครตและชนชั้นแรงงานผิวขาว หรือที่เรียกว่า สหภาพแรงงานก็เร่ิมลดน้อยลง

       ผลที่ตามมาในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 คือ 79% ของเขต นิวดีล ดั้งเดิมที่มีคนผิวขาวเป็นชนชั้นแรงงานได้แยกตัวออกจากกลุ่มพันะมิตรเมื่อถึงปี 2016 มีเพียง 4% เท่านั้นที่ดหวตให้พรรคเดโมแครต

        เมืองวิสคอนซินเป็นหนึ่งใน 4% นั้น เมืองใอินเดียนาและมินนิโซตาเป็นส่วนหนึ่งของ 96% เมืองในอินเดียนาเร่ิมลงคะแนนให้กับผุ้สมัครจากพรรครัพับลีกัน ในปี 1968 และเมือเวลาผ่านไป พรรครัพัลลิกันก็เขาครอบงำทุกระดับตำแหน่ง ขาวเมืองในมินนิโซดาแตกแยกกันระหว่างเดโมแครตและรีพับลิกันเป็นเวลาหลายทศวรรษ แต่เปลี่ยนมาสนับสนุนฝ่ายขวาในปี 2016

          ลักษณะเฉพาะของท้องถ่ินอธิบายเส้นทางที่แตกต่างกันของพวกเขาเมืองอินเดียนานั้นอ่อนไหวต่อแรงดึงดูดการปรับโครงสร้างเชือชาติและการเมืองของคริสต์สาสนาอย่างชัดเจน เมืองที่มีประวัติของการปฏิบัติที่แบ่งแยกเชื้อชาติที่คงอยุ่จนถึงช่วงทศวรรษ 1960  และเมือถึงช่วงทศวรรษ 1980 ขบวนการแรงงานของเมืองก็แทบจะหายไปทั้งหมด ในขณะเดียวกัน โบสถ์ใน้องถ่ิน ซึ่งเดิมที่เป็นนิกายโรมันคาธอลิกและต่อมาเป็นนิกายอีแวนเจลิคัล ได้เริ่มประสานงานกับขบวนการต่อต้านการทำแท้ง ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1900 เมืองอินเดียนามีโบสถ์อีแวนเจลิคัลมากว่าเมืองต่างๆ ในมินนิโซตาหรือวิสคอนซิน แต่เมืองนี้เร่ิมีความสำคัญหลังจากศาสนาอนุรักษ์นิยมเข้ามามีบทบาทางการเมืองในข่วงทศวรรษ 1870 ประสบการณ์นี้เป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องรวของเขตนิวดีลที่ย้ายเ้าไปอยู่ในรัฐบาลผสมของพรรครีพับลิกันในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ทั้งเมือในวิสคอนซินและมินนิโซตาต่างต่อต้านจนถึงช่วงปี 2000 ต่างจากเมืองในอินเดียนา ทั้งสองเมืองไ่มีคริสตจักรนิกายอีแวนเจลิดัลและยังคงมีขบวนการแรงงานที่จัดต้งขึ้นอย่างเป็ระบบตลอดช่วงปี 1990 หนังสือพิมพ์ท้องถ่ินบันทึกการหยุดงาน 56 ครั้งในเมืองวิสคอนซินระหว่างปี 1940-1990 และ 11 ครั้ง ในเมืองมินนิโซตา รวมทั้ง 2 ครั้งที่ทำให้ทั้งเมืองหยุดชะงัก

          อย่างไรก็ตาม ในปี 2016 การเมืองของมินนิโซตาก็เปลียนไป เนืองจากเป็นเมืองของบริษัท การล้มละลายของนายจ้างรายใหญ่สุดของเมืองในช่วงทศวรรษ 1970 ตามมาด้วยการล่มสลายในที่สุดจาเหตุเพลิงไหม้ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ส่งผลให้ขบวนการแรงงานของเมพืงอพังทลาบลง การตำต่ำของอุตสาหกรรมในื้องถ่ินควบคุู่ไปกับการขาดแคลนแรงงนเป็นปราการ ทำให้ผุ้มีสิทธิเลือกตึ้งมีแนวโน้มที่จะรับคำเตือนของทรัมปืเกี่ยวกับลัทะิสังคมนิยมและการอพยพระหว่างประเทศซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยุ่ของเมืองประเภทนี้

          เส้นทางของเมืองในรัฐอินเดียนาและมินนโซตาช่วยอธิบายว่าทำไมการสนับสนุนพรรคเดโมแครตของเมืองวิสคอนซินจึงเกิดขึ้นน้อยมากในหมู่คนผิวชาวชนชั้นแรงงานในเขตนิวดีล แม้ว่าการจัดต้ั้งแรงงานจะเร่ิมลดลงในเขตอุตสาหกรรมอาร์ตแลนด์ แต่สหภาพแรงงานของเมืองก็ยังคงวมีส่วนร่วมในกิจกรรมั้งในที่ทำงานและทางการเมือง ไมเ่พียงแต่ประท้วงเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนผุ้สมัตรรับตำแหน่งในทื้องถ่ินที่ลงสมัครโดยใช้นโยบายแรงงานอีกด้วย ต่างจากมเืองในรัฐมินนิโซตา มเืองนี้ไม่เคยพึงพาผุ้จ้างรายเดียวมากนัก และร้านค้าสหภาพแรงงานหลายแห่งจากช่วงทศวรรษ 1950 ยังคงดำเนินกิจการอยุ่จนถึงปัจจุบันสหภาพแรงงานภาคเอกชนหลักซึ่งต่อมามีการเคลื่ีอนไหวที่เพ่ิมขึ้นในสสหภาพสาธารณะในท้องถ่ิน ได้ช่วยรักษาขบวนการแรงงานของเมืองไว้ได้ ซึ่งการรวมตัวนี้ได้สร้างชุมชน "ฮาร์ตแลนด์" ที่หายากซึ่งต่อต้านการโน้มน้าวไปทางฝ่ายขวาที่ล่อลวงผุ้อยู่อาศัยในเมืองชนชั้นแรงงานผิวขาวซึ่งเคยป็นรากฐานของกลุ่มพันธมิต นิวดีล

         https://time.com/6958635/trump-biden-midwest-history/

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2567

How Sturdy Is the ‘Blue Wall’ in 2024?...(2)

      ในขณะที่พรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะครั้งสำคัญในการเลือกตั้งและชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ในทุกรัฐ เช่น มิชิแกน วิสคอนซิน และเพนซิลเวเนีย พวกเขายังได้เสริมตำแหน่งของตนในเขต "รัศท์ เบลท์" ก่อนปี 2024 ดดยสร้างรัฐที่เรียกว่ากำแพงสีน้ำเงินขึ้นมาใหม่ ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะในปี 2016 หลังจากผลงานของพรรคเดฮมแครตที่ดีเกินคาด ความสำเร็จของทรัมป์ในภุมิภาคนี้ในปี 2016 ก็ดูเลือนลางลงทุกที่ ในการเลือตั้งครั้งที่สมติดต่อกัน พรรคเดโมแครตชนะการเลือกตัครั้งสำคัญในสามรัฐนี้ โดยไบเดนพลิกกลับมาเอาชนะทรัมป์ได้ในปี 2020 และเตรียมที่จะทำเช่นนั้นอีกคร้งในปี 2024 จากผลสำรวจในสัปดาห์นี้ หากการรือถอนรัฐที่มีกำแพงสีน้ำเงินเกิดขึ้นด้วยมือของทรัมป์เองในปี 2016 การฟื้นฟูกำแพงสีน้ำเงนิก็เกิดขึ้น


ในสัปดาห์นี้ เช่นกัน ดดยที่พรรคเดโมแครตสามารถโค่นผุ้สมัครที่อดีตประธานาะิบดีให้การสนับสนุนได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปอย่านั้ ชัยชนะของพรรคเดโมแครตในรัฐแอริดซนาและ จอร์เจีย ซึ่งมาร์ก เดลลี ผุ้ดำรงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครต นำหน้า เบลด มาสเตดร์ส ในการแข่งขันชิงตำแหน่งวุฒิสภา และวุมิสมาชิกราฟาเอล วอร์ย๋อต (พรรคเดโมแครต จอร์เจีย) และเฮอร์เชล วอล์กเกอร์ จากพรรครีพับลิกัน กำลังมุ่งหน้าสุ่การเลือกตั้งรอบสอง ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการคำนวณคณะผุ้เลือกต้งของพรรคก่อนปี 2024 หลังจากวันอังคาร พรรคเดโมแครตที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ซึ่งได้ฐานเาียงของพวกเขาและชนะใจผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่ผันผวนในรัฐเหล่านี้ก็ดูเหมือนจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

           บางที่ไม่มีที่ใดที่ส่ิงนี้จะชัดเจนไปกว่าที่วิสคอซิน ซึ่งพรรคเดดมแครตไม่เพียงแต่ปกิเสะไม่ให้พรรครีพับลิกันมีเสียงข้ามากในรัฐสภาเท่านัน แต่ยังปฏิเสะไม่ให้ โทนี เอเวอร์ส ผุ้ดำรงตำแหน่งอยุ่ในปัจจุบน ปฏิเสะการท้าทายทิม มิเชลส์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ เอเวอร์ กลายเป็นผุ้วาการรัฐจากพรรคเดโมแครต คนแรกนับแต่ปี 1962 ที่ได้รับชัยชนะในวิสคอนซินในช่วงกลางเทอมในขณะที่มีพรรคเดโมแครตดำรงตำแหน่อยุ่ในทำเนียบขาว 

         แม้วาจะมีข้อยกเว้นที่โดดเด่นหนึ่งประการต่อคือนอันดีงามของเดโมแครตในรัฐ วุฒิเสมาชิก รอน จอห์นสัน เอาชนะคุ่แข่งจากพรรคเดโมแครตและคว้าชัยชนะเป็นสมัยที่สาม พรรคการเมืองนี้ก้าวออกมาจากรัฐี้ด้วยความมั่นใจที่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับโอกาศของพวกเขาในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024

           การที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงท้ายเกมทำให้สนามแข่งขันทางการเมืองกลับมาคึกคักอีกครั้ง ดดยช่วยให้พรรคเดโมแครตได้รับคะแนนนิยมเพ่ิมขึ้นอย่างน่าพอใจและยังได้รับเงินทุนและอาศาสมัครจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป

 ในประเทศที่มีประชากรกว่า 330 ล้านคน การเลือกตั้งในปี 2024  และเช่นเดียวกับ สองครั้งล่าสุดที่ผ่านมา จะถุุกตัดสินดดยผุ้มีสิทะิเลือตั้งจำนวนค่อนข้างน้อยในรัฐสมรภูมิไม่กี่แห่ง ผุ้เชี่ยวชาญการเมืองกล่าว

         เมื่อ อิลลารี คลินตันพ่ายแพ้ต่อทรัมปื ในปี 2016 ด้วยคะแนนน้อยกว่า 80,000 คะแนนทั่วทั้ง วิสคอนซิน มิชิแกน และเพนซิลเวเนียรวมกัน เมือประธานาธิบดี ไบเดน เอาชนะทรัมป์ในปี 2020 ด้วยคะแนนน้อยกว่า 50,000 คะแนนทั่วทั้งวิสคอนซิน แอริโซนา และจอร์เจีย 

        ขณะนี้ แฮร์ริส กำลังเร่งดำเนินการตามเส้นทางสุ่ชัยชนะของตนเองในสมรภูมิการเลือกตั้งระดับชาติ..ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับนักข่าวเมือสัปดาห์ที่แล้ว ผุ้อำนวนการฝ่ายรัฐสมรภุมิการรณรงค์หาเสียง แดน แดนนิเนน กล่าว่ากระแสสนับสนุนแฮร์ริสทั่วประเทศรวมถึงอาศาสสมัครใหม่ 360,000 ราย และเงินบริจาค 200 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรกของการลงสมัครของเธอ ดดยสองในสามมาจากผุ้บริจาคใหม่ 

         เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทีมงานหาเสียงของแฮร์ริสกล่าว่ว่ามี เงินสดในมือ 377 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมือเที่ยบกับ 327 ล้านเหรียญสหรัฐของทรัมป์ และพวกเขาจะใช้เงินสดอย่างหนักและรวดเร็วเพื่อยกระดับการต่อสุ้ 

        แคนนินีน กล่าวว่า แคมเปญดังกล่าวกำลังขยายเครือข่ายสำนักงานภาคสนามและอาสาสมัครของ ไบเดน-แฮร์ริส ที่มีอยุ่แล้วอย่ารวดเร็วทั่วทั้งรัฐที่เป็นสมรภุมิรบ เขากล่าวว่าเจ้าหน้าที่ 600 คน "ประจำการอยุ่ทีกำแพงสีน้ำเงิน" และจะมีการเพิ่มอีก 150 คนภายในกลางเดือนสิงหาคม ผู้ช่วยยังวางแผนที่จะเพ่ิมขนาดทีมงานแคมเปญเป็นสองเท่าใสแอริโซนาและนอร์ทแคดรไลนา และกำลังเปิดสำนักานภาคสนามแห่งใหม่ใน จอร์เจีย

        อาสาสมัครต่างแยกย้ายกันออกไปคาะประตุบ้าน และได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิะีที่ดีที่สุดในการกระตุ้นการสนทาที่สนับสนนุแฮร์ริสทางออนไลน์

        "เรากำลังดำเนินการลงทุนทั่วทั้งแผนที่เพราะข้อมุลมีความชัดเจ เรามีช่องทางมากมายในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 270 เสียง" แคนนินีน กล่าว "รองประธานาธิบดีมีความเข็งแกรงทั้งในกำแพงสีน้ำเงนิและในซันเบลท์ และเรากำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ในทั่้งสองกรณี"...

          ...โรเบิร์ต อเล็กซานเดอร์ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโบลว์ลิ่งกรีนสเตตในรัฐโอไอโอและผุ้เขียนหนังสือเรื่อง "รีเพรสเซนเทชั่น แอน เดอะ อีเลกทอรอล คอลเลจ" ศึกษาเส้นทางสุ่ชัยชนะของประธานาธิบดีบนแผนที่การเลือกตึั้งมานานแล้ว "การเข้ามาของแฮร์ริสทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐต่างๆ ที่ถุกแย่งชิงเปลี่ยนไปจากที่ไบเดนเคยอยุ่ และมันทำให้รัฐเหล่านี้เปิดรับพรรคเดโมแครตมากขึ้น รัฐบางแห่งดุเหมือนจะกำลังหลุดลอยไป(ภายใต้ไบเดน) และการสำรวจความคิดเห็นบางส่วนในช่วงแรกก็บอกว่าตอนนี้พวกเขากลับมาอยุ่ในกำมือของผุ้สมัครที่นำดดยแฮร์ริสแล้ว" อเล็กซานเดอร์กล่าว "นั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากในช่วงเวลาอันสั้น" เขากล่าวว่า เพนซิลเวนียซึ่งมีคะแนนเสียงเลือกตั้ง 19 เสียง ซึ่ง ฮิลลารี่ คลินตันแพ้ และ ไบเดน ชนะ ถือเป็น "รัฐที่ค่อนข้างสำคัีญในเรื่องนี้ทั้งหมดในขณะนี้ไ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมการ "ทุ่มเงินไ ลงไปในการรณรงค์หาเสียงที่นั่น



           และเขายังคาดหวังด้วยว่าแฮร์ริส ซึ่งได้รับพลังและความกระตือรือร้นใหม่ๆ จะลงทุนเพ่ิมในการกระตุ้นให้เกิดการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในภาคใต้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพื่อบังคับให้ทรัมป์ ซึ่งกำลังเตรียมที่จะ "ทำคะแนนแซงหน้าไบเดน" กลับมาอยู่ในท่าที่ป้องกันอีกครั้ง

          ไคล์ คอนดิก นักวิเคราะห์การเมืองแห่งศุนย์การเมืองแห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย กล่าวว่า ทั้งแอร์ริสและทรัมป์ดุเหมือนจะให้ความสำคัญกับ 7 รัฐที่ตัดสินใจเลือกด้วยคะแนน 3 เปอร์เซนหรือน้อยกว่าในการเลือกต้ังครั้งล่าสุดอย่างถูกต้อง ได้แก่ เพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน ในกำแพงสีน้ำเงิน จอร์เจีย นอร์ทแคดรไลนา และแอริดซนาในซันเบลท์ และ เนวาดา

          5 บทเรียนที่น่าประหลาดใจจากชัยชนะอันน่าทึ่งของทรัมป์ ชัยชนะของทรัมป์ในปี 2016 เป็นปีที่ทุกสิ่งที่ชนชั้นทางการเมืองคิดว่ารุ้..ล้วนผิดการที่ทรัมป์ชนะอิลารรี คลินตัน ทำให้เกิดความรุ้แจ้งที่เกิดขึ้นมาหลายปีเกี่ยวกับวะิดำเนินงานของแคมเปญ การเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ของอเมริกา และการที่ผุ้ได้รับการเสอนชื่อที่มีความขัดแย้งสามารถส่งผลต่อผุ้สมัครในบัตรลงคะแนนได้อย่างไร

       1 ทรัมป์ได้รับชัยชนะ ผลสำรวจผิดพลาด ดมเดลการแายภาพก็ผิดพลาด ผู้ที่ผ่านศึกการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประะานาะิบดีก่อนหน้านี้ก็ผิดพลาดเช่นกัน ชัยชนะของทรัมป์ ถือเป็นความพลิกผันที่น่าตกตะลึงที่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองอเมิรกัน ผุ้มีาสิทะิเลือกตั้งชขาวอเมริกันพาพรรครีพับลิกันเข้าสุ่อำนาจ สงผลให้พรรครีพัลลิกันคว้าทั้งทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผุ้แทนราษฎร ในรุปแบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นักการเมืองมืออาชีพจะใช้เวลาหลายสัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้าเพื่อศึกาาว่าเหตุใดทุกคนจึงพลาดเรืองนี้

      2 มีกลุ่มพันะมิตรทรัมป์ ความสนับสนุนอย่างล้นหลามจาผุ้มีสิทะิเลือกตังผิวขาวซึ่งเป็นชนชั้นแรงงานส่งผลให้ทรัมป์ได้รับชัยชนะ สิ่งที่สำคัญที่สุ "กำแพงสีน้ำเงิน" ของพรรคเดโมแครต ซึ่งประกอบไปด้วยเพนซิลเวเนย มิชิแกน และวิสคอนซิน พงทลายลง โดยทรัมป์คว้าชัยชนะได้ 2 ใน 3 เมืองอย่างเด็ดขาด และเป็นผุ้นำในรัฐมิชิแกน 

          พรรคเดโมแครตชนะการเลือกต้งในเขตเมืองเช่นเคย แต่คลินตันตามหลังคะแนนนิยมของประธานาธิบดีของประธานาธิบดีบารัค ดอบามาในปี 2008 และ 2012 ในเขตขานเมืองของอเมริกาอยุ่มาก และในเขตชนบท ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งผิวขาวก็สนับสนุนทรัมป์ด้วยคะแนนเสียงที่สุงกว่า 40% อยุ่บ่อยครั้ง

        ในบางพื้นที่ ผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ "ซ่อนอยุ่" คือสิ่งที่แคมเปญโฆษณาไว้แต่ผลสำรวจไม่พบ ในพื้นที่ือ่น จำนวนผุ้มาใช้สิทะิเลือกตัึ้งของพรรคเดโมแครตลดลงจากระดับของปี 2012 ความแตกต่างนั้นเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในรัฐต่างๆ ที่คลินตันต้องดินรนในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครตกับเบอร์นี้ แซนเดอร์ส ซึ่งข้อความคุ้มครองการค้าของเขานั้นสอดคล้องกับของทรัมป์เป็นส่วนใหญ่

        3 ไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลผสมของคลินตัน หรืออย่างน้อยที่สุด การมีผุ้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่เป็นชาวละตินใหม่ๆ จำนวนมาก และการสนับสนุนจากผุ้หยิงที่มีการศึกษาระดับอุดมศึกษายังไม่เพียงพอที่จะทัดเทียมกับความแข็งแกร่งของทรัมป์กับผุ้มีสิทะิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวขาว 

        คลินตันได้รับผลกระทบจากจำนวนผุ้มาลงคะแนนเสียงขาแอฟริกันอเมริกันลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อโอบลามา แต่การพ่ายแพ้ของเธอสะท้อนให้เห็นความเป็นจริงของพรรคเดโมแครตที่เอนเอียงไปทางซ้ายและพึ่งพาฐานเสียงในเมองมากขึ้นในช่วงหลายปีของโอบามา "สุนัขสีน้ำเงิน" ซึ่งหมายถึงพรรคเดโมแครตสายอนุรักษ์นิยม ได้หายไปแล้ว และบรรดาผุ้มีสิทะิเลือกตั้งชนชั้นแรงงานที่เคยสนับสนนุนนัการเมืองอย่าง บิล คลินตัน ก็ไม่มีใครสนับสนุน ฮิลารี อีกเลย

         4 เครื่องมือการณรงค์มีข้อจำกัน โครงสร้างพื้นฐานการณรงค์หาเสียงของคลินตันนั้นน่ราประทับใจไม่แพ้ดครงสร้างพื้นฐานใดๆ ที่เคยรวบรวมมา โครงสร้างพื้นฐานดังกลาวได้กำหนดเป้าหมาย ระบุ และเข้าถึงผุ้มีสิทะิเลือกต้งที่สำคัญในรัฐสมรภูมิ เธอยังใช้เงินโฆษณาทางทีวีมากว่าทรัมป์ จัดตึ้งสำนักงานภาคสนามเพิ่มเติม และส่งเจ้าหน้าที่ไปยังรัฐสำคัญต่างๆ มากกว่าเกิมมากก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน ทรัมป์ก็บริหารองค์กรแบบไร้ทิศทา ดดยพึงพาคณะกรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน ในการดำเนินการรณรงค์ให้


ประชาชนออกมาใช้สิทะิลงคะแนนเสียงทั้งหมด ไม่มีอะไรสำคัญเลย หรือบางที่ก็อาจจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ในทีุ่สุด คลิดตันก็ชนะในเนวาดา ซึ่งเป็นเครื่องพิสุจน์ถึงความสามารถในการจัดระเบียบของฝ่ายซ้าย และเธอเกือบชนะในฟลอริดา หลังจากได้คะแนนนำอย่างท่วมท้นในพื้นที่ตะวันออเแียงใต้ของรัฐซึ่งมีประชกรหนาแน่นและมีชาวละตินจำนวนมากนั่นไม่เพียงพอ ปกิบัติการของคลินตันไม่ได้แก้ไขปัญหาในพื้นที่ "รัสเบลท์" เมื่อถึงช่วงที่คลินตันและโอบามาไปเยือนมิชิแกนในนาที่สุดท้ายและปิดแากแคมเปญที่ฟิลาเดลเฟียเมือคืนวันจันทรื  ก็สายเกินไปแล้ว

        5 ไม่มีความเสียหายจาการลงวคะแนนเสียง พรรครัีพลัลิกันทุกแห่งต่างคาดว่าทรัมปื๗ะเป็นอุปสรรคต่อความหวังของพรรคท่จะรักษาการควบคุมในวุฒิสภาไว้ เขาไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย และในบางรัฐ ทรัมป์ดุเหมือนจะช่วยพรรครีพัลลิกันด้วย

          เขามีผลงานเหนือกว่าผุ้สมัครวุฒิสภาจาพรรครัพับลิกัน ในรัฐอินเดียนาและมิสซุรี และบังทำผลวานได้เกือบเท่ากับผุ้สมัครในเพนซิลเวเนีย นอร์แคดรไลนา นิวแอมป์เชียร์ และวิสคอนซินอีกด้วย

         ผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่าไม่มีผุ้มีสิทธิออกเสียงแบบแยกบัตรมากนัก ซึ่งเป็นความจริงที่เคยสร้างความหวาดกลัวแก่สมาชิกวุฒิสภาของพรรครีพัลลิกันก่อนการเลือกตั้ง แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพรรค

          วอร์ด เบเกอร์ ผุ้อำนวนการบิหารของคณะกรรมการวุฒิสภาพรรครีพับลิกันแห่งชาติ กล่าวในบันทึกเมือชเ้าตรุ่ของวันพุธว่า "พรรคเดโมแครตเชื่อว่าตนมีตั๋วทองเมือโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการพวกเขาพยายามทำให้การแข่งขันทุกรายการเป็นของชาติ และเมือการเสนอชื่อของคลินตันตกต่ำลง พวกเขาก็ไม่มีข้อความ ไม่มีกลยุทธ์ และไม่มีความสามารถที่จะปรับเปลี่ยนไปสุ่ประเด็นในท้องถิ่น" 

           https://edition.cnn.com/2016/11/09/politics/donald-trump-wins-biggest-surprises/index.html

          https://www.politico.com/news/2022/11/09/democrats-blue-wall-electoral-college-2024-00066127

           https://www.americamagazine.org/content/unconventional-wisdom/blue-wall-and-sticky-electoral-college

           https://www.seattletimes.com/nation-world/nation-politics/analysis-hold-blue-wall-or-light-up-sun-belt/

           

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567

How Sturdy Is the ‘Blue Wall’ in 2024?

            ในอดีต รัฐมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน รู้จักกันในนาม "กำแพงสีน้ำเงิน" เนือ่งจากพวกเขาสนับสนุนพรรคเดโมแครตมาหลายทศวรรษ มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ได้เห็นการ


เปลี่ยนแปลงที่สำคั ญ ดดยเฉพาะในการเลือกตั้งปี 2016 เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะในรัฐเหล่านั้น ชัยชนะอย่างหวุดหวิดของทรัมป์ในปี 2016 และชัยชนะของ โจ ไบเดน ใปี 2020  ด้วยคะแนนที่มากกว่าเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของรัฐทีีมีัผลแพ้ชนะสนูงและการที่นักการเมืองให้ความสำคัญอข่งเข้มข้นในการเอาชนะของพวกเขา ในปี 2020 การเคลือนไหวที่กระตุ้นโดย Black Live Matter BLM ส่งผลต่อชัยชนะของไบเดนในปี 2020 และจุดชนวนการกล่าวหาการทุจริตการลือกตั้งจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ และพันธมิตรของเขา ทำให้คามเสี่ยงที่กลุ่มหัวรุนแรงอาจใช้อาวุธเพื่อมีอิมะิพลต่อผลการเลือกตั้งสในรัฐสำคัญบางแห่งเพ่ิมสูงขึ้น รายงานนี้ทบงทวนแนวโน้มบ่าสุดของกิจกรรมการเดินขบวนและการระดมพลของกลุ่หัวรุนแรงในมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ดดยระบุว่ารัฐเหล่านี้อาจก่อนให้เกิดความเสี่ยงต่อความรุนแรงทีเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไร

 ย้อนกลับไปในปี 2015 เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะเชื่อว่าผุ้ครนในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ จะไม่หลงไหลในตัวดดนัลด์ ทรัปม์ ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในแถบมิดเวสต์ขอบการต่อยตีที่จริงจังมากกว่าพูดจาไร้สาระ ความั่นคงมากกว่าความเหลวไหล และแล้วขายผุ้มั่งคั่งจากนิวยอร์กก็ปรากฎตัวขึ้น เขาเร่ิมต้นแคมเปญหาเสียงด้วยการเลือนลงมาบนยันไดเลือนสีทอง ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งในเขตชานเมืองจากพื้นที่ที่ผุ้คนผลิตสิ่งของโลหะขนาดใหญ่ให้กับธุรกิจที่ผลิตสิ่งของโลหะขยาดเล็กกว่าจะมองเห็นอะไรในตัวคนดอ้อวดอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ได้บ้าง

         แต่ทรัมป์รู้จักกลุ่มคนที่เขาสนับสนุน เขาลงสมัครรับเลือกตังเพื่อต่อต้านการอพยพ เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อต่อต้านการค้าเสรีและลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อต่อต้านกลุ่มคนที่สนับสนุนการอพยพและการค้าเสรี เช่น คู่แข่งของเขา ฮิลลารี คลินตัน


          และ Rust Belt(ภูมิภาคในภาคตะวันออกเแียเหน และภาคกลางของ สหรัฐฯ และสวนทางตอนเหนือสุดของภาคใต้ของสหรัฐญ ครอบคลุม พื้นที่ตอนบนของรัฐ นิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย โอไฮโอ เวสต์เวอร์จิเนีย อินเดียนา อิลลินอยส์ คาบสมุทรตอนล่างของรัฐมิชิแกน ตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ วิสคอนซินและพื้่นที่เล็กๆ ของรัฐเคนดักกี้นิวเจอร์ซีและเขตมหานคร เซนต์หลุยส์ในรัฐมิสซุรี เมืองต่างใน รัสท์ เบลท์ ได้แก่อัลเลนทาวน์ บัลติมอร์ บัฟฟาโล ชืคาโก ซิน ซินเนติ คลีฟแลนะ์ ดีทรอยต์ แกรีมิลวอกี ฟิลาเดลเฟีย พิตต์สเบิร์ก โรเชสเตอร์โทเลโด เทรนดัน และยังส์ทาวน์  รัสท์


เบลส์ เป็นคำที่มีความหมายตรงข้ามกันเืพ่อธิบายถึงอุตสาหกรรมที่ "กลายเป็นสนิม"ดดยทัวไปหมายถึงผลกระทบของการลดการผลิต ภาคอุตสาหกรรม การตกต่ำทางเศรษฐกิจ แารสูญเสียประชากรและความเสื่อมโทรมของเมืองในภูมิภาคเหล่านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว ดดยเฉพาะอย่างยิ่งรวมถึงการผลิต เหล็การผลิตยานยนต์ และการทำเหมืองถ่านหิน คำนี้ได้รับความนิยมในสหรัฐฯตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อมักนำไปเปรียบเทียบกับ Sun Belt ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว) ก็ยอมรับในส่ิงนน จำนวนงานการผลิตในภาคการผลิตของภาคกลางตะวันตกลดลงมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษท 1990 นั่นคือ 1.5 ล้านตำแหน่งที่หายไป ผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินและปัญหารการยึดบ้านยบังคงมีอยู่ ดดยชาวภาคกลางตะวันตกจำนวนมากต้องสร้างเงินออมเพื่อการเกษียณขึ้นมาใหม่ และยังมีประชกรในเขตชานเมืองสูงอายุจำนวนมากที่คิดว่าไ่มีใครสนใจพวกเขา และเชื่อว่าผุ้อยุ่อาศัยในตัวเมืองได้รับเงินช่วยเหลือมากเกินไป

          ผุ้ชายยิวขาวอายุมากในเขตชานเมืองทางตะวันตกกลางเหล่านี้ถือเป็นผลไม่ที่ห้อยต่ำสำหรับทรัมป์ เพนซิเวเนีย โอไฮโอ มิชิแกน และวิสคอนซิน ซึ่งเป็น 4 รัฐที่เป็นส่วนหนึ่งของ "กำแพงสีน้ำเงิน" ของพรรคเดโมแครตมาเป็นเวลาสองทศวรรษพลิกกลับมาเป็นสีแดง ชัยชนะรวมกันอยุ่ที่ 75,000 คะแนน หากไม่มี 4 รัฐนี้ เขาคงแพ้คณะผุ้เลือกตั้ง 240 ต่อ 291 คะแนน แต่ถ้ามี 4 รัฐนี้ ทรัมป์ชนะด้วยคะแนน 304 ต่อ 227 คะแนน

       สีปีต่อมา โจ ไบเดนสามารถเอาชนะ 3 รัฐดังกล่าว เพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน ให้กับพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนเสียงรวมกันประมาณ 250,000 คะแนน หากทั้งสามรัฐนี้ยังคงเป็นสีแดง ทรัมป์จะชนะการเลือกตึ้งคณะผุ้เลือกตั้งด้วยคะแนน 278 ต่อ 260 แต่กลับแพ้ไป 232 ต่อ 306 

        สิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นในปี 2024 หาก ไบเดนหรือทรัมป์ ชนะทั้งสามรัฐนี้ เขาน่าจะชนะการเลือกต้งประธานาธิบดี

                  https://acleddata.com/2024/04/17/beyond-the-blue-wall-exploring-the-risks-of-political-unrest-in-the-2024-presidential-election/

                 https://en.wikipedia.org/wiki/Rust_Belt

                 https://www.thebulwark.com/p/democratic-blue-wall-midwest-2024


วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2567

who’s ahead in the polls? (election 2024)

          ขาวอเมริกันจะทำการลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป ในวันที่ 5 พฤศจิกา ดูหเมือนว่าคุ่ต่อสุ้จะเป็นผุ้สมัครสองคนเดิม เช่นเดียวกับปี 2020 นั่นคือ โจ ไบเดน ผุ้ดำรงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ ผุ้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนหน้านั้น จากพรรครีพับลิกัน แต่ ไบเดน ทำการดีเบตที่ทำให้พรรคเดโมแครตตั้งคำถามทัีนที่ว่า ไบเดนมีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งหรือไม่ ในวันที 21 กรกฎาคม เขายอมถอนตัวจากการแข่งขัน เขารับรองรองประธานาธิบดีของเขา กมลา แฮร์ริสเป็นผุ้สมัครจากพรรคเดโมแครต

        จากการสำรวจความคิดเห็นระดับประเทศบล่าสุด แฮร์ริสได้รับการสนับสนุนมากพอที่จะได้รับการเสอนชื่อให้ดำรงตำแหน่งในการประชุมใหย่ระดับชาติของพรรคเดฮมแครต เธอมีเวลาไม่มากนักที่จะกำหนดตัวเองให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งรับทราบและคัดค้านแค เปญหาเสียงของ ทรัมป์ การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดนเกียวข้องกับภาวะเงินเฟ้อสูง ร่างกฎมหายนนดยบายอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และความวุ่นวายในต่างประเทศ ซึ่งพรรครีพัลลิกันจะพยายามโยนความผิดให้ แฮร์ริสเช่นกัน แต่เธอมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนเหนือนายไบเดนประการหนึ่ง นั่นคืออายุของเธอ ด้วยวัย 59 ปี เธออายุน้อยกว่าเขาสองทศวรรษและอายุน้อยกว่า ทรัมป์ 18 ปี ในขณะที่ทรัมปืมีประวัติที่ย่ำแย่ โดยผุ้สนับสนุนพยายามพลิกกลับการพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของเขาในปี 2020 เขาต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาของรัฐบาลกลางจากข้อกล่าวหาว่าเขามีส่วนร่วม


ในแผนการดังกล่าว และถุกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาจาการจ่ายเงินปิดปากที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2016 เมือวันที่ 13 กรกฎาคม ในการชุมนุมที่เพนซิลเวเนีย ชายวัย 20 ปี คนหนึ่งยิง ทรัมป์ เฉียดใบหู ทรัมป์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนมือปืนถูกสังหารทันที่ หลังจารการพยายามบอลสังหราครั้งนี้ นักการเมืองทุกกลุ่มเรียกร้องให้พันธฒิตรและคุ่แข่ลดอุณหภุมิทางการเมืองลง ทรัมป์ซึ่งแสดงความอดทนที่หายากหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว กลีบมาใช้ถ้อยคำที่สร้างความแตกแยกในการกล่าวสุนทรพจน์อีกครั้ง

           ในวันทีร 19 สิงหาคม การประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรคเดโมแคร และ เช่นเดียวกันกับการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเมือหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ พรรคเดโมแครตจะเสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในชิคาโก 

           10 กันยายน การดีเบตประธานาะิบดีครั้งที่ 2 ผุ้สมัครหลักทั้งสองคนมีกำหนดพบกันหนึ่งสัปดาห์หลังวันแรงงาน (ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวอเมริกันเร่ิมให้ความสนใจกับการเลือกตั้ง) การเสดงผลงานที่ย่ำแย่ของนายไบเดนการดีเบตครั้งแรกทำให้เขาต้องยุติบทบาทการหาเสียงของเขา นางแฮร์ริสจะเป็นผุ้ต่อต้านทรัมป์อย่างแข็งขันมากขึ้น ซึ่งต่อมมา แฮร์ริสได้เสนอให้มีการดีเบตในวันที่ 4 กันยายนแทนทางช่อง "ฟ็อกนิวส์" ซึ่งเป็นช่องที่เป็นมิตรกับทรัมป์ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าทั้งสองคนจะดีเบตกันหรือไม่

         5 พฤศจิกายา วันเลือกตั้งการเลือกตั้งจะเปิดใวันอังคารต้นเกดือพฤศจิกายน แม้ว่า การลงคะแนนเสียงบ่วงหน้าและการลงคะแนนทางไปรษณีย์จะทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากลงคะแนนเสียงไปแล้ว การนับคะแนนเสียงจะดำเนินต่อไปอีกหลายสัปดาห์ในบางรัฐ

        6 มกราคม 2025 เมื่อนับคะแนนเสียแล้ว ผลการนับคะแนนต้องได้รับการรับรองจากรัฐสภา ดดยปกติแล้ว จะเป็นงานตามรูปแบบ แต่ในปี 2021 ผุ้สนัีบสนุนของนายทรัมป์ได้บุกเขาไปในอาคารรัฐสภาเพื่อหยุดการรับรอง เขากำลังถุกพิจารณาคดีในข้อกล่าวหาว่ามีสวนเกี่ยวขัอบกับการโจมตีครั้งนี้ 

       20 มกราคม 2025 พิธิเปิด ประธานาะิบดีคนใหม่จะทำการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่ขึ้นบันไดอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

        โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 แห่งพรรค รีพัลลิกัน เกิดเมื่อ 14 มิถุนายน 1946 ในควีนส์ นิวยอร์ก เป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ เขาเอาชนะ ฮิลารี คลินตัน ในการเลือกตั้งปี 2016 และพ่ายแพ้ต่อ ด่อ โจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งสาธารณะ ทรัมป์เป็นเจ้าของ "ทรัมป์ ออแกรนนิเซชั่น" ซึ่งเป็นหลุ่มบริษัททีทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมอื่นๆ และเป็นพิธีกรรายการ "เดอะ แอฟเพรียนติซ" ทางช่อง NBC 

       ทรัมป์จะลงสมัครรับเลือกตั้งปรธานาะิบดีในปี 2024 เขาประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งเมือวันที่ 15 พศจิกายน 2022 ทำให้เขาเป็นประธานาะิบดีคนที่ ุ ในประวัติศาสตร์ที่ลงนมัครไม่ติดต่อกัน ทรัมป์ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันหลังจากชนะเสียงส่วนใหญ่ของผุ้แทนในการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรครีพับลิกันเมือวันที่ 15 กำกฎาคม 2024 ทรัมป์เลือกวุฒิสมาชิกสหรัฐ เจ.ดี. แวนซ์ เป็นผุ้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี..

         กมลา เดวี แฮร์ริส เกิดเมือวันที่ 20 ตุลาคม 1964 ในเมืองโอ็คแลนด์ รัฐแคริฟอเนีย เป็นรองประธานาะิบดีคนที่ 49 ของสหรัฐอเมริกา เธอเข้ารบตำแหน่งเมือวันที่ 20 มกราคม 2021 ซึ่งมี โจ ไบเดน เป็นประธานาะิบดี เป็นผุ้สมัครจากพรรคเดโมแครต แฮร์รติสเป็นผุ้หญิงคนแรกเป็นคนผิวสี และเป็นผุ้มีเชื้อสายเอเชียใต้ที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี 

        แฮร์ริสลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 เธอประกาศลงสมัครเมือ 21 กรกฎคม 2024 หลัง โจ ไบเดน ถอนตัวจากการแข่งขัน แฮร์ริสชนะการเสนอชขื่อชขิงตำแหน่งประะานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตในระหวางการลงคแะนนเสียงแบบเสมือนจริงเมือวันที่ 2 สิงหาคม 2024 เธอเลือก ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาเป็นผุ้สมัครชิงรองประธานาธิบดี

เจ.ดี. แวนซ์ เป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐจากรัฐโอไฮโอ เขาดรงตำแหน่งเมือ 3 มกราคม 2023 โดยวาระการดำรงตำแหน่งปัจจุบันของเขาจะสิ้นสุดในวันที่ 3 2029 

        ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2024 โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศให้แวนซืเป็นคู่หูในการชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ทรัมป์กล่าวว่า "เจดี มีอาบชีพทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านเทคโนโลยีและการเงิน และตอนนี้ระหว่างการหาเสียง เขาจะมุ่งเน้นอย่างมากไปที่ผุ้คนที่เขาต่อสู้ นั่นคือคนงานและเกษตรกรชาวอเมริกันในเพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน โอไฮโอ มินนิโซตา และไกลกว่านั้นอีก" แวนซ์ยอมรับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการที่การประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรครีพับลิกัน ประจำปี 2024

        ทิม วอลซ์ เป็นผุ้ว่่ารัฐมินนิโซตา เขาดำรงตำแหน่งเมือวันที่ 7 มกราคม 2019 โดยวาระการดำรงตำแหน่งปัจจุบันของเขาจะสิ้นสุดในวันที่ี 4 มกราคมา 2027 

        เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2024 กมลา แฮร์ริส ผุ้ได้รับการเสนอชือชิงตำปน่งประะานาะิบดีจากพรรคเดโมแครต ได้ประกาศให้ วอลซ์ เป็นคุ่หูในการชิงตำหน่งรองประธานาธิบดี แฮร์ริส กล่าวว่า" สิ่งหนึ่งที่ดดเด่นเกี่ยวกับ ทิม สำหรับฉันคือความเชื่อมั่นของเขาในการต่อสุ้เพื่อครอบครัวชนชั้นกลางนั้นฝังรากลึก" วอลซ์ เป็นรองประะานาธบดีคนแรกของพรรคเดฮมคแครตนับตั้งแต่ปี 1972 ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาในช่วงเวลาที่ได้รับเลือก

       วอชิงตัน 30 ก.ค. (รอยเตอร์) ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต กมลา แฮร์ริส มีคะแนนนำโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพัลลิกัน เพียง 1% ในการสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส โดยปิดช่องง่าวที่เปิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการเสนอตัวลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอักครงของ โจ ไบเดนได้สำเร็จ

     การสำรวจความคิดเห็นสามวันซึงเสร็จสิ้นเมือวันอาทิตย์แสดงให้เห็นว่ารองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้รับการสนับสนุนโดยผุ้มีสิทะิลงคะแนนเสียงร้อยละ 43 ขณะที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ได้รับการสนับสนุนร้อยละ 42 ซึ่งอยุ่ภายในขอบเขตความคลาดเคลื่อนของการสำรวจเพียง3.5% 

              https://www.reuters.com/world/us/harris-trump-locked-tight-us-presidential-race-reutersipsos-poll-finds-2024-07-30/

              https://ballotpedia.org/Vice_presidential_candidates,_2024

              https://www.economist.com/interactive/us-2024-election/trump-harris-polls

           

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“Peach State”

           รัฐจอร์เจียเป็นที่รุ้จักในชื่อ "รัฐพัช" เนื่องจากผุ้ปลูกมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพสูง GA เป็นอังกษรย่อ 2 ตัวหรืออังกณย่อทางไปรษณีย์ และ Ga เป็นอังษรย่อดั้งเดิมหรือมาตรฐานองรัฐจอร์เจียพีชกลายเป็นผลไม้ประจำรัฐอย่างเป็นทางการในปี 1995 


            จอร์เจียมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า รัฐจอร์เจียเป็นรับในภาค ตะวันออกเฉียงใต้ของสหรับอเมริกามีอาณาเขตติดกับ รัฐเทนเนสซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือ รัฐนอร์ทแคดรไลนาทางเหนือรับเซาท์แคโรไลนาทางตะวันออกเฉียงเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงใต้รัฐฟลอริดาทางทิศใต้ และรัฐอลาบามาทางทิศตะวันตก จาก 50 รัฐของอเมริกา จอร์เจียมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 24 และมีประชากรมากป็นอันดับ 8 ตามสสำรักงานสำมะโนประชกรของสหรัฐอเมริกา คาดว่า ประชากรในปี 2023  อยู่ที่ 11 ล้านคน แอลแลนตา ซึ่งเป็นมเืองระดับโลก เป็นทั้งเมืองหลวงของรับและเมืองที่ใหญ่ที่สุดเขตมหานครแอตแลนดาซึ่งมีประชากรมากกว่า 6.3 ล้านคนในปี 2023 เป็นเขตมหานครที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 6 ในสหรัฐฯ และมีประชากรประมาณ 57 % ของประชากรทั้งหมดของอร์เจียเขตมหานครสำคัญอื่นๆ ในัฐ ได้แก่ ออกัสตา ซาวันนา ดคลับัน และเมคอน..

           จังหวัดจอร์เจียก่อตั้ขึ้นในปี 1732 และมีการตั้งถ่ินฐานครั้งแรกในปี 1733 ดัวการก่อตั้งเมืองซาวันนา จอร์เจียกลายเป็นอาณานิคมของราชวงศ์อังกฤษในปี 1752 เป็นอาณานิคมสุดท้ายและอยุ่ใต้สุดจาก 13 อาณานิคม ดั้งเดิม ที่ก่อตั้งขึ้น อาณานิคมจอร์เจีย ได้รับการต้งชื่อตามกษัติรย์ จอร์จที่ 2 แห่งบิรเตนใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เซาท์แคดรไลนาไปทางใต้จนถึงฟลอริดาของสเปนและทางตะวนตกจนถึงลุยเซียนาของฝรังเศสที่แม่น้ำาิสซิสซิปปี เมืองันที่ 2 มกราคม 1788 จอร์เจียกลายเป็นรัฐที่สี่ที่ให้สัตยาบันต่อรัฐะรรมนูญของสหรับอเมริกา ตั้งแต่ปี 1802-1804 จอร์เจียตะวันตกถุกแยกออกเพื่อก่อตั้งดินแดนมิสซิสซิปปี ซึ่ง


ต่อมาได้รับการยอมรับเป็นรัฐอลาบามา และมิสซิสซิปปี ของสหรัฐฯ จอร์เจียประกาศแยกตัวากสไภาพเมือวันที่ 19 มกราคม 1861 และเป็นหนึ่งในเจ็ดรับสมาพันธรัฐดั้งเดิม หลังสงครามกลางเมองมันเป็นรัฐสุดท้ายที่จะฟื้นฟูให้สหภาพในวันที่ 15 กรกฎาคม 1870 ในยุคหลังการฟื้นฟูในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เศราฐกิจของจอร์เจียได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยกลุ่มนักการเมืองนักธุรกิจและนักข่าวที่มีชื่อเสียงนำโดย เฮนรี่ ดับเบิลยู.แกรดดี้ ซึ่งสนับสนุนปรัชญา "นิว เซาท์" ของการปรองดองและการพัฒนาอุตสาหกรรม ตามส่วนต่างๆ ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ผุ้คนหลายคนจากจอร์เจียโดยเฉพาะอย่างยิง มาติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ เป็นผุ้นำที่มีชื่อเสียงในชวงขบวนการสิทธิพลเมือง แอตแลนดาได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฒฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 1996 ..  

          จอร์เจียมีลักษณะเฉพาะตัวในด้านความหลากหลายของภูมิประเทศ พืชพรรณ และสัตว์ต่างๆ ภุมิภาคทางเหนือสุดของรัฐได้แก่ เทือกเขาบลูริดจ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบเทือกเขาแอปพาเลเซียน ที่ใหญ่กวาที่ราบสูง พีดมอนต์ ทอดยาวจากเชิงเขาบลูริดจ์ไปทางทิศใต้จนถึงฟอลไลน์ ซึ่งเป็นหน้าผา สูงขันที่ทอดยาวไปยังที่ราบชายฝั่ง ซึ่งกำหนดภูมิภาคทางใต้ของรัฐ จุดที่สูงทีุ่สุดของรับจอร์เจียคือเมืองบราสทาวน์บอลต์ ซึ่งอยุ่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า สี่พันฟุต จุดตำ่สุดคือมหาสมุทรแอตแลนติก ยกเว้นพ้นที่สูงบางแห่งในบลูริดจ์แล้ว รัฐทั้งหมดมีภูมิอากาศกึ่งร้อนชื้นในบรรดา รฐที่อยุ่ทางตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปีทั้งหมด จอร์เจียเป็นรัฐที่มีพื้นที่ดินที่ ใหญ่ที่สุด...


           แอตแลนตา ในขณะที่รองประะานาธิบดีกมลา แฮร์ริสกล่าวปราสรัยในย่านใจกลางเมืองแอตแลนตาในการชุมนุมหาเสียงครั้งแรกของเธอในฐานะผุ้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหนงจากพรรคเดโมแครต ทีมงานหาเสียงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก้เร่ิมวางแผนการเยือนแอตแลนตาของเขาในสุดสัปดาห์หน้านี้

          ทรัมป์จะพูดบนเวทีเดียวกับแฮร์ริสเคยกล่าวปราศรัยต่อผุงชนราว 10,000 คนที่ศุนย์ประชุมของมหาวิทยาลับย จอร์เจีย เสตรท เมือวันอังคา ดดยเขาจะนำผุ้รองประธานาธิบดีมาด้วย คือ เจ.ดี แวนซ์ ซุฒิสมาชิกโอไฮโด

         นักยุทธศาสตร์พรรครัพับลิกันคนหนึ่งที่ให้สัมภาษณืกับ ฟ็อก ไฟท์ แอตแลนตากล่าวว่า เมืองแฮร์ริสอยุ่ตำแหน่งสูงสุด พลวัตในจอร์เจียเปลี่ยนไปอย่างแนนอน

"เป็นเรื่องที่แลาดสำหรับแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ และแฮร์ริสที่จะมุ่งเน้นไปที่จอร์เจีย" ไลรอัน โรบินสัน ซ่ึ่งยังดำรงตำแหน่งผุ้รวมอภิปรายกล่าว

        รัฐจอร์เจียได้แสดงให้เห็นถึงสภานะของรัฐในฐานะรับสมรภุมิในการเือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 เมื่อเดือนที่แล้ว การแสดงของประธานาธิบดี ไจ ไบเดน ในการดีเบตที่แอตแลนตาเพื่อต่อต้านทรัมปืได้เปลี่ยนกระแสของการเลือกตั้งคต้งหน้า

          "การที่ทรัมป์และวุฒิสมาชิกแวนซืเป็นแกนำ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้มที่จะแข่งขันกันในจอร์เจีย" โรบินสันกล่าว "พวกเขาไม่ได้มองข้ามจอร์เจีย พวกเขาจะมาที่นี่ พวกเขาจะแข่งขัน และจะลงมืออย่างเต็มที่ นั้นเป็นสิ่งที่ชาญฉลาด

          ในการชุมนุมที่เนวาดาเมืองวันอังกคาร วุฒิสมาชิกเจดี แวนซื ดจมตีแฮร์ริสในเรื่องประวัจิของพรรคเดโมแครตในเรื่องการย้ายถ่ินฐาน "หากซารืชายแดนที่ล้มเหลวได้รับชัยชนะ เะอจะไม่หยุดจนกว่าผุ้อพยพผิดกฎหมายทุกคนจะมีสิทธิในการลงคะแนนเสียง ซึ่งจะทำลายเสียงของคุรและประเทศของคุณเพื่อเปิดทางให้กับผุ้คนที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ด้ยซ้ำ" เขากล่าวอ้าง


         อัยการสูงสุด คริส คาร์ ยังโจมตีแฮร์ริสในเรือง X โดยเรียกเธอว่า "คนซ้ายแห่งซานฟรานซิสโก" ที่ต้องกาลดโทษการอพยพที่ผิดกฎหมาย 

         มิเชล วอทลี่ ประะานการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรครีพับลิกันเขียนว่า ไถ้าเธอใส่ใจจอร์เจียจริงๆ เธอก็จะยุติการนองเลือดที่ชายแดนซึ่งนำไปสู่การ"าตกรรมอันโหดร้ยของ  ลาเคน ริเลย์ 

         กมลา แฮร์ริส ได้กลาวถึงข้อเรียกร้องของพวกเขาในการชุมนุมของเธอ "ฉันเป็นอัยการสูงสุดของรัฐชายแดน ในงานนั้น แันเดินทตวจตราอุโมงค์ใต้ดินระหวางสหรัฐและเม็กซิโกที่ชายแดนนั้นกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ฉันได้ติดตามแก๊งข้ามชาติ แกํงค้ายา และผุ้ค้ามนุษย์ที่เข้ามาในประเทสของเราอย่างผิดกฎหมาย ฉันดำเนินคดีกับพวกเขาในคดีแล้วคดีเล่า และฉันชนะ เธอกล่าว

         ทรัมป์ตอบดต้การโจมตีจากฝ่ายซ้ายในการชุมนุมเมือต้นเดือนกรกฎาคามหลังจากที่เขาพยายามลอบสังหาร "พวกเขาพูดอยู่เรื่อว่า ไเขาเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย ฉันคิดอยุ่เรื่อยว่า "ฉันทำอะไรกับประชาธิปไตยไปวะ เมือสัปดาห์ที่แล้ว ฉันโดนยิงเพื่อประชาธิปไตย เขากล่าว เขาจำเป็นต้องเน้นย้ำถึงความล้มเหลวของรัฐบาลไบเดน และมุ่งเน้นไปที่วิสัยทัศน์ของเขาในการฟิ้นฟุเศราฐกิจ" เขากล่าว...

            https://www.fox5atlanta.com/news/georgia-swing-state-kamala-harris-donald-trump-2024-election

           https://www.50states.com/state_nickname/georgia/

           https://en.wikipedia.org/wiki/Georgia_(U.S._state)

“rural resentment.”

         บางส่วนจากบทสัมภาษณ์  Jon K. Lauck  ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งมหา วิทยาลัยเซาท์ดาโกตา ซึ่งได้คิดค้นสาขาการศึกษาเก...