วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2567

Nevadans’ political independence,

          ชาวเนวาดาและนักวิชาการที่ศึกษาเกี่ยวกับระบบการเมืองเนวาดากว่าว่า เนวาดามีความขัดแย้งกัน
มากขึ้นตามแนวทางของพรรคการเมือง ความขัดแย้งที่เพทิ่มมากขึ้นนี้จะทำให้รัฐนี้ห่างไกลจากความเสมอภาคทางการเมืองในหรือไม่

          เศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน และความสามารถในการซื้อที่อยุ่อาศัย เป็นสิ่งที่ผุ้มีสิทธิเะลือกตั้งในเนวดาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก พรรครีพับลิกันโต้แย้งว่าเศราฐกิจกำลังแย่ลงในขณะที่ เดโมแครต แย้งว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น และปัญหาที่ถกเถียงกันซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรากฎในบัตรลงคะแนนในเดือนพฤศจริกายนนี้ เช่นสิทธิในการทำแท้ง การกำหนด ให้ต้องแสดงบัติประจำตัวผุ้มีสิทธิเลือกตั้งและการอนุญาตให้ครูหยุดงาน ล้วนมีส่วนทำให้เกิดการโต้เถียงกันระหว่งกลุ่มชาติพันธ์ในท้องถ่ินและระดับรัฐ

          เมื่อพิจารณาการเมืองของเนวาดา พบว่าตัวแทนทางการเมืองจากพรรคการเมืองหลักทั้งสองพรรคมีความสมดุลกัน อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาให้ละเอียดขึ้นจะพบว่าภุมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปในช่่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ในทางวัฒนธรรม เนวาดมีความเกี่ย่วข้องกับการแต่งงานและการหย่าร้างที่ง่ายดาย การพนัน ในคาสิโน การค้าประเวณอยางถุกกฎหมาย และความคิดที่หละหลวมและทำอะไรก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยสโลแกนอันโด่งดังที่ว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นจที่นี่จะอยู่ที่นี่" 

ในความเป็นจริง เนวาดาก็เป็นรัฐอนุรักษ์นิยมทางการเมืองเช่นกัน แม้ว่าแต่ในกลุ่มเดโแมครต ภาพที่ขัดแย้งกันนี้ทำให้ภูมิทัศน์ทางการเมืองเปลี่ยนไประหว่างการครอบงำของพรรครีพับลิกันและเดโแมครตท่ั้งในระดับรัฐบาลกลางและระดับรัฐ 

         ตั้งแต่ก่อตั้งเนวาดา ในปี 1864 จนถึงปี 1890 พรรครีพับลิกันเป็นผุ้นำรัฐ ผุ้แทนระดับรัฐกลางและระดับรัฐทั้งหมด ยกเว้นสมาชิกสภานิติบัญญัติ 2 คน เป็นเดโมแครตจในปี 1864 เมื่อเนวาดากล่ายเป็นรัฐที่ 36 

         ตั้งแต่ปี 1890-1908 เนวาดาอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคเงินซึ่งสนับการผลบิตเหรียญเวงินอย่างไม่จำกัด ซึ่งเป็นปัญหาเศราฐกิจที่สำคัญในอเมริกาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ภายในปี 1902 กลุ่มที่สนับสนุนเหรียญเงินส่วนใหญ่ในเนวาดาถุกพรรคเดโแมครตของรับเข้าควบคุม

        ตั้งแต่ปี 1908-1930 การควบคุมของพรรครีพัลิลกันและเดโแมครตแบ่งออกเท่าๆกัน โดยเดโแมครได้รับชัยชนะมากกว่าแต่พรรครพัลิกันกลับได้รับชัยชนะในระดับประธานาธิบดีและผุ้ว่การรัฐมากกว่า

        หลังจากได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเดโแมครต แฟรง กลิน ดี. โรลเวลต์ ในปี 1932เดโแมครตมีอิทธิพลทางกเารเมืองในเนวาดาจนถึงช่วงทฯศวรรษที่ 1980 เมื่อรีพัลิลกันกลัมามาีอิทธิพลอีกครั้ง และในช่วงปลายปี 1995 จำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งของพรรครีพัลิลกันก็มีมากว่าพรรคเดโแมครตในเนวาดาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 

        อย่างไรก็ตาม ในปี 2004 กระแสทางการเมืองได้เปลี่ยแลับมาที่พรรคเดโมแครตอีกครั้ง เนื่องจากความพยายามที่เข้มแข็งในการรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิลงคะแนนของพรรคเดโมแครต

          เนวาดาเป็นรัฐสหภาพที่แข็งแกร่งมาก สหภาพแรงงานด้านการประกอบอาหารซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานบริการในนวาดากว่า 60,000 คนมีอิทธฺิพลเป็นพิเศษ "เครื่องจักรรีด" ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรที่หลวมๆของกลุ่มหัวก้าวหน้าที่ตั้งชื่อตามผุ้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ผุ้ล่วงลับ แฮร์รี รีด เร่ิมทำงานในช่วงกลางทศวรรษ 1990 โดยสหภาพแรงงานพยายามลงทะเบียนสมาชิกชนชั้นแรงงาน คนหนุ่มสาว ชาวละติน คนผิวสี และชาวเอเชียเป็นผุ้มีสิทธิเลือกตั้งความพยายามเหล่านี้ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่พรรคเดโมแครตพ่ายแพ้ในปี 2002 สหภาพแรงงานและกลุ่มหัวก้าวหน้าทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าผุ้คนลงคะแนนเสียงให้ไม่ว่าจะด้วยการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า การลงคะแนนสเียงด้วยตนเองในวันเลือกตั้ง หรือทางไปรษณีย์

            ความพยายามเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุดต่อสภานิติบัญญัติของรัฐ ซึ่งพรรคเดโแมครตมักจะควบคุมสมัชชาของรัฐมาโดยตลอดนับตั้งแต่ปี 1997 ยกเว้นช่วงสมัยประชุมสองปีในปี 2015 และเป็นผุ้นำวุฒิสภาของรัฐมาตั้งแต่ปี 2009 ยกเว้นช่วงสมัยประชุมของปี 2015 

 ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา คณะผุ้แทรระดับรัฐบาลกลางของเนวาดาล้วนเป็นเดโมแครต ซึ่งเคยครองที่นั่งในสภาผุ้แทนราษฎรของสหรัฐฯ 3 จาก 4 ที่นั่ง และที่นั่งในวุ?ิสภาของสหรัฐฯ 2 ที่นั้ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการขึ้นทะเบียนสมาชิกพรรคเดโแมครตเพ่ิมขึ้นและมีการพยายามของ "เครื่องจักรของรีด" แต่ผุ้ว่าการรัฐเกือบทั้งหมดที่ได้รับการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี 1998 ล้วนเป็นพรรครีพัลลิกัน ข้อยกเว้นเพียงกรณีเดียวคือการเลือกตั้งสตีฟ ซิโซแล็ก จากพรรคเดโมแครตให้ดำรงตำแนห่งเป็นเวลา 4 ปีในปี 2018 

          ความแตกต่างระหว่างพรรคการเมืองในหมู่ผุ้ดำรงตำแหน่งในระดับรัฐบาลกลางและระดับรัฐเกิดขึ้นเนื่องจากชาวเนวาดาเป็นที่รุ้กันดีว่าเป็นผุ้แยกคะแนนเสียง โดยภาคภูมิใจในการลงคะแนนเสียงโดยพิจารณาจากประเด็นและบุคคล  มากกว่าความภักดีต่อพรรคหรืออัตลักษณ์ของตน

         เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอิสระทางการเมืองขอชาวเนวาดา ในปี 1976 รัฐได้เพ่ิม "นอน ออฟ ธีส แคนดิเดทส์" เป็นตัวเลือกสำหรับตำแหน่งในระดับรัฐและระดับรัฐบาลกางทั้งหมด รัฐนี้เป็นรัฐเดียวในสหรัฐฯ ที่มีตัวเลือกนี้

          รูปแบบการลงคะแนนเสียงของรัฐเนวาดาทำให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งของรัฐได้เลือกผุ้ชนะในการเลือกตั้ประธานาธิบดี ได้อย่าง น่าเชื่อถือ จากการเลือกตั้งประธานาธิบดี 40 ครั้ง ที่รัฐเนวาดาเข้าร่วมตั้งแต่ปี 1864 ถึงปี 2020 รัฐได้ลงคะแนนเสียงให้กับผุ้สมัครที่ได้รับชัยชนะ 33 ครั้ง และในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 23 ครั้งนับตั้งแต่ปี 1912 คะแนนเสียงเลือกตั้งของรัฐได้มอบให้กับผุ้สมัครที่ได้รับชัยชนะในการเลือตั้งเกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียสองครั้ง 

          https://lasvegassun.com/news/2024/sep/06/trump-to-jewish-republicans-at-las-vegas-conferenc/

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2567

Nevada

            ตลอดประวัติศาสตร์ของเนวาดา ไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีอิทธิพลเหนือการเมืองของรัฐ และกลุ่ม
ผุ้ม่สิทธิเลือกต้้งก็ยังคงมีความสมดุลในแนวทางทางการเมืองอย่างน่าประหลาดใจ นับตั้งแต่ที่เนวาดาเป็นรัฐในปี 1864 เนวาดาก็มีผุ้แทนเทียบเท่ากับผุ้แทนของรัฐบาลกลางโดยมีวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ 14 คนจากแต่ละพรรคการเมืองหลัก และสมาชิกสภาผุ้แทนราษฎรสหรัฐ20 คนจากแต่ละพรรคการเมืองเดโมแครตและรีพับลิกัน

            ความเท่าเทียมกันนี้มีอยุ่ในระดับรัฐเช่นกัน มีผุ้ว่าการรัฐเนวาดาทั้งหมด 31 คน ได้แก่พรรครีพับลิกัน 15 คน พรรคเดโแมครต 12 คน และพรรคซิเวอร์ 2 คน จากพรรคซิลเวอร์ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และพรรคซิเวอร์ ในที่สุด พรรคซิลเวอร์เโแมครตก็ถูกดุดซับเข้าในพรรคเดโแมครต ในณะทีี่วุฒิสภาของรัฐถูกควบคุมโดยพรรครีัพลิกัน 48 ครั้งและพรรคเดโมแครต28 ครั้ง การควบคุมสมัชชาของรัฐตามสัดส่วนกลับตรงกันข้ามโดยพรรคเดโแมครตควบคุมห้องปรุะชุม 50 ครั้ง และพรรครีพับลิกันควบคุมเสียงข้อางมาก 26 ครั้ง

          ทั้งหมดนี้ทำให้สภานะที่ไม่ธรรมดาของเนวาดาในแวดวงการเมืองปัจจุบันคือไม่ใช่เป็นรัฐสมรภูมิ

          เนวาดาตั้งอยุ่ในภูมิภาคภูเขาที่มีทุ่งหญ้ากึ่งแห้งแล้งและทะเลทรายอัลคาไลน์ทรายจำนวนมาก ชื่อรัฐมาจากคำในภาษาสเปน แปลว่า "ปกคลุมด้วยหิมะ" ซึ่งหมายถึงทิวทัศน์ภูเขาสุของเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา ที่ชายแกนด้านตะวันตกติดกับรัฐแคลิฟอร์เนีย เนวาดา ซึ่งในช่่วงต้นศตวรรษที่ 21 เป็นหนึ่งในรัฐที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ ดุเมอืหนจะห่างไกลจากสมัยที่เวรอ์จิเนียซิตี้เป็นเมืองชายแดนในตำนานที่เจริญรุ่งเรืองจาก เหมือง เงิน ที่อุดมสมบุรณ์ ของคอมสต็อกโลดอย่างไรก็ตาม คุณลักษณะ ของชายแดนหลายประการยังคงอยู่ แม้ว่าจะภูกเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดอ่อนโดยสภาพแวดล้อมในเมืองที่มีความซับซ้อน นักสำรวจที่ขุดหาสมบัติเพื่อเสี่ยงโชคถุกแทนที่ด้วยผุ้แสวงหาโชคลาภใน คาสิโน การพนัในลาสเวกัสและรีโนและ"สถานบันเทิงยามราตรี" ในอดีต ได้พัฒนาเป็นสถานบันเทิงยขามค่ำคืนที่หรูหรา

 ชาวเนวาดาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตเมือง โดยประมาษครึ่งหนึ่งของประชากรอาศัยอยุ่ในเชตมหานคร ลาสเวกัส เพืีีงแห่งเดียว พื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอันกว้างใหญ่ของรัฐเป็นแหล่งทรัพมยากรที่ยังไม่ได้รับการสำรวจเป็นส่วนใหญ่และการผสมผสานระหว่างเมืองท ี่ขยายดึวและพื้นทีททะเลทรายทำให้เนวาดากลายเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เหมือนใไครในบรรดารัฐต่างๆ ของสหรัฐอเมิรกา 

          ชาวเนวาดาส่วนใหญ่มีพรรพบุรุษเป็นชาวยุโรป ซึ่งมากว่าสี่ในห้าคนเกิดในสหรัฐฯ ชาวเนวาดาส่วนน้อยสืบเชื่อสายมาจากชาวบาสก์ที่รับคนมาเป็นคนเลืั่ยงแกะจาก บ้านเกิด ในเทือกเขาพิเรนีส ชาวฮิสแปนิก ซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายเม็กซิกันและคิวบาคิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรในรัฐและกระจุกตัวอยุ่ทางตะวันออกเแียงใต้ชาวแอฟริกันอเมริกัน ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยุ่บริเวณลาสเวกัน และรีโนคิดเป็นไม่ถึงหนึ่งในสิบของประชกรทั้งหมด ชาวพื้นเมืองอเมริกันของ อาศัยอยุ่ในเขตสงนหลายแห่งและคิเดเปศษเสี่้ยวเล็กน้อยของประชากรในรัฐกลุ่มศาสนาหลักคือ มอร์มอนและโรมันคาะอลิก มีนิกายโปรเตสแตนต์หลายนิกายและมีชาวยิวอยุ่บ้างเล็กน้อย

           ตั้งแต่ปี 1950 ถึงปี 1970 ประชากรของเนวาดา เติบดตขึ้นมากว่าสองในสาม และตลอดช่วงเวลาส่วนใหญ่ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 ถึงต้นศตวรรษที่ 21 ประชากรเติบโตเร้ซกว่ารัฐอื่นๆ โดยมีักจะเติบโตเร็วกว่ารัฐอื่นๆ โดยมักจะเติบดตมากว่าอัตราการเติบโตของประเทศถึงสามเท่า การเติบโตนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากากรอพยพจากรัฐอื่นๆ อัตราการเดิกสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศเล็กน้อย ผลกระทบจากการอพยพนี้สงปลกระทบมากที่สุดในเมืองลาสเวกัส และเขต คลาร์ก โดยรอบ และในเมืองริโนและเขตวอโชโดยรอบ ชาวเนวาดาส่วนหใญ่มีส่วนร่วมนเศราฐฏิจที่เฟื่องฟูของเขตมหานครทั้งสองแห่งนี้

          ภูมิภาคนี้มีแร่ะาตุอุดมสมบูณ์ ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศทอดยาวไปทางตะวันออกจากแคลิฟอร์เนีย ผ่านเนวาดาและเข้าไปในแอริโซนาทองแดง ซึ่งในเนวาดาเป็นส่วนใหญ่เป็นผลพลาอยได้จากการขุดทอง เคยเป็นสวนประกอบที่ใหญ่ที่สุดของการปลิตแร่ะาตุของรัฐ แต่ลดลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980 เมือความต้องการโลหะลอลงทั่วดลกแต่ภาคอุตสาหกรามนี้ฟื้นตัวขึ้นในขช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ มา เอสโก ได้เข้ามาแทรที่ทองแดงในฐานะ แร่ธาตุ ที่มีมุลค่าทางการค้าสุงสุดขอรัฐและผลผลิตประจำปีนั้นสุงที่สุดในประเทศเงินเป็นแร่ธาตุที่สมีมูลค่าทางการค้าสุงสุดของรัฐและผลผลิตประจำปีนั้นสุงที่สุดในประเทศเงินเป็นแร่ะาตุชั้นนำอีกชนิดหนึ่งของรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตแบริต์ ทั้งสเตนและปรอท รายใหญ่ แร่ธาตุสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ยิซัม ทรายและกรวด หินบด และแมกนีเซียมปิโตรเลี่ยม ถูกค้นพบในเคาน์ตั้ นีย์ ในปี 1954 และได้ขยายไปยัง เคาน์ตี้ เอนรีคา และ เอลโค นับแต่นั้นเป็นต้นมาไฟฟ้าส่วนใหญผลิตได้จากถ่านหินและก๊าซะรรมชาติแต่ส่วนน้อยผลิตได้จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงานแงอาทิตย์และกังหันลมเร่ิมตำเนิการในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ถานหินและก๊าซธรรมชาติใช้ในโรงไฟฟ้าในเนวาดาตอนใต้ เขื่น ฮูเวอร์ และเดวิสเป็นแหล่งพลังงานหลัก โดยเสริมด้วยการนำเข้าพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำ จากแคลิฟอร์เนียและโอเรกอน

            การท่องเที่ยวและกิจกรรมที่เกี่ยว้องสร้างรายได้มากกวาการทำเหมือง การเกษตร และการผลิตรวมกัน และจ้างแรงงานมากว่าสองในห้าของกำลังแรงงานทั้งหมด แม้ว่าจะมีผุ้คนหลายล้านคนมาเยื่ยมชมทะเลสาบมือด และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและทัศนียภาพอื่นๆ แต่การท่องเที่ยวมีศุย์กลางอยุ่ที่สภานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งซึ่งส่วนใหญ่มีเฉพาะในเนวาดเท่านั้น คาสิโนเปิดตลอด 24 ชัวโามง อยุ่ติดกับ "เดอะ สตริป" และ "ฟรีมอน สตรีท"ในลาสเวกัส เป็นพื้นที่ที่ได้รับการประชาสัมพันธ์มากที่สุดในด้านกฎหมาย อุตสาหกรรม การพนันส่วนเสริมที่สำคัญของคาสิโน ได้แก่ โรงแรงหรุหรา ร้านอาหารเลิศรส สนามกอล์ฟ และไนท์คลับที่ทำให้ลาสเวกันเป็นเมืองเล็กที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทะเสาบแทโฮ ซึ่งเป็นหนึ่งในศุนย์กลางความพันเทิงสดที่สำคัญของประเทศ เมืองเล็กๆ ยังเน้นอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยวอีกด้วยการค้าประเวณีถูกกฎหมายถือเป็น่งิที่ไม่เหมือนใครในเขตชนบทของเนวาดาตอนกลาง แม้วาความพยายามในการออกกำหมายห้ามการต้าประเวณีในพื้นที่ดังกล่าวจะเ่พมิมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานโยบายการเงินของรัฐเนวาดาค่อนข้างอนุรักษ์นิยมรัฐธรรมฯุญจำกัดทั้งการเก็บภาษีและหนี้สินอย่างเข้มงวดความสามารถในการชำระหนี้ไม่สามารรถเกิด 2% ของมูลค่าประเมินรวมของอสังหาริมทรัพย์ในรัฐ และมีอัตราภาษีสุุงสุดสำหรับอสังหาริมทรัพย์ สิ่งที่ผิดปกติย่ิงกว่าือไม่มีการจัดเก็บภาษีของรัฐจากมรดกและรายได้ทุกประเภท ภาษีการพนันและภาษีการชายเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐ การจัดเก็บภาษีของรัฐรายได้ทั่วไปประมาณสองในสาม โดยส่วนใหญ่มาจากเงินช่วยเหลือและเงินอุดหนุนของรัฐบาลกลาง

           รัฐเนวาดาปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับดั้งเดิมซึ่งได้รับการรับรองในปี 1864 แต่ต่อมามีการแก้ไขเพ่ิมเติมในหลายๆ ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสู ได้แก่ ผุ้ว่าการรัฐ รองผุ้ว่าการรัฐอัยพากรสุงสุด เลขาะิการรัฐ ผุ้ควบคุม และเหรัญญิก ได้รับเลือกให้ดำรงด้านแหน่งวาระละ 4 ปี  นอกเหนือจาแหนกและหน่วยงานปกติที่ทำหน้าที่กำกับดูแลด้านที่ประชาชนให้ความสนใจ คณะกรรมการสิทะิเท่าเที่ยมของรัฐยังดูแลด้านการเลือกปฏิบัติในรูปแบบต่างๆ ในขณะที่คณะกรรมการควบคุมการพนันทำหน้าที่ควบคุมการดำเนินงานของอุตคสาหกรรมการพนัน

        สภานิติบัญญัติ ของรัฐเนวาดาประกอบด้วยวุฒิสภาซึี่งมีสมาชิก 21 คน ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 4 ปี และสมัชชาซึ่งมีสมาชิก 42 คนได้รับการเลือกต้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 2 ผปี สภานิติบัญัติจะประชุมกัสนในเดือนกุมภาพันธ์อขงปีที่เป็นเลขคี่ 

        องค์กรตุลาการสุงสุดคือศาลฎีกา ซึ่งประกอบด้วยผุ้พิพากษาเจ็ดคน ซึ่งนั่งเป็นคณะผุ้พิพากาษสามคนหรือเป็นศาลเดต็มคระ ขึ้นอยุ่กับความสำคัญของคดีที่พิจารณา ผุ้พิพากาษศาลฎีกาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละหาปี นอกจากนี้ยังมีศาลแขวงซึ่งแบ้งยอยเป็นแผนกตามจำนวนประชากรศาลยุติธรรมและศาลเทศบาลเขตอำนาจศาลยุติธรรมจำกัดเฉพาะคดีอาญา คดีลหุโทษ และคดีอื่นๆ บางคดี ส่วนศาลเทศบาลจำกัดเฉพาะคดีลหุโทษและดคีจราจร สำนักงานตุลาการทั้งหมดอยู่ภายใด

      รัฐเนวาดแบ่งออกเป็น 16 มณฑลและเมื้องอิสระ 1 เมือง คือ คาร์สันซิตี้ ซึ่งมีสภานะกคล้ายกับมณฑล ในปี 1969 ได้มีการวมเข้ากับมณฑลออร์มสบี ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงมาก่อนมณฑลต่างๆ ยังคงเป็นหน่วยงานหลักของการบริหารนสส่วนทื้องถ่ิน แต่ละมณฑลมีผุ้บริหารสาะารณะ คณะกรรมการบริหารอัยการเขต นายอำเภอ และเจ้าหน้าทีอื่นๆ เมืองและเทศบาลต่างๆ จะถูกจัดตึั้งขึ้นภายใต้กฎหบัตรที่สภานิติบัญญัติให้ไว้ ดดยส่วนใหญ่มีรูปแบบการบริหารแบบนากยกเทศมนตรี-สภาโดยทั่วไปแล้วพรรคเดโมแครต มีอทิธิพลทางการเมืองในเนวาดา แต่ในช่วงทศวรรษท 1980 พรรครีพับลิกันอิทธิพลมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในโปรไฟล์ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งของรัฐซึ่งเหิดจาการไหลบ่้าเข้ามาของผุ้มาใหม่ นับแต่นั้นมา รัฐก็เปลีทืยนไปมาระหว่างพรรคการเมืองต่างในการเลือกตั้งระดับท้องถ่ินและระดับชาติ แม้ว่าสในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 จะมีแนวโน้มไปทางพรรคเดโแมครต ซึ่งอาจเป็นเพราะผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนหนุ่มสาว ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีการศึกษาดี และ(ุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นชาวฮิสแปนิก บารัค โอบามา ซึ่งเป็นผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาะิบดีจากพรรคเดโแมครตในปี 2008 ได้รับคะแนนเสีียงในรัฐนี้ถึง 55 % มีการกล่าวกันวาชาวเนวาดาให้ความสำคัญกับประเด็นมากกว่าพรรคการเมือง และเท้จริงแล้ว ตั้งแต่ปี 1976 เป็นต้นมา บัตรลงคะแนนเสียงในเนวาดาทำให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถเลือก "ไม่เลือกข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น" ได้

          https://www.britannica.com/place/Nevada-state/Cultural-life

          https://theconversation.com/nevada-is-a-battleground-state-and-may-be-a-bellwether-of-more-extreme-partisanship-232969

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2567

Noncitizen voting

           สมาชิกพรรครีพัลลิกันในรัฐสภากำลังผลักดันร่างกฎหมายที่เรียกว่า SAVE (Safeguard American
Voter Eligibility) Act 
ซึ่งจะกำหนดให้ต้องมีหลักฐานการเป็นพลเมืองจึงจะลงทะเบียนเพื่อลงคะแนนเสียงได้ ในขณะเดียวกัน สภานิติบัญญัติของพรรครีพับลิกัน อย่างน้อย 6 รัฐได้นำมาตรการการลงคะแนนเสียงของผุ้ที่ไม่ใช่พลเมืองเข้าไว้ในบัตริลงคะแนนเสียงวที่จะมาถึง ขณะที่อีกอข่าางน้อย 2 รัฐกำลังถกเถียงกันว่าจะดำเนินการดังกล่าวหรือไม่

          สมาชิกพรรพเดโมแครตในคณะกรรมการตำหนิรีพัลลิกันที่มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ปัญหาที่ไม่สำคัญ" โดยให้เหตุผลว่านั้นเป็นส่นหนึ่งของกลยุทธ์การหาเสียงของ ทรัมป์

          ความกังวลที่ว่าผุ้อพยพที่ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะลงคะแนนเสียงอย่างผิดกฎหมายนั้นมีอยุ่ในหมุ่ฝ่ายขวามาหลายปีแล้ว แต่เรืองนี้ได้รับความสนใจอีกครั้งในชวงต้นปีนี้ เมือทรัมป์เริ่มเสนอแนะโดยไม่มีหลักฐานว่า พรรคเดโมแครตสนับสนุนการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายในสหรัฐฯ เืพ่อที่พวกเขาจะได้ลงทะเบียนผุ้อพยพใหม่ให้ลงคะแนนเสียงได้

       
 ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการเลือกตั้งกล่าวว่าไม่เพียงแต่พิสูจน์ได้แต่ยังได้รับการพิสุจน์แล้วว่าจำนวนบุคคลที่ไม่ใช่พลเมืองที่ไปลงคะแนนเสียงสนการเลือกตั้งระดับรัฐบาลกลางนั้นน้อยมากหากจะให้ชัดเจนขึ้น ตลอดหลายปีทืี่ผ่านมา มีกรณีที่ผุ้ที่ไม่ใช่พลเมืองลงทะเลียนและถึงกับใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างผิดกฎหมายเกิดขขึ้นหลายกรณี แต่รัฐต่างๆ ก็มีกำไกในการจับกุม

         ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เมืองปี 2016 การตรวจการเลือกตั้งพบว่าผุ้อพยพเข้าเมืองออกกฎหมาย 41 ราย ที่ยังไม่ได้กลายเป็นพลเมืองได้ใช้สิทะิออกเสียงเลือกตั้ง จากจำนวนผุ้ลงคะแนนท้ั้งหมด 4.8 ล้านครั้ง การลงคะแนนเสียงดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อการเลือกตั้ครั้งใดๆในรัฐเลย

     การลงคะแนนเสียงของผุ้ที่ไม่ใช่พลเมืองนั้นหายากมาก แตรีพับลิกันกลับทำให้เรื่องกลายเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้ง

      กฎหมายสหรัฐฯในปี 1996 กำหนดให้ผุ้ที่ไม่ได้เป็นพลเมือลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งประะานาะิบดีหรือสมาชิกรัฐสภาเปนิส่ิงผิดกฎหมาย ผุ้ฝ่าฝืนอาจถูกปรับและจำคุกไม่เกิน 1 ปี นอหจากนี้ อาจถุกเนรเทศออกนอกประเทศได้อีกด้วย

      เมื่อผุ้ลงทะเบียนเพื่อลงคะแนนเสียง พวกเขาจะต้องยืนยันว่าตนเองเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ภายใต้บทลงโทษฐานให้การเท็จกฎหมายของรัฐบาลกลางกำหนดให้รัฐต่างๆ ต้องจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงและลบรายชื่อผุ้ที่ไม่มีสิทธิออก ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจระบุตัวผุ้อพยพที่อาศัยอยู่ในประเทศอยางผิดกฎหมายได้ รัฐะรรมฯุญของรัฐไม่ได้อนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีสิทธิลงคะแนนเสียงอย่างชัดเจน และหลายรัฐมีกฎหมายที่ห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่มีสิทธิลงคะแนนเสียงเพื่อดำรงตำแหน่งต่างๆ ของรัฐ เช่น ผู้ว่าการรัฐหรืออัยการสูงสุด แต่เทศบาลบางแห่งในแคลิฟอร์เนีย แมริแลนด์ และเวอร์มอนต์ รวมถึงเขตโคลัมเบีย อนุญาตให้บุคคลที่ไม่ม่สิทธิลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถ่ินบางรายการ เช่น คณะกรรมการโรงเรียนและสภาเทศบาล

      สภานิติบัญญติที่นำโดยพรรครีพับลิกันใน 8 รัฐได้เอสนการแก้ไขรัฐธรรมฯุญในบัติลงคะแนนเดือนพฤศจิการยน โดยระบุว่าเฉพาะพลเมือเท่านัี้นที่สามารถลงคะแนนเสียงได้ ข้อเสนอในรัฐไอโอวา มิสซุรี นอร์ทแคโรไลนา โอคลาโฮมา เซาท์แคโรไลนา และวิสคอนซิน จะเข้ามาแทนที่บทบัญญัติรัฐะรรมนูญฉบับเดิมที่ระบุว่าพลเมือง"ทุกคน" หรือ "ทั้งหมด" สามารลงคะแนนเสียงได้ โดยใช้ถ้อยคำใหม่ว่า "เฉพาะ" พลเมืองเท่านั้นที่สามารถลงคะแนนเสียงได่ ผุ้สนับสนุนโต้แย้งว่าถ้อยคำปัจจุบันไม่ได้ห้ามบุคคลที่ไม่ใชพลเมืองไม่ให้ลงคะแนนเสียงเสมอไป

      ชคณะกรรมการการเลือกตั้ แห่งรัฐนอร?แคดรไลนา กำลังเผชิญกับคดีความอีกครั้ง เนื่องจากคณะ


กรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน กำลังฟ้องรัฐสมรภูมินี้ โดยถุกกล่าวหาว่าเปิดประตูให้ผุ้ที่ไม่มีสัญชาติสามารถลวคะแนนเสียงได้

       คดีฟ้องร้องกล่าวหาว่าหน่ยงาน "กำลังเปิดประตูให้ผุ้ที่ไม่ใช่พลเมืองสามารถลงคะแนนสเียงได้" โดยละเมิดพรบ. เฮล์ป อิเมริกา โวท์ต และไม่ตรววจสอบเอกสรระบุตัวตนของผุ้ลงคะแนนเสียงประมษณ 225,000 คน

       นอร์ทแคโรไลนา เป็นรัฐแรกในประเทศที่เร่ิมลงคะแนนเสียง รัฐที่เป็นสมรภูมิรบจะเร่ิมส่งบัติรลงคะแนนทางไปรษณีย์ให้กับผุ้มีสิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 6 กันยายส 

      กรรมการเเลือกตั้งแห่งนอร์ทแคโรไลนา ล้มเหลวอีกครั้งในการปฏิบัติหน้าที่ในการไม่ให้ผุ้ที่ไม่ใช่พลเมืองอยุ่ในรายชื่อผุ้มีสิทะิเลือกตั้ง ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจและเป็นอันตรายต่อการเลือกตั้งของเรา" ไมเคิล วอทลีย์ ประธาน คณะกรรมการแห่งชาติของรีพับลิกัน กล่าวในแถลงการณ์ เรายึดมั่ในกลัการพื้นฐานและกฎหมายสามัญสำนึกที่ว่าเฉพาะชาวอเมริกันเท้านั้นที่ตัดสินการเลือกตั้งของอเมริกา การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเจตนา ก่อนการเลือกตั้งที่สำคัญที่สุดของประเทศเรา ถือเป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้ เราจะต่อสุ้ทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่า คณะการการเลือกตั้งแห่งนอร์ทแคโรไลนา ปฏิบัติกตรมกฎหมาย เคลียร์รายชื่อผุ้มีสิทะิเลือกตั้งและปหป้องคะนนเสียงของชาวนอร์ทแคโรไลนา"

       "คณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐแห่งนี้มีปัญฐหารอย่างต่อเนื่องในการรับรองว่ารายชื่อผุ้มีสิทะิเลือกตั้งมีเฉพาพลเมืองที่ไมด้รับการบืนบันเท่านั้น" เจสัน ซิมมิน์ ประธานคณะกรรมการแห่งรีพับลิกัน กล่าวเสริม "คดีนี้จะแก้ไขการปฏิเสธอย่างต่อเนื่องของพวกเขาในการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นจากผุ้ที่ต้องการเข้าร่วมการเลือกตั้งในรัฐนอร์ทแคดรไลนา คณะกรรมการการเลือกตั้งที่มีความลำเอียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐควรต้องรับผิดชอบและซื่อสัตย์ต่อการปฏิบัติตามหลักนิติธรรม"

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งใช้แบบฟอร์มลงทะเบียนผุ้มีสิทะิเลือกตั้งที่ไม่ต้องการข้อมุลประจำตัวที่กำหนด  เช่น หมายเลขใบอนุญาตขับขี่หรือสี่หลักสุดท้ายของหมายเลขประกันสังคม เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งยอมรับว่าแบบฟอร์มกังกล่าวไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของ HAVA และในที่สุดก็ได้แก้ไข แต่ในระหว่างนี้ มีผุ้ลงทะเลียนประมาณ 225,000 คนโดยไม่ให้ข้อมูลที่กำหนด คำร้องเรียนระบุ

       เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งปฏิเสะที่จะเำเนินการแก้ไขและไม่ได้ติดต่อผุ้มีสิทธิเลือกตั้งเหล่านี้เพื่อรวบรวมข้อมุลที่จำเป็น แต่สิงที่จำเลยเสนอเป็นแนวทางแก้ไขคือ "คำมั่นสัญญาอย่างไม่เต็มใจว่าผุ้ที่ไม่มีสิทธิลงทะเบียนแต่ได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียนอยุ่แล้วจะคัดตัวเองออกจากรายขื่อ(ุ้มีสิทะิเลือกตั้งของรัฐโดยอัตโนมัติเมือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง" คำฟ้องระบุ

       "การไม่ดำเนินการเช่นนี้ถือว่าพลาดเป้า" คำฟ้องระบุ "ไม่เพียงแต่แนวทางแก้ไข นี้จะล้มเหลวในการแก้ไขการละเมิดกฎหมายของรับและของรัฐบาลกลางที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือไม่สามารถับผิดชอบต่อความรับผิดขอบของจำเลยภายใต้กฎหมายเดียวกันได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ชาวนอร์ทแคโรไลนาต้องสงสัยว่าจะไว้วางใจในความปลอดภัยของการเลือกตั้งได้อย่างไร โดยเฉพาะเมือผุ้ที่ได้รับมอบหมายห้ปกป้องสิทธิของตนกลับไม่ใส่ใจที่จะทในสิ่งที่กำหมายกำหนด"..

          https://www.foxnews.com/politics/north-carolina-elections-board-faces-another-lawsuit-rnc-sues-swing-state-over-noncitizen-voting-concerns

         https://apnews.com/article/voting-immigrants-noncitizen-trump-republicans-2024-1c65429c152c2a10514b5156eacf9ca7

        https://www.pbs.org/newshour/politics/noncitizen-voting-is-extremely-rare-yet-republicans-are-making-it-a-major-election-concern 

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2567

Things to protect

           เดโมแครตซึ่งมองย้อนกลบไปที่ชัยชนะอันหวุดหวิดของ โดนัลด์ ทรัมป์ในนอร์ทแคโรไลนาเมือปี 2020 หวังจะได้รับชัยชนะในจอร์เจียในปี 2024 หลังจากที่ไบเดนพลิกการแข่งขันด้วยการถอนตังและสนับสนุนรองประธานาะิบดีกมลา แฮร์ริสให้เป็นผุ้นพรรค ทีมงานหาเสียงของแฮร์ริสกล่าวรัฐทาร์ฮีลเป็นหนึ่งในสมรภุมิที่พวเกขามุ่งเน้น แต่เจ้าหน้าที่พรรครีพับลิกันบางคนยืนกราน ก่อนหน้านี้ ว่าก่อนที่ไบเดนจถอนตัวพรรคเดโมแครตไม่มีโอากสที่จะพลิกกลับรัฐได้ ซึ่งใน มิถุนายนที่ผ่านมา ยูเอส. นิวส์ ได้ระบุว่ารัฐนี้มีแนวโน้ม เป็น "รีพับลิกันที่ีมีแนวโน้มสุง" สำหรับการเลือกตั้งปี 2024 แม้ว่ารัฐนี้มักถุกเรียกว่า "รัฐสีม่วง" แต่นับตั้งแต่ต้นทศวรรษปี 1970 ผุ้มสิทธิเลือกตังก็ได้เลือกผุ้สมัครชิงตำแหน่งปรธานาธิบดีจากพรรคเดโแมรตเพียง 2 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20  นอร์ทแคดรไลนาเป็นรัฐสีน้ำเงินมาโดยตลอด และช่องว่าระหว่างผู้สมัตรจากพรรคเดโแมรตและ รีพับลิกันนั้นน้อยลงในกาเลือกตั้งครั้งล่าสุด คะแนนเสียงเลือกตึ้ง 16 เสียงของรัฐทำให้รัฐนี้ติดอันดับ 10 อันดับแรกในบรรดารัฐทั้งหมด แม้ว่ารัฐนี้จะไม่ใช้รัฐมีความสำคัญมากนักเมืองเทียงบกับรัฐสำคัญๆ อื่นๆ แต่ผุ้ชนะจากรัฐนอร์ทแคโรไลนา 8 คนสุดท้ายจาก 12 คนสุดท้ายได้เข้าทำเนียบขาว

         ไบเดนได้ไปเยื่อนัฐนี้หลายรอบก่อนที่เขาจะออกจากการแข่งขัน รวมถึงงานในช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่แฮร์ริสจัดขึ้นเพื่อเน้นที่การดุแลสุขภาพและการที่ทรัมป์กำหนดเป้าหมายไปที่ กฎหมาย แอฟฟอร์ดเดเบิล แคร์ แอค ซึ่งอดีตเจ้าหนายของไบเดน โอบามา ได้ลวนามเป็นกฎหมายเมือง 14 ปีที่แล้ว แผนกุ้ภัยอเมริกัน ซึ่งเป็นมาตรการฟื้นฟุจากากรระบาดของโควิด 19 ถือเป็นชัียชนะทางกฎหมายที่สำคัญของไบเดน รวมถึงแรงจุงใจทางการเงินสำหรับรํบต่างๆ เืพ่อขยายความคุ้มครองเมดิเดดให้กับผุ้อยู่อาฯัยที่มีรายได้น้อย รอย คูเปอร์ ผุ้ว่าการรัฐนอร์ทแคดรไลนาจากพรรคเดโแกมครตใช้เงินทุนดังกล่าวเพื่อใโน้มน้าวใจสมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกันใน้สนับสนุนแผนของเขาและคาดว่าจะมีผุ้อยุ่อาศัยมากกว่า 600,000 คนที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี คุเปอร์เป็นหนึ่งในผุ้ที่อยุ่ระหว่างการพิจารณาให้เป็นคู่หุของแฮร์ริสหลังจากรองประธานาธิบดีกลายเป็นผุ้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งจากพรรคเดโมอครต แต่ในที่สุดเธอก็เลือกผุ้ว่าการรัฐ ทิม วอลซ์ จากมินนิโซตา แอร์ริสมีกำหนดเยือนเมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนาสำหรับงานหาเสียงในวันที่ 16 สิงหาคม ซึ่งคาดว่าเธอจะหารือเกี่ยวกับวาระทางเศราฐกิจของเธอ

       ทรัมปืยังให้ความสนใจกับนอร์ทแคดรไลนาด้วยเช่นกัน ในการชุมนุมเมือต้นเพือนทีนาคมทีกรีนส์โบโร เขาได้เน้นย้ำถึงหัวข้อการรณรงค์หาเสียงที่เขาชื่นชอบประเด็นหนึ่ง นั่นคือ การย้าย ถ่ินฐาน อดีตประธานาธิบดี หล่าวถึงพรมแดนทางใต้ว่าเป็น "บาดแผลที่เปิดกว้างและรุนแรง" และกล่าว่า "แาชญากรรมของผุ้อพยพ" เป็นปัญหาใหม่ภายใต้การนำของไบเน ยูเอสเอ. ทูเดย์ รายงาน เดือนกรกฎาคม ว่าอดีตประะานาธิบดีได้เดินทางกลับมายังรัฐเืพ่อชุมนุมที่ชาร์ล็อตต์ โดยเขาเรียกแฮร์ริสว่า "ไร้ความสามารถ" และเป็น "แรงผลักดันที่เสรีนิยมสุดโต่งที่อยู่เบื้องหลงความหายนะของไบเดนทุกครง" ทรัมป์ยังได้ไปเยือนแอชวิลล์ นอร์ทแคดรไลนา เพื่อชุมนุมเมือวันที่ 14 สิงหาคม โดยเขาอ้างว่าประเทศนี้ "ได้กลายเป็นประเทศโลกที่สาม..เป็นสาธารณรัฐกล้วยในหลายๆ ด้าน" 

           เมื่อเหลือเวลาอีกไม่มากนักก่อนการเลือกตั้งผุ้สมัครทั้งสองคนต่มุ่งความสนใจไปที่รัฐชีชะตาซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งรวมถึงนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งขณะนี้ถือว่ากลับมามีผลการแข่งขันอีกครั้งแล้ว

        ภูมิทัศน์ในนอร์ธแคโรไลนาเปลี่ยนไปอย่างมากนับตังแต่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสได้รับการเสอนชื่อจากพรรคเดโแมครตหลังจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผุ้ได้รับการเสอนชื่อโดยสันนิษฐานถอนตัวออกจากากรแข่งขัน ทรัมป์มาเยือนรัฐนี้เป็นครั้งที่ 4  ซึงรัฐนี้โน้มเอียงไปรีพัลลิกันเป็นอย่างมาก ก่อนที่แอร์ริสจะได้รับการเสนอชือ

         การสำรวตความคิดเห็นล่าสุด จาก ดีไซด์ชั่น เดสค์ เฮสคิว. แสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมในรัฐขณะนี้มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย โดยมีระยะห่างระหว่างแฮร์ริสและทรัมป์น้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากนอร์ทแคดรไลนาได้เลิอกทรัมป์ในปี 2016 และ 2020 จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่หากเขาไม่สามารถชนะใจผุ้ลงคะแนนเสียงชาวทาร์ฮีลในปี 2024 ได้

          สตีเวน กรีน ศาสรตราจารย์จากมหาวิทยาลับแห่งรัฐนอร์ทแคดรไลนากล่าว่า "หากแฮร์ริสชนะการเลือกตั้งในรัฐนอร์ทแคโรไลนา แฉันคิดว่าเธอมีโอกาสชนะการเลือกตั้งทั่วไปสูงมาก แฮร์ริสสามารถยอมเสียรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ ฉันไม่คิดว่า โดนัลด์ ทรัมป์จะสามารถยอมเสียรัฐนอร์แคโรไลนาได้" 

         ทั้งหมดนี้ขึ้นอยุ่กับคณิตศาสตร์ หากต้องการได้คะแนนเสียงเลือกตั้ง 270 เสียง เส้นทางทีสั้นที่สุดสำหรับชัียชนะของทรัมป์คืออดีตประธานาธิบดีต้องครองทุกรัฐที่เขาชนะในปี 2020 และพลิกกลับมาชนะจอร์เจียและเพนซิลเวเนีย แต่หากมีรอยร้าวในเกราะของรัฐอย่างนอร์ทแคโรไลนา นั่นทำให้เส้นทางสุ่ทำเนียบขาวของเขายาวนานขึ้น

         ในขณะเียวกัน การลงคะแนนเสียงทางไปรษณ๊ย์ในรัฐนอร์ทแคโรไลนาซึ่งกำหนดจะส่งออกไปในวันศุกร์ก็เกิดความล่าช้าประเด็นสำคัญคือการรวมโรเบิร์ต เอฟ.เคนเนดี้ จูเนียร เข้าเป็นผุ้สมัครรับเลือกตั้ง ในช่วงปีที่ผ่านมา เคนเนดี้ต่อสุ้เพื่อสิทธิในการลงคะแนนเสียงทั่วประเทศ จนได้รับเลือกให้ดำรงตำแนห่งในนอร์ทแคดรไลนา แต่ตอนนี้เคนเนดี้ ได้ระงับการรณรงค์หาเสียงและสนับสนุนทรัมป์แล้ว และเขากำลังพยายามบลชื่อของเขาออก

         จนถึงขณะนี้ ความพยายามของเขายังไม่ประสบผลสำเร็จ แต่คำตัดสินของศาลอุทธร์ในนอร์ทแคดรไลนาทำให้ต้องหนยุดการส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ ซึ่งถือเป็นชัยชนะของเคนเนดี อย่างไรก็ตามคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่ได้ระบุว่าีแผนจะอุทธร์คำตัดสินหรือไม่ แต่ในต่อนนี้ บัตรลงคะแนนที่มีชื่อของเคนเนดี้ จะไม่ถูกส่งไปให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้ง...

        https://www.newsnationnow.com/

        https://www.usnews.com/news/elections/articles/the-2024-swing-states-north-carolina-could-sway-the-2024-election

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567

North Carolina

          นอร์ทแคดรไลนาครอบคลุมพื้นที่ 3 ภูมิภาคหลักในสหรฐฯ ได้แก่ ท่าางบชายฝั่ง พีตมอนต์และเทือ
กบขเาแอปเลเซียน นอกจากจะมีภุมิประเทศที่สวยงามแล้ว ความแกต่างในแต่ละภูมิภาคยังส่งผลต่อสภาพอากาศ ดิน พืชพรรณ และภูมิศาสตร์ของมนุษย์ในรัฐอีกด้วย  

           นอร์ทแคโรไลนาในยุคแรกเป็น กลุ่มคนที่มีความหลากหลายเป็นตัวแทนของศาสนา สัญชาติ และชนชั้นทางเศราฐกิจและสังคมที่หลากหลาย คริสตจักรแองกลิกันก่อตั้งขึนดดยกฎหมายในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 แต่ยังมีเพรสไบทีเรีย ควาเกอร์ ลูเทอรัน รีฟอร์ม แปบทิสต์ เมธอดิสต  และชาวยิวจำนวนเล็กน้อย เชื้อชาติที่เป็นตัวแทน ได้แก่ อังกฤษ สก็อต ไอรช เวลส์ สวิส ฝรั่งเศส และเยอรมัน ชุมชนผิวขาวและยุดรปอเมริกันขยายตัวขึ้นตลอดหลายศตวรรษ มีจำนวนเกือบสามในสี่ของประชากรนอร์ทแคโรไลนาในช่วงต้นสตวรรษที่ 21

           ทาสเชื้อสายแอฟริกันเป็นส่วนสำคัญของประชากรในยุคแรกของนอร์ทแคโรไลนา พืชผลที่ใช้แรงงานจำสนมาก กระตุ้นให้ีการใช้แรงงานทาศ แพร่หลายในรัฐ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคิดเป็นประมาณหนึ่งในห้าของประชากรทั้งหมดถึงแม้ว่าความแตกต่างระหว่างสภาพความเป็นอยุ่ของชาวนอร์ทแคโรไลนาผิวขาวและผิวดำจะยังคงมีอยู่ แต่ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันจำนวนมากขึ้นในรัฐได้ครองตำแหน่งที่โดดเด่นในด้านการศึกษา ศิลปะ กีฬา ธุรกิจ และการเมือง

 แม้ว่าประชากรฮิสแปนิกของรัฐนอร์ทแคโรไลนาจะยังเป็นชนกลุ่มน้อย แต่ก็ได้เติบโตอย่างรวดเร้ซ โดยจำนวนชุมชนฮิสแปนิกเพ่ิมขึ้นมากกว่าสองเท่าในช่วง 1999-2000 ประชากรฮิสแปนิกใหม่จำนวนมากในรัฐมาจากเม็กซิโก โดยส่วนใหญ่มาเพื่อแสวงหางานในภาคเกษตรกรรมหรือการผลิต หรือในฐานทัพแห่งหนึ่งของรัฐ

       ปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 การเติงดตอย่างรวดเร็วของเมืองต่างๆ เช่น เลอแรบกรีนส์โบโร และวินสตัน-เซเลน ทำให้นอร์ทแคดรไลนาเป็นผุ้นำในอุตสาหกรรมยาสุบของปรเทศ และมีความสำคัญในด้านการผลิตสิ่งทอและเฟอร์นิเจอร์ วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยที่มีอิทะิพลมากที่สุดในประวัติสาสตร์ของรัฐยังดึงดุดผุ้อยุ่อาศัยให้มาที่ภุมิภาคพีคมอนต์อีกด้วย

        แม้จะมีการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมจำนวนมาก แต่ประชากรประมาณหนึ่งในสามของนอร์ทแคโรไลนายังคงอาศัยอยุ่ในชนบท ดรรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งตั้งอยุ่ในเมืองเล็กๆ แต่แรงงานส่วนใหญ่เดินทางอกจากพื้นที่ชนบทการขยายตัวของเมืองอย่างรวอเร็วและพื้นที่ชนบทที่ยังคงหลงเหลืออยู่ทำให้ความแตกต่างทางประชากรในรัฐนี้ดูเด่นชัดขึ้น อย่างไรก็ตาม รุปแบบดั้งเดิมของการยังชีพแกละการเกษตรแบบฟาร์มขนาดเล็กกำลังหลีกทางให้กับฟาร์มรวมของธุรกิจการเกษตร

           เศรษบกิจของรัฐ มีพื้นฐานมาจากการปลูกยาสูบเป็นหลักในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1700 และ 1800 และจากการผลิตผลิตภัฒฑ์ยาสูบและสิ่งทอในช่วต้นคริสต์ศตวรรษที่ 1900 แม้ว่ากิจกรรมเหล่านี้ยังคงเป็นส่วนสำคัญของเศราฐฏิจของรัฐ แต่ก็ถูกบดบังด้วยอุตสาหกรรมและบริการอื่นๆ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 เศราฐกิของรัฐ สร้างงานได้ในอัตราที่สุงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในหลายพื้นทึ่

           เกษตรกรรมยังคงเป็นองค์ประกอบเล็กๆ แต่สำคัญของเศราฐกิจของรัฐ แม้ว่าจำนวนคนทำงานจะลดลงอย่างต่อเนือง มีฟาร์มเกือบ 50,000 แห่งในรัฐ ส่วนใหญ่ค่อนข้างเล็ก และส่วนใหญ่ดำเนินการโดยคนที่หารายได้ส่วนใหญ่จากากรทำฟาร์ม นอร์ทแคโรไลนาเป็นผุ้นำระดับประเทศในการผลิตคมันเทศ ถั่วแห่ง ยาสุบ หมุ ไก่เนื้อ และไก่งวง ผลิตภัฒฑ์ทางการเกษตรหลักอื่นๆ ได้แก่ ไข่ ถั่วเหลือง และฝ่าย รายได้ของเกษตรกรมีแนวโน้มที่จุะสูงที่สุดในมณฑลตอนหลางและตอนใต้ของที่ราบชายฝั่ง

         ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้นอร์ทแคโรไลนาจึงเป็นผุ้นำในการผลิตไม้แปรรูป ไม้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ ต้นคริสต์มาส เยื่อกระดาษ และผลิตภัฒฑ์จากไม้ชนิดอื่นๆ มานาน ต้นไม่หลักคือตันสน ซึ่งส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวจากที่ราบชายฝั่งและบริเวงณพีดมอนต์ ไม้เนื้อแข้ง เช้น ต้นโอ้ก ฮิคคอรีแอช และป็อปลาร์มาจากเทือกเขา แอปพาเลเซียน แลบางส่วนของพีตมอนต์ เป็นหลัก โครงการปลูกป่าทดแทนและรักษาความยั่งยบืนของป่าที่ดำิเนินการอยู่หลายดครงการส่งผลให้ป่าสงวนเติบโตขึ้น ทั้งเพื่อการพาณิชย์และส่วนตัวหรือเพื่อการอุตสาหกรรมอื่นๆ 

         นอกจากทรัพมยากรป่าไม้แล้ว นอร์ทแคดรไลนายัมีแหล่งสำรองหินและแร่ธาตุที่ไม่ใช่ดลหะจำนวนมาก รัฐนี้เป็นผุ้นำในการผลิตหินฟอสเฟตแร่ลิเธียม เฟลต์สปาร์ โอลีวีน ไม่กา และไพโรฟิลไลต์ทรัพยากรเหล่านี้จำนวนมารกใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ร่วมกับ หินสำหรับทำหินตกแต่าง หินแกรนิค นอกจากนี้ รัฐยังพบอัญมณีชนิดต่างๆ อีกด้วย

 พลังงานไฟฟ้าของรัฐผลิตขึ้นจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นหลัก ดดยมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งผลิตไฟฟ้าได้เกือบหนึ่งในสามของทั้งหมด ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่ผลิตึ้นจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำจนวนมากของรัฐ

        เป็นเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษที่นอร์ทแคดรไลนายังคงเป็นรัฐที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในภาคการผลิตทางตอนใต้และเป็นหนึ่งในรัฐที่มีการผลิตมากที่สุดในประเทศ นอกเหนือจากการพัฒนาอุตสาหกรรมยาสุบและสิ่งทอที่มั่นคงในศตวรรษที่ 20 แลบ้วรัฐยังกลายเป็นศุนย์กลางที่สำคัญสำหรับการผลิตเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย ตลอดครึ่งแรกของศตวรรษท แรงงานนอกภาคเกษตรของรัฐเกือบครึ่งหนึ่งทำงานในอุตสาหกรรมทั้งสามด้านส่ิงทอไปอย่างต่อเนื่อง ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 การผลิตคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าหนึ่งในห้าของการจ้างงานทั้งหมดและคิดเป็นประมาณหนึ่งในห้าของผลิตภัฒฑ์มวลรวมในประเทศ ฐานอุตสาหกรรมทีีวามหลากหลายมากขึ้น ดดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของคอมพิวเตอร์อุปกรณ์สื่อสารอิลเ็กทรอนิกส์ สารเคมี และเครื่องจักร การผลิตอาหารแปรรูป โดยเฉพาะเพื่อบริโภค ภายในประเทศ ยังมีส่วนแบ่งที่สำคัญในภาคส่วนนี้ด้วย

           โครงสร้างของรัฐบาลของรัฐนอร์ทแคดรไลนาอิงตามรัฐะรรมนุญของปี 1776,1868,1971 การบริหารรัฐอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผุ้บิรหารที่ได้รับการเลือกตั้ง รวมถึงผู้ว่าการรัฐและรองผุ้ว่าการรัฐผซึ่งแตละคนมีวาระสี่ปีได้เพียงสองวาระ ไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน) และโดยหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ซึ่งบางส่วนได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสี่ปี และบางส่วนได้รับการแต่งตั้งง สมัชชาใหญ่ประกอบด้วยวุฒิสภา 50 คนและสภาผุ้แทนราษฎร 120 คน ทังวุฒิสมาชิกและผุ้แทนราษำรได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสองปี ผุ้ว่าการรัฐมีอำนาจแต่งตั้งอย่างมาก และตั้งแต่ปี 1996 ก็มีอำนาจยับยั้งกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การยับยั้งของผุ้ว่าการรัฐอาจถุกยกเลิกได้ด้วยการลงคะแนนเสียงสามในห้าของผุ้ที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แต่ละ

แห่ง

           รัฐแบ่งออกเป็นเขตตุลาการมากว่า 40 เขต ศาลแขวงมีหน้าที่พิจารณาคดีแพ่งและคดีอาญาที่ไม่ร้ายแรงมากนักเป็นหลักแต่ละเขตจะเลือกผุ้พิพกาษาศาลแขวงและอัยการเขตซึ่งเป็นตัวแทนขงอรัฐในคดีอาญาทั้งหมดเป็นระยะยเวลา 4 ปี ศาลชั้นสูงของแต่ละเขตจะได้รับเลือกจากการเลือกตั้งในระดับรับเป็นระยะเวลา 8 ปี ศาลชั้นสุงจะอยุ่เหนือศาลชั้นสุงคือ ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา ศาลฎีกาเป็นศาลสุงสุดของรับดดยมีผู้พิพากษา 7 คน ที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 6 ปี (ผู้พิพากษาอาจลงสมัครรับเลือกตั้งซ้ำได้) ศาลอุทธรณ์ก่อตั้งขึ้นดดยการแก่้ไขรัฐะรรมฯุญ ในปี 2510 เพื่อช่วยบรรเทาภาระหน้าที่ของศาลฎีการของรัฐ โดยมีผุ้เพิพาาษา 15 คน ซึ่งทั้งหมดได้รับการเลือกต้งให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 8 ปี

       
รัฐแคดลไลนาประกอบด้วย 100 มลฑล รัฐบาลมณฑลทำหน้ที่แทนรัฐในการจัดหาการศึกษา การดุแลสุขภาพ และบริการสวัสดิการ ได้แก่ คณะกรรมะิการมณฑล นายอำเภอ เจ้าหน้าทีทะเบียนทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่ศาลชั้นสูง และสมาชิกคณะกรรมการโรงเรียน

          หากเปรียบเทียบกับรํบอื่นๆ ฟลายแห่งแล้ว รัฐบาลท้องถ่ินของรัฐนอร์ทแคดรไลนาค่อนข้างไม่ซับซ้อน โดยทั่วไปแล้วมณฑลต่างๆ จะให้บริการที่บังคับใช้กับพลเมือทุกคนของรัฐในขณะที่เทศบาลจะให้บริการเพื่ิเติมที่เหมาะสม สำหรับเขตเมือง ในขณะที่การพัฒนาเมืองยังคงดำเนินต่อไป มณฑลต่างๆ จึงได้รับอนุญาตให้เสนอบริการที่คบ้ายกับบริการที่เทศบาลให้บริการ เช่นการประปา และการเก็บขยะ เนื่องจากรัฐะรรมฯุญของรัฐนอร์ทแคโรไลนาไม่สนับสนุนการจัดตั้งเทศบาลใกล้กับยเทศบาลที่มีอยุ่ นอรท์แคดรไลนาจึงค่อนข้างปราศจากการขยายตัวของหน่วยงานบริหารเทศบาลใหม่นเขตเือง เช่นเดียวกับที่พบในรัฐอื่นๆ หลายแห่ง...

              https://www.britannica.com/place/North-Carolina-state/Government-and-society

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2567

Why Arizona Could Sway the Presidential Election

          กลยุทธ์พื้นฐานสำหรับการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี คือเสียง จากคณะผุ้เลือกตั้ง 270 เสียง ซึ่ง
คะแนนเสียงดังกล่าวของแต่ละพรรคจะมาจาก รัฐที่พรรคดีต่อพรรคนั้นๆ โดยดูจากประวัติศาสตร์การเลือกตั้ง และมีผุ้เลือกตั้งจำนวนมาก ขณะเดียวกันต้องชนะในรัฐสมรภูมิสำคัญๆ จำนวนหนึ่ง

        เดโแมครตได้รับคะแนนเสียงจากแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีคณะผุ้เลือกตั้ง 55 คะแนน ซึ่งมากที่สุดในประเทศ และได้ลงคะแนนเสียงให้กับผุ้สมัครจากพรรคเดโมแครตอย่างต่อเนื่องตั้งแกต่ปี 1992 โดยในปี 2020ไบเดนได้รับชนะจาก ทรัมป์ ด้วยคะแนนเสียงกว่าครึ่ง

        รีพับลิกันจะได้รับคะแนนเสียงจากเท็กซัน โดยมีคณะผู้เลือกตั้ง 38 เสียง และเท็กซัสได้ลงคะแนนให้ผุ้สมัครพรรครีพับลิกันอย่างต่อเนือ่งตั้งแต่ปี 1980 ในปี 2020 ทรัมป์ชนะไบเดน ในเท็กซัส ได้กว่า 5% จากผุ้ลงคะแนนมากกว่า 11 ล้านคน ซึ่งเป็นรัฐที่มีผุ้ลงคะแนนเสียงคณะผุ้เลือกตั้งมากที่สุด 

         แอริโซนากลายเป็นสมารภูมิรบที่ดุเดือดที่สุดแห่งหนึ่ง จู่ๆ ก้มีรัฐนี้ขึ้นมาเป็นรัฐที่มีคะแนนเสียงคณะผุ้เลือกตั้ง 11 เสียง และในปี 2020 ไบเดเอาชนะทรัมป์ไปได้ด้วยคะแนน 49.36%-49.06% โดยมีผุ้ลงคะนนเสียงมากกว่า 3.3 ล้านคน ครั้งสุดท้ายทผุ้สมัครจากพรรคเดโแมครตกว้าชัยในแอริโซนาคือในปี 1996   

          ก่อนที่ไบเดน จะออกเแคมเปญหาเสียง ในเดือนมิถุนายน ยูเอส. นิวส์ได้ประเมินว่า แอริโซนาเป็นหนึ่งในรัฐไม่กี่แห่งที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งประธาาะิบดีในปี 2024 การได้รับเลือกดังกล่าวเป็นเครื่องพิสุจ์ถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของรัฐ ซึ่งดดยปกติแล้วเป็นฐานที่มั่นของพรรครีพัลลิกัน นอกเนหือจากชัยชนะเพียงเล็กน้อยของไบเดนในปี 2020 และชัยชนะของอดีตประธานาธิบดี คลินตันในแอริโซนา ในเส้นทางสุ่การเลือกตั้งอีกครั้งในปี 1996 รัฐนี้ไม่เคยสนับสนุนผุ้สมัครระดับชาติจากพรรคเดโมแครตเลยตั้้งแต่ปี 1948

            แต่คะแนนเสียงเลือกตั้ง 11 เสียงของรัฐแอริโซนาทำให้รัฐนี้ติดอันดับ 15 รัฐจากทั้งหมด และเช่นเดียวกับรัฐสำคัญอื่นๆ รัฐนี้ก็ถือเป็นตัวชี้ชะตา เนื่องจากผุ้ชนะการเลือกตั้งประธานาะิบดี 8 คนจาก 12 ครั้งที่ผ่ารมา ยังคว้าชัยชนะในรัฐแกรนด์แคนยอนอีกด้วย ทั้งสองฝ่ายจึงจับตามองแอริโซนา ไบเดน ไปเยือนรัฐนี้เมือเดือนมีนาคม ก่อนที่จะยุติการลงสมัครรับเลือกตั้ง และ แฮร์ริส กับ ทิม วอลซ์ ผุ้ลงสมัครประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีตามลำดบของพรรคเดโมแครต แทนไบเดน ทิม วอลซ์ พยายามเสนอวิสัยทัศนืและความน่าเชื่อถือด้านการย้ายถ่ินฐานของเธอต่อผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐชาแดน กล่าวว่าเธอเคยดำเนินคดีกับสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติดและผุ้ลักลอยขนยาเสพติดมาก่อน และกว่าว่าทรัมป์ "ไม่อยากแก้ไข"ปัญหาความปลอดภัยที่ขายแดน แต่เพียง "พุดจาโอ้อวด" เกี่ยวกับเรื่องนี้ 

           ทรัมป์ยังเน้นที่รัฐนี้ด้วย โดยซุเปอร์แพคที่สนับสุนเขาเขียนในอีเมลหาทุนว่าแอริโซนาและเนวาดา"ได้รับผลกระทบภายใต้ "ไบเดนโนมิคส์" ในช่วงปลายเดือนมกราคม อีดคประธานาธิบดีถอนตัวออกจากงานหาทุนสำคัญสำหรับพรรครีพัลลิกันแก่งแอริโซนา หลังจากที่มีการรั่วไหลยันทึกเสียงที่เปิดเผยว่าประธานพรรครีพัลลิกันของรํฐ พยายามติดสินบนผุ้สมัครวุฒิสภา คาริ เลคค์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของทรัมป์ เพื่อไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ทรัมป์กลับมายังรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ปี 2022 เมือเดือนมิถุนายน ระหว่างการเยือนแบบทาวน์ฮอลล์ ซึ่งถือเป็นการชุมนุมคร้้งแรกของเขตั้งแต่ถุกตัดสินว่มีความผิด 34 กระทงในคิดีเงินปิดปากซึ่งเป็นอาชญากรรม อดีตประธานาธิบดีได้เหน้นไปที่การย้ายถ่ินฐาน โดยวิพากษ์วิจารณ์การดำินินการของฝ่ายริหารล่าสุดของ ไบเดน ที่จำกัดการลี้ภัย และบอกกับฝูงชนว่าพวกเขาจำเป็นต้องเลือก เลคค์ ให้เป็นวุฒิสมาชิก

 เช่นเดียวกับเนวาดา แอริโซนา ประสบกับการเติบโต อย่งรวดเร็วของประชากรในข่วงไม่นานมานี้และเป็นรับฐที่มีความหลากหลายค่อนข้างมาก แต่ประชากรส่วนใหญ่ยังคงเป็นคนผิวขาว 52.9% โดย 5.5% เป็นคนผิวดำหรือแอฟริกันอเมริกัน และ 5.2% เป็นชนพื้นเมืองอเมริกันหรือชาวอะแลสกาพื้นเมือง

         รัฐนี้มีประชากรฮิสแปนิกจำนวนมาก ถึง 32.5% ทรัมป์ได้รับคะแนนนิยมที่ดีในกลุ่มฮิสแปนิกทั่งประเทศก่อนที่ไบเดนจะออกจากการแข่งขัน และพรรครีพัลลิกันอาจจะสามารถรุกคืบกับกลุ่มนี่ในรัฐได้ แม้ว่าอดีตประธานาธิบดีจะยังคงใข้ถ้อยคำที่ขัดแย้งเกี่ยวกับย้ายถ่ินฐานอยุ่ก็ตาม ในขณะเดียวกัน แฮร์ริสดูเหมือนว่าจะได้รับความกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมจากผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นชาวละตินมากกว่า ไบเดน คะแนนเสียงจากกลุ่มอิสระที่ไม่สังกัดพรรคใดยังคงมีส่วนต่างอยุ่มาก คือ 29.1% ตามข้อมูลของโครงการผุ้ลงคะแนนเสียงอิสระ

         การสำรวจความคิดเห็นโดยทั่วไประบุว่าผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียงมองว่าเศราฐกิจเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดที่รัฐของตนต้องเผชิญ แต่นั้นไม่ใช้ในรัฐแอริโซนา การสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาพบว่า การย้ายถ่ินฐานเป็นปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งเกืบอหนึ่งในสาม 31% ระงลงมาคือเศรษฐกิจ ความสามารถในการซื้อที่อยุ่อาศัย การศึกษา การเข้าถึงการทำแท้ง การดุแลสุขภาพ ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย และอาชญากรรม ตามลำดับ

        ผลการสำรวจที่มีสมมติฐานว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคเดโแมครตจะมีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกันในซานฟรานซิสโกเมือเทีีบกับพรรคเดโแมครตในดัลลาส หรือบางที่พรรครีพับลิกันในฟินิกซ์อาจมีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างจากพรรครีพัลิลกันในลอสแอลเจลิสหรือฮูสตัน ซึ่งผลการสำรวจ ที่ดำินนการในรัฐสำคัญทางตะวันตกเฉียงใตัและตะวันตก 3 แห่ง ได้แก่ แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย และเท็กซัส เผยให้เห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น

          การสำรวจเป็นส่วนหนึ่งในดครงการสำรวจความคิดเห็นร่วมกัน 5 ชุดระหว่างนักวิจัยจากมาหวิทยาลัยแห่งรับแอริโซนา มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด และมหาวิทยาลัยฮุสตัน ชุดการสำรวจนี้เริ่มต้นในเตือนมิุถุนายนด้วยการเผยแพร่การสำรวจคามคิดเห็นที่เปลี่ยนแปลงไปของทั้งสามรัฐเกี่ยวกับการทำแท้ง

         ผุ้ตอบแบบสำรวจมาจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของผุ้อยุ่อาศัยในรัฐแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย และเท็กซัน อายุ 18 ปีขึ้นไป ผุ้ตอบแบบสำรวจถูกถามเกี่ยวกับความผุกพันกับพรรคการเมืองอุดมการร์ทางการเมือง และมุมมองเกเี่ยวกับลำดับความสำคัญในการใข้จ่ายของรัฐบาล แะห้วข้อที่ภกเถียงกันอื่นๆ รวมถึงการสนับสนุนกำแพงชายแดน การห้ามทำแท้งหลังคลิด 15 สัปดาห์ และการดำินนการด้านสภาพภูมิอากาศทันที

          "ผลการศึกษาในรายงานเฉพาะฉบัยนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญและอิทธิพลของการแบ่งฝักแ่งฝ่ายในกลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งของอเมริกา ความผุกพันกับพรรคการเมืองเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจว่าผุ้มีสิทะิเลือกต้งในอนาคตมีความรุ้สึกอย่างไรกเี่ยวกับอุดมการ์ ลำดับความสำคัีญในการใช้จ่ายของรัฐบาล และปัญหาที่ถกเถียงกันหลายประเด็น" 

          "ทัศนาคติของประชานในรัฐสำคัญทางตะวันตกทังสามแห่งนี้ เรัฐเหล่านี้ในปัจจุบันมีสถานะทางการเมืองที่หลากหลายในสหรัฐฯ" เคนนี่้ย์กล่าว "แคลิฟอร์เนียปกครองโดย เดโมแครตเป็นหลัก รีพัลลิกันปกครองเท็กซัสโดยรวมและแอริโซนาเป็นรัฐที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันแย่งปันอำนาจกัน"

         แคลิฟอร์เนียจะมีบทบาทสำคัญในคณะผุ้เลือกตั้ง ในขณะที่เท็กซัสจะมีความสำคัญต่อพรรครีพัลิกัน รูปแบบการลงคะแนนเสียงในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาบ่งชี้ว่ารัฐเลห่านี้น่าจะยังคงจงรักภักดีต่อพรรคของตน แต่แอริโซนาเป็นรัฐสมรรภุมิรบแบบคลาสสิค ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 โจ ไบเดน ชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ไปอย่างฉิวเฉียด เพียง 0.30% 

       งาาวิจัยนี้ให้ข้อมุลเชิงลึกที่เจะจงว่าผุ้ลงคะแนนเสียงของพรรคเดียวกันมีค่านิยมที่แตกต่างกันหรือไม่ในทั้งสามรัฐ ผลการวิจัยระบุว่า ไม่มีคามแกต่างกันมากนัก ในหมู่พลเมืองของพรรคเดียวกันทั่วทั้งแอริโซนา แคลิฟอร์เนย หริอเท็กซัส ดังนั้น แคมเปญจึงสามารถ่ายทอดข้อความที่เกือบจะเหมือนกันในตลาดสื่อต่งๆ ในหัวข้อต่างๆ...

        https://news.asu.edu/20230926-new-survey-examines-political-affiliation-arizona-california-and-texas

         https://www.usnews.com/news/elections/articles/the-2024-swing-states-arizona-could-sway-the-2024-election

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2567

Welcome to az.

           ในปี 2020 ประเด็นที่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งตั้งได้แก่ การระบาดใหญ่ของ โควิด 19 ความไม่
สงบทางการเมืองที่เกิดจากการที่ตำรวจสังหาร จอร์จ ฟลอด์ย และการเสียชีวิตของ รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ผู้พิพากษาศาลฎีกาของสหรัฐฯ และเสนอชื่อ เอมี่ โคนีย์ บาร์เร็ตต์ เป็นผุ้พิพากษาศาลฎีกา และเรื่องราวของ พรบ.ดุแลราคาประหยัด เนื่องมาจากการระบาดใหญ่ที่ยังคงดำเนินต่อไป จึงมีการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า และทางไปรษณีย์ เป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ผุ้ลงทะเบียนพรรคเดโแมครตจำนวนมากลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ มากกว่าผู้ลงทะเบียนพรรครีพัลลิกัน เนื่องจากมีการส่งบัติรลงคะแนนทางไปรษณีย์ จำนวนมากรัฐลี้ขาด บางแห่ง จึงพบความล่าช้าในการนับคะแนนและการรายงาน ส่งผลให้สำนักข่าวใหญ่ เลือนการคาดการณ์  ท้ายทีุ่สุดไบเดนก็ได้รับเสียงข้างมากใน"คณะผุ้เลือกตั้ง" 

         รัฐอริโซนาตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 เมือ โจ ไบเดน ผุ้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโแมครต เอาชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ผุ้ดำรงตำแหน่งจากพรรครีพับลิกันในรัฐ อย่างหวุดหวิด ด้วยคะแนนเสียงเพียง 0.3% ในระหว่างการนับคะแนนคณะผุ้เลือกตั้ง สมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกัน69 คนคัดค้านการรับรองคะแนนเสียงเลือกตั้งของรัฐแอริโซนา แต่ไม่เป็นผล ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงที่เป็นเท็จ

  ปี 2022 ไม่มีพรรครัพบัลิกันคนใดชนะการเลือกตั้งประธานาะิบดีโดยไม่ชนะในรับแอริโซนา นับตั้งแต่รัฐแอริโซนาเป็นรัฐนปี 1912 ถึงแม้ว่าพรรคเดโมแครตจะชนะการเลือกต้้งประธานาธิบดีโดยไมชนะในรัฐนี้ถึง 6 ครั้ง 

        ในปี 2024 หลังจากการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรคเดโแมครต รองประธานาธิบดี กมลาแฮร์ริส ผู้เข้ามาแทน โจ ไบเดน ซึ่งถอนตัวออกจากการแข่งขัน กำลังจะเปิดตัวแคมเปญเพื่อระดมผุ้มีสิทะิเลือกตั้งที่เป็นคนรุ่น Z ในมหาวิทยาลัย 150 แห่งใสนรัฐที่เป็นสมรภูมิการเลือกตั้ง และอริโซนาก็เป็นส่วนสำคัญในการพยายามดังกล่าวดดยแคมเปญของแฮร์ริสมุ่งเน้นที่การเร่ิมต้นแคมเปญ "Back-to-School" ในรัฐ แกรนแคนยอน โดยมีแม็กซ์เวลล์ ฟรอสต์ สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคนรุ่น เจนน์ซี คนแรก เตรียมเข้าร่วมกับนักศึกษาในวันพุธ นี้ที่มหาวิทยลัย แอริโซนาในเมืองทูซอน และต่อด้วยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนาในเมืองเทมพี

         "ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์ทราบดีถึงผลกระทบที่การเลือกตั้งครั้นี้จะมีต่ออนาคตของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพในการตัดสินใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเอง การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนการปลอดภัยจากควาามรุนแรงจากอาวุธปืน ไปจนถึงความสามารถในการหาบ้านและจ่ายค่าเช่า" ฟรอสต์ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโแมครตจากฟลอริดา กล่าวในแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษร "วิธีเดียวที่เราจะชนะได้ก็คือการจัดระเบียบทุกที่และขึ้นอยู่กับเราที่จะเปลี่ยนพลังที่เราเห็นให้กลายเป็นการกระทำเพื่อชัยชนะในกเดือนพฤศจิกายน ฉันมั่นใจว่าเราจะัห็นเยาชนออกมาใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจริกายนนี้"

         แอริโซนาเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยออกไปลงคะแนนเสียงเป็นเวลานาน โดยออกไปเพียงจำนวนน้อย ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์ในรัฐแอริโซนาได้กลายเป็นพลัทางการเมืองที่ต้องนับถือ โดยมีผุ้มีสิทธิเลือกต้้งมากกว่าหนึ่งในสี่คนที่อายุตำ่กว่่า 30 ปีออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงซึ่งมากกว่าสองเท่าครึ่งของจำนวนผุ้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์ในปี 2014 ซึ่งเป็นการสร้างสถิติใหม่ในการเลือกตั้งกลางเทอม...

          และเนืองจากผุ้มีสิทธิเลือตั้งที่อายุน้อยมีแนวโน้มจะลงคะแนนให้เดโมแครตและสนับสนุนนโยบายเสรีนิยมมากขึ้น ในรัฐที่มีการแข่งขันกันอย่่างสุสี คะแนนเสียงทุกคะแนนจึงมีความสำคัญ เคธี ฮอบส์ชนะการเลือกตัึ้งผุ้ว่าการรัฐในปี 2022 ด้วยคะแนนเสียงประมาณ 17,000 คะแนนจากผุ้ลงคะแนนเกือบ 2.6 ล้านเสียง ส่วนการเลือกตั้อัยการสูงสุดสุสียิ่งกว่า..

        ทีมหารเสียงของแอร์ริสกล่าวกับ อริโซนา นิวส์ ว่าผุ้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์มีส่วนสำคัญในการเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2020 และรักษาการควบคุมวุฒิสภาของพรรคเดโแมครตในปี 2022 และคนรุ่น เจนน์ซี จะมีบทบาทสำคัญในการเอาชนะทรัมป์ในปีนี้ในรัฐแอริโซนาและรัฐสมรภุมิอื่นๆ  การสำรวจความคิดเห็นผุ้มีสิทธิเลือกตั้งล่าสุดในรัฐแอริโซนา จอร์เจีย เพนซิลเวเนีย มิชิแกน นอร์ทแคโรไลนา เนวาดา และวิสคอนซิน โดย โวทเตอร์ ทูมอร์โรว์ พบว่าแฮร์ริสแซงหน้าทรัมป์ไป 32 คะแนน ในกลุ่มคนอายุ 18-29 ปี..

     
อีกฝากฝั่งรีพับลิกัน จะจัดงานหาเสียง 2 งานในพื้นที่ฟินิกส์ในสัปดาห์นี้ ( เผยแพร่4 ก.ย. 2567 เวลา 00:33 น. GMT+7-) เจดี แวนซ์ ผุ้สมัครรองประะานาะิบดีจากพรรครีพับลิกัน เตรียมแวะที่เดอะัลเลย์ 2 แห่ง ในสัปดาก์นี้ หลังจากประกาศจัดงานในเมืองฟินิกซื นอกเนอืไปจากงานที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ในเมืองเมซา ขณะที่ แวนซ์ มีกำหนดจะหล่าวสุนทรพจน์ที่ อริโซนา บิล์ทมอร์ ในฟินิกซ์ในวัพฤหัสบดี และ มีกำหนดจะปรากฎตัวในงาน จูนนิง พอยท์ แอคชั่น ในวันพุธ ที่ เจอเนอเรชั่น เชริช ในเมซา 

       การมาเยือนของแวนซ์เป็นการเดินทางครั้งที่สองของเขาไปยัหุบเขาแห่งนี้ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ในช่วงปลายเดือนกำกฎาคม เขาแวะหาเสียงที่เมืองเกฃนเดล และพูดถึงการบริหารในปัจจุบันและการเมืองชายแดน

       https://www.azfamily.com/2024/09/03/trump-running-mate-vance-hold-2-campaign-events-phoenix-area-this-week/

        https://azmirror.com/2024/08/28/harris-campaign-focuses-on-arizona-in-its-push-to-drive-gen-z-voters-to-the-polls/

        https://en.wikipedia.org/wiki/United_States_presidential_elections_in_Arizona



“rural resentment.”

         บางส่วนจากบทสัมภาษณ์  Jon K. Lauck  ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งมหา วิทยาลัยเซาท์ดาโกตา ซึ่งได้คิดค้นสาขาการศึกษาเก...