วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2567

“rural resentment.”

         บางส่วนจากบทสัมภาษณ์ Jon K. Lauck ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งมหา
วิทยาลัยเซาท์ดาโกตา ซึ่งได้คิดค้นสาขาการศึกษาเกี่ยวกัยมิดเวสต์ขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าเขาจะเป็นคนมิดเวสต์เองก็ตาม เขาจึงถ่อมตัวเกินกว่าจะพูดเช่นนั้น 

         Q : ผุ้สมัครรองประธานาธิบดีรองประธานาธิบดีทั้งสองครต่างก็เป็นคุณพ่อชาวมิดเวสต์ และในขอบเขตทีีท่ั้งคู้แสดงความเป็นชาวมิดเวสต์ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำในลักษณะที่แตกต่างกัน คุณช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่ามีความแตกต่างกันอยางไร

          A : ทั้งคู่กำลังทำแบบนั้น แต่ภุมิภาคนี้ได้ได้เป็นแบเดียกัน มีความซับซ้อน ช่องว่างและภุมิภาคย่อยต่างๆ ที่ทำให้ประสบการณ์แตกต่างกัน วอลซ์เน้นที่รากเหง้าของเขาในเมืองเล็กๆ ของเนแบรสกา เขาพุดถึงการทำงานในฟาร์มในเนแบรสกาเมือตอนที่เขายังเป็นเด็ก พ่อของเขาเป็นผุ้ดูแลโรงเรียนเล็กๆ แห่งหนึ่งในเนอบรสกา และเขาเรียนที่วิทยาลัยในท้องถ่ินชื่อชาดรอนสเตต จากนั้นเขาก็กลายมาเป็นครูในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งไม่มีโอกาสด้านความบันเทิงอื่น ๆมากมายนัก ไม่มีบรดเวย์และอะไรอีกมามาย ศูนย์กลางของชีวิตทางสังคมและสาธารณะคือโรงเรียน และเขาเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งเหล่าน้น เขาสอนภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และฝึกสอนฟุตบอล ซึ่งแม้ว่าบาสเก็ตบอล เบสบอล และส่ิงอื่นไ จะได้รับความนิยม แต่ไม่มีอระไรจะดัไปกว่าฟุตบอล ในเมืองส่่วนใหญ่ทุกคนไปดุเกมฟุตบอลในคือวันศุกร์ นั่นจึงเป้นตัวบ่งชี้ชีวิตในเมืองเล็กๆ แถบมิดเวสต์ได้อย่างแท้จริง จากนั้นเขาก็สวมรองเื้า คาร์อาร์ท และไปตกปลาวอลล์อาย เป็นต้น

            สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ วอล์ซ ก็ีคือเขาคอลคลุมโลกสองสามใบเพราะในแง่ของวาเลนไทน์(เนแบนสกา บ้านเกิดของ วอล์ซ)และเนแบรสกตอนกลางและตะวันตก เป็นพท้นที่ฟาร์มและปศุสัตว์อยางแน่นอน มันเข้าใกล้เส้นแบ่งเขตความแห้งแล้งที่เราฝ่านไปยังทีั่ราบใหญ่หรือที่ราบสูง ดังนั้น ที่นี่จึงไม่ใช่สถานที่ที่มใีทะเลสาลคลาสสิกของมิดเวสต์จำนวนมาก เขาย้ายไปที่เมืองแมนคาโต(มินนิโซตา) ในเมืองแมนคาโต พวกมันอยุ่ต่ำกว่าเส้นแบ่งเขตนั้นซึ่งคุณจะผ่านไปยังพื้นที่ที่ฉันเรรียกว่าพื้นที่ตอนเหนือ ได้แก่ มิชิแกนตอนบน วิสคอนซินและมินนิโซตา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอีกแบบหนึ่งของมิดเวสต์ ซึ่งเน้นที่ทะเลสาบ การทำป่าไม้ การทำเหมือง การตกปลา ต้นไม้ และไม้แปรรูป มันแตกต่างไปจากเนแบรสากตะวันตก ดังนั้น เขาจึงได้ก้าวเท้าเข้าสูา่ภูมิภาคย่อยที่แตกต่างกันสองสามแห่งของมิดเวสต์

          ในกรณีของแวนซ์ เขาถุกำระบุตัวตนด้วยวัฒนธรรมอุตสาหกรรมของชนชั้นแรงงานและคนงานในมิดเวสต์ ซึ่งมีอ่ิทธิพลอย่างมากในสถานที่ต่าง ๆเช่น โอไฮโอและมิชิแกน ซึ่งในเมืองต่างๆ มีโรงงานขนาดใหญ่และผุ้คนทำงานในโรงงานตลอดชีวิต และพวกเขาได้รับเงินบำนาญและการดูแลสุขภาพและภรรยาของพวกเขาสามารถอยู่บ้านได้ แลพวกเขาก็อาจมีกระท่อมในป่าทางตอนเหนือ มันไม่ช่เกษตรกรรม แต่เป็นอุตสาหกรรม และมิดเวสต์เป็นศุนย์กลางของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของอเมริกามาเป็ฯเวลาหนึ่งศตวรรษ ยังคงเป็ฯภูมิภาคกรผลิตอันดับหนึ่ง และถูกระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นชีวิตชนชั้นกลางในมิดเวสต์ คุณมาจากฐานะที่ต่ำต้อย คุณเข้าไปในโรงงาน ทำงานหนัก คุณเก็บออม คุณมีงานในสหภาพแรงงาน และคุณสามารถใช้ชีวิตชนชั้นกลางแบบอเมริกันคลาสสิกได้

         ดังนั้นเรื่องราวเหล่านี้จึงแสดงถึงวัฒนะรรมย่อยหรือภุมิภาคย่อยที่แตกต่างกันในแถบมิดเวสต์ แต่ทังสองเรื่องก็ถือเป็นสัญลักษณ์ของประสบการณ์ในแถบมิดเวสต์เช่นกัน

         Q : อะไรคือสิ่งสำคัญเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของชาวแอปพาเลเชียนในฐานะส่วนย่อยของอัตลักษณ์ของชาวมิดเวสต์

          A : เคยมีวัฒนธรรมของชาวภูเขาในรัฐเคนตักกี้ตะวันออก ซึ่งผุ้ตั้งถ่ินฐานชาวสกอตไอริช (คิดเป็นร้อยละ 90 ของชาวสกอตไอริช) อาศัยอยู่ตามเนินเขาและหุบเขา จากนั้นบริษัทขนาดใหญ่บางแห่งก็ค้นพบถ่านหิน และคนเหล่านี้จำนวนมากไปทำงานในเมืองถ่านหินและมีงานที่ดีในการทำเหมืองถ่านหินแต่เมือการทำเหมืองถ่านหนิกลายเป็นเครื่องจักรมากขึ้น คุณสามารถขุดถ่านหินได้ในปริมาณเท่ากันด้วยคนงานเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น ชาวภูเขาสกอตไอริชเหล่านนี้จึงเริ่มอพยพไปทางเหนอข้ามแม้น้ำโอไฮโอ พวกเขาใช้เส้นทางที่เรียกว่า "ฮิลบิลลี่ ไฮเวยส์" และย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองอุตสาหกรรมที่กำลังเฟื่องฟูในแถบมิดเวสต์ เมืองแอครอน รัฐโอไฮโอ กลายเป็นที่รุ้จักในฐานะเมืองหลวงของเวสต์เวอร์จิเนีย เพราะมีผุ้คนจำนวนมากจากคนตักกี้และเวสต์เวอร์จิเนียอาศัยอยู่ที่นั่น พวกเขาจะสร้างชุมชนเล็กๆ ของตนเองและวัฒนธรรมย่อยของตนเองและอาศัยอยู่ในเมืองเหล่านี้ แรงงารเหล่นี้มีความสำคัญต่อเศราฐกิจอุตสาหกรรมของมิดเวสต์ คนเหล่านี้มีส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์ในเมืองดีทรอยต์และอินเดียนาโพลิส เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์มีขนาดใหญ่มากครอบครัวของ แวนซ์ เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้ เมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่คือเมืองาิดเดิลทาวน์ รัฐโอไฮโอ....  

             Q ; ฉันรุ้ว่คุณไม่ใช่นักยุทธศาสตร์ทางการเมือง แต่ผุ้สมัครรองประะานาธิบดีทั้งสองคนต้องทำ
อย่่างไรจึงจะโน้มน้าวชาวมิดเวสต์ได้ว่าพวกเขาหรือผุ้สมัครที่พวกเขาเป็นตัวแทนเข้าใจปัญหาเรหือแรงบันดาลใจของภุมิภาคนี้ วิะีที่ดีที่สุดที่ผุ้สมัครทั้งสองคนจะสื่อถึงพื้นที่สำคัญแห่งนี้ของประเทศว่าพวกเขาเข้าใจได้ในแบบที่ผุ้สมัครระดับแนวหน้าในแถบชายฝั่งทำไม่ได้คืออะไร

         A : คุณสามารถให้วอลซ์ไปที่พื้นที่ชนบทและมเืองเล็กๆ ในรัฐสำัญๆ เช่น วิสคอนซิน และมิชิแกน แล้วพุดว่า "พวกเราไม่ได้ลืมคุณ เราจะไม่ท้ิงคุณไว้ข้างหลัง ฉันมาจากมเืองเล็กๆ ฉันเข้าใจปัญหาของคุณ นี่คือวิะีที่แันแก้ไขปัญหานี้ในมินนิโซตา ฉันรุ้ว่าพรรคเดโมแครตทำผลงานได้แย่แค่ไหนในเขตชนบทในพื้นที่เหล่านี้ ฉันจะทำให้แน่ใว่าตัวแทนของรัฐบาลแฮร์ริสจะออกมาแก้ไขปัญหาของคุณที่นี้่ไ และบางที่เขาอาจพูดถึงมรกดกของฮิวเบิร์ต ฮัมฟรีย์ และวอลเตอร์ มอนเดล และวิะีที่พวกเขาเข้าใจปัญหาในพื้นที่ชนบท

                สำหรับแวนซ์ ฉันคิดว่าบางที่การกำหนดเป้าหมายไปที่พื้นที่อุตสาหกรรมเหล่านี้ ให้เขาพูดว่า "เราพบปัญหาทีเ่กิดจากการค้าเสรีมากเกินไป การทุ่มตลาดเหล็ก การนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับฐานอุตสาหกรรมของเรา ฉันเห็นด้วยตาตัวเอง พ่อแม่ของฉันเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว เราจะมีแนวทางที่แตกต่างออกไปในการกำหนดนโยบายอุตสาหกรรม" 

            Q : คุณเคยเรียกมิดเวสต์ว่าเป็นภูมิภาคที่ถุกลืมไปแล้วอย่างน้อยในทางการเมืองในรอบนี้ เหตุผลที่เรากำลังคุยกันเรื่องนี้ก็คือภุมิภาคนี้ดูเหมือนจะอยุ่ในใจของบรรดาผุ้หาเสียง ฉันสงสัยว่าใครเป็นคนลืมมิดเวสต์ตั้งแต่แรก และทำไมจึงเป็นเช่นนั้น หากคุณจะอภัยให้ฉันด้วยการใช้สำนวนนี้ ซึ่งเป็นส่นสำคัญในช่วงหาเสียงครั้งนี้

            A : มันไม่ได้เป็นศุย์กลางของวัฒนธรรมอเมิรกันมเป็นเวลานานมันเคยเป็นมาก่อน และมันก็ค่อยๆ หายไปจากกระแสหลัก การผลิตทางวัฒนธรรมจำนวนมากเกิดขึ้นในนิวยอร์กและแอลเอและรุ้สึกได้ในสถานที่ตางๆ ภายในประเทศว่าไม่มีเสียงที่ดังเท่าที่พวกเขาคิดว่าควรจะเป็น และนั่นก็สมเหตุสมผลและยุติะรรม ฉันคิดว่าดชคดีสำหรับภาคกลางตะวันตกที่รัฐอย่างมิชิแกนและวิสคอนซินกลายเป็นรัฐที่สูสีกัน มันดึงดูดผุ้คนที่ต้องหารชนะการหาเสียง รัฐเหล่านนี้มีความสำคัญต่อความพยายามของทั้งอสงฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิสคอนซินเป็นรัฐที่แบ่งฝ่ายกัน 50/50 ..แต่จริงๆแล้วมันจะลงเอยที่สถาที่อย่างวิสคอนซินและมิชิแกน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขตชานเมืองของดีทรอยต์และเคาน์ตี้เมสคอมบ์ และวอเคชา วิสคอนซิน มันจะเป็นเกมส์ทีมีความสูสีกันมาก

  Q : ความสนใจทางการเมืองที่เพ่ิมขึ้นในภุมภาคนี้เกิดขึ้นหลังปี 2016 ใช่หรือไม่ พรรคเดโมแครตถือว่า "กำแพงสีน้ำเงิน" เป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคที่ถูกลืมทางการเมืองหรือไม่

             A : คุณจำการย้อยอีตในการเลือกตัึ้งครั้งน้้นได้หรือไม่ ผุ้คนมักจะชี้ให้เห็นอยู่ตอลดว่าฮิลลารี คลินตันไม่ได้ไปเยือนวิสคอนซิน ซึ่งน่าตกใจมาก พวกเขาคิดไปเองว่าพวกเขาจะชนะวิสคอนซิน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เช่นเดียวกับมิชิแกนแม้แร่มินนิโซตา ในปี 2016 ทรัมป์ก็แพ้ไปหนึ่งแต้ม และฉันจำได้ว่าตอนท้ายของแคมเปญนั้น ทรัมจัดการชุมนุมที่เมืองดูลูธ มินนิโซตา คุณกำลัง (ฉันคิดว่่า) มันช่างเสียเปล่า เห้ฯได้ชัดว่าฮิลลารีจะชนะมินิโซตา คุรกำลังทำอะไรอยู่ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจับกระแสบางอย่างได้และคิดว่า "บางที่เราอาจแอบชนะที่นี่ได้" และพวกเขาก็เกือบจะชนะแล้ว นั่นจึงเป็นการเตือนสติเดโมแครตครั้งหใญ่ว่า "กำแพงสีน้ำเงินพังทลายลงแล้ว พื้นที่นี้มีการแข่งขันสูง นี่้คือรัฐที่มีจุดพลิกผันสามหรือสี่รัฐ" 

            Q : มีการพูดถึงการปรับแนวทางทางการเมืองของภูมิภาตะวันตกกลางมากมาย โดยเฉพาะในปี 2016 ฉันสงสัยว่าในฐษนะนักประวัติสาสตร์ของภุมิภาคนี้่ คุณคิดอย่างไรกับความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องนี คำอธิบายคลาสสิกคือ "ความขุนเคื่องของคนในชนบท" มีบางอย่างที่เราทุกคนมองข้ามไปเกี่ยวกัีบสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นหรือไม่

          A : ฉันไม่เคยชอบคำว่า "ความขุ่นเคือ่งของคนในชนบท" เพราะมันสื่อถึงว่าผุ้คนกำลังบ่นเกี่ยวกัยส่ิงที่ไม่เป็นความจริงหรือไม่ถูกต้อง และไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อที่จะบอกว่าภุมิภาคตะวันตกกลางไม่เคยอยุ่ในวาระแห่งชาติมาสักพักแล้ว และไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อที่จะบอกว่าการลดการผลิตในภาคอุตสาหกรรมสร้างความเจ็บปวดให้กับชุมชนจำนวนมากและไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อที่จะบอกว่าวิกฤตการณ์ทางการเกษตรในช่วงทศวรรษ 1980 และการคลีคลายของชนบทในอเมริกาในวเลาต่อมาสร้างความเจ็บปวด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรรืืองจริง ฉันคิดว่าเมื่อคุณใช้คำว่า "ความขุนเคืองของคนในชนบท"  นั่นหมายึงามว่าคุณกำลังปัดควมกังวลเหล่านี้ออกไปและไม่ใส่ใจมันอย่างจริงจัง แันคิดว่าควรเปลี่ยนแฃคำนี้ใหม่เป้ฯความกังวลของคนในชนบทความกังวลของคนในชนบทไม่เคยอยู่ในวาระการประชุม

           และคุณอาจจำได้ว่าหลังจากการเลือกตั้งปี 2016 และฮิลลารีแพ้มิชิแกนและวิสคอนซน มาีนักยุทธศาสตร์ของพรรคเดโมแครตพุดคุยกันถึงวิะีที่ีจะชนะชนชั้นแรงานผิวขาวกลับคืนมา และนักยุทะศสตร์กลุ่มอื่นก็พูดว่า ลืมชนชั้นแรงงานผิวขาวในวิสคอนซินและมิชิแกนไปเถอะ พวกเขาหายไปแล้ว เราต้องมุ่งเน้นไปที่การชนะกลุ่มใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในจอร์เจียและแอริโซนา เราต้องเปลี่ยนโฟกัสไปที่รัฐอื่นๆ และไปถึง 270 โดยใช้แผนที่รูปแบบอื่น ผุ้คนได้ยินเรื่องนี้ และผุ้คนก็ทราบถึงการดีเบตนี้ว่า เราควรตัดมิดเวสต์ท้ิงไปหรือไม่ ฉันคิดว่านั่น่อยข้างจะเป้นอันตราย นั้นเป็นหลักฐานทีทแ้จริงว่าภูสมิภาคนี้ถุกตัดออกไปแล้ว

          อีกสิ่งหนึ่งทีททำให้คนในพื้นที่ของฉันไม่พอใจคือการที่พรรคเดโแมครตปิดการประชุมคอคัสในไอโอวา ซึ่งพรรคเดโมแครตมอว่าเป็นตัวแทืนของพื้นที่ชนบทในแถบมิดเวสต์ที่ีมีสิทธิมีเสียง และพรรคเดโแมครตก็ปิดการประชุมนี้ไปอย่างไม่เป็นพิธีรีตอง ตนในทีมการเมืองของไบเดนต้องการให้เซาท์แคโรไลนาได้ไปก่อนเพราะคิดว่าจะเกิดประโยชน์กับไบเดน ฉันคิดว่าพวกเขาพูดถูก แต่เรื่องนี้ยังส่งผลต่อมุมุมองของคุณในพื้นที่ชนบทตอนในของประเทศด้วย พวกเขาคิดว่า "เดี๋ยวนะคุณกำลังปิดการประชุมคอคัสในไอโอวาอยุ่เหรอ โอกาสเดียวที่เรามีในการมีสิทธิมีเสียงในวัฒษนะรรมที่กว้างขึ้นซึ่งถูกครอบงำโดยวอชิงตัน นิวยอร์ก และแอลเอน่ะเหรื อน้นดุไม่ยุติธรรมเลย" 

         Q : ประเด็นที่คุณพูดถึงวิสคอนซินทำให้ฉันนึกถึงบทสนทนาที่แันมีระหว่างการเลือกตั้งวุฒิสภาเมือไม่นานมานี้ และคนๆ นี้บอกว่ารู้สึกเหมือนว่าพวกเขาถุกลงโทษเพราะโฆษณาที่มากเกินไป เราน่าจะดีขึ้นกว่านี้หรือไม่เมือพวกชาตินิยมเหล่านี้ไม่ยุ่งกับเราเลย อะไรกันแน่ที่เป้นประดยชน์ต่อชาวมิดเวสต์ที่นี่

         A : ฉันคิดว่าการทีภูมิภาคนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาในระดับชาตินั้นเป็นเรื่องดี ฉันคิดว่าการที่ผุ้คนได้พูดคุญกันอย่างชักซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่สำคัญสำหรับผุ้คนในวิสคอนซินและมิชิแกนนั้นเป็นเรื่องดี ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์ ฉันรู้ว่าการโฆษณาทางโทรทัศน์นั้นน่ารำคาญแต่เรื่องนี้จะจบลงในสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤศจิการยน

         https://www.politico.com/news/magazine/2024/08/21/midwest-walz-vance-lauck-00175114

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2567

Midwest

            "มิดเวสต์" เป็นหนึ่งในสี่ภูมิภาคสำมะโนประชากรของสำนักงานสำมะโนประชากรแห่งสหรัฐอเมริกาเรียก ภุมิภาคนี้ว่า ภุมิภาคตอนกลางเหนือ อย่างเป็นทางการจนถึงปี 1984 อยุ่ระหว่างภาคตะวันออกเฉียง
เหนือของสหรัฐอเมริกา สำมะโนประชากรแห่งสหรัฐอเมริกาเรียก ภูมิภาคนี่ว่า ภูมิภาคตอนกลางเหนือ อย่างเป็นทางการจนถึงปี 1984 อยุ่ระหว่างภาคตะวันออกเแียงเหนือของสหรัฐอเมริกาและภาคตะวัอนตกของวสหรัฐอเมริกาโดยมีแคนาดาทางเหนือและภาคใต้ของสหรัฐอเมริกาทางใต้

           สำนักงานสำมะโนประชากร ของสหรัฐอเมริกากำหนดนิยามพื้นที่ภาคกลางเหนือของสหรัฐอเมริกาไว้ 12 รัฐ ได้แก่ อิลิลนอยส์ อินเดียนา ไอโอวา แคนซัส มิชิแกน มินนิโซตา มิสซุรี เนแบรสาภ  นอร์ทดาโคตา โอไฮโอ เชาท์ คาโคตา และวิสคอนซินโดยทั้วไปแล้วภุมิภาคนี้ตั้งอยุ่บนที่ราบภายในที่กวางระหวางรัฐที่คีรอบครองเทือกเขาแอปพาเลเชียนและรัฐที่ครอบครองเทือกเขาร็อกกี แม่น้ำสายสำคัญในภูมิภาคนี้ ได้แก่ แม่น้ำโอไฮโอแม่น้ำมิสซิสซิปปี ตอนบนและแม่น้ำมิสซุรี จากตะวันออกไปตะวันตก สำมะโนประชากร ของสหรัฐอเมริกาในปี 2020 ระบุว่าประชากรของภูมิภาคตะวันตกกลางมีจำนวน 68,995,685 คน สำนักงานสำมะโสนประชากรของสหรัฐอเมริกาแบ่งภุมิภาคตะวันตกกลางออกเป็น 2 ส่วน ส่วนตะวันออกเหนือตอนกลางประกอบด้วยอิลลินอยส์ อินเดียนา มิชิแกน โอไฮโอ และวิสคอนซิน ซึงทั้งหมดเป็นสวนหนึ่งของภูมิภคารเกรดเลกส์ด้วยเขตภาคตะวันตกเแยงเหนือตอนกลางประกอบไปด้วยรัฐไอโอวา แคนซัส มินนิโซตา มิสซุรี นอร์ทดาโคตาม เนแบรสกา และเซาท์คาโคตา โดยหลายแห่งตั้งอยู่ในภูมิภาค เกรทเพลนส์ อย่างน้อยบางส่วน

         ชิคาโกเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในแถบมิดเวสต์ของอเมิรกาและเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดบามในสหรัฐอเมริกา ชิคาโกและเขตชานเมือง ซึ่งเรีกกันทั่วไปว่าชิคาโกแลนด์ เป็นเขตมหานครที่ใหญ่ที่สุด โดยมีประชกร 10 ล้านคน ทำให้เป็นเขตมหานครที่ใหญ่เป็นอันดับสี่นอเมริกาเหนือรองจากเกรดเตอร์เม็กซิโกซิตี้ เขตมหานครนิวยอร์ก และเกรดเตอร์ลอสแองเจลิส เมืองใหญ่ๆ อื่นๆ ในแถบมิดเวสต์ ได้แก่ โคลัมบัส อินเดียนาโพลิส ดีทรอยต์ มิลวอกี แคนซัสซิตี้ โอมาฮามินนี อาโพลิสวิชิตา คลีฟแลนด์ ซินซิเนติ เซนต์พอลและเซต์หลุยส์ เขตมหานครขนาดหญ่ในแถบมิดเวสต์ได้แก่ เมโทร ดีทรอยต์ มินนิอาโพลิส-เซต์พอล เกรตเตอร์ เซนต์หลุยส์ เกรตเตอร์ซินเซเนติ เขตมหานครแคนซัสซิตี้ เขตมหานครโคลัมบัสและเกรดเตอร์คลีฟแลนด์...https://en.wikipedia.org/wiki/Midwestern_United_States

           มิดเวสต์กำลังมีช่วงเวลาดีๆ ไม่เพียงแต่พรรคการเืองหลักทั้งอสงพรรคจะวาแผนจัดการประชุมใหญ่ในเมืองต่างๆ ในมิดเวสต์เท่านั้น ผุ้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแนงประธานาะิบดี(จากชายฝั่ง) ทั้งสองพรรคยังเลือกคู่หูจากภายในมิดเวสต์ด้วย ได้แก่ วุฒิสมาชิก เจดี แวนซ์ จากโอไฮโอ และผุ้ว่การทิม วอลซ์ จากมินนิโซตา การคัดเลือกวอลซ์โดยเฉพาะได้จุดชนวนให้เกิดกระแสสดุดีความเป็มิดเวสต์ในสื่อทั้งโซเชียล


และสื่อแบบดั้งเดิม " สำหรับภูมิภาคที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในการถุกผุ้ตัดสินด้านวัฒนธรรมและการเมืองของชายฝั่งเพิกเฉยประสบการณ์ดังกล่าวถือว่า..แปลก

         กระทั่งไม่นานมานี้  ภูมิภาคนี้ยยังคงเป็นที่สนใจของนักวิชากาาหลายคนเช่นกัน นั่นเป็นสาเหตุที่จอน เค. เลอค์ ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเซาท์ตาโกตา จึงได้คิดค้นสาขาการศึกาาเกี่ยวกับมิดเวสต์ขึ้นมาอย่างมีประสิทะิพภาพแม้ว่าเขาจะเป็นคนมิดเวสต์เองก็ตาม เขาจึงถ่อนตัวเกินกว่าจะพูดเช่นนั้ เมือทศวรรษที่แล้วเขาร่วมก่อตั้ง "มิดเวสเทิร์น ฮิสตอรี่่ แอสโซซิเอส" ร่วมกับ วารสารที่ผ่านการตรวจสอบโดยผุ้เชี่ยวชาญ ซึ่งอุดทิสให้กับการศึกาาเกี่ยวกับ "อัตลักษณ์ ภูมิศาสตร์ สังคม วัฒนะรรม และการเมือง" ของภุมิภาคนี หากมีใครสามารถอธิบายสกุลเงินของ "มิดเวสต์" ในฐานะแบรนด์ทางการเมืองได้ ฉันคิดว่าคนนั้นคือ เลอค์

         ตามที่ Lauck กล่าว ปรากฎว่ามีอัตลักษณ์ของมิดเวสต์หลายแบบ และผุ้สมัครรองประธานาธิบดีทั้งสองคนก็แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ที่โดดเด่น 2 แบบ หาก วอล์ซ เป็นตัวแทนของชาวไร่ชาวนาในเมืองเล็กๆ ที่เขาเติบโตมาในเนแบรสกำและมินิโซตา แวนซ์ ก็เป็นตัวแทนของชาวเมืองอุตสาหกรรมใน รัสต์เบลท์โอไฮโอ "พวกเขาเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมย่อยหรือภูมิภาคย่อยที่แตกต่างกันในมิดเวสต์" เลอค์ กล่าว "แต่เรื่องราวทั้งสองเรื่องล้วนเป็นสัญลักษณ์ของประสบการณ์ในมิดเวสต์" 

         "การที่เดโมแครตมีปัญหากับพรรคการเมืองที่อศัยอยู่ตามชายฝั่งเป็นหลัก แน่นอนว่า่ ไบเดนมาจากเดลาแวร์ เพโลซีมาจากซานฟรานฯ ฮาดีน เจฟฟรีส์มาจากนิวยอร์ก และกมลา มาจาก ซานฟานซิโก นั่นคัือบริเวณชายฝั่งที่ไกลที่สุด โดยไม่ต้องตกลงไปในมหาสมุทร พวกเขาตะหนักว่ามีปัญหานี้ในพื้นที่ชนบทของประเทศและในพื้นที่ตอนในของประเทศหากพวกเขาจะทำอะไรบางอย่งเพื่อดูแลรัฐในแถบมิดเวสต์พวกเขาต้องมีใครสังคนที่สามารถแสดงถึงวัฒนธรรมนั้นได้และผุ้ว่าการรัฐมินิโซตา ซึ่งมาจากเนแบรสกา ช่วยพวกเขาแก้ไขปัญหานี้ และการรายงานข่าวของสื่อได้เน้นย้ำถึงเรื่องทั้งหมดนั้นอย่างมาก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อแคมเปญหาเสียงของแฮร์ริส" 

ต่อคำถามที่ว่านอกเหนือจากความจำเป็นทางภุมิศาสตร์แล้ว วัฒนธรรมของแถบมิดเวสต์มีอะไรที่อาจดึงดุดใจทางการเมืองในช่วงเวลานี้บ้าง

          "ผู้คนคิดว่าเรากำลังงผ่านช่วงเวลาแห่งความโกลาหลนี้ไปแล้ซึ่งบางคนในทั้งสองฝ่ายต่างก็มีุดยืนที่หัวรุนแรง มีความกระหายอยางแท้จริงและลึกซึ้งต่อความปกติ และไม่มีอะไรจะเป็นตัวแทนของความปกติได้ดีไปกว่ามิดเวสต์ ฉันคิดว่านี่เป็นหนึ่งในส่ิงที่วอลซ์พูดถึงเมื่อเขาเร่ิมพูดถึงเรื่อง "ความแปลก" และเฮ้ เราแค่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นปกติ กลับไปที่พ้นฐานกันเถอะ มาโฟกัสที่ผุ้คน ราคาที่อยุ่อาศัย และการดูแลเด็กันเถอะ และฉันเป็นเพียงคนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่เคยเป็นโค้ชฟุตบอล

           ฉันคิดว่ารีพับลิกันพยายามหาคนที่มีคุณสมบัติตามความฝีนแบบอเมริกัน วามฝันแบบอเมริกันคือ คนที่มาจากฐานะอันต่ำต้อยและทำงานหนักและก้าวหน้าในระบบ และยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับความฝันแบบอเมริกันที่ตายไปแล้วหรือไม่..ความฝันแบบอเมริกันถูกลืมเลือนไปแล้วหรือไม่.. คนรุนมิเลนเนียลประสบความสำเร้๗ได้ในระดับเดียวกับพ่อแม่ของพวกเขาหรือไม่.. การถกเถียงเรื่องความฝันแบบอเมริกันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับยุคสมันนี้ เรื่อนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 150 ปีแล้ว แต่เมือ่คุณหาคนอยางแวนซ์ได้ ซึ่งมาจากสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดาแต่ไม่ปกติตามคำอธิบายของเชขาเอง ก็สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์นั้นและไปเรียนในมหาวิทยาลัยระดับแรงงาน เช่น มาหวิทยาลัยโอไฮโอสเตต และไปเป็นนาวิกโยธิน ถูกส่งไปประจำการ ซึ่งนั่นถือเป็นการใช้ประโยชน์จากวัฒนธรรมแบบเก่าของแถบมิดเวสต์ นั่นค่อความสำคัญของการทำงานหนึก คุณธรรม และความมุ่งมั่น

          https://www.politico.com/news/magazine/2024/08/21/midwest-walz-vance-lauck-00175114

           https://www.google.com/search?q=midwest+usa&ie=utf-8&oe=utf-8&aq=t

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2567

Political leanings among Gen Z Michigan

             "คนวงใน" ทางการเมืองของมิชิแกนส่วนใหญ่ถือว่าตัวเองไม่ได้เป็นพวกเสรีนยมหรืออนุรักษ์นิยม
ผุ้เข้าร่วมในการกำหนดนดยบายของรัฐมีแนวโน้มที่จะระบุตัวตนว่าเป็น รีพับลิกันมกากว่าประชากรวัยผุ้ใหญ่ของมิชิแกน แต่พวกเขาไม่ได้เป็นอนุรักษ์นิยมมากนัก ตามผลลัพธ์ของ "มิชิแกน โพลิซี อินไซด์เดอร์ ปาเนล"

             ซึ่งเป็นการสำรวจกลุ่มผุ้มีอิทธิพลมากที่สุดในการกำหนดนโยบายของรฐทางออนไลน์ เป็นความร่ว่มมือระหว่างสภาบันนโยบายสาะารณะและการวิจัยสังคมแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตท และศุนย์นดยบายท้องถ่ิน รับและเมืองเแห่งมหาวิทยาลับมิชิแกน ผลการสำรวจได้รับการเผยแพร่ในรายงาน

         แมทท์ กอร์สแมนน์ ผุ้อำนวยกาาร เวปไซด์ดังกล่าว กล่าวว่า "นักการเมืองระดับรัฐมือคติมากกว่าประชาชนในรัฐมิชิแกน แต่พวกขาไมได้เป็นพวกหัวรุนแรงทางอุดมการณ์ สวนใหญ่จัดตัวเองอยุ่ในกลุ่มกลางๆ ทางอุดมการณ์ และมีแนวดน้มน้อยกว่าพลเมืองคนอื่นๆ ที่ะเรียกตัวเองว่าเป็นพวกอนุรัาณ์นิยม โดยเฉพาะอย่างย่ิงในฝ่ายบริหารและชุมชนผุ้สนับสนุน" 

        โดยทั่วไปแล้ว นักรัฐศาสตร์มองว่ากลุ่มชนชั้นนำทางการเมืองเป็นตัวขับเคลื่อนความแตกแยกทางอุดมกาณ์ แต่ผลการสำรวจ แสดงให้เห็นว่าผุ้นำของรัฐมีทัศนคติที่เป็นกลางมากกว่า จากผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด 16.1 % ระบุว่าตนเองเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม 60.5% ระบุว่าตนเองอยุ่ระดับกลาง และ 23.4% ระบุวา่ตนเองเป็นฝ่ายเสรีนิยม

       ในประชากรทั่วไปของมิชิแกน ร้อยละ 39.8% เรียกตัึวเองว่าเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ร้อยละ 36.2 เชื่อว่าตัวเองอยุ่ใระดับกลาง และร้อยละ 24 ระบุว่าตัวเองเป็นพวกเสรีนิยม

       จากการสำรวจผุ้ที่ทำงานด้านนะยบายในสภานิติบัญญัติแห่งรัฐมิชิแกนฝ่ายบริหาร และชุมชนองค์กรนอกภาครัฐของแลนซิง ในบรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญํติ ร้องละ 22.2% ระบุว่าตนเองเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมแต่มีเพียงร้อยละ 12.2% ของผุ้บริหารระับรัฐและผุ้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 18,5% ที่มีอิทธิพลต่อนดยลบายจากตำแหน่งนอกรัฐบาลที่ระบุตนเองว่าเป็นฝ่ายอนุรักษณ์นิยม

        ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในพรรครีพัลลิกันของรัฐมิชิแกนส่วนใหญ่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม แต่ผุ้ที่เป์นสมาชิกพรรครีพับลิกันในพรรคมีแนวคิดที่ค่อนข้างเป็นกลาง ไสิ่งทนี้อาจช่วยอธิบายได้ว่าทำไมกลุ่มคนชั้นนำของพรรครีพับลิกันจึงมักขัดแย้งกับฐานเสียงของพรรค" กรอสแมนน์กล่าว

        รายงานแบับใหม่ยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลปรชะากรและทัศนคติทางการเมืทองของคนในมิชิแกน รวมถึงความไว้วางใจที่พวกเขามีต่อรัฐบาลและการอนุมัติต่อผุ้ว่าการรัฐ ริก สไนเดอต์และประธานาธิบดี บารัค โอบามา 

       ผุ้ตอบแบบสำรวจยังได้แสดงมุมุมองเกี่ยวกับปัญหาที่สำคัญที่สุดที่สภานิติบัญญัติและผุ้ว่าการรัฐต้ิงเผชิญ โดยส่วนใหญ่มักจะกล่าวถึงเรื่องการศึกษาและดครงสร้างพื้นฐาน

        การสำรวจออกแบบมาเพื่อให้เปรียบเทียบกับมุมองที่สดงดดยประชาชนทั่วไปใน ซึ่งเป็นการวัด


ทัศนคติและความคิดเห็นที่แสดงออกโดยเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทุกๆสองปี

          ทอม ไอแวคโก ผุ้ดุแล "โคสอัพ" กล่่าวว่า "เราเห็นว่าที่เป็นกิจการใหม่ที่น่าตื่่นเต้น ซึ่งเป็นก้าวแรกที่โดดเด่นในการทำความเข้าเพื่ิมเติมเกี่ยวกับการตัดสินใจของรัฐ" ขณะนี้การสำรวจครั้งที่ 2 ได้ดำเนินการภคสนามแล้ว โดยขอให้คณะผุ้เชี่ยวชาญคาดการณ์ผลการเลือกต้งประธานาธิบดีปี 2016 และการประชุมสภานิติบัญญัติมิชิแกนในช่วงระกว่างการเลือกตั้งจนถึงสิ้นปี การสำรวจทางออนไลน์ได้เชิญผุ้บริหารหน่วยงานระดับสุงของรัฐ สมาชิกสภานิติบัญญัติของมิชิแกน และ(ุ้ช่วงเจ้าหน้าที่ นักล็อบบี้ของสมาคมและองค์กร ผุ้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธุ์แลสื่อมวลชน เข้าร่วมในคณะกรรมการ

        ผุ้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด 537 คนตกลงที่จเะข้าร่วมเป็นคณะกรรมและตอบแบบสำรวจเสร็จสิ้นระหว่างวันที่ 14 กันยายน -2 ตุลาคม "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีบุคคลวงในทางการเมืองจากหลากหลายรัฐเข้าร่วม เราได้เรียนรุ้อะไหรมากมายจากข้อมุลเบื้องต้นที่พวกเขาแบ่งปันและเรารอคอนยที่จะประเมินมุมุมองของพวเขาเป็นประจำ" อีลิค กอนซาเลซ เจินกี้ นักรัฐศาสตร์จาก MSU ซึ่งเป็นผุ้อำนวนการร่วมของดครงการกล่าว

        สำนักงานวิจัยการสำรวจของ สถาบันนโยบายสาธารณะและการวิจัยสังคม (IPPSR) ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการวิจัยการสำรวจที่เข้มงวด ได้จัดและดำเนินการสำรวจแบบกลุ่มออนไลน์ "คาเรน คลาร์ค" ทำหน้าที่เป็นผุ้จัดการโครงการและสามารถตอบคำถามเชิงวิธีการจาก(ุ้เข้าร่วมการสำรวจได้

       IPPSR นำการวิจัยไปใช้กับปัญหาเร่งด่วนด้านนดยบายสาะารณะ และสร้างความสัมพันธ์ในการแก้ไขปัญหาระกวางชุมชนวิชาการและผุ้กำหนดนโยบาย โดยเป็นที่ตั้งของโครงการ มิชิแกน โพลิทิคอล ลีดเดอร์ชิฟ โปรแกรม" โครงการ "เลจิสเลทีฟ ลีดเดอร์ชิพ โปรแกรม" สำนักงานสำรวจวิจัย โึครงการ สเตรท ออฟ เดอะ สเตรท" ฟอรัมนดยายสาะารณะ และทุนวิจัยนโยบายสาะารณะประยุกต์ของมิชิแกน

        https://ippsr.msu.edu/news/michigan-policy-insiders-neither-liberal-nor-conservative

         จากการเลือกตั้งประะานาะบิดีที่วุ่นวายและบรรากาศทางการเมืองที่ตึงเครียดทั้งในระดับท้องถ่ินและ
ระดับประเทศ การสำรวจเมืองเร็วๆ นี้ดดยมหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย-ลอสแอนเจลิสเผยให้เห็นว่านักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยมิชิชแกนมากกว่าหนึ่งนสามคิดว่าตัวเองอยุ่ "กลางๆ" เมือพุดถึงแนวทางทางการเมืองของพวกเขา

         "เฟรสแมน เซอร์เวย์" เป็นการศึกษาประจำปีของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ทั่วประเทศ และดำเนินการโดยสถาบันวิจัยการศึกษาระดับสุงของ UCLA มาเป็นเวลากว่า 50 ปี รายงานประจำปี 2016 จัดทำขึ้นโดยอิงจาคำตอบของนักศึกษาชั้นปีที่1 เต็มเวลา 137,456 คนจากวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย 184 แห่งในสหรัฐอเมริกา จากนั้นรายงานจะถูกรวบรวมเพื่อแสดงการนำเสนอในระดับประเทศ และตามโรงเรียน นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของ UM มากกว่า 72% หรือ 4,886 คน เข้าร่่วมการสำรวจครั้งนี้

         ที่มหาวิทบาลัยมิชิแกน ผุ้ตอแบบสอบถามร้อยละ 34.1% ระบุว่าตนเองเป็นคนกลางทางการเมือง ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มที่ลดลงทั่วประเทศ เนื่องจากนักศึกษาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนขึ้นในทิศทางใดทิศทางหนึ่งในทางกลับกัน นักศึกษามหาวิทบายมิชิแกนร้อบฃละ 43.7% ระบุว่าตนเองเป็นเสรีนิยม ซึ่งเพ่ิมขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากนักศึกษาประมาณร้อยละ 28 ในปี 1997 

        แม้ว่าร้อยละ 15.4 ระบุว่าตนเองเป็นอนุรักษ์นิยม แต่ตัวเลขดังกล่ายแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ผุ้ตอบแบบสอบถามที่เหลือไม่ได้ระบุแนวโน้มทางการเมือง ผลการสำรวจทัวปรเทศแสดงให้เห็นว่าผุถ้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 42.3 ระบุว่าตนเองเป็นคนกลางในขณะที่้อยละ 35.5 ระบุว่าตนเองเป็ฯเสรีนิยม และร้อยละ 22.2 ระบุว่าตนเองเป็นอนุรักษ์นิยม

        นักศึกษาใหม่ของ UM ส่วนใหญ่กล่าวว่าความอดทนต่อผุ้ที่มีความเชื่อที่แกต่างนั้นเป็นจุดแข็งที่สำคัญหรือเป็นจุดแข็งของพวกเขาในระดับหนึ่ง ดดยนักศึกษาฝ่ายอนุรักษ์นิยมร้อยละ 75 นักศึก๋ษ่ฝ่ายกลางร้อยละ 92 ยืนยันเช่นนั้น

          การสำรวจดังกล่าวยังสำรวจความคิดเห็นของนักศึกษาเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองต่างๆ โดยรวมแล้วผุ้หญิงมีแนวโน้มที่จะเห็นด้ยมากกว่าผุ้ชาย ต่อประเด็นคำถามต่างๆ นอกเหนือจากากรสังกัดทางการเทืองและหัวข่ออื่นๆ แบบสำรวจนี้ยังวัดความกังวลของนักศึกษาเกี่ยวกับความสสามารถในการจ่ายค่าเล่าเรียนในวิทยาลัยและสุขภาพทางอารมณ์ของพวกเขาด้วย..

        UM ได้มีส่วนร่วมในการศึกษานี้เป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 1993 แม้ว่าใสในปีนี้ UCLAจะมุ่งเน้นในด้านสุขภาพทางอารมณ์ แนวดน้มทางการเมือง และความสามรถในการจ่ายค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัย แต่การสำรวจยังได้ครอบคลุมประเด็นต่างๆ มากมาย  https://diversity.umich.edu/2017/07/survey-shows-varying-political-leanings-among-u-m-freshmen/

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2567

Michigan

           ศตวรรษที่ 20 เกิดปรากฎการณ์ประชากรครั้งใหญ่ในมิชิแกน คือการเติบโตของชุมชน แอฟริกัน
อเมริกัน ซึ่งส่วนใหญ่ของชาวแอฟริกันอเมริกันจากชนบทมาจาการอพยพครั้งใหญ่ของชาวแอฟริกันอเมริกันจากชยบทางตอนใต้ไปยังเขตเมื้องทางตอนเหนือ จากไม่เกิน 16,000 คนเป็น 1,000,000 คนในช่วงเปลี่ยนศตวรษที่ 21 ชาวแอฟริกันอเมริกันของมิชิแกนประมาณครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองดีทรอยต์ ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขารวมกันเปนมากกว่าสี่ในห้าของประชากร นอกจากนี้ยังมีชุมชส ชาวแอฟริกนอเมริกันจำนวนมากในละแวกเก่าและบริเวณใจกลางเมืองฟลินท์ และซากันอว์ อีกด้วย

         ประวัติศาสตร์ศาสนาของมาิชิแกนมีความแกต่างเล็น้อยจากรัฐอื่นๆ ลหายแห่งในมิคเวสต์ในชวงแรกๆ นิกายโรมันคาะอลิกเนื่องจากผุ้ตั้งถ่ินฐานชาวยุโรปกลุ่มแรกในดีทรอยต์เป็นโรมันคาธอลิกชาวฝรังเศสผู้ย้ายถ่ินฐานจำนวนมากที่มีความเชื่อดังกลาวจึงถุกดึงดูดมายังวเมือนี้ก่อนการอพยพของชาวไอริช อิตาลีและโปแลนด์จำนวนมากในศตวรรษทีค่ 19 ดีทรอยต์ได้รับการสภาปนาเป็นสังฆมณฑลในปี 1833 และเป็นอัครสังฆมณฑลในปี 1937 สังฆมณฑลอื่นๆ ได้รับการจัดต้งขึ้นในที่ต่างๆ อีก ห้าถึงหกที่ บรรดานิกายโปรเตสแตนต์ นิกายลูเทอแรนมีผุ้นับถือชาวเยรามันและสแกนดิเนเวียจำนวนมาก ในขณะที่นิกายเมธอดิสต์ มีความสำคัญทั้งในชนบทและมืเองของมิชิแกน ผุ้ตั้งถ่ินฐษนชาวดัตซ์กลุ่มแรกเป็นสมาชิกของคริสตจักรปฏิรูปคริสเตียน ซึ่งต่อต้านคริสตจักรของรัฐเนเธอร์แลนด์ คริสตจักรมิชิแกนเป็นอิสระอย่างมากจากคริตจักรดัตซ์ที่แยกตัวออกมานอกจากนี้ยังมีคริสตจักรเพรสไบทีเรียน แบ็บดิสต์ และเอพิสโกเปเลียน จำนวนมาก มิชิแกนมีนิกายโปรเตนแตนต์จำนวนมาก โดยบางนิกายมีสมาชิกเพียงเล็กน้อย

          ผุ้อพยพชาวยิง กลุ่มแรกสู่มิชิแกนทีพม้นเพเป็นชาวเยอรมัน ในปี 1851 ชาวยิวจากเมืองดีทรอยต์ได้ก่อตั้งโบสถ์ ยิวขึ้น โบสถ์ยิวทั่วทั้งรัฐสะท้อนถึงศาสนายิว ทุกรูปแบบ ประชากรอาหรับส่วนหนึ่งของรัฐเป็นชาวมุสลิมส่วนใหญ่นับถือ นิกายชีอะห์ อย่างไรก็ตาม ชาวอาหรับที่นับถือสาสนาคริสต์(ส่วนใหญ่) เป็นนิกายโรมันคาะอลิก มีจำนวนมากกว่าชาวอาหรับมุสลิมในภุมิภาคดีทรอยต์ 

         การตังถิ่นฐานในคาบสมุทรตอนบนส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เมืองใหญ่ได้แก่ ไอรอนวูด, ไอรอน เมาท์เทน, แฮนค็อค, ฮิวตัน, และมารร์คิวตี้ ซึ่งล้วนตั้งอยุ่ใกล้กับเมืองหรือท่าเรือ มือง เซลาท์ เซนต์ แมรี่ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในคาบสมุทรตอนบนทางตะวันออก มองเห็นคลอง โซว์ ล็อคส์ บนเส้นทางเดินเรือที่เชื่อระหว่างทะเลสาบฮูรอนกับทะเลสาบสุพีเรีย ทัวทั้งคาบสมุทร ประชาชนจำนวนมากประกอบอาชีพด้านป่าไม้

           
พลังทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์เชื่อมโยงส่วนตะวันออกของคาบสมุทรตอนบนกับคึ่งทางเหนือของคาบสมุทรตอนล่างเข้าด้วยกันเพื่อสร้างพื้นที่ที่เรยกว่ามิชิแกนตอนเหนือพื้นที่นี้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมป่าไม้ของรัฐมาช้านานป่าไม่จำนวนมากเป็นของรัฐบาลรัฐและรัฐบาลกลาง เมืองต่างๆ ทางตอนเหนือของมิชิแกนทำหน้าที่เป็นศุนย์กลางระดับภูมิภาค สำกรับนักท่องเที่ยวและเกษตรกร และมัเป็นสำนักงานใหญ่ของบริการรัฐบาลชุมชน ขนาดใหญ่หลายแห่งดุงดูดการผลิตขนาดเล็ ชุมชนอื่นๆ ทำหน้าที่เป็นทาเรืองที่สำคัญ 

         แม้ว่าพื้นที่ทางตอนเหนือของคาบสมุทรตอลล่างจะเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่มีผลผลิตสูงในบางพื้นที่ แต่ฐานรากทางการเกษตรที่แบข็.แกร่งและหลากหลาย ที่สุดของรัฐ อยุ่ทางใต้ของมิชิแกน ซึ่งเป็นพื้นที่ทางใต้ของเขตทางแยกด้านข้างระหว่างเบย์ซิตี้ และมัีสคีกอนนอกจากนี้ มิชิแกนตอนใต้ยังประกอบด้วยเมืองใหญ่และศูนย์กลางอุตสาหกรรมส่วนใหญของรัฐ เช่น ดีทรอยต์ หนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเขตชานเมืองหลายแห่ง 

         เศรษฐกิจของมิชิแกนซึ่งเดมที่มีพื้นฐานมาจากการเกษตรขนาดเล็ก กลายมาพึ่งพาการทำไม้และการทำเหมืองในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 การตัดไม่ในป่าสนขาว ชนาดใหญ่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วระหว่างปี 1830-1905 กระทังความอุดมสมบุร์ของป่าหมดลงเกือบหมดสิ้น เมือถึงปี 1980 เหมืองเหล็กและทองแดงได้เปิดดำเนินการในคาบสมุทรตอนบนทางตะวันตก ซึ่ช่ยสงเสริมการตั้งถ่ินฐานใหม่ในบริเวณนั้น ความก้าวหน้าด้านการขนส่งช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศราฐฏิจในช่วงเวลานี้ ในปี 1855 เขื่อซูแห่งแรกบนแม่น้ำเซนต์แมรีส์ สร้างเสร็จ ทำให้เรือน้ำลึกสามารถสัญจรระหว่างทะเลสาบสุพีเพรยและเกรดเลกส์อื่นๆได้

         ในทศวรรษที่สองของศตวรรษที่ 20 อุตสหกรรายานยนต์เร่ิมเข้ามาครอบงำเศรษณบกิจของมิชิแกนนับแต่นั้นมา มิชิแกนยังคงผูกติดกับโชคชะตาของบริษั่ทผลิตรถยนต์ แม้จะมีส่วนสนีบสนุนจากกิจกรรมการผลิตอื่นๆ การท่องเที่ยว และภาคเกษตรกรรมและป่าไม้ (แม้จะลดลง) การคว่ำบาตรน้ำมันในช่วงปลายทศวรรษปี 1970 ปรกอบกับการเพิ่ีมขึ้นอย่างมากของการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศและภาวะเศราฐกิจถอถอยของประเทศ ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในมิชิแกนระหว่งปี 1979-1982 ระดับการว่างงานของรัฐเพ่ิมสูวขึ้นอย่างร่วดเร็วและกลายเป็นระดับสุงสุดในประเทศ อุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นตัวเล็น้อยใสนข่วงสองทศวรรษถัดมาร แต่ก็ต้องประสบกับความสูญเสียงครั้งใหญ่เมือราคาน้ำมันพุ่งสุงขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯชะลอตัวในช่วงตนศตวรรษที่ 21 รัฐบาลและผุ้นำธุรกิจของมิชิแกนได้ริเริ่มโครงการเพื่อดขยายฐานการผลิตของรัฐ เพื่อดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีชั้นสุงใหม่ๆ แลเพื่อส่งเสริมภาคบริการของเศรษฐกิจ ดดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวและการศึกษา ซึ่งยังคงดำเนินไปได้ดี

         รัฐธรรมนูญมิชิแกนกำหนดให้มีฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลากรเช่ินเดียวกับรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ อำนาจบรเหารตกอยุ่กับผุ้ว่าการรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเวลาสี่ปี ผุ้ว่าการรัฐจะได้รับการเสนอชื่อโดยการเลือกต้งขึ้นต้น  แต่รองผุ้ว่าการรัฐจะได้รับการเสนอชื่อโดยการประชุมพรรค จากนั้นผุ้ว่าการรัฐและรองผุ้ว่าการรัฐจะได้รับเลือกโดยการเลือกตั้งดดยตรง คณะกรรมการบริหารที่ผุ้ว่าการรัฐแต่งตั้งนั้นรับผิดชอบต่อฝ่ายบริหารและคณะกรรมการที่ปรึกษาหลายคณะ บริการของรัฐบาลที่สำคัีญส่วนใหญ่จะรวมกันอยุ่ภายใต่แผนกที่รับผิดชอบต่อผุ้ว่าการรัฐ

         สภานิติบัญญัติของรัฐมิชิแกนประกอบด้วยวุฒิสภาซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้ง 38 คนซึ่งดำรงตำแหน่งวาระละ 4 ปี และสภาผุ้แทนราษำรซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับการเลือกตึ้ง 110 คนซึ่งดำรงตำแหน่งวาระละ2 ปี เขตเลือกตั้งของสภานิติบัญัติจะถูกกำหนดใหม่โดยคณะกรรมาะิการพิเศษหลังจากการสำรวจสำมะโนประชากรของรัฐบาลกลางแต่ละครั้งการแก้ไขรัฐะรรมนูญของรัฐสามารภส่งไปยังผุ้มีสิทธิเลือกตั้งได้โดยสภนิติบัญญัติหรือโดยการ ยื่นคำร้อง เพื่อขออนุมัติ แตก่การแก้ไขทั้งหมดจะต้งได้รับการอนุมัติจากากรลงประชามติของผุ้มีสิทธิเลือกตั้ง

        ศาลสุงสุดคือศาลฎีกาของรัฐซึ่งมีสมาชิก 7 คน หน่วยงานนี้ไม่เพียงแต่รับฟังคำอุทธรณ์จากศาลชั้นต้นเท่านั้น แต่ยังดุแลการดำเนินการของระบบศาลทั้งหมดด้วย ผุ้พิพากาษาศาลำีกาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง 8 ปี  ศาลชั้น่างประกอบด้วยศาลอุทธรณ์ ศาลยุติะรรม ศาลมรดก และศาลที่มีเขตอำนาจศาลจำกัดซึ่งกำหนดโดยฝ่ายนิติบัญญัติ

         รัฐมิชิแกนมีหน่วยงานของรัฐบาลท้องถ่ินหลายพันแห่ง รวมถึงเขตเทศบาล เมือง ตำบล หมุ่บ้าน เขตดรงเรียน และเขตพิเศษ เช่นหน่วยงานสวนสาธารณะ แม้ว่าเขตเทศบาลส่วนใหย๋จะอยู่ภายใต้การบิรหาร


ของคณะกรรมการกำกับดุแล แต่เอกสิทธิการปกครองตนเองช่วยให้เขตเทศบาลได้ นอกจากนี้ เมืองต่าง ๆังได้รับเอกสิทธิการปกครองตนเองอย่างกว้างขวางอีกด้วย เขตเทศบาลจะจำแนกตามจำนวนประชากร และได้รับเอกสิทะิของรัฐบาลที่แตกต่างกันออกไป

        เขตเลือกตั้งเป็นหน่วยหลักของ องค์กร พรรคการเมือง และผุ้แทรจากเขตเลือกตั้งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประชุมประจำปีของพรรค ซึ่งผุ้สมัครจะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหนงรองผุ้วาการรัฐอัยการสุงสุด และเชขาธิการรัฐ รวมถึงตำแหน่งในคณะกรรมการที่ควบคุมระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษา ของรัฐ และคณะกรรมการการศึกาาระดับรัฐผุ้พิพากษา ศาลฎีกาจะได้รับการเสนอชื่อโดยใช้บัตรลงคะแนนเพื่อเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของประธานาะิบดีระดับประเทศอีกด้วย

        สหภาพแรงงานมีบทบาทอย่างมากในแวดวงการเมืองของรัฐมิชิแกน และสหภาพแรงงานรถยนต์แห่งสหรัฐอเมริกายังรับรองผุ้สมัครในระดับเทศลาล ระดับรับ และระดับประเทศอีกด้วยความสนใจทางการะมือ ของคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันได้รับการกรุ้นจากชบวนการสิทะิพลเมืองในกลางศตวรรษที่ 20 และกลุ่มสิทะิพลเมืองยังคงปลูกฝังความตระหนักทางการเมืองในหมุ่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผวิดำ ต่อไปโคลแมนยังได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีชาวแอฟริกันอเมิรกันคนแรกของเมืองดีทรอยต์ในปี 1973 

 ในระดับรัฐพรรครีพัลลิกัมีอำนาจเหนือกว่าในช่วงเวลาส่วนใหญ่ตั้งแต่สงครามกลางเมืองเอมริกา กระทั่งเกิดภาวะเศราฐกิจตกต่ำครั้งใหย๋เมือรัฐกลายเป็น ไสมรภูมิรบ" หรือรัฐ "ชิงชัย" ตังแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 พรรคทั้งเดโมแครตและรีพัลลิกันต่างก็มีอำนาจควบคุมผุ้วา่าการรัฐและสภานิติบัญญํติเป็นระยะๆ ในทำนองเดียวกัน ในการเมืองตำแนห่งประะานาธิบดี รบก็เอียงไปทางแต่ละพรรคในช่วงเวลาต่างกัน ตัวอย่างเช่น พรรครีพัลิกันชนะในรัฐนี้ในปี 1948 1952 และ 1960 แต่จากนั้นพรรคเดโแมครตก็ชนะการเข่งขันอีกสามครั้งถัดมา ตั้งแต่ปี 1972-1988 ผุ้สมัครชิงตำแนห่งประะานาธิบดีของพรรครีพับลิกันกวาดชัยชนะในมิชิแกนในการเลือกตั้งทุกครง แม้ว่าหลังจากนั้นพรรคเดโมแครตจะเร่ิมแซงหน้าพรรครีพัลลิกันก็ตาม

        เจนนิเฟอร์ มิลเฮิร์น แกรนดอล์ม ซึ่งเป็นสมชิกพรรคเดโมแครต กลายเป็นผุ้ว่าการรัฐมิชิแกนหญิงคนแรกในปี 2002 (ดำรงตำแนห่งระหว่างปี 2003-2011)ฆ ก่อนหน้านี่เธอเคยดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของรัฐ(199-2003) ทให้เธอกลายเป็นผุ้หญิงคนแรกของรัฐที่ดำรงตำแหน่งทั้งสองตำแหน่ง

        https://www.britannica.com/place/Michigan/Government-and-society

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567

Harris fortify and enervate in Wisconsin

           ใน 44 รัฐ พรรคการเมืองหนึ่งควบคุมสำนักงานบริหารระดับสุงของรัฐนั้นๆ ได้แก่ ผุ้ว่การ อัยการ
สูงสุด และเลขาธิการรัฐ ซึ่งเรียกว่าหน่วยงานบริหารสามชั้นของรัฐ ซึ่งเพ่ิมขึ้นจาก 30 รัฐที่มีหน่วยงานบริหารสามชั้นในปี 2010 

           จาก 44 รัฐดังกล่าว มี 24 รัฐที่มีระบบทริเล็กซ์ของรัฐบาลพรรครีพัลลิกันส่วนพรรคเดโมแครตมี 20 รัฐ ตัวเลขทั้งสองนี้แสดงถึงจำนวนทริเพล็กซ์ที่มากที่สุดของพรรคการเมืองทั้งสองตั้งแต่ เร่ิมติดตามข้อมูลในปี 2010 รัฐทั้ง 6 แห่งมีการแบ่งฝ่ายบริหารระดัีบรัญ ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดนับต้งแต่ปี 2010 

          ในรัฐที่ผุ้ว่าการรัฐแต่งตั้งอัยการสุงสุดหรือเลขาธิการรัฐ "เซนเจอร์ นิวส์" จะถือว่าพรราคการเมืองของผู้ว่าการรัฐดำรงตำแหน่งดังกล่วจนกว่าผุ้วาการรัฐจะแต่งตั้งบุคคลุใดบุคลลหนึ่งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว หากรัฐใดรัฐหนึ่งไม่มีสำนักงานสามตำแหน่งครบทั้งสามตำแหน่ง "เซนเจอร์ นิวส์" จะถือว่ารัฐนั้นเป็นสำนังานสามตำแหน่งหากพรรคการเมืองหนึ่งควบคุมำนักงานสามตำแหน่งทั้งสองตำแหน่งในรัฐนั้น

          ในปี 2011 และ 2012 พรรครีพัลลิกันครองที่น่งในสภาผุ้แทนราษฎรระดัรัฐ 23 แห่ง ซึ่งต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2023 เพียงแห่งเดียว ในปี 2019 และ 2020 พรรคเดโมแครตครองที่นั่งในสภาผุ้แทนราษฎรระดับรัฐ 17 แห่ง ซึ่งต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2023 เพียงสามแห่ง

         พรรครีพับลิกันมีการเพ่ิมจำนวนทริเพล็กซ์ของรัฐบาลสุูงสุดตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2011 ในปี 2010 พรรครีพับลิกันมีทริเพล็กซ์ 13 แห่งและเพ่ิ่มจำนวนเป็น 23 แห่ง ในปีถัดมา การเพ่ิมขึ้นสุทะิสูงสุดของพรรคเดโมแครตเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งปี 2018 เมื่อพวกเขาเพ่ิ่มจาก 12 แห่งในปี 2018 เป็น 17 แห่งในปี 2019 

          หลังการเลือกต้งปี 2022 พรรคเดโมแครตได้สามเท่าในแมริแลนด์และเมศซาซูเซตส์ และพรรครีพัลลิกันได้รบสามเท่านไอโอวา ในเดือนมกราคม 2023 ผุ้ว่าการรัฐ จอช ชาปิโร(พรรคเดโมแครต) เสนอชื่อ อัล ชมิดท์ (พรรครีพับลิกัน) ให้เป็นเลขาะิการเครือจักรภพ ซึ่งทำให้เพนซิลเวเนยเปลี่ยนจากพรรคเดโมแครตสามเท่าเป็นรัฐบาลที่แบ่งแยก 

  รัฐ 3 แห่ง ได้แก่ เคนตักกี้ หลุยเซียน่า และมิสซิสซิปปี้ จะจัดการเลือกตั้งผุ้บริหารระดับรัฐในปี 2023 โดยมิสซิสซิปปี้เป็นพรรครีัพลิกัน 3 พรรคที่มีสมาชิก 3 คนและเคนตักกี้กับหลุยเซียน่าต่างก็แย่งกันควบคุมตำแหนงเหล่านี้ 

        รัฐวิสคอนซินมีพรรคเดโแมคตสามพรรคและพรรรีพัลลิกันสามพรรคที่แย่งแยกอำนาจกัน พรรคเดโแมครตควบคุมตำแหน่งผ้ว่าการัฐ เลขาธิการรัฐ และอัยการสูงสุด สวนพรรครีพัลิกัควบคุมสภารนิติบัญญํติของรัฐทั้งสองสภา

        ณ วันที่ 18 กันยายน 2024 ไม่มีพรรคการเมืองใดครองการควบคุมทั้งสมพรรค คำว่า "รัฐบาลสามรัฐ" เป็นคำที่ใช้เรียกเมือพรรคการเมืองหนึ่งครองเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติของรัฐทั้งสองสภาและในสำนักงานผุ้ว่าการรัฐคำว่า "รัฐบาลสามรัฐ" เป็นคำที่ใชข้เรียกเมืองพรรคการเมืองหนึ่งครองตำแหน่งสามตำปน่งต่อไปนี้ในรัฐบาลของรัฐ คือ ผุ้ว่าการรัฐ อัยการสูงสุด และ เลขาธิการพรรค

        ในขณะที่พรรคได้เฉลิมฉลองให้กับเธอในคือวันอังคารที่ ชิคาโก รองประะานาธิบดีได้เข้าร่วมงาน "ไฟเซร์ฟ ฟอร์รัม" ซึ่งประกอบด้วยผุ้สนับสนุนมากว่า 15,000 คน นับเป็นการปรากฎตัวครั้งสามของเธอในวิสคอนซิน ตั้งแต่เร่ิมหาเสียงเมือเดือนก่อน ซึ่งไม่ใชื่เรื่องบังเอญที่เธอได้เข้าร่วในเวทีเดียวกันกับที่บรรดาผุ้แทนพรรครีพับลิกันใช้เป็นสภานที่จัดการประชุมใหญ่ของพรรคในเดือนกรกฎาคม 

         การตัดสินใจของกลุ่มหาเสียงที่จะจัดการชุมนุมในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ในเมืองมิลวอกีระหว่างการ


ประชุมใหญ่ของพรรคในชิคาโก ที่อยุ่ใกล้เคียง แสดงให้เห็นว่าวิสคอนซินยังคงมีความสำคัญเพียงในในเส้นทามงของสุ่ทำเนียบขาวของพรรคเดโมแครต ความพ่ายแพ้ในปี 2016 ของ ฮิลลารี คลินตันยังคงเป็นบทเรียนที่สำคัญ คลินตันแพ้การเลือกตั้งในรัฐอย่างหวุดหวิหลังจากไม่ได้หาเสียงที่นั่น ซึ่งเป็นความผิดพลากร้ายแรงที่แฮร์ริสไม่ต้องกาให้เกิดขึ้นซ้ำอีก แคมเปญหาเสียงของเธอต้องกาเสริมความแข็งแกร่งให้กับรัฐที่มีกำแพงสีน้ำเงิน ซึ่งรวมถึงรัฐนี้ที่ โจ ไบเดนเพิ่งพลิกกลับมาชนะเมื่อสี่ปีที่แล้ว 

           แฮร์ริส กำลงเผยแพร่เป้าหมายโดยละเอียดครังแรกของเธอสำหรับชนบทในอเมริกา เพื่อดึงดุดใจผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่พรรคได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมม้นมานานหลายทศวรรษ และผุ้ที่จะช่วยกำหนดผลการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน

         เอกสารฉบับใหม่นี้เป็นเอกสารที่แฮรริสได้เขียนไว้มากที่สุดในอาชีพการงานของเธอในการสรุปแนวทางในการกำหนดนดยบานสำหรับชุมชนชนบท และเอกสารดังกล่าวมีขึ้นในขณะ ทิม วอลซ์ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็ฯทูตพเศษเพื่อดูแลพื้นที่ชนบทของรัฐสมรภูมิในช่วงโค้งสุดท้าย มีกำหนดจะไปเยือนเมืองวอซ รัฐวิสคอนซิน ในวันศุกร์ที่จะถึง หรืออีก 2 วันข้างหน้าแฮร์ริส จะเดินทางไปยังเขตชนบทของรับเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นพื้นทีเสี่ยงภัยในวันศุกร์นี้เช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบุกโจมตีพื้นที่สมรภูมิในอีกไม่กี่วันข้างหน้า 

          เป็นส่วนหนึ่งขจองแผนงานกว้างๆ ของเธอ แคมเปญนี้สัญญาว่าจะลงทุนใหม่ในระดับรัฐบาลกลาง
จำนวนมากสหรับชุมชนชยบทภายใต้การบนริหารของ แฮร์ริส-วอลซ์ และเตือนว่านดยบายของทรัมป์ "จะท้ิงชนบทในอเมริกาไว้ข้างหลัง" 

         โครงร่างใหม๋ของแคมเปญเกี่ยวกับชนบท่ยังให้คำมั่นที่จะขยายขอบเขตโปรแกรมต่างๆ เืพ่อดช่วยให้ชุมชนชนบทเข้าถึงเงินทุนของรัฐบาลกลางได้ ขณะเดียกันก็ขยายขอบเขตการจัดหาเงินทุนสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและความช่วยเหลืออื่นๆ นอกจากนี้ ยังพยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์อันจำกัดของแฮร์ริสกับภาคเกษตรและผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในเมืองเล็กๆ โดยเอกสารระบุว่าทั้งเธอและวอลซ์ต่างก็มาากรัฐที่มีการผลิตทางการเกษตรสุง และ "ชุมชนในชนบทมีความสำคัญต่อความสำเร็จและลักษณะนิสัยของประเทศของเรา" แอร์ริสยังไม่ได้เผยแพร่นดยบายฉบีบสมบูรณ์สำหรับชุมชนในชนบท เนื่องจากพรรคเดโมแครตบางส่วนกำลังกดดันให้แคมเปญดำเนินการ

        แคมเปญของเธอกล่่าวว่าเอกาสารฉบับใหม่นี้ไม่ใช่แผนนดยบายใหม่ทั้งหมดสำหรับชนบทในอเมริกา แต่เป็นส่วนหนึ่งของควาพยายามจัดตะเบียบชนบทอย่างเข้มข้นของพวกเขา

        รายลเอียดเล็กๆ น้อยๆ เลห่านนี้จาแคมเปญหาเสียงของแฮร์ริสมีความสำคัญมาก แฮร์ริสซึ่งเพ่ิงจ้างผุ้อำนวยการฝ่ายการมีส่วร่วมในชนบทของแคมเปญหาเสียงของตนเองกำลังพยายามเอาชนะใจผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจและยังไม่มั่นใจ รวมถึงประชาชนที่มีแนวโน้มสนับสนุนพรรคเดโมแครตในพื้นที่ชนบทและเมืองเล็กๆ ที่อาจไม่เคยไปลงคะแนนเสียงในที่อื่น โดยการทำเช่นนี้ เธออาจลดคะแนนเสียงของทรัมป์ลงได้เล็กน้อยในรัฐสมรภูมิ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นการแข่งขันที่สูสีอย่างไม่น่าเชื้อ

           https://www.politico.com/news/2024/09/12/harris-rural-voters-strategy-00178936

           https://www.politico.com/news/2024/08/20/harris-dnc-milwaukee-wisconsin-democrats-00175251

           https://ballotpedia.org/Party_control_of_Wisconsin_state_government

         

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567

Kennedy Jr’s status in Wisconsin

         ชื่อของโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ จะยังคงอยุ่ในบัตรลงคะแนนเสียงในรัฐวิสคอนซิน ซึงเป็นรัฐ
สำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยผุ้พิพากาษได้มีคำตัดสินเมือวันจันทร์ที่ผ่านมา

        สตีเฟน เอห์ลเค ผุ้พิพกาษาศาลแขวงเคนเคาน์ตี้ ตัดสินว่า กฎหมาย วิสคอนซิน ระบุอย่างชัดเจนว่าผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่สงเอกสารเสนอชื่อจะไม่สามารถถูกถอดออกจาบัตรลงคะแนนได้ เว้นแต่จะสเียชีวติ ทีมหาเสียงของเคนเนดีส่งเอกสารเสนอชื่อก่อนกำหนดเส้นตายของรัฐในวันที่ 6 สิงหาคม "กฎหายนั้นชัดเจนอยู่แล้ว" เอลค์กล่าว และเพิ่มเติมในภายหลังว่า "นายเคนเนดีไม่มีใครจะต้องตำปนิออกจาอตัวเขาเองหากเขาไม่ต้องการอยุ่ในบัตรลงคะแนน" 

         เวลาของเคนเนดี้ใกล้หมดแล้วที่จะต้องนำขื่อของเขาออกจากบัตรลงคะแนนเสยงของวิสคอนซิน เจาหน้าที่สำนักงานเขตต้องพิมพ์บัตรลงคะแนนเสียงและแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถ่ินมากกว่า 1,800 คนในเมือ งเมืองเล็ก และหมู่้านที่ดำเนินการเลือตังในวันพุธ

         เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคนเนดีได้ของให้ศาลอุทธรณ์ของรัฐพิจารณาคดีนี้ ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่วันก่อนที่เอลค์จะออกคำตัดสิน ศาลอุทธรณ์เขตที่สองกำลังรอคำตัดสินของเอลค์ก่อนที่จะตัดสินในจว่าจะรับพิจารณาคดีนี้หรือไม่

          คณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐวิสคอนซินลงมติด้วยคะแนนเสียง 5  ต่อ 1 เมือต้นเดือนนี้เพื่อนุมัติชื่อของเคนเนดีสำหรับการลงคะแนนเสียงหลัีงจากที่คณะกรรมการของพรรครีพับลิกันพยายามถอดเขาออกแต่ไม่สำเร็จ คณะกรรมการได้กลาวถึคงกฎหมายที่ป้องกันไม่ให้ผุ้สมัครถอนตัวออกจากการลงคะแนนเสียงเว้นแต่จะถูกประหารชีวิต

         การปรากฎตัวของผุ้สมัครอิสระและจากบุคคลภายนอกในบัติลงคะแนนอาจเป็นปัจจัยสำคัญในวิสคอนซิน ซึ่งการเลือกต้งประะานาธิบดี 4 ครั้ง จาก 6 ครั้งที่ผ่านมามีการตัดสินด้วยคะแนนเสียงระหว่าง 5,700-23,000 คะแนน

        ในปี 2016 จิลล์ สไตน์ ผุ้ได้รัการเสนอชื่อจากพรรคกรีนได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 31,000 คะแนนในวิสคอนซิน ซึ่งมากกว่าคะแนนเสียงของทรัมป์เกือบ 23,000 คะแนนเล็กน้อย พรรคเดโมคแครตบางคน หล่าวโทษเธอว่า ช่วยให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในรัฐและได้เป็นประธานาธิบดีในปีนั้น

        เคนเนดี ระงับการหาเสียงในเดือนสิงหาคมและสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ ผุ้สมัครจากพรรครีพับลิกัน เดคนเนดี้ กล่าวว่าเขาจะพยายามลบชื่อออกจาบัตรลงคแนนในรัฐที่เป็นสมรภูมิ ขณะเดียวกันก็บอกผุ้สนับสุนนของเขาวาพวกเขาสามารรถสนับสนุนเขาต่อไปในรัฐส่วนใหญ่ที่ไม่น่าจะเปลี่ยนผลการเลือกตั้งได้

ต้นเดือนนี้ เคนเนดี้ได้รับคำสั่งศาลในรัฐนอร์ทแคโรไลนาให้ลบชื่อของเขาออกจากบัตรลงคะแนนเสียงที่นั่น เคนเนดี้ยื่อนฟ้องเมือวันที่ 3 กันยายา เพื่อพยายามลบชื่อของเขาออกจากบัตรลงคะแนนเสียงในรัฐวิสคอนซิน โดยให้เหตุผลว่าผุ้สมัครจากพรรคที่สามถูกเลือกปฏิบัติเน่องจากฎหมายของรัฐปฏิบัติต่อผุ้สมัครจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโแมครตที่ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีแตกต่างกัน

         พรรครีพัลิกันและเดโแมครตมีเวลาจนถึง 17.00 น. ของวันอังคารแรกของเดือนกันยายนก่อนการเลือกต้งเพื่อรับรองผุ้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประะานาธิบดี ผุ้สมัตรอิสระ เช่น เคนเดี สามารถถอนตัวได้ก่อนกำหนดเส้นตายในการสงเอกสารการเสนอชื่อในวันที่ 6 สิงหาคมนั้น

          ผุ้พิพากษา สตีเผน เอห์ลเค หล่าว่าข้อโต้แย้งที่ว่าสทิะิของเคนเนดี้จะถูกละเมิดหากเขายังคงอยู่ในการเลือกตั้งนั้นมีน้ำหนักน้อยกว่าข้อกังวลด้านรัฐธนูญและกฎหมายของรัฐ และการร้องขอให้ติดสติกเกอร์บนชื่อของเขาแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยภายใต้กำหนดเวลาที่มีอยุ่

        ทนายความของเคนเนดีกล่าวว่าเขาจะอุทธรณืคำตัดสิน ขณะเดียกัน สถานะของเคนเนดีในวิสคอนซิยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาลอุทธร์ที่เมืองวอเคซาผุ้พิพากาาในคดีดังกล่าวได้เลือนการตัดสินออกไปจนกว่าเอลต์จะตัดสิน 

          โฆษกของคณะกรรมการเลือกตั้งกล่าวว่า เจ้าหน้าที่บางส่วนได้ส่งบัติลงคะแนนล่วงหน้าก่อนกำหนดเส้นตายแล้ว เคนเนดีปฎิบัติตามกำหนดเส้นตายวันที่ 6 สิงหาคม ในการส่งเอกสารเพื่อปรากฎบนลัตรลงคะแนนของรัฐวิสคอนซินในฐานะผุ้สมัตรอิสระ แต่ถอนตัวออกไปในไม่กี่สัปดาห์ต่อมาและให้การสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์

         ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาได้ดำเนินการล็อบบี้เพื่อเอาชื่อของเขาออกจาบัตรลงคะแนนในวิสคอนซินและับสำคัญอื่นๆ พร้อมแสดงความกังวลว่าการที่เขาเข้าร่วมการเลือกตึั้งจะทำให้คะแนนเสียงของพรรครีพัลลิกัลดลง

         ความพยายามของเขาในวิสคอนซินไม่ประสบผลสำเร็จโดยคณะกรรมการเลือกตั้งวิสคอนซินตัดสินว่ากฎหมายของรับระบุว่าผุ้สมัครคนใดก็ตามที่ยื่นเอกสารการเสนอชื่อสำเร็จ และพบว่ามีคุณสมบัติไม่สามารถปฏิเสธทีจะลงสมัครในภายหลังได้

          คณะกรรมการกล่าวว่าข้อยกเว้นคือหากผุ้สมัครเสยชีวิตก่อนวันเลือกตั้งในบางกรณี ชื่อของผุ้สมัครอาจถูกปิดทับด้วยสติกเกอร์ทนายความของเคนเนดีโต้แย้งเมือวันจันทร์ว่าเจ้าหน้าที่ควรได้รับอนุญาตให้ติดสติกเกอร์ทับชื่อขปงเคนเนดีใลักษณะเดียวกัน

          ระหว่างการโต้เยงสั้นๆ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันสตีเวน คิดลแพทริก ผุ้ช่วยอัยการสูงสุดปรากฎตัวในนามของคณะกรรมการการเลือกตั้วิสคอนซิน และกล่าวว่าภาระในการติดสติกเกอร์นั้นมีมาก

         เคนเนดี้ พยายามลบชื่อของเขาออกจาบัตตลงคะแนนในรัฐสำคัญหลายแห่ง โดยแสดงความกังวล ว่าการปรากฎตัวของเขาอาจทำให้ทัมป์เสยคะแนนเสียง นอกจากนี้ เขายังขื่น คำร้องเพื่อบลชื่อของเขาออก จากบัตรลงคะแนนในรัฐสำคัญ อื่นๆ เช่น จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย ซึงความพยายามดังกล่าวประสบความสำเร็จในรัฐ เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย

         https://www.wpr.org/news/robert-f-kennedy-rfk-jr-wisconsin-ballot-dane-county-ruling

         https://www.theguardian.com/us-news/2024/sep/16/wisconsin-rfk-jr-ballot-judge-ruling 


วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567

Wisconsin

             ประมาณเก้าในสิบของประชากรของรัฐวิสคอนซินมีต้นกำเนินจากยุโรปตอนเหนือ ผุ้ที่มีเชื้อสาย
เยอรมันมีจำนวนมาก รองลงมาคือชาวไอริช โปลเแลนด์ สแกนดิเนเวีย(ส่วนใหญ่เป็นชาวนอร์เวย์) และอังกฤษ ผุ้ที่มีเชื้อสายเยอรมันกระจายอยุ่ทัวไปแต่กระจุกตัวอยุ่ทางตะวันออกและในมิลวอกีกลุ่มชาวไอริชพบส่วนใหญ่ในเบลอยต์ ฟอนดุแล็ก และสเตอร์เจียนแบย์ ชุมชนชาวโปแลนด์ ในวิสคอนซินมีขนาดใหญ่แต่กรุจุกตัวอยุ่ในบริเวณมิลวอกี และสตีเวนส์พอยต์ เป็นหลัก ชาวอเมริกันเชื้อสายนอร์เวย์มีจำนวนมากว่าทางตะวันตกและใต้ชาวอเมริกันเชื้อสายสวีเดนมีจำนวนมากกว่าทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือ และผุ้ที่มีเชื้อสายฟินแลนด์ อยุ่ในเขตทางเหนือสุดใกล้กับทะเลสาบสุพีเรีย ชุมชนชาวไอซืแลนด์ ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ต้ั้งอยู่บนเกาะวอชิงตัน ซึ่งอยุ่ปลายสุดของเขต ดอร ชุมชนชาวเบลเยียมตั้งอยุ่ใหล้กับกรีนเบย์ และชุมชนชาวเดนมาร์กตั้งอยุ่ใน ราซีน ชาวเวียดนาม กัมพูชา ลาว และโดยเฉพาะชาวม้ง (กลุ่มชาติพันธู์ส่วนน้อยจากลาว) จำนวนมากเข้ามาตั้งถ่ินฐานในรัฐในฐานะผุ้ลี้ภัยจากสงครามเวียดนาม ในความเป็นจริง วิสคอนซิน มีประชุากรชาวม้งมากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ

          อเมริกาแอฟริกัน เป็นชนกลุ่มน้อยท่ใหญ่ที่สุดในวิสคอนซินคิดเป็นประมาณร้อยละ 6 ของประชากร พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองริมทะเลสาบทางตะวันออกฌฉียงใต้เป็นหลัก มากว่าสี่ในห้าของพวกเขาอาศัยอยู่นเมืองมิลวอกี ซึ่งพวกเขาคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมด ประชากรกลุ่มฮิสแปนิก คิดเป็นประมาณร้อยละ 5 ของประชากรทั้งรัฐ และมีจำนวนเพื่ิมขึ้นรวดเร้ซที่สุดในเขตทางตะวันออกเฉียงใต้

         ชนพื้นเมืองอเมริกันมีสัดส่วนน้อยกว่างร้อยละ 1 ของประชากร หลายคนอาศัยอยู่ในบริเวณเมืองมิลวอกี แต่ส่วนใหญ๋ตั้งถ่เนฐานอยู่ในเขตสงวนชขนาดใหญ่ทางตอนเหนือหรือทางใต้ วิสคอนซิน มีเขตสงวนของ ชนพื้นเมืองอเมริกัน 11 แห่ง ซึ่งเป็นเขตสงวนที่มีจำนวนมากที่สุดทาตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้

         ผุ้อพยพของวิสคอนซินนไ ความเชือ่ทางศาสนา ที่หลากหลายมาสุ่รัฐ ชาวนอร์เวย์ส่วนใหญ๋เป็นลูเทอแรน ชาวเยอรมันท้ั่งลูเทอแรนและดรมันคาธอลิกและชาวโปแลนด์โรมันคาธอลิก ผุ้ที่ย้ายถ่ินฐนมาจากทางต้และตะวันออก ของสหรัฐฯ มักจะเป็นโปรเตสแตนต์ที่ไม่ใช่ลูเทอแรนความหลากหลายนี้ยังคงมีอยุ่มากในรัฐ และผุ้เข้าโบสถ์๋แบ่งออกเกือบเท่าๆ กันในกลุ่มศาสนาเหล่านี้ นอกจกนี้ยังมี ชุมชน ชาวยิว มุสลิม และพุทธขนาดเล็กโดยส่วนใหญ๋อยุ่ในเมืองใหย๋ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 จำนวนประชากร ชาว อมิช จำนวนมากอพยพมาจาก เพนซิลเวนีย เพื่อซื้อที่ดินราคาถุกสำหรับครอบครัวที่ทำฟาร์มซึ่งมีจำนวนเพ่ิมมากขึ้นชุมชน อะมิช มากกว่า 30 แห่งในวิสคอนซินส่วนใหญ่ตึ้งอยุ่ในพื้นที่ีตอนกลาง ตะวันตกและตะวันตกของรัฐ

         เมืองที่มีประชากรน้อยกว่า 1,000 คนกระจายอยุ่ทั่วทั้งรัฐ แต่ชาววิสคอนซินประมาณสองในสามอาศัยอยุ่ในเขตเมือง คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยุ่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผุ้อพยพจากทางตะวันออกเข้ามาตั้งถ่ินฐานเป็นกลุ่มแรก ที่นั่นพวกเขาพบว่าดินและสภาพอากาศเอื้ออำนวนต่อการเกษตร ผุ้ที่ย้ายถ่ิอนฐานไปไกลกว่านั้นเพื่อสแวงหาพื้นที่เกษตรกรรม ในที่สุดก็กระจายตัวออกไปค่อนข้างสม่ำเสมอ ยกเว้นในพื้นทีางตอนใต้ของที่ราบภาคกลางและไฮแลนด์ตอนเหนือ ซึ่งดินที่อุดมสมบูรณ์เหรือชื้นแฮะและฤดูเพาะปลูก ที่สั้นทำให้การตั้งถ่ินฐานไม่เือ้อำนวน รัฐมีเมืองใหย๋เพียงเมืองเดียวคือมิลวอกี

         
 วิสคอนซินไม่มีการขุเหล็กอีต่อไป แต่แร่ที่ไม่ใช่ดลหะ ได้แก่ ทราย กรวด ซีเมนต์ และหินปุน มีการค้นพบแหล่งสังกะสีและทองแดงในวิสคอนซินตอนเหนือในปี 1976 แต่ยังไม่มีการขุดอย่างกว้างขวาง ในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 19 การทำเหมืองตะกั่วแพร่หลายในวิสตคอนซินตะวันตกเฉียงใต้ และนักขุด (ซึ่หลายคนสืบเชบื้อสายมาจากคอร์นิซ) ที่ขุดแอ่งน้ำเหมือนแบดเจอร์ในเนินเขาเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัย เป็นผุ้ที่ทีำให้วิสคอนซินได้รับแายาว่ารัฐ "แบอเจอร์" 

         พลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ของรัฐผลิตขึ้นจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง แม้ว่าจะมีการผลิตจำนวนมาในดรงงานนิวเคลียร์สามแห่งของรัฐก็ตามมี ดนงๆฟฟ้าพลังน้ำ หลายแ่หง บนแม่น้ำวิสคอนซิน การผลิตไบโอดีเซลเพ่ิมขึ้นตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 2000  โดยมีดรงงานหลายแห่งทีั่วทั้รัฐผลิตไบโอดีเซลดดยใช้นำ้มันจากคาดลาข้าวโพด ถั่วเหลือ แฟลกซ์ และทานตะวัน

            การผลิตส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกัยการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวถึงการผลิตสินค้าดลหะและผลิตภัณฑ์จากป่า ไส้กรอกหลายปรเภทผลิตและขายในท้องถ่ิน ประมาณเจ็ดในสิบส่วนของนม ของรัฐ ถุกแปรรูปเป็นชีส(หนึ่งในหกของทั้งหมดในสหรัฐฯ)รวมถึงเชดดาร์และชีสสวิส ซึ่งส่วนใหญ่ยัวคงผลิตในนิคมของสวิสรอบๆ นิวกลารัส วิสคอนซิลผลิตพืชผลพิเศษของสหรัฐฯ ประมาณร้อยละ 5 เช่น ยาสุบและโสม (ส่งออกส่วนใหญ่ไปยังจีน) และแปรรูปผักรวมทั้งหัวไชเท้า กะหล่ำปลี(สำหรับชาวเคราตค์) และถั่วหวาน และการต้มเบียร์ เบียร์ในรัฐนี้เร่ิมต้นโดยผุ้อพยพชาวเยอรมันในข่ววทศวรรษที่ 1830 เมืองมิววอกี้ กลายเป็นบ้านของโรงเบียร์ชื่อดังอย่่าง มิลเลอร์ แพบส์ท สชลิทซ์ และ บลาทซ์ และในช่วงศตวรรษ?ี่ 19 เมืองนี้ได้รับสมญานามว่า เป็นเมืองหลวงแห่งเบียร์ของโลก 

          ชุมชุนในวิสคอนซิลแทบทุกแห่งมีโรงเบียร์ อย่างน้อยหนึ่งแห่ง ในช่งงทศวรรษที่ 1980 การผลิตลดลง และในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ดรงเบียร์ก็ลดลงเช่น  มิลเลอร์  บริวิง คอมปานี เป็นโรงเบียร์ขนาดใหญ่แห่งเดียวที่เหลบืออยุ่ในเมือง ดดรงเบียร์ขนาดเล็กที่เน้นชุมชนจำนวนหนึ่งทีเคยโดดเด่นทั่วทั้งรัฐ สามารถอยู่รอดมาได้เนืองจาก การตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม นอกจากนั้น มรดกทางวัฒนะรรมแันแข็งแกร่งของชาวเยอรมันซึ่งเป็นสาเหตุของกาก่อตั้งโรงเบียร์จำนวนมากยังคงทำให้วิสคอนซินเป็นหนึ่งในรัฐที่บริโภคเบียร์มากที่สุดของประเทศ

           รัฐธรรมนูญฉบับแรกของวิสคอนซินได้รับการรับรองในปี 1848 เมือรัฐร่วมสหภาพ และยังคงปกครองรัฐอยุ่ การแก้ไขเพ่ิมเติมต้องผ่านสภานิติบัญญัติสนองสภาติดต่ีอกันและได้รับการอนุมัติโดยการลงประชมติ สภานิติบัญญัติประกอบด้วยวุฒิสภา 33 คนซึค่งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสี่ปีและสภนิติบัญญํติ 99 คนซึ่งดำรงตำแหน่งสองปี เจ้าหน้าที่ ตามรัฐะรรมนูญ ซึ่งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสีปีไม่จำกัดตั้งแต่ปี 1970 ได้แก่ ผุ้ว่การรัฐ รองผุ้ว่าการรัฐ อัยการสูงสุด เลขาธิการรัฐ เลขาะิการกระทรวงการคลัง และผุ้ตรวจการโรงเรียนของรัฐ

          ศาลฎีกาเป็นศาลอุทธรณ์เป็นหลัก ประกอบด้วยผุ้พิพากษา เจ็ดคน ซึ่งได้รับการเลือตก้งจากทั่วทั้งรัฐให้ดำรงตำแนห่งบคราวละ 10 ปี  นอกจานี้ รัฐบยังมีศาลอุทธรณ์และสาลแขวงที่มีเขตอำนาจศาลเดิม ผุ้พิพากษาศาลอุทธรณ์และศาลแขวงมีวระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี มีศาลเทศบาลประมาณ 200 แห่ง ทั่วทั้งรัฐ

        การปกครองท้องถ่ินประกอบด้วยเขตเทศบาล เมือง หมู่บ้าน และตำบล(เรียกว่าเมืองในวิสคอนซิล
เช่นเดียวกับในนิวอิงแลนด์ ซึ่งสะท้อนถึงอิทธิพลของผุ้ตั้งถ่ินฐานในนิวอิงแลนด์ยุคแรกที่มีต่อรัฐ) เขตเทศบาลซึ่งเป็นตัวแทนของทั้งรัฐและท้องถ่ิอนั้นอยู่ภายใต้การบิหารของคระกรรมการกำกับดุแลที่ได้รับการเลือกตั้ง ภายในเขตเทศบาลพื้นทีทั้งหมดที่ไม่เป็นส่วนหนึ่งเขตเทศบาลจะจัดเป็นเมืองซึ่งโดยปกติจะอยุ่ในชอบเขตเดียวกนกับตำบลของรัฐบาลในการประชุมประจำปีของเมือง ผุ้มีอสิทธิเลือกตั้งที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะตัดสินใจด้านนโยบายที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการเมืองที่มีสมาชิก 3 คน 

         การเลือกต้งตำแหน่งที่ไม่สังกัดพรรคการเองจะจัดขึ้นในฤดูบไม้ผลิ สวนการเลือกตั้ตตามพรรคการเืองจะจัดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง ดยดทั้งสองตำแนห่งนี้จะมีการเลือกตั้งขั้นต้นก่อน การเลือกตั้งแบบไม่สังกัดพรรคการเมืองจะประกอบไปด้วยผุ้ิพากษา ผุ้อำนวนการดรงเรียน สมาชิกคณะกรรมการโรงเรยน ผุ้ดูแลเขต และเจ้าหน้าที่เทศบาล หมุ่บ้านและเทศบาลเมือง ส่วนเจ้าหน้าที่เปิดหว้าง กล่วคือ บุคคลสามารถลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งข้นต้นของพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่งได้ โดยไม่คำนึงถึงสังกัดพรรคการเมืองเดิมหรือแผนการลงคะแนนเสียงของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไป

         ความขัดแย้งทางการเมืองของวิสคอนซิล เกิดขึ้นท่วรัฐอีรั้งในเดือน กุมภาพันธ์ 2011 เมื่อผุ้ประท้วงหลายหมื่อนคนมุ่งหน้าไปที่อาคารรัฐสภาเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อตอบโต้ต่อผุ้ว่าการรัฐพรรครีพัลิกันที่เพิ่่งได้รับการเลือกตั้ง ความพยายามของ สก็อตต์ วอล์กเกอร์ ในการตราพระราชบัญญัติที่จะขจัดสิทธิ ในการต่อรองร่วมกัน สำหรับพนักงานสาะารณะส่วนใหญ่ พรรครีพับลิกันโต้แย้งว่า มาตการดังกล่ามีความจำเป็นในการแ้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณของรัฐ ในขณะที่วุฒิสมาชิกรัฐจากพรรคเดโมแครตซึ่งาสมองว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นการ "ทำลายสหภาพแรงงาน" ได้โต้แย้งข้อเรียกร้องของพรรครีัพลิกันและแยกตัวออกจากรัฐเพื่อขัดขวางกฎหมายดังกลบ่าวดดยขัดขวางไม่ให้มีองค์ประชุม เมือวันที่ 9 มีนาคม วุฒสมาชิกรัฐจากพรรครีพับลิกันพบวิธีที่จะหลีกเลืี่ยงการไม่มีวุฒิสมาชิกรัฐจาพรรคเดโมแครตและผ่านกฎหมายดังกล่าวโดยไม่มีพวกเขา ผุ้ว่าการวอล์กเกอร์ได้ลงนามในกฎหมายดังกล่าวเป็ฯกฎหมายในอีสองวันต่อมา ผุ้พิพากษา ศาลแขวได้ตัดสินให้กฎหมายดังกบล่ายเป็นโมฆะ โดยให้เหตุผลว่า สมาชิกสภานิติบัญญตัิละเมิดกฎหมายการประชุมแบบเปิดเผยของรัฐในการเร่งรีบผ่านกฎหมายดังกลาาว แต่ศาลฎีกาของรัฐได้พลิกคำตัดสินดังกล่าวเมือง มิถุนายน 2011

        ความโกระแค้นที่เกิดจาก ากรโต้เถียงกัน ระหว่งพรรคการเมืองทำให้เกิดความขัดแย้งมากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดจขึ้นมาก่อนการลเือต้งถอดถอนจะจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปีนั้น ดดยมีเป้าหมายเืพ่อถอดถอน
วฒิสมาชิกรัฐเก้าคนออกจากตำแหน่งก่อนสิ้นวาระ วุฒิสมาชิดพรรครีพับลิกันหกคนอและเโมแครตสามคนถูกบังคับให้ปกป้องที่นั่งของตน เนืองจากคูแข่งได้รับโอากสลงแข่งขันกับผุ้ดำรงตำแหน่งอยู่ ในจำนวนวุฒิสมาชิกทังเก้าคน มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ถุกตัออกจากตำแหน่งหลังจากพ่ายแพ้ในการเลือตั้งถอดถอนอย่างไรก็ตราม พรรครพับลิกันคงรักษาเสียงข้างมากในวุฒิสภาของรัฐไวได้แม้ว่าเสียงข้างมากจะลดลงเหลือหนึ่งที่นั่งในปี 2012 มีการเลือตั้งถอดถอนเพ่ิมเติม ดดยมีเป้าหมายที่วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันหกคน ได้แก่ ผุ้ว่าการรัฐและรองุ้ว่าการรัฐรอดพ้นจากการถุกเรียกตัวกลับ และที่นั่งในวุฒิสภา 3 ใน 4 ที่นั่งยังคงได้รับการสนัยนสนุนจากพรรครีพับลิกัน 

        อย่างไรก็ตาม ผุ้ท้าชิงจากพรรคเดโแมครตคว้าชัยชนะไปได้อย่างหวุดหวิดในวุฒิสภา 1 ที่นั่ง เหตุการณ์นี้ทำให้ดุลอำนาจในวุฒสภาเปลี่ยนไปและเอื้อประโยชน์ต่อพรรคเดโแมครต การเลือกตั้งเพื่อถอดถอน ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกัรสนับสนุนสิทธิสหภาพแรงงาน ตลอดจนนดยบายของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันที่กว้างขึ้น ดึงดูดความสนใจจาทั่งประเทศ และกลุ่มผลประโยชน์นอกรัญต่างทุ่มเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ในการหาเสียงเพื่อถอดถอน

           ระบบการจัดต้งพรรคการเมืองมีอยู่ 2 ระบบ คือ ระบบตามกำหมาย และระบบสมัครใจ พรรคการเมืองที่สมัครใจแต่ละพรรคซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่จ่ายค่าะรรมเนียมสมาชิก จะจัดการประชุมพรรคการเมืองระดับรัฐและพัฒนานโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งจะได้รับรองอย่าเป็นทางการในการประชุมนโยบายของพรรคตามกฎหมาย...

            https://www.britannica.com/place/Wisconsin/Government-and-society

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...