วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Backpacker

         
แบกแพ็กเกอร์ ถ้าแยดตามคำ ตามความหมายด็หมายถึง คนที่บรรจุสิ่งของไวดานหลังซึ่งก็คือ กาแบกกระเป๋า หรือเป้นั่นเอง ดั้งเดิมริเร่ิมมาจากชาวต่างชาติเดินทางแบลกเป้ออกท่องเที่ยวแนวนี้ว่า "แบ็คแพ็คเกอร์" มาจนถึงปัจจุบัน สำหรับในเมืองไทย ก็ถือได้ว่าเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแบบ "แบ็กแพ็คเกอร์" เพราะเมืองไทยนั้นมีความปลอภัยสูง และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั่วไปสามารถพูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษซึ่งถือเป็นภาษาสากลได้คล่องแคล่ว จึงเป็นที่นิยมในการเดินทางมาของชาวต่างชาติ และในปัจจุบันวัยรุ่นชาวไทยนั้นได้เริ่มนิยมเดินทางแบบนี้กันมากขึ้น ด้วยเหตุผลทางด้านความเป็นส่วนตัวและความประหยัด
              จึงเป็นภาพที่เราได้เห็นนักท่องเที่ยวสะพายเป้ หรือที่เราเรียกว่า เป็นจำนวนมากขึ้น ตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย โดยนักท่องเทียวกลุ่มนี้ไม่ต้องการความสะดวกสบายนัก ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัว อย่างสิ้นเชิง
             แบ็กแพ็คเกอร์ยังแบ่งออกเป็น
             - กลุ่มนักท่องเที่ยวสะพายเป้ ที่เดินทางเพื่อค้นหาสถานที่ ท่องเที่ยวใหม่ๆ ด้วยตนเอง จะไม่ใช่คู้มือเดินทางท่องเที่ยว ในการเดินทางไม่มีการ เตรียมข้อมูลก่อนการเดินทาง และไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและงบประมาณเพราะจะทำงานระหว่างเดนทาง เพื่อทำเงนิมาใช้ใน การท่องเที่ยว
             - กลุ่มนักท่องเที่ยวสะพายเป้ที่เดินทาง ดดยยึดคู่มือเดินทางท่องเที่ยว เป้ฯหลัก มีการศึกษาข้อมูลแต่ละประเทศลวงหน้า เลือกท่องเที่ยวไปยังสถานที่มีชื่อเสียงให้ได้มากที่สุด มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ และเวลาดดยสามารถเดินทางได้ไม่เกิน 3 เดือน หรือ 1 ปี
             - กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปที่เดินทางด้วยตนเอง ไม่พึ่งพา บริษัทนำเที่ยว มักมีการเตรียมแผนการเดินทางล่วงหน้า และมีระยะเวลาเดินทางจำกัด 2-3 สัปดาห์
             จุดเด่นของการท่องเที่ยว ในประเทศไทย เมื่อเปรียบเที่ยบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียมีกลุ่มนักท่องเที่ยวสะพายเป้ประทับใจ นอกจากจะเป้นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว อาหารไทยยังเป็นส่ิงที่นักท่อง
เที่ยว กลุ่มนี้มองว่ เป้นประสบการณ์แปลกใหม่ ที่เพิ่่มสีสันในการเดินทาง
             หลังจากตัดสินใจเลือกที่หมายได้แล้ว เบื้องตนก็เป็นการจัดเตรียมกระเป๋าสัมภาระการจักระเป๋าสำคัญไม่น้อย แม้จะไม่สำคัญเท่าชีวิต แต่มันก็เป็นครึ่งบีวิตในการเดินทางhttps://pantip.com/topic/30599675
          ถนนข้าวสาร เป็นถนนในท่องทเี่แขวงตลาดยอดเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีระยะทางตั้งแต่ถนนจักรพงษ์ หน้าวัดชนะสงคราม ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต จนถึงถนนตะนาวใกล้สีแยกคอกวัว
              อเล็กซื การ์แลนด์ เจ้าของบทประพันธ์ เรื่อง "เดอะ บีช" เคยให้คำนิยามถนนสายนี้ ในรายการ บีบีซี- เรดิโอ วัน ไว้อย่างน่าสนใจว่า ไจะมีที่ไหนหนอที่มี คนสารพันชาติมารวมตัวกันที่นี้ ที่ถนนข้าสาร ถนนที่เพียบไปด้วยเรื่องเหลือเชื่อ เพราะที่นี่่คุณจะหาเทปผีจากวงดังวงไหนก็ได้ในโลก มีที่พักราคาถูก
              สำหรับเกสเฮ้าส์ ที่มีชื่อเสียงมาช้านานและเป็นที่รุ้จักของนักท่องเที่ยวประเภท "แบ็กแพ็คเกอร์"ต่างประเทศเป็นอย่งดีจะมีอยู่ไม่กี่แห่ง ได้แก่ "ท็อป เกสท์ เฮาซส์" ที่ตั้งอยู่ข้างตรอกสวัสดี และ บอนนี่ เกสท์ เฮาส์ ซึ่งเป็นเกสเฮ้าส์แห่งแรกของถนนข้าวสารที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เป็นที่รุ้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดียว ราคาค่าเช่าห้องค้าคือนตามเกสเฮ้าส์ต่างๆ จะถูกมาก ถูกกว่าไป
พักตามโรงแรมหรูๆ คือ ราคาค่าห้องเริ่มตั้งแต่ 100 บาทไปจนถึง 500-600 บาทต่อวัน แต่ก็จะอยุ่กันเป็นเดือนๆ แต่คิดค่าเช่าเป็นรายวัน ราคาที่ว่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละสถานที่ที่เปิดให้บริการ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีโรงแรมขนาดกลางมาเปิดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งค่าห้องจะมีราคาสูงกว่า
           ถนนข้าวสารเป็นย่านการต้าทั้งกลางวันและกลางคืนที่มีสินค้ามากมายเช่น ร้านขายอาหารพร้อมกิน ตั้งแต่ อาหารฝรั่งเศส อาหารอินเดีย อาหารอิตาลี และอาหารไทยยอดนิยมอย่างผัดไทย และปอเปี็ยะ
  กิจกรรมบริการที่พักจะหนีไม่พ้น ร้านอาหาร โทรศัพท์ทางไกล ไปจนถึงการให้บริการรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ แม้ว่าบรรดาเกสต์เฮ้าส์ทั้งหลาน จะมีบริการครบวงจรให้ลูกค้า แต่ก็ยังมีร้านอนิเทอร์เหน็ตราคาถูก 50 สตางค์ต่อนาที หรือแม้แต่บาร์เบียร์ โดยมีร้านเช่า-ขายหนังสือมือสอง ร้านเสื้อผ้า รับปริการถักผม และร้านขายของพื้นเมือง
             ร้านเสื้อผ้าที่ข้าสสารนี้ก็มีให้เลือกหา ตั้งแต่ร้านผ้าไหมชั้นดีไปจนถึงเสื้อยืดคอกลมตราห่านราคาประหยัด เสื้อผ้ายอดนิยมที่เป็นวางขายกันมากที่สุด ก้เป็นเสื้อผ้าเนื้อบางประเภท กางเกงเล ผ้าบาติก เสื้อผ้าฝ้าย มีกางเกงนักมวยและผ้าถงแบบสำเร็จรูปให้เลือกสารพัดสี...https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3
             การท่องเที่ยวในแบบ "แพ็คแพ็คเกอร์"ในอาเซียน ที่น่าเที่ยวดังนี้
             ประเทศไทย (ภาคเหนือ ) แม้ประเทศไทยตอนนี้จะเน้นการท่องเที่ยแบบหรุหรา แต่ความเป็นสวรรค์ของเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ก็มิได้ลดน้อยลงไป เพียงแค่เปลี่ยนความคิด ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลง เช่นการนั่งรถไฟชิลล์ จากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ราคาค่าตั๋วรถไฟอยู่ประมาณ 12 เหรียญ และห้องพักธรรมดาๆ ราคาต่อคือ 3 เหรียญ หรือถ้าอยากได้ห้องส่วนตัวก็เริ้มต้นที่ 6 เหรียญ  ปล. ควรจะเที่ยวในช่วงหน้าหนาวของประเทศไทย..
            อินโดนีเซีย อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่สามารถไปเที่ยวชิลล์ได้ ไม่ถงกับแอดเวนเจอร์มากนัก นักท่องเที่ยวหลายคนคงจะรู้จัก บาหลี สถานที่ท่องเที่ยวหลักของที่นีอยู่แล้วเป็นอย่างดี บาหลีเป็นเกาะที่มีชายหาดสวยๆ ชือดังของอินโดนีเซีย ถ้าคุณยึดติดอยู่กับหาด Kuta และ Legion ชายหาดสวยที่อยู่ใกล้ดับสนามบินของบาหลีแล้วละก็ คุณจะต้องอึ่งไปเหมือนกันเพราะที่นี่ราคาไใช้จ่ายในการท่องทเี่ยวค่อนข้างสูงไม่ต่างจากประเทศทางฝั่งตะวันอตกเลยที่เดียว มีทั้งไนต์คลับ เซิร์ฟ และรีสอร์ทหรู่ราคาแพง กลับกันแค่นิดเดียว เข้ามาในตัวเมืองหน่อยที่อาจจะไม่ติดหาด ราคาจะถูกลงเปลี่ยนจากหน้ามอเป็นหลังมือเลยที่เดียว
       
 ที่พักถัดเข้ามนในเมืองแม้จะไม่หรุหรามาก แต่ก็มีเตียงระดับคิงไซส์ล ระเบียงส่วนตัว. ห้องอาบน้ำที่กว้างมากๆ ในราคาเพียง 10 เหรียญ เพราะฉะนั้นบาหลีก็ไม่ใช่ที่เที่ยวที่แพงมากอย่างที่คิดอีแล้ว นอกจากบาหลี อินโดนีเซียยังมีที่เที่ยวเกาะอื่นๆ ที่น่าสนใจ ทั้ง ลอมบุก และ สุมาตรา แน่นอนว่ายิ่งไกลออกไปการผจญภัยในอินโดนีเซียก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ  อาหารท่องเถิ่นก็น่าลอง ราคาอยุที่ประมาณ 2 เหรียญ คุณจะได้ทั้งข้าว ผัก ไก่ และไข่ แน่นอนว่าที่นีคุณจุมีความสุขกับการดินทางและราคาระดับท้องถิ่นอีกด้วย
           กัมพูชา
           เป็นประเทศที่ใช้เงินน้อยที่สุดในเอเชียตะวันออกเแียงใต้ และจะเป็นประเทศที่ยากจนมากทำให้การเดินทางค่อนข้างไม่สะดวกสบายเท่าไหร่นัก คุณอาจจะไ้นั่งรบัสหรือรถตู้เล็กๆ เก่าๆ ในการเดินทาง จึงไม่ค่อยเพลิดเพลินนัก สำหรับที่ท่องเที่ยวที่ต้องไม่พลาดของที่นีก็คือ นครวัด โบราณสถานที่ควรค่าแกการไปเยือน และุ้าอยากไปชิลล์ตามชายหาดก็ที่ Sihanouksvile ก็เหมาะมากที่เดียว
           คุณจะสามารถหาห้องพักราคาถูกได้ง่ายๆ ทีเมืองหลวงอย่างพนมเปญ หรือเสียมเรียบ ซึ่งอยู่ใกล้กับนครวัดในราคาเพียง 3-5 เหรียญเท่านั้น และห้องพักที่ค่อนข้งส่วนตัวขึ้นมาหน่อยจะอยู่ที่ 10 เหรียญซึ่งก็ไม่ได้แพงมาก สำหรับอาหารในกัมพุชานั้นก็มีรสชาติเฉพาะ แต่จะไม่เหมือนกับประเทศไทย และเวียดนาม ถ้าคุณอย่ากได้อาหารมือ้พิเศษที่ดีกว่าเดิมขึ้นมาอีหน่อย ก็แค่เพ่ิมเงินเท่านั้น กัมพุชายังมี นครวัด และปราสทบายน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใน 10  ที่เที่ยว สัญลักษณ์ของเอเชียอีกด้วยhttp://travel.trueid.net/detail/41108

             

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Nihao Maketing Part 2

           "หนีห่าว าร์เก็ตติ้ง" เคล็ดลับมัดใจนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่
            "นักท่องเที่ยวจีน" ถือเป็นขุนทรัพย์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั่วดลก รวมทั้งประเทศไทย แต่เทรนด์การท่องเที่ยวของชาวจีนรุ่นใหม่ไม่ใช่กรเที่ยวแบบ "ทัวร์จีน" ที่เห็นมากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ แต่นิยมท่องเที่ยวสไตล์ FIT หรือ กลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ โดยปีที่ผ่านมาสัดส่วนนักท่องเที่ยวแบบ FIT สูงถึง 60% ขณะที่ท่องเที่ยวแบบทัวร์อยู่ที่ 40% วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยอหิดล เป็นงานวิจัย "หนีห่าว มาร์เก็ตติ้ง" เคล็ดลับมัดใจนักท่องเที่ยวจีนสไตล์ FIT โดยพบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระมีกำลังซื้อสูง ใช้จ่ายเฉลี่ยครละ 25,000-50,000 บาทต่อทริป (5-7 วัน) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ มีความรนุ้ และค้นหาข้อมูลหใหม่อยุ่เสอม โดยเฉพาะข้อมูลการท่องเทียวเน็ตเป็นประจำ มีความรุ้ และค้นหาข้อมูลใหม่อยู่เสมอโยเฉพาะข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่เป้ฯจุดหมายปลยทางอันดับ + ของนักท่องเที่ยว FIT
         
โดยข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ระบุว่า ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยราว 33.73-34.39 ล้านคน เติบโต 3.75-5.78% จากปีก่อน ซึ่งในปีที่ผ่านมา 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวจีน" และเป็นกลุ่มที่ท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากถึง 60% และสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย 445,000 ล้านบาท ดังนั้นการเรียรุ้เคล็ดลับมัดใจนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT จึงเป็นสิงสำคัญ ซึ่งกุญแจสู่ความสำเร็จ คือ " T-H-A-I" ดังนี้ T : Trust รักษามาตฐานสินค้าและบริการของไทย ส่งผลให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ
            H : Hospility ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความจริงใจ สร้างความไว้วางในและรักษาความสัมพันะธ์ต่อเนื่อง A : Awareness สร้างการรับรุ้กระตุ้นจุดสนใจ ดึงดุดด้วยภาษาจีน สื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และ I : Identity สร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจน ให้มีคุณค่าและสร้างคามประทับใจต่อนักท่องเที่ยวจีน
            "ณชา จึงกานต์กุล" กรรมการผุ้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปเพื่อสุขพ ที่ประสบความสำเร็จในการเจาะกลุ่มลูกค้นักท่องเที่ยจีน กล่าวว่า "นักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นมีการศึกษา การมัดใจกลุ่มน้ไ้ต้องปรับทัศนคติของเราต่อเขชา ต้องเข้าใจพฤติกรรมว่าที่จริงแล้วไม่ได้ชอบซื้อของถูก แต่ชอบซื้อของที่คุ้มค่าท้้งราคาและปริมาณ ยิ่งถ้าผลิตภัณฑ์ซื้อฝากได้อย่างไม่อาย นับว่าเป้นความภาคภูมิใจของคนจีน"
             ปัจจัยการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์ไทย คือ 1) คำอธิบายคุณสมบัติและแหล่งที่มา ควรมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนชัดเจน 2) คำบรรยายผลิตภัฒฑ์ภาษาจีนที่ไม่มากเกินไป เช่น ไม่ควรเกิน 50-60% ของพื้นท่บรรจุภัณฑ์ แบรนด์ไทยปัจจุบันบังตีโจทย์ข้อนี้ผิด การที่ผลิตภัณฑ์มีคำบรรยายภาษาจีนมากเกินไป ทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลัว เพราะคิดว่าเป้นสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศจีน
         
 3) Product of Thailandสำคัญมาก ผลุตภัณฑ์ความีการระบุชัดจนว่าเป็นผลิตภัฒฑ์จากประเทศไทย 4) เอกลักษณ์ไทย นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้ชื่นชอบลวดลายไทย หากสินค้าหรือที่พัก ที่ตกแต่งด้วยลวดลายหรือสีสันที่แสดงความเป็นจีนมากกว่าไทยจะไม่ชอบ และ 5) แพ็กเกจจิ้ง ถือว่าสำคัญมาก กลุ่ม FITชอบที่จะมองเห็นสินค้าข้างในเพื่อดูปริมาณและขนาดว่าคุ้มค่ากับราคาหรือไม่ทั้งยังชอโปรโมชั่นลด 50% มากกว่า ซื้อ 1 แถม 1
           งานวิจัยยังพบว่า นักท่องเที่ยวจีนสไตล์ FIT ชอบที่จะพักใน "เกสต์เฮาส์" มากกว่าดรงแรม ซึ่งต่างกับกลุ่มทั้วร์จีน เพราะเชื่อว่าเกสต์เฮาส์นอกจากจะมีราคาที่ถูกกว่า ยังเข้าถึงความเป็นไทยมากกว่า ตัวอย่าง เกสต์เฮาส์นอกจากจะมีราคาที่ถูกกว่า ยังเข้าถึงความเป็นไทยมากกว่า เช่น เกสต์เฮาส์ในเชืยงใหม่ครองใจนักท่องเที่ยจีน  FIT พบว่า กว่ 40% ของผุ้ที่เคยมาพักจะกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ความโดดเด่นของที่นี้ค้อ สามารถเปิดจองห้องพักผ่านสื่อโซเชียลขงอจีน ทั้งยังสามารถเลือกชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ได้ เพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีน FIT จะเลือกใช้จ่ายเงิน ผ่าน Alipay  และ Wechat Pay มากกว่าเงินสด
            "จาง อี้" ผุ้อำนวยการฝ่ายขาย "ไบดู แอคเซส" ระบุที่พักหรือร้านค้าที่สามาถชำระเงินออนไลน์ได้ จะเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวสไตล์ FIT แต่ประเด็นที่อย่างสะท้อนให้ไทยปรับตัว หากต้องการเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีน ก็คื อความง่ายต่อการเข้าถึงข้อมุลเป้นภาษาจีน เนื่องจากคนจีนบางกลุ่มไม่สามารถเข้ใจภาษาอังกฤษได้ ประเทศไทยควรจะเรียนรู้โซเชียลของคนจีนมากขึ้น เช่น การซัพพอร์ตข้อมุลใน "ไบดู" ที่ทำหน้าที่เสมือน "กูเกิ้ล" และแอป "วีแชท" ที่ใช่งานได้หมือน "ไลน์" หรือมแม้แต่ "ยูคุ" ก็คือ "ยูทูป"ที่คนไทยนิยม เพราะการพาตัวเองไปให้คนจีนรู้จักถือเป็นช่องทางโอกาสมัดใจกลุ่ม FIT ได้ดีที่สุด...https://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1494674177

วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Nihao Maketing Part 1

          ประเมินผลกระทบทัวร์ศุนย์เหรียญ "ยอมเจ็บ...เพื่อจะจบ"
           ทีวร์ศุนย์เหรียญก่อกำเนิดขึ้นมานับตั้งแต่จีนเร่ิมเปิดประเทศ และอนุญาติให้คนจีนเดนทางออกไปยังต่างประเทศในปี 2536 ในปีนั้นมีคนจีนออกไปท่องเที่ยวจ่างประเทศเพียงน้อยนิดแค่ 6 ล้านคน แต่เวลาผ่านไป 22 ปี จำนวนคนจีนที่ออกไปเที่ยวบังต่างประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 127 ล้านคนในปี 2558 การที่นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากประชากรจนมีมากกว่า 1,350  ล้านคน เมื่อมีการเปิดประเทศจึงมีความต้องการออกไปเที่ยวมาก ด้วยเหตุนี้จึงเกิดการดำเนินธุรกิจทัวร์ในลักษณะทีขายแพ็กเกจราคาทัวร์ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง จากนั้นไปเอาทุนคืนและทำกำไรด้วยการบีบบังคับให้ลูกทัวร์ซื้อสินค้าในร้านค้าที่เป็นเครือข่ายของตนเองในระคาที่สูงเกินจริงรวมถึงการขายแพ็กเกจเสริมอื่นๆ ที่อยุ่นอกโปรแกรมทัวร์ รหือท่เรียกกันว่า "ทัวร์ศุนย์เหรียญ"
           การดำเนินธุรกิจแบบ "ทัวร์ศุนย์เหรียญ" หากมองเผินๆ อาจเห็นว่าไม่เห็นเป็นอะไร ดีซะอีกจะได้มีคนจีนเข้ามาใช้จ่ายในประเทศมากๆ แต่หากมองให้ลึกลงไป การใช้จายของนักท่องเที่ยวจีนกลับไม่ได้เข้าสู่ประเทศอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเนื่องจากเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญนี้ส่วนใหญ่ผุ้ประกอบการจีนเป็นผุ้ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนของการช็อปปิ้งและการขายแพ็กเกจทัวร์เสริมอื่นๆ จากนั้นก็หอบเงินกลับประเทศทั้งหมด เรียกได้ว่ "คนไทยได้น้อย แต่กลับสุญเสียทรัพยากรการท่องเที่ยวของประเทศจากการที่คนจีนเข้ามาใช้เป็นจำนวนมากและทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยลดลง"
          ด้วยเหตุนี้ ภาครัฐจึงจัดการปัญหาไม่ให้โครงสร้างการทำธุรกิจทัวร์ในประเทศบิดเบี้ยวบานปลายไปจนแก้ไขได้ยากด้วยการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญในประเทศอย่างจริงจัง อันที่จริงย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2556 ทางการจีนได้เล็งเห็นถึงปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญที่ทำให้ภาพลักษณ์คนจีนในสายตาชาวโลกดุไม่ดี และในขณะเดียกันคนจีนที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศก็ถูกเอารัดเอาเปรียบบังคับซื้อสินค้าที่สูงกว่าต้นทุนที่แท้จริงมาก จนต้องออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมทัวร์ศูนย์เหรียญ ถือเป็นการจัดการบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญที่ต้นทางไปแล้ว แต่บริษัททัวร์ปลายทางในเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญก็ยังมีการลักลอบกันทำอยู่ ประเทศไทยถือเป็นผู้กล้า "รายแรกๆ ที่ปราบปรามทัวร์สูนย์เหรียญที่ปลายทาง" ซึงแน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่ปริมาณนักท่องเที่ยวจีนจะลดลงอย่างมาก โดยรัฐคาดหวังว่าการปราบปรามครั้งนี้ จะก่อให้เกิดการแข่งขันธุรกิจทัวร์ในประเทศอย่างเป็นธรรมได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและสร้างรายได้ให้กับประเทศได้ทัวถึคงอย่งเต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมถึงคนจีนที่มาเทียวเมืองไทยเกิดควมประทับใจเมื่อมาเที่ยวไทย เพราะไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำให้มาเทียวซ้ำ และชวยเพื่อฝุง ญาติ พี่น้อง เข้มาเที่ยวไทยอีกในอนาคต
           ศุนย์วิเคราะห์เศรษบกิจ ทีเอ็มบี คาดว่า ผลของการปราบปรามทัวร์ศุนย์เหรียญจะกระทบเศรษฐกิจเพียงในระยะสั้นโดยประเมินว่านักท่องเที่ยวจีนจะหายไปในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2559 ประมาณ 4.75 แสนคนหรือคิดเป็นประมาณ 5% ของนักท่องเทียวจีนรวม ทำให้ทั้งปี 2559 นักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 9 ล้านคน และเมื่อพิจารณารายได้ที่สูญเสียไปจะอยู่ที่ 7,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 2% ของรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนรรวม ซึ่งจะทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวจีนทั้งปีจะอยุ่ในระดับ 4 แสนล้านบาท โดยรายได้ที่หายไปคำนวณจากเม็ดเงินที่เข้าสูระบบเศราฐกิจที่แท้จริง ได้แก่ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทง และคาไกด์ ไม่รวมค่าซื้อสินค้าและการจัดแพ็กเกจทัวร์เสริมที่เครือขายทัวร์ศูนย์เหรียญเป็นผู้ไได้รับไปเต็มๆ 
             
ส่วนในปี 2560 คาดว่าจำนวนนักท่องเทียวจีนจะทรงตัวอยุ่ที่ประมาณ 9 ล้านคน ซึ่งแม้ว่าผลของการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 20% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดลดลงไป แต่นักท่องเที่ยวจีนที่เหลืออีกประมาณ 80% ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดนทางมาเอง 60% กับกลุ่มที่มากับบริษัททัวร์แต่ไม่ใช่ทัวร์ศุนย์เหรียญอีก 20% ยังคงชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวไทย โดยนักท่องเที่ยวทั้ง 2 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีศักยภาพ จึงคาดว่าการเติบโตนี้จะสามารถเข้ามาชดเชยกลุ่มนักท่องเที่ยวทัวร์ศูนย์เหรียญที่หายไปได้บ้าง
             ทั้งนี้ ผุ้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปราบปรามททัวร์ศุย์เหรียญบางส่วนที่เน้นทำตลาดนักท่องเที่ยวจีนอาจจะยังปรับตัวไม่ทัีน เนื่องจากไม่กล้าทำทัวร์จีนต่อเพราะยังสับสนว่าการดำเนินธุรกิจของตนเข้าข่ายการดำเนินธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากการที่ภาครัฐได้ให้ความเชื่อมั่นว่า หากการดำเนินธุรกิจของผุ้ประกอบการเป็นไปโดยสุจริต ไม่ทำผิดกฎหมาย มีกายื่นเสียภาษีเป็ฯประจำทุกปี ก็ไม่ต้องกังวล รอเพียงความชัเจนของภาครัฐในการกำหนดกฎเกณฑ์ราคาแพ็กเจทัวร์ในประเทศขั้นต่ำ จากนี้ผุ้ประกอบการก็สามารถนำราคาดังกล่าวไปกำหนดราคาแพ็กเกจทัวร์และดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จะห็นว่าการปราบปรามทัวร์ศุนย์เหรียญของภาครัฐให้อยู่ในกฎระเบียบและสร้างความเป็ฯธรรมในการแข่งขัน อาจทำให้นักท่องเทียวจีนหายไปในระยะสั้น แต่หากมองในระยะปานกลางถึงยาว ความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนที่จะข้ามาในไทยยังมีแนวโน้มเติบโต เนื่องจากไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของคนจีนในหลายด้านไม่ว่าจะเป้ฯกมีแหล่งทรัพยากรท่องเที่ยวที่หลากหลายอาหารถูกปาก คาครองชีพไม่สูงนัก รวมทั้งการเดินทางมาไทยก็สะดวก ทำให้โอกาสที่ผุ้ประกอบการไทยจะทำเงินจากนักท่องเที่ยวจีนยังมีอีกมาก
             ดังนั้น ในระยะต่อไป เืพ่อให้การท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ผุ้ประกอบการควรปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทงของภาครัฐที่ต้องกายกระดับการท่องเทียวให้มีคุณภาพ ด้วยการจัดแพ็กเกจทัวร์ที่มีคุณภาพและมีความหลากหลายภายใต้ระดับราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อดึงดุดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเข้ามาในไทย นอกจากนี้ ผุ้ประกอบการก็ควรมองหาตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง หากการปราบปรามของภาครัฐในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของธุรกิจท่องเที่ยไทยในระยะยาว การดำเนินการทุกสิ่งอย่างย่อมมีต้นทุนเสมอ ดังนั้น "การยอมเจ็ฐ เพื่อจะจบ" อาจเป็นสิ่งที่ควรทำ.http://www.thansettakij.com/content/103691

วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Foreign Individual Tourism (FIT)

             FIT หมายถึง การท่องเที่ยวแบอิสระ เป็นลักษณะการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจัดการวางแผนุกอข่างด้วยตนเองทุกขั้นตอนซึ่งมีข้อดีในเรื่องของความเป็นส่วนตัวสูง สามารถควบคุมเวลาในการท่องเที่ยวได้ตามต้องการสามารถเลือกคุณภาพของสินค้าและบริการได้ตามความต้องการและเมาะสมกับวงประมาณของตนเอง ข้อเสียในกรณีที่นักท่องเที่ยวไม่คุ้นเคยกับเส้นทางหรือสถานที่ท่องเที่ยวแาจก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องของการเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป้นได้เช่นกัน
            เทรน FIT จีนมาแรง แซงทัวร์ศูนย์เหรียญ ภายหลังรัฐบาลนำโดยกระทรวงการท่องเทียวแลกีฬาเกินหน้าปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างเกต็มกำลังเมือเดือน ก.ย. ปีที่ผ่ามา ส่งผลให้ตลาดจีนซึงเปนตฃาดหลักของการท่องเที่ยวไทยเสยอาการทรงตัว จากนักท่งอเที่ยวเดินทางลดลงต่อเนื่องหลายเดือนติดต่อกัน
             ขณะที่รัฐบาลได้เดนสายโรดโชว์สินค้าทางการท่องเที่ยวพร้อมสร้างความรุ้ความเข้าใจถึงนโยบายการปราบปรามดังกล่าวจนเป็นที่เข้าใจในทิศทางเดียวกันทั้งเอกชนทัวร์ไทยและฝั่งจีน ก่อนงัดมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมตรวจลงตรา (วีซ่า) ที่สถานทูตหรือสถานกงสุลไทยในช่วงแรกตั้งแต่เดือน พ.ย.-28 ก.พ. นี้แลต่อเนื่องรอบสองยาวถึง 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-31 ส.ค. นี้โดยในช่วงการจัดระเบียบทัวร์สูนย์เหรียญ นักท่องเที่ยวจีนได้ปรับโครงสร้างการเดินทางท่องเที่ยวมาไทยอย่างเห็นได้ชัด โดยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (เอฟไอที) มากกว่าการเดินทางผ่านบริษัททัวร์ โดเฉพาะคนจีนรุ่นใหม่
           กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ประเมินว่า การขยายฟรีวิซ่าจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติวางแผนเดินทางมาเที่ยวไทยเพ่ิมขึ้น โดยเฉาพะตลาดจีนสัดส่วนเอฟไอทีจะเพ่ิมเป็น 70% จากเดิม 60% ของ นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยทั้งหมด ซึ่งเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา คนจีนมาไทยเพิิ่มขึ้น 5.5% เที่ยบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อน ตลอดปีนี้คาดว่าคนจีนจะมาไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน
           อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เล่าว่า ปัจจุบนกระแสคนจีนรุ่นใหม่นิยมเดินทางท่องเที่ยวมาไทยแบบ FIT มากขึ้น เพราะเทคโนโลยีที่เปิดเหว้างทำให้การค้นหาข้อมูลด้านการท่องเที่ยวสะดวกรวดเร็ว ประกอบกับมาตรการยือระยะเวลาฟรีวีซ่า ยิ่งเอื้อประโยชน์ให้
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้อนรับนักท่องเทียวจีนได้มากขึ้น
             ทั้งนี้ บริษัททั่วร์ต้องเร่งปรับตัวรูปแบบการให้บริการนกท่องเที่ยวแบบใหม่ เพราะเชื่อว่าการเดินทางแบบ FIT ส่วนหนึ่งต้องพึ่งพาการจองผ่านบิรฒัทัวร์ ดังนั้นบริษัททัวร์ต้องเร่งพัฒนาบุคลการให้มีศักยภาพการบริการ การดูแลนักท่องเที่ยวแบบ เมค ทู ออร์เดอร์ ยิ่งขึ้น โดยขนาดการเดินทางจะเล็กลง จากเดิม หนึ่งกรุ๊ป ทัวร์มีกว่า 30 คน ปัจจุบันการเดินทางแบบ FIT เฉลี่ย 3-6 เป็นต้น
            นอกจากนี้ต้องปรับแผนการบริหารจัการ โดยทำเทคโนโลยีการเพ่ิมช่องทางการสื่อสารการตลาดกับลูกค้าผ่านออนไลน์ สามารถโต้ตอบลูกค้าได้อย่างทันท่วงที การเตรียมความพร้พมด้านบุคลการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับการเดินทงแบบเอฟไอที เพื่อให้สอดคล้องกับการเดินทางที่มีขนาดเล็กลง
            ด้านการเตรียมความพร้อมของภาครัฐ ความหารือร่วมกับเอกชนท่องเที่ยวอย่งใกล้ชิด งานแผนเตรียมความพร้อมในการรองรับเอฟไอทีจีนที่เติบโตมากว่าการเดินทางผ่านกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่เหมือนที่ผ่านมา โดยควรนำโมเดลการดุแลนักท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นมาใช้ที่ให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวคนไทย การอำนวนความสะดวกขั้นพืนฐานต่างๆ เช่นป้ายบอกทางภาษาไทย เป็นต้น
         
ด้าน อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทไทย (สทท.) กล่าวว่า แนวโน้มคนรุ่นใหม่และวัยทำงานของจีนนิยมเดินทางท่องเที่ยวแบบ FIT ประเทศไทยต้องเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานช่องทางการเข้าถึงแหล่งข้อมูลให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เพื่อสร้างคามประทัีบใจในระยะยาว กระตุ้นให้เดินทางมาประเทศไทยแบบซ้ำๆ เพระากลุ่มนี้เชื่อ่าจะเติบโตสูงอย่างรวดเร็วในอีก 4-5 ปีนับจากนี้
           สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวไทตั้งแต่ สองเดืนอที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่งชาติมาไทย 4.55 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.67% สร้างรายได้ 2.40 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% เที่ยวกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนสุงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย สหรัฐ มาเลเซีย และเกาหลี https://www.posttoday.com/biz/aec/n
            การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. โยคุณสรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. ออกมาระบุว่า ททท. ได้ออกเเคมเปญ "โฉมใหม่ไทยแลนด์" เพื่อสร้างคการับรู้แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เปิดมุมองใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวรับรู้ว่า เมื่อไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยว อีกมาก และรองรับความต้องการที่หลากหลาย เจาะกลุ่ม นักท่องเทียว FIT หลังเห็นสัญญาณกลุ่มดังกล่าวมาเที่ยวไทยเพ่ิมขึ้นต่อเนื่อง
            "ททท. พยายามเปิดมุมองใหม่ๆ แก่นักท่องเที่ยวเอฟไอทีเอเชีย โดยเฉาพะนักทองเที่ยวจากจีน ผ่านความพยายามหาสินค้า ใหม่ๆ เข้ามาให้นักท่องเที่ยวได้เลือก อาทิ ประสานกับทหารเรือ เพื่อใช้เรือรบ สนามบยิงปน และเปิดให้เทียวค่ายฝึกทหารจริงๆ ปั่นจักรยาในเกาะรัตนโกสินทร์ เลาะเจ้าพระยา หรือ เรียนพับดอกบัว เปลี่ยนแนวคิดแก่นักทอ่งเที่ยวเกี่ยวกับภาพลักษณ์ โฉมใหม่ไทย และเพ่ิมคุณภาพนักท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่เพียงมาเที่ยวไทยแล้วคิดว่าไ้ชอบปปิ้งเพียงอย่างเดียว
           สำหรับภาคเอกชน อย่าคุณสุรวัช อัครวรมาศ อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการทอ่งเที่ยว (แอตต้าป เปิดเผยต่ออีกว่ แอตต้าได้หารือกับ คุณสศรีสุดา เืพ่อทำแผนส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ภายใต้การออกแบบท่องเที่ยวด้วย ตัวเอง (เทเลอร์เมด) ซึ่งจะแตกต่างจากเอฟไอทีทั่วไป เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ จะใช้บริการการจองสินค้และบริการด้านการท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ หรือโรงแรม ซึ่งภาคการท่องเที่ยวไทยต้องดำเนินการรองรับกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี โดยแนวโน้มตลาดที่เห้ฯความชัดเจนว่าจะเป็น กลุ่มเทเลอร์เมดมากขึ้นจะเป็นตลาด จีน ญี่ปุ่่น เป้นต้น
         
"พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มเทเลอร์เมด นิยมเดินทาง ท่องเที่ยวกลุ่มขนาดเล็ก แบบเพือน คู่รัก ครอบครัว ดดยมีความต้องการเป้นส่วนตัว สามารถปรับเปลี่ยนรายการท่องเที่ยวได้ตมความต้องการของตัวเอง รวมถึงต้องการใช้บริการจากมัคคุเทศก์ หรือว่าไกด์ ผ่านบริษัททัวร์ เพื่อประสานและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งแตกต่างจาก นักท่องเที่ยวเอฟไอที จะไม่พึงพาบริษัททัวร์ แต่จะหาข้อมูล การเดินทางท่องเทียวผ่านทางออนไลน์เป้ฯส่วนหใญ่มากว่า นอกจากนี้ กลุ่มเทเลอร์เมดเป้นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงใช้จ่ายมากว่ากลุ่ม FIT ประมาณ 50% เพราะยินดีจ่ายเพื่อให้ได้สินค้าและบริการตาที่ต้องการ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มลูกค้าอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป และกลุ่มผุ้สูงอายุ กลุ่มเกษียณอายุ
            หลังการปราบปรามทัวร์ศุนย์เหรียญ คนจีนอีกระดับทีกระเป๋าหนัก พร้อมจ่ายชอบการเดินทางที่สะดวก มีคนคอยดูแล แต่ ไม่ต้องการเดนทางตามโปรแกรมทัวหรือต้องตื่นตามเวลาที่ทีัวร์กำหนด
            ทิศทางการเติบโตของนักท่องเที่ยวแบบ FIT และเทเลอร์เมดที่เติบโตสูงขึ้นในเมืองไทย น่าจะเป้นการตอบโจทย์ความต้องการของรัฐบาล แต่สำหรับผุ้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งโรงแรม บริษัททัวร์ จะได้ประโยชน์จากทิศทางการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนักท่องเที่ยวเหล่านี้หรือไม่ และจะต้องมีการปรับตัวรองรับไปในทิสทางใด เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด และมีรายได้เพ่ิมขึ้นต่อเนื่อง ต้องเป็นหน้าที่ของการวางแผนธุรกิจของแต่ละเเห่ง...https://www.thaihotelbusiness.com/hot-issue/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88/
         
         
         

วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Ecotourism

             การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เป็ฯศัพท์บัญญัติที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำมาใช้อย่างเป็ฯทางการใน พ.ศ. 2541 โดยให้มีความหมายตรงกับคำว่า Ecotourism ในภาษาอังกฤษ ศัพท์บญญัตินี้ได้รับความเห็นชอบจากราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบัญญัติศัพท์แล้ว
             Ecotourism เป็นคำที่เกิดใหม่ในวงการ อุตสาหกรรมท้องเที่ยว โดยนำคำ 2 คำมารวมกัน ได้แก่ eco และ tourism  แปลว่า การท่องเที่ยวเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย หมายถึง การท่องเที่ยวที่เน้นในด้านสิ่งแวดล้อมอันเป้นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์ส่วนคำว่า นิเว ซึ่งเป็นคำภาษาสันสกฤตที่นำมาใช้ในภาาาไทย ก็แปลว่า บ้านหรือที่อยู่อาศัยเช่นกัน ฉะนั้น การท่องเที่ยวว เชิงนิวเศจึงเป้ฯสัพท์บัญญัติที่มีความมหายตรงกับคำในภาษาอังกฟษอย่างเหมาะสม....
             การท่องเที่ยวอย่างยั่งยน มีัหลักการที่สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป้นกระแสความคิดหลักของโลกนช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา และได้รับความสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการวาด้วยการ
พัฒนาอย่างยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติ ซึงหลักการโดยทั่วไปของการพัฒนาอย่างยั่งยืน คื อจะต้องมีการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรอย่างพอดี เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ต่อไปได้ในระยะเวลายาวนาน และมีการกระจายผลประโยชน์ให้แก่คนส่วนใหญ่ รวมทั้มีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผุ้ทีเ่กี่ยวขช้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อนำหลักการนี้มาปรับใช้กับการท่องเที่ยวอยา่งยั่งยืน จึงมีจุดเน้นที่สำคัญดังนี้
           - จะต้องดูแลทรัพยากรการทอ่งเท่ยว ให้สามารถใชประดยชน์ต่อไปได้ในระยะเวา ยาวนานจนถึงชั่วลูกลี่วหลาน มิใช่เพียวเพื่อนรุ่นปัจจิบันเท่านั้น
         
- ลดการใช้ทรัพยากกยอ่างสิ้นเปลื่อง และลดปริมษรของเสียที่จะเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
           - มีการกระจายรายได้และผลประโยชน์ให้แก่คนในท้องถ่ินที่มีแหล่งท่องเที่ยวตั้งอยู่ เปิดโอกาสให้ชุมชนในท้องเถ่ินได้เข้ารวมในการจัดการ และการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
           -มีการประชุมปรึกษาหารอกันอย่างสม่ำเสมอระหว่างผุ้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น หน่ยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ผุ้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว และชุมชนในท้องถ่ิน เพื่อการวางแผนงาน การจัดสรรวงประมาณ และการจัดการทรัพยากรอย่างเมหาะสม
            - มีการสร้างเครื่อข่าายเพื่อเผยแพร่แนวคิด การศึกษาวิจัย และความรู้เกี่ยวกับการ ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ออกไปในหมู่ประชาชน ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศอยางกว้างขวาง
            กลักการของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สำคัญคือ
           - จะต้องมีการอนุรักษ์ทรัพยากรภารท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือทรัพยากรการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ให้คงสภาพเดิมไว้ให้มากที่สุด ไม่ถูกทำลาไป
           - กระตุ้นจิตสำนึกของคนในท้องถอ่ินให้พยายามดูแลรักษาและปกป้องทรัพยากรการท่องเที่ยวเหล่านั้น ดดยไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นปลเสยต่อทรัพยากรการท่องเที่ยว เพรียงเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตน
          - ให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยว เพื่อตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวที่ตนเดินทางเข้าไปเยือนและให้ความร่วมมือแก่ชุมชนในท้องถิ่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อันเป้นมรกดตกทอด ของคนในท้องถิ่นนั้นๆ ให้คงสภาพที่ดีต่อไป นานๆ...http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK27/chapter3/t27-3-l1.htm
            ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ : เทรนด์มาแรงแห่งอาเซียน
             การท่องเที่ยวในย่านอุษาคเนย์มีปัจจัยเกื้อหนุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์ของสภาพแวดล้อมในภูมิภาค ปริมาณนักเดนทางที่ขยายตามการเติบโตของชนชั้นกลาง ธุรกิจการบินต้นทุนต่ำที่กำลังคึกคัก การโหมอัปโหลดภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยวสู่อนเทอร์เน็ตโดยผุ้ประกอบการไม่ต้องมีต้นทุนในการโฆษณา การเติบโตของธุรกิจไมซ์ แนวโน้มนักเดินทางวัยเกษียณที่กำลังมาแรง และความนิยมในการเดินทางพักผ่อนควบคู่กับรักษาตัว เป็นต้น
            ทว่ายังเกิดแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวอีกหนึ่งกระแสที่ภาคอุสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วดลกต้องจับตา และก้าวตามให้ทัน นั่นคื อการะแสสำนึกว่าด้วยความยั่งยืน
             นับตั้งแต่เปิดฉากสหรัสสวรรษนี้ ความตื่นตัวว่าด้วยการใช้ชีวิตอย่งยั่งยืนก็เริ่มลงหลักปักฐานอย่างจริงจัง คนทั่วดลกคุ้นชินและคิดถึงวิกฤตของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สู่ชั้นบรยากาศ รู้จักประโยชน์ของรีไซเดิล เข้าใจผลกระทบของอุตสาหกรรมต่อชุมชน เพราะนี้คืออีกด้านของมนุษย์ การดำรงชีวิตของเราย่อมส่งผลกระทบต่อสังคมและสภาพแวดล้อมมากน้อยต่างกันไปตามแต่ละปัจเจก
             ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป้นหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมหลักของเอเชียตะวันออกเแียงใต้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ซ ก็ไม่รีรอที่จะก้าวเดินไปพร้อมกระแสดังกล่าวจนเกิดกระแส การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่กำลังเฟืองฟูขึ้น
             
ก่อนอื่นใดเราควรเข้าใจก่อนว่าการท่องเที่ยวเชิงนิเวศมิใใช่แค่ทัวร์เดินป่าเท่านั้น แต่อาจเป็นกิจกรรมคู่ขนานไปกับการชมธรรมชาติอันงดงามได้ โดยต้องแสดงให้เห็นว่าเป็นกิจกรรมที่รับผิดชอบต่อสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ
              IUCN ให้นิยามว่า การทอ่งเที่ยวเชิงนิเวศนั้นช่วยส่งเสริม "ให้เกิดสำนึกรับผิชอล ท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมน้อยทีสุด รวมทั้งชื่นชมต่อวัฒนธรรมและความหลากหลายของพื้นถิ่น สนับสนุนภารกิจงานอนุรักษ์ของชาวบ้าน เพื่อประดยชน์ที่ยั่งยืนแก่คนในชุมชน โดยเปิดให้คนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ"
              ผุ้เขียนของยกบางตัวอย่างในประเทศอาเวียน เพื่อชี้ให้เห้ฯความคิดอันสร้างสรรค์ว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะเดินเคียงคู่ไปกับความยั่งยืนได้ โดยการท่องเที่ยวเชิงนิเวศจะยังประโยชน์แก่ตัวเรา ภาคธุรกิจ และผุ้คนทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และขอเชิญชวนให้ผุ้อ่านรู้จักกิจกรรมท่องเที่ยวเขิงนเวิศที่น่าสนใจในภุมิภาคอาเซียนร่วมทั้งในประเทศไทย ดังต่อไปนี้
              ลาว.. "เนชั่นแนลจีโอกราฟิก" ขนานนามดินแดนแห่งนี้ว่า เป้นจุดหมายปลายทางแ่งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่กำลังขึ้นชื่อลือชาในเวลานี้ สืบเนื่องจากนโยบายภาครัฐที่จะสร้างให้ประเทศเล็กๆ ที่ไม่มีทางออกสุ่ทะเลแห่งนี้เป็น "รัฐนิเวศประชาชาติ"
              นิตยสาร ฟอร์บ ได้ยกตัวอย่างธุรกิจรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเป้นบังกะโลริมแม่น้ำที่ตั้งอยุ่ใกล้เขตป่าสวนทางตอนเหนือของประเทศ โดยที่ผุ้ประกอบธุรกิจมุ่งมั่นที่จะลดการท้ิงของเสียอย่างจริงจังด้วยการลทุนติดต้งระบบรีไซเคิลและโรงหมักปุ๋ยเืพ่อชจัดองเสรียที่เกิดจากธุรกิจของตัวเอง จนเป็นหนึ่งในกิจการที่ได้คำรับรองว่าเป็นธุรกิจท่องเที่ยวที่ยัะงยืน จาก กรีน โกล์บ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ช่วยยกมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ธุรกิจโรงแรม
          อินโดนีเซีย.. มีแหล่งที่พักในแบบท่องเที่ยวเชิงนิเวศอยุ่จำนวนมาก โยทำเนียบ เวิร์ด เบส กรีน วาเคชั่น ของนิตยสาร ฟอร์บ ยกรีสอร์ตที่ชื่อว่า Misool Eco Resort ให้ตื่นตาตื่นใจกันว่าเป็นแหล่งพักตากอากาศที่อัศจรรย์สมคำร่ำลือ ตัวกระท่องเมที่พักทอดตัวเป็นแนวเรียงรายเหนือผิวน้ำอันใสสะอาด จนผุ้มาเยือนใช้เป็นจุดดำน้ำชมโลกใต้ท้องทะเลได้เลย รีสอร์ตอยู่บนเกาะส่วนตัวอันสงบเงีย ต้องใช้เวลาเดินทางทางอากาศจากกรุงจาการ์ตาถึงห้าชั่วโมง นอกจานี้แล้ว รีสอร์ตยังรับหนาที่เฝ้าดุแลทรัพยากรธรรมชาติได้พื้นน้ำกว่า  640 ตารางกิโลเมตร ด้วยวางข้อตกลงร่วมกับชาวบ้านว่าจะไม่หาปลาในแถบนี้มาตั้งแต่ปี 2005

             ฟิลิปปินส์.. ด้วยสภาพภุมิประเทศที่เป้ฯหมู่เกาะทำให้ฟิลิปปินส์เหมาะอย่งยิ่งสำหรบกิจกรรมท่องเที่ยวเชินิเวศโดยเฉพาะโปรแกรมอันโดดเด่นจนหาที่ไหนเทียบได้ยาก นั่นคือการชมฉลามวาฬ ที่เมืองคอนซอล
              ข้อมูลจากเว็บไซต์ ไลฟ์ สไตล์ ระบุว่า ดอนซอล เป้นเมองเล็กๆ ของฟิลิปปินส์ที่ขึ้นชื่อว่าเป้ฯ "ศุนย์รวมฉลามวาฒของดลก" ประหนึ่งเป้นเมืองหลวงของประชากรสัตว์น้ำสายพันธุ์นี้ ทั้งนี้ ฉลามวาฬจะเร่ิมชุมชุมในช่วงพฤศจิการยนไปจนถึงมิถุนายน และจะว่ายมาโชว์ตัวให้เห็นชัดๆ ในช่วงกุมภาพันธ์ ทั้งน้ ฉลามวาฬจะเริ่มชุกชุมในช่วงพฤศิการยนไปจนถึงมิถุนายน และจะว่ายมาโชว์ตัวให้เห็นชัดๆ ในช่วงกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม โดยเมืองี้มีการจัการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ประยุกต์ใช้ในงานอนุรักษ์ประชากรฉลามวาฬ ทำให้การท่องเที่ยวช่วยสร้างรยได้ให้แก่ชุมชนละแวกนั้นเป้นจำนวนมาก
               ความสำเร็จทั้งหมดนี้เกิดจาแรงสนับสนุนของรัฐบาลและองค์กรพันาเอกชน ที่สงเสริมให้เกิดทัวร์ชมฉลามวาฬในสภาพธรรมชาิต จนปัจจุบันการ่องเที่ยวสีเขียวคล้ายกับการเดินป่าในประเทศไทย ไปจนถึงสภานตากอากาศในเขตป่าร้อนชื้นที่เป้ฯมิตรต่อสภาพแวดล้อม
              Taman Negara ขึ้นทะเบียนเป็นป่าอนุรักา์ตั้งแต่ปี 1938 จนปัจจุบันเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ 4,343 ตารางกิโลเมตร เป็นป่าฝนเมืองร้อนเก่าแก่ผืนหนึ่งบนโลก และเป็นที่หมายปลายทางในหมู่นักท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่รู้จักกนดี ป่าแห่งนี้ยังเป็นแล่งอาศัยของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธ์หายากมากมาย เช่น เสือมาลายา แรดสุมาตรา นกแว่นสีน้ำตาล เป็นต้น เอกลักษณ์อันโดดเดนของป่าดงดิบผืนนี้คือทางเดนชมธรมชาติที่เป้นสะพานแขวนเชือกลัดเลาะไปตามสภาพป่า สูงเหนือพื้น 45 ม. ยาว 510 ม. ซึ่งเป็นสะพานแขวนเชือกที่มีทางเดินยาวที่สุดในโลกอีด้วย
              หากกำลังหาที่พักแรมแนวนิเวศในเขตป่าดงดิน ในรายงานของ "ฟอร์บ" ช่วยชีเป้าไปที่้านพักในเมือง Sukau ที่นั่นเขาต้มน้ำร้อนด้วยพลังแสงอาทิตย์ พร้อมกบสร้างสะพานสัตว์เดินข้าม เพื่อช่วยให้ฝุงช้างอพยพ ได้สะดวกขึ้น และด้วยสภาพทิวทิศน์ที่มีทั้งป่าทึบ ท้องนา และแม่น้ำ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้งานด้านอนุรักษรพันะ์เต่าพื้นเมือง ที่สำคัญผลกำไรของรีสอร์ตแห่งนี้ยังนำกลับไปเจือนุ้นโครงการอนุรักษ์อื่นๆ ได้อีกด้วย
            ประเทศไทย.. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธู์พืช ได้พยายามวางมาตรการกำกับดูแลการท่องเที่ยวอย่างเข้มข้นเพื่อตอบสนองต่อแนวคิดอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาให้คงอยู่ตามสภาพธรรมชาิอย่างดีที่สุด ังตัวอย่างจากนังหวัดกระบี่ที่วางกฎระเบียบดูแลนักท่องเที่ยวตามเกาะแก่งน้ยใหญ่ในทะเลอย่างเคร่งครัด รวมทั้งกำหนดบริเวณเพื่อดำน้ำดูปะการังที่แน่นอนเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลนักท่องเที่ยวตามเกาะแก่งน้อยใหญ่ในทะเลอยา่งเครงครัด รวมทั้งกำหนดบริเวณเพื่อดำน้ำดูปะการังที่แน่นอนเพื่อให้ง่ายต่อการดูแล
             
หากมีโอกาศพูดคุยกับชาวบ้าน ก็จะรับทราบถึงความคิดริเร่ิมด้านอนุรักษ์ที่น่าชื่นชม เช่น ความร่วมมือของชุมชนที่จะจัดเรือของตัวเองออกเก็บขญะตามเส้นทางเดินเรือของเือสำราญจากบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่ นำของไท่พึงประสงค์ในท้องทะเลขึ้นมาทิ้งบนบก
              กล่าวได้ว่า โครงการนี้ช่วยให้ "ชุมชนท้องถ่ินตระหนักถคงความสำคัญของแนวปะการังชายฝั่งของหมู่เกาะช้างมากกว่าเดิม และประสานความี่วมมือจากกลุ่มอนุรักา์ต่างๆ ในพื้นที่ รวมทั้งคนในชุมชน เพื่อบริหารจัการทรัพยากรชายฝั่งอย่างมีประสิทธิภาพจนสามารถสร้างรายได้ให้แก่ผู่ทำประมงพื้นานไปพร้อมๆ กับการลดวิธีหาปลาแบบผิดกฎหมาย รวมทั้งลดผลกระทบที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ และแนนอนวาการบริหารทรัพยากรชายฝั่งอยางยั่งยืน จะพัฒนาร่วมกับการท่องเที่ยวบนหมู่เกาะแห่งนี้ได้"
              ดังนัน ไม่ว่าจะเดินทางท่องเทียวไปยังที่ใด เราพึงต้องสำนึกและรระลึกอยู่เสมอถึงหน้าที่ที่จะต้องอนุรักษ์และมีส่วนในความยงยืนของที่นั่น ประเด็นนี้หาใช่แค่พันธกิจอันแสดนดรแมนติกที่ใครๆ ก็อย่างแสดงตัวปกปักรักษาโลก แต่เป้นหน้าที่ที่ไม่ต่างจากงานหรือธุรกิจที่เราเป้นเจ้าของนั่นเอง คือต้องมุ่งหวังเป็นธุรกิจที่เกิดรายได้ที่ต่อเนื่องและยังยืน ชุมชนท้องถ่ินก็เช่นเดี่ยวกัน รายได้จากการท่องเที่ยที่ยั่งยืนจะยังประโยชน์คืนสุ่สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยืนนานและยาวไกล
              ในที่สุดแล้ว การท่องเที่ยวเชิวนิเวศก็เป็นประหน่งการเดินทางไปยังดินแดนในฝัน เมื่อไปถึงแล้วก็อย่ากกลับไปซ้ำอีกเรื่อยๆ การจะรักษาดินแดนแห่งนั้นให้เป็นดินแดนในฝันตลอดไป ทำให้คุณต้องเพินทางไปเยื้อนอย่างมีสำนึกรับผิดชอบนั่นเอง...http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9580000068319

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

“Zero-Dollar Tour”

           ทัวร์ศูนย์เหรียญ มะเร็งร้ายทำลาความสัมพันธ์
            งานวิจัยในชื่อว่า "ลู่ทางสู่ความสัมพันะ์อันดีระหว่างไทย-จีน ผ่านการท่องเที่ยว" แต่โดยเนื้อหาแล้ว เป้นกาขุดโคตรเหง้าของขบวยการอุบาทว์ ที่ค่อยบันท่อนความสัมพันธ์อันดีระหว่ง ไทย-จีน ลงไปเรื่อยๆ นั้นคือขบวนการ "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ที่รู้จักดันดี
            ทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ คณะนักท่องเทียวจีน ที่เดนทางเข้ามาท่องเที่ยวยังปะเทศไทยโดยซื้อทัวร์จากเอเยนต์ทัวร์ในประเทศจีน ซึ่งเก็บค่าทัวร์น้อยมาก ก่อนที่บริษัททั่วร์เหล่านั้นจะสงลูกทัวร์ทั้งกรุ๊ปมาให้บริษัททัวร์ในประเทศไทย โดยที่ตนเองไม่ต้องจ่ายค่าทัวร์แฟร์ อันเป้ฯค่าใช้จ่ายในการพาเที่ยวที่เก็บมาจากลูกทัวร์ให้กับเอเยนต์ฝ่ายไทยเลแยแม้แต่เหรียญเดียว( อันเป้นที่มาของคำว่ "ศูนย์เหรียญ"  คือไม่เห็บเงินค่าทัวร์เลยแม้แต่เหรียญดอลล่าร์เดียว
           แม้จะเป็นทัีวร์ที่ราคาถูกผิดปกติ แต่นักท่องเที่ยวจีนก็ไม่ได้เฉลี่ยวใจ เรพาะเห้ฯแก่ของถูก และอย่ากเที่ยว จึงตกเป้นเหยือผุ้เคาะห์ร้ายไปโดยปริยาย ซึงเมื่อมาถึง ก็จะโดนไกด์เถือนพาตระเวณซื้อของแพงๆ ช้อปปิ้งสินค้าราคาสุดโหด รวมถึงพาดุโชว์ลามกวิตถาร โดยใช้กับดักเหล่านี้ดูดเงินจากระเป๋านักท่องเที่ยวเพี่อรีดเอากำไร หากนักท่องเที่ยวจีนไม่ยอมควักตังค์ หรือจ่ายน้อย ก็จะถูกขู่เข็ญสารพัด บางคร้งถึงขั้นลงมือลงไม้ทำร้ายกันก็มี
           นักท่องเที่ยวจีเองพุดภาษาอังกฤษไม่ได้ สื่สารก็ไม่รู้เรื่อง เมื่อต้องมาโดนขู่ จึงจำใจยินยอม หาไม่แล้วก็จะโดนทรมานทรกรรมต่างๆ นานา จะร้องเรียนกับใครก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้เรื่อง พุดภาษาอังกฤษไม่เป็นแถมไกด์เถือนตัวแสบยังยึดพาสปอร์ตไว้ จึคจำยอมต้องโดนรีดไดเงินทองทั้งๆ ที่ส่วนมากจะไดชมเต็มใต คล้ายๆ กับการปล้นกันซึ่งๆ หน้านีเอง
           ทัวร์ศูนย์เหรียญ เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินหทยเป้ฯเวลาเกือบ 10 ปี และยังไม่มีที่ท่าว่าจะจบสิ้นลง ในขณะที่เรากำลังเฉลิมฉลอง 30 ปี ความสัมพันธ์กันอย่างชื่นมื่น แต่น้อยคนจะกล่าวถึงการหลอกลวงนักท่องเที่ยว ด้านมืดของความสัมพันะ์ไทย-จีน มะเร็งร้ายที่กำลังแตกตัวอย่างรวดเร็ว และบ่อนทำลายภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทยในสายตาชาวจีนในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
            ประโยชน์อันใด หากเอาแต่เฉลิมฉลอง แต่ไม่พัฒนา หากเอาแต่รำลึกความหลัง แต่ไม่แก้ไขปัจจุบันเพื่อนาคตที่ดีกว่า... หรือเราอยากให้การเฉลิมฉลอง 30 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน เป็นครั้งสุดท้ายhttp://www.okls.net/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%8A%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3/342-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A8%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8D

           "ศรีวราห์" ร้องกองปราบฯ เอาผิดทัวร์ศูนย์เหรียญ 29 แห่ง ผิด พ.ร.บ. ธุรกิจนำเท่ียวฯ -แข่งขันทางการต้า
         
พล.ต.อ. ศรีวราห์ หล่าว่าตามที่ท พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้เร่งรัดดำเนินคดีกับกลุ่มผุ้กระทำควาผิดซึ่งมีพฤติการณ์เป็นทัวร์ศุนย์เหรียญ ซึ่งกระทบต่อนักท่องเที่ยว ระบบเศราฐกิจ และความมั่นคง โดยทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผุ้ต้องหาไปปล้ว ต่อมาศาลอาญา มีคำพิพากษายกฟ้องคดี อย่างไรก็ดีขณะน้ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายละเดอียดต่างๆ ในสำนวนคดีเพิ่มเติม จึงมการพิจารณาเข้าร้องทุกข็เพื่อดำเนินคดีบริษัทห้างร้านที่ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมดังกล่าว
            ผู้สื่อข่าวถามถึงพฤติการณ์ของบริษัทห้างร้านที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้ พล.ต.อ. สรีวราห์ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์รายละเอียดต่างๆ อย่ในส่วนสำนวนคดี ไม่สามารถเปิดเผยได้  แต่มีการพิจารณาตามพยานเอกสารเดิม แต่เป็นประเด็นใหม่คนละส่วนกับที่ศาลพิพากษายกฟ้อง ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้แจงในรายละเอียดเนื่องจากกระทบกับหลายฝ่าย แต่ตนยังมีความมั่นใจนพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าจะสามารถเอาผิดกับบริษัทห้างร้านทั้งหมดได้เนื่องจากเป้นกลุ่มผุ้ถูกกล่าวหาที่เหลือซึงบยังไม่ถุกดเนินคดี อย่างไรก็ตามผุ้ประกอบกิจการทั้ง 29 บริษัท มีการกระทำความผิดหลีกเลี่ยงภาษีตามประมวลรัษฎากรหรือไม่ ทาง พล.ต. อ. ศรีวราห์ กล่าวว่า เป้ฯหน้าที่ของตำรวจกองปราบปรามในการดำเนินการ หากพบว่ามีความผิดใดก็จะต้องดำเนินคดี
            รอง ผบ.ตร.หล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนพิจารณาจากคำสั่งของอัยการที่ให้สอบสวนเพ่ิมเติม เราจึงพิจารณาว่ายังมีส่วนใดที่ยังไม่ครอบถ้วนจึงดำเนินการก่อนรายงานต่อ ผบ.ตร. เห้นชอบห้เข้าร้องทุกข็ดำเนินคดี ส่วนจะเข้าข่ายความผิดอื่นใดอีกหรือไม่ ทางพนักงานสอบสวน บก.ป. ก็จะรับไปพิจารณา อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่ไ้พิจารณาดำเนินคิดีในข้อหาอังยี่ ซ่องโจร และความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ส่วนกรณีที่ บริษั โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคณะทำงานในคดีทั่วร์ศุนย์เหรียญ นั้น เป้นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนกฎหมายซึ่งเป้นระบบกล่าวหา...
            บริษัทที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี แบ่งออกเป็น 6 กลุ่มประกอบด้วย
            - กลุ่มบริษัทที่เช่ารถทัวร์จากบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้แก่ บริษัทหลงเสียง เอ็กซ์เพลส จำกัด, บริษัท ไท่ ลา หลง ทราเวล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เหลี่ยน ไท่ ราเวล กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ยู วี แทรเวล แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด
            - กลุ่มบริษัทในเครือข่ายของบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ใได้แก่ บริษัท อาร์ จี ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท รอยัล ดราก้อน ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท ออลสตาร์ ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท รอยัล พารากอน ทรานสปอร์ตจำกัด และบริษัท เอเชียวิชั่น ทราเวล จำกัด
            - กลุ่มร้านค้าในเครือของบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้แก่ ร้านเวิลด์ เจมส์ พัทยา, ร้านผ้าไหม พัทยา, ร้านรังนก พัทยา, ร้ายพระเครื่องที่วัดหนองเกตุน้อย อ.บางลุมุง จ.ชลบุรี และห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล สวนประเพณีไทย
            - กลุ่มบริษัทนำเที่ยวที่เช่ารถทัวร์จากบริษัท สยามเจมส์ จำกัด ได้แก่ บริษัท ฟู่คัง ทราเวล แอนด์ทัวร์ จำกัด, บริษัท คัต้า กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ซันตาโรซ่า ราเวล 2000 จำกัด และบริษัท ไทยซิงหย่าโจว ทัวร์ (ประเทศไทย) จำกัด
            - กลุ่มบริษัทรถทัวร์ในเครือข่ายของบริษัท สยามเจมส์ จำกัด ได้แก่ บริษัท เฟิส ท์ ทรานสปอร์ต จำกัด บริษัท เอส ซี. สมชัยบริการ จำกัด และบริษัท โกลเด้นไทยแทรเวล จำกัด และ
            - กลุ่มร้านค้าในเครือของบริษัท จำกัด บริษัท พี.พี. สยามรีเทล จำกัด บริษัท เรสท์ แอท 88 จำกัด, บริษัท พี.พี. สยามลาเท็กซ์ จำกัด, บริษัท สยามปาร์ค  เร็ครีเอเชั้น จำกัด และบริษัทสยามเจมส์ จำกัดhttp://www.bangkokbiznews.com/news/detail/775668
            ผบ.ตร,ตั้งทีมทำคดีบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญเลี่ยงภาษีพันล้าน ลุ้นอัยการยื่นอุทธรณ์ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผุ้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศราฐกิจ (ปอศ.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผุ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนกรณีที่กรมสรรพากรเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท โอเอทรานสปอรืต ซึ่งเป้นบริษัททัวร์ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวจีนหลบเลี่ยงภาษีมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยมี พล.ต.อ. รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. รับผิดขอบงานกฎหมายเป็นหัวหน้า
         
"เบื้องต้นได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรในฐานะเป้นผุ้เสียหายของรัฐไปแล้วหลายปาก ความผิดที่พบส่วนใหญ่เป้นการเจ้ารายได้ต่ำกว่าที่ได้รับ บริษัทที่เข้าข่ายหลบเลี่ยงภาษีมากว่า 3 บริษัท มีมูลค่าความเสียหายกว่า พันล้านบาท" พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ กล่าว
            พล.ต,ต. ปิยะพันธ์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ดำเนินการในทุกมิติ หากสอบสวนไปถึงผุ้ใดให้ดำเนินการ ไม่ละเว้น เน่องจากมีมูลค่าความเสียหายต่อรัฐเป็ฯจำนวนมาก และกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
            สำหรับกรณีศาลพิพากษายกฟ้งอบริษัท โอเอฯ และจำเลยรวม 13 รายนั้น พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า คดียังไม่ถึงที่สุดยังมีชั้นอุทธรณืและฎีกา ขณะนี้รออัยการว่าจะมีคำสั่งอุทธรณ์คดีหรือไม่ ภายใน 30 วันนับตั้งแต่ขั้นต้นมี คำพิพากษาซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 25 ก.ย.นี้ หากอัยการต้องการพยานหลักฐานหรือสอบเพิ่มในประเด็นใด ตำรวจก็พร้อมดำเนินการhttps://www.posttoday.com/social/general/515556
            วันที่ 25 ส.ค. 2560 ทีห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ศาลอ่านคำพิพากษาคดี "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 3 เป็นโจทก์ฟ้องครอบครัว "โรจนรุ่งรังสี" รประกอบด้วยนายธงชัย อดีต กก.บริษัท ไทยเฮิร์บฯ นางนิสา กก.ผจก. บริษัท รอยัลเจจมส์ฯ บริษัท รอยัง ไทยเฮิร์บฯ บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ ฯ และบริษัท รอยัล พาราไดซ์ฯ นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี กก.บริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จก. ผุ้ประกอบกิจการให้เข่าบริการรถบัสแก่นักท่องเที่ยว, น.ส. สายทิพย์ โรจน์รุ่งรังสี กก.บริษัท บ้านขนมทิพย์ฯ กับพวกร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-13 ฐานเป็นอั้งยี่ พ.ร.บ. ้ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ร.บ. นำเที่ยวและมัคคุเทศก์
           กรณีเมื่อระหว่างเดือน ก.พ. 56 -ก.ย. 59 จำเลยกับพวกอีหลายคนที่หลบหนีได้กระทำผิดกฎหมายหลายกรรมโดยประกอบธุรกิจนำเที่ยวบริษัท ฝูอัน ทราเวลฯ และบริษัท ซินหยวน ทราเวลฯ นำนักท่องเที่ยวจากจีนจำนวนมากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยลักษณะทัวร์ต้นทุนต่ำ ไม่มีค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า "ทัวร์ศุนย์เหรียญ" จากนั้นบังคับให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าจากบริษัทฯ และกิจการในเครือของจำเลยทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับความเสียหายนับหมื่นล้านบาท ซึงเป้ฯการกระทำลักษณะอัง้ยี่ มีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาท มีการนำเงินจากนักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าราคาสูงเกินจริงไปฟอกเงน ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
         
 อ่ย่างไรก็ตามศาลพิเพคราะห์พยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ยที่นำสืบหักล้างกันแล้วข้อเท็จจริงปรากณว่า พวกจำเลยประกอบธุรกิจให้เข่ารถบัสนำเที่ยวและจำหน่ายสินค้าแ่นักท่องเที่ยวเป้นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวมิใช่ประกอบธุรกิจนำเที่ยว จึงไม่ต้องขอจดทะเบียน ส่วนคำว่า "ทัวร์ศุนย์เหรียญ" เป็นหารเรียกเก็บเงินนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน และมีการกำหนดโปรแกรมท่องเที่ยวเอาไว้ก่อนแล้วซึงในไทยมีการประกอบธุรกิจลักษณะเช่นนี้กว่า 300 บริษัทมีการแข่งขันค่อนข้างสูงซึ่งเป็นกลยุทธทางการตลาด กลุ่มพนักงานสอบสวนต่างๆม่เคยเดินทางไปตรวจสอบร้านค้ำและกิจการของจำเลย
           ขณะที่พวกจำเลยก็นำสืบสอดคล้อทำนองเดี่ยวกันว่า ไม่ได้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว แต่ประกอบธุรกิจให้เช่รรถบัสกว่า 2 พันคัน และมีร้านจำหน่ายสินค้าแก่นักท่องเทียวจำนวนมากมีเงินทุนหมุนเวียนกันในบริษัท ก่อนถูกจับกุมอย่างไม่เป็นธรรม และถูกฟ้องศาลแพ่งยึดและอายัดทรัพย์สินกว่า สามพันหกร้อยล้านบาท ให้ตกเป็ฯของแผ่นดิน ส่วนรถบัสก็ถูกอายัดโดยไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างมดจนล่วงเลย 90 วันตามกฎหมาย ศาลเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมา ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงดทษพวกจำเลยตามความผิดที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องได้พิพากษายกฟ้อง...https://www.dailynews.co.th/crime/594181
           คดีทัวร์ศุนย์เหรียญ บทเรียนกระบวนการยุติธรรม
            กรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิของ ปปง.แนะไทยต้องปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม หลังกรณีศาลอาญายกฟ้องคดีทัวร์ศุนย์เหรียญ ขณะที่ ปปง. ยึดทรัพย์สินบริษัทไปแล้วกว่า 5 พันล้านลาท ก่อนหน้านี้
            รศ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ กรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการป้งกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ระบุว่า กรณีนี้ ปปง.อายัดทรัพย์สินในเครือบริษัททัวร์ศุนย์เหรียญไปแล้วกว่า สีพันเจ็ดร้อยล้านบาท และยึดรถบัสนำเที่ยวอีกว่า สองพันคัน ส้างผลกระทบทั้งในแง่ธุรกิจและรายได้จากการทอ่งเที่ย ขณะที่ล่าสุดศาลยกฟ้อง เนื่องจากน้ำหนัก พยานหลักฐานไม่เพียงพอ หากคดีถึงที่สุดและศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด รัฐอาจต้องมีการชดใช่คาเสียหาย และคืนทรัพย์สินที่อายัดไว้ กรณีนี้จึงเป็นบทเรียน ที่ผุ้ที่เกี่ยวข้อง ควรมีการทบทวน พ.ร.บ.ซป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้ ปปง. มีหน่วยงานตรวจสอบขอบงตนเอง หรือให้ ดีเอสไอและอัยการ ตรวจสอบสำนวนก่อนฟ้องศาลเพื่อป้องกันความผิดพลาดในลักษณะไม่ให้เกิดขึ้นอีก พร้อมกันนี้ยังแสดงความเป็นห่งว่าตอนนี้มี ปปง. ยังมีคดีที่อยุ่ในขั้นตอนการฟ้องร้องกว่า พันคดี หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันย่อมจะสงผลเสียต่อภาคธุรกิจของประเทศเป็นอย่างมาก...https://news.voicetv.co.th/thailand/519040.html
         
             

วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Sport Tourism

         
 จับตา "2017-2018" ไทยก้าวสู่สปอร์ตทัวริซึ่มเต็มตัว
            ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา วงการกีฬาในเมืองไทยถือว่ากำลังก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก ทั้งผลงานของนักกีฬาที่เร่ิมก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลกกันมากขึ้นรวมไปถภึงกีฬาอาชีพในไทยตื่นตัวขึ้นมา
             ที่่านใมา เรามักจะรู้จักกับวงการกีฬาในส่วนของความเป็นิลิศ ซึ่งหมายถึงการแข่งขันเพื่อชัยชนะ และการเป้นอันดับหนึ่ง อย่างเช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์, เอเชีย่ยนเกมส์ หรือว่าซีเกมส์
             แต่ทว่าในระยะหลัง มีัจะใด้ยินคำว่า Sport Tourism หรือการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวก ันบ่อยคร้งมากขึ้น จากการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความคิดที่จะนำการกีฬาไปสู่การเปิดตลาดการท่องเที่ยวนำนักกีฬาต่างชาติเข้ามาสร้างรายได้ให้กับประเทสไทย
            "กอบกาญจน์ วัฒนาวรางกุร" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและ กีฬา ตอกยำ้แนวคิดนี้มาโดยตลอด ดดยมองว่าวงการกีฬาไทยนันนอกเหนือไปจากการแข่งขันเพื่อความเป็นเลิศต่างๆ แล้ว ควรจะต้องก้าวไปสู่การป็นศูนย์กลางจุดมุ่งหมายทางด้ารกีฬา หรือ "Sport Destination" ในภุมิภาคอาเซียน
             อย่างเช่น การเป็นศูนย์ฝึคกกีฬา (สปอร์ตฮับ) ทีจะกระจายไปอยู่ในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่น "พัทยา, หัวหิน, หรือว่า ภูเก็ต เพื่อที่จะเป็นการนำนักกีฬาต่างชาติเข้ามาฝึกซ้อมในช่วงเวลาพักเบรก ซึ่งเมื่อนักีฬาเหล่านี้เข้ามาฝึกซ้อมแล้ว สิ่งที่ตามมาด้วยแน่นอนว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่นั้นๆ แน่นอน
           
หรือในด้านของการรบหน้าเสื่อจัการประชุมองค์กรกีฬาต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งจะเป้นการเชื้อเชิญผุ้ที่มีอำนาจในวงการกีฬาสาขาต่างๆ เข้ามายังประเทศทไย แสดงให้เห็นถึงควรามพร้อมของประเทศไทย และประกาศให้ทีั่วดลกรู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
              นอกจากนี้ ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่คือการจัดทั่วร์าเมนต์ กีฬาต่างๆ ที่เป็นระดับนานาชาติ ซึ่งจะมีนักกีฬาต่างชาติเดินทางเข้ามาในเมืองไทยเป้นจำนวนมาก แม้ว่าอาจะเป้นระยะเวลาที่ไม่นานมากแต่ก็บ่วยสร้างให้เงินสะพัดในประเทศได้หลายพันล้านบาท
              หนึ่งในจังหวัดที่เร่ิมจุดประกายสำหรับการแข่งขันกีฬาแบบนี้ ก็คื อจังหวัด บุรีรัมย์ หลังจากที่ได้มีการสร้างสนามมอเตอร์สปอร์ตอย่าง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ขึ้นมา ก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางของกีฬามอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย ที่มีทัวร์นาเมนต์ทั้งไทยและนานาชาติเข้ามาแข่งขันกันเป็นจัำนสนมาก และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์เพ่ิมขึ้นอย่างมหาศาลในแต่ละปี
             ไทยนั้นกำลังเดินมาถูกทางกับการผลักดันในส่วนของการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวเพราะไม่ว่าจะเป้ฯกาจัดกีฬาทัวร์นาเมนต์สั้นๆ การสร้างสปอร์ตฮับ หรือจัดประชุมต่างๆ นัั้น ไมต้องใช้เงินลงทุนปนจำนวนมาก แต่ได้ผลตอบแทนค่อนข้างสุงจากรายได้ของนักกีฬาและชาวต่างชาติที่จะเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในช่วงระยะเวลาที่อยู่ในเมืองไทย
              นอกเนหือไปจากทั่วร์นาเมนต์ที่เข้ามาแข่งขันกันแล้ว สังคมไทยในตอนนี้หัมาสนใจสุขภาพกันมากขึ้น จะเห้ฯได้ว่าในแต่ละสัปดาห์จะมีรายการวิ่งมาราธอน หรือไตรกีฬา สลับกับแช่งขันอยู่อย่างต่อเนื่อง วึ่งการแข่งขันเหล่านี รายการใดที่เป้ฯระดับนานาชาติ ก็มักจะเห้ฯนักีฬาเดินทางเข้ามาแข่งขันเป้ฯจำนวนมากด้วยเช่นกัน
              ยิ่งตอกย้ำเป้นอย่างยิ่งว่าไทยกำลังมาถูกทางแล้วในเรื่องของการพัฒนากีฬาเพื่อการท่องเที่ยว
              " สกล วรรณพงษ์" ผุ้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กีฬาเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นกำลังดีวันดีคืน และกำลังอยู่ในกระแส ไม่เพียงแต่ทัวร์นาเมนต์กีฬาเท่านั้น ในสวนของกีฬาเพ่อสุขภาพ ทั้งวิ่งมาราะอน หรือไตรกีฬาต่างๆ มีแข่งขันกันอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3-4 รายการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป้นสปอร์ตทัวริซึ่มแทบทั้งสิ้น ที่จะช่วยนำรายได้เข้ามาสู่เมืองไทยและทำให้เมืองไทยกลายเป้นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
             
โดยเฉพาะอย่งยิ่งเมื่อกวาดตาดุในช่วงปี 2017 -2018 กำลังจะกลายเป็นปีที่มีอเเวนต์กีฬาระดับโลกเข้ามาจัดในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก เร่ิมตั้แต่มอเตอร์สปอร์ตที่มีความเร็วสุงสุดในโลกอย่างการแข่งขันกีฬาทางอากาศ แอร์ เรซ วัน ที่ได้มีปรีอีเวนต์ไปเมื่อช่วงปลายปี 2016 ที่ผ่านม ก่อนที่ไทยจะได้เป้นเจ้าภาพการแข่งขันระดับเวิลด์ซีรี่ส์ในปีนี้ ซึ่งเป้นทัวร์นาเมนต์ระดับโลก
               ขณะที่ความคืบหน้าของการดำเนินการขอเป้นเจ้าภาพการแข่งขันรถมอเตอรืไซด้ทางเรียบชิงแชป์ดลก หรือ โมโต จีพี ก้คืบหน้าไปมาก
             ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนั้น ไทยจะเซ้นสัญญาเป็นเจ้าภาในเดือน เมษายนนี้ เพื่อนำโมโต จีพี มาจัดในประเทศไทยในปี ค.ศ. 2018 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิจ จ.บุรีรัมย์ และเซ็นสัญญาต่อเนื่องยาวไปถึง 3 ปี
             นอกจากนี้ วงการแบคมินตันไทย ก็เพิ่งได้รับข่วดีเมื่อ "สหพันธ์แบดมินตันโลก" ได้ให้ไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันแบดมินตันทีมชายชิงแชมป์โลก "โธมัสคัพ" และแบดมินตันทีมหญิงชิงแชมป์ฺโลก ฮุเบอร์คัพ รอบสุดท้ายในปี 2018 และจัดการประชุมใหญ่สหพันธ์แบดมินตันโลก
            รวมไปถึงได้จักดารแข่งขันระดับ "ซูเปอร์ซีรีส์ ที่จะมีนักแบดมินตันระดับมือ 1-10 ของโลกเดินทางมาเข่งขันต่อเนื่องเป้นเวลา 4 ปี ตั้งแต่ 2018-2021  ซึ่งยังไม่รวมถึงการแข่งขันเดิมๆ ที่ไทยมักจะเป็นเจ้าภาพยองูอย่งต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันวอลเลย์บอล เวิลด์ กรังด์ปรีช์ เป็นต้น
             ด้านวงการฟุตผอบไทยเองก็ได้รับข่าวดี เมื่อ "สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี นั้นเลือกให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในงานประกาศนรรงัล เอเอฟซี อวอร์ด ซึ่งนักฟุตบอดชั้นนำทั่วเอเชีย จะเดินทางเข้ามาสู่ปะเทศไทยเพื่อรอรบรางวัลในงานนี้อย่างคับคั่ง
           
รวมไปถึงการที่กระทรวงการท่องเที่ยวแลกีฬา มีแนวคิดที่จะเสนอตัวเพื่อเป้นเจ้าภาพการจัดประชุมสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ หรือ สปอร์ต แอคคอร์ด คอนเวนชั่น 2018 ที่จะมีผุ้แทนองคก์กรกีฬาต่างๆ รวมไปถึงคระกรรมการโอลิมปิกสากล เข้ามาร่วมประชุมในประเทศไทยกว่า 2,000คนด้วยกัน
             เรียกได้ว่าเป้นช่วงเวลาที่น่าติดตามอย่างยิ่งว่าการเดินหมากของวงการกีฬาไทย พื่อการก้าวเข้าสู่การเป็นสปอร์ตทัวริซึ่มอย่างจริงจังครั้งนี้จะทำได้ดีขนาดไหน
              ผุ้ว่การ กกท. ให้ความเห็นว่าสุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญของการนำอีเวนต์กีฬาต่างๆ เข้ามาในเมืองไทยมากขึ้นนั้น ก็เพื่อต้องการให้คนทั่วดลกได้รู้จักศักยภาพของคนไทยมากขึ้น และในส่วนของการแข่งขันนั้น จะช่วยให้ประชาชนชาวไทยได้ชมกีฬาอย่างใกล้ชิด สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนหันมาสนใจกีฬามากขึ้นนั่นเอง...
            https://www.matichonweekly.com/column/article_30102

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...