Backpacker

         
แบกแพ็กเกอร์ ถ้าแยดตามคำ ตามความหมายด็หมายถึง คนที่บรรจุสิ่งของไวดานหลังซึ่งก็คือ กาแบกกระเป๋า หรือเป้นั่นเอง ดั้งเดิมริเร่ิมมาจากชาวต่างชาติเดินทางแบลกเป้ออกท่องเที่ยวแนวนี้ว่า "แบ็คแพ็คเกอร์" มาจนถึงปัจจุบัน สำหรับในเมืองไทย ก็ถือได้ว่าเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแบบ "แบ็กแพ็คเกอร์" เพราะเมืองไทยนั้นมีความปลอภัยสูง และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั่วไปสามารถพูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษซึ่งถือเป็นภาษาสากลได้คล่องแคล่ว จึงเป็นที่นิยมในการเดินทางมาของชาวต่างชาติ และในปัจจุบันวัยรุ่นชาวไทยนั้นได้เริ่มนิยมเดินทางแบบนี้กันมากขึ้น ด้วยเหตุผลทางด้านความเป็นส่วนตัวและความประหยัด
              จึงเป็นภาพที่เราได้เห็นนักท่องเที่ยวสะพายเป้ หรือที่เราเรียกว่า เป็นจำนวนมากขึ้น ตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย โดยนักท่องเทียวกลุ่มนี้ไม่ต้องการความสะดวกสบายนัก ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัว อย่างสิ้นเชิง
             แบ็กแพ็คเกอร์ยังแบ่งออกเป็น
             - กลุ่มนักท่องเที่ยวสะพายเป้ ที่เดินทางเพื่อค้นหาสถานที่ ท่องเที่ยวใหม่ๆ ด้วยตนเอง จะไม่ใช่คู้มือเดินทางท่องเที่ยว ในการเดินทางไม่มีการ เตรียมข้อมูลก่อนการเดินทาง และไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและงบประมาณเพราะจะทำงานระหว่างเดนทาง เพื่อทำเงนิมาใช้ใน การท่องเที่ยว
             - กลุ่มนักท่องเที่ยวสะพายเป้ที่เดินทาง ดดยยึดคู่มือเดินทางท่องเที่ยว เป้ฯหลัก มีการศึกษาข้อมูลแต่ละประเทศลวงหน้า เลือกท่องเที่ยวไปยังสถานที่มีชื่อเสียงให้ได้มากที่สุด มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ และเวลาดดยสามารถเดินทางได้ไม่เกิน 3 เดือน หรือ 1 ปี
             - กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปที่เดินทางด้วยตนเอง ไม่พึ่งพา บริษัทนำเที่ยว มักมีการเตรียมแผนการเดินทางล่วงหน้า และมีระยะเวลาเดินทางจำกัด 2-3 สัปดาห์
             จุดเด่นของการท่องเที่ยว ในประเทศไทย เมื่อเปรียบเที่ยบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียมีกลุ่มนักท่องเที่ยวสะพายเป้ประทับใจ นอกจากจะเป้นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว อาหารไทยยังเป็นส่ิงที่นักท่อง
เที่ยว กลุ่มนี้มองว่ เป้นประสบการณ์แปลกใหม่ ที่เพิ่่มสีสันในการเดินทาง
             หลังจากตัดสินใจเลือกที่หมายได้แล้ว เบื้องตนก็เป็นการจัดเตรียมกระเป๋าสัมภาระการจักระเป๋าสำคัญไม่น้อย แม้จะไม่สำคัญเท่าชีวิต แต่มันก็เป็นครึ่งบีวิตในการเดินทางhttps://pantip.com/topic/30599675
          ถนนข้าวสาร เป็นถนนในท่องทเี่แขวงตลาดยอดเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีระยะทางตั้งแต่ถนนจักรพงษ์ หน้าวัดชนะสงคราม ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต จนถึงถนนตะนาวใกล้สีแยกคอกวัว
              อเล็กซื การ์แลนด์ เจ้าของบทประพันธ์ เรื่อง "เดอะ บีช" เคยให้คำนิยามถนนสายนี้ ในรายการ บีบีซี- เรดิโอ วัน ไว้อย่างน่าสนใจว่า ไจะมีที่ไหนหนอที่มี คนสารพันชาติมารวมตัวกันที่นี้ ที่ถนนข้าสาร ถนนที่เพียบไปด้วยเรื่องเหลือเชื่อ เพราะที่นี่่คุณจะหาเทปผีจากวงดังวงไหนก็ได้ในโลก มีที่พักราคาถูก
              สำหรับเกสเฮ้าส์ ที่มีชื่อเสียงมาช้านานและเป็นที่รุ้จักของนักท่องเที่ยวประเภท "แบ็กแพ็คเกอร์"ต่างประเทศเป็นอย่งดีจะมีอยู่ไม่กี่แห่ง ได้แก่ "ท็อป เกสท์ เฮาซส์" ที่ตั้งอยู่ข้างตรอกสวัสดี และ บอนนี่ เกสท์ เฮาส์ ซึ่งเป็นเกสเฮ้าส์แห่งแรกของถนนข้าวสารที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เป็นที่รุ้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดียว ราคาค่าเช่าห้องค้าคือนตามเกสเฮ้าส์ต่างๆ จะถูกมาก ถูกกว่าไป
พักตามโรงแรมหรูๆ คือ ราคาค่าห้องเริ่มตั้งแต่ 100 บาทไปจนถึง 500-600 บาทต่อวัน แต่ก็จะอยุ่กันเป็นเดือนๆ แต่คิดค่าเช่าเป็นรายวัน ราคาที่ว่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละสถานที่ที่เปิดให้บริการ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีโรงแรมขนาดกลางมาเปิดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งค่าห้องจะมีราคาสูงกว่า
           ถนนข้าวสารเป็นย่านการต้าทั้งกลางวันและกลางคืนที่มีสินค้ามากมายเช่น ร้านขายอาหารพร้อมกิน ตั้งแต่ อาหารฝรั่งเศส อาหารอินเดีย อาหารอิตาลี และอาหารไทยยอดนิยมอย่างผัดไทย และปอเปี็ยะ
  กิจกรรมบริการที่พักจะหนีไม่พ้น ร้านอาหาร โทรศัพท์ทางไกล ไปจนถึงการให้บริการรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ แม้ว่าบรรดาเกสต์เฮ้าส์ทั้งหลาน จะมีบริการครบวงจรให้ลูกค้า แต่ก็ยังมีร้านอนิเทอร์เหน็ตราคาถูก 50 สตางค์ต่อนาที หรือแม้แต่บาร์เบียร์ โดยมีร้านเช่า-ขายหนังสือมือสอง ร้านเสื้อผ้า รับปริการถักผม และร้านขายของพื้นเมือง
             ร้านเสื้อผ้าที่ข้าสสารนี้ก็มีให้เลือกหา ตั้งแต่ร้านผ้าไหมชั้นดีไปจนถึงเสื้อยืดคอกลมตราห่านราคาประหยัด เสื้อผ้ายอดนิยมที่เป็นวางขายกันมากที่สุด ก้เป็นเสื้อผ้าเนื้อบางประเภท กางเกงเล ผ้าบาติก เสื้อผ้าฝ้าย มีกางเกงนักมวยและผ้าถงแบบสำเร็จรูปให้เลือกสารพัดสี...https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3
             การท่องเที่ยวในแบบ "แพ็คแพ็คเกอร์"ในอาเซียน ที่น่าเที่ยวดังนี้
             ประเทศไทย (ภาคเหนือ ) แม้ประเทศไทยตอนนี้จะเน้นการท่องเที่ยแบบหรุหรา แต่ความเป็นสวรรค์ของเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ก็มิได้ลดน้อยลงไป เพียงแค่เปลี่ยนความคิด ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลง เช่นการนั่งรถไฟชิลล์ จากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ราคาค่าตั๋วรถไฟอยู่ประมาณ 12 เหรียญ และห้องพักธรรมดาๆ ราคาต่อคือ 3 เหรียญ หรือถ้าอยากได้ห้องส่วนตัวก็เริ้มต้นที่ 6 เหรียญ  ปล. ควรจะเที่ยวในช่วงหน้าหนาวของประเทศไทย..
            อินโดนีเซีย อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่สามารถไปเที่ยวชิลล์ได้ ไม่ถงกับแอดเวนเจอร์มากนัก นักท่องเที่ยวหลายคนคงจะรู้จัก บาหลี สถานที่ท่องเที่ยวหลักของที่นีอยู่แล้วเป็นอย่างดี บาหลีเป็นเกาะที่มีชายหาดสวยๆ ชือดังของอินโดนีเซีย ถ้าคุณยึดติดอยู่กับหาด Kuta และ Legion ชายหาดสวยที่อยู่ใกล้ดับสนามบินของบาหลีแล้วละก็ คุณจะต้องอึ่งไปเหมือนกันเพราะที่นี่ราคาไใช้จ่ายในการท่องทเี่ยวค่อนข้างสูงไม่ต่างจากประเทศทางฝั่งตะวันอตกเลยที่เดียว มีทั้งไนต์คลับ เซิร์ฟ และรีสอร์ทหรู่ราคาแพง กลับกันแค่นิดเดียว เข้ามาในตัวเมืองหน่อยที่อาจจะไม่ติดหาด ราคาจะถูกลงเปลี่ยนจากหน้ามอเป็นหลังมือเลยที่เดียว
       
 ที่พักถัดเข้ามนในเมืองแม้จะไม่หรุหรามาก แต่ก็มีเตียงระดับคิงไซส์ล ระเบียงส่วนตัว. ห้องอาบน้ำที่กว้างมากๆ ในราคาเพียง 10 เหรียญ เพราะฉะนั้นบาหลีก็ไม่ใช่ที่เที่ยวที่แพงมากอย่างที่คิดอีแล้ว นอกจากบาหลี อินโดนีเซียยังมีที่เที่ยวเกาะอื่นๆ ที่น่าสนใจ ทั้ง ลอมบุก และ สุมาตรา แน่นอนว่ายิ่งไกลออกไปการผจญภัยในอินโดนีเซียก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ  อาหารท่องเถิ่นก็น่าลอง ราคาอยุที่ประมาณ 2 เหรียญ คุณจะได้ทั้งข้าว ผัก ไก่ และไข่ แน่นอนว่าที่นีคุณจุมีความสุขกับการดินทางและราคาระดับท้องถิ่นอีกด้วย
           กัมพูชา
           เป็นประเทศที่ใช้เงินน้อยที่สุดในเอเชียตะวันออกเแียงใต้ และจะเป็นประเทศที่ยากจนมากทำให้การเดินทางค่อนข้างไม่สะดวกสบายเท่าไหร่นัก คุณอาจจะไ้นั่งรบัสหรือรถตู้เล็กๆ เก่าๆ ในการเดินทาง จึงไม่ค่อยเพลิดเพลินนัก สำหรับที่ท่องเที่ยวที่ต้องไม่พลาดของที่นีก็คือ นครวัด โบราณสถานที่ควรค่าแกการไปเยือน และุ้าอยากไปชิลล์ตามชายหาดก็ที่ Sihanouksvile ก็เหมาะมากที่เดียว
           คุณจะสามารถหาห้องพักราคาถูกได้ง่ายๆ ทีเมืองหลวงอย่างพนมเปญ หรือเสียมเรียบ ซึ่งอยู่ใกล้กับนครวัดในราคาเพียง 3-5 เหรียญเท่านั้น และห้องพักที่ค่อนข้งส่วนตัวขึ้นมาหน่อยจะอยู่ที่ 10 เหรียญซึ่งก็ไม่ได้แพงมาก สำหรับอาหารในกัมพุชานั้นก็มีรสชาติเฉพาะ แต่จะไม่เหมือนกับประเทศไทย และเวียดนาม ถ้าคุณอย่ากได้อาหารมือ้พิเศษที่ดีกว่าเดิมขึ้นมาอีหน่อย ก็แค่เพ่ิมเงินเท่านั้น กัมพุชายังมี นครวัด และปราสทบายน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใน 10  ที่เที่ยว สัญลักษณ์ของเอเชียอีกด้วยhttp://travel.trueid.net/detail/41108

             

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)