วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“The Grand Canyon State.”

            รัฐแอริโซนามีชื่อเล่นอย่างเป็นทางการว่า "รัฐแกรนด์แคนยอน"โดยมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่โด่งดังที่สุดของรัฐคือ แกรนด์แคนยอน AZ เป็นอังกษรย่อ 2 ตัวหรืออังษรย่อทางไปรษณีย์ ส่วน Ariz เป็นอักษรย่อแบบดัี้งเดิมหรือมาตรฐานของรัฐแอริโซนา ชื่อเล่นที่ไม่ป็นทางการอีกชื่อหนึ่งของแอริโซนาคือ "รัฐทองแดง" ซึ่งเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุอันล้ำค่าของรัฐ

            เป็นรัฐหนึ่งในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 14 จากทั้งหมด 50 รัฐ เมืองหลวงและเมืองที่วใหญ่ที่สุดคือ ฟินิกซ์ แอริโซนาเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคสี่มุมโดยมีรัฐยูทาห์อยุ่ทางทิศเหนือ รัฐโคโลราโดอยุ่ทางทิศตะวันอกเแียงเหนือ และรัฐ นิวเม็กซิโก อยุ่ทางทิศตะวันออก รัฐข้าเคียงอื่นๆ ได้แก่ รัฐเนวาดาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รัฐแคลิฟอร์เนีย ทางทิศตะวันตก และรัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย และ รัฐโซโนรา ของประเทสเม็กซิโก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้

           
 แอริโซนาเป็นรัฐที่ 48 และรับสุดท้ายในบรรดารัฐที่ติดกับรัฐอื่นๆ ที่เข้าร่วมสหรัฐ โดยได้รับสถานะรัฐเมือวัที่ 14 กุมภาพันธ์ 1912 ก่อนหน้านี้แอริโซนาเปห็นส่วนหสึ่งของดินแดน อัลตากาลิฟอร์เนีย ในนิวสเปน จากนั้นกลายป็นส่วนหนึ่งของเม็กซิโกซึ่งเป็นเอกราชในปี 1821 แต่หลังจากที่เม็กซิโกแพ้สงครามเม็กซิโก-สหรัฐ ในปี 1848 ทำให้ต้องเสียพื้นทีส่วนนี้ให้แก่สหรัฐ รวมกับพื้นที่ส่วนหนึ่งที่สหรัฐได้มาจากการลงนามใสนสนธิสัญญาเมซิยา ระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐในปี 1853 กลายเป็นพื้นที่ของรับแอริโซนาในปัจจุบัน

            ภาคใต้ของแอริโซนาขึ้นชื่อเรื่องภูมิอากาศแบบทะเลทราย โดยมีฤดูร้อนที่ร้อนจัดและฤดูหนาวที่ไม่หนาวจัด ส่วนภาคเหนือของแอริโซนามีป่าสนและสปรูซ ที่ราบสูงโคโลราโด ภูเขา (เช่น เขาแซนแฟรนซิสโก) และหุบผาชัขนาดใหญ่ โดยมีอุรหถูมิปานกลางในฤดูร้อนและมีหิมะตกในฤดูหนาว มีสถานเล่นสกีในพื้นที่แฟลกสแตฟฟ์ซันไรส์ และทูซอน นอกจากอุทยานแห่งขาติแกรนด์แคนยอน ซึ่งเป้นที่รุ้จักในระดับนานารชาติและเป็นหนึ่งในเจ้ดสิ่งมหัสจรรย์ทางะรรมชาติของโลกและ้ว แอริโซนายังมีป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ และอนุสรณ์สถานแห่งขชาติอีกหลายแห่ง

           จำนวนประชกรและเศรษฐกิจของแอริโซนาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 เนื่องจากการย้ายถ่ินข้ามา และปัจจุบันรัฐนี้เป็นศูนย์กลางสำคัญแห่งหนหึ่งในแถบแดจตะวัน พื้นที่ชานเมืองชนาดใหญ่ก่อตัวและแผ่ขยายออกไปนอกตัวนครต่างๆ อยางฟินิกซ์และทูซอน รัฐนี้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทขนาดใญ่ หลายแห่ง เช่น เพ็ดสมาร์ต และ เซอร์เคิลเค รวมทั้งเป็นที่ตังมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อย่าง มหาวิทยาลับแอริโซนา และมหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต แอริโซนายังเป็นที่รุ้จักจากการเป็นถ่ินนักการเมืองสายอนุรักษนิยม เช่น แบร์รี โกลต์วอเตอร และจอห์น แมคเคน แม้วารัฐนี้จะกลายเป็น รัฐสวิง มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษท 1990 แล้วก็ตาม

         แอริโซนาเป็นที่อยุ่อาศยของประชกรที่มีความหลากหลาย พื้นที่ประมาณหนึ่งในสี่ของรัฐ ประกอบเป็นเขตสงวนอินเดียนซึ่งทำหน้าที่เป็นบ้านของกลุ่มชนพื้นเมือง 27 กลุ่มที่ได้รับการรับรองจากรับบาลกลาง รวมถึง ชาตินาวาโฮ ซึ่งเป็นเขตสงวนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐและสหรัฐ โดยมีพลเมืองมากกว่า 300,000 คน ต้้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา สัดส่วนประชากรเชื้อสายอิสแปนิก ในรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการอพยพย้ายถ่ินเข้าจากเม็ซิโก ประชกรจำนวนหนึ่งของแอริโซนาเป็นสาวกของคริสตจักรโรมันคาทอลิก และศาสนจักรของพระเยซูคริสตืแห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย 

           แอริโซนาเป็นรัฐสำคัยที่สามารถช่วยผลักดันให้เข้ารัีบตำแหน่งประธานาธิบดีในที่จะมาถึง ชัยชนะของ บิล คลินตัน จากพรรคเดโมแครตในปี 1996 แอริโซนาได้โหวตให้พรรครีพัลลิกัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุกครั้งตั้งแต่ปี 1952 จนถึงปี 2016 พรรคเดโแมครตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่นัี้นในปี 2020 แต่ โจ ไบเดน เอาชนะทรัมป์ไปได้อย่างฉิวเฉียด ซึ่งเป็นเชีนนี้เสมอมา ก่อนทศวรรษ 1950 การหาเสียงในแอริโซนาเป็นเรื่อง่ายสำหรับผุ้สมัครอย่าง คาร์ล เฮย์เดน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตที่เคยดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากแอริโซนาตั้งแต่ปี 1927 -1969 การพูดจาไม่ใช่ีเรื่องใหญ่ ฉันแค่บอกพวกเขาว่าฉันเป็นเดโมแครต" เฮย์เดนกล่วในปี 1971 

          ในช่วงทศวรรษ 1850  ความสมดุลของพรรคการเมืองในรัฐแอริโซนาเร่ิมเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางประชากร ยุคนี้ทำให้เกิดระบบสองพรรคที่มีการแข่งขันกันมากขึ้นในรัฐแอริโซนา ทำให้พรรครีพัลลิกันมีคะแนนเสียงเหนือกว่า ในทศวรรษนี้ พรรครัพับลิกันจำนวนมากขึ้นย้ายถ่ินฐานจากมิดเวสต์ไปยังแอริโซนา ดดยส่วนใหญ่ตั้งถ่ินฐานอยู่ในพื้นที่ฟินิกซ์ในเขตมาริโคปา พรรคเดโมแครตอนุรักษ์นิยมในพื้นที่ชนบทของแอริโซนาก็หันมาสนับสนุนพรรครีพัลลิกันเช่นกัน เนื่องจากพรรคเดโมแครตมีแนวคิดเสรีนิยมมากขึ้นและพวกเขารู้สึกว่าพรรครีพัลลิกันมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมมากขึ้น

  มีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลด้วย เช่น อิทธิพลของหนังสือพิมพ์ชั้นนำของรัฐอย่าง "เดอะ รีพับบลิค และ เดอะ แกซีทที ซึ่งนำโดย ยูจีน พูลเลียนม ผู้จัดพิมพ์หนังสือพิมพ์ในฟินิกซ์พูลเลียมต้องการสร้างรัฐที่มีพรรคสองพรรคและบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ก็สะท้อนสิ่งนี้ด้วยการสนับสนุนนผุ้สมัครพรรครีพัลลิกันอย่างเปิดเผย

           พรรครีพัลลิกันของรับแอริโซนาขึ้นสุ่อำนาจในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นมิตรกับธุรกิจและมีแนวคิดปฏิรูป ดดยมุ่งหวังที่จะปฏิรูปโครงสร้างภาษีของรัฐและเพ่ิมการใช้จจ่ายด้านการศึกษาและดครงการทางสังคมอื่ๆ ซึ่งสะท้อนถึงพีรรครัพัลลิกัน สายกลางจากทั่วประเทศในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม พรรคยังมีกลุ่มศาสนาที่ยึดมั่นในหลักนิยมและหัวรุนแรง ซึ่งจะเติบโตในปีต่อๆ มาและมีอิทธิพลมากขึ้น

        ตั้งแต่ปี 1966 พรรครีพัลลิกันควบคุมสภาผุ้แทนราษฎรของรัฐไ้ และสูญเสียการควบคุมวุฒิสภาของรับเพียงไม่กี่ครั้ง แม้วาอำนาจของพรรครีพัลลิกันในสภานิติบัญญัติของรับจะลดลงในช่วงไม่กีปีที่ผ่านมา แต่พรรครัพับลิกันยังคงควบคุมทั้งสองสภได้ และปัจจุบัยพรรครีพัลลิกันครองทั่นั้งในรัฐสภาได้ 6 จาก 9 ที่นั่ง เคธี ล็อบส์ ผุ้ว่าการรัฐแอริโซนาเป็นพรรคเดโมแครต แต่เป็นชาวเดโมแครตคนแรกในรอบหลายปีที่ดำรงตำแหน่งนี้

          ปัจจุบัน พรรครีพัลลิกันมีจำนวนมากกว่าพรรคเดโมแครตในแง่ของการจุดทะเลียนพรรคในรัฐแอริโซนา โดยอยุ่ที่ 35% ต่อ 29% โดย 34% จัดเป็นผุ้มีสิทธิเลือกตั้งอิสระหรือไม่ได้สังกัดพรรค และที่เหลือจัดอยุ่ในกุ่มเสรีนิยมหรือสังกัดพรรคกรีน ในเวลาเดียวกัน แอริโซนาถือเป็นรับที่มีโอากสชนะสูง เนื่องจากพรรคเดโมแครตทำผลงานได้ดีในการเลือกตั้งระดับรัฐเมือเร็วๆ นี้ โดยแสดงให้เห็นถึงความเข็งแกร่งที่เพ่ิมขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าบางครั้งจะหนือกว่าพรรครีพัลลิกันก็ตาม ในปี 2018 พรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งระดับรัฐเพื่อชิงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา รัฐมนตรีต่างประเทศ ผุ้อำนวนการฝ่ายการศึกษาของรั,ฐ และที่นี่งในคณะกรรมาธิการบริษัทสาะารณูปโภค..

         รัฐแอริโซนาได้แสดงสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากฐานเสียงของพรรครีพัลลิกัน และอาจได้รับการจัดอันดับอย่างเหมาะสมให้เป็นหนึ่งในรัฐที่มีแนวโน้มสูงสุดที่จะผ่านเกณฑ์เป็นรัฐชี้ชะตา แต่สิ่งนี้เองไม่ได้บอกอะไรมากนักว่ารัฐจะชี้ชะตาอย่างไรในการเลือกตั้งครั้งใดครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ๋จะขึ้นอยู่กับปัญหาและบุคคลที่เกี่ยวข้อง...

              https://theconversation.com/who-will-win-in-arizona-in-november-its-a-toss-up-like-it-has-been-for-years-233763

              https://www.50states.com/state_nickname/arizona/

              https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%B2

               

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2567

"The Tar Heel State"

            NC เป็นอังษรย่อที่ใช่สองตัวอักษรหรืออักษรย่อทางไปรษณีย์ และ NCเป็นอักษรย่อแบบดั้งเดิมหรือมาตรฐานของรัฐนิร์ทแคดรไลนาชื่เอล่นของรัฐนี้เรียกว่า "รัฐทาร์ฮีล" มีช่อเล่นทีใช้กันน้อยกว่าอีกชื่อหนึ่ง คือ "รัฐนอร์ทเก่า" เมื่อแคโรไลนา ถุกแบ่งแยกในปี 1710 พื้นที่ทางตอนใต้ถุกเรียกว่า เซาท์แคดรไลนา และพื้นที่ทางตอนเหนือหรือพื้นที่ตั้งถ่ินฐานที่เก่าแก่กว่าถูกเรียกว่านอร์ทแคโรไลนา จากจุดนี้เองจึงได้รับฉายาว่า ไรัฐนอร์ทเก่า" น

          นักประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่าผลิตภัฒฑ์หลักในช่วงต้นประวัติศาสตร์ของนอร์ทแคดรไลนาคือ "น้ำมันดิน น้ำมันสน และน้ำมันสน" ซึ่งเป็นหนึ่งในสมรภ๓ูมิที่ดุเดือดที่สุดของสงครามกลางเมืองระหว่างรัฐ ตามเรื่องเล่ากันว่า กองกำลังที่สนับสนุนดองกำลังนอร์ทแคโรไลนาถุกขับไล่ออกจากสนามรบหลังจาการสู้รบ ชาวนอร์ทแคโรไลนาที่ต่อสุ่เพียงลำพังได้รับคำตองจากองทหารร้างที่ผ่านไปว่า "ยังมีน้ำมันดินเหลืออยุ่ในโอลด์นอร์ทเสตรทอีกไหมลูกพี่" ป็นอย่างนั้นจริงเหรอ เขาจะทำอะไรกับมัน" ผุ้ถุกถาม "เขาจะใส่รองเท้่าส้นสูงเพื่อให้พวกคุณติดดีขึ้นในการต่อสุ้ครั้งต่อไป" ครซีเล่าว่าเพมื่อนายพลลีได้ยินเรื่องดังกล่าว เขาก็พูดว่า "ขอพระเจ้าอวยพรพวก "ทาร์ฮีล" และพวกเขาก็ใช้ชื่อนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


          นอร์ท แคโรไลนา เป็นรัฐในตะวันออเฉียงใต้และมิดแอตแลนติกของสหรัฐอเมริกามีอาณาเขาติดกับ รัฐเวอร์จิเนียทางทิศเหนือ มหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันออก เซาท์แคโรไลนาทางทิศใต้ จอร์เจียทางทิศตะวัตกเฉียงใต้ และเทนเนสซีทางทิศตะวันตก 

       เป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 28 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 9 ของสหรัฐฯ ร่วมกับ เซาท์แคโรไลนาเป็น แคโรไฃนาทางชายฝั่งตะวันออก จากการสำรวจสำมะโนประชากร ปี 2020 มีประชากร 10,439,388 คน ราลีเมืองหลวงของรัฐ และชารอตเตต์เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเขตมหานครชาอร์ลอตต์ซึ่งมีประชากรประมาน 2.8 ล้านคนในปี 2023 เป็นเขตที่มีประชากรมากที่สุดในนอร์แคดรไลนา มีประชากรมากเป็นอันดับ 22 ในสหรัฐอเมริกา และเป็นสุนย์กลางการะานาคารที่ใหญ๋ที่สุดในประเทศรองจากนิวเยอร์กซิตี้ "รีเซิร์ช เทรียนเจอร์" ซึ่งมีประชากรประมาณ 2.3 ล้านตนในปี 2023 เป็นเขตมหานครรวมที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของรัฐมีประชากรมากเป็นอันดับ 31 ในสหรัฐอเมริกา และเป็นที่ตั้งอุทยานวิจัยในใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา 
           รัฐนอร์ทแคดรไลนาถุกขนานนามว่าเป็น "รัฐสีม่วง"ในทางการเมืองคำนี้หมายถึงผปุ้ลงคะแนนเสียงของพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งนื่อถึงความสมดุลทางการเมืองของรัฐและอัตลักษณ์ของเราในฐานะรัฐทีีมีผลชี้ขาดในการเลือกตั้งระดับรัฐที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด พรรครีพับลิกันมีข้อได้เปรียบเพียงเล็กน้อยในการแข่งขันระดับรัฐบาลกลางตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่พรรคเดโแมครตชนะที่นั่งในสภานิติบัญญัติแห่งรัฐได้มากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันอย่างไรก็ตาม ความจริงนั้นซับซ้อนกว่านั้นเล็กน้อย

          ในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว การแข่งขันระหว่าง เท็ด บัตต์และ เชอรี บีสลีย์ได้กำหนดว่าใตีจะเป็นผุ้ดำรงตำแหน่งแทนวุฒิสมาชิกริชารดเบิร์รในวุฒิสภาสหรัฐฯแม้ว่าผลการเลือกตั้งจะไม่สูสีอย่างที่คาดไว้ในตอนแรก แต่การแข่งขันก็ยังคงเข้มข้น เท็ด บัตต์ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนนำ 3.2% และคว้าชัยไป 82 จาก 100 มณฑลของนอร์ทแคโรไลนา ปิสลี้ได้รับชัยชนะ 18 ฒณฑล แต่อาศัยชัยชนะที่กว้างไกลของมณฑลที่มีประชากรแนาแน่นที่สุดของนอร์ทแคดรไลนา

     
 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเพียงไม่กี่มณฑลเท่านั้นในัฐที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการแข่งขันอย่างแท้จริง จากมณฑ,ทั้งหมด 100 มณฑลของอน์ทแคโรไลนา มีพเพียง 4 มณฑ,เท่านั้นที่ได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละ 5 

        ผลสำรวจ ณ ขณะนี้ ทรัมป์ขึ้นนำแฮร์ริส https://www.realclearpolling.com/polls/president/general/2024/north-carolina/trump-vs-harris

          "ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากในรัฐนอร์แคดรไลนาซึ่งเปนรัฐสวิงเสตรทไม่เข้าร่วมการเลือกตั้ง นักรณรงค์ของพรรคหวังว่าจะจุดไฟให้พวกเขาได้"

           นี้คือสถานการณืของการเลือกตั้งปี 2024 เมือมองจาระดับพื้นฐานในเขตชนบทแห่งของรัฐที่คาดวา่จะช่วยตัดสินตำแหน่งปรธานาธิบดี ความพยายามอย่างหนักของนักเคลื่อหนไวของพรรคการเมืองในการสร้างความกระตือรือร้นในการเลือกตึ้งนั้น มักถูกตอบสอนองด้วยความเฉยเมยและถึงขั้นรังเกี่ยจจากผุ้คนที่อสจจะมีบทบาทสำตัญเกิดควรในการกำหนดทิศทางประเทศ

          "เพอร์วิสเดินทางไปหาเสียพร้อมกับนักข่าวเอพี เมือไม่นานนี้ โดยเธออยุ่ใกล้ใจกลางเมืองออกซ์ฟอร์ต ซึ่งเป็นศุนย์กลางของมณฑลที่มีประชกรประมาณ 62,000 คน ตึ้งอยุ่ระหว่างเมืองราลี และ ชายแดน รัฐเวอร์จิเนีย และเธอจะไปถึงซินเทีย ซึ่งปฏิเสะที่จะให้ชื่อนามสกุลของเธอเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว

          เมื่อสิ้นสุดวันเสาร์ที่ร้อนอบอ้าวและไร้ลม พรรคเดโมแครตแห่งการนวิลล์เคาน์ตี้ได้เคาะประตูบ้าน 320 หลังในการรณรงค์หาเสียงช่วงสุดสัปดาห์วันทหารผ่านศึก นับเป็นจำนวนสุงสุดของพรรคเดฮมแครตเคาน์ตี้ทุพรรคในรัฐในวันนั้น

          ณ วันที่ 7 มิถุนายน พรรคเโมแครตใช้เงินโฆษณมากว่่าพรรครีพัลลิกันเกือบ 4 ต่อ 1 ในนอร์ทแคดรไลนา ตามข้อมุลของ Adlmpact และยังมีช่องว่างระหวางตอนนี้กับเดือนพฤศจิกายนมากกว่ามาก นอกจากนี้ พรรคเดโมแครตยังทุ่มทรัพยากรให้กับกิจกรรมระดับพื้นฐาน เช่น การเคาะประตูบ้านมากขึ้นด้วย ทำให้บรรดานักเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอย่างเพอร์วิสรุ้สึกมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับรัฐที่ทรัมป์ชนะถึงสองครั้ง แม้ว่าคะแนนเสียงของเขาจะลดน้อยลงระหวางปี 2016 -2020 ก็ตาม ทีมงานหาเสียงของเดโมแครตมองเห็นโอกาศในส่วนนี้ชัดเจน และไบเดนเองก็เดินทางมาไปบยังรัฐทาร์ฮีลมาแล้วสามครั้งในปีนี้

        เพอร์วิสกล่าวว่า ไผลมมีความหวังกับนอร์ทแคดรไลนาโดยรวมมากว่าทีเคยเป็นมาใชข่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าแกรนวิลล์เคาน์ตี้มีศักยภาพมากที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสิ้งนั้น" แคมเปญหาเสียงของทั้งสองพรรคต่างให้ความสำคัญกับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตชนบท และนอร์ทแคโรไลนาเป็นรัฐที่มีประชากรในเขตชนบทมากเป็นอันดับ 2 รองจากเท็กซัส ในปี 2020 มีเพียง 14 มณฑลในชนบทของนอร์ทแคโรไลนาเท่านั้นที่ลงคะแนนให้ไบเดน ส่วนอีก 64 มณฑลในรัฐสนับสนุนทรัมป์ คะแนนเสียงของมณฑลแกรนวิลล์เกือบ 53% ตกเป็นของทรัมป์ซึ่งมากกว่ในปี 2016 เล็กน้อย บารัค โอบามา จากเดโมแครตคว้าชัยในมณฑ,นี้ในแคมเดปญหาเสียงปี 2008 และ 2012  มีเพียง 6 มณฑ,ของนอร์ทแคโรไลนาที่เปลี่ยนจากโอบามา เป็นทรัมป์

           แกรนวิลล์ เคาท์ตี้ อยุ่ชานเมืองของ ราลี และ ดูร์แฮรน และผุ้อยุ่อาัยบางส่วนขับรุบทนทางหลวงระหว่างรัฐหมายเลข 85 หรือถนนสองเลนที่คดเคี้ยวผ่านชนลทเพื่อเดินทางไปทำงานมนพื้นที่ ไทรแอนเจิล ที่พลุพล่านของ นอร์ทแคดรไลนา แกรนวิลล์ มีเทศบาล 5 แห่ง และดรงงานผลิตของ เรฟรอน และ บริดสโตน และบริษัทอื่นๆ ในการเลือกตั้งครั้งต่ไป ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในเชตสามารถช่วยกำหนดได้ว่าพรรครัพัลลิกันจะรักษาเสียงข้างมากในสภานิติบัญญํติของรัฐได้หรือไม่ "นับเป็นการแกว่งไปมาระหว่างสองฝ่ายหรือไม่ หรือว่าเราแค่บังเอญไปจับจังหวัะที่มันกำลังจะเป็นของพรรครีพัลลิกัน อยู่แล้ว เรายังไม่รุ้เลยใช้ไหม" คริส คุเปอร์ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นแคโรไลนา กล่าว ไนั่นคือส่ิงที่เรสจะได้เรียนรุ้่หลังจากเดือนพฤศจิกายน" 

         คูเปอร์ไม่แน่ใจว่า เดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ แต่เขาคิดว่าคะแนนเสียงมีความสำคัญ นั่นเป็นเพราะคะแนนเสีีงจะกำหนดว่าเขาต้องกาอะไรในพื้นที่เขตเมืองของวรัฐ ซึ่งมักจะเื้อประโยชน์ต่อพรรคเดโมแครต

"การคิดว่าพรรคเดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งในเขตชนบทของนอร์ทแคดรไลนาเป็นเรื่องไม่สมจริง พวกเขาจะไม่ชนะการเลือกตั้ง พวกเขาจะแพ้การเลือกตั้ง" คูเปอร์กล่าว "คำถามคือ พวกเขาจะแพ้การเลือกตั้งมากแค่ไหน" ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับพรรคเดโมแครตแห่งนอร์ทแคโรไลนา 

            เมือง ราลี รัฐนอร์ะแคโรไลนา (WTVD) รองประะานาะิบดี กมลา แฮร์ริสและเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ของเธอจะแวะมาที่รัฐนอร์ธแคดรไลนาในสัปกาห์นี้

             แฮร์ริสและคู่หูของเธอซึ่งยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางกาน จะออกเดินทางไปทั่วร์ 7 รัฐที่เป็นสมรภูมิการเลือกตั้งภายใน 5 วัน ทัีมงานหาเสียงของแฮร์ริสกล่าวว่านี้เป็นความพยายามที่จะ "แนะนำผุ้สมัครพรรคเดโมแครตคนใหม่" และ "พูดคุยดดยตรงกับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในชุมชนของพวกเขา และยืนยันข้อตกลงระหว่างผุ้สมัครของเราและผุ้สมัครของทรัมป์" 

           
พวกเขาจะอยู่ที่เมืองโรลี ในวัพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2024 ยังไม่มีการเปิดเผยเวลาและสภานที่

         นี่จะเป็นการเยือนรัฐทาร์ฮีลครั้งแรกของรองประธานาธิบดีนับตั้งแต่ประะานาธิบดีโจ ไบเดนถอนตัวออกจาการเข่งขันเมื่อ วันที่ 21 กรกฎาคม และให้การสนับสนุนแฮร์ริสสำหรับการเสนอชื่อทันที

         นอกเหนือจากการจัดชุมนุมตามสถานที่ต่างๆ ในแต่ละทัวร์ตั้งแต่สนามกีฬาใหญ่ๆ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยแล้ว แฮร์ริสและรองประธานาธิบดีที่เะอเลือกยังจะพบปะกับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในสภานที่เล็กๆ และเป็นส่วนตัว เช่น หอประชุม สหภาพแรงงานและร้านอาหารที่เป็นธุรกิจครอบครัว ทั่วร์จะเริ่มในวันอังคารที่ 6 สิงหาคม ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย การณรงค์อื่นๆ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย วิสคอนซิน มิชิแกน จอร์เจีย แอริโซนา และเนวาดา

          https://abc11.com/post/kamala-harris-vp-pick-is-stopping-raleigh-north-carolina-thursday/15143486/

          https://www.50states.com/state_nickname/north-carolina/

          https://en.wikipedia.org/wiki/North_Carolina

           https://www.usnews.com/news/politics/articles/2024-06-16/many-voters-in-swing-state-north-carolina-are-disengaged-party-activists-hope-to-fire-them-up

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2567

"The Silver State"

             NV เป็นอักษรย่อ 2 ตัวหรือรหัสไรษณี์ และ Nev. เป็นอักษรย่อแบบตั้งเิมหรือมาตรฐานของรัฐเนวาดา รัฐเนวาดา ถุกเรียกว่า "รัฐเงิน" เนื่องจากมีอุตสาหกรรมเหมืองแร่เงินขนาดใหญ่เรียกอีกชื่อว่า "รัฐเซจ" และ "รัฐเซจบรัช" ตามเซจป่าที่เติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ในรัฐนี้

            เนวาดาเป็นรัฐหนึ่งในภาคตะวันตกของสหรัฐฯ มีพรมแดนติดต่อกับ รัฐออริกอนทางทิศตะวันตก


เฉียงเหนือ รัฐไอดาโฮ ทางทิศตะวันออกเฉยเหนือ รัฐยูทาห์ทางทิศตะวันออก รัฐแอริโซนาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และรัฐแคลิฟอร์เนียทางทิศตะวันตก นวาดาเป็นรัฐที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุดเป็นอันดับที่ 7 มีประชกรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 32 และมีประชากรหนาแน่นน้อยที่สุดเป็นอันดับ 9 ของสหรัฐ ชาวเนวาดาจำนวนเกือสามในสี่อาศัยอยุ่ในเทศมณฑลคลาร์ก ซึ่งเป็นที่ตั้งของ เขตมหานครลาสเวกัน-พาราไดส์รวมถึงเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐสามในสี่เมือง เมืองหลวงของเนวาดาคือ คาร์สันซิตี ส่วนเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐคือ ลาสเวกัน

           พื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐเนวาดาป็นทะเลทรายและมีภุมิอากาศกึ่งแห้งแล้ง ส่วนใหญ่อยุ่ในเกรดเบซิน พื้นที่ทางตอนใต้ของเกรดเบซินอยุ่ในทะเลทรายโมฮาวี ในขณะที่ทะเลสาบทาโฮและเทือกเขาซีเอร์ราเนวาดา อยุ่ตรงขอบด้านตะวันตกของรัฐที่อินของรัฐประมาณร้อยละ 86 อยุ่ในเขตอำนาจการจัดการของหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ทั้งหน่วยงานพลเรือนและหน่วยงานทหาร

          ชนพื้นเมืองแเมริกัน เผ่าพฟยุค เผ่าโซไซนี และเผ่าวาโช อาศัยอยุ่ในเนวาดาในปัจจุบัน ชาวยุดรปก
ลุ่มแรกที่เข้ามาสำรวจภุมิภาคนี้คือชาวสเปน พวกเขาเรียกภูมิภาคนี้ว่า เนบาดา ซึ่งแปลว่า "ที่ปกคอลุ่มด้วยหิมะ" หรือ "ที่ที่เต็มไปด้วยหิมะ" เนื่องจากมีหิมะปกคลุ่มเทือกเขาในฤดูหนาวคล้ายกับที่ทิวเขา ซิเอรืราเนบาดา ในสเปน ภูมิภาคนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน อัลตากาลิฟอร์เนีย ภายในเขตอุปราชแห่งนิวสเปน ซึ่งได้รับเอกราชกลายเป็นจักรวรรดิเม็กซิโก ในปี 1821 สหรัฐผนวกพื้นที่ดังกล่าวในปี 1848 หลังจากได้รับชัยชนะในสงครามเม็กซิโก-สหรัฐ และรวมพื้นที่นี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนยูทาห์ ในปี 1850 การค้นพบแร่เงินที่สายแร่คอมสต็อก ในปี 1859 นำไปสู่การขยายตัวของประชากรจนกลายเป็นแรงผลักดันในการจัดตั้งดินแดนเนวาดาแยกจากดินแดนยูทาห์ ในปี 1861 เนวาดากลายเป็นรัฐที่ 36 เมือปี 1864 ดดยเป็นหนึ่งในพื้นที่สองแห่งที่ได้รับสถานะรับระหว่างสงครามกลางเมือง(อีกเมืองคือรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย)

          เนวาดาขึ้นชื่อในเรื่องกฎหมายอิสรนิยม ในปี 1940 ด้วยประชากรเพียง 110,000 คน เนวาดาจัดเป็นรัฐที่มีประชากรน้อยทีุ่สดในขณะนั้น การทำให้การพันันถูกกฎหมายและกำหมายการแต่งงานและการหย่าร้างที่ผ่อนปรนได้เปลี่ยนโฉมเนวาดาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในคริศต์ศตวรรษที่ 20 เนวาดาเป็นรัฐเดียวของสหรับที่ซึ่งการค้าประเวณีเป็นส่ิงุถูกกฎหมาย แต่ก็ยังคงผิดกฎหมายในพท้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยุ่มากที่สุดในรัฐ ได้แก่ เทศมณฑลคลาร์ก(ลาสเวกัส) เทศมณฑ,วาโช (วีโน) และคาร์สันซิตี(ซึ่งเป็นนครอิสระ ไม่ได้อยุ่ขอบเขตของเทศมณฑลใดๆ) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นแหล่งการจ้างงานที่ใหญ่ที่สุดของเนวาดา ในขณะที่การทำเหมืองแร่ยังคงเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญของเศราฐฏิจรัฐ เนวาดาเป็นผุ้ผลิดทองคำรายใหญ่รายใหนึ่งโลก เนวาดาเป็นรัฐที่แห้งแล้วที่สุดของสหรัฐฯ เมือเวลาผ่านไปและด้วยอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ช่วงหน้าแล้งได้เพ่มความถี่และความรุนแรงขึ้น ก่อให้เกิดความตึงเครียดต่อความมั่นคงด้านน้ำของรัฐ

          พรรคเดโมแครตหวังว่า "กมลา-เมนตัม" ตาที่อินเตอร์เนตเรียกกัน จะทำให้การเลือกตั้งประธานาะิบดีในปี 2024 เปลี่ยนไปมาก จนทำให้พวกเขาสามารถรักษารัฐที่มีชัยชนะสำคัญๆ อย่างเช่นรัฐนี้ เอาไว้ได้ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ดุเหมือนว่ากำลังจะหลุดลอยไปจากมือของพวกเขาโดยที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่ผิดหวังกับการจัดการเศราฐกิจของไบเดน หันไปทางโดนัลด์ ทรัมป์แทน


        ตามผลสำตวจของ "ฟ็อกนิวส์" เมือดดอืนมิถุนายน และผลสำรวจอื่นๆ พบว่าทรัปม์มีคะแนนนำไบเดนเพียงเล็กน้อย แต่ในรัฐที่มีความหลากหลายและผุ้ลงคะแนนอายุน้อยแห่งนี้พรรคเดอมแครตหวังว่าแฮร์ริสอาจดึงดุดผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่รุ้สึกวา่ไม่ได้รับการเป็นตัวแทนจากผุ้สมัครชายผิวขาวอายุมากกว่าสองคน

         มารีอา นีเอโต ออร์ตา วัย 24 ปี ประทานกลุ่ม "ยัง เดโมแครต แห่ง เนวาดา" กล่าวว่า "ฉันได้ยินความตืนเต้นใหม่ๆ มากมาย แันคิดว่านั้นมาจาการที่รองประธานาะิบดีไม่เพียงแต่เป้นผุ้หญิงเท่านั้นแต่ยังเป็นผุ้หญิงผิวสีและเป็นคนอายุน้อยอีกด้วย ฉันคิดว่าเราต่างก็รุ้สึกเช่นเดียวกันกับเรื่องนี้" 

        ชาวเนวาดากว่างสามพันคน ได้ลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครให้กับแฮร์ริสนับตั้งแต่เธอได้รับเลือกให้เป็นผุ้ได้รับการเสนอชื่อ ในระดับประเทศ แคมเปญดังกล่าวได้ระดมทุนได้ 200 ล้านดอลลาร์และรับสมัครอาสาสมัครใหม่มากกว่า 170,000 คน ตามาบันทึกภายในแคมเผญที่วอชิงตันโพสต์ได้เห็นทีมงานหาเสียงของแฮร์ริสรุ้สึกยินดักับพลังและความหวังที่เพ่ิมขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจุดยืนที่ชัดเจนของรอง


ประธานาธิบดีเกี่ยวกับ สิทธิ ในการทำแท้งอาจช่วยเปลี่ยนใสจผุ้มีสิทธิเลือกตั้งหญิงในเขตชานเมืองที่อาจจะลงคะแนนเสียงให้กับทรัมป์ได้ แต่ผุ้ช่วยของแฮร์ริสยอมรับว่าพวกเขามีังานใหญ่รออยู่ข้าหน้าในการแปลงความกระตือรอร้นนั้นให้กลายเป็นคะแนนเสียง

       The Post ได้สัมภาษณืผุ้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 20 คน ในลาสเวกัสและพบว่แม้วาแนวทางการเมืองของพวกเขาจะแตกแยกกัน แต่แทบทุกคนต้องการเห็นากรเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนนี้ คะแนนเสีียงยังคงรอการชิงชัยในเมืองลาสเวกัสซึ่งเป็นเมืองที่มีชนชั้นแรงงานจำนวนมากและกำลังเผชิญกับปับยหาเศรษฐกิจที่ผุ้คนต่างกล่าวถึง ได้แก่ อัตราการว่างงานซึ่งยังคงสุงที่สุดในประเทศ ค่าที่อยุ่อาศัยที่สูงจึ้น และราคาน้ำมันที่สุงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

      เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมืองของทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเนวดาจะสุสี และมแ้ว่าการสำรวจบางส่วนจะแสดงให้เห็นวาพรรคเดโมแครตกลับมามีคะแนนนิยมอีกครังในกลุ่มคนหนุ่มสาวและละตินอเมริกา แต่พวกเขาก็ยังชี้ให้เห็นเช่นกันว่าฉร์ริสยังไม่เป้นที่นิยมอย่างกว้างขวาง

       เจ้าหนัาที่เนวาดชี้ไปที่ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ซึ่งเป็ฯผุ้ที่เป็นอิสระซึ่เลือกที่จะไม่ผุกมัดตัวเองกับพรรคใดๆ และเป็นตัวแทนของผุ้มีสิทะิเลือกตั้งส่วนใหญ่มากวา่พรรคใดพรรคหนึ่งว่าเป็นเป้าหมายหลัก 

       "ซอนด้า คอสกรูฟ" ศาสตราจารจาก "คอลเล็ท ออฟ เซาท์เทิร์น เนวาดา" และผุ้อำนวนการบริหารขององค์กรไม่แสวงหากำไร "โวต เนวาดา" ซึ่งเป็นองค์กรทีททำหน้าที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพลเมือง กล่าวว่า "กลุ่มที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเหล่านี้มีความหลากหลายและเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม๋ ดังนั้น พรรคการเมืองใดก็ตามที่เข้าถึงพวกเขาและรับฟังปัญหาของพวกเขาจริงๆ ก็จะได้รับประโยชน์อย่างมาก" 

               https://www.washingtonpost.com/politics/2024/07/30/nevada-harris-biden-trump-polls/

               https://www.50states.com/state_nickname/nevada

  https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B2

         

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“The Keystone State”

           เพนซีเวเนีย หรือ ชื่อที่เรียกกันเล่นๆ ว่า "รัฐคีย์สโตน" ซึ่งไม่สามารถสืบย้อนไปยังแหล่งที่มาใด
แหล่งหนึ่งได้ คำว่า "คีย์สโตน" มาจากคำว่าสถาปัตยกรรม และหมายถึงหินรูปลิ่มตรงกลางในซุ้มโค้งซึ่งยึดหินก้อนอื่นๆ ๆว้ด้วยกันได้รับการยอมรับโดยทั่วไปไม่นานหลังจากปี 1800 ในการชุมนุมเพื่อชัยชนะของพรรครีพับลิกันที่เมืองเจฟเฟอร์สันในเดือนตุลาคม ปี 1802 รัฐเพนซิลเวเนียได้รับการยกย่องว่าเป็น "เสาหลักแห่งสหภาพกลาง" และในหนังสือพิมพ์ออโรราในปีถึดมา รัฐก็ถูกเรียกว่า "เสาหลักแห่งรากฐานของประชาธิปไตย" การคงอยุ่ของชื่อนี้ในปัจจุบันนั้นสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งสำคัญของเพนซิลเวเนียในการพัฒนาด้านเศราฐกิจ สังคม และการเมืองของสหรัฐอเมริกา 
           เพนซิเวเนีย แลว่า "ดินแดนป่าของเพนน์" หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือเครื่อรัฐซิลเวเนีย เป็นรัฐที่ครอบคลุม แอตแลนติกตะวันออก แอปพาเลนและเกรดเลกส์ที่มีอาณาเขตติดกับเดลแวร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ แมริแลนด์ทางทิศใต้ เวสต์เวอร์จิเนียโอไฮโอและแม่น้ำฮดไฮโอทางทิศตะวันตก ทะเลสาบอิรีและนิวยอร์กทางทิศเหนือ แม่น้ำเดลาแวร์ และนิวเจรอ์ซีทางทิศตะวันออก และจังหวัดออนแทรีโอ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
          รัฐเพนซิลเวเนียก่อตั้งขึ้นในปี 1681 โดยได้รับพระราชทืานที่ดินจากวิลเลี่ยม เพนน์บุตรชายของรัฐก่อนหน้านั้น ระหว่างปี 1638-1655 พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเป็นส่วนหนึ่งจองนิวสวีเอน ซึ่งเป็นอาณานิคมของ จักรวรรดิสวีเดนรัฐเพนซิลเวเนียในยุคอาณานิคม ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่หลบภัยสำหรับการยอมรับในศาสนาและการเมืองโดยเป็นที่รู้จักจากความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างสงบสุขกับชนเผ่าพื้นเมืองระบบรัฐบาลที่สร้างสรรค์ และความหลากหลายทางศาสนา เพนซิลเวเนียมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติอเมริกาและการแสวงหาอิสรภาพจากจักรวรรดิอังกฤษ ในที่สุด โดยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาถองเกรสภาคพื้นทวีปครั้งที่หนึ่ง และครั้งที่สอง ซึ่งนำไปสุ่การประกาศอิสรภาพและการก่อตตังกองทัพภาคพื้นทวีป เมือวันที่ 12 ธันวาคม 1787 เพนซิลเวเนียกลายเป็นรัฐที่สองที่ให้สัตยาบันต่อ รัฐะรรมนูญ ของสหรัฐอเมริกา การต่อสุ้ที่นองเดลือดที่สุดของสงครามกลางเมืองอเมิรกา ที่เมืองเกตตี้สเบิร์กเป็นเวลาสามวันในเดือนกำกฎาคม 1863 พิสุจน์ให้เห็นว่าเป็นจุดเปลี่ยของสงครามซึ่งนำไปสู่การรักาาไว้ซึ่งอำนาจของสหภาพตลอดช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และ 20 เศราฐกิจของรัฐที่เน้นการผลิตที่ส่วนสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในช่วงแรกๆ ของประเทศมากมาย รวมถึงสะพานสำคัญตึกระฟ้าและฮาร์ดแวร์ทางการทหารที่ใข้ในชัยชนะที่นำโดยสหรัฐญในสงครามดลกคร้งที่ 1 และ 2 รวมถึงสงครามเย็นด้วย
           เพนซิลเวเนีย มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์อย่างมาก เทือกเขาแอปพาเลเชียนทอดตัวผ่านใจกลางรัฐ เทืองกเขา อัลเลเกนี และโพโดโนทอดตัวครอบคลุม พื้นที่ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐ พื้นที่เกือบ 60% ของรัฐเป็นป่าไม้แม้ว่าจะไม่มีแนวชายทะเล แต่ก็มีแนวชายฝั่งทะเลยาว 140 ไมล์(225km.) ตามแนวทะเลสาบอีรีและแม่น้ำเดลาแวร์ที่น้ำขึ้นน้ำลง
 
        เพนซิลเวเนีย เป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของอเมริกา โดยมีผุ้อยู่อาศัยมากกว่า 13 ล้านคนตามสำมะโนประชากรปี 2020 รัฐมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 33 และมีความหนาแน่นของประชากรสูงเป็นอันดับ 9 ในบรรดารัฐทั้งหมดพื้นที่มหานคร ที่ใหญ่ที่สุด คือเดลาแวร์วัลเลย์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงและล้อมรอบฟิลาเดลเฟีย เมือง ที่ใหญ่ที่สุดของรัฐและมีประชากรมากเป็นอันดับ 6 ของประเทศ พื้นที่มหานครที่ใหญ่เป็นอันดับสองคือ เกรทเทอร์ฟิดต์สเบิร์ก มีศูนย์กลางอยุ่ในและรอบๆ พิตต์ สเบิร์กซึ่งเป็น เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐ เมืองที่มีประชากรมากที่สุดทำอันดับแรกของรัฐรองลงมา ได้แก่อัลเลนทาวน์เรตติ้ง อีรีสแครนตันและเบธเลเฮม เมืองหลวงของรัฐคือแฮร์ริสเบิร์ก
           ตั้งแต่ยุคแรกเร่ิมของประเทศ เพนซิลเวเนียเป็์นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวในหลายๆ ด้าน รัฐนี้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาคองเกรสภาคพื้นทวีปที่เมืองฟิลาเดลเฟียในปี 1770 และเป็นรัฐสุดท้ายที่ลงมติเอกฉันท์ในการประกาศอิสรภาพเมืองกรกฎาคม 1776 ในช่วงเวลาแห่งการประกาศอิสราภพ เพนซิลเวเนียยังเป็นศุนย์กลางทางภุมิศาสตร์ของอาณานิคมดั้งเดิม 13 แห่ง โดยมี 6 แห่งทางทิศใต้ และอีก 6 แห่งทางทิศเหนือและตะวันออก 
          รัฐนี้ไม่ได้เป็นรัฐที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอยู่เสมอมา แต่โดยทั่วไปแล้ว รัฐนี้มักเป็นศุนย์กลางของการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และยังเป็นเช่นนั้นถึงปัจจุบัน เพนซิลเวเนียมีผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีมุมองทางการเมืองหลากหลาย ดดยปกติและผลการเลือกตั้งในระดับจะออกมาสูสีกัน
          ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟียส่วนใหญ่มีแนวคิดเสรีนิยมในทุกประเด็นในขณะที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในชนบทของเพนซิลเวเนียส่วนใหญ่มีแนวคิดอนุรักษนิยมและไม่ค่อยเชื่อเรื่องการเมืองในเมืองอย่างไรก็าม พื้นที่ชายเมืองหลักของรับแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ดดยฝ่ายฟิลาเดลเฟียสนับสนุนเดโมแครต และฝ่ายพิตต์สเบิร์กสนับสนนุพรรครีพับลิกัน
            เมื่อความแตกแยกทางการเมืองระดับภูมิภาคระหว่างภาคเหนือและใต้เพิ่มมากขึ้นในศตวรรษที่ 19 บทบามสำคัญของเพนซิลเวนียในการเลือกตั้งประธานาะิบดีก็เพ่ิมขึ้นเช่น ระหว่างปี 1828-1880 เพนซิลเวเนียเป็รัฐเดียวที่ลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครชิงตำแหน่งประะานาะิบดีพรรครีพับลิกันที่ชนะทั้งหมดในช่วง 1860 และ 1870 เพนซิเวเนียไม่ได้เป็นรัฐที่เปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาหลายทศวรรษ หลังสงครามกลางเมือง ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐสนับสนุนผู้สมัครจากพรรครัพับลิกันในการเลือกตั้งประะานาธิบดีทุกครั้งระหวา่งปี 1860-1932 รวมถึง ธีโอดอร์โรสเวลด์สมัครจากพรครีพับลิกันสายก้าวหน้าในปี 1912 ในช่วงแร 1940 เพนซิลเวนียยังคงสนับสนุนผพรรครพับลิกันมากว่าพื้นที่อื่นๆ ในประเทศ แต่ล้วรัฐก็เปลี่ยนใจกะทันหันและเร่ิมสนับสนุนผุ้สัมครจากพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนที่มากว่าผมีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศเป็เวลา 60 ปี ตั้งแต่ 1952-2021 นั้นเป็เพราะอำนาขของกลไกการเมืองของพรรครัพับลิกันในฟิลาเดลเฟียแตกสลายไป นับตั้งแต่ปี 1952 เป็นต้นมา ไม่มีนายกเทศนตรีที่มาจากพรรครีพับลิกันที่นั้นเลย
             เมื่อภาคใจ้เร่ิมมีแนวโน้มเป็นพรรครีพัลลิกันในช่วงทศรรษ 1950 และ 1960 และฟิลาเดลเฟียกลายเป็นพรรคเดโมแครตมากขึ้น รัฐเพนซิลเวเนียก็กลายเป็นพรรคเดโมแครตมากกว่ประเทศโดยรวมในการ

เลือกตั้งประธานาธิบดี เพนซิลเวเนียยังคงขาดสภานะเป็นรัฐชี้ขาดในทางการเมืองของคณะผุ้เลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประะานาธิบดีที่สุสีกันทั้งหมดเป็นเวลา 60 แม้แต่เมือพรรครีพัลฃิกันชนะทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงในปี 1968 เมื่อฮิวเบิร์ต ฮัมฟรีย์จากพรรคเดดมแครตชนะการเลือกตั้งในรัฐนี้ ในปี 2000 เมื่อ อัลกอร์จากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย แต่แพ้คะแนนเลือกตั้งระดับชาติที่สูสีและเป็นโต้แย้ง และในปี 2004 เมื่อจอห์น เคอร์รีจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในรัฐคีย์สโตน
           ปีที่ชาวเพนซิลเวเนียลงคะแนนเลือกผุ้สมัครรชิงตำแหน่งประานาะิบดีจากพรรครีพัลลิกันเป็นปีที่พรรครีพัลลิกัได้รับชัยชนะในระดับประเทศด้วยคะแนนที่สุงมากเป็นพิเศษ คือ 2 ครั้งสำหรับไอเซนฮาวร์ ครั้งสำหรับการเลือกตั้งซ้ำของนิกสัน และอีก 2 ครั้งสำหรับเรแกน
          อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นศตวรรษนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่มีการแข่งขันกันอย่างสุสี พรรครีพัลลิกันเริ่มมองเห็นโอากสที่เพนซิลเวเนียจะมีส่วนร่วมในคำการคำนวณคะณะผุ้เลือกต้งระดับประเทศ
          การขยายตัวของการสำรวจความคิดเห็นทางการเมืองในแต่ละรัฐทำให้สามารถกำหนดแนวดน้มการลงคะแนนเสียงของแต่ละรัฐได้ พบว่ารัฐส่วนใหญ่ลงคะแนนให้พรรคการเมืองหนึ่งพรรคอย่างน่าเชื่อถือในการเลือกตั้งประะานาะิบดีทุกครั้ง ทำให้เกิดการติดป้ายว่า ไรับสีน้ำเงินไ และ "รัฐสีแดง" ซึ่งเริ่มใช้หลังการเลือกตั้งในปี 2000 สื่อต่างๆ เน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเพนซิลเวนีย ฟลอริดา และมิชิแกนเป็นรัฐสำคัญในสมรภูมิโดยอิงจากการสำรวจความคิดเห็นและสัดส่วนคะแนนเสียงเลือกตั้งที่มาก เมือกอร์ได้รับการประกาศให้เป็นผุ้ชนะทั้งสามรัฐในช่วงเช้าของคืนวันเลือกตั้ง ทุกคนต่างคาดเดาว่าเขาจะได้เป็นประธานาธิดบี อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาของคืนนั้นการคาดการณ์ก็จบลงด้วยการที่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้เป็นประะานาธิบดี
           เพนซิลเวเนียยังคงถุกมองว่เป็นรัฐที่มีศักยภาพที่จะเป็นชัยชนะของพรรครีพัลลิกันในการเลือกต้้งประธานาธิบดีอีกสามคร้งข้างหน้า แม้ว่าพรรคเดฮมแครจะชนะการเลือกตตั้งทุกครั้งก็ตาม ความพยายามของรีพับลิกัน บางครั้งถุกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไร้ประโยชน์ในสื่อและในปมุ่่ที่ปรึกษาทางการเมือง
          แต่ด้วยทรัมป์ในปี 2016 พรรครีพับลิกันไม่เพีีงแต่ชนะการเลือกตั้งประานาะิดบีที่เพนซิลเวเนียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในปี 1988 เท่านัี้น แต่ยังมีผลงานที่ดีกว่าผลการเลือกตั้งทั่วประเทศอีกด้วย
 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจครั้งนี้ ได้แก่ ความนิยมอยางสุงของทรัมป์ในพื้นที่ชนบทของรัฐและชานเมืองพิตต์สเบิร์ก และฮิลลารี คลินตันที่ไม่ได้ไปหาเสียงในเมืองต่างๆ หลายแห่งนอกเขตะมือง ชัยชนะที่น่าแปลกใจของทรัมป์ในเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซินในปีนั้น แม้จะเพีีงเล็กน้อยก็ตามทำให้เขาสามารถคว้าชัยชนะจากคณะ(ุ้เลือกตั้งได้และส่งผลให้สื่อและการเมืองทั่วประเทศให้ความสนใจในสามรัฐสำคัญเหล่านี้ขึ้นมาโดยตลอด
         ปี 2024 โดนัลด์ ทรัปม์ ผุ้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครัพับลิกันและอดีตประธานาะิบดีสหรัฐฯ จัดการชุมนุมที่เมืองแฮร์ริสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวนีย เมือวันพุทธ โดยโจมตีประวัติการย้ายถ่ินฐานของพรรคเดโมแครต เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาตั้งคำถามถึงเชื้อชาติของรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส
          การชุมนุมดังกล่าวจัดขึ้นในร่วมที่สนามกีฬาอนิวฮอลแลนด์ในเมืองหลวงของรัฐ 
          "อย่างที่คุณทราบ นี่เป็นการกลับมาที่เพนซิลเวเนียครั้งแรกของผมนับตั้งการชุมนุมชุมนุมที่บัตเลอร์" เขากล่าว ซึ่งเป็นการชุมนุมที่ ทรัมป์ ถูกพยายามลอบสังหาร https://draft.blogger.com/blog/post/edit/57583117367728393/8200309541380190825?hl=th
         "เมื่อสิบแปดวันก่อน เรามีวันเลวร้ายมา กเราเจอเรื่องแย่ๆ มาเยอะ แันบอกคุณได้เลยว่าวันนี้แันไม่ควรอยุ่กับคุณ แันไม่ควรอยุ่กับคุณ แต่ฉันอยุ่ตรงนี้" ในระหว่างงานที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดกับสมาคมนักข่าวผิวสีแห่งชาติของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ในวันพุธ ทรัมป์ได้เผยว่า แฮร์ริสเคยระบุว่าตนเป็นคนเอเชียใต้ แต่กลับยอมรับตัวตนว่่าเป็นผุ้หญิงผิวสีเพื่อความได้เปรียยทางการเมือง 
         "เธอเป็นคนอินเดียมาโดยตลอด แต่จู่ๆ เธอก็เปลี่ยนมาเป็นคนผิว่ำ" ทรัมป์กล่าวถึงแฮร์ริส ซึ่งมีพ่อเป็นคนผิวดำและแม่เป็นคนอเมริกันเชื้อสายอินเดีย
         แฮร์ริส วัย 59 ปี เป็นคนผิวสีและเอเชียใต้มาเป็นเวบานานแล้ว เธอเป็นคนผิวสีและเอเชียใต้อเมริกันคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรอบประธานาธิบดีของประเทศ
        ทั้งสองฝ่ายต่างออกมาประณามกันอย่างรวดเร็ว.. 
 ทรัมป์และแฮร์ริสทุ่มสุดตั้งเพื่อทำให้เพนซิลเวเนียกลายเป็นฟลอริดาแห่งใหม่ ในปี 2000 คือ ฟลอริดา ฟลอริดา ฟลอริดา ในปี 2024 คือ เพนซิลเวนีย เพนซิลเวเนีย เพนซิลเวเนีย ทั้งสองฝ่ายต่างปฏิบัติต่อเพนซิลเวเนียเหมือนกับโอไฮโอหรือฟลอริดาในสมัยก่อน ซึ่งเป็นรัฐที่ผุ้ชนะังมีแนวดน้มที่จะเป็นผุ้ขนะทำเนียบขาวด้วย 
         แคมเปญหาเสียงชิงตแหน่งประะานาะิบดีของ ทรัมป์ และแฮร์ริส ในปี 2024 มีแนวโน้มที่จะใช้งบโฆษณาในเพนซิลเวเนียมากว่าสองเท่า มากว่าในรัฐชี้ขาดอื่นๆ ทั้ง 6 รัฐ ตามการวิเคราะห์
          ทั้งสองฝ่ายต้องปรับกลยุทะ์การโฆษณาของตนเนหืองจาก นาง แฮร์ริสเป็นหัวหอกแทน ประธานาธิบดีไบเดน 
         ทีมของทรัมปืมองว่าเพนซิลเวเนียเป็นโอกาสที่ดีในการฝ่านด้าน รัฐ "กำแพงสีน้ำเงิน" ในมิดเวสต์ซึ่งรวมถึงมิชิแกนและวิสคอนซิน ซึ่งไบเดนพึ่งพาชัยชนะมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รัฐสำคัญอื่นๆ มีแนวโน้มไปในทางเดียวกับทรัมป์ ในสัปกาห์ที่ผ่านมา ทีมของทรัมป์เร่ิมทุ่มเงนิจำนวนมากในหารโฆษณาในรัฐนอร์ธแคโรไลนาและเนวาดาเป็นตรั้งแรก ซึ่ก่อนหน้านี้ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ามีผุ้นำที่น่าพอใจ
           
           https://www.cbc.ca/news/world/trump-pennsylvania-rally-harrisburg-1.7281387
           https://theconversation.com/pennsylvania-continues-tradition-as-keystone-state-in-presidential-elections-232646
          https://www.axios.com/2024/08/03/trump-harris-pennsylvania-ad-spending-president
            
           https://en.wikipedia.org/wiki/Pennsylvania
           https://www.50states.com/state_nickname/pennsylvania/
          

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2567

The Badger State

            "แบดเจอร์" มาจากอดีตที่ร่ำรวยจากการขุดแร่ตะกั่ว โฮ-ชังก์และชนเผ่าพื้นเมืองอื่นๆ ขุดแร่ตะกั่วในภูมิภาคตะวันตะเฉัยงใต้ของวิสคอนซินมาเป็นเวลาหลายร้อยหรืออาจจะหลายพันป ความขัดแย้งเรื่องอาณาเขตในข่วงแรกๆ ในประวัติศาสตร์วิสคอนซินเกิดขึ้นในพท้นที่ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุแห่งนี้ เมื่อชาวอเมริกันที่เข้ามาตั้งรกรากและชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากเริ่มย้ายเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวในช่วงหลายปีก่อนที่จะมีการสถาปนาเป็นรัฐในปี 1848 ชนพื้นเมืองถูกบังคับให้ยกดินแดนให้กับผุ้ตั้งรกรากมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงพื้นทีททางตะวันตกเฉียงใต้ของวิสคอนซินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ชาวอเมริกันและชาวยุดรปแห่กัยนมายังพื้นที่ดังกล่ายเป็นจำนวนหลายหมื่นคน ทำให้ประชากรชายผิวขาวทีีมีสิทธิออกเสียงเพื่ิมขึ้นจนทให้วิสคอนซินเปลี่ยนจากดินแดนหนึ่งไปสู่อีกรัฐหนึ่งอย่างรวดเร็ว แต่ทำไมเราถึงเป็นรัฐแบดเจอร์

           ปรากฎวานักขุดใยุคแรกๆ นั้นยากจนเกินไปยุ่งเกินไป หรือทั้งสองอย่างจึงไม่สามารถสร้างบ้านบนพื้นทีทีั่ขุดแร่ตะกั่วได้ ในทางกลับกันเืพ่อที่จะผ่านพ้นฤดูหนาวที่โหด้ายของวิสคอนซินไปได้ พวกเขาจึงอาศัยอยู่ภายในเหมืองของตนเอง ผุ้คนล้อเลียนพวกเขา โดยเรียกพวกนั้นว่า "แบดเจอร์"ที่อาศัยอยุ่ในโพรงใต้ดินเหมือสัตว์

         ถ้าคุณรุ้จักแบดเจอร์ดีพอ คุณจะรู้ว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่ง แข็งแรงและดุร้าย คนงานเหมืองรู้สึกภูมิใจที่ได้เกี่ยวข้องกับสับสัตว์ร้ายเช่นนี้ และด้วยเหตุนี้ คนงานเหมืองจึคงกลายเป็นแบดเจอร์ และพวกเราจึงกลายเป็นรัฐแบดเจอร์...

 วิดคอนซิน เป็นรัฐในเกรดเลกส์ของภาคระว้นตกเแียงเหนือของสหรัฐฯ มีอาณาเขตติดกับมินนิโซตาทางตะวันตก ไอโอวา,อิลินอยส์ ทางทิศใต้ ทิศตะวันออกติดกับทะเลสาบมิชิแกน ตะวันออกเแียงเหนือติดกับ มิชิแกนและทะเลสาบสุพีเรีย ทางทิศเหนือ 

        วิสคอนซินเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 20 และรับที่มีพื้นที่มากป้นอันดับ 23 แบ่งออกเป็น 72 มณฑล และจากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี 2020 มีประชากรเกือบ 5.9 ล้านคน เมืองที่มีประชากรมากที่สุดคือมิลวอกี ในขณะที่เมืองหลวงและเมืองที่มประชากรมากเป็นอันดบสอคือเมดิสัน ศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่แห่งอื่นๆ ได้แก่ กรีนเบย์ เคโนชาราซีน และฟ็อกซืซิตี้ส์

        ภูมิศาสตร์ของ วิสคอนซิน มีความหลากหลาย ดดยมี ะารน้ำแข็ง ในยุคนำ้แข็ง เป็นตัวกำหนด ยกเว้นพื้นที่ "ดริวท์เลส" พื้นที่สูงทายงต่อเหนือและพื้นที่สูงทางตะวันตกรวมถึงพื้นที่ราบภ-าคกลาง บางส่วนครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันตกของรัฐ ดดยมีพื้นที่ราบลุ่มทอดยาวไปจนถึงชายั่งทะเลสาบมิชิแกน วิสคอนซินมีความยาวเป็นอันดับสามรองจากออนแทรีโอ และมิชิิแกนในด้านความยาวของ แนวชายฝั่งทะเลสาบเกรดเลกส์ ส่วนทางตอนเหนือของรัฐเป็นที่ต้งของป่าสงวนแห่งชาติ Chequamegon-Nicoletในช่วงเวบาที่มีการติดต่อกับยุโรปพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่อยุ่อาศัยของ ชขเผ่า Algonquian และ Siouan และปัจจุบันเปนที่อยุ่อาศัยของชนเผ่าที่รัฐบาลกลางรับรอง 11 เผ่า ในช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ผุ้ตั้งถ่ินฐานชาวยุดรปจำนวนมากเข้ามาในรัฐ โดยส่วนใหญ่อพยพมาจากเยรมัน และสแกนดิเนเวีย วิสคอนซินยังคงเป็นศุนย์กลางของวัฒนะรรม อเมริกันเชื้อสายสแกนดิเนเวีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอาหารโดยมีอาหารอย่าง Bratwurst และ kringle 

        วิสคอนซิน เป็นหนึ่งในผุ้ผลิต ผลิตภัณฑ์นมชั้นนำของประเทศและเป็นที่รุ้จักในชื่อ "ดินแดนแห่งนมของอเมริกา" ดดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชีส รัฐนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านเบียร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิลวอกี ในฐานะสำนักงานใหญ่ ของ Miller Brewing Company วิคอนซิน มีกฎหมายแอลกอฮอล์ที่ผ่นปรนที่สุดแหนงหนึ่งในประเทศและเป็นที่รุ้จักในเรืองวัฒนธรรมการดื่ม

         เศรษฐกิของรัฐ เป็นการ ผลิต การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทส และเกษตรกรรม ดดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นม แครนเอบร์รีและโสม การท่้องเที่ยวยังเป็นปัจจัยสำัญต่อเศราฐกิจของรัฐอีกด้วย ผลิตภัฒฑ์มวบรวมในประเทศในปี 2020 อยุ่ที่ 348 พันล้านดอลลาร์ วิสคอนซินเป็นที่ตังของแหล่งมรดกโลกของ UNNESCO หนึ่งแห่ง ซึ่งเประกอบด้วยอาคารที่สำคัญที่สุดสองหลัง ที่ออกเปบโดย "แฟรน์ค ลอย์ด วริงท์" สภาปนิกชาววิสคอนซิน สตุดิโอของเขาที่ "ทาเลียซิน ใกล้ สปริง กรีน และ จาคอปส์ ไอ เฮาส์ ของเขา ในแมนดิสัน พรรครีพับลิกันก่อตั้งขึ้นในวิสคอนซินในปี 1854 ในช่วงไม่กีปีที่ผ่านมา วิสคอนซินเป็นรัฐสมรภูมิ หรือสวิง สเตรทในการเลือกต้่งประธานาธิบดีดดยเฉาพอย่างยิ่งในปี 2016และ2020

          ก่อนที่ไบเดนจะถอนตัวจากการแข่งขัน ยูเอส นิวส์ได้ประเมินวิสคอนซินในเดือนมิถุนายนว่าเป็นรัฐที่ "เสี่ยงดวง" ในการเลือกตั้งประธานาะิบดีปี 2024 ซึ่งเป็นคำอธิบายที่เหมาะสมสำหรับรัฐที่การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในทำเนียบขาว 4 ครั้ง จาก 6 ครั้งที่ผ่านมา มีการตัดสินด้วยคะแนนน้อยกว่า 1 คะแนนผุ้ชนะในรัฐนี้ยังได้ชนะการเลือกตั้งประธานาะิดบี 4 ครั้งที่ผ่านมาอีกด้วย

 รัฐนี้อยู่ในแคมเปญหาเสียงของทั้งสองพรรค แต่บางที่อสจสำคัญกว่าสำหรับเดโมแครต เนื่องจากพวกเขาพยายามยึด "กำแพงสีน้ำเงิน" ของวิสคอนซิน มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย ซึ่งช่วยให้ไบเดนมีชัยชนะเหนือทรัมป์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว

         ก่อนจะยุติการเสนอชื่อชิงตำแหน่งสมัยที่สอง ไบเดนได้ไปเยื่อนวิสคอนซินหลายคร้งในปี 2024 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของรัฐนี แฮร์ริสได้จัดการชุมนุมในรัฐที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม หสึีงวันหลังจาก ได้รับการสนับสนุน จากผุ้แทนพรรคเดดมแครตส่วนใหญ่ ซึ่งจะเป็นผุ้กำหนดผลการเสนอชื่อในงานที่เมืองมิวอกี รองประะานาธิดบดีกล่าว "เส้นทางสุ่ทำเนียบขาวต้องผ่านสิสคอนซิน และเืพ่อที่จะชนะในวิสคอนซิน เราหวังพึ่งคุณที่นี่ในมิลวอกี" โดยระบว่าสำนักงานใหญ่ของแคมเปญในรัฐตั้งอยุ่ในเมืองนี้

           ทรัมป์ เดินทางเยือนรัฐดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมือวันที่ 2 เมษายนนับต้งแต่ปี 2022 ซึ่งตรงกับช่วงการเลือกตั้งขั้นต้นของประธานาธิบดี เขาเดินทางกลับวิสคอนซินอีกครั้งเมือวันที่ 1 พฤษภาคม ดดยไปเยือนเมืองวอเคชา ซึ่งเป็นที่ตั้งมณฑ,สมรภูมิสำคัญ ที่มีชื่อเดียกัน ในปี 2024 ซึ่งถือเป็นการชุมนุมครั้งแรกของทรัมป์นับตั้งแต่เริ่มการพิจารณาคดีเงินปิดปากในนิวยอร์ก ซึ่งในทีุสดเขาก็ ถุกตัดสิน ว่ามีความผิด

        อดีตประะานาธิบดีเดินทางกลับมายังรัฐอีกครงในวันที่ 18 มิถุนายน เพื่อเข้าร่วมงานที่เมืองราซีน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท Foxconn ผุ้ผลิตเทคดนดลยีองไต้หวัน ซึ่งไดรับการยกย่องอย่างมากในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง แต่หลังจากนั้นก็พิสูน์แล้วว่าไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะที่อยุ่ในเมืองราซีน ทรัปม์ได้ดจมตีจุดออ่นทางเศราฐกิจของไบเดน (ซึ่งในขณธนั้นเป็นผุ้ได้รับการเสนอชื่อโดยสันนิษฐานป โดยเน้นย้ำถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงและกล่าว่า "ความฝันแบบอเมริกันนั้นตายไปแล้ว" การเดินทางดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่ทรัมป์ได้บอกกับสมาชิกรัฐสภาของพรรครีพับลิกันว่ามิลวอกี ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรครีพับลิกันเป็น "เมืองที่แย่มาก" เขาปฏิเสะคำพูดดังกล่าวในดพสต์บนโซเชียล แต่หลังจากที่เขาดูเหมือนจะยืนยันว่าจะไปที่นั้นและพยายามอะิบายเรื่องนี้ในการให้สัมภาษณ์กับ ฟ็อกนิวส์ สองวันก่อนที่พรรครีพัลลิกันจะเร่ิมการประชุมใหญ่ในรัฐที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเสนอชื่อทรัมป์และคู่หูของเขา เจดี แวนซ์จากโอไฮโอ ซึ่งจะได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการ อดีตประธานาธิบดีรายนี้รอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารในการชุมนุมหาเสียงที่เพนซิวาเนีย

          ทรัมป์พยายามอย่างหนัก เพื่อพลิกกลับความพ่ายแพ้ในปี 2020 ในวิสคอนซนและจบลงด้วยการแพ้คดีหลายคดี ผุ้สนับสนุนของเขายังพยายามบังคับให้มีการเลือกตั้งถอดถอนสมาชิกพรรครีพัลลิกันที่ได้รับการเลือกตั้งสุงสุดของรัฐ ซึ่งปฏิเสธความพยายามที่จะถอดถอนชัยชนะของไบเดน ในปี 2020 และไม่สนับสนุนแผนการถอดถอนเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งระดับสูงของรัฐ

  กลุ่มผุ้มีสิทธิออกเสียงที่สำคัญในวิสคอนซิน

         ชาววิสคอนซินประมาณ 80.1% เป็นชาวผิวขาว รองลงมาคือกลุ่มชาติพันธ์คือกลุ่มอิสแปนิก 7.6% และกลุ่มคนผิวดำหรือแอฟริกันอเมริกัน 6.6% การที่รัฐมีความหลากหลายน้อย หมายความว่าผุ้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นชนชั้นแรงงานผิวขาวเป็นกลุ่มสำคัญสำหรับผุ้สมัครทั้งสองคน พวกเขาเป็นผุ้สนับสนนุทรัมป์อย่างสำคัญในปี 2016 แม้ว่าไบเดนจะเข้ามาแทรกแซงกลุ่มนี้ในวงกว้างขึ้นระหว่างทางสุ่ชัยชนะในปี 2020 

       กลุ่มสำคัญอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเห็นได้ชัดเจนสำหรับทั้งแฮร์ริสและทรัมป์ทั่วประเทศก็คือผุ้มีสิทธิเลือกตั้งอิสระ แม้ว่าวิสคอนซินจะไม่ลงทะเบียนผุ้มีสิทธิเลือกตั้งตามพรรคการเมือง แต่ข้อมุลการสำรวจในอดีต แสดงให้เห็นว่าผุ้มีสิทะิเลือกตั้งของวิสคอนซินมีการแบ่งแยกค่อนข้างเท่าๆ กันระกว่างเดโมแครและรีพับลิกัน ดดยมีประชากรอิสระจำนวนไม่น้อยที่อยุ่ระหว่างทั้งสองพรรค กลุ่มนี้ช่วยให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในรัฐนี้ในปี 2016 และช่วยให้ไบเดนขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคในปี 2020 

       ในการสำรวจล่าสุด ประเด็นสำคัญสำหรับผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในวิสคอนซิน ล่าสุด สำรวจเมือเดือนกุมภาที่ผ่านมา แดสงหใ้เห็นว่า เศราฐฏิจเป็นปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับผุ้ัมีสิทธิเลือกตั้งในวิสคอนซินเกือบหนึ่งในสาม 31% รองลงมาคือภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย 13% การย้ายถ่ินฐาน 11% การดุแลสุขภาพ 10% การศึกษา 7% ความสามารถในการซื้อที่อยุ่อาศัย 7% อาชญากรรม 7% และการเข้าถึงการทำแท้ง 7% 

          https://www.usnews.com/news/elections/articles/the-2024-swing-states-wisconsin-could-sway-the-presidential-election

          https://en.wikipedia.org/wiki/Wisconsin

          https://wisconsinhistory.org/Records/Article/CS16342

      

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2567

"The Great Lakes State"

            ชื่อเล่นประจำรัฐมิชิแกน คือ  "รัฐวูล์ฟเวอรีน" มีทฤษำีมากมายทีอธิบายว่าทำไมมิชิแกนถึงได้รับชื่อเล่นนี้ วุล์ฟเวอรีนมีชื่อเสียงในด้าน "นิสัยดุร้ายและความสามารถในการทำลายล้าง" ปัจจุบัน มิชิแกนมักถุกเรียวกวา่ ไรัฐเกรดเลกส์" ชือเล่นนี้ปรากฎอยุ่ในเหรียญที่ระลึกฉลองครบตอบ 200 ปี มิชิแกนของโรงกษาหณืสหรัฐฯ มิชิแกนยังถุกเรียกว่า "ดินแดนแห่งน้ำ"  เป็นรัฐเดียวที่สัมผัสกับเกรดเลกส์ 4 แห่งจากทั้งหมด 5 แห่ง มิชิแกนมีอาณเขตติดกับ ทะเลสาบมิชิแกน ทะเลสาบสุพีเรีย ทะเลสาบฮุรอน และทะเลสาบอีรี ทะเลสาบออนแทรีโอ เป็นเกรดเลกส์แห่งเดียวที่ไม่อยู่ในมิชิแกน


            ตามประวัติ การประชุมระดับมณฑลครั้งแรกของพรรครีพับลิกันจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสันในวันที่ 6 กรกฎาคม 1854 และพรรคดังกล่าวก็ครอบงำมิชิแดนมาจนถึงช่วยภาวะเศราฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในการเลือกตั้ง ปี 1912 มิชิแกนเป็นหนึ่งในหกรัฐที่สนับสนุน ธีโอดอร์ โรสเวลต์ ผุ้สมัครจากพรรครีพัลลิกันและพรรคที่สามที่ก้าวหน้าให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากที่เขาแพ้การเสนอชื่อชิงตำแหนงประะานาธิบดีจากพรรครีพัลลิกันให้กับ วิลเลียม โฮเวิร์ด แทฟท์ 

            รัฐมิชิแกนยังคงเลือกรีพับลิกันในระดับประธานาธิบดีอย่างเหนี่ยวแน่นตลอดช่วงศตวรรษที่ 20 รัฐนี้เป็นส่วนหนึ่งของเกรตเตอนิวอิงแลนด์ ซึ่งเป็นรัฐทางตอนเหนือของรัฐที่มีผุ้อพยพจากนิวอิงแลนด์เขามาตั้งถ่ินฐานเป็นหลัก ซึ่งพวกเขานำวัฒนะรรมของตน ติดตัวมาด้วย รัฐนี้เป็นหนึงในไม่กี่รัฐที่สนับสนุน เวน เอลล์ วิลกี แทน แฟรงคลิน รูสเวลต์ในปี 1940  และสนับสนุนโทมัส อี. ดิวอี้ในการหาเสียงที่แพ้ให้แก่ แฮร์รี่ เอส. ทรูแมนในปี 1948 

         มิชิแกนได้เข้าร่วมกับพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีทั้งสามครั้งในช่วงทศวรรษทื 1960 แต่ได้ลงคะแนนใหกับผุ้สมัครจากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งทุกครั้งตั้งแต่ปี 1972 ถึง 1988 รวมถึงเจอรัลฟอร์ด "ลูกชายพื้นเมือง" ในปี 1976 ตั้งแต่ปี 1992 รัฐได้สนับสนุนพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนเสียงที่พอประมาณ ยกเว้นชัยชนะอย่างหวุดหวิดของ โดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2016 ซึ่งถือเป็นการเลือกตั้งที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ ในปี 2020 โจ ไบเดนได้ชัยชนะกลับมาด้วยคะแนน 2.8 คะแนน

 31/7/2024 รองประะานาะิบดีกลมา แฮร์ริสแซงหน้าอดีตประะานาธิดบีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการสำรวจความคิดเห็นครั้งใหม่ของรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นรัฐสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง

          การสำรวจความคิดเห็นซึ่งจัดทำโดย Morning Consult สำหรับ "บลูมเบิร์ก" พบว่าแฮร์ริสจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำทรัมป์จากพรรครัพับลิกัน 12 คะแนนใน "สวิง สเตรท" ซึ่งเป็นที่ที่เขเคย สำรวจความคิดเห็น นำ โจ ไบเดน มาดดยตลอดแต่ก็อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะประกาศยุติการหาเสียง

        การสำรวจนี้สำรวจผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียง 706 คนในรัฐมิชิแกนระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคม และมีค่าความคล่ดเคลื่อนบวกหรือลบ 4% 

       เมื่อถามว่าหากการเลือกตั้งจัดขึนในวันนี้พวกเขาจะลงคะแนนให้ใคร ผุ้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 51


เลือกแฮร์ริส ร้อยละ 39 เลือกทรัมป์ และร้อยละ 5 เลือก โรเบิร์ต เอฟ.เคนเนดี้ จูเนียร์ ผุ้สมัครอิสระ ร้อยละ 3 ของผุ้ตอบแบบสอบถามเลือกผุ้สมัครรายอื่น

       เมื่อวันพุทธที่ผ่านมา นิตยสาร "นิวส์วีค" ติดต่อไปยังทัมหาเสียงของทรัมป์ทางอีเมลเพื่อขอความเห็น

       แม้จะมีการสำรวจความคิดเห็น ผุ้เชี่ยวชาญก็ยังระบุว่ามิชิแกนไม่ใช่รัฐที่ปลอดภัยสำหรับ พรรคเดโมแครต เดวิด ดุลิโอ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอ็คและนด์ของมิชิแกน กล่าวกับนิตยสาร "นิวส์วีค" ว่าการสำรวจความคิดเห็นของ "มอร์นิ่ง คอนซูลท์"ถือว่าแตกต่างไปจาการสำรีวจความคิดเห็นอื่นๆ เมื่อเร็วๆนี้ และไม่จำเป็นต้องเป็นจุดเร่ิมต้นของแนวโน้มใหม่

       ในขณะที่บริษัทสำรวจความคิดเ็นอื่นๆ มักจะจัดอันดับให้ทรัมป์นำหน้าไบเดน ในมิชิแกนเมืองช่วงต้นปี แต่ "มอร์นิง คอนซูลท์" ซึ่งดำเนินการสนำรวจความคิดเห็นนี้ เป็นบริษัทเดียวที่จัดอันดับให้ ไบเดนนำในรัฐนี้ โดยการสำรวจความคิดเห็นของพวกเขาระบุว่า ไบเดนนำหน้าในมิชิแกนตั้งแต่เดือนเมษายน


 "ดูลิโอ" กล่าวว่า เมื่อผุ้ตอบแบบสอบถามถุกถามว่าผุ้สมัครคนใดจะสามารถจัดการกับประเด็นเฉพาะได้กีกว่า แฮร์ริสเป็นผุ้นำในเรื่องการทำแท้ง พวกเขามีคะแนนเท่ากันในเรื่องเศราฐกิจ และทรัมป์เป็นผุ้นำในเรื่องการย้ายถ่ินฐาน

 ไเปอร์เซ็นต์ที่บอกว่าการทำแท้งมีความสำคัญต่อการลงคะแนนเสียงของพวกเขานั้นขับเคลื่อนโดยฐานเาียงของพรรคเดโมแครต แต่การย้ายถ่ินฐานอาจมีความสำคัญต่อผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่สามารถโน้มน้าวใจได้มากกว่า" เขากล่าว

      ดูลิโอ กล่าวว่า ทรัมป์มีฐานเสียงที่ภักดีในมิชิแกนซึ่งส่วนใหญ่จะออกมาลงคะแนนให้เขา "การประกาศของแฮร์ริสทำให้ฐานเสียงขอวพรรคเดโมแครตกลับมาคึกคักขึ้นอย่างแน่นอน แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะมีพลังมากกว่าพรรครีพัลลิกัน" เขากล่าว "เช่นเดียวกับแคมเปญฯส่วนใหญ่ในมิชิแกน ผลลัพธ์จะขึ้นอยุ่กับสองสิ่ง แคมเปญที่ดึงผุ้สนับสนุนออกมาได้ และการต่อสู้เพื่อชิงผุ้สนับสนุน 10% ที่ "สามารถเอาชนะได้"

      "ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นว่ามิชิแกนยังไม่ปิดตัวลงก็คือเธอ (แฮร์ริส) และเพื่อร่วมทีมที่ยังไม่ได้ประกาศชื่อจะม่ที่นี้ในสัปดาห์หน้า พวกเขาไม่ได้มองข้ามเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน"

         เบอร์นี่ พอร์น นักสำรวจตความคิดเห็นและผุ้ก่อตั้งบริษัท EPIC-MRA ซึ่งตั้งอยู่ในมิชิแกน กล่าวกับนิตยสาร นิวส์วีค ว่า แฮร์ริสกำลังได้รับความนิยมจากผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในกลุ่มประชากรสำคัญที่ไบเดนมีผลงานตำ่กว่าที่คาดไว้ในมิชิแกน รวมถึงในกลุ่มผู้หญิง และในกลุ่มชาวอเมริกันอาหรับ เนืองจากเธอมีจุดยืนในการเรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซา


       "จากผลสำรวจครั้งหนึ่ง แันจะไม่บอกว่ามิชิแกนกลายเป็นคู่แข่งของพรรคเดโมแครต แต่ผลสำรีวจครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าแฮรืริสเป็นผุ้นำในหลายประเด็นไ พอร์นกล่าว "แฮร์ริสและพรรคเดดมแครตดูเหมือนจะมีกำลังใจและอาจเป็นเพราะไบเดนตัดสินใจลาออกและสนับสนุนแฮร์ริส

      "หากการสำรวจความคิดเห็นเพ่ิมเติมแสดงให้เห็นผลลัพธ์แบบเดียวกันในขณะที่การรณรงค์ดำเนินไป ในกาณีนั้นการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอันดับของมิชิแกนจึงควรได้รับการพิจารณา

       มิชิแกนน่าจะเป็นหนึ่งในรัฐที่สำคัญที่สุดในการตัดสินผลการเลือกตั้งเนื่องจากเป็นรัฐที่มีคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งมากที่สุดรัฐหนึ่ง (มี 15 คะแนน) และมีการแข่งขันสูงกว่ารัฐอื่นๆ ที่มีประชากรหนาแน่น เช่น แคลิฟรอ์เนีย เท็กซัส ฟลอริดาร และนิวยอร์ก

           https://www.newsweek.com/kamala-harris-michigan-lead-donald-trump-1932556

          https://en.wikipedia.org/wiki/Politics_of_Michigan

          https://statesymbolsusa.org/symbol-official-item/michigan/state-nickname-state-quarter/great-lakes-state

        

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

Swing State

            Swing State  ในทางการเาืองอเมริกันรัฐที่มีฮอกาสชนะ เรียกอีอย่างว่า รัฐสมรภุมิ, รัฐเสี่ยง,หรือรัฐม่วง คือรัฐใดๆ ที่ผู้สมัครจาก พรรคเดฮมแครตหรือรีพับลิกัน สามารถคว้าชั้ยชนะในการเลือกตั้งระดับรัฐได้ โดยส่วนใหญ่มักจะหมายถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยอาศัย ผลคะแนนที่เปลี่ยนแปลงไป รัฐเหล่านี้มักเป็นเป้าหมายของแคมเปญหาเสียงของพรรคใหญ่โดยเฉพาะในการเลือกตั้งที่มีการแข่งขันกันสูง ในขณะเดียวกัน รัฐที่มักจะโน้มเอียงไปทางพรรคใดพรรคหนึ่งมักจะเรียกว่า "รัฐปลอดภัย" หรือดดยเฉาพะคือ "รัฐแดง"และ "รัฐน้ำเงิน" ขึ้นอยู่กับการโน้มเอียงของพรรค เนื่องจากโดยทั่วไปถือว่าผู้สมัตรหนึ่งคนมีฐานเสียงที่ดึงคะแนนเสียงจากผุ้สมัครได้เพียงพอโดยไม่ต้องลงทุนหรือพยายามมากนักในการหาเสียง

             เนื่องจาก รัฐส่วนใหญ่ใช้วิธี "ผุ้ชนะกินรวบ" เพื่อกำหนดผุ้เลือกตั้งประธานาธิบดี ผุ้สมัครจึงมัหาเสียงเฉพาะในรัฐที่มีการแข่งขันสุงเท่านั้นซึ่งเป็นสาเหตุที่กลุ่มรัฐที่คัดเลือกมาอย่างดีจึงมักได้รับการโฆษณาและผุ้สมัรเขาเยี่ยมชมเป็นส่วนใหญ่ สนามรบอาจเปลี่ยนแปลไปในแต่ละรอบการเลือกตั้งและอาจสะท้อนให้เห็นได้จากการสำรวจความคิดเห็นโดยรวม ข้อมุลประชากร และความดึงดุดใจทางอุดมการณ์ของผู้ได้รับการเสนอชื่อ

            ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกา แต่ละรัฐมีอิสระในการตัดสินใจเลือกคณะผุ้เลือกตั้งของตน เพื่อเพิ่มอำนาจการลงคะแนนในระบคณะผุ้เลือกตั้ง รัฐทุกแห่ง ยกเว้น เมน และ เนแบรสกาได้นำ ระบบ ผุ้ชนะกินรวบโดยผุ้สมัครที่ได้รับะแนนนิยมสุงสุดในรัฐหนึ่งจะชนะคะแนนเลือกตั้งทั้งหมาดของรัฐนั้น ความคาดหวังก็คื อผุ้สมัตรจะดูแลผลประโยชน์ของรัฐที่มีคะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุด อยางไรก็ตาม ในทางปกิบัติผุ้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่มักจะไม่เปลี่ยนพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งครังหนึ่งไปสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป ทำให้ผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีใช้เวลาและทรัพยากรที่มีจำกัดในการหาเสียงในรัฐที่พวกเขาเชือ่ว่าสามารถหันเข้าหาพวกเขาหรือหยุดรัฐต่างๆ ไม่ให้หันเข้าหาพวกเขาได้ และไม่ใช้เวลาหรือทรัพยากรในรัฐที่พวกเขาคาดวาจะชนะหรือแพ้ เพนืองมาจากระบบการเลือกตั้ง ทำให้การรณรงค์หาเสียงมีความกังวลน้อยลงกับการเพ่ิมคะแนนเสียงนิยมในระดับประเทศของผุ้สมัครและมักจะภม่งเน้นที่คะแนนเสียวนิยเฉพาะในรัฐที่สามารถให้คะแนนเสียงเลืกอตั้งที่จำเป็นในการชนะการเลือกตค้งเท่านั้น และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผุ้สมัครจะได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งที่เพียงพอในขณะที่ไม่ได้ชนะคะแนนเสียงนิยมในระดับประเทศ

            หกรัฐชี้ชะตาเตรียมตักสินผลการเลือกตั้งสหรัฐฯปี 2024 การเลือกตั้งสหรัฐฯในปีนี้มีผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียงราว 240 ล้านคนแต่มีแนวโน้มว่าจะมีเพียงจำนวนเล็กนอ้ยเท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจได้ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป

             ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีเพียงไม่กี่รัฐเท่านั้นที่มีแนวโน้มว่าผุ้สมัตรจากพรรคเดโมแครตอย่าง กมลา แฮร์ริส หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ จะคว้าชัยชนะได้ 

             ทั้งหกรัฐ ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา เพนซิลเวเนีย และวอิสคอนซิน ดูเหมือนว่าจะอยุ่ในภาวะเสียง และอาจเป็นผุ้ถือครองกุญแจสำคัญในการที่จะได้ครองทำเนียบขาว

            ทั้งสองฝ่ายจึงหาเสียงกันอย่างเข้มข้นเพื่อชนะใจผุ้มีสิทธิเลือกตังที่ยังไม่ตัดสินใจตในรัฐเหล่านี้

           แอริโซน่า 

           นายไบเดน ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในปี 2020 โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐแกรนด์แคนยอน ซึ่ลงคะแนนสนับสนุนผุ้สมัครจากพรรคเดดมแครตอย่างหวุดหวิดเป็นครั้งแรกนับตึ้งแต่ทศวรรษ 1990

          รัฐนี้ติดกับเม็กซิโกเป็นระยะทางหลายร้อยไมล์ และกลายเป็นจุดศุนย์กลางของการอภิปรายเเรดืองการอพยพเข้าเมืองของประเทศ จำนวนผุ้เดินทางมาถึงชายแดนสหรัฐฯ ถุ่งสูงเป็นประวัติกาณณ์ในช่วงที่นาย ไบเดน ดำรงตำแหน่งอยุ่ทำให้เขาต้องปวดหัวกับการเลือกต้งอย่างหนัก จำนวนผุ้ข้ามพรมแดนลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่เขาได้แสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวขึ้นและวางแผนที่จะปิดพรมแดนเมือจำนวนผุ้ข้ามพรมแอนพุ่งสูงขึ้น

        เขายังให้คำมั่นว่าจะดำเนินการ "ปฏิบัติกาเนรเทศครั้งวใหญ่ที่สุด" ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ หากเขาได้ดำรงตำแหนงผระธานาธิบดีอีกครั้ง


          รัฐแอริโซนาบังเผชิญความขัดแย้งอย่างระนแรงเกี่ยวกับสิทธิในการทำแท้ลหลังจากพรรครีพัลลิกันของรัฐพยายามฟื้นคืนกฎหมายห้ามการทำแ้งแบบถาวรที่บังคับใช้มายาวนาน 160 ปี กฎหมายนี้กลายเป็นประเด็นร้อนทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2022 เมื่อศาลฎีกาสหรัฐฯ พลิกคำตัดสินสำคัญที่หใ้สิทธิสตรีในการทำแท้ตามรัฐธรรมนูญ

            จอร์เจีย

             รายชื่อรัฐที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรานั้นใกล้เคียงกับรายชื่อสถานที่ที่เจ้าหน้าที่พรรคีพับลิกันที่ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์พยายามขัดขวางชัยชนะของนายไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 ในรัฐจอร์เจีย การกล่าวหาว่านายทรัมปืถุก แทรกแซงการเลือกตั้งส่งผลให้เขาต้องติดอยุ่ในคดีอาญา 1 ใน 4 คดี เขาและอีก 18 คนถุกกล่าวหาว่าร่วมกันวางแผนพลิกกลับสถานการณ์ที่เขาพ่ายแพ้ต่อนาย ไบเดน อยางหวุดหวิดในรัฐนั้น เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาใดๆ และคดีนี้ดุเหมือนจะไม่ได้รับการพิจารณาในศาลก่อนการเลือกตั้ง

            อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอดูว่าปัญหาทางกฎหมายของนายทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อตัวเขาในการเลือกตังหรือไม่ เราอาจได้ทราบเร็วๆ นี้เนืองจากการพิจารณาคดเงินปิดปากของเขาสิ้นสุดลงด้วยการตัดสินว่าเขามีความผิด 

           ด้วยจำนวนประชากร 33% จอร์เียจึงมีสัดส่วนคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันสูงที่สุดแหงหนึ่งของประเทศ และเชื่อกันว่าประชากรกลุ่มนี้มีบทบาทสำคัญในการที่นาย ไบเดน พลิกสถานการณืในรัฐในปี 2020 อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวดำ ในอเมริกผิดหวัง โดยบางคนบอกว่าทำอะไรไม่มากพอในการต่อสุ้กับความอยุติะรรมทางเชื้อชาติหรือพัฒนาเศรษฐกิจ

            มิชิแกน 

            รัฐเกรดเลกส์ได้เลือกผุ้สมัตรชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ชนะการเลือกตั้งสองครั้งล่าสุด แม้จะสนับสนุนนายไบเดนในปี 2020 แต่การทำเช่นนั้นก็กลายเป็นัญลักษณ์ของการตอบดต้จากทั่วประเทศต่อการสนับสนุนอิสราเอลของประธานาธิบิดีระหว่างสงครามในกาซา

          ในระหวางการแ่งขันขั้นต้นของพรรคเดโมแครตในรัฐมิชิแกนเมื่อเอืนกุมภาพันธ์ ผุ้มีสิทธิออกเสีงกว่า 100,000 คนได้เลือกตัวเลือก "ไม่ผูกมัด" ในบัตรลงคะแนของตน หลังจากที่มีการรณรงค์โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ต้องการให้รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนการหยุดยิงในฉนวนกาซาและหยุดความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอล ที่น่าสังเกตคือ มิชิแกนมีชาวอเมริกันเชื่้อสายอาหรับมากที่สุดในประเทศซึ่กลุ่มคนที่สนับสนุนนายไบเดน กำลังตกอยู่ในอันตราย แตแฮร์ริสได้เริ่มต้นการรณรงค์ของเธอด้วยนำ้เสียงที่แข็งกร้าวต่ออิสราเอล และผุ้ประท้วงในฉนวนกาซาบางส่วนบอกกับบีบีซีว่าพวกเขาหวังว่าเธอจะเห็นใจจุดยืนของพวกเขามากขึ้น

         ประะานาธิบดีทรัมป์เน้นย้ำถึงความสำคัญของรัฐในเส้นทางสุ่ชัยชนะของเขาโดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ในตะวันออกลางว่า เขาเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการรณรงค์ต่อต้านกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา แต่ "ต้องทำให้เสร็จโดยเร็ว" 
            เนวาดา

            รัฐซิลเวอร์สเตดได้ลงคะแนนเสียงให้กับพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา แต่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าพรรครีพัลลิกันอาจพลิกกลับมาชนะได้ ค่าเฉลี่ยล่าสุดทีเ่ผยแพร่โดยบริษัทติดตามผลสำรวจ 538ระบุว่านายทรัปม์มีคะแนนนำนายไบเดนอย่างท่าวท้น แต่เราต้องรอดูผลสำรวจว่านางแฮร์ริสจะทำได้ดีแค่ไหน ผู้สมัครทั้งสองคนกำลังแข่งขันกันเพื่อคว้าชัยชนะจากประชากรละติน จำนวนมากของรัฐ

           แม้ว่าเศราฐกิจ สหรัฐฯ จะเติบโตอยางแข็งแกร่งและมีการสร้งงานเพื่อมขึ้นับตั้งแต่ที่นายไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี แต่การฟื้นตัวหลังโควิดในเนวาดากลับช้ากวาที่อื่นๆ ด้วยอัตราว่างงาน 5.1% รัฐนี้มีอัตราการว่างงานสุงที่สุดในประเทศ รองจากรับแคลิฟอร์เนียและเขตโคลัมเบีย ตามสถิติล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง เขาให้คำมั่นว่าจะกลับมาใช้นดยบายลดหย่อนภาษีในทุกด้าน และมีกฎเกณฑ์ี่น้อยลง

           เพนซิลเวนีย

           ชาวเพนซิลเวเนียไม่ใช่กลุ่มคนอเมริกันกลุ่มเดียวที่รุ้สึกดดันเรื่องค่าครองชีพอันเป็นผลจากภาวะเงินเฟ้อ แต่ราคาอาหารชำในรัฐเพนซิลเวนีกลับพุ่งสุงขึ้นเร็วกว่าในรัฐอื่น ตามข้อมุลของ "ดาต้าเซมบลี" ซึ่งเป็นผุ้ให้บริการข้อมูลตลาด

          สำนักข่าว BBC รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่าประชาชนในเมืองอีรีต้องดินรนต่อสุ้เพียงใด ซึ่งเป็นเมืองสำคัญสำหรับรับเพนซิลเวเนียที่เหลือ โดยมีคนมากถึง 1 ใน 8 คนที่ถูกมองว่า "ขาดแคลนอาหาร" รัฐได้พิสูจน์ให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการเลือกตั้ง 2020 โดยสนับสนุนนายไบเดนในการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ประสบความสำเร็จเเขามีความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งกับเมืองสแครนตัสซึ่งเป็นเมืองชนชั้นแรงงาน ซึ่งเป็นเมืองที่เขาเติบโตขึ้นมา

         เงินเฟ้อที่สูงอาจส่งผลกระทบต่อนายไบเดนทั่วสหรัฐฯ เนื่องจากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าเงินเฟ้อทำให้ผุ้มีสิทธิออกเสียงมีมุมมองต่อเศราฐกิจในเชิงลบ 

         ทรัมป์พยายามดจมตีคู่ต่อสุ้ของตนในเรื่องราคาที่สุงอยางต่อเนื่อง แต่เขาก็เชิญกับความท้าทายในรัฐเพนซิลเวเนียเช่นกัน หลังจากที่คุ่แข่งจากพรรครีพับลิกันอย่างนิกกี เฮลีย์ทำผลงานได้ค่อนข้องดีในกาเรลือกตังขึ้นต้น

           วิสคอนซิน 

           รัฐแบดเจอร์ยังเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ชนะในทั้งปี 1996 และ 2000 ด้วยคะแนนห่างกันเพียงเล็กน้อยกว่า 20,000 คะแนนในแต่ละครั้ง

          ผุ้เชี่ยวชาญได้เสนอแนะว่าในรัฐชายอบเช่นนี้ผุ้สมัครจากบุคคลภายนอกที่รัณรงค์ต่อต้านนโยบายของผุ้สมัครรายใหญ่ทงสองราย อาจสร้างผลกระทบได้ การสำรวจความคิดเห็นระบุว่าการแสดงการสนับสนุนผุ้ที่เป็นอิสระ เช่น โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ จูเนียร์ อย่างมาก ซึ่งกำลังต่อสุ้เพื่อชิงตำแหน่งในวิสคอนซิลและรัฐอื่นๆ อาจส่งผลเสียต่อคะแนนเสียงของนายไบเดนหรือนายทรัมป์

        ทรัมป์ได้กล่าวถึงรัฐนี้ว่า "สำคัญมาก..หากเราชนะวิสคอนซิน เราก็จะชนะทั้งหมด" การประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรครีพับลิกันในช่วงฟูดร้อนนี้จะจัดขึ้นที่เมืองมิลวอกี

        เมื่อไม่นานมานี้ นายไบเดนชี้ให้เห็นถึงศุนย์ข้อมุลแห่งใหม่ของ ไมโครซอฟ ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังวิสคอนซิน เพื่อเป็นหลักฐานว่าเขากำลังสร้างงานใหมทได้อย่างไร โดยให้เหตุผลว่าผุ้ดำงตำแหน่งก่อนของเขาไม่สามารถรักษาคำมั่นสัญญาของเขาไว้ได้

           https://www.bbc.com/news/articles/c511pyn3xw3o

           https://en.wikipedia.org/wiki/Swing_state

“rural resentment.”

         บางส่วนจากบทสัมภาษณ์  Jon K. Lauck  ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งมหา วิทยาลัยเซาท์ดาโกตา ซึ่งได้คิดค้นสาขาการศึกษาเก...