วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“The Keystone State”

           เพนซีเวเนีย หรือ ชื่อที่เรียกกันเล่นๆ ว่า "รัฐคีย์สโตน" ซึ่งไม่สามารถสืบย้อนไปยังแหล่งที่มาใด
แหล่งหนึ่งได้ คำว่า "คีย์สโตน" มาจากคำว่าสถาปัตยกรรม และหมายถึงหินรูปลิ่มตรงกลางในซุ้มโค้งซึ่งยึดหินก้อนอื่นๆ ๆว้ด้วยกันได้รับการยอมรับโดยทั่วไปไม่นานหลังจากปี 1800 ในการชุมนุมเพื่อชัยชนะของพรรครีพับลิกันที่เมืองเจฟเฟอร์สันในเดือนตุลาคม ปี 1802 รัฐเพนซิลเวเนียได้รับการยกย่องว่าเป็น "เสาหลักแห่งสหภาพกลาง" และในหนังสือพิมพ์ออโรราในปีถึดมา รัฐก็ถูกเรียกว่า "เสาหลักแห่งรากฐานของประชาธิปไตย" การคงอยุ่ของชื่อนี้ในปัจจุบันนั้นสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งสำคัญของเพนซิลเวเนียในการพัฒนาด้านเศราฐกิจ สังคม และการเมืองของสหรัฐอเมริกา 
           เพนซิเวเนีย แลว่า "ดินแดนป่าของเพนน์" หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือเครื่อรัฐซิลเวเนีย เป็นรัฐที่ครอบคลุม แอตแลนติกตะวันออก แอปพาเลนและเกรดเลกส์ที่มีอาณาเขตติดกับเดลแวร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ แมริแลนด์ทางทิศใต้ เวสต์เวอร์จิเนียโอไฮโอและแม่น้ำฮดไฮโอทางทิศตะวันตก ทะเลสาบอิรีและนิวยอร์กทางทิศเหนือ แม่น้ำเดลาแวร์ และนิวเจรอ์ซีทางทิศตะวันออก และจังหวัดออนแทรีโอ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
          รัฐเพนซิลเวเนียก่อตั้งขึ้นในปี 1681 โดยได้รับพระราชทืานที่ดินจากวิลเลี่ยม เพนน์บุตรชายของรัฐก่อนหน้านั้น ระหว่างปี 1638-1655 พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเป็นส่วนหนึ่งจองนิวสวีเอน ซึ่งเป็นอาณานิคมของ จักรวรรดิสวีเดนรัฐเพนซิลเวเนียในยุคอาณานิคม ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่หลบภัยสำหรับการยอมรับในศาสนาและการเมืองโดยเป็นที่รู้จักจากความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างสงบสุขกับชนเผ่าพื้นเมืองระบบรัฐบาลที่สร้างสรรค์ และความหลากหลายทางศาสนา เพนซิลเวเนียมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติอเมริกาและการแสวงหาอิสรภาพจากจักรวรรดิอังกฤษ ในที่สุด โดยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาถองเกรสภาคพื้นทวีปครั้งที่หนึ่ง และครั้งที่สอง ซึ่งนำไปสุ่การประกาศอิสรภาพและการก่อตตังกองทัพภาคพื้นทวีป เมือวันที่ 12 ธันวาคม 1787 เพนซิลเวเนียกลายเป็นรัฐที่สองที่ให้สัตยาบันต่อ รัฐะรรมนูญ ของสหรัฐอเมริกา การต่อสุ้ที่นองเดลือดที่สุดของสงครามกลางเมืองอเมิรกา ที่เมืองเกตตี้สเบิร์กเป็นเวลาสามวันในเดือนกำกฎาคม 1863 พิสุจน์ให้เห็นว่าเป็นจุดเปลี่ยของสงครามซึ่งนำไปสู่การรักาาไว้ซึ่งอำนาจของสหภาพตลอดช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และ 20 เศราฐกิจของรัฐที่เน้นการผลิตที่ส่วนสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในช่วงแรกๆ ของประเทศมากมาย รวมถึงสะพานสำคัญตึกระฟ้าและฮาร์ดแวร์ทางการทหารที่ใข้ในชัยชนะที่นำโดยสหรัฐญในสงครามดลกคร้งที่ 1 และ 2 รวมถึงสงครามเย็นด้วย
           เพนซิลเวเนีย มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์อย่างมาก เทือกเขาแอปพาเลเชียนทอดตัวผ่านใจกลางรัฐ เทืองกเขา อัลเลเกนี และโพโดโนทอดตัวครอบคลุม พื้นที่ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐ พื้นที่เกือบ 60% ของรัฐเป็นป่าไม้แม้ว่าจะไม่มีแนวชายทะเล แต่ก็มีแนวชายฝั่งทะเลยาว 140 ไมล์(225km.) ตามแนวทะเลสาบอีรีและแม่น้ำเดลาแวร์ที่น้ำขึ้นน้ำลง
 
        เพนซิลเวเนีย เป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของอเมริกา โดยมีผุ้อยู่อาศัยมากกว่า 13 ล้านคนตามสำมะโนประชากรปี 2020 รัฐมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 33 และมีความหนาแน่นของประชากรสูงเป็นอันดับ 9 ในบรรดารัฐทั้งหมดพื้นที่มหานคร ที่ใหญ่ที่สุด คือเดลาแวร์วัลเลย์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงและล้อมรอบฟิลาเดลเฟีย เมือง ที่ใหญ่ที่สุดของรัฐและมีประชากรมากเป็นอันดับ 6 ของประเทศ พื้นที่มหานครที่ใหญ่เป็นอันดับสองคือ เกรทเทอร์ฟิดต์สเบิร์ก มีศูนย์กลางอยุ่ในและรอบๆ พิตต์ สเบิร์กซึ่งเป็น เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐ เมืองที่มีประชากรมากที่สุดทำอันดับแรกของรัฐรองลงมา ได้แก่อัลเลนทาวน์เรตติ้ง อีรีสแครนตันและเบธเลเฮม เมืองหลวงของรัฐคือแฮร์ริสเบิร์ก
           ตั้งแต่ยุคแรกเร่ิมของประเทศ เพนซิลเวเนียเป็์นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวในหลายๆ ด้าน รัฐนี้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาคองเกรสภาคพื้นทวีปที่เมืองฟิลาเดลเฟียในปี 1770 และเป็นรัฐสุดท้ายที่ลงมติเอกฉันท์ในการประกาศอิสรภาพเมืองกรกฎาคม 1776 ในช่วงเวลาแห่งการประกาศอิสราภพ เพนซิลเวเนียยังเป็นศุนย์กลางทางภุมิศาสตร์ของอาณานิคมดั้งเดิม 13 แห่ง โดยมี 6 แห่งทางทิศใต้ และอีก 6 แห่งทางทิศเหนือและตะวันออก 
          รัฐนี้ไม่ได้เป็นรัฐที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอยู่เสมอมา แต่โดยทั่วไปแล้ว รัฐนี้มักเป็นศุนย์กลางของการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และยังเป็นเช่นนั้นถึงปัจจุบัน เพนซิลเวเนียมีผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีมุมองทางการเมืองหลากหลาย ดดยปกติและผลการเลือกตั้งในระดับจะออกมาสูสีกัน
          ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟียส่วนใหญ่มีแนวคิดเสรีนิยมในทุกประเด็นในขณะที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในชนบทของเพนซิลเวเนียส่วนใหญ่มีแนวคิดอนุรักษนิยมและไม่ค่อยเชื่อเรื่องการเมืองในเมืองอย่างไรก็าม พื้นที่ชายเมืองหลักของรับแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ดดยฝ่ายฟิลาเดลเฟียสนับสนุนเดโมแครต และฝ่ายพิตต์สเบิร์กสนับสนนุพรรครีพับลิกัน
            เมื่อความแตกแยกทางการเมืองระดับภูมิภาคระหว่างภาคเหนือและใต้เพิ่มมากขึ้นในศตวรรษที่ 19 บทบามสำคัญของเพนซิลเวนียในการเลือกตั้งประธานาะิบดีก็เพ่ิมขึ้นเช่น ระหว่างปี 1828-1880 เพนซิลเวเนียเป็รัฐเดียวที่ลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครชิงตำแหน่งประะานาะิบดีพรรครีพับลิกันที่ชนะทั้งหมดในช่วง 1860 และ 1870 เพนซิเวเนียไม่ได้เป็นรัฐที่เปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาหลายทศวรรษ หลังสงครามกลางเมือง ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐสนับสนุนผู้สมัครจากพรรครัพับลิกันในการเลือกตั้งประะานาธิบดีทุกครั้งระหวา่งปี 1860-1932 รวมถึง ธีโอดอร์โรสเวลด์สมัครจากพรครีพับลิกันสายก้าวหน้าในปี 1912 ในช่วงแร 1940 เพนซิลเวนียยังคงสนับสนุนผพรรครพับลิกันมากว่าพื้นที่อื่นๆ ในประเทศ แต่ล้วรัฐก็เปลี่ยนใจกะทันหันและเร่ิมสนับสนุนผุ้สัมครจากพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนที่มากว่าผมีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศเป็เวลา 60 ปี ตั้งแต่ 1952-2021 นั้นเป็เพราะอำนาขของกลไกการเมืองของพรรครัพับลิกันในฟิลาเดลเฟียแตกสลายไป นับตั้งแต่ปี 1952 เป็นต้นมา ไม่มีนายกเทศนตรีที่มาจากพรรครีพับลิกันที่นั้นเลย
             เมื่อภาคใจ้เร่ิมมีแนวโน้มเป็นพรรครีพัลลิกันในช่วงทศรรษ 1950 และ 1960 และฟิลาเดลเฟียกลายเป็นพรรคเดโมแครตมากขึ้น รัฐเพนซิลเวเนียก็กลายเป็นพรรคเดโมแครตมากกว่ประเทศโดยรวมในการ

เลือกตั้งประธานาธิบดี เพนซิลเวเนียยังคงขาดสภานะเป็นรัฐชี้ขาดในทางการเมืองของคณะผุ้เลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประะานาธิบดีที่สุสีกันทั้งหมดเป็นเวลา 60 แม้แต่เมือพรรครีพัลฃิกันชนะทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงในปี 1968 เมื่อฮิวเบิร์ต ฮัมฟรีย์จากพรรคเดดมแครตชนะการเลือกตั้งในรัฐนี้ ในปี 2000 เมื่อ อัลกอร์จากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย แต่แพ้คะแนนเลือกตั้งระดับชาติที่สูสีและเป็นโต้แย้ง และในปี 2004 เมื่อจอห์น เคอร์รีจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในรัฐคีย์สโตน
           ปีที่ชาวเพนซิลเวเนียลงคะแนนเลือกผุ้สมัครรชิงตำแหน่งประานาะิบดีจากพรรครีพัลลิกันเป็นปีที่พรรครีพัลลิกัได้รับชัยชนะในระดับประเทศด้วยคะแนนที่สุงมากเป็นพิเศษ คือ 2 ครั้งสำหรับไอเซนฮาวร์ ครั้งสำหรับการเลือกตั้งซ้ำของนิกสัน และอีก 2 ครั้งสำหรับเรแกน
          อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นศตวรรษนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่มีการแข่งขันกันอย่างสุสี พรรครีพัลลิกันเริ่มมองเห็นโอากสที่เพนซิลเวเนียจะมีส่วนร่วมในคำการคำนวณคะณะผุ้เลือกต้งระดับประเทศ
          การขยายตัวของการสำรวจความคิดเห็นทางการเมืองในแต่ละรัฐทำให้สามารถกำหนดแนวดน้มการลงคะแนนเสียงของแต่ละรัฐได้ พบว่ารัฐส่วนใหญ่ลงคะแนนให้พรรคการเมืองหนึ่งพรรคอย่างน่าเชื่อถือในการเลือกตั้งประะานาะิบดีทุกครั้ง ทำให้เกิดการติดป้ายว่า ไรับสีน้ำเงินไ และ "รัฐสีแดง" ซึ่งเริ่มใช้หลังการเลือกตั้งในปี 2000 สื่อต่างๆ เน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเพนซิลเวนีย ฟลอริดา และมิชิแกนเป็นรัฐสำคัญในสมรภูมิโดยอิงจากการสำรวจความคิดเห็นและสัดส่วนคะแนนเสียงเลือกตั้งที่มาก เมือกอร์ได้รับการประกาศให้เป็นผุ้ชนะทั้งสามรัฐในช่วงเช้าของคืนวันเลือกตั้ง ทุกคนต่างคาดเดาว่าเขาจะได้เป็นประธานาธิดบี อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาของคืนนั้นการคาดการณ์ก็จบลงด้วยการที่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้เป็นประะานาธิบดี
           เพนซิลเวเนียยังคงถุกมองว่เป็นรัฐที่มีศักยภาพที่จะเป็นชัยชนะของพรรครีพัลลิกันในการเลือกต้้งประธานาธิบดีอีกสามคร้งข้างหน้า แม้ว่าพรรคเดฮมแครจะชนะการเลือกตตั้งทุกครั้งก็ตาม ความพยายามของรีพับลิกัน บางครั้งถุกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไร้ประโยชน์ในสื่อและในปมุ่่ที่ปรึกษาทางการเมือง
          แต่ด้วยทรัมป์ในปี 2016 พรรครีพับลิกันไม่เพีีงแต่ชนะการเลือกตั้งประานาะิดบีที่เพนซิลเวเนียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในปี 1988 เท่านัี้น แต่ยังมีผลงานที่ดีกว่าผลการเลือกตั้งทั่วประเทศอีกด้วย
 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจครั้งนี้ ได้แก่ ความนิยมอยางสุงของทรัมป์ในพื้นที่ชนบทของรัฐและชานเมืองพิตต์สเบิร์ก และฮิลลารี คลินตันที่ไม่ได้ไปหาเสียงในเมืองต่างๆ หลายแห่งนอกเขตะมือง ชัยชนะที่น่าแปลกใจของทรัมป์ในเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซินในปีนั้น แม้จะเพีีงเล็กน้อยก็ตามทำให้เขาสามารถคว้าชัยชนะจากคณะ(ุ้เลือกตั้งได้และส่งผลให้สื่อและการเมืองทั่วประเทศให้ความสนใจในสามรัฐสำคัญเหล่านี้ขึ้นมาโดยตลอด
         ปี 2024 โดนัลด์ ทรัปม์ ผุ้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครัพับลิกันและอดีตประธานาะิบดีสหรัฐฯ จัดการชุมนุมที่เมืองแฮร์ริสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวนีย เมือวันพุทธ โดยโจมตีประวัติการย้ายถ่ินฐานของพรรคเดโมแครต เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาตั้งคำถามถึงเชื้อชาติของรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส
          การชุมนุมดังกล่าวจัดขึ้นในร่วมที่สนามกีฬาอนิวฮอลแลนด์ในเมืองหลวงของรัฐ 
          "อย่างที่คุณทราบ นี่เป็นการกลับมาที่เพนซิลเวเนียครั้งแรกของผมนับตั้งการชุมนุมชุมนุมที่บัตเลอร์" เขากล่าว ซึ่งเป็นการชุมนุมที่ ทรัมป์ ถูกพยายามลอบสังหาร https://draft.blogger.com/blog/post/edit/57583117367728393/8200309541380190825?hl=th
         "เมื่อสิบแปดวันก่อน เรามีวันเลวร้ายมา กเราเจอเรื่องแย่ๆ มาเยอะ แันบอกคุณได้เลยว่าวันนี้แันไม่ควรอยุ่กับคุณ แันไม่ควรอยุ่กับคุณ แต่ฉันอยุ่ตรงนี้" ในระหว่างงานที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดกับสมาคมนักข่าวผิวสีแห่งชาติของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ในวันพุธ ทรัมป์ได้เผยว่า แฮร์ริสเคยระบุว่าตนเป็นคนเอเชียใต้ แต่กลับยอมรับตัวตนว่่าเป็นผุ้หญิงผิวสีเพื่อความได้เปรียยทางการเมือง 
         "เธอเป็นคนอินเดียมาโดยตลอด แต่จู่ๆ เธอก็เปลี่ยนมาเป็นคนผิว่ำ" ทรัมป์กล่าวถึงแฮร์ริส ซึ่งมีพ่อเป็นคนผิวดำและแม่เป็นคนอเมริกันเชื้อสายอินเดีย
         แฮร์ริส วัย 59 ปี เป็นคนผิวสีและเอเชียใต้มาเป็นเวบานานแล้ว เธอเป็นคนผิวสีและเอเชียใต้อเมริกันคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรอบประธานาธิบดีของประเทศ
        ทั้งสองฝ่ายต่างออกมาประณามกันอย่างรวดเร็ว.. 
 ทรัมป์และแฮร์ริสทุ่มสุดตั้งเพื่อทำให้เพนซิลเวเนียกลายเป็นฟลอริดาแห่งใหม่ ในปี 2000 คือ ฟลอริดา ฟลอริดา ฟลอริดา ในปี 2024 คือ เพนซิลเวนีย เพนซิลเวเนีย เพนซิลเวเนีย ทั้งสองฝ่ายต่างปฏิบัติต่อเพนซิลเวเนียเหมือนกับโอไฮโอหรือฟลอริดาในสมัยก่อน ซึ่งเป็นรัฐที่ผุ้ชนะังมีแนวดน้มที่จะเป็นผุ้ขนะทำเนียบขาวด้วย 
         แคมเปญหาเสียงชิงตแหน่งประะานาะิบดีของ ทรัมป์ และแฮร์ริส ในปี 2024 มีแนวโน้มที่จะใช้งบโฆษณาในเพนซิลเวเนียมากว่าสองเท่า มากว่าในรัฐชี้ขาดอื่นๆ ทั้ง 6 รัฐ ตามการวิเคราะห์
          ทั้งสองฝ่ายต้องปรับกลยุทะ์การโฆษณาของตนเนหืองจาก นาง แฮร์ริสเป็นหัวหอกแทน ประธานาธิบดีไบเดน 
         ทีมของทรัมปืมองว่าเพนซิลเวเนียเป็นโอกาสที่ดีในการฝ่านด้าน รัฐ "กำแพงสีน้ำเงิน" ในมิดเวสต์ซึ่งรวมถึงมิชิแกนและวิสคอนซิน ซึ่งไบเดนพึ่งพาชัยชนะมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รัฐสำคัญอื่นๆ มีแนวโน้มไปในทางเดียวกับทรัมป์ ในสัปกาห์ที่ผ่านมา ทีมของทรัมป์เร่ิมทุ่มเงนิจำนวนมากในหารโฆษณาในรัฐนอร์ธแคโรไลนาและเนวาดาเป็นตรั้งแรก ซึ่ก่อนหน้านี้ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ามีผุ้นำที่น่าพอใจ
           
           https://www.cbc.ca/news/world/trump-pennsylvania-rally-harrisburg-1.7281387
           https://theconversation.com/pennsylvania-continues-tradition-as-keystone-state-in-presidential-elections-232646
          https://www.axios.com/2024/08/03/trump-harris-pennsylvania-ad-spending-president
            
           https://en.wikipedia.org/wiki/Pennsylvania
           https://www.50states.com/state_nickname/pennsylvania/
          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...