วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567

How Sturdy Is the ‘Blue Wall’ in 2024?

            ในอดีต รัฐมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน รู้จักกันในนาม "กำแพงสีน้ำเงิน" เนือ่งจากพวกเขาสนับสนุนพรรคเดโมแครตมาหลายทศวรรษ มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ได้เห็นการ


เปลี่ยนแปลงที่สำคั ญ ดดยเฉพาะในการเลือกตั้งปี 2016 เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะในรัฐเหล่านั้น ชัยชนะอย่างหวุดหวิดของทรัมป์ในปี 2016 และชัยชนะของ โจ ไบเดน ใปี 2020  ด้วยคะแนนที่มากกว่าเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของรัฐทีีมีัผลแพ้ชนะสนูงและการที่นักการเมืองให้ความสำคัญอข่งเข้มข้นในการเอาชนะของพวกเขา ในปี 2020 การเคลือนไหวที่กระตุ้นโดย Black Live Matter BLM ส่งผลต่อชัยชนะของไบเดนในปี 2020 และจุดชนวนการกล่าวหาการทุจริตการลือกตั้งจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ และพันธมิตรของเขา ทำให้คามเสี่ยงที่กลุ่มหัวรุนแรงอาจใช้อาวุธเพื่อมีอิมะิพลต่อผลการเลือกตั้งสในรัฐสำคัญบางแห่งเพ่ิมสูงขึ้น รายงานนี้ทบงทวนแนวโน้มบ่าสุดของกิจกรรมการเดินขบวนและการระดมพลของกลุ่หัวรุนแรงในมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ดดยระบุว่ารัฐเหล่านี้อาจก่อนให้เกิดความเสี่ยงต่อความรุนแรงทีเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไร

 ย้อนกลับไปในปี 2015 เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะเชื่อว่าผุ้ครนในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ จะไม่หลงไหลในตัวดดนัลด์ ทรัปม์ ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในแถบมิดเวสต์ขอบการต่อยตีที่จริงจังมากกว่าพูดจาไร้สาระ ความั่นคงมากกว่าความเหลวไหล และแล้วขายผุ้มั่งคั่งจากนิวยอร์กก็ปรากฎตัวขึ้น เขาเร่ิมต้นแคมเปญหาเสียงด้วยการเลือนลงมาบนยันไดเลือนสีทอง ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งในเขตชานเมืองจากพื้นที่ที่ผุ้คนผลิตสิ่งของโลหะขนาดใหญ่ให้กับธุรกิจที่ผลิตสิ่งของโลหะขยาดเล็กกว่าจะมองเห็นอะไรในตัวคนดอ้อวดอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ได้บ้าง

         แต่ทรัมป์รู้จักกลุ่มคนที่เขาสนับสนุน เขาลงสมัครรับเลือกตังเพื่อต่อต้านการอพยพ เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อต่อต้านการค้าเสรีและลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อต่อต้านกลุ่มคนที่สนับสนุนการอพยพและการค้าเสรี เช่น คู่แข่งของเขา ฮิลลารี คลินตัน


          และ Rust Belt(ภูมิภาคในภาคตะวันออกเแียเหน และภาคกลางของ สหรัฐฯ และสวนทางตอนเหนือสุดของภาคใต้ของสหรัฐญ ครอบคลุม พื้นที่ตอนบนของรัฐ นิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย โอไฮโอ เวสต์เวอร์จิเนีย อินเดียนา อิลลินอยส์ คาบสมุทรตอนล่างของรัฐมิชิแกน ตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ วิสคอนซินและพื้่นที่เล็กๆ ของรัฐเคนดักกี้นิวเจอร์ซีและเขตมหานคร เซนต์หลุยส์ในรัฐมิสซุรี เมืองต่างใน รัสท์ เบลท์ ได้แก่อัลเลนทาวน์ บัลติมอร์ บัฟฟาโล ชืคาโก ซิน ซินเนติ คลีฟแลนะ์ ดีทรอยต์ แกรีมิลวอกี ฟิลาเดลเฟีย พิตต์สเบิร์ก โรเชสเตอร์โทเลโด เทรนดัน และยังส์ทาวน์  รัสท์


เบลส์ เป็นคำที่มีความหมายตรงข้ามกันเืพ่อธิบายถึงอุตสาหกรรมที่ "กลายเป็นสนิม"ดดยทัวไปหมายถึงผลกระทบของการลดการผลิต ภาคอุตสาหกรรม การตกต่ำทางเศรษฐกิจ แารสูญเสียประชากรและความเสื่อมโทรมของเมืองในภูมิภาคเหล่านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว ดดยเฉพาะอย่างยิ่งรวมถึงการผลิต เหล็การผลิตยานยนต์ และการทำเหมืองถ่านหิน คำนี้ได้รับความนิยมในสหรัฐฯตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อมักนำไปเปรียบเทียบกับ Sun Belt ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว) ก็ยอมรับในส่ิงนน จำนวนงานการผลิตในภาคการผลิตของภาคกลางตะวันตกลดลงมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษท 1990 นั่นคือ 1.5 ล้านตำแหน่งที่หายไป ผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินและปัญหารการยึดบ้านยบังคงมีอยู่ ดดยชาวภาคกลางตะวันตกจำนวนมากต้องสร้างเงินออมเพื่อการเกษียณขึ้นมาใหม่ และยังมีประชกรในเขตชานเมืองสูงอายุจำนวนมากที่คิดว่าไ่มีใครสนใจพวกเขา และเชื่อว่าผุ้อยุ่อาศัยในตัวเมืองได้รับเงินช่วยเหลือมากเกินไป

          ผุ้ชายยิวขาวอายุมากในเขตชานเมืองทางตะวันตกกลางเหล่านี้ถือเป็นผลไม่ที่ห้อยต่ำสำหรับทรัมป์ เพนซิเวเนีย โอไฮโอ มิชิแกน และวิสคอนซิน ซึ่งเป็น 4 รัฐที่เป็นส่วนหนึ่งของ "กำแพงสีน้ำเงิน" ของพรรคเดโมแครตมาเป็นเวลาสองทศวรรษพลิกกลับมาเป็นสีแดง ชัยชนะรวมกันอยุ่ที่ 75,000 คะแนน หากไม่มี 4 รัฐนี้ เขาคงแพ้คณะผุ้เลือกตั้ง 240 ต่อ 291 คะแนน แต่ถ้ามี 4 รัฐนี้ ทรัมป์ชนะด้วยคะแนน 304 ต่อ 227 คะแนน

       สีปีต่อมา โจ ไบเดนสามารถเอาชนะ 3 รัฐดังกล่าว เพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน ให้กับพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนเสียงรวมกันประมาณ 250,000 คะแนน หากทั้งสามรัฐนี้ยังคงเป็นสีแดง ทรัมป์จะชนะการเลือกตึ้งคณะผุ้เลือกตั้งด้วยคะแนน 278 ต่อ 260 แต่กลับแพ้ไป 232 ต่อ 306 

        สิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นในปี 2024 หาก ไบเดนหรือทรัมป์ ชนะทั้งสามรัฐนี้ เขาน่าจะชนะการเลือกต้งประธานาธิบดี

                  https://acleddata.com/2024/04/17/beyond-the-blue-wall-exploring-the-risks-of-political-unrest-in-the-2024-presidential-election/

                 https://en.wikipedia.org/wiki/Rust_Belt

                 https://www.thebulwark.com/p/democratic-blue-wall-midwest-2024


วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2567

who’s ahead in the polls? (election 2024)

          ขาวอเมริกันจะทำการลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป ในวันที่ 5 พฤศจิกา ดูหเมือนว่าคุ่ต่อสุ้จะเป็นผุ้สมัครสองคนเดิม เช่นเดียวกับปี 2020 นั่นคือ โจ ไบเดน ผุ้ดำรงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ ผุ้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนหน้านั้น จากพรรครีพับลิกัน แต่ ไบเดน ทำการดีเบตที่ทำให้พรรคเดโมแครตตั้งคำถามทัีนที่ว่า ไบเดนมีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งหรือไม่ ในวันที 21 กรกฎาคม เขายอมถอนตัวจากการแข่งขัน เขารับรองรองประธานาธิบดีของเขา กมลา แฮร์ริสเป็นผุ้สมัครจากพรรคเดโมแครต

        จากการสำรวจความคิดเห็นระดับประเทศบล่าสุด แฮร์ริสได้รับการสนับสนุนมากพอที่จะได้รับการเสอนชื่อให้ดำรงตำแหน่งในการประชุมใหย่ระดับชาติของพรรคเดฮมแครต เธอมีเวลาไม่มากนักที่จะกำหนดตัวเองให้ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งรับทราบและคัดค้านแค เปญหาเสียงของ ทรัมป์ การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดนเกียวข้องกับภาวะเงินเฟ้อสูง ร่างกฎมหายนนดยบายอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และความวุ่นวายในต่างประเทศ ซึ่งพรรครีพัลลิกันจะพยายามโยนความผิดให้ แฮร์ริสเช่นกัน แต่เธอมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนเหนือนายไบเดนประการหนึ่ง นั่นคืออายุของเธอ ด้วยวัย 59 ปี เธออายุน้อยกว่าเขาสองทศวรรษและอายุน้อยกว่า ทรัมป์ 18 ปี ในขณะที่ทรัมปืมีประวัติที่ย่ำแย่ โดยผุ้สนับสนุนพยายามพลิกกลับการพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของเขาในปี 2020 เขาต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาของรัฐบาลกลางจากข้อกล่าวหาว่าเขามีส่วนร่วม


ในแผนการดังกล่าว และถุกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาจาการจ่ายเงินปิดปากที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2016 เมือวันที่ 13 กรกฎาคม ในการชุมนุมที่เพนซิลเวเนีย ชายวัย 20 ปี คนหนึ่งยิง ทรัมป์ เฉียดใบหู ทรัมป์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนมือปืนถูกสังหารทันที่ หลังจารการพยายามบอลสังหราครั้งนี้ นักการเมืองทุกกลุ่มเรียกร้องให้พันธฒิตรและคุ่แข่ลดอุณหภุมิทางการเมืองลง ทรัมป์ซึ่งแสดงความอดทนที่หายากหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว กลีบมาใช้ถ้อยคำที่สร้างความแตกแยกในการกล่าวสุนทรพจน์อีกครั้ง

           ในวันทีร 19 สิงหาคม การประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรคเดโมแคร และ เช่นเดียวกันกับการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเมือหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ พรรคเดโมแครตจะเสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในชิคาโก 

           10 กันยายน การดีเบตประธานาะิบดีครั้งที่ 2 ผุ้สมัครหลักทั้งสองคนมีกำหนดพบกันหนึ่งสัปดาห์หลังวันแรงงาน (ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวอเมริกันเร่ิมให้ความสนใจกับการเลือกตั้ง) การเสดงผลงานที่ย่ำแย่ของนายไบเดนการดีเบตครั้งแรกทำให้เขาต้องยุติบทบาทการหาเสียงของเขา นางแฮร์ริสจะเป็นผุ้ต่อต้านทรัมป์อย่างแข็งขันมากขึ้น ซึ่งต่อมมา แฮร์ริสได้เสนอให้มีการดีเบตในวันที่ 4 กันยายนแทนทางช่อง "ฟ็อกนิวส์" ซึ่งเป็นช่องที่เป็นมิตรกับทรัมป์ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าทั้งสองคนจะดีเบตกันหรือไม่

         5 พฤศจิกายา วันเลือกตั้งการเลือกตั้งจะเปิดใวันอังคารต้นเกดือพฤศจิกายน แม้ว่า การลงคะแนนเสียงบ่วงหน้าและการลงคะแนนทางไปรษณีย์จะทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากลงคะแนนเสียงไปแล้ว การนับคะแนนเสียงจะดำเนินต่อไปอีกหลายสัปดาห์ในบางรัฐ

        6 มกราคม 2025 เมื่อนับคะแนนเสียแล้ว ผลการนับคะแนนต้องได้รับการรับรองจากรัฐสภา ดดยปกติแล้ว จะเป็นงานตามรูปแบบ แต่ในปี 2021 ผุ้สนัีบสนุนของนายทรัมป์ได้บุกเขาไปในอาคารรัฐสภาเพื่อหยุดการรับรอง เขากำลังถุกพิจารณาคดีในข้อกล่าวหาว่ามีสวนเกี่ยวขัอบกับการโจมตีครั้งนี้ 

       20 มกราคม 2025 พิธิเปิด ประธานาะิบดีคนใหม่จะทำการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่ขึ้นบันไดอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

        โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 แห่งพรรค รีพัลลิกัน เกิดเมื่อ 14 มิถุนายน 1946 ในควีนส์ นิวยอร์ก เป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ เขาเอาชนะ ฮิลารี คลินตัน ในการเลือกตั้งปี 2016 และพ่ายแพ้ต่อ ด่อ โจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งสาธารณะ ทรัมป์เป็นเจ้าของ "ทรัมป์ ออแกรนนิเซชั่น" ซึ่งเป็นหลุ่มบริษัททีทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมอื่นๆ และเป็นพิธีกรรายการ "เดอะ แอฟเพรียนติซ" ทางช่อง NBC 

       ทรัมป์จะลงสมัครรับเลือกตั้งปรธานาะิบดีในปี 2024 เขาประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งเมือวันที่ 15 พศจิกายน 2022 ทำให้เขาเป็นประธานาะิบดีคนที่ ุ ในประวัติศาสตร์ที่ลงนมัครไม่ติดต่อกัน ทรัมป์ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันหลังจากชนะเสียงส่วนใหญ่ของผุ้แทนในการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรครีพับลิกันเมือวันที่ 15 กำกฎาคม 2024 ทรัมป์เลือกวุฒิสมาชิกสหรัฐ เจ.ดี. แวนซ์ เป็นผุ้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี..

         กมลา เดวี แฮร์ริส เกิดเมือวันที่ 20 ตุลาคม 1964 ในเมืองโอ็คแลนด์ รัฐแคริฟอเนีย เป็นรองประธานาะิบดีคนที่ 49 ของสหรัฐอเมริกา เธอเข้ารบตำแหน่งเมือวันที่ 20 มกราคม 2021 ซึ่งมี โจ ไบเดน เป็นประธานาะิบดี เป็นผุ้สมัครจากพรรคเดโมแครต แฮร์รติสเป็นผุ้หญิงคนแรกเป็นคนผิวสี และเป็นผุ้มีเชื้อสายเอเชียใต้ที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี 

        แฮร์ริสลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 เธอประกาศลงสมัครเมือ 21 กรกฎคม 2024 หลัง โจ ไบเดน ถอนตัวจากการแข่งขัน แฮร์ริสชนะการเสนอชขื่อชขิงตำแหน่งประะานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตในระหวางการลงคแะนนเสียงแบบเสมือนจริงเมือวันที่ 2 สิงหาคม 2024 เธอเลือก ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาเป็นผุ้สมัครชิงรองประธานาธิบดี

เจ.ดี. แวนซ์ เป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐจากรัฐโอไฮโอ เขาดรงตำแหน่งเมือ 3 มกราคม 2023 โดยวาระการดำรงตำแหน่งปัจจุบันของเขาจะสิ้นสุดในวันที่ 3 2029 

        ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2024 โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศให้แวนซืเป็นคู่หูในการชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ทรัมป์กล่าวว่า "เจดี มีอาบชีพทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านเทคโนโลยีและการเงิน และตอนนี้ระหว่างการหาเสียง เขาจะมุ่งเน้นอย่างมากไปที่ผุ้คนที่เขาต่อสู้ นั่นคือคนงานและเกษตรกรชาวอเมริกันในเพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน โอไฮโอ มินนิโซตา และไกลกว่านั้นอีก" แวนซ์ยอมรับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการที่การประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรครีพับลิกัน ประจำปี 2024

        ทิม วอลซ์ เป็นผุ้ว่่ารัฐมินนิโซตา เขาดำรงตำแหน่งเมือวันที่ 7 มกราคม 2019 โดยวาระการดำรงตำแหน่งปัจจุบันของเขาจะสิ้นสุดในวันที่ี 4 มกราคมา 2027 

        เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2024 กมลา แฮร์ริส ผุ้ได้รับการเสนอชือชิงตำปน่งประะานาะิบดีจากพรรคเดโมแครต ได้ประกาศให้ วอลซ์ เป็นคุ่หูในการชิงตำหน่งรองประธานาธิบดี แฮร์ริส กล่าวว่า" สิ่งหนึ่งที่ดดเด่นเกี่ยวกับ ทิม สำหรับฉันคือความเชื่อมั่นของเขาในการต่อสุ้เพื่อครอบครัวชนชั้นกลางนั้นฝังรากลึก" วอลซ์ เป็นรองประะานาธบดีคนแรกของพรรคเดฮมคแครตนับตั้งแต่ปี 1972 ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาในช่วงเวลาที่ได้รับเลือก

       วอชิงตัน 30 ก.ค. (รอยเตอร์) ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต กมลา แฮร์ริส มีคะแนนนำโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพัลลิกัน เพียง 1% ในการสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส โดยปิดช่องง่าวที่เปิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการเสนอตัวลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอักครงของ โจ ไบเดนได้สำเร็จ

     การสำรวจความคิดเห็นสามวันซึงเสร็จสิ้นเมือวันอาทิตย์แสดงให้เห็นว่ารองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้รับการสนับสนุนโดยผุ้มีสิทะิลงคะแนนเสียงร้อยละ 43 ขณะที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ได้รับการสนับสนุนร้อยละ 42 ซึ่งอยุ่ภายในขอบเขตความคลาดเคลื่อนของการสำรวจเพียง3.5% 

              https://www.reuters.com/world/us/harris-trump-locked-tight-us-presidential-race-reutersipsos-poll-finds-2024-07-30/

              https://ballotpedia.org/Vice_presidential_candidates,_2024

              https://www.economist.com/interactive/us-2024-election/trump-harris-polls

           

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“Peach State”

           รัฐจอร์เจียเป็นที่รุ้จักในชื่อ "รัฐพัช" เนื่องจากผุ้ปลูกมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพสูง GA เป็นอังกษรย่อ 2 ตัวหรืออังกณย่อทางไปรษณีย์ และ Ga เป็นอังษรย่อดั้งเดิมหรือมาตรฐานองรัฐจอร์เจียพีชกลายเป็นผลไม้ประจำรัฐอย่างเป็นทางการในปี 1995 


            จอร์เจียมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า รัฐจอร์เจียเป็นรับในภาค ตะวันออกเฉียงใต้ของสหรับอเมริกามีอาณาเขตติดกับ รัฐเทนเนสซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือ รัฐนอร์ทแคดรไลนาทางเหนือรับเซาท์แคโรไลนาทางตะวันออกเฉียงเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงใต้รัฐฟลอริดาทางทิศใต้ และรัฐอลาบามาทางทิศตะวันตก จาก 50 รัฐของอเมริกา จอร์เจียมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 24 และมีประชากรมากป็นอันดับ 8 ตามสสำรักงานสำมะโนประชกรของสหรัฐอเมริกา คาดว่า ประชากรในปี 2023  อยู่ที่ 11 ล้านคน แอลแลนตา ซึ่งเป็นมเืองระดับโลก เป็นทั้งเมืองหลวงของรับและเมืองที่ใหญ่ที่สุดเขตมหานครแอตแลนดาซึ่งมีประชากรมากกว่า 6.3 ล้านคนในปี 2023 เป็นเขตมหานครที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 6 ในสหรัฐฯ และมีประชากรประมาณ 57 % ของประชากรทั้งหมดของอร์เจียเขตมหานครสำคัญอื่นๆ ในัฐ ได้แก่ ออกัสตา ซาวันนา ดคลับัน และเมคอน..

           จังหวัดจอร์เจียก่อตั้ขึ้นในปี 1732 และมีการตั้งถ่ินฐานครั้งแรกในปี 1733 ดัวการก่อตั้งเมืองซาวันนา จอร์เจียกลายเป็นอาณานิคมของราชวงศ์อังกฤษในปี 1752 เป็นอาณานิคมสุดท้ายและอยุ่ใต้สุดจาก 13 อาณานิคม ดั้งเดิม ที่ก่อตั้งขึ้น อาณานิคมจอร์เจีย ได้รับการต้งชื่อตามกษัติรย์ จอร์จที่ 2 แห่งบิรเตนใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เซาท์แคดรไลนาไปทางใต้จนถึงฟลอริดาของสเปนและทางตะวนตกจนถึงลุยเซียนาของฝรังเศสที่แม่น้ำาิสซิสซิปปี เมืองันที่ 2 มกราคม 1788 จอร์เจียกลายเป็นรัฐที่สี่ที่ให้สัตยาบันต่อรัฐะรรมนูญของสหรับอเมริกา ตั้งแต่ปี 1802-1804 จอร์เจียตะวันตกถุกแยกออกเพื่อก่อตั้งดินแดนมิสซิสซิปปี ซึ่ง


ต่อมาได้รับการยอมรับเป็นรัฐอลาบามา และมิสซิสซิปปี ของสหรัฐฯ จอร์เจียประกาศแยกตัวากสไภาพเมือวันที่ 19 มกราคม 1861 และเป็นหนึ่งในเจ็ดรับสมาพันธรัฐดั้งเดิม หลังสงครามกลางเมองมันเป็นรัฐสุดท้ายที่จะฟื้นฟูให้สหภาพในวันที่ 15 กรกฎาคม 1870 ในยุคหลังการฟื้นฟูในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เศราฐกิจของจอร์เจียได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยกลุ่มนักการเมืองนักธุรกิจและนักข่าวที่มีชื่อเสียงนำโดย เฮนรี่ ดับเบิลยู.แกรดดี้ ซึ่งสนับสนุนปรัชญา "นิว เซาท์" ของการปรองดองและการพัฒนาอุตสาหกรรม ตามส่วนต่างๆ ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ผุ้คนหลายคนจากจอร์เจียโดยเฉพาะอย่างยิง มาติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ เป็นผุ้นำที่มีชื่อเสียงในชวงขบวนการสิทธิพลเมือง แอตแลนดาได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฒฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 1996 ..  

          จอร์เจียมีลักษณะเฉพาะตัวในด้านความหลากหลายของภูมิประเทศ พืชพรรณ และสัตว์ต่างๆ ภุมิภาคทางเหนือสุดของรัฐได้แก่ เทือกเขาบลูริดจ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบเทือกเขาแอปพาเลเซียน ที่ใหญ่กวาที่ราบสูง พีดมอนต์ ทอดยาวจากเชิงเขาบลูริดจ์ไปทางทิศใต้จนถึงฟอลไลน์ ซึ่งเป็นหน้าผา สูงขันที่ทอดยาวไปยังที่ราบชายฝั่ง ซึ่งกำหนดภูมิภาคทางใต้ของรัฐ จุดที่สูงทีุ่สุดของรับจอร์เจียคือเมืองบราสทาวน์บอลต์ ซึ่งอยุ่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า สี่พันฟุต จุดตำ่สุดคือมหาสมุทรแอตแลนติก ยกเว้นพ้นที่สูงบางแห่งในบลูริดจ์แล้ว รัฐทั้งหมดมีภูมิอากาศกึ่งร้อนชื้นในบรรดา รฐที่อยุ่ทางตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปีทั้งหมด จอร์เจียเป็นรัฐที่มีพื้นที่ดินที่ ใหญ่ที่สุด...


           แอตแลนตา ในขณะที่รองประะานาธิบดีกมลา แฮร์ริสกล่าวปราสรัยในย่านใจกลางเมืองแอตแลนตาในการชุมนุมหาเสียงครั้งแรกของเธอในฐานะผุ้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหนงจากพรรคเดโมแครต ทีมงานหาเสียงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก้เร่ิมวางแผนการเยือนแอตแลนตาของเขาในสุดสัปดาห์หน้านี้

          ทรัมป์จะพูดบนเวทีเดียวกับแฮร์ริสเคยกล่าวปราศรัยต่อผุงชนราว 10,000 คนที่ศุนย์ประชุมของมหาวิทยาลับย จอร์เจีย เสตรท เมือวันอังคา ดดยเขาจะนำผุ้รองประธานาธิบดีมาด้วย คือ เจ.ดี แวนซ์ ซุฒิสมาชิกโอไฮโด

         นักยุทธศาสตร์พรรครัพับลิกันคนหนึ่งที่ให้สัมภาษณืกับ ฟ็อก ไฟท์ แอตแลนตากล่าวว่า เมืองแฮร์ริสอยุ่ตำแหน่งสูงสุด พลวัตในจอร์เจียเปลี่ยนไปอย่างแนนอน

"เป็นเรื่องที่แลาดสำหรับแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ และแฮร์ริสที่จะมุ่งเน้นไปที่จอร์เจีย" ไลรอัน โรบินสัน ซ่ึ่งยังดำรงตำแหน่งผุ้รวมอภิปรายกล่าว

        รัฐจอร์เจียได้แสดงให้เห็นถึงสภานะของรัฐในฐานะรับสมรภุมิในการเือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 เมื่อเดือนที่แล้ว การแสดงของประธานาธิบดี ไจ ไบเดน ในการดีเบตที่แอตแลนตาเพื่อต่อต้านทรัมปืได้เปลี่ยนกระแสของการเลือกตั้งคต้งหน้า

          "การที่ทรัมป์และวุฒิสมาชิกแวนซืเป็นแกนำ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้มที่จะแข่งขันกันในจอร์เจีย" โรบินสันกล่าว "พวกเขาไม่ได้มองข้ามจอร์เจีย พวกเขาจะมาที่นี่ พวกเขาจะแข่งขัน และจะลงมืออย่างเต็มที่ นั้นเป็นสิ่งที่ชาญฉลาด

          ในการชุมนุมที่เนวาดาเมืองวันอังกคาร วุฒิสมาชิกเจดี แวนซื ดจมตีแฮร์ริสในเรื่องประวัจิของพรรคเดโมแครตในเรื่องการย้ายถ่ินฐาน "หากซารืชายแดนที่ล้มเหลวได้รับชัยชนะ เะอจะไม่หยุดจนกว่าผุ้อพยพผิดกฎหมายทุกคนจะมีสิทธิในการลงคะแนนเสียง ซึ่งจะทำลายเสียงของคุรและประเทศของคุณเพื่อเปิดทางให้กับผุ้คนที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ด้ยซ้ำ" เขากล่าวอ้าง


         อัยการสูงสุด คริส คาร์ ยังโจมตีแฮร์ริสในเรือง X โดยเรียกเธอว่า "คนซ้ายแห่งซานฟรานซิสโก" ที่ต้องกาลดโทษการอพยพที่ผิดกฎหมาย 

         มิเชล วอทลี่ ประะานการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรครีพับลิกันเขียนว่า ไถ้าเธอใส่ใจจอร์เจียจริงๆ เธอก็จะยุติการนองเลือดที่ชายแดนซึ่งนำไปสู่การ"าตกรรมอันโหดร้ยของ  ลาเคน ริเลย์ 

         กมลา แฮร์ริส ได้กลาวถึงข้อเรียกร้องของพวกเขาในการชุมนุมของเธอ "ฉันเป็นอัยการสูงสุดของรัฐชายแดน ในงานนั้น แันเดินทตวจตราอุโมงค์ใต้ดินระหวางสหรัฐและเม็กซิโกที่ชายแดนนั้นกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ฉันได้ติดตามแก๊งข้ามชาติ แกํงค้ายา และผุ้ค้ามนุษย์ที่เข้ามาในประเทสของเราอย่างผิดกฎหมาย ฉันดำเนินคดีกับพวกเขาในคดีแล้วคดีเล่า และฉันชนะ เธอกล่าว

         ทรัมป์ตอบดต้การโจมตีจากฝ่ายซ้ายในการชุมนุมเมือต้นเดือนกรกฎาคามหลังจากที่เขาพยายามลอบสังหาร "พวกเขาพูดอยู่เรื่อว่า ไเขาเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย ฉันคิดอยุ่เรื่อยว่า "ฉันทำอะไรกับประชาธิปไตยไปวะ เมือสัปดาห์ที่แล้ว ฉันโดนยิงเพื่อประชาธิปไตย เขากล่าว เขาจำเป็นต้องเน้นย้ำถึงความล้มเหลวของรัฐบาลไบเดน และมุ่งเน้นไปที่วิสัยทัศน์ของเขาในการฟิ้นฟุเศราฐกิจ" เขากล่าว...

            https://www.fox5atlanta.com/news/georgia-swing-state-kamala-harris-donald-trump-2024-election

           https://www.50states.com/state_nickname/georgia/

           https://en.wikipedia.org/wiki/Georgia_(U.S._state)

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“The Grand Canyon State.”

            รัฐแอริโซนามีชื่อเล่นอย่างเป็นทางการว่า "รัฐแกรนด์แคนยอน"โดยมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่โด่งดังที่สุดของรัฐคือ แกรนด์แคนยอน AZ เป็นอังกษรย่อ 2 ตัวหรืออังษรย่อทางไปรษณีย์ ส่วน Ariz เป็นอักษรย่อแบบดัี้งเดิมหรือมาตรฐานของรัฐแอริโซนา ชื่อเล่นที่ไม่ป็นทางการอีกชื่อหนึ่งของแอริโซนาคือ "รัฐทองแดง" ซึ่งเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุอันล้ำค่าของรัฐ

            เป็นรัฐหนึ่งในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 14 จากทั้งหมด 50 รัฐ เมืองหลวงและเมืองที่วใหญ่ที่สุดคือ ฟินิกซ์ แอริโซนาเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคสี่มุมโดยมีรัฐยูทาห์อยุ่ทางทิศเหนือ รัฐโคโลราโดอยุ่ทางทิศตะวันอกเแียงเหนือ และรัฐ นิวเม็กซิโก อยุ่ทางทิศตะวันออก รัฐข้าเคียงอื่นๆ ได้แก่ รัฐเนวาดาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รัฐแคลิฟอร์เนีย ทางทิศตะวันตก และรัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย และ รัฐโซโนรา ของประเทสเม็กซิโก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้

           
 แอริโซนาเป็นรัฐที่ 48 และรับสุดท้ายในบรรดารัฐที่ติดกับรัฐอื่นๆ ที่เข้าร่วมสหรัฐ โดยได้รับสถานะรัฐเมือวัที่ 14 กุมภาพันธ์ 1912 ก่อนหน้านี้แอริโซนาเปห็นส่วนหสึ่งของดินแดน อัลตากาลิฟอร์เนีย ในนิวสเปน จากนั้นกลายป็นส่วนหนึ่งของเม็กซิโกซึ่งเป็นเอกราชในปี 1821 แต่หลังจากที่เม็กซิโกแพ้สงครามเม็กซิโก-สหรัฐ ในปี 1848 ทำให้ต้องเสียพื้นทีส่วนนี้ให้แก่สหรัฐ รวมกับพื้นที่ส่วนหนึ่งที่สหรัฐได้มาจากการลงนามใสนสนธิสัญญาเมซิยา ระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐในปี 1853 กลายเป็นพื้นที่ของรับแอริโซนาในปัจจุบัน

            ภาคใต้ของแอริโซนาขึ้นชื่อเรื่องภูมิอากาศแบบทะเลทราย โดยมีฤดูร้อนที่ร้อนจัดและฤดูหนาวที่ไม่หนาวจัด ส่วนภาคเหนือของแอริโซนามีป่าสนและสปรูซ ที่ราบสูงโคโลราโด ภูเขา (เช่น เขาแซนแฟรนซิสโก) และหุบผาชัขนาดใหญ่ โดยมีอุรหถูมิปานกลางในฤดูร้อนและมีหิมะตกในฤดูหนาว มีสถานเล่นสกีในพื้นที่แฟลกสแตฟฟ์ซันไรส์ และทูซอน นอกจากอุทยานแห่งขาติแกรนด์แคนยอน ซึ่งเป้นที่รุ้จักในระดับนานารชาติและเป็นหนึ่งในเจ้ดสิ่งมหัสจรรย์ทางะรรมชาติของโลกและ้ว แอริโซนายังมีป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ และอนุสรณ์สถานแห่งขชาติอีกหลายแห่ง

           จำนวนประชกรและเศรษฐกิจของแอริโซนาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 เนื่องจากการย้ายถ่ินข้ามา และปัจจุบันรัฐนี้เป็นศูนย์กลางสำคัญแห่งหนหึ่งในแถบแดจตะวัน พื้นที่ชานเมืองชนาดใหญ่ก่อตัวและแผ่ขยายออกไปนอกตัวนครต่างๆ อยางฟินิกซ์และทูซอน รัฐนี้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทขนาดใญ่ หลายแห่ง เช่น เพ็ดสมาร์ต และ เซอร์เคิลเค รวมทั้งเป็นที่ตังมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อย่าง มหาวิทยาลับแอริโซนา และมหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต แอริโซนายังเป็นที่รุ้จักจากการเป็นถ่ินนักการเมืองสายอนุรักษนิยม เช่น แบร์รี โกลต์วอเตอร และจอห์น แมคเคน แม้วารัฐนี้จะกลายเป็น รัฐสวิง มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษท 1990 แล้วก็ตาม

         แอริโซนาเป็นที่อยุ่อาศยของประชกรที่มีความหลากหลาย พื้นที่ประมาณหนึ่งในสี่ของรัฐ ประกอบเป็นเขตสงวนอินเดียนซึ่งทำหน้าที่เป็นบ้านของกลุ่มชนพื้นเมือง 27 กลุ่มที่ได้รับการรับรองจากรับบาลกลาง รวมถึง ชาตินาวาโฮ ซึ่งเป็นเขตสงวนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐและสหรัฐ โดยมีพลเมืองมากกว่า 300,000 คน ต้้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา สัดส่วนประชากรเชื้อสายอิสแปนิก ในรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการอพยพย้ายถ่ินเข้าจากเม็ซิโก ประชกรจำนวนหนึ่งของแอริโซนาเป็นสาวกของคริสตจักรโรมันคาทอลิก และศาสนจักรของพระเยซูคริสตืแห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย 

           แอริโซนาเป็นรัฐสำคัยที่สามารถช่วยผลักดันให้เข้ารัีบตำแหน่งประธานาธิบดีในที่จะมาถึง ชัยชนะของ บิล คลินตัน จากพรรคเดโมแครตในปี 1996 แอริโซนาได้โหวตให้พรรครีพัลลิกัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุกครั้งตั้งแต่ปี 1952 จนถึงปี 2016 พรรคเดโแมครตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่นัี้นในปี 2020 แต่ โจ ไบเดน เอาชนะทรัมป์ไปได้อย่างฉิวเฉียด ซึ่งเป็นเชีนนี้เสมอมา ก่อนทศวรรษ 1950 การหาเสียงในแอริโซนาเป็นเรื่อง่ายสำหรับผุ้สมัครอย่าง คาร์ล เฮย์เดน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตที่เคยดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากแอริโซนาตั้งแต่ปี 1927 -1969 การพูดจาไม่ใช่ีเรื่องใหญ่ ฉันแค่บอกพวกเขาว่าฉันเป็นเดโมแครต" เฮย์เดนกล่วในปี 1971 

          ในช่วงทศวรรษ 1850  ความสมดุลของพรรคการเมืองในรัฐแอริโซนาเร่ิมเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางประชากร ยุคนี้ทำให้เกิดระบบสองพรรคที่มีการแข่งขันกันมากขึ้นในรัฐแอริโซนา ทำให้พรรครีพัลลิกันมีคะแนนเสียงเหนือกว่า ในทศวรรษนี้ พรรครัพับลิกันจำนวนมากขึ้นย้ายถ่ินฐานจากมิดเวสต์ไปยังแอริโซนา ดดยส่วนใหญ่ตั้งถ่ินฐานอยู่ในพื้นที่ฟินิกซ์ในเขตมาริโคปา พรรคเดโมแครตอนุรักษ์นิยมในพื้นที่ชนบทของแอริโซนาก็หันมาสนับสนุนพรรครีพัลลิกันเช่นกัน เนื่องจากพรรคเดโมแครตมีแนวคิดเสรีนิยมมากขึ้นและพวกเขารู้สึกว่าพรรครีพัลลิกันมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมมากขึ้น

  มีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลด้วย เช่น อิทธิพลของหนังสือพิมพ์ชั้นนำของรัฐอย่าง "เดอะ รีพับบลิค และ เดอะ แกซีทที ซึ่งนำโดย ยูจีน พูลเลียนม ผู้จัดพิมพ์หนังสือพิมพ์ในฟินิกซ์พูลเลียมต้องการสร้างรัฐที่มีพรรคสองพรรคและบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ก็สะท้อนสิ่งนี้ด้วยการสนับสนุนนผุ้สมัครพรรครีพัลลิกันอย่างเปิดเผย

           พรรครีพัลลิกันของรับแอริโซนาขึ้นสุ่อำนาจในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นมิตรกับธุรกิจและมีแนวคิดปฏิรูป ดดยมุ่งหวังที่จะปฏิรูปโครงสร้างภาษีของรัฐและเพ่ิมการใช้จจ่ายด้านการศึกษาและดครงการทางสังคมอื่ๆ ซึ่งสะท้อนถึงพีรรครัพัลลิกัน สายกลางจากทั่วประเทศในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม พรรคยังมีกลุ่มศาสนาที่ยึดมั่นในหลักนิยมและหัวรุนแรง ซึ่งจะเติบโตในปีต่อๆ มาและมีอิทธิพลมากขึ้น

        ตั้งแต่ปี 1966 พรรครีพัลลิกันควบคุมสภาผุ้แทนราษฎรของรัฐไ้ และสูญเสียการควบคุมวุฒิสภาของรับเพียงไม่กี่ครั้ง แม้วาอำนาจของพรรครีพัลลิกันในสภานิติบัญญัติของรับจะลดลงในช่วงไม่กีปีที่ผ่านมา แต่พรรครัพับลิกันยังคงควบคุมทั้งสองสภได้ และปัจจุบัยพรรครีพัลลิกันครองทั่นั้งในรัฐสภาได้ 6 จาก 9 ที่นั่ง เคธี ล็อบส์ ผุ้ว่าการรัฐแอริโซนาเป็นพรรคเดโมแครต แต่เป็นชาวเดโมแครตคนแรกในรอบหลายปีที่ดำรงตำแหน่งนี้

          ปัจจุบัน พรรครีพัลลิกันมีจำนวนมากกว่าพรรคเดโมแครตในแง่ของการจุดทะเลียนพรรคในรัฐแอริโซนา โดยอยุ่ที่ 35% ต่อ 29% โดย 34% จัดเป็นผุ้มีสิทธิเลือกตั้งอิสระหรือไม่ได้สังกัดพรรค และที่เหลือจัดอยุ่ในกุ่มเสรีนิยมหรือสังกัดพรรคกรีน ในเวลาเดียวกัน แอริโซนาถือเป็นรับที่มีโอากสชนะสูง เนื่องจากพรรคเดโมแครตทำผลงานได้ดีในการเลือกตั้งระดับรัฐเมือเร็วๆ นี้ โดยแสดงให้เห็นถึงความเข็งแกร่งที่เพ่ิมขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าบางครั้งจะหนือกว่าพรรครีพัลลิกันก็ตาม ในปี 2018 พรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งระดับรัฐเพื่อชิงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา รัฐมนตรีต่างประเทศ ผุ้อำนวนการฝ่ายการศึกษาของรั,ฐ และที่นี่งในคณะกรรมาธิการบริษัทสาะารณูปโภค..

         รัฐแอริโซนาได้แสดงสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากฐานเสียงของพรรครีพัลลิกัน และอาจได้รับการจัดอันดับอย่างเหมาะสมให้เป็นหนึ่งในรัฐที่มีแนวโน้มสูงสุดที่จะผ่านเกณฑ์เป็นรัฐชี้ชะตา แต่สิ่งนี้เองไม่ได้บอกอะไรมากนักว่ารัฐจะชี้ชะตาอย่างไรในการเลือกตั้งครั้งใดครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ๋จะขึ้นอยู่กับปัญหาและบุคคลที่เกี่ยวข้อง...

              https://theconversation.com/who-will-win-in-arizona-in-november-its-a-toss-up-like-it-has-been-for-years-233763

              https://www.50states.com/state_nickname/arizona/

              https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%B2

               

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2567

"The Tar Heel State"

            NC เป็นอังษรย่อที่ใช่สองตัวอักษรหรืออักษรย่อทางไปรษณีย์ และ NCเป็นอักษรย่อแบบดั้งเดิมหรือมาตรฐานของรัฐนิร์ทแคดรไลนาชื่เอล่นของรัฐนี้เรียกว่า "รัฐทาร์ฮีล" มีช่อเล่นทีใช้กันน้อยกว่าอีกชื่อหนึ่ง คือ "รัฐนอร์ทเก่า" เมื่อแคโรไลนา ถุกแบ่งแยกในปี 1710 พื้นที่ทางตอนใต้ถุกเรียกว่า เซาท์แคดรไลนา และพื้นที่ทางตอนเหนือหรือพื้นที่ตั้งถ่ินฐานที่เก่าแก่กว่าถูกเรียกว่านอร์ทแคโรไลนา จากจุดนี้เองจึงได้รับฉายาว่า ไรัฐนอร์ทเก่า" น

          นักประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่าผลิตภัฒฑ์หลักในช่วงต้นประวัติศาสตร์ของนอร์ทแคดรไลนาคือ "น้ำมันดิน น้ำมันสน และน้ำมันสน" ซึ่งเป็นหนึ่งในสมรภ๓ูมิที่ดุเดือดที่สุดของสงครามกลางเมืองระหว่างรัฐ ตามเรื่องเล่ากันว่า กองกำลังที่สนับสนุนดองกำลังนอร์ทแคโรไลนาถุกขับไล่ออกจากสนามรบหลังจาการสู้รบ ชาวนอร์ทแคโรไลนาที่ต่อสุ่เพียงลำพังได้รับคำตองจากองทหารร้างที่ผ่านไปว่า "ยังมีน้ำมันดินเหลืออยุ่ในโอลด์นอร์ทเสตรทอีกไหมลูกพี่" ป็นอย่างนั้นจริงเหรอ เขาจะทำอะไรกับมัน" ผุ้ถุกถาม "เขาจะใส่รองเท้่าส้นสูงเพื่อให้พวกคุณติดดีขึ้นในการต่อสุ้ครั้งต่อไป" ครซีเล่าว่าเพมื่อนายพลลีได้ยินเรื่องดังกล่าว เขาก็พูดว่า "ขอพระเจ้าอวยพรพวก "ทาร์ฮีล" และพวกเขาก็ใช้ชื่อนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


          นอร์ท แคโรไลนา เป็นรัฐในตะวันออเฉียงใต้และมิดแอตแลนติกของสหรัฐอเมริกามีอาณาเขาติดกับ รัฐเวอร์จิเนียทางทิศเหนือ มหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันออก เซาท์แคโรไลนาทางทิศใต้ จอร์เจียทางทิศตะวัตกเฉียงใต้ และเทนเนสซีทางทิศตะวันตก 

       เป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 28 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 9 ของสหรัฐฯ ร่วมกับ เซาท์แคโรไลนาเป็น แคโรไฃนาทางชายฝั่งตะวันออก จากการสำรวจสำมะโนประชากร ปี 2020 มีประชากร 10,439,388 คน ราลีเมืองหลวงของรัฐ และชารอตเตต์เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเขตมหานครชาอร์ลอตต์ซึ่งมีประชากรประมาน 2.8 ล้านคนในปี 2023 เป็นเขตที่มีประชากรมากที่สุดในนอร์แคดรไลนา มีประชากรมากเป็นอันดับ 22 ในสหรัฐอเมริกา และเป็นสุนย์กลางการะานาคารที่ใหญ๋ที่สุดในประเทศรองจากนิวเยอร์กซิตี้ "รีเซิร์ช เทรียนเจอร์" ซึ่งมีประชากรประมาณ 2.3 ล้านตนในปี 2023 เป็นเขตมหานครรวมที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของรัฐมีประชากรมากเป็นอันดับ 31 ในสหรัฐอเมริกา และเป็นที่ตั้งอุทยานวิจัยในใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา 
           รัฐนอร์ทแคดรไลนาถุกขนานนามว่าเป็น "รัฐสีม่วง"ในทางการเมืองคำนี้หมายถึงผปุ้ลงคะแนนเสียงของพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งนื่อถึงความสมดุลทางการเมืองของรัฐและอัตลักษณ์ของเราในฐานะรัฐทีีมีผลชี้ขาดในการเลือกตั้งระดับรัฐที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด พรรครีพับลิกันมีข้อได้เปรียบเพียงเล็กน้อยในการแข่งขันระดับรัฐบาลกลางตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่พรรคเดโแมครตชนะที่นั่งในสภานิติบัญญัติแห่งรัฐได้มากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันอย่างไรก็ตาม ความจริงนั้นซับซ้อนกว่านั้นเล็กน้อย

          ในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว การแข่งขันระหว่าง เท็ด บัตต์และ เชอรี บีสลีย์ได้กำหนดว่าใตีจะเป็นผุ้ดำรงตำแหน่งแทนวุฒิสมาชิกริชารดเบิร์รในวุฒิสภาสหรัฐฯแม้ว่าผลการเลือกตั้งจะไม่สูสีอย่างที่คาดไว้ในตอนแรก แต่การแข่งขันก็ยังคงเข้มข้น เท็ด บัตต์ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนนำ 3.2% และคว้าชัยไป 82 จาก 100 มณฑลของนอร์ทแคโรไลนา ปิสลี้ได้รับชัยชนะ 18 ฒณฑล แต่อาศัยชัยชนะที่กว้างไกลของมณฑลที่มีประชากรแนาแน่นที่สุดของนอร์ทแคดรไลนา

     
 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเพียงไม่กี่มณฑลเท่านั้นในัฐที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการแข่งขันอย่างแท้จริง จากมณฑ,ทั้งหมด 100 มณฑลของอน์ทแคโรไลนา มีพเพียง 4 มณฑ,เท่านั้นที่ได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละ 5 

        ผลสำรวจ ณ ขณะนี้ ทรัมป์ขึ้นนำแฮร์ริส https://www.realclearpolling.com/polls/president/general/2024/north-carolina/trump-vs-harris

          "ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากในรัฐนอร์แคดรไลนาซึ่งเปนรัฐสวิงเสตรทไม่เข้าร่วมการเลือกตั้ง นักรณรงค์ของพรรคหวังว่าจะจุดไฟให้พวกเขาได้"

           นี้คือสถานการณืของการเลือกตั้งปี 2024 เมือมองจาระดับพื้นฐานในเขตชนบทแห่งของรัฐที่คาดวา่จะช่วยตัดสินตำแหน่งปรธานาธิบดี ความพยายามอย่างหนักของนักเคลื่อหนไวของพรรคการเมืองในการสร้างความกระตือรือร้นในการเลือกตึ้งนั้น มักถูกตอบสอนองด้วยความเฉยเมยและถึงขั้นรังเกี่ยจจากผุ้คนที่อสจจะมีบทบาทสำตัญเกิดควรในการกำหนดทิศทางประเทศ

          "เพอร์วิสเดินทางไปหาเสียพร้อมกับนักข่าวเอพี เมือไม่นานนี้ โดยเธออยุ่ใกล้ใจกลางเมืองออกซ์ฟอร์ต ซึ่งเป็นศุนย์กลางของมณฑลที่มีประชกรประมาณ 62,000 คน ตึ้งอยุ่ระหว่างเมืองราลี และ ชายแดน รัฐเวอร์จิเนีย และเธอจะไปถึงซินเทีย ซึ่งปฏิเสะที่จะให้ชื่อนามสกุลของเธอเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว

          เมื่อสิ้นสุดวันเสาร์ที่ร้อนอบอ้าวและไร้ลม พรรคเดโมแครตแห่งการนวิลล์เคาน์ตี้ได้เคาะประตูบ้าน 320 หลังในการรณรงค์หาเสียงช่วงสุดสัปดาห์วันทหารผ่านศึก นับเป็นจำนวนสุงสุดของพรรคเดฮมแครตเคาน์ตี้ทุพรรคในรัฐในวันนั้น

          ณ วันที่ 7 มิถุนายน พรรคเโมแครตใช้เงินโฆษณมากว่่าพรรครีพัลลิกันเกือบ 4 ต่อ 1 ในนอร์ทแคดรไลนา ตามข้อมุลของ Adlmpact และยังมีช่องว่างระหวางตอนนี้กับเดือนพฤศจิกายนมากกว่ามาก นอกจากนี้ พรรคเดโมแครตยังทุ่มทรัพยากรให้กับกิจกรรมระดับพื้นฐาน เช่น การเคาะประตูบ้านมากขึ้นด้วย ทำให้บรรดานักเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอย่างเพอร์วิสรุ้สึกมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับรัฐที่ทรัมป์ชนะถึงสองครั้ง แม้ว่าคะแนนเสียงของเขาจะลดน้อยลงระหวางปี 2016 -2020 ก็ตาม ทีมงานหาเสียงของเดโมแครตมองเห็นโอกาศในส่วนนี้ชัดเจน และไบเดนเองก็เดินทางมาไปบยังรัฐทาร์ฮีลมาแล้วสามครั้งในปีนี้

        เพอร์วิสกล่าวว่า ไผลมมีความหวังกับนอร์ทแคดรไลนาโดยรวมมากว่าทีเคยเป็นมาใชข่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าแกรนวิลล์เคาน์ตี้มีศักยภาพมากที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสิ้งนั้น" แคมเปญหาเสียงของทั้งสองพรรคต่างให้ความสำคัญกับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตชนบท และนอร์ทแคโรไลนาเป็นรัฐที่มีประชากรในเขตชนบทมากเป็นอันดับ 2 รองจากเท็กซัส ในปี 2020 มีเพียง 14 มณฑลในชนบทของนอร์ทแคโรไลนาเท่านั้นที่ลงคะแนนให้ไบเดน ส่วนอีก 64 มณฑลในรัฐสนับสนุนทรัมป์ คะแนนเสียงของมณฑลแกรนวิลล์เกือบ 53% ตกเป็นของทรัมป์ซึ่งมากกว่ในปี 2016 เล็กน้อย บารัค โอบามา จากเดโมแครตคว้าชัยในมณฑ,นี้ในแคมเดปญหาเสียงปี 2008 และ 2012  มีเพียง 6 มณฑ,ของนอร์ทแคโรไลนาที่เปลี่ยนจากโอบามา เป็นทรัมป์

           แกรนวิลล์ เคาท์ตี้ อยุ่ชานเมืองของ ราลี และ ดูร์แฮรน และผุ้อยุ่อาัยบางส่วนขับรุบทนทางหลวงระหว่างรัฐหมายเลข 85 หรือถนนสองเลนที่คดเคี้ยวผ่านชนลทเพื่อเดินทางไปทำงานมนพื้นที่ ไทรแอนเจิล ที่พลุพล่านของ นอร์ทแคดรไลนา แกรนวิลล์ มีเทศบาล 5 แห่ง และดรงงานผลิตของ เรฟรอน และ บริดสโตน และบริษัทอื่นๆ ในการเลือกตั้งครั้งต่ไป ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในเชตสามารถช่วยกำหนดได้ว่าพรรครัพัลลิกันจะรักษาเสียงข้างมากในสภานิติบัญญํติของรัฐได้หรือไม่ "นับเป็นการแกว่งไปมาระหว่างสองฝ่ายหรือไม่ หรือว่าเราแค่บังเอญไปจับจังหวัะที่มันกำลังจะเป็นของพรรครีพัลลิกัน อยู่แล้ว เรายังไม่รุ้เลยใช้ไหม" คริส คุเปอร์ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นแคโรไลนา กล่าว ไนั่นคือส่ิงที่เรสจะได้เรียนรุ้่หลังจากเดือนพฤศจิกายน" 

         คูเปอร์ไม่แน่ใจว่า เดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ แต่เขาคิดว่าคะแนนเสียงมีความสำคัญ นั่นเป็นเพราะคะแนนเสีีงจะกำหนดว่าเขาต้องกาอะไรในพื้นที่เขตเมืองของวรัฐ ซึ่งมักจะเื้อประโยชน์ต่อพรรคเดโมแครต

"การคิดว่าพรรคเดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งในเขตชนบทของนอร์ทแคดรไลนาเป็นเรื่องไม่สมจริง พวกเขาจะไม่ชนะการเลือกตั้ง พวกเขาจะแพ้การเลือกตั้ง" คูเปอร์กล่าว "คำถามคือ พวกเขาจะแพ้การเลือกตั้งมากแค่ไหน" ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับพรรคเดโมแครตแห่งนอร์ทแคโรไลนา 

            เมือง ราลี รัฐนอร์ะแคโรไลนา (WTVD) รองประะานาะิบดี กมลา แฮร์ริสและเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ของเธอจะแวะมาที่รัฐนอร์ธแคดรไลนาในสัปกาห์นี้

             แฮร์ริสและคู่หูของเธอซึ่งยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางกาน จะออกเดินทางไปทั่วร์ 7 รัฐที่เป็นสมรภูมิการเลือกตั้งภายใน 5 วัน ทัีมงานหาเสียงของแฮร์ริสกล่าวว่านี้เป็นความพยายามที่จะ "แนะนำผุ้สมัครพรรคเดโมแครตคนใหม่" และ "พูดคุยดดยตรงกับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในชุมชนของพวกเขา และยืนยันข้อตกลงระหว่างผุ้สมัครของเราและผุ้สมัครของทรัมป์" 

           
พวกเขาจะอยู่ที่เมืองโรลี ในวัพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2024 ยังไม่มีการเปิดเผยเวลาและสภานที่

         นี่จะเป็นการเยือนรัฐทาร์ฮีลครั้งแรกของรองประธานาธิบดีนับตั้งแต่ประะานาธิบดีโจ ไบเดนถอนตัวออกจาการเข่งขันเมื่อ วันที่ 21 กรกฎาคม และให้การสนับสนุนแฮร์ริสสำหรับการเสนอชื่อทันที

         นอกเหนือจากการจัดชุมนุมตามสถานที่ต่างๆ ในแต่ละทัวร์ตั้งแต่สนามกีฬาใหญ่ๆ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยแล้ว แฮร์ริสและรองประธานาธิบดีที่เะอเลือกยังจะพบปะกับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในสภานที่เล็กๆ และเป็นส่วนตัว เช่น หอประชุม สหภาพแรงงานและร้านอาหารที่เป็นธุรกิจครอบครัว ทั่วร์จะเริ่มในวันอังคารที่ 6 สิงหาคม ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย การณรงค์อื่นๆ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย วิสคอนซิน มิชิแกน จอร์เจีย แอริโซนา และเนวาดา

          https://abc11.com/post/kamala-harris-vp-pick-is-stopping-raleigh-north-carolina-thursday/15143486/

          https://www.50states.com/state_nickname/north-carolina/

          https://en.wikipedia.org/wiki/North_Carolina

           https://www.usnews.com/news/politics/articles/2024-06-16/many-voters-in-swing-state-north-carolina-are-disengaged-party-activists-hope-to-fire-them-up

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2567

"The Silver State"

             NV เป็นอักษรย่อ 2 ตัวหรือรหัสไรษณี์ และ Nev. เป็นอักษรย่อแบบตั้งเิมหรือมาตรฐานของรัฐเนวาดา รัฐเนวาดา ถุกเรียกว่า "รัฐเงิน" เนื่องจากมีอุตสาหกรรมเหมืองแร่เงินขนาดใหญ่เรียกอีกชื่อว่า "รัฐเซจ" และ "รัฐเซจบรัช" ตามเซจป่าที่เติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ในรัฐนี้

            เนวาดาเป็นรัฐหนึ่งในภาคตะวันตกของสหรัฐฯ มีพรมแดนติดต่อกับ รัฐออริกอนทางทิศตะวันตก


เฉียงเหนือ รัฐไอดาโฮ ทางทิศตะวันออกเฉยเหนือ รัฐยูทาห์ทางทิศตะวันออก รัฐแอริโซนาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และรัฐแคลิฟอร์เนียทางทิศตะวันตก นวาดาเป็นรัฐที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุดเป็นอันดับที่ 7 มีประชกรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 32 และมีประชากรหนาแน่นน้อยที่สุดเป็นอันดับ 9 ของสหรัฐ ชาวเนวาดาจำนวนเกือสามในสี่อาศัยอยุ่ในเทศมณฑลคลาร์ก ซึ่งเป็นที่ตั้งของ เขตมหานครลาสเวกัน-พาราไดส์รวมถึงเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐสามในสี่เมือง เมืองหลวงของเนวาดาคือ คาร์สันซิตี ส่วนเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐคือ ลาสเวกัน

           พื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐเนวาดาป็นทะเลทรายและมีภุมิอากาศกึ่งแห้งแล้ง ส่วนใหญ่อยุ่ในเกรดเบซิน พื้นที่ทางตอนใต้ของเกรดเบซินอยุ่ในทะเลทรายโมฮาวี ในขณะที่ทะเลสาบทาโฮและเทือกเขาซีเอร์ราเนวาดา อยุ่ตรงขอบด้านตะวันตกของรัฐที่อินของรัฐประมาณร้อยละ 86 อยุ่ในเขตอำนาจการจัดการของหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ทั้งหน่วยงานพลเรือนและหน่วยงานทหาร

          ชนพื้นเมืองแเมริกัน เผ่าพฟยุค เผ่าโซไซนี และเผ่าวาโช อาศัยอยุ่ในเนวาดาในปัจจุบัน ชาวยุดรปก
ลุ่มแรกที่เข้ามาสำรวจภุมิภาคนี้คือชาวสเปน พวกเขาเรียกภูมิภาคนี้ว่า เนบาดา ซึ่งแปลว่า "ที่ปกคอลุ่มด้วยหิมะ" หรือ "ที่ที่เต็มไปด้วยหิมะ" เนื่องจากมีหิมะปกคลุ่มเทือกเขาในฤดูหนาวคล้ายกับที่ทิวเขา ซิเอรืราเนบาดา ในสเปน ภูมิภาคนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน อัลตากาลิฟอร์เนีย ภายในเขตอุปราชแห่งนิวสเปน ซึ่งได้รับเอกราชกลายเป็นจักรวรรดิเม็กซิโก ในปี 1821 สหรัฐผนวกพื้นที่ดังกล่าวในปี 1848 หลังจากได้รับชัยชนะในสงครามเม็กซิโก-สหรัฐ และรวมพื้นที่นี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนยูทาห์ ในปี 1850 การค้นพบแร่เงินที่สายแร่คอมสต็อก ในปี 1859 นำไปสู่การขยายตัวของประชากรจนกลายเป็นแรงผลักดันในการจัดตั้งดินแดนเนวาดาแยกจากดินแดนยูทาห์ ในปี 1861 เนวาดากลายเป็นรัฐที่ 36 เมือปี 1864 ดดยเป็นหนึ่งในพื้นที่สองแห่งที่ได้รับสถานะรับระหว่างสงครามกลางเมือง(อีกเมืองคือรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย)

          เนวาดาขึ้นชื่อในเรื่องกฎหมายอิสรนิยม ในปี 1940 ด้วยประชากรเพียง 110,000 คน เนวาดาจัดเป็นรัฐที่มีประชากรน้อยทีุ่สดในขณะนั้น การทำให้การพันันถูกกฎหมายและกำหมายการแต่งงานและการหย่าร้างที่ผ่อนปรนได้เปลี่ยนโฉมเนวาดาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในคริศต์ศตวรรษที่ 20 เนวาดาเป็นรัฐเดียวของสหรับที่ซึ่งการค้าประเวณีเป็นส่ิงุถูกกฎหมาย แต่ก็ยังคงผิดกฎหมายในพท้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยุ่มากที่สุดในรัฐ ได้แก่ เทศมณฑลคลาร์ก(ลาสเวกัส) เทศมณฑ,วาโช (วีโน) และคาร์สันซิตี(ซึ่งเป็นนครอิสระ ไม่ได้อยุ่ขอบเขตของเทศมณฑลใดๆ) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นแหล่งการจ้างงานที่ใหญ่ที่สุดของเนวาดา ในขณะที่การทำเหมืองแร่ยังคงเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญของเศราฐฏิจรัฐ เนวาดาเป็นผุ้ผลิดทองคำรายใหญ่รายใหนึ่งโลก เนวาดาเป็นรัฐที่แห้งแล้วที่สุดของสหรัฐฯ เมือเวลาผ่านไปและด้วยอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ช่วงหน้าแล้งได้เพ่มความถี่และความรุนแรงขึ้น ก่อให้เกิดความตึงเครียดต่อความมั่นคงด้านน้ำของรัฐ

          พรรคเดโมแครตหวังว่า "กมลา-เมนตัม" ตาที่อินเตอร์เนตเรียกกัน จะทำให้การเลือกตั้งประธานาะิบดีในปี 2024 เปลี่ยนไปมาก จนทำให้พวกเขาสามารถรักษารัฐที่มีชัยชนะสำคัญๆ อย่างเช่นรัฐนี้ เอาไว้ได้ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ดุเหมือนว่ากำลังจะหลุดลอยไปจากมือของพวกเขาโดยที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่ผิดหวังกับการจัดการเศราฐกิจของไบเดน หันไปทางโดนัลด์ ทรัมป์แทน


        ตามผลสำตวจของ "ฟ็อกนิวส์" เมือดดอืนมิถุนายน และผลสำรวจอื่นๆ พบว่าทรัปม์มีคะแนนนำไบเดนเพียงเล็กน้อย แต่ในรัฐที่มีความหลากหลายและผุ้ลงคะแนนอายุน้อยแห่งนี้พรรคเดอมแครตหวังว่าแฮร์ริสอาจดึงดุดผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่รุ้สึกวา่ไม่ได้รับการเป็นตัวแทนจากผุ้สมัครชายผิวขาวอายุมากกว่าสองคน

         มารีอา นีเอโต ออร์ตา วัย 24 ปี ประทานกลุ่ม "ยัง เดโมแครต แห่ง เนวาดา" กล่าวว่า "ฉันได้ยินความตืนเต้นใหม่ๆ มากมาย แันคิดว่านั้นมาจาการที่รองประธานาะิบดีไม่เพียงแต่เป้นผุ้หญิงเท่านั้นแต่ยังเป็นผุ้หญิงผิวสีและเป็นคนอายุน้อยอีกด้วย ฉันคิดว่าเราต่างก็รุ้สึกเช่นเดียวกันกับเรื่องนี้" 

        ชาวเนวาดากว่างสามพันคน ได้ลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครให้กับแฮร์ริสนับตั้งแต่เธอได้รับเลือกให้เป็นผุ้ได้รับการเสนอชื่อ ในระดับประเทศ แคมเปญดังกล่าวได้ระดมทุนได้ 200 ล้านดอลลาร์และรับสมัครอาสาสมัครใหม่มากกว่า 170,000 คน ตามาบันทึกภายในแคมเผญที่วอชิงตันโพสต์ได้เห็นทีมงานหาเสียงของแฮร์ริสรุ้สึกยินดักับพลังและความหวังที่เพ่ิมขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจุดยืนที่ชัดเจนของรอง


ประธานาธิบดีเกี่ยวกับ สิทธิ ในการทำแท้งอาจช่วยเปลี่ยนใสจผุ้มีสิทธิเลือกตั้งหญิงในเขตชานเมืองที่อาจจะลงคะแนนเสียงให้กับทรัมป์ได้ แต่ผุ้ช่วยของแฮร์ริสยอมรับว่าพวกเขามีังานใหญ่รออยู่ข้าหน้าในการแปลงความกระตือรอร้นนั้นให้กลายเป็นคะแนนเสียง

       The Post ได้สัมภาษณืผุ้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 20 คน ในลาสเวกัสและพบว่แม้วาแนวทางการเมืองของพวกเขาจะแตกแยกกัน แต่แทบทุกคนต้องการเห็นากรเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนนี้ คะแนนเสีียงยังคงรอการชิงชัยในเมืองลาสเวกัสซึ่งเป็นเมืองที่มีชนชั้นแรงงานจำนวนมากและกำลังเผชิญกับปับยหาเศรษฐกิจที่ผุ้คนต่างกล่าวถึง ได้แก่ อัตราการว่างงานซึ่งยังคงสุงที่สุดในประเทศ ค่าที่อยุ่อาศัยที่สูงจึ้น และราคาน้ำมันที่สุงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

      เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมืองของทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเนวดาจะสุสี และมแ้ว่าการสำรวจบางส่วนจะแสดงให้เห็นวาพรรคเดโมแครตกลับมามีคะแนนนิยมอีกครังในกลุ่มคนหนุ่มสาวและละตินอเมริกา แต่พวกเขาก็ยังชี้ให้เห็นเช่นกันว่าฉร์ริสยังไม่เป้นที่นิยมอย่างกว้างขวาง

       เจ้าหนัาที่เนวาดชี้ไปที่ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ซึ่งเป็ฯผุ้ที่เป็นอิสระซึ่เลือกที่จะไม่ผุกมัดตัวเองกับพรรคใดๆ และเป็นตัวแทนของผุ้มีสิทะิเลือกตั้งส่วนใหญ่มากวา่พรรคใดพรรคหนึ่งว่าเป็นเป้าหมายหลัก 

       "ซอนด้า คอสกรูฟ" ศาสตราจารจาก "คอลเล็ท ออฟ เซาท์เทิร์น เนวาดา" และผุ้อำนวนการบริหารขององค์กรไม่แสวงหากำไร "โวต เนวาดา" ซึ่งเป็นองค์กรทีททำหน้าที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพลเมือง กล่าวว่า "กลุ่มที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเหล่านี้มีความหลากหลายและเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม๋ ดังนั้น พรรคการเมืองใดก็ตามที่เข้าถึงพวกเขาและรับฟังปัญหาของพวกเขาจริงๆ ก็จะได้รับประโยชน์อย่างมาก" 

               https://www.washingtonpost.com/politics/2024/07/30/nevada-harris-biden-trump-polls/

               https://www.50states.com/state_nickname/nevada

  https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B2

         

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“The Keystone State”

           เพนซีเวเนีย หรือ ชื่อที่เรียกกันเล่นๆ ว่า "รัฐคีย์สโตน" ซึ่งไม่สามารถสืบย้อนไปยังแหล่งที่มาใด
แหล่งหนึ่งได้ คำว่า "คีย์สโตน" มาจากคำว่าสถาปัตยกรรม และหมายถึงหินรูปลิ่มตรงกลางในซุ้มโค้งซึ่งยึดหินก้อนอื่นๆ ๆว้ด้วยกันได้รับการยอมรับโดยทั่วไปไม่นานหลังจากปี 1800 ในการชุมนุมเพื่อชัยชนะของพรรครีพับลิกันที่เมืองเจฟเฟอร์สันในเดือนตุลาคม ปี 1802 รัฐเพนซิลเวเนียได้รับการยกย่องว่าเป็น "เสาหลักแห่งสหภาพกลาง" และในหนังสือพิมพ์ออโรราในปีถึดมา รัฐก็ถูกเรียกว่า "เสาหลักแห่งรากฐานของประชาธิปไตย" การคงอยุ่ของชื่อนี้ในปัจจุบันนั้นสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งสำคัญของเพนซิลเวเนียในการพัฒนาด้านเศราฐกิจ สังคม และการเมืองของสหรัฐอเมริกา 
           เพนซิเวเนีย แลว่า "ดินแดนป่าของเพนน์" หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือเครื่อรัฐซิลเวเนีย เป็นรัฐที่ครอบคลุม แอตแลนติกตะวันออก แอปพาเลนและเกรดเลกส์ที่มีอาณาเขตติดกับเดลแวร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ แมริแลนด์ทางทิศใต้ เวสต์เวอร์จิเนียโอไฮโอและแม่น้ำฮดไฮโอทางทิศตะวันตก ทะเลสาบอิรีและนิวยอร์กทางทิศเหนือ แม่น้ำเดลาแวร์ และนิวเจรอ์ซีทางทิศตะวันออก และจังหวัดออนแทรีโอ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
          รัฐเพนซิลเวเนียก่อตั้งขึ้นในปี 1681 โดยได้รับพระราชทืานที่ดินจากวิลเลี่ยม เพนน์บุตรชายของรัฐก่อนหน้านั้น ระหว่างปี 1638-1655 พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเป็นส่วนหนึ่งจองนิวสวีเอน ซึ่งเป็นอาณานิคมของ จักรวรรดิสวีเดนรัฐเพนซิลเวเนียในยุคอาณานิคม ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่หลบภัยสำหรับการยอมรับในศาสนาและการเมืองโดยเป็นที่รู้จักจากความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างสงบสุขกับชนเผ่าพื้นเมืองระบบรัฐบาลที่สร้างสรรค์ และความหลากหลายทางศาสนา เพนซิลเวเนียมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติอเมริกาและการแสวงหาอิสรภาพจากจักรวรรดิอังกฤษ ในที่สุด โดยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาถองเกรสภาคพื้นทวีปครั้งที่หนึ่ง และครั้งที่สอง ซึ่งนำไปสุ่การประกาศอิสรภาพและการก่อตตังกองทัพภาคพื้นทวีป เมือวันที่ 12 ธันวาคม 1787 เพนซิลเวเนียกลายเป็นรัฐที่สองที่ให้สัตยาบันต่อ รัฐะรรมนูญ ของสหรัฐอเมริกา การต่อสุ้ที่นองเดลือดที่สุดของสงครามกลางเมืองอเมิรกา ที่เมืองเกตตี้สเบิร์กเป็นเวลาสามวันในเดือนกำกฎาคม 1863 พิสุจน์ให้เห็นว่าเป็นจุดเปลี่ยของสงครามซึ่งนำไปสู่การรักาาไว้ซึ่งอำนาจของสหภาพตลอดช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และ 20 เศราฐกิจของรัฐที่เน้นการผลิตที่ส่วนสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในช่วงแรกๆ ของประเทศมากมาย รวมถึงสะพานสำคัญตึกระฟ้าและฮาร์ดแวร์ทางการทหารที่ใข้ในชัยชนะที่นำโดยสหรัฐญในสงครามดลกคร้งที่ 1 และ 2 รวมถึงสงครามเย็นด้วย
           เพนซิลเวเนีย มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์อย่างมาก เทือกเขาแอปพาเลเชียนทอดตัวผ่านใจกลางรัฐ เทืองกเขา อัลเลเกนี และโพโดโนทอดตัวครอบคลุม พื้นที่ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐ พื้นที่เกือบ 60% ของรัฐเป็นป่าไม้แม้ว่าจะไม่มีแนวชายทะเล แต่ก็มีแนวชายฝั่งทะเลยาว 140 ไมล์(225km.) ตามแนวทะเลสาบอีรีและแม่น้ำเดลาแวร์ที่น้ำขึ้นน้ำลง
 
        เพนซิลเวเนีย เป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของอเมริกา โดยมีผุ้อยู่อาศัยมากกว่า 13 ล้านคนตามสำมะโนประชากรปี 2020 รัฐมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 33 และมีความหนาแน่นของประชากรสูงเป็นอันดับ 9 ในบรรดารัฐทั้งหมดพื้นที่มหานคร ที่ใหญ่ที่สุด คือเดลาแวร์วัลเลย์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงและล้อมรอบฟิลาเดลเฟีย เมือง ที่ใหญ่ที่สุดของรัฐและมีประชากรมากเป็นอันดับ 6 ของประเทศ พื้นที่มหานครที่ใหญ่เป็นอันดับสองคือ เกรทเทอร์ฟิดต์สเบิร์ก มีศูนย์กลางอยุ่ในและรอบๆ พิตต์ สเบิร์กซึ่งเป็น เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐ เมืองที่มีประชากรมากที่สุดทำอันดับแรกของรัฐรองลงมา ได้แก่อัลเลนทาวน์เรตติ้ง อีรีสแครนตันและเบธเลเฮม เมืองหลวงของรัฐคือแฮร์ริสเบิร์ก
           ตั้งแต่ยุคแรกเร่ิมของประเทศ เพนซิลเวเนียเป็์นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวในหลายๆ ด้าน รัฐนี้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาคองเกรสภาคพื้นทวีปที่เมืองฟิลาเดลเฟียในปี 1770 และเป็นรัฐสุดท้ายที่ลงมติเอกฉันท์ในการประกาศอิสรภาพเมืองกรกฎาคม 1776 ในช่วงเวลาแห่งการประกาศอิสราภพ เพนซิลเวเนียยังเป็นศุนย์กลางทางภุมิศาสตร์ของอาณานิคมดั้งเดิม 13 แห่ง โดยมี 6 แห่งทางทิศใต้ และอีก 6 แห่งทางทิศเหนือและตะวันออก 
          รัฐนี้ไม่ได้เป็นรัฐที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอยู่เสมอมา แต่โดยทั่วไปแล้ว รัฐนี้มักเป็นศุนย์กลางของการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และยังเป็นเช่นนั้นถึงปัจจุบัน เพนซิลเวเนียมีผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีมุมองทางการเมืองหลากหลาย ดดยปกติและผลการเลือกตั้งในระดับจะออกมาสูสีกัน
          ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟียส่วนใหญ่มีแนวคิดเสรีนิยมในทุกประเด็นในขณะที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในชนบทของเพนซิลเวเนียส่วนใหญ่มีแนวคิดอนุรักษนิยมและไม่ค่อยเชื่อเรื่องการเมืองในเมืองอย่างไรก็าม พื้นที่ชายเมืองหลักของรับแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ดดยฝ่ายฟิลาเดลเฟียสนับสนุนเดโมแครต และฝ่ายพิตต์สเบิร์กสนับสนนุพรรครีพับลิกัน
            เมื่อความแตกแยกทางการเมืองระดับภูมิภาคระหว่างภาคเหนือและใต้เพิ่มมากขึ้นในศตวรรษที่ 19 บทบามสำคัญของเพนซิลเวนียในการเลือกตั้งประธานาะิบดีก็เพ่ิมขึ้นเช่น ระหว่างปี 1828-1880 เพนซิลเวเนียเป็รัฐเดียวที่ลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครชิงตำแหน่งประะานาะิบดีพรรครีพับลิกันที่ชนะทั้งหมดในช่วง 1860 และ 1870 เพนซิเวเนียไม่ได้เป็นรัฐที่เปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาหลายทศวรรษ หลังสงครามกลางเมือง ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐสนับสนุนผู้สมัครจากพรรครัพับลิกันในการเลือกตั้งประะานาธิบดีทุกครั้งระหวา่งปี 1860-1932 รวมถึง ธีโอดอร์โรสเวลด์สมัครจากพรครีพับลิกันสายก้าวหน้าในปี 1912 ในช่วงแร 1940 เพนซิลเวนียยังคงสนับสนุนผพรรครพับลิกันมากว่าพื้นที่อื่นๆ ในประเทศ แต่ล้วรัฐก็เปลี่ยนใจกะทันหันและเร่ิมสนับสนุนผุ้สัมครจากพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนที่มากว่าผมีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศเป็เวลา 60 ปี ตั้งแต่ 1952-2021 นั้นเป็เพราะอำนาขของกลไกการเมืองของพรรครัพับลิกันในฟิลาเดลเฟียแตกสลายไป นับตั้งแต่ปี 1952 เป็นต้นมา ไม่มีนายกเทศนตรีที่มาจากพรรครีพับลิกันที่นั้นเลย
             เมื่อภาคใจ้เร่ิมมีแนวโน้มเป็นพรรครีพัลลิกันในช่วงทศรรษ 1950 และ 1960 และฟิลาเดลเฟียกลายเป็นพรรคเดโมแครตมากขึ้น รัฐเพนซิลเวเนียก็กลายเป็นพรรคเดโมแครตมากกว่ประเทศโดยรวมในการ

เลือกตั้งประธานาธิบดี เพนซิลเวเนียยังคงขาดสภานะเป็นรัฐชี้ขาดในทางการเมืองของคณะผุ้เลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประะานาธิบดีที่สุสีกันทั้งหมดเป็นเวลา 60 แม้แต่เมือพรรครีพัลฃิกันชนะทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงในปี 1968 เมื่อฮิวเบิร์ต ฮัมฟรีย์จากพรรคเดดมแครตชนะการเลือกตั้งในรัฐนี้ ในปี 2000 เมื่อ อัลกอร์จากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย แต่แพ้คะแนนเลือกตั้งระดับชาติที่สูสีและเป็นโต้แย้ง และในปี 2004 เมื่อจอห์น เคอร์รีจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในรัฐคีย์สโตน
           ปีที่ชาวเพนซิลเวเนียลงคะแนนเลือกผุ้สมัครรชิงตำแหน่งประานาะิบดีจากพรรครีพัลลิกันเป็นปีที่พรรครีพัลลิกัได้รับชัยชนะในระดับประเทศด้วยคะแนนที่สุงมากเป็นพิเศษ คือ 2 ครั้งสำหรับไอเซนฮาวร์ ครั้งสำหรับการเลือกตั้งซ้ำของนิกสัน และอีก 2 ครั้งสำหรับเรแกน
          อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นศตวรรษนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่มีการแข่งขันกันอย่างสุสี พรรครีพัลลิกันเริ่มมองเห็นโอากสที่เพนซิลเวเนียจะมีส่วนร่วมในคำการคำนวณคะณะผุ้เลือกต้งระดับประเทศ
          การขยายตัวของการสำรวจความคิดเห็นทางการเมืองในแต่ละรัฐทำให้สามารถกำหนดแนวดน้มการลงคะแนนเสียงของแต่ละรัฐได้ พบว่ารัฐส่วนใหญ่ลงคะแนนให้พรรคการเมืองหนึ่งพรรคอย่างน่าเชื่อถือในการเลือกตั้งประะานาะิบดีทุกครั้ง ทำให้เกิดการติดป้ายว่า ไรับสีน้ำเงินไ และ "รัฐสีแดง" ซึ่งเริ่มใช้หลังการเลือกตั้งในปี 2000 สื่อต่างๆ เน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเพนซิลเวนีย ฟลอริดา และมิชิแกนเป็นรัฐสำคัญในสมรภูมิโดยอิงจากการสำรวจความคิดเห็นและสัดส่วนคะแนนเสียงเลือกตั้งที่มาก เมือกอร์ได้รับการประกาศให้เป็นผุ้ชนะทั้งสามรัฐในช่วงเช้าของคืนวันเลือกตั้ง ทุกคนต่างคาดเดาว่าเขาจะได้เป็นประธานาธิดบี อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาของคืนนั้นการคาดการณ์ก็จบลงด้วยการที่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้เป็นประะานาธิบดี
           เพนซิลเวเนียยังคงถุกมองว่เป็นรัฐที่มีศักยภาพที่จะเป็นชัยชนะของพรรครีพัลลิกันในการเลือกต้้งประธานาธิบดีอีกสามคร้งข้างหน้า แม้ว่าพรรคเดฮมแครจะชนะการเลือกตตั้งทุกครั้งก็ตาม ความพยายามของรีพับลิกัน บางครั้งถุกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไร้ประโยชน์ในสื่อและในปมุ่่ที่ปรึกษาทางการเมือง
          แต่ด้วยทรัมป์ในปี 2016 พรรครีพับลิกันไม่เพีีงแต่ชนะการเลือกตั้งประานาะิดบีที่เพนซิลเวเนียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในปี 1988 เท่านัี้น แต่ยังมีผลงานที่ดีกว่าผลการเลือกตั้งทั่วประเทศอีกด้วย
 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจครั้งนี้ ได้แก่ ความนิยมอยางสุงของทรัมป์ในพื้นที่ชนบทของรัฐและชานเมืองพิตต์สเบิร์ก และฮิลลารี คลินตันที่ไม่ได้ไปหาเสียงในเมืองต่างๆ หลายแห่งนอกเขตะมือง ชัยชนะที่น่าแปลกใจของทรัมป์ในเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซินในปีนั้น แม้จะเพีีงเล็กน้อยก็ตามทำให้เขาสามารถคว้าชัยชนะจากคณะ(ุ้เลือกตั้งได้และส่งผลให้สื่อและการเมืองทั่วประเทศให้ความสนใจในสามรัฐสำคัญเหล่านี้ขึ้นมาโดยตลอด
         ปี 2024 โดนัลด์ ทรัปม์ ผุ้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครัพับลิกันและอดีตประธานาะิบดีสหรัฐฯ จัดการชุมนุมที่เมืองแฮร์ริสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวนีย เมือวันพุทธ โดยโจมตีประวัติการย้ายถ่ินฐานของพรรคเดโมแครต เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาตั้งคำถามถึงเชื้อชาติของรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส
          การชุมนุมดังกล่าวจัดขึ้นในร่วมที่สนามกีฬาอนิวฮอลแลนด์ในเมืองหลวงของรัฐ 
          "อย่างที่คุณทราบ นี่เป็นการกลับมาที่เพนซิลเวเนียครั้งแรกของผมนับตั้งการชุมนุมชุมนุมที่บัตเลอร์" เขากล่าว ซึ่งเป็นการชุมนุมที่ ทรัมป์ ถูกพยายามลอบสังหาร https://draft.blogger.com/blog/post/edit/57583117367728393/8200309541380190825?hl=th
         "เมื่อสิบแปดวันก่อน เรามีวันเลวร้ายมา กเราเจอเรื่องแย่ๆ มาเยอะ แันบอกคุณได้เลยว่าวันนี้แันไม่ควรอยุ่กับคุณ แันไม่ควรอยุ่กับคุณ แต่ฉันอยุ่ตรงนี้" ในระหว่างงานที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดกับสมาคมนักข่าวผิวสีแห่งชาติของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ในวันพุธ ทรัมป์ได้เผยว่า แฮร์ริสเคยระบุว่าตนเป็นคนเอเชียใต้ แต่กลับยอมรับตัวตนว่่าเป็นผุ้หญิงผิวสีเพื่อความได้เปรียยทางการเมือง 
         "เธอเป็นคนอินเดียมาโดยตลอด แต่จู่ๆ เธอก็เปลี่ยนมาเป็นคนผิว่ำ" ทรัมป์กล่าวถึงแฮร์ริส ซึ่งมีพ่อเป็นคนผิวดำและแม่เป็นคนอเมริกันเชื้อสายอินเดีย
         แฮร์ริส วัย 59 ปี เป็นคนผิวสีและเอเชียใต้มาเป็นเวบานานแล้ว เธอเป็นคนผิวสีและเอเชียใต้อเมริกันคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรอบประธานาธิบดีของประเทศ
        ทั้งสองฝ่ายต่างออกมาประณามกันอย่างรวดเร็ว.. 
 ทรัมป์และแฮร์ริสทุ่มสุดตั้งเพื่อทำให้เพนซิลเวเนียกลายเป็นฟลอริดาแห่งใหม่ ในปี 2000 คือ ฟลอริดา ฟลอริดา ฟลอริดา ในปี 2024 คือ เพนซิลเวนีย เพนซิลเวเนีย เพนซิลเวเนีย ทั้งสองฝ่ายต่างปฏิบัติต่อเพนซิลเวเนียเหมือนกับโอไฮโอหรือฟลอริดาในสมัยก่อน ซึ่งเป็นรัฐที่ผุ้ชนะังมีแนวดน้มที่จะเป็นผุ้ขนะทำเนียบขาวด้วย 
         แคมเปญหาเสียงชิงตแหน่งประะานาะิบดีของ ทรัมป์ และแฮร์ริส ในปี 2024 มีแนวโน้มที่จะใช้งบโฆษณาในเพนซิลเวเนียมากว่าสองเท่า มากว่าในรัฐชี้ขาดอื่นๆ ทั้ง 6 รัฐ ตามการวิเคราะห์
          ทั้งสองฝ่ายต้องปรับกลยุทะ์การโฆษณาของตนเนหืองจาก นาง แฮร์ริสเป็นหัวหอกแทน ประธานาธิบดีไบเดน 
         ทีมของทรัมปืมองว่าเพนซิลเวเนียเป็นโอกาสที่ดีในการฝ่านด้าน รัฐ "กำแพงสีน้ำเงิน" ในมิดเวสต์ซึ่งรวมถึงมิชิแกนและวิสคอนซิน ซึ่งไบเดนพึ่งพาชัยชนะมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รัฐสำคัญอื่นๆ มีแนวโน้มไปในทางเดียวกับทรัมป์ ในสัปกาห์ที่ผ่านมา ทีมของทรัมป์เร่ิมทุ่มเงนิจำนวนมากในหารโฆษณาในรัฐนอร์ธแคโรไลนาและเนวาดาเป็นตรั้งแรก ซึ่ก่อนหน้านี้ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ามีผุ้นำที่น่าพอใจ
           
           https://www.cbc.ca/news/world/trump-pennsylvania-rally-harrisburg-1.7281387
           https://theconversation.com/pennsylvania-continues-tradition-as-keystone-state-in-presidential-elections-232646
          https://www.axios.com/2024/08/03/trump-harris-pennsylvania-ad-spending-president
            
           https://en.wikipedia.org/wiki/Pennsylvania
           https://www.50states.com/state_nickname/pennsylvania/
          

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...