วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Sun Belt : swing state dynamics



        sunbelt เป็นภูมิภาคสหรัฐฯที่ดดยทั่วไปถือว่าทอดยาวทางตะวันออเฉีงใต้และตะวันตกเฉียงใต้ คำจำกัดความคร่าวๆ อีกประการหนึ่งของภูมิภาคนี้คือพื้นทีทางใต้ของเส้นขนานที่ 36 สภาพภูมิอากาสสามารถพบได้หลายแบบในภูมิภาคนี้ ได้แก่ทะเลทราย กึ่งทะเลทราย แมดิเตอร์เรเนียน กึ่งร้อนชื้น และเขตร้อน ซันเบลท์มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังสงครามโลกครั้งที่สองเนื่องมาจากผุ้คนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาแสวงหาภูมิอากาศที่อบอุ่นและมีแดดจัด การเพ่ิมขึ้นของคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ที่เกษียณอายุและโอกาสทางเศราฐกิจที่เพ่ิมมากขึ้น การถือกำเนิดของเครื่องปรับอากาศทำให้สภาพอากาศในฤดูร้อนสบายขึ้น และทำให้ภาคการผลิตแลอุตสาหกรรมต่างๆ เข้ามาต้งถ่ินฐานในซันเบลท์มากข้น เนื่องจากการก่อสร้างในซันเบลท์ส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างใหม่หรือเพิ่งสร้างไม่นาน รุปแบบและการออกแบบที่อยุ่อาศัยจึงมักจะทันสมัยและเปิดโล่ง โอกาสในการพักผ่านหย่อนใจในซันเบอลท์มักไม่ผุกติดกับฤดูกาลใดฤดูกาลหนึ่งโดยเฉพาะ และเมืองท่องเที่ยวและรีสอร์ทหลายแห่งในภูใมิาภคนี้สนับสนุนอุตสาหรรมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

           จาก 15 เมื่อที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกา มี 12 เมืองที่ตั้งอยู่ในซันเบลท์ ปี 2023 นอกจากนี้ รหัสไปรษณีย์ 50 อันดับแรก 86% ที่มีผู้อาศัยใหม่เพ่ิมขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เร่ิมมีการระบาดของ โควิด 19 อยุ่ในเท็กซัส ฟลอริดา และแอริโซนา คำอะิบายแบบเดิมสำหรับการเติบโตคือผลผลิตที่เพ่ิมขึ้นในภาคใต้และตะวันตกและความต้องการส่ิงอำนวยความสะดวกในซันเบลท์ที่เพ่ิมขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพอากาศที่น่ารื่นรมย์ การลดลงของวานในรัท์เบลท์เป็นอีกสาเหตุสำคัญสำหรับการอพยพ

        ซันเบลท์ประกอบเด้วยพื้นที่ตอนใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงรัฐ แอละแบมา แอริโซนา ฟลอริดา จอร์เจีย หลุยเซียนา มิสซิสซิปปี้ นิวเม็กซิโก เซาท์แคโรไลนา เท็กซัส ประมารสองในสามของแคลิฟอร์เนีย และพื้นที่ตอนใต้ของ อาร์คันซอ นอร์ทแคโรไลนา เนวาดา โอคลา โอมาเทนเนสซี และยูทาห์ รัฐทั้งห้แห่งได้แก่ แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา เนวาด และเท็กซัส บางครั้งเรียกรวมกันว่ารับแห่งทรายเนื่องจากมีชายหาดหรือทะเลทรายมากมาย  คำจำกัดความอื่นๆ อาจรวมถึงบางส่วนของ โคโลราโด แคนซัศ มิสซูรี และเวอร์จิเนียและส่วนใหญ่หรือทังหมดของอาร์คันซอ นอร์ทแคโรไลนา โอคลาโอมาและ เทนเนสซี 

          คำว่า "ซันเบลท์" ถุกใช้ครั้งแรกโดยนักวิเคราะห์ทางการเมือง ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 "ซันเบลท์"กายเป็นคำพ้องความหมายกำับพื้นทีท่างใต้ 1 ใน 3 ของประเทศ ในช่วงเวลบานี้ ความโดดเด่นทางเศราฐกิจและการเมืองได้เปลี่ยนจาก มิดเวสต์ และ ภาคตะวันออกเแียงเหนือไปเป็นทางใต้และตะวันตกปัจจัยต่างๆ เช่นสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้น การอพยพของแรงงานจากเม็กซิโกและการเติบโตในอุตสาหกรรมเกษตรกรรมทำให้พื้นที่ทางใต้ 1 .ใน 3 ของสหรัฐอเมริกาเติบโตทางเศราฐกิจได้สภาพอากาศไม่เพียงแต่กระตุ้นการเติบโตของภาพเกษตรกรรมเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นารย้รยถ่ินบษนของผุ้เกษียณอายุจำนวนมากไปยังชุมชนเกษียณอายุในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในฟลอริดาและ แอริโซนา

        อุสาหกรรมต่างๆ เช่น การบิน และอวกาศการป้องกันประเทศและนำ้มันเติบโตอย่างรวดเร็ว ใน ซันเบลท์ เนื่องจกบริษัทต่างๆ ใช้ประดยชนน์จากการมีส่วนร่วมที่ต่ำของสหภาพแรงงานในภุมิภาค และความใกล้ขิดกับ่ฐานทัพทหารซึ่งเป็นผุ้บิาโภคผลิตภัฒฑ์รายใหญ อุตสาหกรรมน้ำมันช่วยผลักรัฐต่างๆ เช่นเท็กซัสและหลุยเซียนาให้ก้าวหน้า และการท่องเที่ยวเตอบโตในฟลอริดาและเคลิฟอร์เนียตอนใต้ เมือ่ไม่นามานี้ อุตสาหกรรมเทคดนดลยีชั้นสุงและเศรษฐกิจใหม่ เป็นแรงผลักดันหลักในการเติบโตในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ เมื่อไม่นามมานี้ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง และ เศรษบกิจใหม่ เป็นแรงผลักดันหลักในการเติบโตในแคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา เท็กซัส และพื้นที่อื่นๆ ของ ซันเบลท์ เท็กซัส และพื้นทืี่อื่นๆ ของ ซันเบลท์ เท็กซัสและแคลิฟรอ์เนียติดอันดับ 5 รัฐแรกในประเทศที่มีบริษัท Fortune 500 มากที่สุด

           ในอดีต ซันเบลท์ เป็นพื้นที่อนุรักษ์นิยมมากกว่าทั้งประเทศโดยรวม ดดยเฉพาะอย่างยิ่งเมือเปรียบเทียบกับภูมิภาคต่างๆ เช่น นิวอิงแลนด์ แปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือและในระดับที่น้อยกว่าเล็กน้อย คือ รัฐมิดแอตแลนติก และรัศต์เบลท์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป้นผลมาจากคริสเตียนอีแวนเจลิคัล ที่อาศัยอยุ่ในภฺมิภาคนี้เป็นจำนวนมาก

        ความหลากหลายทางเชื้อชาติที่เพ่ิมมากขึ้นและการจัดแนวทางการเมืองใหม่ในเขตเมือง ชนบททำให้รัฐซันเบลท์บางรัฐมีการแข่งขันกันมากขึ้น แม้ว่ารัฐทั้งหมดในภุมิภาคนี้ ยกเว้นนิวเม็กซิโกและแคลิฟรอ์เนีย ยังคงลงคะแนนเสียงไปทงขวาของค่าเฉลี่ยระดับประเทศ

ซันเบลท์เป็นภูมิภาคเป้าหมายสำคัญของพรรคเดโแมครตในการเลือกตึ้งสหรัฐฯ ปี 2020 ไบเดนผุ้สมัคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครชนะรับแอริโซนาและจอร์เจียอย่างหวุดหวิดในการเลือกตั้งประธานาะิบดี และพรรคได้รับที่นั่งทั้งสองรัฐในการเลือกตั้งวุฒิสภาในปี 2022 แอริโซนาและจอร์เจียเลือกพรรคเดโแมครต อีกครั้งเพื่อพำรงตำแหน่ง วุฒิสมาชิกครบ 6 ปี

           แอริโซนา และจอร์เจียถือเป็นฐานที่มั่นของพรรครีพัลลิกันมาช้านาน ดดยผุ้สมัครของพรรีพับลิกันชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี 16 ครั้ง จาก 18 ครั้ง หลังสุดในแอริโซนา และ 8 ครั้งจาก 10 ครั้ง หลังสุดในจอร์เจีย แม้ว่าเนวาดาจะไม่ได้เป็นสีแดงอย่างน่าเชื่อถือในช่วงไม่กีปีที่ผ่านมา แต่ชัยชนะอย่างหวุดหวิดของฮิลลารี คลินตันในปี 2016 และ โจ ไบเดน ในปี 2020 รวมถึงการสำรวจความคิดเห็นล่าสุด บ่งชี้ว่ารัฐนี้อาจประสบกับการเลือกตั้งที่สูสีในปี 2024 เช่นกัน ทั้งสามรัฐยังดำเนินคดีกับบุคคลที่เก่ี่ยวข้องกับการสมคบคิดเพื่อแต่งตั้ง "ผุ้เลือกตั้งปลอม" เพื่อลงคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง ให้กับอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ในรัฐที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง 7 รัฐ

         แม้ว่าการลงคะแนนเสียงจะค่อนข้างขัดแย้งกัน แต่รัฐที่เป็น "สมรภูมิ" เหล่านี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากรัฐอื่นๆ การประท้วงที่ประชานส่วนใหญ่ก่อขึ้นจากความขัแย้งระหว่างอิสรามและกาซา การจัดการของรัฐบาล ไบเดน ได้กระตุ้นให้เกิดการประท้วงของนักศึกษาทั่วประเทศ แม้ว่าจะมีระดับตำ่กว่าในรัฐแอริโซนา เนวาดา และจอร์เจียเมื่อเที่ยบยกัีบพื้นทีอื่นๆ ของประเทศ ในทำนองเดียวกัน กิจกรรมกองกำลังิดอาวุธ ซึ่งเพ่ิมขึ้นในปีที่ผ่่านมาเพื่อตอบสนองต่อการประท้วงเพื่อความยุติธรรมทางเชื้อชาติ และการต้อต้านการทำแท้งและสิทธิขชองกลุ่ม รักร่วมเพศ ได้ลดน้อยลงเมือเร็วๆ นี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งในรัฐที่มีผลการเลือกตั้ชี้ขาดต้องเผชิญกับการคุกคามและการคุกคาทที่เพ่ิมมากขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องพิสุจน์ถึงความสำคัญของรัฐเหล่านี้ต่อการลงคะแนนเสียงในเดือนพฤศจิกายน ธีมการประท้วงและกอจกรรมกองกำลังติดอาวุธสะท้อนถึงปัญหาในท้องถ่ินและระดับชาติที่ผสมผสานกัน เช่นเดียวกับที่เราเห็นทั่วประเทศ

         แอริโซนา

         พรรครีพัลลิกันยึดมั่นกับการเลือกตั้งในรัฐแอริโซนาเป็นเวบลานานแล้ว แต่ชัยชนะของไบเดนในปี 2020 และการเปล่ยนแปลงผุ้มีสิทธิเลือกตั้งทำให้รัฐแกรนด์แคนยอนกลายเป็นสมารรภุมิที่เข่งขันกันอย่างดุเดือดสำหรับการเลือกตั้งครั้งตอไป แม้ว่ารัฐรัฐชีชะตาหลายรัฐจะมีประชากรเพ่ิมขึ้น แต่การเติบโตของประชากรในรัฐแอริโซนากลับรุนแรงมาก ดดยมีการคาดการณ์ว่ามณฑลที่มีประชากรในรัฐแอริโซนากลับรุนแรงมาก ดดยมีการคาดการณืว่ามณฑลที่มีประชากรมากที่สุดของรัฐแอริโซนาและมณฑลที่มีประชากรมากเป้นอันดับสี่ของสหรัฐฯ อย่างมาริดโคปา จะเพิ่มจำนวนประชากรจาก 4.4 ล้านคนเป็นมากว่า 300,000 คนในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน มีการเปลี่ยนแปลงทางประชากรในรฐสำคัญอื่นๆ ทั่วประเทศ แต่ผุ้ทำการสำรวจความคิดเห็นได้ตั้งข้อสังเกตว่าการเติบโตในรัฐแริโซนา ซึ่งส่วนหสึ่งเป็นเพราะคะแนนเสียงที่ชนะเพียงเล็กน้อย(กว่า 10,000 คะแนน) ทำให้ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งรายใหมมีผลต่อการเลือตกั้งครั้งต่อไป นอกจากนี้มณฑ,มาริโคปายังเป็นที่อยุ่ิอาศัยของประชากรมากกว่า 60% ของรัฐแอริโซนา และมีเปอร์เซ็นต์ผุ้อพยพไปยังอเมริกาสุงกว่าค่าเฉลี่ย

          จำนวนผุ้อพยพจำนวนมากในรัฐแอริโซนาบ่งชี้ว่าการอพยพน่าะเป็นประเด็นสำคัญในการลงคะแนนเสียงในเดือนพฤศจิกายน แม้ว่าขาวอมริกันหลายคนจะมองว่าเศราฐกิจเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด แต่ชาวอเมริกันในรัฐแอริโซนากลับกล่าวว่าการอพยพเป็นปัญหาสำคัญที่สุดโดยผุ้ลงคะแนนเกือบหนึ่งในสามกล่าวว่าเป้นปัญหาที่สำคัญ

          ความสำคัญของการอพยพเข้าเมืองต่อสาะารณชนสะท้อนให้เห็นในบทบาทในการขับเคลื่อนการะดมพล อย่างไรก็ตาม สอดคล้องกับแนวโน้มทั่วประเทศ การระดมพลที่เกิดจากความขัดแย้งระหวางอิสราเอลและกาซาได้กลายเป็นแรงผลักดันหลักของกิจกรรมการประท้วงในรัฐโดยบดบังทั้งปัญหาแรงงานและการย้อยถ่ินฐาน มีรายงานการประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ในอยางน้อย 6 สภานที่ที่แตกต่างกันทั่วรัฐแอริโซนา  และคิดเป็น 41% ของการประท้วงทั้งหมดที่รายงานในรัฐตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023  แม้ว่ากิจกรรมการประท้วงล่าสุดอาจไม่ได้สอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นอย่างสมบูร์แบบ แต่ก็สอดคล้องกับแนวโน้มล่าสุดของการดำเนินการที่เพ่ิมขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้เงระหว่างอิสราเอลและกาซาและความคิดเห้ฯของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งชขาวอเมริกันเกี่ยวกับวิธีที่นัการเมืองสหรัฐฯจัดการกับเรื่องนี้


 นอกจากนี้ รัฐแอริโซนาเพ่ิงได้รับความสนใจจากทั่งประเทศหลังจากที่ผุ้พิพากษาของรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามการบังคับใชักฎหมายห้ามทำแท้งในปี 1864 ซึ่งอาจทำให้แพทย์ที่ทำแท้งถุกดพเนินคดีได้ การตัดสินใจดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้งมากที่สุดในรัฐตัั้งแต่คดี โร วี. เวดด์ ถุกพลิกกลับในเดือน มิถนายน 2022 แม้ว่าสภานิติบัญยัติของรับจะยกเลิกกฎหมายดังกล่าวไปอย่างหวุดหวิดเมือไม่นามนี แต่ก้อาจมีชข่วงเวลาหนึ่งที่กฎหมายห้ามดังกล่าวจะถุกบังคับใช้ก่อนที่กฎหมายจะยกเลิก ความสนใจที่เพ่ิมขึ้นในประเด็นนี้ เมื่อรวมกับวันครบรอบที่จะถึงนี้ของคำตัดสิน โดบบ์ส วี. แจคสัน ุวุแมน'เฮลท์ ออแกนิเซชั้น" โดยศาลฎีกาสหรัฐฯ อาจชี้ให้เห็นถึงการเพ่ิมขึ้นของกิจกรรมการประท้วงที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

           แอริโซนาเอง ก็มีกิจกรรมของวกลุ่มขวาจัดอยุ่ไม่น้อย โดยส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับการอพยพเข้าเมือง รัฐแอริโซนามีประวัติศาสตร์อันยาวนานของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธชายแดนต่อต้านผุ้อพยพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่ม "เวเทอร์แรนส์ ออน แพททรอล" กลุ่มหัวรุนแรงต่อต้านรัฐบาลกลุ่มนี้ก่อตตั้งขึ้นในปี 2015 และเคลื่อนไหวน้อยลงในช่วงไม่กี่ปัีที่ผ่านมาเนื่องจากผุ้นำของกลุ่มซึ่งสนับสนุนแผนการสมคบคิด คิวอานอลต่างๆ เผลิญแรงกดดันทางกฎหมายที่เพ่ิมมากขึ้นหลังจากมีการจับกุมหลายครั้งตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา กลุ่ม เวเทอร์แรนส์ ออน แพทรอล เป็นกองกำลังติดอาวุธที่เคลื่อนไหวมากที่สุดในรัฐและคิดเป็น 31% ของกิจกรรมของกลุ่มขวาจัดทั้งหมดในแอริโซนาตั้งแต่เือนมกราคม 2023 โดยส่วนใหญ่เคลื่อนไหวใกล้ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก

           นอกจากการอพยพแล้ว ยัวมีประเด็นอื่นๆ ที่ช่วยกรุะตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวในกลุ่มขวาจัดอีด้วย ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา รัฐแอริโซนาติดอันดอับ 10 รัฐที่มีการชุมนุมสนับสนุนสิทะิการใบ้อาวุธปืนมากที่สุดในประเทศ แม้ว่าการชุมนุมดังกล่าวจะไม่ได้จำกัดอยุ่แค่กลุ่มขวาจัดเท่าานั้น แต่กลุ่ามบางกลุ่ม เช่น พราวด์ บอยส์ ก็ได้สร้างความเขั้มแข็งให้กับรัฐนี้ ในการชุมนุมที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในปี 2024  กลุ่ม พราวด์ บอยส์ ในรัฐแริโซนาไดร่วมสนับสนุนสุทธิการใช้อาวุธปืนที่อาคารรัฐสภาแอริโซนาในเมืองฟินิกซื ดดยร่วมมือกับ คอลเลจ รีพับลิกัน ยนิเตท ซึ่งเป็นกลุ่มที่ส่งเสริมเนื้อหาต่อต้านชาวยิว

            การเลือกตังยังทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการระดมกำลังคน ในรัฐแริโซนา "ทีมเตรียมความพร้อม" ในพื้นที่ ซึ่งนำโดยสาขา ยาวาปอล คัลทรี ได้จัดตั้งเครือข่ายองค์กรขวาจัดที่ทำหน้าที่ติดตามการเลือกตั้ง ซึ่กลีุมสิทะิของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งกล่าวหาว่าข่มขุ่ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งที่คูหาเลือกตั้ง ผุ้สมัครบางคนยังถูกกล่าวหาว่าใช้ถ้อยคำที่ยั่วยุ ซึ่งอาจก่อใไ้เกิดความรุนแรงก่อนการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งในรัฐแอริโซนายังต้องเผชิญกับการขู่ฆ่าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากการกล่าวอ้างเท็จเกี่ยวกัการทุจริตการเลือกตั้งที่วางแผนไว้ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่หลายคนลาออกจากตำแหน่งในช่วงไม่กี่เดือน นอกจากการกล่าวโจมตีเกี่ยวกับการฉ้อโกงการเลือกตั้งและข้อมูลเท็จเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง คณะลูกขุนใหญ่ของรัฐแอริโซนาได้ฟ้องร้องบุคคล 18 คน รวมถึงอดีตพนักงานระดับสุงของทรัมป์อย่างมาร์ก เมโควส์และรูดี้ จูลีอานี ในข้อหารมีส่วนพันกับแผนการ "สร้างผุ้มีสิทธิเลือกตั้งปลอด" ในความพยายามที่จะปกป้องเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ได้พยายามสร้างความไว้วาใจกับผุ้มีสิทธิ่เลือกต้้งขึ้นมาใหม่โดยนำมาตรการต่างๆ มาใช้เพื่อเพ่ิมความโปร่งใส เช่น มาตคการติดตามบัตรลงคะแนนและการประชุมแบบ "ถามอะไรก็ได้" กับประชาชน เจ้าหน้าที่หวังวว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยระงับข้อมุลเท็จเกี่ยวกับการเลือกตั้งและปกป้องเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งในเือนพฤศจิกายน

                https://acleddata.com/2024/05/16/sun-belt-showdown-exploring-swing-state-dynamics-in-arizona-nevada-and-georgia/

                https://en.wikipedia.org/wiki/Sun_Belt

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Economic campain policy (2024)...(2)

           เพิ่มอัตราภาษีเพิ่มเติม

           ทรัมป์เรียกร้องให้เพ่ิมภาษีศุลกากร หากเขากลับไปที่ทำเนียบขาว แม้ว่าแฮร์ริสจะเไม่ได้พูดถึงแผนการค้าของเธอโดยเฉพาะ แต่รัฐบาลอขงไบเดน-แฮร์ริสยังคงใช้ภาษีศุลกากรจำนวนมากในยุคทรัมป์และเพ่ิมภาษีบางส่วน


          ทรัมป์เสนอว่า ภาษีศุลการแบบรวมอาจสุงขึ้น 20% "เราจะต้องเก็บภาษีนำเข้า 10-20 % กับประเทศต่างๆ ที่ขูดรีดเรามานานหลายปี" เขากล่าวในสุทนพจน์ ที่นอร์ธแคโรไลนาเมือวันพุธ ทั้งอ้างว่าภาษีศุลการใหม่จะดึงดุดงารและสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่โดยทั่วไปนักเศรษฐศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่าภาษีศุลกากรเป็นวิะีที่มีค่าใช้จ่ายสุงในการกรุตุ้นผุ้ผลิตบางรายมนสหรัฐฯ มีการประมาณการว่าแม้ว่า่ทรัมป์จะบรรเทาผลกระทบจากภาษีศุลกากรด้วยการลดภาษี ข้อเสนอการค้าของเขาจะทใไ้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สูญเสียตำแหน่งงาน กว่าเจ็ดแสนตำแหน่งทำให้เงินเฟ้อแย่งลง และผลิตภัฒฑ์มวลรวมภายในประเทศหดตัว 0.6%

          นอกจากนี้ผุ้นำเข้าจากสหรัฐฯ เป็นผุ้จ่ายภาษีนำเข้าแทนต่างประเทศตามที่ทรัมป์มักบอกไว้ จนถึงปัจจุบัน ชาวอเมริกันจ่ายเงินไปแล้วมากกว่า สองแสนสี่หมื่นล้านด้ลลาร์ สำหรับภาษีนำเข้าที่ทรัมปืกำหนดให้กับแผงโซลาร์เซลล์ เหล็กแลอลูมิเนียม และสินค้าที่ผลิตในจีนในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งอยุ่ตามข้อมุลของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ

         ในเดือนมีนามคม ทรัปม์ยังเสนอว่าเขาจะจัดเก็บ ภาษีนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด ที่ผลิตนอกสหรัฐฯ 100% หากเขาชนะกำารเลือกตั้งอีกสมัย ภาษีศุลกากรส่นใหญ่ในยุคทรัมป์ยังคงอยุ่ รัฐบาล ไบเดน-แฮร์ริสได้วางแผยขึ้นภาษีสินค้าบางประเภทที่ผลิตในจีน ในอีกสองปีข้างหน้า

          รับมือกับการลดหย่อนภาษีที่กำลังจะหมดอายุ

           ทรัมป์และแฮร์ริสมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องวิะีการจัดการกับการลดหไย่อนภาษีรายบุคคลมุลค่ากว่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ที่จะสิ้นสุดลงในปีหน้า

  ทรัมป์ กล่าวว่า เป้าหมายหลักประการหนึ่งขอวเขาคืออการขยายขอบเขตการลดหย่อนภาษีในพระราชบัญญติดหย่อนภาษีและการจ้างงานปี 2017 ซึ่งเป็นควาสำเร็จที่สำคัญประการหสึ่งในช่วงดำรงตำแหน่งคร้งแรกของเขา การลดหย่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมรดกจะสิ้นสุดลงในชข่วงปลายปีหน้า เขาได้สัญญาว่าจะลดหย่อนภาษี มากขึ้น สำหรับคนที่มีรายได้ทุกระดับรวมทั้งสำหรับธุรกิจในการชุมนุมหาเสียง "เพื่อให้การช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่คนงานและครอบครัว เราจะทำการลดหย่นภาษีเพ่ิมเติม" เขากล่าวในสุนทรพจน์เมืองวันพุธ "นั่นคือสิ่งที่ทำให้เรามีเสณาฐกิจที่ดี เราจะทำการลดหย่อนภาษเพ่ิมเติม เราจะทำให้มันเป็นไปอย่างถาวร" ครัวเรือนที่มีายได้สุงสุดจะได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่าร้อยละ 45 หากขยายระยะเวลาบังคับใช้ของ TCJA ที่กำลังหมดอายุอกไป ตามการวิเคราะห์ของศูนย์นดยบายภาษี  Urban-Brookings นอกจากนี้ทรัมป์ยังต้องการลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 15% จาก 21% ที่กำหนดไว้สำหรับการลดหย่อนภาษีใปี 2017  แม้ว่าเขาจะยอมรับในบ่ทสัมภาษณ์กับ "บลูมเบิร์ก บิซิเนตวีค" เมือเดือนที่แล้วว่า การลดหย่อนภาษีลงมากขนาดนั้นคงเป็นเรื่องยาก การลดหย่อนภาษีนิติบุคคลส่วนใหญ่ในกฎหมายฉบับนี้มีผลเป็นการถาวร

             แฮร์ริส กล่าวว่า เธอจะสานต่อคำมั่นสัญญาของประะานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะไม่ขึ้นภาษีใครก็ตามที่มีรายได้ต่ำกว่า 400,000 ดอลล่าร์ต่อปี และโจมตีทรัมป์ด้วยที่ต้องกานขยายการลดหย่อนภาษีที้งหมดในปี 2017 "โดนัลด์ ทรัมป์ต่อสุ้เพื่ีอดมหาเศรษฐีและบริษัทขนาดใหญ่" เะอกล่าวเมือวันศุกร์ "ฉันจะต่อสู้เพื่อคืนเงวินให้กับคนทำงานและชนชั้นกลางชาวอเมริกัน

           เพิ่มเครดิตให้กับชนชั้นกลาง

           แอร์ริสเปิดเผยแผนลดหย่อนภาษี สำหรับชนชั้นกลางและรายได้ต่ำของชาวอเมริกัน เมือวันศุกร์ซึ่งเ็นส่วนหนึ่งของนดยบายเศราฐกิจของเธอโดยแผสนดังกล่าวจะช่วยลดหย่อนภาษีให้กับชาวอเมริกันมากกว่า 100 ล้านคน แผนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นการฟื้นคืนหรือขยายมาตรการชั่วคราวที่ ไบเดน และสมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครตประกาศใช้ในแพ็คเกจสำคัญเมือช่วงสองปีแรกของการดำรงตำแหน่งของไบเดน ข้อเสนอของแฮร์ริสจะฟื้นฟุ การขยายเครติดภาษีบุตร ของแผนการกุ้ภัยอเมริกัน ซึ่งเป็นที่นิยมเพ่ิมขึ้นจาก 2,000 ดอลลาร์ เป็น 3,600 ดอลลาร์ และเรียกร้องให้มีการทำให้ภถาวร อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงนี้มี ผลบังคับใช้ ในปี 2021 เท่านั้น ไบเดนและผุ้นำพรรคเดโมแครตบนแคปิตอลฮิลล์ไม่สามารถขยายเวลาได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าใช้จ่ายที่สูง แผยดังกล่าวจะเพ่ิอมเครดิตภาษีบุตรใหม่สุงถึง 6,000 ดอลลาร์ สำหรับครอบตราัวชนชั้นกลางและรายได้น้อยที่มีบุตรในช่วงปีแรกของชีวิต และจะฟื้นฟูการเพ่ิมเครดิตภาษีรายได้ที่ได้รับจากการทำงานของแผนกุ้ภัยอเมริกัน ซึ่งเรียกว่า EITC โดยเพิ่มเครดิจสุงสุดสำหรับคนงานที่มไ่มีบุตรที่ต้องเลี้ยงดูเป็นประมาณ 1,500 ดอลลาร์ การเพ่ิมครั้งก่อนนั้นมีไว้สำหรับปี 2021 เท่านัี้น

 นอกจากนี้แพคเกจของเธอยังเรียกร้องให้ขยายากรอุดหนุนเบี้ยประกัน "แอฟฟรอดเดเบิล แคร์ แอท" ซึ่งมีกำหนดจะสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี 2025 การปรับปรุงดังกล่าวซึ่งมีให้ผ่าน "อเมริกัน เรสคิว แพลน" และขยายเวลาดดย "อินแฟลดชี่น รีดิวชั่น แอท" ได้ช่วยผลักดันให้การลงทะเบียนรับความคุ้มครอง "โอบามาแคร์" สุงขึ้นเป็นประวัติการณ์ แผนของแฮร์ริสไม่ได้ระบุว่าบทบัญญํติอันทีค่าใชข้จ่ายสุงเหล่านี้จะมีผลยังคับใสช้เป็นเวลานานเพียงใด

            ลดราคา

            ทั้งแฮร์ริสและทรัมป์ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัฐญหาราคาของชำแลสิ่งของใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆ สำหรับบชาวอเมริกัน ในระหว่างการกล่าวสนุทรพจน์ด้านเศราฐกิจของทรัมปืเมือวันพุธ เขากล่าว่า เขาวางแผปยที่จะลงวนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในวันแรกที่กลับมาที่ห้องโอวัลออฟฟิต โดยสั่งให้หัวหน้าหน่วยงานทั้งหมดและเลขนุการคณะรับมนตรี ไใช้ทุกเครื่องมือและอำนาจที่มีเพื่อปราบปรามภาวะเงินเฟ้อ และลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้ลดลงอย่างรวดเร็ว"    

           "คุณแค่ดุ พวกมันจะลงมา และจะลงมาอย่างรวดเร็วไ เขากล่าวว่ากลยุทธ์อย่างหนึ่งของเขาในการลดราคาสินค้าคือ "ดการยกเลิกกฎระเบียบทุกฉับบที่มีค่าใข้จ่ายสุงและผลกระทบต่อกาจ้างงาน" แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์

           ทรีัมป์เคยพุดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเขาจะลดราคาน้ำมันดดยเพ่ิมการผลิตน้ำมันและก๊าซ แต่ราคาน้ำมันที่ปั้มในสหรัฐฯ นั้นขึ้นยอุ่กับตลาดน้ำมันโลกเป็นอย่างมากและได้รับผลกระทบยจากปัจจัยที่อยุ่นอกเนือการควบคุมของประะานาธ่ิบดีเช่น สงครามของรัฐเวียกับยูเครน หรือการตัดสินใจล่าสุดของโอเปกในการลดการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ การลิดตน้ำมันของสหรัฐฯ ยังเพ่ิมขึ้นถึงระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ภายใจั้การนำของไบเดน "เราจะเจาะลึกลวไป เจาะให้ลึกลงไป นั่นจะทำให้ราคาของทุกอข่างลดลง" เขากล่าวเมือวันพฤหัสบดี

         แฮร์ริสเรียกร้องให้รัฐบาลกลางห้ามการขึนราคาสินค้าดดยมิชอบ เพื่อมุ่งเป้าไปที่บริษัทต่างๆ และลดราคาสินค้าชำ แม้ว่าทีมหาเสยงของเธอจะเปิดเผยรายละเียดเกี่ยวกับข้อเสนอนี้เพียงเล็กน้อยก็ตาม

         กลุ่มหัวก้าวหน้าบางคนดำหนิความโลภขององค์กรธุรกิจว่าเป็นสาเหตุที่ำทห้ราคาสินคาสุงขึ้นแนวคิดดังกล่าวคือบริษัทต่างๆ ใช้เงินเฟ้อที่สูงขึ้นเป็นข้ออ้างในการกำหนดราคาสินค้าให้สูงเกินควรแก่ลุกค้าในขณะที่บริษัทเหล่านี้ทำกำไรได้ในระดับสูงสุด แฮร์ริสโต้แย้งว่าเครือร้ายขายของชำขนาดใหญ่หลายแห่งพบว่าต้นทืุนการผลิตของตนคงที่ แต่ยังคงรักษาราคาให้สุงไว้ได้

       แต่ผลการวิจัยที่เผยแพร่่ในเดืนอพฤษภาคมดดยะานาคารกลาวสหรัฐสาขาซานฟรานซิสโกพบว่ามีหลักฐานเพีงน้อยนิดที่บ่งชี้ว่่าการขึ้นราคาสินค้าเป็นสาเหตุหลักของภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

        แม้ว่าราคาสินค้าจะยังคงสุง แต่เงินเฟ้อได้ชะบอตัวลงแล้วหลัวจากที่แตะระดับ 9% ในปี 2022 ดัชนีราคาผุ้บริโภคล่าสุดลดลงต่ำกว่า 3% ทำให้ธนาคารกล่างสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

        ขยายที่ยอุ่อาศัยราคาประหยัด

        แฮร์ริสประกาศแผนสามส่วนในวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่อยุ่อาศัยราคาไม่แพงของประเทศส่วนหนึ่งของแผนดังกล่าวต่อยอดจากข้อเสนอที่ ไบเดนเปิดเผยไปแล้ว

         แผยของแฮร์ริส สัญญาวว่าจะให้เงินช่วยเหลือค่าดาวน์สุงสุด 25,000 ดอลลาร์สำหรับผุ้ซื้อบ้านครั้งแรก เงินช่วยเหลือค่าดาวส์จะใช้กับครอบครัวที่ทำงวานและจ่ายค่าเขรตรงเวลาเป็นเวลา 2 ปี ดดยจะให้การสนับสนุนที่มากขึ้นสำหรับผุ้ซื้อบ้านครังแรก แผนดังกล่าวซึ่งจะดำเนินการในช่วงวาระแรกของแฮร์ริส ตาที่ระบุไว้ในการณรงค์หาเสียง ยงจะให้เครติดภาษี 10,000 ดอลลาร์สำหรับผุ้ซื้อบ้านครั้งแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไบเดนเสนอไว้เมือต้นปีนี้

         ตามแผยรณรงค์ของแฮร์ริส แผนดังกล่าวจะชข่วยให้ผุ้ซื้อบย้านครังแรมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี รวมถึงผุ้ซื้อบ้านรุนแรก สามารถเข้าถึงเวินทุนได้ แฮร์ริสยังเรียกร้องให้สร้างบ้านใหมา 3 ล้านยูนิต เพื่อกระตุ้นการก่อสร้างเะอจะจัดให้มีแรงจุงใจทางภาษีเป็นครั้งแรกสำหรับผุ้สร้างบ้านที่สร้างบ้านเช่าราคาประหยัดอีกด้วย

 นอกจากนี้ แฮร์ริส ต้องการจัดตั้งกองทุนวัตกรรมใหม่มุลค่า 4 หมืนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการก่อสร้างที่อยุ่อาศัยเชิงนวัตกรรม ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของกาองทุนที่เสนอ โดยตัฐบาล ไบเดน ก่อนหน้านี้ กอ่งทุนดัง กล่าวจะุม่งส่งเสริมให้รัฐบาลท้องถ่ิน ผุ้พัฒนา และผุ้สร้าง สร้างที่อยุ่อาศัย ในราคาที่ีดื่อมถึงได้มากขึน และสนับสนุนวิธีการใหม่่ๆ ในการจัดหาเงินทุนสำหรับการก่อสร้าง

         แฮร์ิริสยังพยายามปรับเปลี่ยนที่ดินของรัฐบาลกลางบางส่วนให็เป็นที่อยุ่อาัยราคาประหยัด เช่นเดียวกับข้อเสนอที่ไบเดนและทรัมป์เสนอ แผนดังกล่าวยังเน้นย้ำถึงข้อเสนอหลัก 2 ประการที่มุ่งลดค่าเช่าในสหรัฐฯ ข้อเสนอแรกจะป้องกันไม่ใช้เจ้าของบย้านใชเครื่องมือกำหนดราคาที่ขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึมเพื่อกำหนดค่าเช่า ข้อเสนอที่สองจะห้ามไม่ให้นักลงทุนที่รำรวยซื้ออสังหาริมทรัพน์และขึ้นราคาต่ี่าเช่าเป็นจำนวนมาก ดดยจะยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับนักลงทุนที่ซื้อบ้านเช่าเดี่ยวจำนวนมาาก

         ทรัมป์ยังได้กล่าวถึงการใช้ที่ดินของรับบาลกลางเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนที่อยุ่อาศัย ดดยระบุถึงเรื่องนี้ในการหาเสียงสองงานในสัปดาห์นี้

         "เราจะเปิดพื้นที่ดินของรัฐบาลกลางสำหรับสร้างที่อยุ่อาศัยไ เขากล่าวในการแถลงข่าวเมือวันพฤหัสบดี "เราต้องการที่อยุ่อาํยอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่สามารถซื้อที่อยุ่อาศัยได้ในตอนนี้"

        นอกจากนี้แพลดฟอร์ม คณะกรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน ยังกล่วอีกว่า พรรคจะ "สิ่งเสริมการเป็นเจ้าของย้านด้วยแรงจูงใจทางภาษีและการสนับสนุนผุ้ซื้อครั้งแรก และลดกฎระเบียบที่ไม่จำเป้นซึ่งจะทำหให้ต้นทุนที่อยุ่อาศัยสุงขึ้นไ เช่นดเดียวกับ "ลดอัตราจำนองดดยการลบดอัตราเงินเฟ้อ" 

         ต้นทุนยาลดลง 

          นอกจากนี้ แอร์ริสยังประกาศแผนงานในวันศุกร์ที่ต่อยอดความพยายามของรัฐบาล ไบเดน ในการลดต้นทุนยาตามใบสังแพทย์

         เธอเรียกร้องให้ขยาย เพดามค่าใช้จ่ายส่วนตัวสำหรับอินซูบินที่ 36 ดอลลาร์ต่อเดือน ในปัจจุบัน และเพดานค่าใช้จ่ายส่วนตัวสำหรับบาตามใบสั่งแพทย์ที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อปีที่กำลังจะขยายออกไป ซึ่งโดยตามใบสั่งแพทย์ที่ 2,000 ดอลลารื๖่อปีที่กำลังจะขยายออกไป ซึ่งดดยทั่วไปแล้วจะครอบคลุมชาวอเมริกันทุกคน ไม่ใชขแค่เฉพาะผุ้รับบริการ "เมดิแคร์" ตามพระราชบัญฐญัติ ลดอัตราเงินเฟ้อ เพดานค่าใช้จ่ายยา เมดิแคร์ ส่วน D ที่ 2,000 ดอลลาร์จะมีผลบังคับใข้ในเดืนอมกาคม ผู้ผลิตอินซุบินรายใหญ่ 3 ราย ในสหรัฐฯ เสนอการกำหนดราคาหรือโปรแกรมลดราคาที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของอินซุลินลงเหลือ 35 อดลลาร์สำหรับผุ้ป่วยจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่นายไบเดนผลักดันในการกล่าวสุนทรพจน์ประจำปี ของรัฐสภา เมือปีที่แล้ว แผยของแฮร์ริสจะข่วยเร่งการเจรจาราคายาของเมดิแคร์ให้เร็วขึ้น เพื่อให้ต้นทุนยาต่างๆ ลดลงเร็วขึ้นรัฐบาลไบยเดนเพ่ิงประกาศผลเจรจารอบแรกซึ่งคาดว่าจะส่วผลให้เมดิแคร์ประหยัดเงินได้ 6 พันล้านดอลลาร์ และลดค่าใชบ้จ่ายส่วนตัวของผุู้สูงอายุได้ 1.5พันล้านดอลลาร์เมือราคายาลดลงมีผลยังคับใช้ในปี 2026 เมดิแคร์ได้รับอำนาจทางประวัติศาสตร์นี้ผ่านพระราชบัญญัติลดเงินเฟ้อ

           รองประธานาะิบดีจะปราบปรามบริษัทผลิตยาที่ขัดขวางการแข่งขันและการกำทำที่ลบะเมิดลิขสิทะิโดยผุ้จัดการสวัสดิการด้านเภสัชกรรม ซึ่งทำหน้้าที่เป็นคนกลางระหว่างผุ้ผลิตยาและลริษัทประกัน แม้ว่าแผนจะมไ่ได้ระบุว่าเธอจะดำเนินการอย่างไรก็ตาม

           นอกจานี้ แฮร์ริสยังกล่าวอีกวส่า เะอจะทำงานร่วมกับรัฐต่างๆ เพื่อยกเลิกหนี้ค่ารักษาพยาบาลของชขาวอเมริกันหลายล้านคน และข่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงการค้างชำระค่ารักษาพยาบาลในอนาคต รัฐต่างๆ และเทศบาลต่างๆ ได้ใช้เงินทุนของแผนกู้ภัยอเมริกันเพื่อยกเลิกหนี้ค่ารักษาพยาบาลมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์สำหรับชาวอเมริกันมากถึง 3 ล้านคน ตามข้อมูลของแคมเปญ แฮร์ริสได้กำกับดุแล ความพยายามองรัฐบาล ไบเดน ในการลบหนี้ค่ารักษาพยาบาลออกจากรายงานสินเชื่อ

            https://edition.cnn.com/2024/08/15/politics/harris-trump-economy-policies-inflation/index.html


วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Economic campain policy (2024)

            หลังจากห่างหายไปเกือบปี จากแพลตฟอร์ม x ในที่สุดทรัมป์ก็กลับมาอีกครัง และถามผุ้ติดตาม 89 ล้านคนของเขาว่า "ตอนนีุ้ณดีขึ้นกว่าตอนที่ผมเป็นประธานาะิบดีหรือไม่" ซึ่งเป็นการล้อคำพุดอันโด่งดังของโรนัลด์ เรแกนในระหว่างแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ได้รับชัยชนะในปี 1980 ซึ่งเรแกนถามว่า "วันนี้คุณดีขึ้นกว่าเมือ 4 ปีที่แล้วหรือไม่" ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ชัดเจนของทรัมป์ในการเน้นที่เศรษฐกิจ

          ผลสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่ชี้ว่่านี่คือปัญหาที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันให้ความสำคัญมากที่สุด โดยระบุว่า "เงินเฟ้อ/ราคา" และ "การจ้างงานและเศรษฐกิจ" เป็นประเด็นที่ผุ้มีสิทธิเลือกต้เ้งให้ความสำคัญสูงสุด ที่สำคัญกว่านั้น การสำรวจยังบ่งชี้ว่าผุ้ลงคะแนนเสียงรู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นสภานะการณ์ที่เป็นใจต่อผุ้ท้าชิง แต่ในการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไปจากการที่ กมลา แฮร์ริสเข้ามารับตำแหน่งผุ้มัครจากพรรคเดโแมครตแทน โจ ไบเดน ดุเมหือนว่าทรัมปืจะดิ้นรนที่จะส่งสารง่ายๆ องเขาเกี่ยวกับเศราฐกิจ 


           เมื่อไม่ถึงเดือนก่อน นับตั้งแต่เขาขึ้นเวทีในงานประชุมแห่งชาติของพรรครีพับลิกันดดยดุไร้เทียมทาน รอดพ้นจากความพยายามลอบสังหาร และมีคะแนนนิยมสูงในผลสำรวจความคิดเห็น ตอนนี้ เขาเสียเปรียบและ หลงทาง ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังโบกมือด้วยความตื่นเต้นและกระตือรือล้น ซึ่งเขาพบว่่ายากที่จะโต้กลับ

         วิธีง่ายที่สุดที่จะทำลบายควาฝันจองเธอคือการเตือให้ผุ้มีสิทะิออกเสียงรู้ว่าพวกเขาไม่พอใจกับราคาสินค้าที่สุงแค่ไหน และตำแหนเธอในเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ค่าครองชีพสุงขึ้นในข่วงเวลาที่เธออยุ่เคียงข้างประธานาธิบดี ไบเดน ในทำเนียบขาว

        สาเหตุประการหนึ่งทีทรัมป์ไม่สามารถถ่ายทอดข้อความดังกล่วได้ คือ กลยุทธ์ของแคมเปญหาเสียงของแฮร์ริสในการเสนอข้อสเนอเพื่อพยายามลดค่าครองชีพให้เป็นหัวใจสำคัญ

         ผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งสองตางกระตือรือร้นที่จะแสดงให้ผุ้มีสิทธิเหลือตั้งเห็ฯว่าพวกเาจะจัดการเศราฐกิจอข่างไรหากได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งทั้งสองแคมเปญมีแนวโน้มประชานิยม แต่ผุ้สมัครต่างก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในการช่วยเลหือชาวอมเริกัน ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงแม้วาอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสุง จะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม

        แฮร์ริส กล่าวในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา(เมือวาน) เกี่ยวกับข้อเสนอทางเศาฐกิจที่เธอประกาศในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเครดิตภาษีที่เพ่ิมขึ้นสำหรับเด็ก ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย และความพยายามที่จะหยุดากรขึ้นราคาสินค้าเธอกล่าวถึงแผนงานเชิงมองไปข้าหน้าของเธอว่าเป็น "เศรษฐกิจแห่งโอกาส" ที่ชาวอเมริกันได้รับโอกาสที่แท้จริงที่จะประสบความสำเร็จ ในขณะที่ทรัมป์กล่าวว่าเขามุ่งเน้นเฉพาะการช่วยเหลือผุ้มั่งคั่งและธุรกิจขนาดใหญ่

       ทรัมปืได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับเศราฐกิจและนโยบายต่างๆ ของเขาถึง 2 ครั้งในสัปดาห์นี้ แต่เขายังไม่ได้เปิดเผยแผนเศรษฐกิจโดยละเอียด เขาโจมตีรัฐบาล ไบเดน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าวว่าเงินเฟ้อสุงและให้คำมั่นว่าจะลดราคาสินค้าทันที่ นอกจากนี้ เขายังกล่าวหาแฮร์ริสว่าต้องการใช้ "การควบคุมราคมแบบคอมมิวนิสต์" 

         ในความเป็นจริ ประธานาธิบดีมีเครื่องมือน้อยมากในการแก้ไขปัญหาราคาที่เพ่ิมสูงขึ้นเพียงฝ่ายเดียว หน้าที่ของธานาคารกลางสหรัฐฯ คือการกำหนดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ข้อเสนอหลักส่วนใหญ่ของพวกเขาจะต้องได้รับกาอนุมัติจากรัฐสภา และผุ้สมัครบังไม่ได้ระบุว่าพวกเขาจะจ่ายเงินสำหรับรายการความต้องการอันแสนแพงของพวกเขาอย่างไร ในช่วงที่หนี้ของรัฐบาลกลางกำลังเพ่ิมขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าแฮร์ริสจะบอกว่าเธอจะขอให้คนอเมริกันและบิรษัทที่มีฐานะดีจ่ายมากขึ้นก็ตามนี้คือสิ่งที่เรารุ้เกี่ยวกับแผนเศราฐกิจของแฮร์ริสและทรัมป์

          ทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างเรียกร้องให้ยุติการเก็บภาษีเงินทิปของรับบาลกลางแม้ว่าทรัมป์จะเป็นผุ้เปิดเผยแนวคิดดังกล่วก่อนและตำหนิคู่แข่งที่เลี่ยนแบบเขาก็ตาม ข้อเสนอนี้กลายเป็นหนึ่งในคำมั่นสัญญาที่ทรัมป์ชื่อชอบที่สุดในการชุมนุมหาเสียงของเขา

       เขาเสนอแนวคิดนี้ ครั้งแรก ในเืดอนมิถนายนที่ลาสเวกัน รัฐเนวาดา ซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่มีพนักงานด้านการบริการและการต้อนรับจำนวนมาก แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เมือต้นสัปดาห์นี้ เขาเสนอแนะว่าเขาสนับสนุนการยกเลิกภาษีรายได้และภาษาีเงินเดือนของรัฐบาลกลางสำหรับเงินทิปซึ่งเป็นข้อ เสนอ ที่มีผลกระทบทางการเงินมากกว่า

       ทรัมป์กล่าวในการให้ัมภาษณ์กับ สเปคตรัม นิว 1 ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เมือถูกถามว่าเขาสนับสนุนการยกเลิกภาษีรายได้และเงินเดือนของรัฐบลกลางหรือไม่ว่า ไเรากำลังพิจาณาดำเนินการให้เต็มี่" มาตรการดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา เมื่อถูกถามถึงความชัดเจนในภายหลัง แคโรไลน์ ลีีวิตต์ โฆษกประจำตัวของทรัมป์ กล่าว่าเธอไม่มีอะไรจะพูดเพิ่มเติม

  จากข้อมุลจากศูนย์วิจัย "บัดเจท แลป" ที่มหาวิทยาลัยเยล พบว่ามีคนราว 4 ล้านคนที่ทำงานในอาชีพที่้องทิปในปี 2023 หรือคิดเป็นประมาณ 2.5% ของการจ้างงานทั้งหมด แต่กว่าหนึ่งในสามกลับมีรายได้น้อยเกินกว่ ที่จะต้องจ่ายภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลาง

        ภาษีเงินเดือนของรัฐบาลกลางจะนำไปใช้เป็นเงินุนประกันสังคมและประกันสุข-ภาพ และรวมเป็น 15.3% โดยครึงฝหนึ่งจ่ายโดยนายจ้าง เมือสัปดาห์ที่แล้ว แฮร์ริสยังสัญญาว่าจะยุติการเก็บภาษีรายได้ของรัฐบาลกลางจากเงินทิปที่ชุมนุมในลาสเวกัส โดยเงินทิปจะยังคงต้องเสียภาษีเงินเดือนตามแผนของแฮร์ริส

       หากยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีเงินเดือนของรัฐบาลกลาง จะทำให้รายได้ลดลง 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐถึง 250,000 ล้านเหรียญสหรัญภายใน 10 ปี ตามข้อมูลของคณะกรรมการงบประมาณของรัฐบาลกลางที่มีความรับผิดชอบ การยกเลิกภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลางสำหรับเงินทิปเพียงอย่างเดียวจะทำให้สูญเสียรายได้ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว

        ยุติการเก็บภาษีจากเงินประกันสังคม 

         ทรัมป์ยังเสนอให้ลดหย่อนภาษีให้กับกลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอิทธิพลอีกกลุ่ม นั้นคือ ผุ้สุงอายุ เขาประกาศเมือปลายเดือนที่แลบ้วว่าเขาต้องการยุติการเก็บภาษีจากสวัสดิการประกันสังึคม "เพื่อช่วยเหลือผุ้สูงอายุที่มีรายได้คงที่ซึ่งกำลังประสบปัญหาจากภาวะเงินเฟ้อ จะไมีมีการเก็บภาษีประกันสังคม เราจะหยุดเรื่องนี้" เขากล่าวใสนการชุมนุมเมือวันพุธ ซึ่งถือเป็นการปราศรัยด้านเศราฐกิจ

         ในปัจจุบัน ผุ้สุงอายุไม่ต้องเสียภาษีจากสวัสดิการของตนหากมีรายได้น้อยกว่า 25,000 เหรียญสหรัีฐฯ ต่อบุคคล หรือ 32,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรังคู่สมรส ซึ่งเรียกว่ารายได้รวม ดดยคำนึงถึงรายได้รวมที่ปรับแล้ว ครึ่งหนึ่งของสวัสดิการประกันสังคม และดอกเบี้ยที่ไม่ต้องเสียภาษี หากมีรายได้เกิดนกว่าเกณฑ์ดังกล่าว พวกเขาอาจต้องเสียภาษีเงินได้จากเงินช่วยเหลือสูงถึง 50% โดยรายได้จะนำไปเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญของสำนักงานประกันสังคม ผุ้ที่มีรายได้รวมกันอย่างน้อย 34,000 ดอลลาร์ต่อคน หรือ 44,000 ดอลลาร์ต่อคุ่สมีภรรยา อาจต้องเสียภาษีเงินได้จากเงนิช่วยเหลือเพ่ิมเติมสูงสุด 35% โดยเงินจะนำไปเข้ากองทุนประกันโรงพยาบาลของ "เมดิแคร์" การยกเกลิการเก็บภาษีจากเงินประกันสังคมจะช่วยลดาษีได้เฉลี่ย 550 ดอลลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าครัวเรือนที่มีรายได้น้อยจะแทบไมได้รับประโยชน์ใดๆ ในปีหน้าทก็าม ตามข้อมูลของ ศูนย์ นโยบายภาษี อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อดีครงการสิทธิประดยชน์ ของประชาชน รวมถึง เมดิแคร์ และงบประมาณของรัฐบาลกลางที่มีความรับผิดชอบ คาดว่าภาษีดังกล่าวจะสร้างรายได้ประมาณ 94,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

        การวิเคราะหฺ์ของคณะกรรมการพบว่การยกเลิกภาษีดังกล่าววจะทำให้ชขาดุลของรับบาลกลางเพ่ิมขึ้นระหว่าง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์จนถึงปี 2035 กองทุนบำเหน็จบำนายประกันสังคจะหมดลงเร็วกว่าเต็มหนึ่งปี และกองทุนประกันดรงพยาบาลของ เมดิแคร์ จะหมดลงเร็วกว่าเดิมหกปี ผุ้สูงอายุจำนวนมากอาจได้รับผลกรทะบในทีสุกหาก กองทุนประกัน สังคม และเมดิแคร์ หมดลงเร็วขึ้น และต้องตัดสวัสดิการ

       https://edition.cnn.com/2024/08/15/politics/harris-trump-economy-policies-inflation/index.html

        https://edition.cnn.com/2024/08/15/politics/harris-trump-economy-policies-inflation/index.html

          

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Debate

         ดีเบต หรือการอภิปราย เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการ การอภิปราย และการกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อเฉพาะหรือกลุ่มหัวข้อ โดยมักจะมีผุ้ดำเนินรายการและผุ้ฟัง ในการดีเบต ข้อโต้แย้งจะถุกนำเสนอเพื่อให้มีมุมมองที่ขัดแย้งกันโดยทั่วไป  การดีเบตมัจัดกันในที่ประชุมสาธารณะ สถาบันการศึกษา ห้องดีเบตร้านกาแฟ สนามการแข่งขันกีฬา และสภานิติบัญญัติ การดีเบตนังจัดขึ้นเพื่อการศึกษาและเพื่อการพักผ่อน มัเกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษาและสมาคมดีเบต ดีเบตเหล่านี้เน้นที่ความสอดคล้องตามตรรกะ ความถูกต้องตามข้อเท็จจริง และการดึงดูดอารมณืต่อผู้ฟัง รุปแบบการดีเบตแบบแข่งขันสมัยใหม่ยังรวมถึงกฎสำหรับผุ้เข้าร่วในการอภิปรายและตัดสินใจเกี่ยวกับรอบการดีเบต(วิธีการตัดสินการดีเบต) 



        การอภิปราย อาจใช้กับกระบวนาการที่ต่อเนื่อง ครอบคลุมและเป็นทางการน้อยกว่า ซึ่งประเด็นต่างๆ จะได้รับการสำรวจและแก้ไขผ่านหน่วยงานต่างๆ และในหมู่ประชาชนทั่วไปตัวอย่างเช่นในปี 2021 คณะกรรมาธิการยุโรป ได้เผยแพร่เอกสารกรีนเปเปอร์เกี่ยวกับผุ้สูงอายุซึ่งมีวัตถุประสงค์ฺเพื่อสร้างการอภิปรายเกี่ยวกับ "นโยบายเพื่อรับมือกับความท้าทายและโอากสนของผู้สุงอายุ" ในปีต่อๆไป และสมเด็จพระสันตปาปาปรานซิสทรางกล่าวถึง "ความจำเป็นในการอภิปรายอย่างตรงไปตรงมาและซื่อสัตรย์" เกี่ยวกับสังคมและสิ่งแวดล้อมในจดหมายถึงผุ้ว่าการ เลาดาโร ซิ ของพระองค์ในปี 2015 

        การโต้วาทีในรูปแบบต่างๆ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่สามารถสืบย้อนไปถึงการดต้วาทีทางปรัชญาและการเมืองในกรีกโบราณเช่น ประชาธิปไตยของเอเธนส์ หรือศัสตราะาในอินเดียโบาณรุปแบบการโต้วาทีสมัยใหม๋และการก่อตั้งสมาคมโต้วาทในดลกตะวันตกเกิดขึ้นในยุคแห่งการตรัสรู้ในศตวรรษที่ 18 

       วิทยาลัยทรินิตี้ดัลเลินมีสมาคมโต้วาทที่เก่าแก่ทีสุดในยุโรปสองแห่ง ก่อนตั้งเมือปี 1770และ 1786 เป็การเกิดขึ้นในลอนดอนในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 และในไม่ช้าก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่โดดเด่นในลอนดอน สังคมการดต้วาทีเป้นปรากฎการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นพร้อมกัของพื้นที่สาธารณะ ขอบเขตของการอภิปรายซึ่งแยกจาอำนาจตามธรรมเนียมและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับการวิพากษ์วิจารณืและการพัฒนาแนวคิดและปรัชญาใหม่ๆ

        ในรัฐสภาและสภานิติบัญญัติ อื่นๆ สมาชิกจะอภิปรายข้อเสนอเกี่ยวกับกฎหมายก่อนลงคะแนนเสียงในมติซึ่งจะกลายเป็นกฎหมายการอภิปรายมักดำเนินการโดยเสนอกำหมายหรือแก้ไขกฎหมาย การอภิปรายแบบรัฐสภจะมีโครงสร้างโดย่ายค้านสองฝ่ายคือ ผุ้นำฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล หลังจากที่แต่ละฝ่ายได้รับอนุญาตให้พูดหนึ่งครั้ง สมาชิกจะได้รับอนุญารให้กล่าวสุนทรพนจ์ตอบโต้ประเด็นของฝ่ายค้าน หลังจากนั้น สมาชิกรัฐสภาจะอภิปรายข้อเสนอก่อนที่จะลงคะแนนเสียงสนับสนุนหรือคัดค้านกฎหมายดังกล่าว 

        แม้อังกฤษจะเป็นผุ้คิดค้นระบบการอภิปรายในรัฐสภา แต่ก็ไม่ใช่ประเทศสมัยใหม่เพียประเทศเดียวที่ใชข้ระบบรัฐสภา ปัจจุบันประเทศทีใช้ระบบรัฐสภาและการอภิปรายในรัฐสภได้แก่แคนาดา อิตาลีญี่ปุ่นลัตเวยเนเธอร์แลนด์และนิวซีแลนด์


          ประชาธิปไตยแบบมีสน่วนร่วมเป็นรูปแบบหนึ่งของรัฐบาลซึ่งประชาชนมีส่วนร่วมโดยตรงในการตัดสินใจทางการเมือง ซึ่งอาจทำได้โดยผ่านการอภิปรายสาธารณะ ในบางประเทศ สมาชิกรัฐสภอาจร้องขอให้มีการอ-ภิปรายเรื่องเร่งด้วนที่มีความสำคัญระดับชาติ ตามกฎข้อบังคับ ของระเบียบการประชุมภาวร การอภิปรายในกรณีฉุกเฉินอาจมีความสำคัญเหนือกว่าหากประธานสภาตัดสินใจ ในการประชุมครังถัดไปภายในเวลปกติ ประะานสภาบังกำหนด้วยว่าเมือใดระเบียบวาระขั้นตอนตามปกติอื่ๆ ที่ถุกแทนที่ดดยการอภิปรายในกรณีฉุกเฉินจะได้รับการพิจารณาหรือยกเลิก

        ในเขตอำนาจศาลที่เลือกผุ้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสุง เช่น ประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรีผุ้สมัครบางครั้งจะโต้วาทีกันในที่สาธารณะ โดยปกติแล้วจะเป็นในช่งงการรณรงหาเสียงทั่วไป

        การดัเบตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปในปี 1976 การดีเบต ระหว่างผุ้สมัตรชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งแตกต่างจากการดีเบตที่จัดขึ้นในระดับมัธยมศึกษาหรือระดับวิทยาลัย ผุ้เขาร้วมและรูปแบบไม่ได้ถูกกำหนดอย่างเป็นอิสระ อย่างไรก็ตาม ในช่วงหาเสียงซึ่งเต็มไปด้วยโฆษณทางโทรทัศน์ การสนทนา ทางวิทยุเสียงพุด และากรหหมุนวนการดีเบตเหล่านี้ยังคงเป็นโอากสอันหายากสำหรับประชาชนที่จะได้เห็นและได้ยินผุ้สมัครหลักเคียงข้างกัน รุปแบบของการดีเบตประธานาธิบลดี แม้ว่า จะมีากรกำหนดไว้แตกต่างกันในการเลือกตั้งงแต่ละครั้ง แต่ดดยทั่วไปแล้วจะเข้มวงดกว่ารูปแบบดั้งเดิมหลายๆ รูปแบบโดยห้ามผุ้เข้าร่วมถามคำถามซึ่งกันและกันและจำกัดการสนทนาในหัวข้อเฉพาะให้อยุ่ในกรอบเวลาสั้นๆ 

         การดีเบตประะานาะิบดีได้รับการปรับรุปแบบครั้งแรกในปี 1976,1980โดย "ลีค ออฟ วูแมน โวทเตอร์" และ "คอมมิสชั่น อน เพรสซิเดนอทียล ดีเบต" ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 โดย พรรค รีพับลิกันและ พรรค เดโมแครต วัตถุประสงค์หลักของการดีเบตประธานาะิบดีคือการสนัยบสนุนและจัดทำการดีเบตสำหรับผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาะิบดีและรองประธานาธิบดีของสหรัฐฯในสภาพแวดล้อมที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด องค์กรซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรและไม่ฝักฝ่ายใด เป็นผุ้สนัยสนุนการดีเบตประธานาธิบดีหลายครั้งที่ผ่านมา

        อย่างไรก็ตาม ในการประกาศถอนตัวจาการสนับสนุนการอภิปรายสมาคมสตรีผุ้มีสิทธิเลือกตั้งได้ระบุว่าถอนตัว "เพราะข้อเรียกร้องขององค์กรณรงค์ทั้งสองจะทำให้เกิดกาฉ้อโกงผ้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันไ คณะกรรมการดีเบตของพลเมืองก่อตั้งขึ้นด้วยความหวังที่จะจัดตั้งผุ้สนับสนุนอิสราะสำหรับการดีเบตประธานาธิบดี โดยมีบทบาทที่เน้นผุ้มีสิทธเลืกตั้งมากขึ้นในการกำหนดผุ้เขาร่วม รูปแบบ และกฎเกณฑ์

           https://en.wikipedia.org/wiki/Debate

        




วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Age, generational,Race...,

          ปัจจุบัน อายุมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการแบ่งพรรคแบ่งพวก และรูปแบบนี้ดำเนินมานานกว่าทศวรรษแล้ว พรรคเดโมแครตมีข้อได้เปรียบอย่างมากในกลุ่มมผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุน้อย แขณะที่พรรครีพับลิกันมีข้อได้เปรียบในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุมากที่สุด

          ผูมีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปีประมาณสองในสาม(ร้อยละ) 66 สังกัดพรรคเดโมแครต เมือเทียบกับร้อยละ 34 ที่สังกัดพรรครีพับลิกัน

          มีช่องว่างที่ใหญ่พอๆ กันในสังกัดพรรคการเมืองของผุ้ีสิทธิเลือกต้งที่มีอายุระหว่าง 25-29 ปี( 64% เป็นเดโมแครตหรือมีแนวโน้มไปทางนั้น เที่ยบกับ 32% สำหรับรีพับลิกัน) ผู้มีสิทธิลงคะนนเสียงในช่วงวัย 30 ปี ยังเอียงไปทางพรรคเดโมคแครต แม้ว่าจะมีน้อยกว่าก็ตาม ดดย 55% เป็นพรรคเโมแครตหรือมีแนวโน้มไปทางพรรคเดโมแครต สวน 42% เป็นพรรครีพับลิกันหรือมีแนวโน้มไปทางพรรครีพับลิกัน ไม่มีฝ่ายใดมีข้อได้เปรียบเหนือกว่าาอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ขัดในกลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในช่วงวัย 40 และ 50


          ผู้มีสิทธิเลือกตจั้ง ครึ้งหนึ่งในช่วง 40 ปี สังกัดพรรเดโมแครตและ 47 % สังกัดรีพับลิกัน ดัชนีจะพลักกลับในกบุ่มผุ้มีสิทะิเลือกตั้งในข่วงวัย 50 ปี โดย 50% เห็นด้วยกับพรรครีพัลลิกัน และ 47% เห็นด้วยกับพรรคเดโแมครต ในกลุ่มผุ้มีสิทะิเลือกตั้งที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป พรรครัีพัลลิกันมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจน

          การจัดแนวของพรรครีพับลิกันสุงกว่าการจัดแนวของพรรคเดโมแครต 10% (53% เทียบกับ 43% )ในกบุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุ 60 ปี 

         ผุ้มีสิทธิลงคะแนนที่มีอายุระหวาง 70-79 ปี มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนพรรค GOD (51%)มากว่าพรรคเดโมแครต (46%)เล็กน้อย ผุ้มีสิทธิเลือกต้ง ประมาณหกในสิบคนที่อายุ 80 ปีขึ้นไป 58% ระบุหรือเอนเอียงไปทางพรรค GOP ในขณะที่ 39% เชื่อมโยงกับพรรคเดโมแครต

         ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุมากว่าส่วนใหญ่จะระบุถึงพรรคการเมืองหนึ่งๆ ในขณะที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุน้อยกว่านั้น มีจำนวนค่อนข้างมากนอกเนือจากความแตกต่างในความโน้มเอียงในการเลือกพรรคการเมืองโดยรวมของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุน้อยและอายุมากแล้วผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุน้อยยังมีแนวโน้มมากกว่าผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุมากอย่างมากในการเลือกที่จะไม่ระบุตัวตนโดยตรงกับพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง

          เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอสยุต่ำกว่า 25 ปีเพียงประมาณครึ่งหนึ่ง 52% เท่านั้นที่ระบุตัวตนโดยตรงกับพรรคการเมือง 38% เป็นพรรคเดโมแครตที่ระบุตัวตนโดยตครงกับพรรคการเมือง (38% เป็นพรรคเดโแมครต 14% เป็นพรรครีพัลลิกัน) ในทางกลับกันประมารณครึ่งหนึ่งระบุว่าตนเองเป็นพรรคอื่นหรือเป็นอิสระ ดดย 28% เอนเอียงไปทางพรรคเดโมแครต และ 20% ไปทางพรรครีพับลิกัน

การแบ่งฝ่ายระหวางชายและหญิงภายในกลุ่มอายุ 

         ความแตกต่างของอายุในการแบ่งที่เห้ฯในประชาชนโดยรวมนั้นเห็นได้ชัดเจนทั้งในผุ้ชายและผุ็หญิง ตัวอย่างเช่น ทั้งผุ้ชายและผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 30 ปี มีคะแนนสอดคล้องกับพรรคเดโแมครตประมาณ 2ต่อ 1 

          ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งชายและหญิงในช่วงอายุ 30-49 ปี แบ่งออกค่อนข้างมากในความภักดีต่อพรรคกรเมือง แม้ว่าพรรคเดโแมครตจะมีคะแนนนำเล็กน้อยในกลุ่มผุ้หญิงในช่วงอายุนี้

          พรรครัพัลลิกันมีข้อได้เรียบอย่างมากในกลุ่มผุ้ชายที่อายุ 50 ปีขึ้นไปขะที่ผุ้หญิงในวัยนี้มีแนวโน้มที่จะสังกัดพรรคท้งสองเท่าๆกัน

          เชื้อชาติ อายุ และการแบ่งแยก

          ในกลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวขาว ฮิสแปนิก และเอเชีย ผุ้สูงอายุในปัจุบันสวนใหญ่มักจะเป็นฝ่ายนีพัลลิกันมากกว่า(และเป็นเดโมแครตน้อยกว่า) มากกว่าผู้ใหญ่ที่อายุน้อยกว่าแต่ไม่ใช่เช่นนั้นสำหรับผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวดำ ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวตำและอายุน้อยกวย่าง50 ปี ถึง 17% ระบุว่าตนเองเป็นหรือมีแนวโน้มเป็นพรรครัพัลลิกัน เมือเทียงกับผุ้มีสิทธเิลืกตั้งที่เป็นคนผิวดำและอายุ 50 ปี ขึ้นไปเพียง 7% เท่านั้น

          จากการสำรวจที่ย้อนกลับไปถึงช่วงทศวรรษท 1990 ผุ้ม่สิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวดำที่อายุน้อยกวา่มักจะเป็นฝ่ายรีพัลลิกันมากกว่าผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิว่ำที่อายุมากว่าเล็กน้อย หรือไม่ก็มีความคิดเห็นว่าไม่มีความแตกต่างกันในการแบ่งฝ่ายของคนผิวดำตามช่วงอายุ

         การแบ่งแยกระหว่างรุ่น

         กาาพิจารณาความลำเีอยงของบุคคลที่เกิดในช่วงเวลาใกล้เคียงกันผกลุ่มอายุ) ช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบระหว่างรุ่นต่างๆ ในช่วงเวลาต่างๆ ได้ (สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มอายุ ปัจจุบัน กลุ่มคนอายุน้อยแต่ละกลุ่มมีแนวโน้มจะสนับสนุนพรรคเดโแมครตมากขึ้นกว่ากลุ่มก่อนหน้าแต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปตัวอย่างเช่น ในข่วงปลายทศวรรษ 1990 ความสมดุลของการแบ่งพรรคแบ่งพยกของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในแต่ละกลุ่มอายุ(กลุ่ม) แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านนั้น

     ..ในปัจจุบันและช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีรุปแบบอายุที่ชัเจนและเป็นเส้นตรงมากขึ้น ผุ้ที่เกิดในช่วงทศวรรษ 1990 (ปัจจุบันอยุ่ในช่วงกลาง 20 ถึงต้น 30 )เป็นพรรคเดโมแครตมากกว่าผุ้ที่เกิดในช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งในทางกลับกันก็เป็นพรรคเดโมแครตมากกว่าผุ้ที่เกิดในช่วงทศวรรษ 1970 และกลุ่มอายุที่มากที่สุดเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มสนับนุนพรรครีพับลิกันมากที่สุด...

            https://www.pewresearch.org/politics/2024/04/09/age-generational-cohorts-and-party-identification/

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567

'Kamala is brat'- MAGA

         กมลาเทวี แฮร์ริส เกิด 20 ตุลาคม 1964 เป็นนักการเมืองและทหนายความชาวอเมริกันที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2021 ภายใต้ประธานาะิบดี โจ ไบเดนเะอเป็นรองประธานาะิบดีหญิงคนแรก ทำให้เธอเป็นเจ้าหน้าที่หญิงที่มีตำแหน่งสุงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับรองประธานาะิบดีชาวแอฟริกันอเมริกันและชาวเอเชียอเมริกัน สมาชิกของพรรคเดโแมครตเธอทำหน้าที่เป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐจากแคลิฟรอ์เนียตั้งแต่ปี 2017-2021 และก่อนหน้านั้นในตำแหน่งอัยการสุงวสุดของแคลิฟอร์เนียแฮร์ริสเป็นผุ้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาะิบดีสหรัฐปี 2024  

          โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ เกิดเมือวันที่ 14 มิถุนายน 1946 เป็นนัการเมือง บุคคลที่มีชื่อเสียงด้านสื่อ และนักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งดำรงตำแหน่งประะานาะิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2016-2000 ทรัมป์ได้รับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในปี 1968 พ่อของเขาแต่งตั้งให้เขาเป็นประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในปี 1971 ทรัมป์เปลี่ยนชื่อเป็น "ทรัมป์ ออแกนนิเซชั่น" และปรับทิศทางบริษัทใหม่ไปที่การก่อสร้างและการปรับปรุงตึกระฟ้า โรงแรม คาสิโน และสนามกอล์ฟ ฟลังจากที่ะุรกิจล้มเหลวหลายครั้งในช่วงปลายทศวรรษท 1990 เขาก็ได้เปิดตัวกิจการเสริมที่ประสบความสำเร็จ ดดยส่วนใหญ่คือการอนุญาตให้ใช้ชื่อทรัมป์ตั้งแต่ปี 2004-2015 เขาเป็นผุ้ร่วมผลิตและเป็นพิธีกรรายการเรียลลิตี้ทีวีเรื่อง "เดอะ แอปเพรนชั้น" เขาและธุรกิจของเขาเป็นโจทก์หรือจำเลยในคดีความมากกว่า 4,000 คดี รวมถึงการล้มละลายของะุรกิจ 6 คดี

            การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะจัดขึ้นในวนที่ 5 พฤจิกายน จากการสำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศ แฮร์ริสและพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำ 46.8-43.7 คะแนน 

          ตำแหน่งสุดท้ายของ โจ ไบเดน ก่อนที่เขาจถอนตัวจาตำแหน่งผุ้สมีัตพรรคเดโมแครต คือ คะแนนตามหลังทรัมป์ 45.2-41.2 เมื่อถึงการเลือกตั้ง ไบเดนจะมีอายเกือบ 82 ปี ทรัมป์จะมีอายุ 78 ปี และแฮร์ริสจะมีอายุ 60 ปี

       สัปดาห์ที่แล้วมีการเคลื่อนไหวไปที่แฮร์ริสในทุกรัฐที่เป็นสมรภูมิการเลือกตั้ง หากแฮร์ริสชนะทุกรัฐที่เธอเป็นผุ้นำอยุ่้ในปัจจุบัน เธอจะชนะการเลือกตั้งคณะผุ้เลือกตั้งด้วยคะแนน 287-251 

         แบบจำลองของซิลเวอร์ระบุว่าแฮร์ริสมีโอกาส 56%ที่จะชนะการเลือกตั้งคณะผุ้เลือกตั้ง และมีโอกาส 68.5% ที่จะชนะคะแนนนิยมระดับประเทศโอกาสที่แฮร์ริสจะชนะการเลือกตั้งคณะผุ้เลือกตังเพ่ิมขึ้นจาะ 50.5% เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม และ 37% เมื่อแบบจำลองแฮร์ริสเทียบกับทรัมป์เปิดตัวเมือวันที่ 29 กรกฎคน ทรัมป์มีโอกาส 73% ที่จะชนะเมือคู่แข่งของเขาคือ ไบเดน

        แฮร์ริสจำต้องชนะอย่างน้อย 2 คะแนนในการลงคะแนนเสียงระดับประเทศเพื่อเป็นตัวเต็งของคณะผุ้เลือกต้ง ดังนั้นคณะผู้เลือกตั้งจึงยังคงสุสีอยุ่มาก นอกจากนี้ยังมีเวลาอีกมาที่แอร์ริสอาจพลาดพลั้งหรือผลสำรวจอาจบิดเบือน เมือนอย่างที่เกิดขึ้นในปี 2020 แต่ปัจจุบันแฮร์ริสมีคะแนนนำในการสำรวจอยุ่เล็กน้อย

         ในการหาเสียง ตัวผุ้สมัคร การเคลื่อนไหว และการชุมนุมของพวกเขล้วนมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งสร้างควมแตกต่างอย่างชัดเจนสำหรับผุ้มีสิทธิลงคะแนนเสียง

       


 โดนัลด์ ทรัมป์ เดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับเพลง "ก็อด บลีซ เดอะ ยูเอศเอ" ของ ลี กรีนวุด ซึ่งออกจำหน่่ายในปี 1984 โดยมีเสียงเชียร์ดังสนั่นจากผูงชนจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นผุ้สุงอายุและคนผิวขาว

        "เราจะทำให้ประเทศอเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้งไ เขาสัญญา

        กมลา แฮร์ริส เดินออกไปพร้อมกับเพลงฮิตปี 2016 ของ บียองเซ่ ชื่อว่า "ฟรีดอมไ และเอนตัวเขาหามีมทางอินเทอร์เน็ต ดดยพุดคุยกับผุ้ฟังที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากขึ้น โดยมีเสื้อเชิ้ตและเข็มกลัดสีเขียวอมเหลืองประดับอยุ่ ซึงเป็นการยกย่องอัลบับเพลงปํอปปี 2024 ที่ชื่อว่า "แบรท" "เราจะไม่กลับไปอีก" เธอกล่าว

          หน้าจอแยกนี้สะท้อนแคมเปญหาเสียงของประานาะิบดี 2 แคนเปญที่รวบรวมอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม วัย และสังคมที่แตกต่างกันอย่างมาก ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจนสำหรับผุ้มีสิทธิเลือกตั้ง ความแตกต่างนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ออกจาการแข่งขัน โดยพลิกโฉมแคมเปญหาเสียงที่เคยมีชายผิวขาว 2 คน ที่เกิดในช่วงทศวรรษ 1940 และเปิดโอกาสให้ผุ้หญิงหลายเชื่อชาตที่อายุน้อยกว่าเขามาแทนที่

        ขณะที่ ผุ้สมัคร การชุมนุม และการเคลื่อนไหวของพวกเขากำลังแสดงให้เห็นถึงสองด้านของอเมริกาที่แตกแยกกันทั้งในด้านประชากรและวัฒนะรรม ไม่ใช่แคเพียงพรรคการเมืองและนโยบายเท่าน้้น

        การเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยความคับ้องใจของทรัมป์เต้มไปด้ยความคิดถึงคนรุ่นก่อนๆ และวาระการดำรงตำแหน่งของเขาเอง รวมถึงความกลัวและกความโกรธแค้นเกี่ยวกับการอพยพเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตและการทำให้เป็นฆราวาสเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งการสัมภาษณ์ผุ้สนับสนุนจำนวนมากแสดงให้เห็น ในการชุมนุม ทรัมป์ไ้ให้คำเตือนที่ร้ายแรงเกี่ยวกับชายแดนทางใต้ สัญญาว่าจะปราบปราม "ความบ้าคลั่งของคนข้ามเพศ" กลับมาฟ้องร้องเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งในปี 2020 ดุถูกนักวิจารณืแ ะลสาบานว่าจะแก้แค้นศัตรุที่เขามองว่าเป็นศัตรุของเขา โดยกล่าวอ้างเท็จและไร้เหตุผลมากมายในสุทรพจฯือันยานานของเขา

         ในขณะเดียวกัน แฮร์ริสได้รับพลังใหม่จากผุ้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์และคนผิวสีที่บอกว่าพวกเขา กังวลว่าทรัมป์จะพาอเมริกาถอยหลังไปสุู่จุดที่ผุ้หยิง คนผิวสี ชาวอเมริกัน รักร่วมเพศ และคนอื่นๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น เธอพุดสุนทรพจน์ที่เขียนขึ้นอย่างรุดกุมซึ่งกระตุ้นให้ฝูงชนโห้ไล่ทรัมป์ แต่ก็ใช้โทนเสียงที่สดใส เช่น ชี้ไปที่อนาคต


        ก่อนหน้านี้ในช่วงหาเสียง ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งพยายามหาทางเชื่อโยง ไบเดนกับอนาคต โดยอ้างอิงจากการสำรวจความคิดห็นของ "ซิลินด้า เลค" นักสำรวจความคิดเห็นของพรรคเดโมแครต ซึ่งทำงานในแคมเปญหาเสียงของไบเดน และสนับสนุน แฮร์ริส ผุ้มีสิทะิเลือกตั้งรุนเยาว์จะบอกว่าทั้งทรัมป์และไบเดนเป็นตัวแทนของอดีต

       "ตอนผุ้คนมองแฮร์ริสว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ทั้งในด้านประชากรศาสตร์ สไตล์ วัฒนธรรม อายุ เพศ ในทุกแง่มุม" เลคกล่าว

        ขณะเดียวกัน ทรัมป์กำลังพยายามประณามแฮร์ริสว่าเป็นแบบเดียวกับ ไบเดน และพยายามโน้มน้าวผุ้มีสิทะิเลือกตั้งว่าพวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นในช่วงเวลาที่เขาอยุ่ในทำเนียบขาว

      "แคโรไลน์ ลิวิตต์" โฆษกแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ ยังแนนำว่า แอร์ริสเป็นตัวแทนของอดีต ดดยวิพากษ์วิจารณ์ภาวะเงินเฟ้อและ "ความวุ่นวายทั่วโลก" ในช่วงเวลาของเธอและไบเดนในทำเนียบขาว แผนการเชิงรุกของประะานาะิบดีทรัมป์จะช่วยรักาาเศราฐกิจหยุดวิกฤตที่ชายแดนภาคใต้ และฟื้นฟุูสันติภาพผ่านความแข็งแกร่ง" เธอกล่าวในแถลงการณ์

        การแบ่งแยกระหว่างผุ้สนับสนุผุ้สมัครทั้งสองคนสะท้อนให้เห็นถงความแตกต่างทร่ยาวนานในด้านเชื้อชาติ ภุมิศาสตร์ ศาสนา การศึกษ และอื่นๆ ฐานเสีงของพรรครีพัลลิกันในยุคทรัมป์นั้เอียงไปทางคนผิวขา ชนชั้นแรงงาน ผุ้ชาย ชนบทและคริสเตียน นิกายอีแวนเจลิคัล ส่วนฐานเสียงของพรรคเดโมแครตเอียงไปทางคนมีการศักษาระดับอุดมศึกษาและคนเมืองและดึงดุดผู้หญิง คนหนุ่มสาว และผุ้มีสิทธิเลือกตั้งทีมีสีผวิ ดดยเแพาะชาวอเมริกันผิวดำ นักวิเคราะห์การเมืองพูดคุยกันมาหลายปีเกี่ยวกับผุ้สิทธิเลือกตั้งที่สนับสนุนพรรค "แคร็กเกอร์ บาร์รีล" เมือเทียบกับ ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่สนับสนุนพรรค "วูลซ์ ฟูดส์ไ 

         แฮร์ริสเกิดในช่วงทศวรรษ 1960 ซึ่งเป็นช่วงเร่ิมต้นของเจอนเรชั่น X และแคมเปญของเธอเน้นไปที่มุกตลกและการอ้างอิงถึงเจเนอเรชั่น Z เมื่อ ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์สักร้องสาวประกาศในวันที่ ไบเดนเลิกใช้คำว่า "กมลาเป็นเด็กเปรต" ซึ่งทำให้ผุ้ใช้ ติก ตอก พอใจและทำให้คนรุ่นเก่าและคนที่ไม่ค่อยออนไลน์รุ้สึกงุนงง ทีมงานของแฮร์ริสก็ยอมรับคำๆ นี้ทันที ซึ่งต่อมามีความหายว่า ยุ่งเหยิงแต่ชัดเจน แคมเปญดังกล่าวเร่ิมใช้แบบอักษรและสีเขียวเชร็คของขาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นปกอัลบั้ม "เธอเปรียบเทียบตัวเองกับทั้งไบเดนและทรัมป์ไ แซลลี ฟรีดแมน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออลบานี ผุ้เียนบทความเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างรุ่นในหมุ่นักาการเมือง กล่าว

        ผุ้สนัยสนุนทรัมป์เข้าแถวรอเข้าร่วมงานของเขาตั้งแต่เช้าตรู่โดยสวมเสื้อเชิ้ตทีมีข้อความว่า "พระเจ้า, ปืน และ ทรัมป์" และ "พระเยซูคือผุ้ช่วยให้รอดของฉัน ทรัมป์คือประธานาธิบดีของฉันไ บางคนกางเต็นท์ทั้งวันพร้อมเกาอี้พับ เมือเข้าไปด้านใน ลำโพลจะเล่นเพลงคลาสสิก เช่น "ร็อคเก็ท แมน" "ไอ วิล เซอไวว์" "แดนซิง ควีนส์" และ "เมมโมรี่" จากละครเพลงเรื่อง "แคท"ขณะที่พวกเขากำลังรอ ก็มีวิดีโอทีเซอร์ของทรัมป์("เราจะขับไล่พวกชอบสงคราม") พิธีกรรมรักชาติ และคำเตือนที่น่ากลัวเกี่ยวกับทิศทางของประเทศหาทรัมป์ไม่ได้รับการเลือกตั้ง มีากรสวดภาวนาแบบคริสเตียนอยุ่เสมอ

 สี่วันหลังจากงานของแฮร์ริสที่แอตแลนต้า ทรัมป์ได้รวมตัวกันที่สถานที่เดียวกัน ศิษยาภิบาลเจนเทเซน แฟรงคลิน ซึ่งเป็นพันธมิตรของทรัมป์ในศาสนาคริสต์นิกายอีแวนเจลิคัล เป็นผู้นำการสวดมนต์ ฝุงชนลุกขึ้นยืน และหลายคนถอดหมวกออก

        "มีคนถามว่าคุณคิดว่าเขาเป็นอธิษฐานบ่อยไหม" แฟรงค์ ลิน ตอบ "ผมไม่รู้ แต่ผมรุ้ว่าเขามีนมากมายอยู่รอบตัวเขาในทุกตำแหน่งที่เขาทำ และนั่นก็สำคัญ" 

        "บ่ายนี้ พวกคุณเื่อในพลังของกาสวดมนต์กันกี่คนไ เขาถาม มือทั้งสองยกขึ้น  เขาเร่ิมว่า "พระบิดา วันนี้พวกเรามาหาพระองค์ในพระนามอันย่ิงใหญ่ของพระเยซู เราขอขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" 

         ไทเลอร์ อาร์เปอร์ กรรมาะิการเกษตรแห่งรัฐจอร์เจีย ขึ้นเวทีนำฝูงชนกล่าวคำปกิญาณตนต่อธงชาติ แต่ก่อนอื่น เขาปลุกเร้าฝูงชนก่อน "รถไฟกำลังวิ่งไปผิดทางนะทุกคน" เขากล่าว

        หากทรัมป์ได้รับชัยชนะในเดือนพฤศจิกาย เขาสัญญาว่า "เราจะไม่ให้มีผุ้ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายข้ามพรมแดน เราจะทำให้แน่ใจว่าชาวอเมริกามาก่อนจะมีอำนาจเสมอ และเราจะทำให้แน่ใจตว่าประเทศของเราจะเดนไปบนเส้นทางที่ถุกต้อง เส้นทางที่ยำเกรงพระเจ้า" 

       คำคืนนั้นจบลงด้วยคำพูดซ้ำซากจำเจของทรัมป์ที่กล่าวถึงคำขวัญ MAGA ของเขา "พวกเราคือขบวนการเดียว ประชาชนเดีย ครอบครัวเดียว และชาติอันรุ่งโรจน์เดียวภายใต้พรเจ้าและเมือร่วมมือกันแล้ว เราจะทำให้ประเทศอเมริกากลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เราจะทำให้ประเทศอเมริกากลับมามังคั่งอีกครั้ง เราจะทำให้ประเทศอเมริกากลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เราจะทำให้ประเทศกลับมาสู่ความภูมิใจอีกครั้ง.."

       เขาเหยียดแขนออกเพือรอฟังคำพูดสุดท้าย "และเราจะทไให้ประเทศอเมริกา " "- เยียมอีกแล้ว" ฝูงชนตะโกนพร้อมกับเขา ผู้ร่วมชุมนุมเป็นเป็นคนผิวขาวมากกว่า แฮร์ริสปราศรัย เมือต้นสัปดาห์ แต่ทรัมป์พยายามเน้นย้ำถึงการสนับสนุนคนผิวดำของเขา

       MAGA Black MAGA Black ฉันรักพวกเขา" เขากล่าวหลังชี้ไปที่คนในฝูงชน...

         https://en.wikipedia.org/wiki/Donald_Trump

         https://en.wikipedia.org/wiki/Kamala_Harris

        https://theconversation.com/harris-lead-over-trump-continues-to-increase-in-us-national-and-swing-state-polls-236576

         https://www.washingtonpost.com/elections/2024/08/14/trump-harris-voters-generation-culture-election-2024/   

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Statistics with Election

          โจ ไบเดน ก้าวขึ้นสุ่ตำแหน่งประธานาธิบดี คนที่ 46 ของประเทศท่ามกลาวสภาพแวดล้ามทางการเมืองที่ขัดแย้งและประชาชนที่แตกแยกกันอย่างรุนแรง ผุ้คัดค้านไบเดนบางคนชี้ให้เห็นถึงชัยชนะเหนือโดนัลด์ ทรัมป์ที่เฉียดฉิวในรัฐสมรภูมิหลายรัฐว่าเป็นหลักฐานว่าชัยชนะในเดื่อนพฤศจิกายนของเขาไม่ได้โดดเด่นแต่อย่างใด แม้ว่าไบเดนจะชนะคะแนนนิยมด้วยคะแนนที่ห่างกันกว่า 7 ล้านคน จากผุ้ลงคะแนนทั้งหมด 159 ล้านคนก็ตาม
          ทั้งหมดที่อาศัยอยุ่ในเขตที่ไบเดนและทรัมป์ชนะ จากมุมมองดังกลา่วประชากร 67 ล้านคนอาศัยอยู่ในเขตที่ไบเดนชนะ 197.9 ล้านคน มากกว่าเขตที่ทรัมป์ชนะ 130.3 ล้านคน นี่คือความแกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างประชากรในขเตที่ผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสองคนสำคัญชนะมาตั้งแต่ปี 1996 เมือ บิน คลินตันเอาชนะ บ็อบ โดล ได้

           มีการกล่าวถึงการแบ่งแยกระหว่างเมืองและชนบทในวงการการเมืองอเมริกันมากมาย อย่างไรก็ตาม มีการแสดงใสห้เห็นว่าแท้จริงแบ้วการลงคะแนนเสียงของคนในเขตชานเมือง ต่างหากที่ทำให้คะแนนเสียงเปลี่ยนไปในทางที่สนับสนุนไบเดน นอกจานี้ ขนาดประชากรของเขตที่ไบเดนและทรัมป์ชนะยังได้รับการจัดประเภทตามหมวยดหมุ่สภานะของเมืองที่พัฒนาโดยสถาบัน "บรูคกิ้ง" อีกด้วย เขตศุนย์กลางเมืองขนาดใหญ่ (เขตที่มีความหนาแน่นของประชากรสูง) คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของประชารกรทั้งหมด 97 ล้านคน จากเขตทั้งหมดที่ลงคะแนนเสียงให้กับไบเดน เขตชานเมืองในเขตมหานครขนาดใหญ่มีประชากรเพ่ิมขึ้นอีก 72 ล้านคนในเขตที่ไบเดนชนะ
          ในทางกลับกัน ประชกรในเขตที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งมีเพียงไม่กี่คนในเขตเมืองใหญ่ ซึ่งคิดเป็น 4.7 ล้านคน ประชทกในเขตทรัมป์ส่วนใหญ่กระจายตัวอยุ่ในเขตชานเมืองขนาดใหญ่ เขตมหานครขนาดเล็ก และื้นที่นอกเขตมหานคร
           เนื่องจากเขตเมืองขนาดเล็กและขตนอกเขตเมืองมีประชากรน้อยกว่าเขตเมืองขนาดใหญ่มาก จึงมีเขตที่ทรัมป์ชนะมากกว่าเขตที่ ไบเดนชนะ  ดังนั้นเมือดุจากแผนที่ผลการเลือกตั้งประจำปี 2020 ของทุกรัฐ จะเห็นว่ามีหลายเขตทีสนับสนุนการเลือกตั้งดดยทรัมป์ล้อมรอบกลุ่มเขตที่สนับสนุนการเลือกรตั้งโดยทรัมป์ แต่เหตุผลที่เขตที่สนับสนุนการเลือกตั้งโดยทรัมป์มีประชากรมากว่าเขตที่สนับสนุนการเลือกตั้งโดยทรัมป์ถึง 67 ล้านคนนั้นเป็นเพราะเขตที่สนับสนุนการเลือกตัึ้งโดยทรัมป์คตรองพื้นที่เขตเมืองหลักและเขตชานเมืองในเชตเมืองใหญ่
         หากคำนวฯเป็นสัดส่วนของประชากรทั้งประเทศแล้ว ประชากร 60% ของสหรัฐฯ อาศัยอยุ่ในเขต ไบเดน อย่างไรก็ตาม สัดส่วนนี้แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละกลุ่มหประชากร โดยเชตไบเดนมีแนวโน้มที่จะเป้นที่ตั้งของกลุ่มประชกรที่เติบโต และเขตที่มีลักษณะ "เป็นเมือง" ในแง่ของเชื้อชาติ การศึกษา สถานะที่เกิดในต่างประเทศ และแม้แต่สถานะสมรสในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ประชกากรผิวสี จำนวนมากของประเทศอาศัยอยุ่ในเขตไบเดน ประมาณสามในาี่อาศัยอยุ่ที่นั่น เช่นเดียวกับชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย 86% และเกือบสองในสามของผุ้ที่ระบุว่าตนเป็นคนสองเชื้อชาติหรือมากกว่า ในทางตรงกันข้าม ประชากรผิวขาวเพียงครึ่งเดียวของประเทสอาศัยอยู่ในเขตไบเดน
         

ประชากรผิวขากลุ่มนี้มีควาแตกต่างกันมาก ดดยผุ้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาผิวขาวมีเกือบสองในสามที่อาศัยอยู่ในเขตไบเดนส่วนประชกรผิวขาวกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่มัีการศึกษาระดับอุดมศึกษาจะมีแนวโน้มที่จะอาศัยอยุ่ในเชตทรัมป์มากกว่า ดดยเฉพาะคนผิวขาวที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาหรือต่ำกว่า
          คุณบักษณะทางประชากรอีกสองประการที่แตกต่างกันอย่างลชัดเจนระหว่างเคาน์ตี้ไบเดน และ ทรัมป์คือการเกิดและสภานะการสมาร ชาวอเมริกันที่เกิดในต่างประเทศมากว่าสี่ในห้าคนอาศัยอยุ่ในเคาน์ตี้ไบเดน เมือเที่ยวกับชาาวอเมริกันที่เกิดในประเทศน้อยกว่าสามในห้าคนที่อาศัยอยู่ในเคาน์ตี้ ไบเดน ในทำนองเดียวกัน คนดสดมีแนวโน้มที่จะอาศัยอยุ่ในเคาน์ตีไบเดนมากกว่าที่แต่างงานแล้ว
          เมือพิจารณาครัวเรือนที่จำแนกตามรายได้ ครัวเรือนส่วนใหญ่ในทุกหมวดหมู่รายได้อาศัยอยู่ในเขบตไบเดน แต่ความแตกต่างจะกว้างที่สุดสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้สูงที่สุด ดดยครัวเรือนมากกว่าสองในสามที่มีรายได้อย่างน้อย 150,000 ดอลลาร์ต่อี อาศัยในเขตไบเดนเมือเทียบกับครัวเรือนที่มีรายได้น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์เพียงครึ่งเดียว
         โปรไฟล์ที่แตกต่างกันของอเมิรกาของ ไบเดนและทรัมป์นั้นสามารถเปรียบเทียบได้ดีที่สุดเมือพิจารณาจกอายุและองคืประกอบทางเชื้อชาติของเขตที่ผุ้สมัครแตละคนสังกัดอยุ่ เพื่อให้สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างเมืองและชนลบทที่กล่าวข้างต้นอเริกาของทรัมป์นั้นชัดเจนว่าเป็นคนผิวขาวและอายุมากกว่า แม้แต่คนหนุ่มสาวที่อาศัยอยู่ในเขตของทรัมป์ก็ยังเป็นคนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าประชากรที่มีอายุตำ่กว่า 16 ปี ในระดับประเทศจะเป็นชนกลุ่มน้อยผิวขาวก็ตาม 
          ประชากรในเขตที่ไบเดนชนะการเลือกตึ้งนั้นมีอายุน้อยกว่าและมีความหลากหลายมากกว่าอย่างเห็นไดชัด โดยกลุ่มชนกลุ่มน้อยมีจำนวนมากกว่าคนผิวขาวที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี และตามหลังคนผิวขาวที่มีอายุระหว่าง 45-54 ปีไม่มากนัก
          สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ มีการแบ่งแยกอย่างลึกซึ้งในด้านประชากรศาสตร์และการเมือง แต่การที่ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในเขตที่มีประชการส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ถือเป็นลางดีสำหรับพรรคเดโมแครตในปีการเลือกตั้งประธานาะิบดีในอนาคต โดยเแพาะอย่างยิ่งเนืองจากกลุ่มประชกรที่อาศัยอยู่ในเขตเหล่านี้อย่างไม่สมส่วน ได้แก่ คนผิวสี บัณฑิตจบใหม่ คนที่เกิดในต่างปะเทศ และบุคคลที่ไม่ได้แต่งงาน เป็นกลุ่มประชากรที่เพ่ิมมากขึ้นเรื่อยๆ 

          เป็นไปได้ที่ประชกรส่วนใหญ่ยังควมีจำนวนมากในเขตที่มีทรัมป์อาศัยอยุ่ ได้แก่ ชาวชนบทและเมองเล็ก ชาวอเมริกันสุงอายุ และคนผิวขาวที่ไม่มีการศึกษรระดับอุดมศึกษา อาจทำให้พรรครีพับรีกันยังคงแข่งขันได้ หากพรรคหลังทรัมป์สามารถรักษาฐานเสียงนี้ัไว้ได้ แต่หากการคาดการณ์ล่าสุดเป็นเจริง พรรครีพับลิกันอาจไม่ใช่กลยุทธ์ระยะยาวที่ใช้ได้ผล 
       
            https://www.brookings.edu/articles/a-demographic-contrast-biden-won-551-counties-home-to-67-million-more-americans-than-trumps-2588-counties/

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...