วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Economic campain policy (2024)

            หลังจากห่างหายไปเกือบปี จากแพลตฟอร์ม x ในที่สุดทรัมป์ก็กลับมาอีกครัง และถามผุ้ติดตาม 89 ล้านคนของเขาว่า "ตอนนีุ้ณดีขึ้นกว่าตอนที่ผมเป็นประธานาะิบดีหรือไม่" ซึ่งเป็นการล้อคำพุดอันโด่งดังของโรนัลด์ เรแกนในระหว่างแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ได้รับชัยชนะในปี 1980 ซึ่งเรแกนถามว่า "วันนี้คุณดีขึ้นกว่าเมือ 4 ปีที่แล้วหรือไม่" ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ชัดเจนของทรัมป์ในการเน้นที่เศรษฐกิจ

          ผลสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่ชี้ว่่านี่คือปัญหาที่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันให้ความสำคัญมากที่สุด โดยระบุว่า "เงินเฟ้อ/ราคา" และ "การจ้างงานและเศรษฐกิจ" เป็นประเด็นที่ผุ้มีสิทธิเลือกต้เ้งให้ความสำคัญสูงสุด ที่สำคัญกว่านั้น การสำรวจยังบ่งชี้ว่าผุ้ลงคะแนนเสียงรู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นสภานะการณ์ที่เป็นใจต่อผุ้ท้าชิง แต่ในการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไปจากการที่ กมลา แฮร์ริสเข้ามารับตำแหน่งผุ้มัครจากพรรคเดโแมครตแทน โจ ไบเดน ดุเมหือนว่าทรัมปืจะดิ้นรนที่จะส่งสารง่ายๆ องเขาเกี่ยวกับเศราฐกิจ 


           เมื่อไม่ถึงเดือนก่อน นับตั้งแต่เขาขึ้นเวทีในงานประชุมแห่งชาติของพรรครีพับลิกันดดยดุไร้เทียมทาน รอดพ้นจากความพยายามลอบสังหาร และมีคะแนนนิยมสูงในผลสำรวจความคิดเห็น ตอนนี้ เขาเสียเปรียบและ หลงทาง ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังโบกมือด้วยความตื่นเต้นและกระตือรือล้น ซึ่งเขาพบว่่ายากที่จะโต้กลับ

         วิธีง่ายที่สุดที่จะทำลบายควาฝันจองเธอคือการเตือให้ผุ้มีสิทะิออกเสียงรู้ว่าพวกเขาไม่พอใจกับราคาสินค้าที่สุงแค่ไหน และตำแหนเธอในเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ค่าครองชีพสุงขึ้นในข่วงเวลาที่เธออยุ่เคียงข้างประธานาธิบดี ไบเดน ในทำเนียบขาว

        สาเหตุประการหนึ่งทีทรัมป์ไม่สามารถถ่ายทอดข้อความดังกล่วได้ คือ กลยุทธ์ของแคมเปญหาเสียงของแฮร์ริสในการเสนอข้อสเนอเพื่อพยายามลดค่าครองชีพให้เป็นหัวใจสำคัญ

         ผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งสองตางกระตือรือร้นที่จะแสดงให้ผุ้มีสิทธิเหลือตั้งเห็ฯว่าพวกเาจะจัดการเศราฐกิจอข่างไรหากได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งทั้งสองแคมเปญมีแนวโน้มประชานิยม แต่ผุ้สมัครต่างก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในการช่วยเลหือชาวอมเริกัน ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงแม้วาอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสุง จะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม

        แฮร์ริส กล่าวในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา(เมือวาน) เกี่ยวกับข้อเสนอทางเศาฐกิจที่เธอประกาศในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเครดิตภาษีที่เพ่ิมขึ้นสำหรับเด็ก ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย และความพยายามที่จะหยุดากรขึ้นราคาสินค้าเธอกล่าวถึงแผนงานเชิงมองไปข้าหน้าของเธอว่าเป็น "เศรษฐกิจแห่งโอกาส" ที่ชาวอเมริกันได้รับโอกาสที่แท้จริงที่จะประสบความสำเร็จ ในขณะที่ทรัมป์กล่าวว่าเขามุ่งเน้นเฉพาะการช่วยเหลือผุ้มั่งคั่งและธุรกิจขนาดใหญ่

       ทรัมปืได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับเศราฐกิจและนโยบายต่างๆ ของเขาถึง 2 ครั้งในสัปดาห์นี้ แต่เขายังไม่ได้เปิดเผยแผนเศรษฐกิจโดยละเอียด เขาโจมตีรัฐบาล ไบเดน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าวว่าเงินเฟ้อสุงและให้คำมั่นว่าจะลดราคาสินค้าทันที่ นอกจากนี้ เขายังกล่าวหาแฮร์ริสว่าต้องการใช้ "การควบคุมราคมแบบคอมมิวนิสต์" 

         ในความเป็นจริ ประธานาธิบดีมีเครื่องมือน้อยมากในการแก้ไขปัญหาราคาที่เพ่ิมสูงขึ้นเพียงฝ่ายเดียว หน้าที่ของธานาคารกลางสหรัฐฯ คือการกำหนดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ข้อเสนอหลักส่วนใหญ่ของพวกเขาจะต้องได้รับกาอนุมัติจากรัฐสภา และผุ้สมัครบังไม่ได้ระบุว่าพวกเขาจะจ่ายเงินสำหรับรายการความต้องการอันแสนแพงของพวกเขาอย่างไร ในช่วงที่หนี้ของรัฐบาลกลางกำลังเพ่ิมขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าแฮร์ริสจะบอกว่าเธอจะขอให้คนอเมริกันและบิรษัทที่มีฐานะดีจ่ายมากขึ้นก็ตามนี้คือสิ่งที่เรารุ้เกี่ยวกับแผนเศราฐกิจของแฮร์ริสและทรัมป์

          ทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างเรียกร้องให้ยุติการเก็บภาษีเงินทิปของรับบาลกลางแม้ว่าทรัมป์จะเป็นผุ้เปิดเผยแนวคิดดังกล่วก่อนและตำหนิคู่แข่งที่เลี่ยนแบบเขาก็ตาม ข้อเสนอนี้กลายเป็นหนึ่งในคำมั่นสัญญาที่ทรัมป์ชื่อชอบที่สุดในการชุมนุมหาเสียงของเขา

       เขาเสนอแนวคิดนี้ ครั้งแรก ในเืดอนมิถนายนที่ลาสเวกัน รัฐเนวาดา ซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่มีพนักงานด้านการบริการและการต้อนรับจำนวนมาก แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เมือต้นสัปดาห์นี้ เขาเสนอแนะว่าเขาสนับสนุนการยกเลิกภาษีรายได้และภาษาีเงินเดือนของรัฐบาลกลางสำหรับเงินทิปซึ่งเป็นข้อ เสนอ ที่มีผลกระทบทางการเงินมากกว่า

       ทรัมป์กล่าวในการให้ัมภาษณ์กับ สเปคตรัม นิว 1 ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เมือถูกถามว่าเขาสนับสนุนการยกเลิกภาษีรายได้และเงินเดือนของรัฐบลกลางหรือไม่ว่า ไเรากำลังพิจาณาดำเนินการให้เต็มี่" มาตรการดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา เมื่อถูกถามถึงความชัดเจนในภายหลัง แคโรไลน์ ลีีวิตต์ โฆษกประจำตัวของทรัมป์ กล่าว่าเธอไม่มีอะไรจะพูดเพิ่มเติม

  จากข้อมุลจากศูนย์วิจัย "บัดเจท แลป" ที่มหาวิทยาลัยเยล พบว่ามีคนราว 4 ล้านคนที่ทำงานในอาชีพที่้องทิปในปี 2023 หรือคิดเป็นประมาณ 2.5% ของการจ้างงานทั้งหมด แต่กว่าหนึ่งในสามกลับมีรายได้น้อยเกินกว่ ที่จะต้องจ่ายภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลาง

        ภาษีเงินเดือนของรัฐบาลกลางจะนำไปใช้เป็นเงินุนประกันสังคมและประกันสุข-ภาพ และรวมเป็น 15.3% โดยครึงฝหนึ่งจ่ายโดยนายจ้าง เมือสัปดาห์ที่แล้ว แฮร์ริสยังสัญญาว่าจะยุติการเก็บภาษีรายได้ของรัฐบาลกลางจากเงินทิปที่ชุมนุมในลาสเวกัส โดยเงินทิปจะยังคงต้องเสียภาษีเงินเดือนตามแผนของแฮร์ริส

       หากยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีเงินเดือนของรัฐบาลกลาง จะทำให้รายได้ลดลง 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐถึง 250,000 ล้านเหรียญสหรัญภายใน 10 ปี ตามข้อมูลของคณะกรรมการงบประมาณของรัฐบาลกลางที่มีความรับผิดชอบ การยกเลิกภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลางสำหรับเงินทิปเพียงอย่างเดียวจะทำให้สูญเสียรายได้ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว

        ยุติการเก็บภาษีจากเงินประกันสังคม 

         ทรัมป์ยังเสนอให้ลดหย่อนภาษีให้กับกลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอิทธิพลอีกกลุ่ม นั้นคือ ผุ้สุงอายุ เขาประกาศเมือปลายเดือนที่แลบ้วว่าเขาต้องการยุติการเก็บภาษีจากสวัสดิการประกันสังึคม "เพื่อช่วยเหลือผุ้สูงอายุที่มีรายได้คงที่ซึ่งกำลังประสบปัญหาจากภาวะเงินเฟ้อ จะไมีมีการเก็บภาษีประกันสังคม เราจะหยุดเรื่องนี้" เขากล่าวใสนการชุมนุมเมือวันพุธ ซึ่งถือเป็นการปราศรัยด้านเศราฐกิจ

         ในปัจจุบัน ผุ้สุงอายุไม่ต้องเสียภาษีจากสวัสดิการของตนหากมีรายได้น้อยกว่า 25,000 เหรียญสหรัีฐฯ ต่อบุคคล หรือ 32,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรังคู่สมรส ซึ่งเรียกว่ารายได้รวม ดดยคำนึงถึงรายได้รวมที่ปรับแล้ว ครึ่งหนึ่งของสวัสดิการประกันสังคม และดอกเบี้ยที่ไม่ต้องเสียภาษี หากมีรายได้เกิดนกว่าเกณฑ์ดังกล่าว พวกเขาอาจต้องเสียภาษีเงินได้จากเงินช่วยเหลือสูงถึง 50% โดยรายได้จะนำไปเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญของสำนักงานประกันสังคม ผุ้ที่มีรายได้รวมกันอย่างน้อย 34,000 ดอลลาร์ต่อคน หรือ 44,000 ดอลลาร์ต่อคุ่สมีภรรยา อาจต้องเสียภาษีเงินได้จากเงนิช่วยเหลือเพ่ิมเติมสูงสุด 35% โดยเงินจะนำไปเข้ากองทุนประกันโรงพยาบาลของ "เมดิแคร์" การยกเกลิการเก็บภาษีจากเงินประกันสังคมจะช่วยลดาษีได้เฉลี่ย 550 ดอลลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าครัวเรือนที่มีรายได้น้อยจะแทบไมได้รับประโยชน์ใดๆ ในปีหน้าทก็าม ตามข้อมูลของ ศูนย์ นโยบายภาษี อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อดีครงการสิทธิประดยชน์ ของประชาชน รวมถึง เมดิแคร์ และงบประมาณของรัฐบาลกลางที่มีความรับผิดชอบ คาดว่าภาษีดังกล่าวจะสร้างรายได้ประมาณ 94,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

        การวิเคราะหฺ์ของคณะกรรมการพบว่การยกเลิกภาษีดังกล่าววจะทำให้ชขาดุลของรับบาลกลางเพ่ิมขึ้นระหว่าง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์จนถึงปี 2035 กองทุนบำเหน็จบำนายประกันสังคจะหมดลงเร็วกว่าเต็มหนึ่งปี และกองทุนประกันดรงพยาบาลของ เมดิแคร์ จะหมดลงเร็วกว่าเดิมหกปี ผุ้สูงอายุจำนวนมากอาจได้รับผลกรทะบในทีสุกหาก กองทุนประกัน สังคม และเมดิแคร์ หมดลงเร็วขึ้น และต้องตัดสวัสดิการ

       https://edition.cnn.com/2024/08/15/politics/harris-trump-economy-policies-inflation/index.html

        https://edition.cnn.com/2024/08/15/politics/harris-trump-economy-policies-inflation/index.html

          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Midwest

            "มิดเวสต์" เป็นหนึ่งในสี่ภูมิภาคสำมะโนประชากรของสำนักงานสำมะโนประชากรแห่งสหรัฐอเมริกาเรียก ภุมิภาคนี้ว่า ภุมิภาคตอนกลา...