เคาะลีฟะฮ์ มาจากคำว่า “เคาะลีฟะฮ์ อัรเราะซูล”
คือคำที่ใช้เรียกประมุขของอาณาจักรอิสลามต่าง ๆ เมื่อกาหลิฟที่ 3 ถูกลอบสังหารอาลีบุตรเขยของท่านนบีได้เป็นกาหลิฟที่ 4 แต่อีก 6 ปีต่อมาก็ถูกปลงชีพ และได้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในเรื่องการสืบทอดตำแหน่ง
ฝ่ายหนึ่งระบุว่า ควรจะเป็นผู้ที่ได้รับเลือกโดยซูระ ผู้ได้รับเลือกโดยมุสลิมหรือผู้แทน อีกฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าอิมามผู้สนืบเชื่อสายมาจากอะฮฺลุลบัยตฺตั้งแต่สมัยมุฮัมมัด อิสลามจึงแตกออกเป็นสองนิกายคือชีอะฮ์ และซุนนีย์
ซีอะฮ์ เป็นนิกายซึ่งมีความแตกต่างกับซุนนีย์
การปกครองในระบบเคาะลีฟะฮ์(กาหลิฟ)นั้นเป็นระบบเดียวที่ได้รับการอนุมัติจากเทววิทยาอิสลามและเป็นปรัชญาการปกครองหลักของ “ซุนนีย์”ในเรื่องของผู้นำสูงสุด หรือตัวแทนนบีมุฮัมมัด ว่าจะต้องมาจากการแต่งตั้งของอัลลอฮ์ และนบีมุฮัมมัดเท่านนั้น นั้นคืออิมามสิบสองคน อันได้แก่อิมามอะลีย์และบุตรหลานอีก 11 คน
ซุนนีย์ เป็นนิกายที่ชาวมุสลิมส่วนใหญ่นับถือ ซึ่งยึดถืออัลลอ-กุรอาน จริยวัตรของท่านศาสดามุฮัมมัด และแบบอย่างของสาวกเป็นหลัก แนวความคิดของนิกายซุนีย์ คือ เชื่อว่าท่านศาสดาฮัมมัอมิได้แต่งตั้งตัวแทนไว้ก่อนที่ท่านจะจากไป ดังนน หลังจากท่านจากไปแล้วตำแหน่งผู้ปกครองหรือผู้นำสืบต่อจากท่านจึงเป็นหน้าที่ของมุสลิม ต้องเลือกสรรกันเองตามความเหมาะสม
หลังจากท่านอาลี เคาะลีฟะฮ์อัรรอชิดูน คนที่ 4 เสียชีวิต ท่านหะสัน บุตรของท่านอาลีได้รับเลือต้งเป็นเคาะลีฟะฮ์คนต่อไป แต่ดำรงตำแหน่างเคาะลีฟะฮ์ได้ไม่กี่เดือนก็ยอมสละตำแหน่งให้แก่ท่านมุดาวียะฮั อิบนุ อบี สุฟยาน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพในรัฐอิสลาม พร้อมกับหลีกเลีย่ยงความแตกแยกและการสูญเสียเลือดระหว่างชาวมุสลิมด้วยกัน
ท่านมุอาวิยะฮ์เป็นเคาะลีฟะฮ์องค์แรกในราชวงศ์อุมัยยะฮ์ ท่านสืบเชื่อสายจากตระกูบ อุมัยยะห์ บุตรของอับดุซซัม ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “ราชวงศ์อมัยยะฮ์”ในสมัยการปกครองของราชวงศ์อมัยยะฮ์ ได้เปลี่ยนรูปแบบการปกครองจากสาธารณรับเป็นราชอาณาจักร ท่านทำให้ตำแหน่างเคาะลีฟะฮ์กลายเป็นตำแหน่างกษัตริย์โดยการสืบสันติวงค์ ท่านได้ทรางแต่งตั้งยะซิด โอรสของท่านให้เป็นกษัตรย์ ต่อมาการแต่งตั้งแบบนี้ได้กลายเป็นตัวอย่างการแต่งตั้งเคาะลีฟะฉัมาตลอดราชวงค์อุมัยยะฮ์ ทั้งราชวงศ์อับบสียะฮ์และอื่นๆ อีกด้วย การปกครองแบบประชาฑิปไตยระหว่างเผ่าของเคาะลีฟะฮ์ท่านก่อนๆก็หมดสิ้นไป กลายเป็นการปกครองแบบกษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราช
ราชวงศ์อุมัยยะฮ์มีเคาะลีฟะฮ์ทั้งหมด 14 องค์ ซึ่งปกครองค.ศ.661-750 มีอาณาเขตการปกครองครอบคลุมทั้ง 3 ทวีป คือ
- ทวีปเอเซียถึงเมืองจีน และเมืองกาบูล
-ทวิปยุโรป ถึงเมืองอัดาลุส ประเทศสเปนในปัจจุบัน
- ทวีปแอฟริกา ถึงประเทศที่ติดอยู่กับทะเลแอตแลนติก
โดยมีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่ชาม หรือประเทศซีเรียในปัจจุบัน
วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Official vote counting...(3)
แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป รองป...
-
องค์ประกอบของโยนิโสมนสิการ ลักษณะการคิดแบบโยนิโสมนสิการมี 10 ประการ สรุปได้ดังนี้ครับ สืบสาวเหตุปัจจัย แยกแยะส่วนประกอบ สามัญลักษณ...
-
อาจกล่าวได้ว่า สงครามครูเสดเป็นความพยายามครั้งรแกๆ ของยุโรป และเป้นสำเร็จโดยรวมในความพยายามที่จะค้นหาตัวเองภายใต้วัฒนธรรมท่เป็...
-
วรรณกรรมในสมัยยุโรปกลาง จะแต่งเป็นภาษาละติน แบ่งเป็นวรรณกรรมทางศาสนา และ วรรณกรรมทางโลก วรรณกรรมทางศาสนา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น