ราชวงศ์ฮั่นสถาปนาโดยหลิวปัง หรือ จักรพรรดิฮั่นเกาจู่ ซึ่งถือเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่องค์ที่ 2 ของชนชาติจีน ที่สามารถรวมประเทศจีนเป็นปึกแผ่นอีกครั้งหนี่ง ราชวงศ์ฮั่น แบ่งเป็น 2 ช่วง คือตอนต้นเมืองหลวงตั้งอยู่ที่นครฉางอัน จึงได้รับการขนามนามว่า ฮั่นตะวันตก เมือถึงสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลายได้ย้ายเมืองหลวงมายังนครลั่วหยังเรียกว่าฮั่นตะวันออก
หลิวปังผู้ก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นนั้น แต่เดิมเป็นเพียงชนชั้นขุนนางผู้น้อย เมื่อฉินสือหวงตี้หรือจิ๋นซีฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ลงอำนาจของราชวงฉินเริ่มสั่นคลอน หลิวปังได้กรีฑาทัพเข้าเสียงหยางปิดฉากยุคสมัยของราชวงศ์ฉิน และส่งมอบนครเสียนหยางให้กบเซี่ยงอี่ว์หรือฌ้อปาอ๋องซึ่งมีฐานอำนาจอยู่ในแคว้นฉู่และมีกำลังเข้มแข็งที่สุดในขณะนั้น หลิวปังจึงได้รับการอวยยศขึ้นเป็นฮั่นจงอ๋อง หลังจากสะสมกำลังกล้าแข็งขึ้น จังเปิดศึกแย่งชิงบัลลังก์กับเซี่ยงหวี่
ปี 202 ก่อนคริสต์ศักราช หลิวปังได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาด ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์จักพรรดิ สถาปนาราชวงศ์ฮั่น
ในสมัยพระเจ้าฮั่นอู่ตี้(หลิวเช่อ)ฮ่องเต้องค์ที่ 5 ได้มีการบุกเบิก ทางสายไหม (Silk Road) ซึ่งเป็นทางสู่ตะวันตกของจีน การค้าขายต่าง ๆ ได้นำพาประเทศเข้าสู่สงคราม และความงมงายต่างๆ การท่องเที่ยวอย่างสิ้นเปลือง..กระทั้งเกิดกบฎชาวนา พุทธศาสนาเข้าสู่จีนในราชวงศ์ฮั่น พระเจ้าหมิงตี้ทรงส่งคาราวานไปอัญเชญพระคัมภีร์ต่างๆ มาประดิษฐาน และยังทรงเป็ฯพุทธมามกะด้วย ราชวงศ์นี้มีความเจริญมากในสาขาต่าง ๆ มีการทำกระดาษ พิมพ์หนังสือได้แล้ว
หลังสมัยเหอตี้ บรรดาเชื้อพระวงศ์และขุนนางชั้นสูงต่างก็มีอำนาจที่เข้มแข็งมากขึ้น มักปรากฎว่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางผลัดกันหรือร่วมมือกันเข้ากุมอำนาจในระหว่างการผลัดแผ่นดินอยู่บ่อยครั้ง… ภายหลังยุคกลางของฮั่นตะวันออก กลุ่มครอบครัวตระกูลใหญ๋เข้ากุมอำนาจทางการเมือง ทำให้เกิดสภาพเป็นขั้วการเมืองแบบผูกขาด
ยุคปลายของฮั่นตะวันออก ได้เกิดกระแสวิพากษ์การเมืองจากกลุ่มปัญญาชนและขุนนางผุ้น้อยส่วนหนึ่ง ที่ต้องการแสดงวามไม่พอใจต่อระบบการเมืองการปกครองในสมัยนั้น จนเกิดวิกฤตการทางการเมือง
เมื่อสิ้นสมัยเหิงตี้ เหล่าขุนนางก็ยิ่งฮักเหิมในอำนาจถึงกับมีการซื้อขายตำแหน่งทางการเมืองกับอย่างเปิดเผย อำนาจบ้านเมืองล้มสลาย เกิดความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าเมือถึงรัชสมัยหลิงตี้ เกิดกบฎโพกผ้าเหลืองทางภาคเหนือนำโดยเตียวก๊ก เข้าล้มล้างราชวงศ์ฮั่นตะวันออก บรรดาเจ้าที่ดินที่กำลังกล้าแข็งต่างก็ฉวยโอกาสนี้พากันตั้งตนเป็นใหญ่ ต่อสู้แย่งชิงอำนาจ จนท้ายสุดหลงเหลือเพียง 3 กลุ่มอำนาจใหญ่นั้นคือ วุ่ย สู และอู๋ หรือที่รู้จักกันในนาม “สามก๊ก”นั้นเอง
วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Official vote counting...(3)
แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป รองป...
-
องค์ประกอบของโยนิโสมนสิการ ลักษณะการคิดแบบโยนิโสมนสิการมี 10 ประการ สรุปได้ดังนี้ครับ สืบสาวเหตุปัจจัย แยกแยะส่วนประกอบ สามัญลักษณ...
-
อาจกล่าวได้ว่า สงครามครูเสดเป็นความพยายามครั้งรแกๆ ของยุโรป และเป้นสำเร็จโดยรวมในความพยายามที่จะค้นหาตัวเองภายใต้วัฒนธรรมท่เป็...
-
วรรณกรรมในสมัยยุโรปกลาง จะแต่งเป็นภาษาละติน แบ่งเป็นวรรณกรรมทางศาสนา และ วรรณกรรมทางโลก วรรณกรรมทางศาสนา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น