วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561

Soccolony

           Soccer+colony = อานานิคมฟุตบอล เปรียบเสมือนเจ้าอาณานิคม หรือประเทศใหญ่ๆ ในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นเจ้าอานานิคม และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่เป็นอานานิคมของประเทศในยุโรป
            จะกล่าวถึงบทความที่เกียวกับฟุตบอลใน 'วาระแห่งชาติ(ยุโรป)
             การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปครั้งแรกจัดขึ้นในปี 1960 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยมีทีมชาติเข้าร่วมรอบคัดเลือกเพียง 16 ทีม และไม่มีประเทศในเครือจักรภพอังกฤษเข้าร่วมแลยสักทัมเดียว ทั้งที่มีมชาติอังกฤษเป็หนึ่งในทีมที่คนเฝ้ารอในยุคนี้ และยังนับได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของกีฬาประเภทนี้ ฟุตบอลเร่ิมต้นอย่างเป็นทางการโดยสโมสรของวิทยาลัยในลอนดอนในป 1863 จนถึงตอนนี้วัฒธรรมลูกหนังได้ฝังรากงึกในหลยประเทศจนกลายเป็นวาระระดับชาติของหลายประเทศ
           
สิ่งหนึ่งที่ผลักดันฟุตบอลให้ยิ่งใหญ่คือลัทธิชาตินิยม เพราะมันคือภาพแทนของสงครา เพียงแต่เกมส์นี้ไม่อาจตัดสินกันด้วยแสนยานุภาพทางกรรบ ทำให้ประเทศเล็กๆ ก็มโอากสคว้าชัยชนะ เมื่อศักด์ศรีของชาติไม่ได้วัดกันที่การเมือง เศราฐกิจ สังคมเพียงอย่างเดียว จึงไม่แปลกที่ผุ้คนจะถวายหัวใจสำหรับ ชาติ ให้กับเกมส์การแข่งขันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าฟุตบอลจะเป็นคนละเรื่องกับการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ฟุตบอลเคยก่อ
สงครามระหว่างประเทศ เอลซัลวาดอร์กับฮอนดูรัสในเวิร์ลคัพปี 1969 ขณะเดียวกันก็เคยสร้างสันติภาพ เมื่อชัยขนะของ Didier Drogba ในปี
2006 หยุดสงครามกลางเมืองฃในไอวอรี โคสต์ได้ ฟุตบอลยงเคยเป็นเครื่องมือทางการเมือง เช่น เวิร์ลคัพปี 1978 ผู้นำอานรเจนตินาใช้ฟุตบอลเพื่อแสดงออกว่าประเทสยังคงมีความสามัคคีกันได้แม้จะอยุ่ในการปกครองแบบเผด็จการก็ตาม
             ในยุโรปเองฟุตบอลก็ยัคงเป็นตัวแทนของลัทธิล่าอาณานิคม โดยคอลัมนิสต์ชาวอเมริกัน ุ้ที่ใช้คำเรียกฟุตบอลว่า "ซอคเกอร อิมพีเรียลิซึม" เขามองว่าพวกยุโรปใช้ฟุรบอลเพื่อครอบงำชาติอื่น อย่างที่พวกฟาสซิสต์เคยส่งต่อแนวคิดผ่านความบันเทิงและการกีฬาในยุคสงครมเย็น
           และไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจของชาติยโรปอย่าที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนคือชาวยุโรปไม่น้อยรักฟุตบอลยิ่งชีพ เห็นได้จากคพพูดของ บิล แชคกี้ นักฟุตบอลและผุ้จัดการทีมชาวอังกฤษท่บอกว่า "บางคนคิดว่าฟุตบอลเป็นเรื่องของชีวิตและความตาย ผมไม่ชอบความคิดนั้น ผมมองว่มันสำคัญกว่านั้นอีก"
            ความคิดเข้มเข้มอย่างนี้เอง ที่อาจเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ยุโรปยังคงเป็นเจ้าแห่งกีฬาฟุตบอลอย่างยากจะให้ใครเที่ยงได้ไปอีกยาวนาน แม้วันที่พวกเขาไม่เหลือเคล้าของประเทศมหาอำนาจแล้วก็ตาม ....https://minimore.com/f/core-his-39-884
              ฟุตบอลในแง่อิทธิพลจากยุคอาณานิคม นายชาญ พนารัตน์ นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยลัยซิดนีด์กล่าวถึงเรื่องฟุตบอลกับอาณานิคมของอังกฤษในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่คริสต์ศตวรรษที่ 20 และพบว่าเจ้าอาณานิคมประสบความสำเร็จในแง่การกระตุ้นให้คนเลี่ยนแบบคุณคาของตังเแง แต่ก็มีางนิคมในช่องแคบซึ่งฟุตบอลไม่เป็นที่รู้จัก อย่างเช่น  ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนและ มาเลย์ที่ไม่ได้รำ่รวยซึ่งยังคงครอบงำไม่ได้แลพวกเขาเมินเฉยด้วยกาหันไปทำการตค้าแต่อาณานิคมยังครอบงำในแง่ทางกายภาพด้วยความเชื่อว่าตัวเองมีศักยภาพเหนือกว่า
             ขณะที่ในแอฟริกาฟุตบอลเป็นเรื่องการเรียนรู้ของพวกกรพฎุมพีน้อยให้ซึบซับคำสังระเบียบของเจ้าอาณานิคมส่วนพม่าก็มีฟุตบอลที่แพร่หลายในพื้นเมืองกลายเป็นพท้นท่ที่เป็นความพยายามลงเล่นเพื่อเอาชนะอำนาจของจักวรรดิรวมถึงภาพของเจ้าอณานิคมที่พยายามป้ายให้พวกเขาดูอ่อนแอ ส่วนพื้นที่ที่ไม่ได้ขึ้นกับอาณานิคมอย่างอาร์เจนติน่าหรือฟุตบอลที่แพร่กลายในชาวสเปนหรืออิตาเลียนข่วงเปลี่ยนผ่านของคริสศตวรรษที่ 20 ฟุตบอลกลายเป็นพื้นที่ของความขัดแย้งซึ่งแต่ละกลุ่มให้คุณค่าฟุตบอลแตกต่างกัน เมืองมองแล้ว ฟุตบอลอาร์เจนตินา มีควมแพร่หลายมากเมืองเที่ยวกับในไทยในสมัยนั้น ขณะที่ไทยยังไม่มสโสรเป็นรูปร่างจริงจัง
             สำหรับไทยไม่ได้เป็นอาณนิคมโดยตรงแต่ถูกครอบงำทางเศราฐกิจชาวยุโรปนำฟุตบอลมาเล่นในสยามตังแต่รัชกาลที่ 4 ตั้งแต่นั้จนถึงต้น พงศ. 2430 ฟุตบอลไทเป้นท่นิยมในสยามผุ้ดีนิยมเตะตะกร้อหวยเพราะไม่มีลูกฟุตบอลหนังในทศวรรษถัดมาเป็นศวรรษแรกที่รัฐไทยเอาฟุตบอลมาเผยแพร่ในโรงเรียน เป็นช่วงท่บอลเริ่มเผยแพร่ จนในทศวรษต่อมา ฟุตบอลถูกนำมาเล่นในโรงเรียน กีฬอังกฤษถูกใช้เป็เครื่องมือในสยาม ขณะที่ชวอังกฤษก็ยังมอิทธิพลน้อย
            สายชน ปัญญชิต จากสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ ม.จุฬาลกรณ์ พูดถึงกีฬากับวัฒนธรรมสมยนิยมซึ่งมีหลายมุมอง แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องวัฒนธรมแฟนกีฬา ฟุตบอลเป็นกิจกรมข้ามพรมแดน มีเรื่องการถ่ายทอดสดการแข่งเข้ามา มีการสงออกทางีวามคิดผ่านสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ริสแบนด์รณรงค์ หรือเสื้อต่อต้นความรุนแรง ซึ่งประเด็นนี้เริ่มเกี่ยวข้องกับไทย คือเรื่องชาตินิยมและท้องถ่ินกับกีฬา อย่างกรณี การก่อการร้ายที่มิวนิก "แบล็ค เซบเทมเบอร์" หรือ โอลด์ เฟิรฒ ดาาณ์บี้ แมตช์ ในสกอตแลนด์ ซึ่งมีเรื่องศาสสาเข้ามาเกี่ยวข้อง ระหว่างการแข่งก็มประวัติศาสตร์ทางความคิดต่างๆ.. ถ้ามองในมุมประเทศไทยก็คือการปะทะกันทางความคิดทำนองว่า มาเลฯ หรือไทย ใครเล่นตะกร้อก่อนกัน..http://m.matichon.co.th/readnews.php?newsid=1405841673
             

             

What's going wrong

            การล้มบอล และการเล่นผิดฟอร์มนั้นบางทีก็แทบจะแยกกันไม่ออก หากไม่มีข้อมูลภายในที่เปิดเผยถึงหลักฐานสำคัญ หรือคำยอมรับจากผู้ที่ถูกติดสินบน อย่างไรก็ตาม การเล่นผิดฟอร์ม หรือเล่นไม่ได้มาตรฐานของทีม ก็อาจเกิดได้บ่อยๆ แม้ในการแข่งขันระดับโลก ต่อไปนี้จะนำผลงานยอดแย่ของอังกฤษที่เล่นผิดฟอร์ม ขนาดที่กล่าวได้ว่าเป็นความอัปยศของทีมชาติอังกฤษก็ว่าได้ ด้งนี้
           แพ้สหรัฐอเมริกา 0-1 ฟุตบอลโลก 1950 อังกฤษวันนั้นเต็มไปด้วยสตาร์อย่าง สแตนลีย์ แมททิวส์, ทอมฟินนี่์, บิลลี่ ไรท์ ขณะที่แข้งอเมริกันเป็นนักเตะรดับสมัครเล่นล้วนๆ บุรุษไปรษณีย์ สัปเหรือ และหลากหลายอาชีพ แต่อังกฤษทำใด้แคครองบอลมากว่า ยิงชนเสา ซัดชนคาม ก่อนจะโดน โจ เกตเจนส์ นักเตะที่เกิดในเฮติแต่ย้ายมาเล่นฟุตบอลในสหัฐฯ ซัดประตูโทนเป็นประตู่ชัยเข้าให้ ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นความเจ็บปวดของชาวเมืองผุ้ดีอยู่พักใหญ่ เพราะทำเอากังกฤษตกรอบแรกไปโดยปริยาย

              แพ้ฮังการี 3-6 แมตซ์อุ่นเครื่อง ปี 1953 สิงโตคำรามในยุคนั้นไม่เคยแพ้ทีมนอกสหราชอาณาจักรในการเล่นในประเทศตัวเองมาก่อนในประวัติศาสตร์ และต้องมาพบกับฮังการี ในยุคทองที่มี เฟเรนซ์ ปุสกัน และนานดอร์ ฮิเดกดูติ สองกองหน้าตำนานของประเทศเล่นอยู่ และความพ่ายแพ้คาบ้านกับทีมนอกสหราชอาณาจักร ก็เกิดขึ้น อิเดกดูติซัดแฮตทริก ฮังการีถล่มยับ 6-3 ก่อนจะบุกไปพ่านทีมของปัสกัสบ้างในปีถัดมาที่บูดาเปสต์ สกอร์ก็เบาๆ ฮังการีชนะ 7-1

              แพ้นอร์เวย์ 1-2 ฟุตบอลโลก 1982 รอบคัดเลือก ออกไปแพ้นอร์เวย์ที่กรุงออสโลแบบสุดช็อก 1-2 ทั้งๆ ที่ทีมจากสแกนดิเนเวียจบบ๊วยของกลุ่ม และถ้าดุชื่อชั้นักเตะอังกฤษในวันนั้น ไบรอัน ร๊อบสัน, เควิน คีแกน, เกล็น ฮอดเดิ้ล จากความเจ๋งของฝีเท้าแล้ว ย่อมเป็นอะไรที่เสียหน้าเป็นอย่างมาก

             แพ้ ไอร์แลนด์ 0-1 ยูโร 1988 บ๊อบบี้ รอบสัน นำทัพนักเตะอังกฤษไปลุยยูโรอย่าางมั่นใจ ปีเตอร์ ชิลตัน ประตูมือหนึ่ง แกรี ลินิเกอร์ ยืนคู้หน้ากับ ปีเตอร เบียดสลีย์ ตรงกลาง มีจอห์น บาร์นส์ และ คริส วอดเดเติ้ล แต่ประเดิมแพ้ไอรแลน์ 0-1 ด้วยผลงานของ เรย์ เฮาตัน เปิดหัวยูโรได้อย่างเจ็บปวด ก่อนจะแพ้เนเธอร์แลนด์ 1-3 ฟ่าย โซเวียต 1-3 ตกรอบแตรแบบแพ้รวด


              แพ้โครเอเชีย 2-3 ยูโร 2008 รอบคัดเลือก ค่ำคืนท่เวมบลย์ ืนท่อังกฤษต้องคว้าชัยชนะเพื่อผ่านเข้ารอบสุดท้ายยูโร 2008 ให้ได้ เพราะก่อนหน้านี้แพ้โครเอชียและ รัสเซีย ในเกมเยือนมาแล้ว แถมทำได้แค่เสมอ มาซิโดเนีย ทีมรองบ่อนอย่างไร้สกอร์ นิโก้ ครันจ์การ์ และ อิวิก้า โอลิซ ยิงให้โครเอเชียนำ 2-0 ตั้งแต่ 15 นาทีแรก แม้ว่า แฟรก์ แลมพาร์ด และ ปีเตอร์ เคร้าช์ จะยิงตีเสมอ 2-2 ได้ แตกลับมาโดน มลาเคนเปทริช ยิงประตู่ชัยท้ายเกมให้ทีมตาหมากรุกชนะไป 3-2 สิงโตไม่้ไปคำรามในยูโร 2008 ปีนั้นเป็นปีที่ยู่โรเงียบเหงาไปไม่น้อยเลยที่เดียว...

             https://www.matichon.co.th/news/193121

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2561

Switzerland Tackle

           สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีนโยบายเป็นกลางในทุกๆ ด้านั้น กลายเป็นฐานที่มั กายเป็นเกราะป้งกัน สำหรับบรรดา ไทุรชน" ใวงการกีฒาระดัโลก ในอีกด้านหนึงอย่างคาดไม่ถึง
           เพราะสิวตเชอร์แลน เป็ฯสูนย์กลางที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสหพันธ์กีฬโลก องค์กรกีฬาระดับโลก จำนวนมาก ทำให้กฎหมายสวิส กลายเป็น "กฎหมาย" สำหรับสหพันธ์กีฬาโลก และองค์กรกีฬาระดับโลกดังกล่าว จึงทำให้ต้องทบทวนตัวเอง เพื่อปรับปรุง แก้ไขกฎหมายต่างๆ ของตนเองให้มีความทนสมัย และคล่อตัวมากขึ้น สำหรับการร่วมมือในการป้องกัน ปาบปรามการทุจริตและปรพฤ๖ิมิชอบในวงการกีฬาระดับโลก
           ท่ามกลางข่าวคราวอื้อฉาวของวงการกีฬโลก เกี่ยวกับการทุจริต ประพฤติมิชอบ การฉ้อฉลและฉ้อโกง การติดสินบน การสมยมอในกาแข่งขันฯ โดยเฉพาะกรณีความไม่ชอบมาพากลอง สหพันธ์กีฬาโลก หรือองค์กรกีฬาระดับโลก ที่ยังไมีมีกำหมายสากลใดๆ สามารถเข้าไปจัดการขั้นเด็ดขาดได้อย่างเป้นรูปธรรม เพราะมีเงื่องำของธรรมนูญ ข้อบังคับ หรือกติกาแห่งองค์กรนั้นไ เป็นเหราะป้องกัน รวมทั้งข้ออ้างอันศักดิ์สิทธิที่ว่า "กีฬา..ต้องเป็นอิสระจากการเมือง" หรือ "การเมือง..ต้องไปม่แทรกแซงกีฬา" ตลอดเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา
       
จากเงื่อนไขดังกล่าว จึงถูกกพดันจากหนวงงานภาครัฐระดับชาติและระดับนานาชาติมากขึ้จตามลำดบ เพื่อให้มีการใช้ กฎหมายสากล เข้าไปดำเนินการให้เกิดความกระจ่าง และอไนวยความยุติธรรม ให้กับทุกฝ่ายที่เีก่ยวข้องไดอย่างเป็นรูปธรรม แท้จริงมากขึ้น กฎหมายที่ว่าคื อกำฆมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายอาญา กฎหมายพิเศษเฉพาะตลอดจนสนธิสัญญา หือขอ้อตกลงร่วม อนมีสถานเสมือกนึ่งเป็น "กฎหมาย" ที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติอย่างเป็นทางการ นอกจานี้ รัฐสภายุโรป (อีพี) ของ อียู ที่เคลื่อนไหวอย่่างจริงจัง ในการขอร้องแกมบังคับ ถึงขึ้นลงมติให้ชาติสมาชิกทุกประเทศ ออกกฎหมายเพื่อป้องกันและปาบปราม การประพฤติมิชอบในวงการกีฬาทุกรุปแบบ ทุกแขนง และทุกชชนิด
           รัฐบาลกลาง "สวิตเซอร์แลนด์" มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ดำเนินการปรับปรุงกฎหมาย ขข้อบังคัย และวิธีการปฏิบัติของภาครัฐ เพ่อให้ใช้กฎหมายสากล เข้าไปจัดการกับการประพฤติมิชอบด้านกีฬาต่างๆ เป็นการใช้กฏหมายทุกฉบับ ทุกชนิด ของสวิตซ์ ที่มีเขตอำนาจอย่างชอบธรรม เพื่อให้องค์กรกีฬาทุกแห่ง ซึ่งมีถ่ินฐานและสนักงานอยู่ใน สวิตเซอร์แลนด์ ต้องยอมรับและปฏิบัติตามโดยไม่มข้อยกเว้น ไม่มีสิทธิ์พิเศษใดๆ อีกต่อไป
           ที่ผ่านมา สวิตเชอร์แลนด์ เป็นดินแดนในฝันขององค์กรกีฬาระดับโลก เพราะเป็นถ่ินฐานที่อยู่ที่มีสิทธิทางกฎหมาย สิทธิทางการเงิน การคลัง และสิทะิทางภาษี เือ้ประโยชน์ให้เป็นกรณีพิเศษ อย่างเป็ฯรูปธรรมยิ่งนัก โดยเฉพาะสิทธิทางกฎหมายนั้น องค์กรกีฬาทุกแห่งสามารถใช้ข้อบังคัยของตัวเองเป็นหลักในการแก้ปัญหา หรือความขัดแย้งต่างๆ ได้เอง โดยไม่ต้องใช้กฎหมาของสวิสซืเข้าไปดำเนินการแต่อย่างใด
            นอกจากนี้ แต่ละเขตปกครองของ สวิตซ์ ยังมีกฎหมายท้องถ่ินของตนเองเป็นการเฉพาะอีกด้วย เอื้อประโยชน์ให้กับองค์กรกีฬาระดับโลก่างๆ เพ่ิมขึ้นอีส่วนนหนึ่ง สวิตซ์ จึงกลายเป็ฯศูนย์กลางกีฬาโลก เพราะกลายเป็นที่ต้งสำนักงานใหญ่ขององค์กรกีฬขั้นนำระดับโลกมากมายหลายสิบแห่ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว
         
ด้วยสิทะิพิเศษดังกล่าวเมื่องค์กรกีฬาหรือสหพันะ์กีฬาที่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ เกิดปัญหาคอรัปชั้นระดับดลก ขึ้นมา กฎหมายสวิตซ์ จะไม่สามารถเข้าไปจัดการได้เลย จนกว่าองค์กรหรือสหพันะ์เหล่านั้น จะเป็นฝ่ายนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาลสวิตซ์ เท่านั้นเอง
             ความอื้แาวของการทุจริตใ "ฟีฟ่า" และความเลวร้ายของการติดสินบน "ล้มบอล" ที่มีแก๊งค์อาชญากรรระับโลกเกี่ยวข้องและบงการอยู่เบื้องหลังจั้น จึงทำให้สวิตซื ถูกท้าทายทางจริยธรรม คุณธรม และอำนาจตามกฎหมายสกลมากขึ้นทุกที อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน เพราะมไ่มีใครหรืองค์กรใดๆ หรือรัฐบาลชาติใดๆ ที่สามารถทำให้ "ฟีฟ่า" ต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกรณี "ล้มอบไ และกรณีทุจริตอื้อฉาวต่างๆ ออกมาสู่สาธารณชน เพื่อขยายผลไปสู่การกวาดล้างตามกฎหมายได้อย่างเป็นรูปธรรม แท้จริง จึงเป็นที่มาของ มาตรการ "รุกฆาต" ทางด้านกฎหมายของรัฐบาลกลางแห่ง สวิตเซรอืแลนด์ในที่สุด
            ...http://www.sportclassic.in.th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-9/

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2561

Italy Intercept..

          ฟีฟ่า เผย มีแก๊งมาเฟียตั้งบริษัท บังหน้าทำธุรกิจล้บอลกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เผยมี 1 สโมสรใหญ่เข้าข่าย
          สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้จัการสัมมนาฟุตบอลระดับโฃลก "ช็อกเก้อร์-เอ็กซ์" ที่เมืองแมนเชสเตอร์ อังกฤษ โดยมีการเปิดประเด็น้อนแรงของขบวนการ ล้มบอล สะท้อนโลกอย่างเป็นทางการ โดยนย จอห์น แอ็บบ็อท ตัวแทนจากตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีหลักฐานยืนยันตามกฎหมายเป็นทางการแล้วว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีการว่าจ้าง ล้มบอล เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลกว่า 60-80 ประเทศ ทั่วดลก อดีตตำรวจสากลกล่าวต่อว่า จากการสืบสวนและจับกุมภายใต้โครงการกวาดล้างการล้มบอลชองฟีฟ่า และอินเตอร์โพลั้น พบว่า มีชบวนการอาชญากรรมข้ามชาติระดับโลก หรือแก็งมาเฟีย 5 ขบวนการใหญ่ระดับโลกจาก สาธารณรัฐประชนจีน, รัสเซีย, กลุ่มบอลข่าน, สหรัฐอเมริกา และอิตาลี ลงุทนทำธุรกิจมืดในวงการกีฬา โดยเแพาะวงการฟุตบอล ด้วยการว่าจ้างติดสินบน เพื่อให้มีการล้มบอลเกิดขึ้น ซึ่งมีเงินหมุนเวียนมากมายมหาศาล
         http://www.now26.tv/mobile/view/21728/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5.html
นอกจากนี้ อินเตอร์โพล ยังมีหลักฐนยืนยันชัดเจนว่า แก๊งอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ ก้าวหน้าถึงชั้นตั้งบริษัทบังหน้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลอาชีพ เพื่อทำธุรกิจมด เพื่อจัดการล้มบอลได้อย่างแนบเนียนมากขึ้น ถึงจะมีหลักฐานชัดเจนว่า แก๊งอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ ก้าวหน้าถึงขั้นตั้งบริษัทบังหน้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลอาชีพ เพื่อทำธุรกิจมืด เพื่อจัดการล้มบอลได้อย่างแนบเนียนมากขึ้น ถึงจะมีหลลักฐานชัดเจนแต่ก็ยังเปิดเผยไม่ได้ว่า เป็นสโมสรฟุตบอบใด ในชาติใด เพรียงแตยืนยันได้แน่นอนว่ มีอย่างน้อย 1 สโมสรหใหญ่แล้ว..
            ฟุตบอลลีก อิตาลี ต้นฉบับอื้อฉาวล้มบอลในวงการลูกหนัง การล้มบอล หรือล็อคผลการแข่งขันในวงการลูกหนัง อดีตที่ผานมามีหลายคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด และรับโทษไปในที่สุดโดยลีกที่มีเรื่องฉาวอย่างต่อเนื่องต้องยกให้ฟุตบอลลีของอิตาลี ซึ่งมีทัั้งลีกสูงสุดของประเทศอย่างกัลโซ่ ซีเรียอา และลีกชั้นรองลงมา ไม่ว่าจะเป็นสโมสรใหญ่เล็กต่างล้วนมีเรื่องการล้มบอลมาเกี่ยวข้องจนเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก
           ยุเวนตุส ยักษ์ใหญ่ของศึกกัลโช่ เยถูกลงโทษปรับตกชั้นพร้อมกับริบแชมป์ 2 ฤดูกาลเมื่อปี 2006 เนื่องจากลูชาโน มอจจี้ บอสใหญ่ของทีมถูกพบว่าพัวพันกับการล้มบอ สุดท้ายศลสังจำคุกไป 5 ปี 4 เพือน ทั้งที่อิตาลีเป็นประเทศท่มีกฎหมายรองรับการล้มบอล และมีโทษหนักแต่กลับมีการล้มบอลลายคดี
          อีกกรณีที่ได้รับโทษจากการล๊อคผลการแข่งขันคือ อันโตนิโอ คอนต์ กุนซือทีมยูเวนตุส ซ่งในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลีสั่งห้ามคุมทัมเป็ฯเวลา 10 เดือน หลังกจากการสบสวนมายาวนาน และถูกตัดสินในที่สุดว่า มีความผิดสมัยคุมทีม เซียน่า ในซีเรีย โดยคอนเต้พัวพันกับการล้มบอลถึง 2 นัด กรณีของคอนเต้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จก็จริง แตเหตุที่เขาถูกตัดสินว่ามีความผิด เพราะไม่สามารถตอบได้ว่าทำไมจึงมีความพยายามเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันhttps://news.thaipbs.or.th/content/137463
          หลังจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) แถลงข่าาวร่วมมือกับ ตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) อย่างเป็นทางการเมือต้นเดือนพฤษภาม 2011 เป็นการยืนยันปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการล้มบอลระดับโลก ทั่วโลก เป็นโครงการต่อเนื่องระยะยาว 10 ปี โดย "ฟีฟ่า" ให้การสนับสนุนงบประมาณ เบื้องต้น 20 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
         
ตุลาคม 2011  "อิตาลี" เป็นชาติแรกของโลก ที่ประกาศตัวเซ็นสัญญาร่วมฝดครงการปราบปรามการล้มบอลกับ "ฟีฟ่า และตำรวจสากล" อย่างเป็นทางการ
             รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอิตาลี เป็นประธานและสักขีพยาน การเซ็นสัญญาร่วมมือกันป้องกันและปราบปรามการล้มบอล ระหว่าง อธิบดีตำรวจของอิตาลีกับ เลาธิการตำรวจสากล
             "...การล้มบอลกลายเป็นอาชญากรรมข้ามขาติระดับโลกไปอย่างสมบูรณืแบบแล้วในขณะนี้เครื่อข่ายอาชญากรจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังโจมตียูโรปอย่างหนักหน่วง ต่อเนื่องด้วยการใช้ธุรกิจการพนันนอกกฎหมายเป็นเครื่องมือ"
             "..นี่ไม่เีพียงจะทำลายวงการกีฬาของโลกดดยส่วนรวมเท่านั้น แต่ถึงมีผลร้ายแรงถึงขันการทำร้ายสังคมและมนุษยชาติอย่างเลวรายโดยตรงอีกด้วย"
             ".. อิตาลีจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการกวาดล้างอาชญากรรมล้มบอลระดบโลกกับตำรวจสกลและฟีฟ่า อย่าางเต็มรูปแบบ ทุกๆ ด้าน และเราดีใจที่เป็นชาตแเรกของโลกท่ตัดสินใเช่นนี้" นั้นคือคำกว่าวของนายมาโรนี่ รมว. มหาไทยของอิตาลีขณะนั้น.
            จากโครงการการร่วมือดังกล่าวนี้ ตำรวจสากล จะขยายเครือข่ายไปถึง อิตาลี เพื่อใช้เป็นฐานบัญชาการและศูนย์กลางปฏิบัติงานในทวีปยุโรป ตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นไป แลขาธิการตำรวจสากลแถลงว่า การได้ อิตาลี มาร่วมมือย่างเต็มูปแบบเช่นนี้ จะทำให้โครงการปราบปรามการล้มบอลของ "ฟีฟ่าและตำรวจสากล" มีความเข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
            ความเคลื่อนไหวของ อิตาลี ในการ่่วมมือกับ "ฟีฟ่าและตำรวจสากล" ครั้งนี้ นอกเหนือความคาดหมายของผุ้สังเกตุการณ์พอสมควร เพราะส่วนใหญ่แล้ว ไม่นึกว่า "อิตาลี" จะกล้าร่วมมืออย่างเต็มตัวขนาดนี้ ถึงขนาดเป็นวาระแห่งชาติ ที่เห็นพ้องกันทุกระดับขกฝ่ายการเมือง ทั้งระดับชาติ ระดับท้องถ่ินได้เป็นอันหนึงอันเดียวกันเช่นนี้
         
ก่อนหน้านี้ เป็นที่รู้กันดีในแวดวงตำรวจ และกีฬา โดยเฉาพะวงการฟุตบอลระดับโลกโดยทั่วไปว่า อิตาลี นั้น คือเมืองหลวงแห่งการพนันฟุตบอล และการล้มบอบของทวีปยุโรปมาโดยตลอด
            อิตาลี คือ ฐานที่มั่นและแหล่งกำเนิดของ "มาเฟีย" ระดับโลกขนานแท้ "มาเฟีย" เผ่าพันธุ์อิตาเลียน ไม่ว่าจะมาจากถ่ินกำเนินเมืองใด เกาะไหนๆ ก็ตาม ล้วนแตทำธุรกิจผิดกำฆมายที่เกี่ยวข้องกับการพันทุกรูปแบบ เป็นด้านหลักเสมอ
          4-5 ทศวรรษก่อนนั้น ฟุตบอลลีกของอิตาเลียนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวว่า มีการติดสินบนว่าจ้างให้มีการล้มบอลกันอย่างใหญ่โต โดยมีขบวนการ "มาเฟีย" ชิชิเลี่ยน จากเกาะชิชิบีเป็นองค์กรบงการ
           3 ทศวรรษก่อนนั้น การว่าจ้างล้มบอลยังเป็นเรื่องประจำของฟุตบอลลีกในอิตาลี และมีการขยายขอบเขตไปถึงขั้น ติดสินบนว่าจ้างให้ทีมสโมสรฟุตบอลของอิตาลี ในการแข่งขันฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์ยุโรป ฯลฯ ถึงขั้น "ซื้อ" แชมป์ยุโรป..
           2 ทศวรรษล่าสุดนั้น การว่าจ้างล้มอบในอิตาลี ยังเข้มข้น ดุเดือนและดุดนมากย่ิงขึ้น  ถึงขั้นมีการเรียกค่าไถ่นักฟุตบอล ผู้ตัดสินไปจนถึงการฆาตกรรมนักฟุตบอลบางคน เป็นการเซ่นสังเวยอำนาจมืดอีกด้วย..http://www.sportclassic.in.th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-5/
         

วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561

UEFA Attacking

         ค.ศ.2011 จากผลงานอันโดดเด่นดดยเฉพาะรเื่อการกวาดล้าง "สินบนและล้มบอล" ดงกล่าว ทำให้พลาตินี่ ได้รับการเลื่อกตั้งเป็นปรธานยูฟ่าสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยไม่มีคู่แข่งขัน พลาตินี่่และยูฟ่า กดดันและผลักดันให้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ต้องออกโรงมาร่วมวงอย่างเต็มตัวในทีุ่สุด
         สหภาพยุโรป (อียู) ตกลงให้ความรวมมือกัน "ยูฟ่า" ในกระบนการสร้างสรรวงการฟุตบอลยุโรปให้ดกว่าเดิมอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีนโยบายหลัก 5 ข้อใหญ่ ซึ่งมีเรื่องของมาตรการ้องกัน ปราบปราม การพนันผิดกฎหมายและการล้มยอ รวมอยู่ด้ย ล่าสุด "ยูฟ่า" กำหนดเป็นข้อบังคั สำหรับผุ้เกี่ยวข้องทุกระดับ ของสโมสรฟุตบอลทุกแห่งทุกขาติที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล แชมเปี่ยนส์ ลัก ฟุตบอลยูโรป้า ลีก ไว้ว่า "ต้อง" ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตาม มาตรการป้องกันและปราบปรามประเพณีมิชอบ โดยเฉาพะเรื่อง "สินบนและล้มบอล" อย่างเคร่งครัด จากมาตรการอันจริงจัง ต่อเนื่องของ พลาตินี่ ในฐานะผู้นำองค์กรลูกหนังยุโรปดังกล่าว จึงมีความคืบหน้าต่อเนื่อง เป็นูปธรรมมากขึ้นตามลำดับ
       28 กันยายน ค.ศ. 2011 กลายเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ของวงการฟุตบอลยุโรป และทวีปยุโรป อย่างเป็นทางการเมื่อท่่ประชุมรัฐสภายุโรป ในเมืองสตราส์บูร์กของฝรั่งเศส ดดยรัฐมนตรีจาก 47 ประเทศของทวีปยุโรป ลงมติให้สัตยาบันร่วมกัน เพื่อยกระดับความร่วมมือของ "มาตรการป้องกันและปราบปราม การล้มบอล รวมทั้งการสมยอมทางการกีฬา"ทุกชนิด ทุกรูปแบบ ให้เป็นแนวทางกฎหมายระดับชาติ และระดับทวีป อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อไป
       
 เป็นการผลักดันให้ทุกประเทศในทวีปยุโรป ออกกฎหมายใหม่เฉพาะคือ กฎหมายล้มบอล และหรือ กฎหมายสมยอมทางการกีฬา ออกมาบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
           จากแนวทางดังกล่าว ถือเสมือนว่า การล้มบอล และ/หรือ การสมยอมทางการกีฬา นั้น เป็นการทำผิดกฎหมายอาญา และเป็นอาชญากรรมอีกแขนงหนึ่ง ดังนั้น จึงมีคำเสนอแนะในแง่มุมต่างๆ อย่างครบวงจร เพื่อประกอบการบังคัใช้กฎหมาย และการปฏิบัติที่เกี่นวข้องด้านต่างๆ ตอไป
          มิเชล พลาตินี่ แถลงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในรัฐสภายุโรป ที่เมืองสตารส์บูร์ก ฝรั่งเศส
         "..ผมขอบพระคุณฝ่ายการเมือง และนักการเมืองุกท่าน ที่เข้าใจและตระกนักในความสำคัญของเรื่องนี้ และเล็งเห็นภัยของการล้มบอล หรือการสมยอมทางการกีฬาทุกชนิดว่า เป็นมหนัตภัยอันร้ายแรงของวงการกีฬายุโรป และทวีปยุโรปในขณะนี้"
        นั่นเป็นคำกล่าวเร่ิมต้นของพลาตินี่ ที่ยกตัวเลขประกอบความน่าสะพรึงกลัวให้ทุกคนตระหนักอีกครั้งหนึ่ง ว่า
         ยูฟ่า มีสมาชิกทั้งหมด 51 ประเทศ มีการแข่งขันฟุตบอลลีกของทุกชาติ รวมกันแล้ว เฉลี่ยปีละ 29,000 นัด ขึ้นไป มีการแข่งขันฟุตบอลลีกระดับทวีปยุโรปอีก รวมกันแล้วเฉี่ยปีละ 1,800 นัดขึ้นไป การแข่งขันฟุตบอลลีกของทุกขาตินั้น ปรากฎว่า ในกระดับรองหรือต่ำลงไปนั้น มีการล้มยอลเกิดขึ้นทุกลคก ไม่น้อยกว่า 55% ของการแข่งขัน
          ถึงวันนี้ ปรากฎหลักฐานยืนยันว่า มีลีกสูงสุดหรือดิวิชั่น 1 ของ 3 ชาติเป็นอย่างน้อย ที่มีการล้มบอลเกิดขึ้นมากกว่า 75% แล้ว
          " การล้มบอลแพร่หลายอย่างรวดเร็ว มีการพนันออนไลน์เป็นเครื่องมือสนับสนุนและส่งเสริมอันร้ายกาจ จนยากจะหาวิธีการใดๆ มายับยั้งได้โดยง่ายอีกต่อไปแล้ว" พลาตินี่ยืนยันว่า ทุกวันนี้ ไม่มีฟุตบอลลีกของชาติใดในทวีปยุโรป ที่ไม่มีการล้มบอลอีกต่อไปแล้ว และเป้าหมายสูงสุดของขบวนการล้มบอล นขณะนี้คือ ..ลีกสูงสุดของทุกขาติในทวีปยุโรป ดดยเฉาพะลีกยุดรปที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก!!
       
พลาตินี่บอกว่า วงเงินหมุนเวียนของ การล้มบอล ในทวีปยุโรปขณะนี้ มากมายเกินกว่าจะประเมินได้จริงๆ พลาตินี่ประกาศว่า รัฐบาบของ 6 ชาติประกอบด้วย อิตาลี, โปรตุเกส, สเปน, เครือจักรภพ, อังกฤษ, บับแกเรีย, โปแลนด์ ดำเนินมาตาการตามกระบวนการยุติธรรม ด้วยการประกาศกฎหมายล้มบอล ออกมาบังคับใช้โดยตรงแล้ว ขณะที่อีกหลายชาติก็ออกกฎหมายคล้ายกัน คือ กฎหมายสมยอมทางการกีา ออกมาบังคับใช้แล้วอีกด้วย
        เป็นความเคลื่อนไหว ที่สอดคล้องต่อเนื่องหลังจากที่ประชุม รัฐสภาเยอมนี ลงมติเมื่อเดือน สิงหาคม 2011 ให้คณะกรรมาธิการการกีฬา รัฐสภาเยอรมนีดำเนินการกำหนดมาตการและวิธีการทุกอย่างในระดับนธยบาย และระดับปฏิบัติการทั้งปวง เพื่อป้องกันและปราบปรามการล้มบอล รวมท้ง การคอรัปี่น หรือการทุจริต ฉ้อฉลในวงการกีฬาอย่างเป็นทางการให้ถีงที่สุดต่อไป
         นี่คือ ผลงานตอยอดของทางการ เยอรมนี หลังจากสมารถจัดการเด็ดขั้ว ขบวนการล้มบอลของทวีปยุโรปได้เป็นประเดิมาแล้วเปลาะหนึ่ง
          จากนั้น เยอรมนี ก็ผลักดันมาตรการกฎหมายทุกอย่าง เพื่อกวาดล้าง การล้มบอล และการสมยอมทางการกีฬา อย่างเด็ขาด รวมทั้งการขยายขอบเขตไปสู่การปกิบัติการใหม่ เพื่อกดดัน และผลักดันให้ "องค์กรกีฬา" ระดับชาติ ระดับนานาชาติ และระดับโลก ให้มีธรรมาภิบาล โปร่งใส และยุติธรรม ปราศจากการทุจริตฉ้อฉล ชนิดที่สามารถพิสูจน์ได้โดยง่ายต่อสาธารณชน
           นี่คือปฐมบทแบบเป้นทางการของ ทวีปยุโรป ก่อนจะผลิตออกผลมาเป็นปฏิบัติการ "วีโต้" ของตำรวจสหภาพยุโรป หรือ "ยูโรโพล" ที่ส่งผลสะท้อนไปทั่วโลกในเวลาต่อมา
            ปฎิบัติการ "วีโต้" ดังกล่าว ใช้เวลา 18 เดือน จากเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011- มกราคม 2013

      ค.ศ.2013 ปฏิบัติการดังกล่าวขยายขอบเขตไปสู่ภาคปฏิบัติกันอย่างเป็นรูปธรรม จริงจัง ต่อเนื่อง ล่าสุด คือ การร่วมมือของ "ยูฟ่า" กับ ตำรวจยุโรป (ยูโรโพล) ที่ผลิดอกออกผลมาจนสะท้านไปทั้งโลก เมื่อ "ยูโรโพลล" แถลงข่าวเป็นทางการที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 ที่ผ่านมาว่า จากการสืบสวนและสอบสวนในรอบ 18 เพือน มีหลักฐานเป็นรูปธรรมว่า มีกรณีและคดี "ล้มบอล" เกิดขึ้น ทั้งหมด 680 นัด แยกเป็น 380 นัดในทวีปยุโรป และอีก 300 นัดกระจายไปในทวีปเอเชีย แอฟริกา อเมริกากลาง อเมริกาใต้
        เฉพาะในทวีปยุโรปนั้น มี "ล้มบอล" ในฟุตบอลลีกระดับชาติ รวมทั้งฟุตบอลลีกของ "ยูฟ่า" ตลอดจนฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติ ทวีปยุโรป และฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ 15 ประเทศ จับกุมผู้ต้องหาได้ 425 คน ซึ่งประกอบด้ยนักฟุตบอล ผุ้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน เจ้าหน้าที่ทีม ผุ้บริหารสโมสร และอาชญากร ฯลฯ..http://www.sportclassic.in.th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-4/

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561

Betting Fraud Detection System / Bfds

          ยูฟ่า และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมกับตัวแทน สหภาพยุโรป (อียู) และรัฐสภายุโรป (อีพี) แล้วลงมติเป็นหลัการร่วมกันว่า การแข่งขันกีฬาทุกรายการนั้น ถือป็นทรัพย์สินขององค์กรผู้รับผิดชอบ และมีลิขสิทธิ์ด้านผลปรุโยชน์ตามกฎหมายสากลทุกประการ ดังนั้นกาารละเมิด ฝ่าฝืนในรูปแบบต่างๆ จึงเป็นการผิดกฎหมาย รวมทั้งการจัดการพนันโดยอาศัยการแข่งขันรายการต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ จึงเป้นการผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน
           จากนั้น "ยูฟ่า" ก็ขอความร่วมมือเป็นทางกรไปยังสมาคมฟุตบอล 53 ประเทศสมาชิกในทววีปยุโรป ให้รับมือับการประพฤติมิชอบในวงการฟุตบอลดังกล่าย โดยถือเป็นภาระกิจสำคญระดับ "วาะ" แห่งชาติ แห่งทวีป ร่วมกัน
          ปี 2009  "ยูหฟ่า" จัดตั้ง"ระบบป้องกันการพนันผิดกฎหมาย" และการล้มบอล อันเป็นงานสร้างสรรของเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อเฝ้าระวังการแข่งขันฟุตบอลไม่น้อยกว่า 29,000 แมตช์ ในทุกลีกสูงสุดอันดับ 1-2 ของ 53 ชาติสมาชิกในทวีปยุโรปรวมทั้งทุกนัด ทุกรายการแข่งขันของ "ยูฟ่า" เอง
          ระบบป้องกันการพนันผิดกฎหมาย และการล้มบอล เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ออกแบบพิเศษเฉพาะ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว ความเป็นไป ความเปลี่ยนแปลง ของการพนันระบบปกติและระบบออนไลน์ ทุก่อน ทุกเวบไซต์ ทุกชาติ ทุกภาษา โดยเฉพาะ่อนผิดกฎหมาย จะถูกเฝ้าระวัง และจับตามากเป็นพิเศษ
       
 อัตราการต่อรอง ปริมาณการเล่นได้เสีย การเปลี่ยนแปลงของราคาต่อรอง และจำนวนเงินการเล่นได้เสีย ของ "แมตซ์" เป้าหมาย ทุกแมตซ์ จะถูกตรวจสอบขยายยผลในขั้นตอนต่อไป ปฏิบัติการเฝ้าระวังปรากฎผลงานอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นเรื่อยๆ มี "ผล" การแข่งขันฟุตบอลยุโรปหลายัด หลายรายการ มีความผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ มีปรากฎการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น กับนักฟุตบอล กับผู้ตัดสิน กับเจ้าหน้าที่ทีมและสโมสรต่างอย่างแพร่หลาย
           เวลาเดียวกัน หน่วยงานทางการ เยอรมนี โดยตำรวจและอัยการ ทำการจับกุมผุ้ต้องหาว่าจ้าง "ล้มบอล" และขยายผลจนได้หลักฐานว่า มีการกระทำกันเป็นขบวนการข้ามชาติ "ยูฟ่า" จึงประชุมร่วมกับสมาคมฟุตบอลและหน่วยงานกฎหมายของ 9 ชาติ ในยุโรป เพื่อขยายผลต่อเนื่องจากคดีล้มบอล
           ปี 2010 ยูฟ่า ขยายขอบเขตการทำงานของระบบอ้ปงกัน Bfad จากระดับทวีป ไปสู่ระดับโลก "นี่คือ ปัญหาร้ายแรงที่สุดของวงการฟุตลอลในขณะนี้ เราจะทำเป็นเล่นไม่ได้โดยเด็ดขาด" "ระบบป้องกันของเรา จะเฝ้าระวังการพนันผิดกฎหมายไปทั่วทุกมุมโลกก็ตาม"
         พลาตินี่ยืนยันว่า ผุ้กระทำความผิด"ล้มบอล" นั่น ต้องถูกลงโทษอย่างถึงที่สุด ด้วยการห้ามข้องเกี่ยวกับวงการฟุตบอลไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอล ผุ้ตัดสิน เจ้าหน้าที่ทีม หรือผู้บิรหารทีมทุกระดับ
          "ยูฟ่า" จึงสั่งการให้คณะกรรมการทุกฝ่าย ร่วมมือสนธิกำลังกัน ทำการป้องกันและปราบปรามการประพฤติมิชอบ หรือ "ล้มบอล" อย่างเป็นแบบแผน อันหนึ่งอันเดียวกัน
           "ยูฟ่า" ดดยคณะกรรมการฝ่ายมารยาทและวินัย, ฝ่ายรัการความปลอภัย จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง "สินบน และล้มบอล" ให้เจ้าหน้าที่และนักฟุตบอลของทุกทีม ทุกชาติที่เข้ารวมแข่งขัน นับจากนันเป็นต้นมา จึงถือเป็นประเพณีปฏิบัติ ในกาสัมนาเรื่อง "สิบน และล้มบอล" สำหรับนักฟุตบอล,ผู้ฝึกสอน,ผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่ทีม ในการแข่งขันของ "ยูฟ่า" ทุกรายการ
           คณะกรรมการฝ่ายผู้ตัดสินของ "ยูฟ่า" ซึ่งมี ปีแอร์ลุยจิ คอล์ลีน่า แห่งอิตาลีเป็นประธาน จัดทำแผนปฏิบัติงานทุกด้านของปผุ้ตัดสินฟุตบอล เพื่อป้องกันมิให้ข้องเกี่ยวกับ "สินบน และล้มบอล" อย่างเด็ดขาด
         
 สภายุทธศาสตร์ฟุตบอลอาชีพแห่งยุโรป หน่วยงานของ "ยูฟ่า" ซึ่งเป็นองค์กรรับผิดขอลฟุตบอลอาชีพแห่งทวีปยุโรป ลงมติรับเรื่อง "สินบลและล้มบอล" เป็นวาระเร่งด่วน สำคคัญเป็นอันดับหนึ่ง
           ด้วยการกำหนดให้สมาคมฟุตบอล สโมสรฟุตบอลอาชีพ ฟุตบอลลีก สหภาพแรงงานักฟุตบอล ระับชาติและระดับทวีป ทุกแห่งร่วมมือกนป้องกัน ปราบปรามการประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะเรื่อง ของ "สินบน และล้มบอล" เป็นวาระเร่งด่วนต่อเนื่อง
            ด้วยการรณรงค์เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ ของทุกชาติให้ความสำคัญในการใบ้กฎหมาย เพื่อกวาดล้าง "สินบนและล้มบอล" และการประพฤติมิชอยบในวงการฟุตบอลทุกรูปแบบ อย่างเป็นรูปธรรม อย่างจริงจังhttp://www.sportclassic.in.th/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-2/

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

'match fixing... just like that

            วงการฟุตบอลยุโรปนั้น เสมือนหนึ่งเป็นเมืองหลวงของวงการฟุตบอลโลกยังไงยั้งงั้น นอกจากเป้นที่ต้องของ อังกฤษ ชนชาติต้นกำเนิดกีฬาฟุตบอลยุคปัจจุบันแล้ว โควตา ของทวีปยุโรปที่ได้ิทธเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกทุกครั้งนั้นมากกว่าทวีปอื่นๆ มาโดยตลอด
           เป็นที่ยอมรับกันมานานแล้วว่า วงการฟุตบอลยุโรปนั้น มีกรณีการติดสินบนว่าจ้าง "ล้มบอล" เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มานานหลายทศวรรษแล้ว
           ในห้วงทศวรรษ 1970 -80 นั้น วงการฟุตบอลอังกฤษ เป็นข่าวอือฮา เมื่อมีการว่าจ้าง "ล้มบอล" ในฟุตบอลลีก ดิวิชัน 1 ของอังกฤษ
           วงการฟุตบอลอิตาลีก็มีรายการ "ล้มบอล" เกิดขึ้นในฟุตบอลซีรีส์ อา ฯลฯ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ฯลฯ
           ทั้งหมดนั้น "เซียน" พนัน จากทวีปเอเชีย ล้วนแต่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันจนถึงขั้นตกเป็น ผุ้
ต้องหา กันมานักแล้ว ห้วยทศวรรษท 1990  ความต่อเนื่องของกรร๊  "ล้มบอล" ในทวีปยุโรป ยังมีอย่างต่อเนื่อง การล่มสลายของ สหภาพโซเวียต เมื่อ ค.ศ. 1991 นันว่ากันว่า ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อบรรดา "มาเฟียไ หรือผุ้มีอิทธิพลหลังม่านเหล็กทั้งหลาย เร่ิมแผ่ขยายอาณาจักรและกิจการออกมาสู่โลกเสรีมากขึ้น "มาเฟีย" หลังม่านเหล็ก เริ่มหันมาสู่ ธุรกิจ "มืด" ในวงการกีฬายุโรป โดยเฉพาะวงการฟุตบอลยุโรป เพราะถือเป็นตลาดใหญ่ไร้พรมแดนมากขึ้นเรื่อยๆ ธรุกิจ "มืด" ที่ว่ารั้น เป็นการ "ฟอกเงิน" ด้วยการลงทุนกีฬาอาชีพต่างๆ รวมทั้งกิจการพนันกีฬาทุกรูปแบบ ทุกชนิด
          จึงไม่แปลกเลยที่ ธุรกิจ "มืด" ดังกล่าว จะก้าวสู่การพนันฟุตบอล จนถึงการติดสินบนว่าจ้าง "ล้มบอล" เหมือนกับการว่าจ้างให้มีรายการ "ล้มบอล" ในกีฬาชนิดอื่นๆ อีกเขช่นกัน
           ยุคนี้นี้เองที่ว่ากันว่า เป็นยุแค่งการเชื่อมต่อหรือร่วมทุนกันของ "เจ้าพ่อ" หรือ "ขาใหญ่" ของวงการนอกกฎหมาย จากทวีปเอเชียและยุโรป จากแต่ละชาติ แต่ละแก๊งก๊วน ร่วมเป็นเครือข่าย เป็นพันธมิตรต่อกันและกัน
       
  ..ค.ศ. 2000 คือ การเริ่มต้นสหัสวรรษใหม่ วงการฟุตบอลยุดรปเร่ิมี "ผล" กาแข่งขันผิดปกติมากมายขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจการพนันกีฬา โดยเแพาะการพนันฟุตบอลของย่อนถูกต้องตามกฎหมายในทวีปยุโรปนั้น เป็นรายได้ทำเงินกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้เกิดยอนการพนันผิดกฎหาย หรอ "บ่อนเถื่อน" เกิดขึ้นมาเป็นเงาตามตัว ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ธุรกิจบ่อนพนันก้าวหน้าตามไปด้วย นั่นคือที่มาของบ่อนพนัน "ออนไลน์" ทั้งถุกกฎหมาย ทั้งผิดกฎหมายจำนนมากมายยิ่งนัก
           ธุรกิจการพนันกีฬา โดยเฉพาะธุรกิจการพนันฟุตบอล จึงกลายเป็นธุรกิจระดับโลก ที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนจากทุกมุมโลก มากมายมหาศาลจนประเมินค่ามิได้ ในเวลาต่อมา เม็ดเงินมหาศาลจากวงจรการพนันดังกล่าว จึงทำให้ "เช้อชั่ว" ของรายการ "ล้มบอล" เจริญเติบโต แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว
             สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งยุโรป (ยูฟ่า) ตื่นตัวรับมือกับ วิกฤติการณ์ "ล้มบอล" อยางเป็นทางการ ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2008 เป็นต้นมา "นโปเลียนลูกหนัง" มิเชล พลาตินี อดีตวีรบุรุษฟุตบอลแห่งฝรั่งเศส ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานยูฟ่าสมัยแรก มีเทอมบริหารงาน 4 ปี.. พลาตินี้ได้รับรายงานผลการจับตาติดตามพฤติกรรมผิดปกติในวงการฟุตบอลยุโรป จากฝ่ายปฏิบัติการของ "ยูฟ่า" ตั้งแต่ ค.ศ. 2005 เป็นต้นมา พบว่ มีความปิดปกติใน "ผล" การแข่งขันฟุตบอลยุโรป และฟุตบอลนานาชาติเป็นจำนวนมาก
           ในปีแรกของการรับตำแน่งประะานยูฟ่า มิเชล พลาตินี จึงเริ่มงานใหญ่ ด้วยการประกาศนดยบายสำคัญ เพ่อรับมือกับความผิดปกติทั้งหลย ทั้งปวง "ยูฟ่า" ร่วมมือกับองค์กรกีฬาระดับสากล และองค์กรที่เป็นเจ้าของลิขสิทธ์กัฬานานาชาติ ในหลายชนิดกีฬา เช่น บาสเกตบอล คริกเก็ต ฟุตบอล แข่งม้า ..เป็นต้น
             เป็นการร่่วมมือ ระดมสมอง หาทางป้องกัน ปราบปราม การพนัน "ออนไลน์" แบบผิดกฎหมาย รวมทั้งการว่าจ้าง ติดสินบน เพื่อให้มีการสมยอมในเกม หรือ "ล้มเกม" หรือกำหนดผลการแข่งขันล่วงหน้า
         
  ธันวา ปีเดียวกัน "ยูฟ่า" และองค์การเกี่ยวข้องร่วมประชุมกับตัวแทนสหภาพยุโรป (อียู) และรับสภายุโรป (อีพี) แล้วลงมติเป็นหลัการ่่วมกันว่า การแข่งขันกีฬาุกรายการนั้น ถือเป็นทรัพย์สินขององค์กรผุ้รับผิดชอบและมีลิขสิทธ์ด้านผลประโยชน์ตามกฎหมายสากลทุกประการ ดังนั้น การละเมิดฝ่าฝืนในรูปแบบต่างๆ จึงเป็นการผิดกฎหมายรวมทั้ง การจัดการพนันโดยอาศัยการแข่งขันรายการต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ จึงเป็นการผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน
            ดังน้น การติดสินบน ว่าจ้าง ให้มีการสมยอม รหือกำหนดผลการแข่งขันลวงหน้า หรือ "ล้มเกม" จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน หรือผุ้บริโภคขั้นอุกฉกรรจ์ ตลอดจนทำให้ทรัพย์สินผุ้อื่นเสียหายร้ายแรงอีกด้วย
           ด้วยเหตุนี้ ทุกฝ่ายจึงต้องมีการร่วมมือกัน ป้องกัน ปราบปราม จับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแพ่ง และกฎหมายอาญา ต่อไปจนถึงที่สุด http://www.sportclassic.in.th/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-2/

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...