Italy Intercept..

          ฟีฟ่า เผย มีแก๊งมาเฟียตั้งบริษัท บังหน้าทำธุรกิจล้บอลกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เผยมี 1 สโมสรใหญ่เข้าข่าย
          สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้จัการสัมมนาฟุตบอลระดับโฃลก "ช็อกเก้อร์-เอ็กซ์" ที่เมืองแมนเชสเตอร์ อังกฤษ โดยมีการเปิดประเด็น้อนแรงของขบวนการ ล้มบอล สะท้อนโลกอย่างเป็นทางการ โดยนย จอห์น แอ็บบ็อท ตัวแทนจากตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีหลักฐานยืนยันตามกฎหมายเป็นทางการแล้วว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีการว่าจ้าง ล้มบอล เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลกว่า 60-80 ประเทศ ทั่วดลก อดีตตำรวจสากลกล่าวต่อว่า จากการสืบสวนและจับกุมภายใต้โครงการกวาดล้างการล้มบอลชองฟีฟ่า และอินเตอร์โพลั้น พบว่า มีชบวนการอาชญากรรมข้ามชาติระดับโลก หรือแก็งมาเฟีย 5 ขบวนการใหญ่ระดับโลกจาก สาธารณรัฐประชนจีน, รัสเซีย, กลุ่มบอลข่าน, สหรัฐอเมริกา และอิตาลี ลงุทนทำธุรกิจมืดในวงการกีฬา โดยเแพาะวงการฟุตบอล ด้วยการว่าจ้างติดสินบน เพื่อให้มีการล้มบอลเกิดขึ้น ซึ่งมีเงินหมุนเวียนมากมายมหาศาล
         http://www.now26.tv/mobile/view/21728/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5.html
นอกจากนี้ อินเตอร์โพล ยังมีหลักฐนยืนยันชัดเจนว่า แก๊งอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ ก้าวหน้าถึงชั้นตั้งบริษัทบังหน้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลอาชีพ เพื่อทำธุรกิจมด เพื่อจัดการล้มบอลได้อย่างแนบเนียนมากขึ้น ถึงจะมีหลักฐานชัดเจนว่า แก๊งอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ ก้าวหน้าถึงขั้นตั้งบริษัทบังหน้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลอาชีพ เพื่อทำธุรกิจมืด เพื่อจัดการล้มบอลได้อย่างแนบเนียนมากขึ้น ถึงจะมีหลลักฐานชัดเจนแต่ก็ยังเปิดเผยไม่ได้ว่า เป็นสโมสรฟุตบอบใด ในชาติใด เพรียงแตยืนยันได้แน่นอนว่ มีอย่างน้อย 1 สโมสรหใหญ่แล้ว..
            ฟุตบอลลีก อิตาลี ต้นฉบับอื้อฉาวล้มบอลในวงการลูกหนัง การล้มบอล หรือล็อคผลการแข่งขันในวงการลูกหนัง อดีตที่ผานมามีหลายคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด และรับโทษไปในที่สุดโดยลีกที่มีเรื่องฉาวอย่างต่อเนื่องต้องยกให้ฟุตบอลลีของอิตาลี ซึ่งมีทัั้งลีกสูงสุดของประเทศอย่างกัลโซ่ ซีเรียอา และลีกชั้นรองลงมา ไม่ว่าจะเป็นสโมสรใหญ่เล็กต่างล้วนมีเรื่องการล้มบอลมาเกี่ยวข้องจนเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก
           ยุเวนตุส ยักษ์ใหญ่ของศึกกัลโช่ เยถูกลงโทษปรับตกชั้นพร้อมกับริบแชมป์ 2 ฤดูกาลเมื่อปี 2006 เนื่องจากลูชาโน มอจจี้ บอสใหญ่ของทีมถูกพบว่าพัวพันกับการล้มบอ สุดท้ายศลสังจำคุกไป 5 ปี 4 เพือน ทั้งที่อิตาลีเป็นประเทศท่มีกฎหมายรองรับการล้มบอล และมีโทษหนักแต่กลับมีการล้มบอลลายคดี
          อีกกรณีที่ได้รับโทษจากการล๊อคผลการแข่งขันคือ อันโตนิโอ คอนต์ กุนซือทีมยูเวนตุส ซ่งในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลีสั่งห้ามคุมทัมเป็ฯเวลา 10 เดือน หลังกจากการสบสวนมายาวนาน และถูกตัดสินในที่สุดว่า มีความผิดสมัยคุมทีม เซียน่า ในซีเรีย โดยคอนเต้พัวพันกับการล้มบอลถึง 2 นัด กรณีของคอนเต้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จก็จริง แตเหตุที่เขาถูกตัดสินว่ามีความผิด เพราะไม่สามารถตอบได้ว่าทำไมจึงมีความพยายามเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันhttps://news.thaipbs.or.th/content/137463
          หลังจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) แถลงข่าาวร่วมมือกับ ตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) อย่างเป็นทางการเมือต้นเดือนพฤษภาม 2011 เป็นการยืนยันปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการล้มบอลระดับโลก ทั่วโลก เป็นโครงการต่อเนื่องระยะยาว 10 ปี โดย "ฟีฟ่า" ให้การสนับสนุนงบประมาณ เบื้องต้น 20 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
         
ตุลาคม 2011  "อิตาลี" เป็นชาติแรกของโลก ที่ประกาศตัวเซ็นสัญญาร่วมฝดครงการปราบปรามการล้มบอลกับ "ฟีฟ่า และตำรวจสากล" อย่างเป็นทางการ
             รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอิตาลี เป็นประธานและสักขีพยาน การเซ็นสัญญาร่วมมือกันป้องกันและปราบปรามการล้มบอล ระหว่าง อธิบดีตำรวจของอิตาลีกับ เลาธิการตำรวจสากล
             "...การล้มบอลกลายเป็นอาชญากรรมข้ามขาติระดับโลกไปอย่างสมบูรณืแบบแล้วในขณะนี้เครื่อข่ายอาชญากรจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังโจมตียูโรปอย่างหนักหน่วง ต่อเนื่องด้วยการใช้ธุรกิจการพนันนอกกฎหมายเป็นเครื่องมือ"
             "..นี่ไม่เีพียงจะทำลายวงการกีฬาของโลกดดยส่วนรวมเท่านั้น แต่ถึงมีผลร้ายแรงถึงขันการทำร้ายสังคมและมนุษยชาติอย่างเลวรายโดยตรงอีกด้วย"
             ".. อิตาลีจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการกวาดล้างอาชญากรรมล้มบอลระดบโลกกับตำรวจสกลและฟีฟ่า อย่าางเต็มรูปแบบ ทุกๆ ด้าน และเราดีใจที่เป็นชาตแเรกของโลกท่ตัดสินใเช่นนี้" นั้นคือคำกว่าวของนายมาโรนี่ รมว. มหาไทยของอิตาลีขณะนั้น.
            จากโครงการการร่วมือดังกล่าวนี้ ตำรวจสากล จะขยายเครือข่ายไปถึง อิตาลี เพื่อใช้เป็นฐานบัญชาการและศูนย์กลางปฏิบัติงานในทวีปยุโรป ตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นไป แลขาธิการตำรวจสากลแถลงว่า การได้ อิตาลี มาร่วมมือย่างเต็มูปแบบเช่นนี้ จะทำให้โครงการปราบปรามการล้มบอลของ "ฟีฟ่าและตำรวจสากล" มีความเข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
            ความเคลื่อนไหวของ อิตาลี ในการ่่วมมือกับ "ฟีฟ่าและตำรวจสากล" ครั้งนี้ นอกเหนือความคาดหมายของผุ้สังเกตุการณ์พอสมควร เพราะส่วนใหญ่แล้ว ไม่นึกว่า "อิตาลี" จะกล้าร่วมมืออย่างเต็มตัวขนาดนี้ ถึงขนาดเป็นวาระแห่งชาติ ที่เห็นพ้องกันทุกระดับขกฝ่ายการเมือง ทั้งระดับชาติ ระดับท้องถ่ินได้เป็นอันหนึงอันเดียวกันเช่นนี้
         
ก่อนหน้านี้ เป็นที่รู้กันดีในแวดวงตำรวจ และกีฬา โดยเฉาพะวงการฟุตบอลระดับโลกโดยทั่วไปว่า อิตาลี นั้น คือเมืองหลวงแห่งการพนันฟุตบอล และการล้มบอบของทวีปยุโรปมาโดยตลอด
            อิตาลี คือ ฐานที่มั่นและแหล่งกำเนิดของ "มาเฟีย" ระดับโลกขนานแท้ "มาเฟีย" เผ่าพันธุ์อิตาเลียน ไม่ว่าจะมาจากถ่ินกำเนินเมืองใด เกาะไหนๆ ก็ตาม ล้วนแตทำธุรกิจผิดกำฆมายที่เกี่ยวข้องกับการพันทุกรูปแบบ เป็นด้านหลักเสมอ
          4-5 ทศวรรษก่อนนั้น ฟุตบอลลีกของอิตาเลียนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวว่า มีการติดสินบนว่าจ้างให้มีการล้มบอลกันอย่างใหญ่โต โดยมีขบวนการ "มาเฟีย" ชิชิเลี่ยน จากเกาะชิชิบีเป็นองค์กรบงการ
           3 ทศวรรษก่อนนั้น การว่าจ้างล้มบอลยังเป็นเรื่องประจำของฟุตบอลลีกในอิตาลี และมีการขยายขอบเขตไปถึงขั้น ติดสินบนว่าจ้างให้ทีมสโมสรฟุตบอลของอิตาลี ในการแข่งขันฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์ยุโรป ฯลฯ ถึงขั้น "ซื้อ" แชมป์ยุโรป..
           2 ทศวรรษล่าสุดนั้น การว่าจ้างล้มอบในอิตาลี ยังเข้มข้น ดุเดือนและดุดนมากย่ิงขึ้น  ถึงขั้นมีการเรียกค่าไถ่นักฟุตบอล ผู้ตัดสินไปจนถึงการฆาตกรรมนักฟุตบอลบางคน เป็นการเซ่นสังเวยอำนาจมืดอีกด้วย..http://www.sportclassic.in.th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-5/
         

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)