วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2567

Arizona

          รัฐแอริโซนาเป็นรัฐที่มีความสำคัญอย่างมากในการเลือกตั้งปีนี้โดยรัฐนี้สนับสนุนประธานาะิบดี โจ
ไบเดน อย่างหวุดหวิด ในปี 2020 หลังจากลงคะแนนเสียงให้กับพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุกครั้งนับตั้งแต่ปี 2000 ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าการแขงขันในรัฐนี้สุสีมาก นับตั้งแต่แฮร์ริสได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต แทนที่ไบเดน ท่ามกลางความกังวลว่าเขาจะสามารถหาเสียงเพื่อเอาชนะทรัมป์ในเหือนพฤศจิกายนได้หรือไม่

          มณฑลมาริโคปา ซึ่งเป็นที่ตั้งของฟินิกส์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐจะมีความสำคัญต่อการเลือกตั้งของรัฐแอริโซนาในเดือนพฤศจิกายน โดยมณฑ,นี้จเป็นหนึ่งในมณฑลที่ได้รับความสนใจตมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายน ชาวแอริโซนามากว่าครึ่งหนึ่งอาศัยอยุ่ในมณฑลมาริโคปา และผลงานอันยอดเยี่ยมของ พรรคเดโมแครต ในมณฑลนี้ส่งผลให้รัฐนี้ตกอยุ่ภายใต้การควบคุมของไบเดนในปี 2020

           ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในเขตมาริโคปาด้วยคะแนนนำราว 2 คะแนน ในขณะที่ชนะการเลือกตั้งในระดับรํฐด้วยคะแนนเพียง 0.3 เปอร์เซ็นต์  ไบเดนชนะการเลือกตั้งทั้งในเขตและในรัฐเนื่องจากสามารถหาเสียงจากผุ้มีสิทะิเลือกตั้งในเขตชานเมืองอิสราะได้ ซึ่อาจกำหนดผลการเลือกตั้งอีกครั้ง

        อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการลงทะเบียนผุ้มีสิทธิเลือกตังใหม่ของรัฐแอริโซนา แสดงให้เห็นว่าจำนวนผุ้มีสิทธิเลือกตั้งจากพรรคเดโแมคแครตในเขตนี้ลดลงตั้งแต่ปี 2020 ชขณะที่พรรครีพับลิกันมีจำนวนผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่ระบุตัวเป็นพรรคของตนเพิ่มขึ้น

        ข้อมุลวันที่ 30 กรกฎาคม พบว่าผุ้มีสิทธิเลือกตั้ง 692,294 รายในเขต มาริโคปา ระบุตัวตนว่าเป็นเดโมแครต 851,227 รายระบุตัวตนว่าเป็นพรรครีพัลลิกัน และอีกกว่า 800,000 รายระบุว่าตนเป็นสมาชิกพรรคอื่นหรือเป็นอิสระ

ที่น่าสังเกตคือ ผุ้มีสิทธิมากกว่า 800,000 คนในเขตนี้ยังไม่ระบุพรรค พวกเขาจะมีความสำคัญในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เนื่องจากแฮร์ริสและทรัมป์กำลังต่อสุ้เพื่อชิงเสียงสนับสนุนจากผุ้มีสิทธิเลือกตั้งเหล่านี้

       พรรครีพับลิกัน ได้เปรียบในเรื่องจำนวนผุ้ลงทะเบียนเลือกตั้งในระดับรัฐ แต่ผลสำรวจยังคงชี้ให้เห็นว่า การแข่งขันระหว่างแฮร์ริสและทรัมป์นั้นสูสีกัน....

          ชาวอเมริกันเชื่อสายฮิสแปนิก คือผุ้ที่อาศัยอยุ่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งสืบเชื้อสายมาจากชาว สเปนเนืืองจากชาวฮิสแปนิกส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากละตินอเมริกา พวกเขามักถุกเรียกว่า "ละตินโน่" ชาวฮิสแปนิกเป็นกลุ่มชาติพันธ์ุที่ใหญ่ที่สุดสหรัฐอเมริกา ซึ่งมากกว่าหนึ่งในหกของประชากรทังประเทศ มีชาวอเมริกันเชื่อสายฮิสแปนิกมากว่า 50 ล้านคน อาศัยอยุ่ในทั้ง 50 รัฐ ชาวฮิสแปนิกมักจะระบุตัวตนด้วยประเทศหรือพื้นที่ต้ำกำเนิดของครองบครัวมากกว่า กลุ่มที่มีความหลากหลายนี้รวมถึงผุ้ที่มีรากเหง้าในเม็กซิโก เปอร์โตริโก คิวบา เอลซัลวาดอร์ สาธารณรัฐโดมินิกัน กัวเตมาลา ดคลอมเบีย ฮอนดุรัส และส่วนอื่นๆ ของอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ และแคริบเบียน และรวมถึงสเปน ชาวฮิสแปนิกอาจเป็นผุ้อพยพใหม่หรือผุ้ที่มีครอบครัวมาตั้งรกรากในสหรัฐอเมิรกามาหลายชั่วอายุคน ชาวอเมริกาเชื้อสายฮิสแปนิกส่วนใหญ่เป็นพลเมืองสหรัฐฯที่เกิดในสหรัฐฯ

         ผู้พูดภาษาสเปนอาศัยอยุ่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันคือสหรัฐฯมาตั้งแต่ก่อนการก่อตั้งประเทศ มีการกล่าวถึง สงครามเม็กซิกัน-อเมริกัน ซึ่งระบุว่าตะวันตกเฉียงใต้ทั้งหมดตั้งเท็กซัสไปทางตะวันตกจนถึงแคลิฟรอืเนีย เคยเป็นดินแดนที่พุดภาษาสเปนซึ่งมีมรดก วัฒนะรรมและ ประเพณีที่โดดเด่นเป็นของตัวเอง

ในปี 1848 เมื่อสหรัฐเข้าครอบครอง ผู้มีเชื้อสายฮิสแปนิกอาศัยอยุ่ในรัฐแอริโซนาไม่ถึง 1,000 คนกระทั้ง ศตวรรษที่ 20 จึงมีจำนวนปรชากร ชาวฮิสแปนิกในแอริโซนาเพิ่มสุงจขึ้นอย่างมาก ปัจจบันส่วนใหญ่เป็นชาวเม็กซิกันหรือลูกหลานของชาวเม็กซิกันอเมริกันแะลชาวแองโกล(คำที่ชาวฮิสแปนิกใช้เรียกคนผิวขาวที่พุดภาษาอังกฤษ) มักมีความขัดแย้งในแอริโซนา แต่โดยทั่วไปแล้ว ทั้งสองกลุ่มชาติพันธ์ุนี้มีประวัติความเป็นมิตรที่มักไม่มีในรัฐชายแดนอื่นๆ แม้ว่าชุมชน บางแห่ง จาะมีบริโอของเม็กซิกัน (ชุมชนชาติพันู์ที่มักมีลักษณะยากจนข้นแค้น) แต่ชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกันส่วนใหญ่ในแอริโซนาอาศัยอยู่ในละแวกต่างๆ และมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในธุรกิจ การเมือง และชีวิตทางสังคมของรัฐ การแต่งงานข้ามเชื้อชาติกับชาวแองโกลเป็นเรื่องธรรมดา แม้ว่าอหารเม็กซิกัน รูปแบบอาคาร ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า ประเพณีทางสังคม และดนตรีจะรวมอยุ่ในวิถีชีวิตของแอริโซนา และเป็นสิ่งที่ผุ้อยุ่อาศัยมายาวนานต่างก็มีร่วมกัน แต่คนส่วนใหญ่(ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผุ้มารใหม่ในรัฐจากส่วนอื่นๆ ของประเทศ) ได้รับผลกระทบจากวัฒนะรรม เม็กซิกัน เพียงผิวเปผินเท่านั้น หากจะว่าไปแล้ว ชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกันก็ถูกดึงดุดเข้าสุ่กระแสหลักของวัฒนะรรมอเมริกัน

             แม้ว่า ชนพื้นเมืองอเมริกันแห่งแอริโซนาตั้งแต่สมัยผุ้พิชิตชาวสเปนจะถูกกดขี่ แต่สิ่งนี้ไม่ทำให้ประชากรของพวกเขาถุกกำจัดหรืออพยพออกไปอย่างถาวร วัฒนธรรมของชนพื้นเมืองอเมริกันปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจนในแอริโซนา แม้วาพวกเขาจะมีสัดส่วนไม่ถึงหนึ่งในสิบของประชากรทั้งหมดก็ตาม ชนพื้นเมืองอเมริกันถุกแบ่งออกเป็น 15 เผ่าในเขตสงวน 17 แห่ง ซึ่งมีขนาดต้งแต่ "ตอนโต้" ที่มีพื้นที่ 85 เอเคอร์ (34 เฮกตาร์) เขตสงวน อาปาเช่ ไปจนถึงเขตสงวนขนาด 23,400 ตารางไม่ล้ (60,600 ตารางกิโลเมตร) เกือบสามในห้าของพื้นที่ผยู่ในรัฐแอริโซนา นาวาโฮ ชนเผ่าหลังนี้มีจำนวนประมาณ 100,000 คนในรัฐแอริโซนา มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในการกำหนดทิศทางการพัฒนาดินแดนและผุ้คนของตน และรับบาลของชนเผ่ารับผิดชอบทั้งหมดในหลายๆ ด้านของชีวิตทางสังคมและเศรษฐกิจของชนเผ่านาวาโฮ ชนเผ่าที่
เหลือที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ อาปาเช่ ในตำปนานและ โฮปี ที่ได้รับการศึกษาอย่างมาก ชนเผ่าโทโฮ โนโอออคัม และชนเผ่าอาคิเมลโออดัม ยังได้รับความสนใจอย่งมาในวรรณกรรมด้านมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์ ชนเผ่าที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ได้แก่ ชนเผ่าฮาวาซูไป ซึ่งอาศัยอยุ่ที่เชิงแกรนด์แคนยอน ...ประชากรแอฟริกันอเมริกัน ของรัฐแอริโซนาเป็นเพียงสวนเลห็กๆ ของประชากทั้งหมดของรัฐ เมืองและเมืองเล็กๆ ส่วนใหญ่ของรัฐแอริโซนามีชุมชนที่มีคนแอฟริกันอเมริกันเป็นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นผลมาจาก การแบ่งแยกที่อยุ่อาศัย โดยพฤตินัย รัฐได้ยกเลิกการแบ่งแยกเชื้อชาติในดรงเรียนโดยสมัครใจในช่วงต้นทศวรรษที่ 1940 ชาวเอเชียและชาวเกาะแปซิฟิกมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ยังคงเป็นชนกลุ่มน้อยที่สุดในรัฐ

          แม้ว่าอริโซนาจะมีัภาพลักษณ์ ที่โรแมนติกในฐานะดินแดนที่มีเมืองร้างและ ค่ายขุด แร่ที่สวนงาม ฟาร์มปศุสัตว์ที่ห่างไกลเขตสงวนของชนพื้นเมืองอเมริกัน และฟาร์มฝ่ายและส้มที่มีบรรยากาศชนบท แต่ประชากรเกือบทั้งหมดกระจุกตัวอยุ่ในเขตเมือง ประชากรสามในห้าของรัฐอาศัยอยุ่ในมณพลเพียงแห่งเดียวจากทั้งหมด 15 มณฑลของรัฐ ซึ่งก็คือเมืองมาริโคปา ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองฟินิกซ์ ในมณฑ,ทั้ง 15 มณฑลนี้ มี 6 มณฑลที่มีประชากร่วมกันสี่ในห้าของรัฐ มีคนเพียงไม่กี่คนที่อาศัยอยุ่ในฟาร์มและไร่นา เมืองและเมืองเล็กส่วนใหญ่มีความหนาแน่นของประชากรต่ำ

           ฟินิกซ์เป็นศูนย์กลางการค้าหลักของวรัฐ ที่ตั้งอยุ่ใจกลางเศรษฐฏิจการเกษตร ที่ขยายตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการพักผ่อนและเกษียณอายุที่น่าดึงดุดใจทำให้ฟินิกซ์กลายเป็นพื้นที่เขตเมืองที่หใญ่ที่สุดและเติบโตเร็ซที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันตกเฉียงใต้แม้ว่า ทูซอน จะเก่าแก่และมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็เป็นประตูสุ่เม็กซิโกและยังคงรักษาความสัมพันะ์ทางการค้าและการแพทย์ที่ดีกับโซโนราและรัฐอื่นๆ ทางตอนเหนือของเม็กซิโกไว้ได้ ตั้งแต่ปี 1970 อัตราการเติบโตของประชากรเทียบได้กับฟินิกซ์

          https://www.newsweek.com/maricopa-county-voter-registration-republicans-surge-election-1945551

          https://www.britannica.com/place/Arizona-state/People

วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2567

The Underdogs


          รัฐที่เป็นสมรภูมิหลัก ได้แก่ มิชิแกน วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย นอร์ทแคดรไลนา จอร์เจีย แอริโซนา
และเนวาดา 

          จากการสนทนากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายหาเสียงของ กมลา แฮร์ริส พบว่ามีรัฐสำคัญ 3 รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน หากแฮร์ริสชนะทั้งสามรัฐนี้ รวมถึงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 1 คะแนน ในเนแบนสภา และรักษาฐานที่มั่นของพรรคเดโมแครตได้ เธอจะได้คะแนนเสียงเลือกตั้ง 270 คะแนนพอดี เจ้าหน้าที่เชื่อว่่าเส้นทางดังกล่าวเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพรรคเดโมแครตที่จะชนะ

         หากมองเฉพาะคุณค่ากรเลือกตั้งเท่านั้น เพนซิเวเนียมีคะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุดด้วยคะแนน 19 คะแนน ตามมาด้วยมิชิแกนที่มี 15 คะแนน และวิสคอนซินที่มี 10 คะแนน แต่เนืองจาก ไบเดน ถอนตัวออกจากการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่ง พรรคเดโมแครตจึงเชื่อว่าแฮร์ริสมีโอาสชะในรัฐสมรภูมิอื่นๆ มากกว่า ซึ่งจะช่วยให้เธอได้คะแนนเสัีงจากคณะผุ้เลือกต้ง 270 เนสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสมัีศักยภาพในการแข่งขันมากกว่าไบเดนในรัฐแอริดซนา จอร์เจีย และนอร์ทแคโรไลนา 

        ในบันทึกข้อความที่เผยแพร่เมือวันที่ 24 กรกฎคม เจรน โอ มัลลีย์ ดิลลอน ประธานหาเสียงของแฮร์ริส เขียนเกี่ยวกับเส้นทางของแฮร์ริสสุ่ 270 คะแนนดังนี้ "เรสจะยังคงมุ่งเน้นไปที่รัฐมิชิแกน วิสคอนซิน และเพนซิลเวเนียที่เป็นกำแพงสีน้ำเงินและรัฐซันเบลท์อย่างนอร์ทแคดรไลนา จอร์เจีย แอริโซนา และแนวาดา ซึ่งข้อได้เปรียบของรองประธานาะิบดีที่มีต่อผุ้มีสิทะิเลือกตั้งรุ่นเยาว์ ผุ้มีสิทธิเลอืกตั้งที่เป็นคนผิวดำ และผู้สีิทะิเลือกตั้งที่เป็นชาวละติน จะมีความสำคัญต่อเส้นทางต่างๆ ของเราสุ่คะแนนเสียงผุ้เลือตั้ง 270 คะแนน"

        พรรครีพัลลิกันเองยังมองว่าทั้ง 7 รัฐ เป็นสมรภูมิสำคัญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายหาเสีียงของทรัมป์โต้แย้งว่างานของพวกเขาง่ายกว่า เพราะตรอบใดที่พวกเขายังยึคครองนอร์ทแคโรไลนาได้ พวกเขาก็ต้องชนะจอร์เจียและเพนซิลเวเนียเท่านั้นจึงจะมีคะแนนเสียยงเลือกตั้งเกิน 270 เสียง "เธอยังคงเล่นเกมรับอยู่" ที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์กล่าวกับนักข่าวเมือเดือนสิงหาคม 

      ..ต่อไปนี้เป็นบางส่วน ที่ผุ้แทนจอร์เจีย ไนกี้มา วิลเลี่ยมส์ สมาชิกสภาผุ้แทนราษำรของจอร์เจีย พูดคุยกับสก็อตต์ ไซมอนจาก NPR เกี่ยวกับความสำคัญของรับแกว่งและสิ่งที่เะอคิดว่าจะต้องทำเืพ่อให้จอร์เจีย "เป็นรัฐสีน้ำเงิน" ในปี 2024

        ไซมอน : จากมุมมองของคณะ ประเด็นใดที่คุณมองว่าสำคญที่สุด

         วิลเลี่ยมส์ - เสรภาพในกาสืบพันธุ์สะท้อนถึงผุ้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์ เสรีภาพนี้ทำให้เราสามัคคีกัน เพราะนี้ไม่ใช้ประเด็นของพรรคเดโแมครตหรือพรรครีพับลิกัน ฉันเคยดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายนโยบายของ Planned Parenthood Southeast นานถึง 10 ปี สิ่งที่เราได้เห็นคือสิ่งต่างๆ มากมายที่แันอยากเดตือนพรรดานักนิติบัญญัติของรับในเมืองหลวงของรัฐต่างๆ ทั่วภาคใต้พวกเขาคิดว่าฉันเป็นเฉนนี เพนนี และท้องฟ้าก็ถล้มลงมา ไใามีใครจะใช้วิะีคุมกำเนิดแบบเฉพาะเจาจงอีต่อไป IVF จะไม่มีวันถูกยกเลิก

        ไซมอน - ขอถามเกี่ยวกับกาซาหน่อย มีผุ้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากในจอร์เจีย 57,000 คน ซึ่งเป็นชาวอาหรับอเมริกันที่อาจไม่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคเดโมแครตที่สนับสนุนกองทัพอิสราเอลและดำเนินคดีสงครามในกาซา นั้นเพียงพอที่จะพลิกผลการเลือกตั้งได้แล้วไม่ใช่หรือ

        วิลเลียมส์ - การพลิกผลการเลือกตั้งก็เพียงพอแล้ว และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม่เสียงของทุกคนจึงมีความสำคัญในการสนทนาครังนี้ รองประธานาธิบดีแฮร์ริสเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อนำตัวประกันกลับบ้าน ยุติความรุนแรง และนำสันติภาพและเสถียรภาพมาสุ่ภูมิภาค และนั่นคือส่ิงที่พวกเราหลายคนอยากเห็น

        ไซมอน - ฉันขอถามคุณ เมื่อสี่ปีที่แล้ว ไม่วาคะณจะมีคามแตกต่างอะไรกับผุ้ว่าการเคมป์ ความแตกต่างทางการเมือง

        วิลเลียมส์ - มีความแตกต่างมาก

        ไซมอน - ..เขาลุกขึ้นต่อต้าน โดนัลด์ ทรัมป์

     
  วิลเลียม ก็ประมาณนั้น เขาทำแค่พอประมาณ เขาไม่ยอมห้ผลกาเลือกตั้งถุกพลิกกลับ แต่เขายังลงนามในกฎหมายที่กดขึ่ผุ้มีสิทธิเลอืกตังทั้งหมดที่ดดนัลด์ ทรัมป์สนับสนุน แต่ไบรอัน เคมป์ ยังคงพุดว่าเขาจะลงคะแนนให้ โดนัลด์ ทรัมป์ แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาจะเป็นเผด็จการในวันแรก แม้ว่าเขาจะพยายามล้มล้างเจตจำนงของผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐจอร์เจียก็ตาม ไบรอัน เคมป์ยังคงพุดว่าเขาจะลงคะแนนให้ทรัมป์
        ไซมอน - แล้วคุณกังวลเรื่องใด

         วิลเลียมส์ - การนับคะแนนอย่างยุติะรรมทำให้ฉันกังวล บริการไปรษณ๊ย์ของเราทำให้ฉันกังวลเพราะเามีผุ้สูงอายุจำนวนมากที่ต้องใช้บัตรลงคะแนนล่วงหน้า เราเผชิญกับความท้าทายมากมายในการนำคะแนนเสียงกลับมา และบางครั้งสื่อก็ทำให้ฉันกังวล เราได้เห็นหลังจากากรดีเบตกับ ไบเดน ว่าเรื่องราวของสื่อเข้าไปมีบทบาทและหล่อหลอมจติใจของผุ้มีิสิทธิเลือกตั้งอยางไร 

        หลังจากนั่งรถบัสผ่านจอรเจียตะวันออกเฉียงใต้กับ ทิส วอลซ์ เป็นเวลา 2 วัน  แอร์ริส ก็มีถงสรามกีฬาในเมือง ซาวันนาห์ต่อหน้าผุงชนจำนวนมาก และบอกกับพวกเขาว่าแม้ว่ารัฐนี้จะเป็นรัฐที่ห่างไกล แต่ก็ยังสามารถเอาชนะได้

       “Don’t pay attention to polls – we are underdogs,”  แฮร์ริสกล่าว พร้มบอกับผุ้เขาร่วมงานราว หมื่นคน

       "ดีใจที่ได้กลับมาที่ซาวันนาห์อีกครั้ง" เธอกลบ่าว ดดยเข้าสุ่ช่วงกล่าวสุทรพจน์ ซึ่งแม้จะคุ้นเคย แต่ก็สามารถดึงความสนใจของฝูงชนไว้ได้ตลอดการกล่าวสุนทรพจน์ทั้งหมดของเธอ...

        ฝูงชนบางส่วนกล่าวว่าพวกเขามาที่นี้เพื่อสนับสนุนแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งระบุว่าเป็นการรับฟังเสียงในรัฐที่ผุ้มีสิทธเลือกตั้งที่เป็นคนผิวดำไม่ได้มีเสียงที่ดังเสมอไป และในเมือง ซาวันนาซึ่งไม่มีผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาเยี่ยมเยียนเลยตั้งแต่ปี 1990 ตามที่นายกเทศมนตรีแวน จอห์สัน กล่าว แต่ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งเหล่านี้คือ(ุ้มีบทบาทสำคัญในการพลิกสถานการณ์จอร์เจียในปี 2020 โดยเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่เป็นคนผิวดำและชาวยิวคนแรกของรัฐ ได้แก่ ราฟาเอล อวร์น็อค และจอนออสซอฟ และได้รับเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรค เดโมแครต แฮร์ริสตังข้อสังเกตว่า ผุ้มีสิทธิลงวคะแนนเหล่านี้เองอาจเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการับประกันชัยชนะของแฮร์ริส วอลซ์

           ในช่วง 24 ชั่วดมงที่ผ่านมา แคมเปญ ของ แฮร์ริส วอลซ์ ได้ตระเวนไปตามมุตะวันออกเฉียงใต้ของจอร์เจีย ซึ่งมักถูกมองข้ามโดยมีทั้งผุ้สนัยสนุนชาวผิวดำจากพรรคเดโมแครตและผุ้สนับสนุนทรัมป์ผิวขาวยืนเรียงรายอยุ่ตามถนนในชนบทเืพ่อโบกมือแสดงความยินดี และแสดงท่าทางโกรธเคื่องตามลำดับ

           "ถนนเหล่านี้ไม่ใช้ถนนที่ประานาะิบดีมัจะขับรถผ่าน" มอร์ก เลบอส เทรนเนอร์ส่วนตัวที่บริหารโรงยิมในเมืองซาวนนาห์ อาสาขับรถห้กับชบวนรถของเจ้าหน้าที่ ผุ้สนับสนุน และสือ่มวลชนของแคมเปญหาเสียงกล่าว "ถนนเหล่านี้เป็นสถานที่ที่คุณรู้วาขอบฟ้าอยุ่ตรงไหน และอยุ่ตรงผลายเมืองของคุณพอดี" 

            https://www.theguardian.com/us-news/article/2024/aug/29/kamala-harris-savannah-georgia-rally

            https://www.npr.org/2024/08/24/nx-s1-5081537/georgia-delegate-on-what-itll-take-for-the-democratic-party-to-win-the-swing-state

           https://www.washingtonpost.com/politics/2024/08/30/key-swing-states-2024-presidential-election/

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567

This state may decide wins !!!

             "แน่นอนว่านี่คือรัฐสมรภูมิรบ" ผุ้ว่าการ "เบรน เคมป์" ที่เป็นอนุรักษ์นิยมสองสมัย ซึ่งได้รับความ
นิยม ยอมรับว่ารัฐของเขามีการแข่งขันสูงมาก

             "ผมพูดมาเป็นเวลบานานแล้วว่าเส้นทางสู่ทำเนียบขบขาวจะต้องผ่านจอร์เจีย และไม่มีเส้นทางใดที่อดีตประะานาธิบดีทรัมป์จะชนะ หรือพรรครีพับลิกันคนใดจะไปถึง 270 ได้หากไม่มีจอร์เจีย" เคมป์กล่าว แต่เขากล่าวเสริมว่าจอร์เจีย "ควรเป็นรัฐที่เราจะชนะได้หากเรามีกลไกทั้งหมดที่จำเป็น และผมกำลัง
ทำงานอย่างหนักเืพ่อช่วยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ในหลายๆ ทา และดึงคะแนนเสียงของพรรครีพับลิกันออกมา และทำให้แน่ใจว่าเราจะชนะในรัฐนี้

           อัยการสูงสุดของรัฐจอร์เจีย คริส คาร์ มีแนวทางแก้ปัญหาง่ายๆ สำหรับจอร์เจีย นั้นคือ การใช้กฎหมาย คุมขังอาชญากร และปกป้องพลเมืองอเมริกันและธุรกิจของเขาให้ปลอดภัยจากอาชญากรรม

        "การเลือกตั้งมีผลที่ตามมา" เขากล่าวกับ ฟ็อก นิวส์ ดิจิตอล โดยโจมตี รองประธานาธิบดีแฮร์ริสว่าเป็น "นักบุญอุปถัมภฺ์ของอัยการฝ่ายซ้าย" ขณะเดียวกันก็วิพากษ์วิจารณ์นดยบายอาชญากรรมก้าวหน้าที่ล้มเหลวต่อชุมชนที่นดยบายดังกล่าวอ้างว่าได้รับประโยชน์ 

       "เธอสนับสนุนการยุบหน่วยงานตำรวจ เมืองที่ให้ความคุ้มครอง และากรประกันตัวดดยไม่ใช้เงินสด" เขากล่าว

       แฮร์ริส อดีตอัยการสูวสุดแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเคยกล่าวถึงอดีตของเธอในฐานะอัยการในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ยังสนับสนุนกองทุนประกันตัวที่ช่วยให้จำเลยในคดีอาญาพ้นจากคุกเมือถูกคุมขังด้วยเงินประกันตัว สำนักงนของเธอไม่ได้ตอบกลับในทันที

        "อัยการเขตทุกคนที่เราพบเห็นทั่วประเทศ ตั้งแต่ลอสแองเจลิสไปจนถึงซานฟานซิสโก ซึ่งเธอเป็นอัยการเขต ไปจนถึงเซนต์หลยส์ ..เธอเป็นต้นแบบของสิ่งที่พวกเขาใฝ่ฝันจริงๆ " คริส ดาร์ กล่าว "และนั้คือการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางอาญารูปแบบใหม่ ซึ่่งก็คือไม่บังคับใช้กฎหมาย" เขากล่าวเสริมว่านโยบายดังกล่าวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาถื่อเป็น "แผนปฏิบัติการสำหรับอัตราการก่ออาชญากรรมที่สุงขึ้น" "คุณสามารถเลือกได้ว่าคุฯตะละเลยกฎหมาย หลีกเลี่ยงกฎหมาย อาชญากรรมเพ่ิมขึ้น หรือจะบังคับใช้กฎหมายก็ได้" เขากล่าว 

การกระทำดังกล่าวเป็นความพยายามที่องค์กรตำรวจพยายามทำมากหลายปีแล้ว นั่นคือการล้มเลกิการปกิรูปการประกันตัวที่ปล่อยให้ผุ้กระทผิดซ้ำออกมาบนท้องถนนได้แทบจะในทันทีเพื่อที่พวกเขาจะได้ก่ออาชญากรรมซ้ำอีกการขาดผลที่ตามมาประกอบกับอัยการฝ่ายซ้ายที่ลังเลที่จะตั้งข้อกล่าวหาผุ้ต้องสงสยยอ่างเต็มที่ตามกฎหมาย ส่งผลให้ขวัญกำลังใจของตำรวทั่วประเทศตกต่ำลง ส่งผลให้เมืองต่างๆ ปประสบปัญหาในการจ้างงานและรักษาผุ้กระทำผิด

           ทีมงานหาเสียงของทรัมป์กำลังตอสุ้และได้รับชัยชนะในจอร์เจียการสร้างพันะมิตรสนับสนุนที่กว้างขวางจากผุ้ที่เบื่อหน่ายกับความล้มเหลวของเธอในทำเนียบขาวตลอด 4 ปี" ไบรอัน ฮิวจ์ส ที่ปรึกษาอาวุโสกล่าวกับ ฟ็อกนิวส์ และโฆษำของ RNC มอร์แกน แอ็กเลย์ ดต้แย้งว่า "แม้ว่าปฏิบัติการของเราที่มุ่งมั่นและมีพลังในจอร์เจียจะเน้นไปที่การเรียกคะแนนเสียงจากทั่วทั้งรัฐ แต่ในทีสุดพรรคเดโมแครตในจอร์เจียก็เรียนรุ้บทเรียนสำคัญอย่างหนึ่ง .. จอร์เจียมีอะไรมากกว่าแค่แอตแลนตา" แอคลี่ เน้นย้ำว่า "พรรครีพับลิกันตั้งแต่ คาทูซา ไปจนถึง คามเอน เคาท์ทรี้ และทุกที่ในระหว่างนั้น ต่างกระตือรือร้นและพร้มที่จะเลือกประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครัง เพราะข้อความของเขาที่เน้นให้ประเทศมากก่อนเป็นอันดับแรกนั้นสะท้อนถึงชาวอเมริกันจากทุกภูมิหลัง"

           ดูเหมือนแฮร์ริส จะแสดงจุดยืนด้วยการเลือกจอร์เจยเป็นพื้นที่หาเสียงครั้งแรกหลังจากการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรคเดโแครตเมื่อสัปดาห็ที่แล้ว วันพุธ ที่ผ่านมาแฮร์ริสได้เร่ิมการชิงชัยดดยรถบัสเป็นเวลบาสองวันผ่านพื้นที่ทางตะวันออกเแียงใต้ของรัฐสมรภุมิสำคัญ พร้อมด้วย ทิม วอลซ์ ผุ้ว่าการรัฐ มินนิโซตา ซึ่งเป็นเพือนร่วมทีมของเธอ วอลซ์จมุ่งหน้าไปยังนอร์ธแคโรไรนาเพื่อระดมทุนในเย็วันพฤหัสบดี ในขณะที่แฮร์ริสวางแผนที่จะ "สร้างพลังให้กับชาวจอร์เจียหลายพันคนในการชุมนุมที่เมืองซาวันนาห์" ตามแคมเปญของเธอระบุ

          "แคมเปญประสานงานของเดโแมครแห่งจอร์เจียกำลังดำเนินการภายในรัฐที่ใหญ่ที่สุดในรอบแคมป์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต โดยมีเจ้าหน้าที่แคมเปญประสานงานของพรรคเดโแมครตกว่า 190 คนในสำนักงานประสานงาน 24 แห่งทั่วทั้งรัฐ" แคมเปญของแฮร์ริสประกาศล่วงหน้าหลายชั่วโมงก่อนที่รองประธานาธิบดีจะมาถึงเมืองซาวันนาห์ ซึ่งเป็นการมาเยือนจอร์เจียครั้งที่สองของแฮร์ริสนับตั้งแต่เข้ามาแทนที่ไบเดนในฐานะผุ้นำพรรค ก่อนหน้าที่เธอเคยจัดการชุมนุมใหญ่ในตัวเมืองแอตแลนตา แต่ในครั้งนี้ แฮร์ริสกำลังเคลื่อนพลอย่างดุเดือดในพื้นทีททางอนใต้ของรัฐ ซึ่งห่างไกำลจากเมืองแอตแลนตาและขตชานเมืองที่กำลังเติบโต ซึ่งคิดเป็นเกือบ 60% ของประชากรในจอร์เจีย เส้นทางปกติที่พรรคเดโมแครตจะชะการเลือกตั้งทั่วรัฐจอร์เจียคือการมุ่งความสนใจไปที่เขตมหานครแอตแลนตา

       
ควินติน ฟุลค์ส ซึ่งเคยเป็นรองผุ้จัดการฝ่ายหาเสียงหลักในสมัย ไบเดน และยังคงดำรงตำแหน่งดังกล่าวร่วมกับแอร์ริส ปฏิบัติตามแนวทางเมืองสองปีก่อน เมือเขาพา ราฟาเอล อวร์น็อค วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโแมครต คว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง ได้อีกครั้งอย่างหวุดหวิด กลยุทะ์ดังกล่าวไม่เพียงแต่จะชนะการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในแอตแลนตา และเขตชานเมืองเท่านั้น แต่ยังต้องรักษาความสามารถในการแข่งขันในสวนอื่นๆ ของรัฐด้วย https://www.foxnews.com/politics/state-may-decide-whether-harris-trump-wins-2024-presidential-election

           แฮร์ริส เลือกรัฐพีชสำหรับการหาเสียงครั้งแรกหลังจากากรประชุมใหญ่พรรคเดโแมครต แฮร์ริสกำลังแถลงการณ์ว่า จอร์เจียจะกลับมามีบทบยามอีกคร้ง ใสนการเลือกตั้งเดือนพฤศจิการยนนี้

           แคมเปญหาเสียงของแอร์ริสระบุว่า "การณรงค์หาเสียงในจอร์เจียตะวันออกเแียงใต้มีความสำคัญ เนื่องจากป็นตัวแทนของกลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีความหลาย รวมถึงชาวจอร์เจียในชนบทชานเมือง และเมือง ซึ่งมีผุ้มีสิทะิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวดำและครอบครัวชนชั้นแรงงานเป็นจำนวนมาก" 

          "การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นจนถึงวินาทีสุดท้ายไ แฮร์ริสกลาวกับผุ้สนับสนุน เมือวันพฤหัสบดีในสนามกีฆาที่เต้มไปด้วยผุ้คนในเมืองบชายฝั่ง ผลสำรวจความคิดเห็นหลายฉบับที่เผยแพร่ในข่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ชี้ว่าการแข่งขันในรัฐสำคัญที่มีอัตราต่อรองไม่เท่ากัน และผลสำรวจระดบประเทศชุดใหม่บ่งชีว่าแฮร์ริสมีโอากสชนะมากกว่า โดยเขากล่าวกับผุงชขนที่สนามกีฬา "เอนมาเก็ต" ในเมือง ซาวันนาห์ว่า "เราอย่าสนใจผลสำรวจความคิดเห็นมากเกินไป เพราะเราเป็นฝ่ายเสียเปรียบ" "พวกเราต้องทำงานหนักอีกมาก แต่พวกเราชอบงานหนัก งานหนักคืองานที่ดี" แฮร์ริสกล่าวท่ามกลางเสียงเขียร์" แลด้วยความช่วยเหลือของคุณ เรสจะคว้าชัยชนะในเดือนพฤศจิการยนนี้"

        การชุมนุมของแฮร์ริสในเมืองซาวันนาห์เกิดขึ้นในช่วงท้ายของการเดินทางสองวันในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจอร์เจียกับคู่หูของเธอ ทิม วอลซ์ ผุ้ว่าการรัฐมินนิโซตา และเธอมาถึงสนามกีฬาประมาณสองชั่วดมงหลังจากนั่งให้สัมถาษณ์ทางเครือข่ายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เธอได้เป็นผุ้ถือธงของพรรคเดโมแครตด..

        https://www.foxnews.com/category/us/us-regions/southeast/georgia

          

        

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Georgia (us)

           จากการสำรวจความคิดเห็นเมืองวันพุธ พบว่า รองประธานาธิบดีกมล แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนห่างกันเพียง 2 จุดเปอร์เซ้น ใน 4 รัฐสำคัญที่อาจตัดสินผลการเลือกตร้้งประธานาธิบดีในปี 2024 แฮร์ริสมีคะแนนนนำเพียงเล็กนอ้ยในรัฐแอริโซนา จอร์เจีย และเนวาดา และทรัมปฺ์มีคะแนนนำแฮร์ริสเพียงเล็กน้อยในรัฐนอร์ธแคโรไลนา  ทั้งในจอร์เจียและเนวาดดา รองประธานาธิบดีมีคะแนนนำ 2 คะแนน 50%-48%

          จอร์เจีย เมื่ออุดมการณืทางการเมืองของรรคเดโแมครตและรีพัลลิกันเปลี่ยนแปลงไปในศตวรรษที่ 20 นักการเมืองจอร์เจียจึงย้ายไปที่พรรครีพัลิลกัน พรรครีพัลลิกันชนะที่นั่งวุฒิสภาในรัฐเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในปี 1980  จากนั้น ซอนนี่ เพอร์ดู ก็กลายเป้นผุ้ว่าการรัฐรีพัลิกันคนแรกของรับนับต้งแต่ปี 1872 เมื่อเขาได้รับการเลือกตั้งในปี 2002 ในช่งปลายทศวรรษ 2010 และต้นทศวรรษ 2020 จอร์เจียกลาย
เป็น "รัฐแกว่ง" ที่มีกาแข่งขันสูง โดยเดโมแครตชนะการเลือต้งระดับรัฐบาลกลางทั่วทั้งรัฐอย่างหวุดหวิดในการเลือกตั้งปี 2020 ทำหใ้รัฐกลายเป็นสนามรบในระดับรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐจอร์ิจียยังคงรักษาการโน้มเอียงของพรรครีพัลรีกันในระดับรัฐ โดยพรรครีพัลลิกันควบคุมทุกสำนักงานในระดับรัฐ มีพรรคารีพัลลิกันเป็นเสียงข้องมากในสภาผุ้แทนราษฎรและวุฒิสภาของรัฐ รวมถึงพรรครีพัลลิกันสามารถเลือกศาลฎีกาของจอรืเจียได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงพรรครีพัลลิกันสามารถเลือกศาลำีกาของจอร์เจียได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าจะแพ้การเลือกตั้งวุฒิสภาสหรัฐฯ ในปี 2022 แต่พรรครีพัลลิกันในระดับรัฐก็ปรับปรุงชัยชนะได้ดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2022 ในจอร์เจีย

           ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 รัฐจอร์เจียเป็นหนึงในรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ ประชากรส่วนใหญ่มีเชื้อสายยุโรป (ผิวขาว) ประมาณสองในสาม และชาวแอฟริกันอเมริกันเกือบหนึ่งในสามของประชากรในรัฐมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีเชื้อสายเอเชีย ฮิสแปนิกหรืออเมิรกันพื้นเมือง ประชากรผิวขาวส่วนใหญ่มีรากฐานที่่ลึกซึ้งในจอร์เจีย แตเมือเทียบกับรัฐอื่นๆ ในภาคใต้ เช่นอลาบารมา และ เซาท์แคโรไลนา ประชากรส่วนใหญ่เกิดนอกรัฐ ความเชื่อทางศาสนาส่วนใหญ่นับถือ นิกาย โปรเตสแตนด์ โดยคริสตจักรแบปติสต์ และเมธอดิสต์มีอิทธิพลอย่างมากในชุมชนชาวแอฟริกันอเมริกัน

          จอร์เจียเป็นหนึ่งในผู้ผลิดหินก่อสร้างแลหินบดรายใหญ่ของประทเศ รวมถึงซีเมนต์ ทรายและกรวด เขตพิกเกนส์ในภาคส่วนเหนือของรัฐมีแหล่งผลิตหินอ่อนที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งในดลก จอร์เจียยังเป็นผุ้ผลิตหินอ่อนรายใหญ่ที่สุดของประเทศอีกด้วย ดินขาวซึ่งนำมาจากหลุ่มขนาดใหญ่ ในบริเวณภาคกลางของรัฐ 

         รัฐพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นหลัก เพื่อผลิตไฟฟ้า โดยเกือบสองในห้าของพลังงานของจอร์ิเจียมาจากก๊าซธรรมชาติ และเกือบหนึ่งในสามมาจากโรงไฟฟ้าพลังความรอนถ่านหินพลังงานนิวเคลียร์มีส่วนสนับสนุนไฟฟ้าพลังน้ำจัดหาความต้องการพลังงานของจอร์เจียมากกว่าหนึ่งในยี่้สิบส่วน

         แม้การผลิตจะลดลงในจอร์เจียในต้นศตวรรษที 21 แต่ภาคส่วนนี้ยังคงเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญและมีส่วนสนับสนุนเศราฐกิจของรัฐอย่างมาก อุตสาหกรรมชั้นนำ ได้แก่ การแปรรูปอาหาร ตลอดจนการผลิตสิ่งทอและเครื่องแต่งกายกระดาษและไม้ สารเคมี พลาสติกและยาง รถยนต์ เครื่องจักร อุปกาณ์ขนส่ง และอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องดื่ม โคคา โคลา มีต้นกำเนิดในแอตแลนตาในทศวรรษ 1880 (หนึงในบริษัทข้ามชาติยุคแรกๆ) และยังคงเป็นโรงงานผลิตที่สำคัญในเมือง การผลิตส่ิงทอฝ่ายได้ครอบครองภาคสวนหลักของเศราฐฏิจจอร์เจียมาต้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ความต่อเนื่องของความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม สิ่งทอ มีดรงงานผลิตพรม และพรม จำนวนมากในจอร์เจียตอนเหนือ ในขณะที่การจ้างงานในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มลดลงในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 รัฐกลับมีการจ้างงานเพ่ิมขึ้นในการพิมพ์และการจัดพิมพ์และในกาผลิตเครื่องจักรอุสาหกรรมและอุปกรณ์ิลเ็ทอรนิกส์

           ในปี 1983 จอร์เจียได้ให้สัตยาบันรัฐธรรมนูญฉบับที่ 10 ซึ่งเป็นเอกสารที่มีลักษณะเฉพาะคือลดจำนวนากรแก้ไขเพ่ิมเติม ในท้องถ่ิน ดครงสร้างของรัฐบาลกลางจำกัดอนำาจการแต่งตั้งของผุ้ว่าการรัฐ แต่
ฝ่ายบริหารยังคงใช้อำนาจควบคุมหนวยงานของรัฐอย่างมากดดยอาศัยบทบาทสำัยในการกำหนดงบประมาณประจำปีของรัฐผุ้วาการรัฐ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสี่ปี แต่จำกัดการดำรงตำแหน่งเพียงสองวาระ ในปี 2018 เมือ สเตซีย์ อับรามส์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผุ้ว่าการรัฐจอร์เจียแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เธอได้กลายเป็นผุ้หญิ่งผิวสีคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผุว่าการจากพรรคใหญ่

         สมัชชาใหญ่ของจอร์เจียประกอบด้วยวุฒิสภา 56 คนและสภาผุ้แทนราษำร 180 คน และประชุมกันเป็นประจำทุกปีเป็นเวลา 40 วน ใปี 1972 เขตที่มีขนาดประชากรใกล้เคียงกันเข้ามาแทนที่เขตเทศมณฑลในฐานะหน่วยตัวแทน ศาลต่างๆ ในหลายระดับประกอบกันเป็นตุลาการของรัฐศาลมรดก ศาลแขวง และศาลเทศบาลทำหน้าที่ในระดับต่ำสุด โดยสาลชั้นสูง ศาลรัฐ และศาลเยาชนจะประกอบเป็นระดับถัดไป ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาถือเป็นเสาหลักของระบบตุลาการของรัฐผุ้พิพากษาในทุกระดับได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหนงสี่หรือหกปี

           ในระดับท้องถ่ิน จอร์เจียมี 159 มณฑล เทศบาลมากกว่า 500 แห่งและเขตพิเศษ(หรือหน่วยงาน) หลายร้อยแห่ง มณฑลส่วนใหญ๋มักห้บริการประเภทเทศบาล มณฑลดำเนินการหน่วยงานป่าไม้ สนามบิน ดรงพยาบล และห้องสมุดอย่างเป็นอิสระและผ่านเขตสหกรณ์หลายมณฑล คณะกรรมาธิการที่ได้รับการเลือกตั้งจะควบคุมดูแลมณฑลส่วนใหญ่

การศึากษาของรัฐในจอร์เจียมีมาตั้งแต่มีการตราพรบ.โรงเรียนของรัฐในปี 1870 ตั้งแต่ปี 1945 เป็ต้นมา อายุที่เด็กต้องเข้าเรียนภาคบังคับมีต้งแต่ 6-15 ปี การผสมผสาน เชื้อชาติ ของดรงเรียนของรัฐทำให้จำนวนนักเรียนที่เข้าเรียนในดรงเรียนเอกชนเพ่ิมขึ้นอย่างมาก ในปี 1985 สมัชชาใหญ่ได้ผ่านพรบ.คุณภาพการศึกาษขึ้นพื้นฐาน ซึ่งได้แก้ไขสูตรการจัดสรรเงินทุนของรัฐห้กับระบบโรงเรียนในท้องถ่ินอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเงินทุนที่เพ่ิมขึ้นสำหรับโรงเรียนในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 ทำให้ระบบการศึกาษาของรัฐมีการปรับปรุงที่สำคัญ รัฐได้จัดหาเครื่องมือและทรัพยากรมากมายสำหรับครู จัดระบบการสอนสำหรับผุ้เาียนที่มีปัญหา และนำ แนวทางปฎิบัติที่อิงตามการวิจัยและวิธีการก้าวหน้าอื่นๆ มาใช้เพื่อส่งเสริมีความสำเร็จของนักเรียน

         สถาบันการศึกษาระดับสุงของรัฐจะรวมกันเป็นหนึ่งภายใต้คณะกรรมการบริหาร สถาบันของัฐที่เก่าแก่และโดดเด่นที่สุด ได้แก่มหาวิทยาลัยจอร์เจียในเอเธนส์วิทยาลัยการแพทย์จอร์เจนีย ในออกัสตา และสภาบัน เทคโนโลยีจอร์เจีย และมหาวิทยาลัย จอร์เจียสเตรท ทั้งสองแห่งตั้งอยุ่ในเมืองแอตแลนตา วิทยาลัยของรัฐอื่นๆ ที่เปิดสอน 2 และ 4 ปี กระจายอยู่ทั่วทั้งรัฐ ทำให้ประชากรเกือบทังหมดอยุ่ห่างจากสถาบันการศึกษาระดับสูงไม่เกิน 35 ไม่ล็ (55 กม.) สภาบันระับปรญญาตรี และโรงเรียนระดับบัฒฑิตและวิชาชีพของ แอตแลนตา ยูนิเวอร์ซิตี้ ทั้งหมด ในอดีตสถาบันของคนผิวดำมีวิทยาเขตเดียวกันและตั้งอยุ่ในพื้นที่เดียวกัน ถือเป็นแนวหน้าของการศึการระดับอุดมศึกษา ของคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน และเป็นหนึ่งในวิทยาลัยเอกชนจำนวนมากในจอร์เจีย

       ขณะที่กลมา และ โดนัลด์ ทรัมป์เตรียมตัวสำหรับการแข่งขันที่คาดว่าจะดุเดือด ทั้งสองทีมหาเสียง
ของผุ้สมัครชิงตำแหน่งประะานาธิบดีกำลังหันมาับจ้องที่รัฐไม่กี่รัฐที่มีลุ่ผลแพ้ชนะกันอย่งสุสี ซึงมีแนวโน้มว่า่การต่อสู้ครั้งนี้จะถุกตัดสินผล  จอร์เจียกลังกลายเป็นสนามรบที่สคำัญสำหรับผุ้นำทังสองคนเนืงอจากพวกเขาพยายามดินรมเพื่อดึงดูดความสนใจจาก(ุ้ลงคะแนนเสียงในการเลือตตงครังสำคัญนี้

         การที่ทีมหาเสียงของทั้งสองพรรคเน้นย้ำถึงความสำคัญของจอร์เจียแสดงให้เก็นว่าพวกเขาไม่ได้นิ่งนอนใจกับความสำเร็จที่ตนได้รับ หลังจากที่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าเป็นการประชุมที่ประนบความสำเร็จอย่างสมบุร์แบบในชิคาโก แม้ว่าแอร์ริสจะได้รับควานิยมเพ่ิมขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่เธอเข้ามแทนที่ ไบเดน เมือ่ 5 สัปดาห์ก่อน แต่การต่อสูยังสูสี

           https://nypost.com/2024/08/28/us-news/harris-and-trump-locked-in-tight-races-in-four-key-sun-belt-swing-states-new-poll-shows/

            https://www.theguardian.com/us-news/article/2024/aug/25/trump-harris-swing-states-georgia

           https://www.britannica.com/place/Georgia-state/Climate

        

         

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2567

The differences between the candidates 2024...(2)

          ภูมิอากาศ ไบเดินลงนามในกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อในปี 2020 ซึ่งได้รับการยกย่องจากฝ่ายบริหารของเขาว่าเป็นกฎหมายการใช้จต่ายด้านสภาพอากาศที่ใหญ่ที่สุดประวัติศาสตร์ของประเทศกฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายที่จยะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ตำ่กวาระดับปี 2005 ลง 35% ภายในปี 2030 ลงทุนเงนิช่วยเหลบือมูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยผู้ผลิต ผุ้พัฒนา และประชาชนในการลดการปล่อยคาร์บอนและลดต้นทุนด้านพลังงาน  แฮร์ริสวางแผนที่จะใช้กฎหามยที่ผ่านในสมัยบริหารของไบเดน หาก


ได้รับการเลือกต้งนอกจากนี้ เธอบยังเลือกทิม วอลซ์ ผุ้ว่าการรัฐมินนิโซตา ซึ่งเป็นผุ้สนับสนุนนโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้เป็นคู่หูในการลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย 

        เธอสนับสนุนสิ่งแวดล้อมตั้งแต่สมัยที่เธอดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนียสมาชิกวุฒิสภา และนฐานะผุ้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2020 

        แฮร์ริส ร่วมสนับสนุนข้อเสนอ กรีน นิว ดีล ในฐานะวุฒิสมาชิก ซึ่งเป็ฯข้อเสนอที่เปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอส(ซิลมาเป็นพลังงานสะอาด ขณะเีดยวกันก็สร้างงานใหม่ภายในอุตสาหกรรม และแก้ไขความอยุติธรรมทงเศราฐกิจ และเชื้อชาติที่เลวร้ายลงอันเนืองมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

        ทรัมป์ต่อต้านข้อตกลงกรีนนิวดีล โดยเรียกข้องตกลงนนั้ว่าเป็น "การหลอกลวงกรีนนิวดีล" ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์หาเสียง

        เขายังกล่าวอีกว่า เขาจะถอนสหรัฐฯ ออกจากข้องตกลงปารีสอีกครั้งซึ่งเป็นสนธิสัญญระหว่างประทเศเืพ่อจำกัดภาวะโลกร้อนในเพ่ิมขึ้น 2 องคศาเซลเซียสจากระดับก่อนยุดอุตสาหกรรม และเพิกถอนกฎหมาายด้านสภาพภูมิอากาศที่ออกโดยรัฐบาลของไบเดน-แฮร์ริส

        ทรัมป์ตั้งคำถามว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศีอยู่จิรงหรือไม่ โดยเรียกการเปลี่ยนนี้ว่า "เรื่องหลอกลวง" ในบทสัีมภาษณ์ก่อนหน้านี ในช่วงหาเสียง เขาเน้นย้ำถึงการเป็นอิสระด้านพลังงานโดยสนับสนุนเชื่อเพลิงฟอสซิล ขณะเดียวกันก็ประบลดนโยบายพลังงานหมุนเวียน เช่น การให้แรงจูงใจในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

มลพิษทางน้ำ บริษัทาสาธารณุปโภคในพื้นทีททุ.ซอนจะช้เงินทุนเพื่อกำจัด "สารเคมีอันตรย" ออกจากน้ำดื่ม

        การปกป้องสิ่งแวดล้อม ในระหว่างดำรงตำแหนงปรธานาธิบดี ทรัปม์ได้ยกเลิกกฎระเบียบและนโยบายด้านส่ิงแวดล้อมเกือบ 100 ข้อที่ปกป้องคุณภาพอากาศและน้ำ ควบคุมการขุดเจาะน้ำมัน จำกัด สาริษ และปกป้องสัตว์ป่า ตามที่ระบุนคณะนิติศาสตร์โคลัมเบีย

          หลังจากที่ศาลฎีกาพลิกคำตัดสินกรณี เชฟลอน ซึ่งบรรดานักวิจารณืโต้แย้งว่าจะเป็นการขัดกับกฎระเบียบที่ตั้งขึ้นโดยหน่วยงานของรัฐบาลกลาง รวมถึง EPA ทรัมป์อาจเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายน้อยลงในการลดการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและการปรับโครงสร้างหน่วยงาน

         ในระหว่างการดีเบตประธานาธิบดีครั้งแรกในเรอืนมิถุนายน ทรัมป์ยกย่องความพยายามของรัฐบาลของเขในการรักกษาคุณภาพอากาศและน้ำ

         "ผมต้องการน้ำสะอาดหมดจดอย่างแท้จริง และผมต้องการอากาศที่สะอาดหมดจดอย่างแท้จริง และเราก็มีมัน" เขากล่ว "เรามีตัวเลขที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา..เราใช้พลังงานทุกรูปแบบและทุกอย่าง"มลพิษจากอนุภาคและโอโซนอยุ่ในระดับต่ำสุดในช่วงปี 2016 ถึง 2020 แต่ระดับดังกล่าวลดลงอย่างต่อเนื่องมาหลายปีตั้งแต่ปี 1990 ตามข้อมูลของ EPA รัฐบาลได้ลดจำนวนทางน้ำที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้พระราบบชบัญญํตินำ้สะอาด ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ได้รับการยกย่องจากอุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมเหมืองแร่ และอุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ 

        ภายใต้การบริหารของ ไบเดน-แฮร์ริส สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ EPA ได้กำหนด
มาตรฐานคุณภาพอากาศที่เข้มงวดย่ิงขึ้นสกไรับฝุ่นละอองขยาดเล็ก เขม่า และมลพิษจากโรงงานเคมี 

        ในเดือนเมษายน ฝ่ายบริหารได้กำหนดมาตรฐานน้ำดื่อมแห่งชาติเสร็จสิ้นเพื่อต่อสู้กับสารเพอร์ฟลูออโรอัลคิลแลดโพลีฟลูโรอัลคิลที่เป็นอันตรายหรือ "สารเคมีตลอดกาล" ที่เชื่อมโยงกับดรคมะเร็ง การเจิรญเจริญพันธุ์ที่ลดลง และระบบภูมิคุ้มกันที่อ่ออนแอ ฝ่ายบริหารยังได้เปิดตัวดครงการ จัสตค 40 อินนิเทียทีฟ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะจัดสรรผลประดยชน์ดดยรวมร้อยยละ 40จากการลงทุนของรัฐบาลกลางด้านสภาพภูมิอากาศ พลังงานสะอาด และที่อยุ่อาศัยราคาไม่แพง ให้แก่ชุมชนที่ด้อยโอกาสซึ่งได้รับผลกระทบจาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างไม่สมส่วน

     การฟื้ฟูพื้นที่อนุรักษ์ จากมแ่น้ำกิลาไปจนถึงหูหมี ความพยายามใหม่เพื่อปกป้องที่ดินสาธารณะในภาคตะวันตกเฉียงใต้

            ที่ดิดสาธารณะ ในปี 2020ทรัมป์กล่าวว่าอเมริกาจะเข้าร่วมโครงการ วัน ทริลเลียน ทรี ไอนิเทียทีฟ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะปลุและปกป้องต้นไม่ 1 ล้าล้านต้นในระดับนานาชาติภายในปี 2030 นอกจากนี้เขายับลงนามในกฎหมายที่จัดสรรเงินทุนเพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ ป่่าไม้ และที่ดินอื่นๆ และเพ่ิมโอกาสในการพักผ่อนหย่อนใจ เช่น การล่าสัตว์และการตกปลา แต่โครงการ 2025 ซึ่งวาระการเมืองฝ่ายอนุรักษืนิยมที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทรัมป์บางส่วนมีส่วนร่วม ประกอบด้วยส่นที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการยกเลิกวาระ "30x30"ที่ประกาศใช้ภายใต้ดครงการ อมิรกา เดอะ บิตี้ฟลู ของ ไบเดน เพื่อปกป้องดินแดน

และแหล่งน้ำของสหรัฐฯ อย่าง้อย 30% ภายในปี 2030 ภายใต้โครงการนี้ รัฐบาลไบเดน-แฮร์ริสให้ความสำคัญกับการปกป้องที่ดินสาะารณะจาการพัฒนา โดขสร้างอนุสรณ์สถานแห่งชาติ 5 แห่งและขยายเพ่ิมอีก 2 แห่ง ไบเดนก่อตั้ง  Baaj Nwaavjo I'tah Kukveni หรือ Ancestral Footprints of the Grand Canyon National Monument  ในอริโซนา 

          ตามโครงการ 2025 โปรแกรม "30x30"ยากเว้นที่ดินจากกิจกรรมอุตสาหกรรมอย่างไม่เป็นธรรมแม้ว่าทรัมป์จะพยายามแยกตัวจากแผนงานอนุรักษืนิยมที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้ง ดดยเขียนข้อเสนอบางส่วนบนดซเชียลมีเดียว่า "ไร้สาระและเลวร้ายอยางย่ิง" แต่เขากลับลดการคุ้มครองที่ดินของรัฐบาลกลางในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ เขายกเลิกการคุ้มครองป่าสงวนแห่งชาติ ทอนกาสซ์ ในอลาสก้า ซึ่งเป็นป่าสงสนแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ทำให้มีพื้นที่ 9 ล้านเอเคอร์สำหรับการตัดไม้ ทรัมป์ยังลดขนาดอนุสรณ์สถานแห่งชาติหลายแห่ง เช่น Bears Ears และ Grand Staircase-Escalante ในยูทาห์ ซึ่งในที่สุด ไบเดนก็ได้บูรณะเขายังต้องการขยายการขุเจาะ ซึ่งโครงการ 2025 เรียกร้องโดย "ปลอปล่อยทรัพยากรพลังงานทั้งหมดของอเมริกา" และยกเลิกข้อจำกัดของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับที่ดินสาธารณะ

           https://www.azcentral.com/story/news/local/arizona-environment/2024/08/22/kamala-harris-and-donald-trump-differ-in-views-on-environment-climate/74697537007/

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2567

The differences between the candidates 2024

           ทรัมป์เป็นผู้ถอนตัวออกจาข้อตกลงปารีส 2015 เกี่ยวกับการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากา
ศนวันที่ 1 มิถุนายน 2017 โดยให้เหตุผปลว่าการมีส่วนร่วมต่อไปจ่งผลกระทบต่อเศราฐกิจของสหรัฐฯและทำให้ประเทศอยุ่ใน "ภาวะเสียเปรียบถาวร" เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

          รัฐบาลไบเดน ตอบสนองด้วยการไม่เพีงแค่กลับเข้าร่วมข้อตกลงนั้น แต่ยังได้่ผ่านกฎหมายลดเงินเฟ้อ ซึ่งเป็แพ็คเกจรวมมูลค่า 783,000 ล้านดอลลาร์เพื่อให้ทุกการเปลี่ยนผ่านของประเทศไปใช้พลังงานสะอาดและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แฮร์ริสเป็นผุ้ลงคะแนนเสียงชี้ขาดในวุฒิสภาเพื่อสนับสนุนแพ็คเกจดังกล่าว ซึ่งต่อมาได้รับการอนุมัติในสภาผุ้แทรราษฎรตามมติของพรรค และลงนามโดย ไบเดน 

         นับตั้งแต่เร่ิมภารกิจในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแฮร์ริสได้สนับสนุนให้ดำเนินนโยบายของรัฐบาลต่อไป และยกย่องพลังานสะอาดและการดูแลสิ่งแวดล้อมในฐานะผุ้ผลิตงานที่สำคัญและเป็นแรงผลักดันความยุติธรรมทางเศรษฐกิจ

         ระหว่างการปรากฎตัวต่อสาธารณะในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ให้คำมั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า่จะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสอีกครั้ง หากเขาได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง และจะเพิกถอนบทบัญญัติเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศของพระราชบัญญัติลดอัตราเงินเฟ้อ แทนที่จะทำเช่นนั้น เขากล่าวว่า เขาจะเน้นย้ำให้สหรัฐฯเป็นอิสระด้านพลังงานดดยสนับสนุนการสำรวจและพัฒนาเชื้อเลพิงฟอสซิส

          การหาเสียงทื่ดรงานผลิตในเมือง ยอร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ในเดือนนี้ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เขาจะ
สนับสนุนการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบแบกส่วนขนาดเล็ก และยกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดขึ้นเมือต้นปีนี้โดยรัฐบาลของไบเดน เกี่ยวกับการปล่อยมลพิษจากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล

       ทรัมป์กล่าวกับผุ้เข้าร่วมงานว่า "ผมยืนหยัดเพื่อิสราภาพด้านพลังงานของอิมริกาและความโดดเด่นด้านการผลิต" "เมื่อผมกลับไปทีทำเนียบขาว ผลจะยุติการต่อต้านพลังงานอเมริกาและยุติกฎโรงไฟฟ้าของกมลา" 

      กมลาเป็นตัวแทนของการหายไปของพลังานและการทำลายโรงงาน ผมยืนหยัดเพื่อครอบงำการผลิต กมลาอยุ่ในกลุ่มญิฮาดด้านกฎระเบียบเพื่อปิดโรงไฟฟ้าที่วอเมริกา" ทรัมป์กล่าวต่อและเสริมว่า "มันเป็นหายนะสำหรับประเทศของเรา" "แทนที่จะปิดดรงไฟฟ้า เราจะเปิดโรงไฟฟ้าเพื่อมขึ้นอีกหลายสิบแห่ง และมันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว" เขากล่าว

      ทรัมป์ยังพูดถึงนดยบายก้านพลังงานของเขาในระหว่างการปรากฎตัวที่การประชุมสมาคมนักข่าวยิวสีแห่งชาติในเดือนกรกฎาคมอีกด้วย ระหวางการปรากฎตัวคร้ง้นั้น เขาได้กล่าวกับคณะผุ้สื่อข่าวว่า นอกเหนือจากการปิดพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ในวันแรกของการลบริหารงานของเขาแล้ว เขายังจะดำเนินการเพื่อเพิ่มการผลิตนำ้มันในประเทศด้วย 

      ความพยายามของเขาในการดำเนินนโยบายเหล่านี่้ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกไม่ประสบผลสำเร็จเป็นส่วนใหญ่

      แม้ว่าทรัมป์จะให้ความสำคัญอย่างมากกับการยกเลิกฎระเบียบในระหว่างดำรงตำแหน่ง โดยยกเลิกกฎ
ระเบียบมากมายในด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และด้านอื่นๆ แต่การวิเคราะห์องสถาบันเพื่อความซื่อสัตย์ทางนโยบายแห่งคณะนิติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์กพบว่ารัฐบาลของทรัมป์สูญเสียความท้าทายต่อกฎหระเบียบ เอกสารแนะนำ และบันทึกความจำของหน่วยงานไปถึง 87%

           หลักคำสอนที่เรียกว่า "เชฟรอน" มาจากคำตัดสินของศาลในคดี Chevron v. Natural Resources Defense Council  ในปี 1984 ซึ่งผุ้พิพากษาได้ตัดสินว่า หากรัฐสภาไม่ได้พิจารณาคำถามดังกล่าวโดยตรงซึ่งเป็นประเด็นสำคัญของข้อพิพาทด้านกฎระเบียบ ศาลจะต้องยืนยันการตีความกฎหมายของหน่วยงานตราบเท่าที่เป็นเหตุเป็นผล แต่ในคำตัดสิน 35 หน้าของประธานศาลฎีกา จอห์น โรเบิร์ตส์ ที่มมีขึ้นในเดือน มิถุนายน ผุ้พิพากษาส่วนใหญ่ปฏิเสธหลักคำสอนดังกล่าวโดยเรียกว่า "มีความเข้าใจผิโดยพื้นฐาน" 

         โดยพื้นฐานแล้ว นั้นอาจหมายถึงคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์และการตัดสินใจด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับพลังานแลส่ิงแวดล้อมอาจเผชิญกับความท้าทายน้อยกว่าในช่วงดำรงตำแหน่งงวาระแรกของเขามาก อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวไม่ได้ส่งเสริมความพยายามในการเพิกถอนหรือแม้แต่ลดทอนพระราชบัญํติลดเงินเฟ้อแต่อย่่างใด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ผ่านโดยรัฐสภา และจะต้องผ่านพระราชบัญญํติของรัฐสภาจคงจะยกเลิกได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

         แล้แม้ว่าทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งซ้ำในขณะที่พรรครีพัลลิกันควบคุมหนึ่งสภหรือทั้งสองสภา นั่นก็คงจะไม่ช่วยเขาเช่นกัน เนืองจากการลงทุนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นภายใต้ IRA นั้นอยุ่ในพื้นที่ที่พรรครีพัลลิกันเป็นตัวแทน ซึ่งน่าจะต้องจ่ายราคาทางการเมืองสำหรับการปฏิเสธเงินก้อนใหญ่

 บันทึกของแฮร์ริสก็คละเคล้ากัน แต่แตกต่างกันออกไป ในเดือน ธันวาคม 2016 เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่เธอจเข้ารับตำแหน่งวุฒิสมาชิกชั้นผุ้น้อยของรับแคลิฟอร์เนีย อัยการสูงสุดของรัฐแฮร์ริสได้ฟ้องรัฐบาลของโอบามาเกี่ยวกับแผนอนุญาตของกระทรวงมหาดไทยสำหรับการแตกหักด้วยแรงดันน้ำนอกชายฝั่งแปซิฟิก แฮร์กล่าวไว้ว่า "เราต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อปกป้องแนวชาวฝั่งและมหาสมุทรอันล้ำค่าของเรา" โดยอ้างว่าแผยของกระทรวงมหาดไทยมีพื้นฐานมาจาก "การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่เพียงพอ" เธอกล่าวว่าการอนุญาตให้มีการอนุญาตดังกล่าว"จะเปิดประตุให้เกิดการปฏิบัติบางอยาง เช่น การแตกหักของหิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมขนในแคลิฟอร์เนีย

        "เราต้องสร้างสมดุลระหว่างควมต้อกงารด้านพลังงานกับความมุ่งมั่นระยะยาวของเราในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพของประชาชน" เธอกล่าว ระหว่างที่เธอลงสมัครชิงตำแหน่งรองปรธานาธิบดีในปี 2020 แฮร์ริสยังคงยืนยัยว่าเธอจะห้ามการแตกหักของหิน แต่ในเวลาต่อมาเธอก็บอกว่าเธอจะไม่สนับสนุนการห้ามการกระทำนี้โดยสิ้นเชิง แม้รัฐบาล ไบเดนจะมีการดำเนินการขั้นเด็ขาดเพื่อพาประเทศไปสู่เป้าหมายด้านพลังงานสะอาด หลายประการ แต่การผลิตนำ้มันกลับเพ่ิมสูงขึ้น ตามข้อมูลของสกรักงานสารสนเทศด้านพลังงาน คาดว่าสหรัฐฯ จะผลิตนำ้มันดิบได้เฉลี่ย 12.8 ล้านบาร์เรล ต่อวันในปีนี้ เพ่ิมขึ้นจากประมษณการ 11.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2023 

         แฮร์ริสไม่หลบเลี่ยงความจริงที่ว่าสหรัฐฯยังคงเป็นผุ้ผลิตนำ้มันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก แทนที่จะทำเช่นนั้น เธออ้างถึง "การผลิตพลังงานที่เป็นสถิติใหม่" ของประเทศว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จของรัฐบาล โดยประกาศว่า "เราเป็นอสิระด้านพลังงาน" ถึงแม้ว่ารีพัลลิกันจะอ้างตรงกันข้ามก็ตาม

         https://www.thewellnews.com/political-news/harris-trump-what-we-know-so-far-about-their-energy-policies/

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Harris’ momentum

        การที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิดบีสหรัฐฯ ในปี 2024 พลิกโฉมการ
เข่งขันอย่างสิ้นเชิง คะแนนนิยมของเะอเพ่ิมขึ้นและความกระตือรือร้นในหมู่พรรคเดโมแครตก็เพ่ิมขึ้นด้วย หากการเลือกตั้งครั้งนี้มีพื้นฐานมาจาก "บรรยากาศ" เพียงอย่างเดียว โอการสของแฮร์ริสก็ตกอยุ่ตรงหน้าแล้ว

        อย่างไรก็ตาม พื้นฐานบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่าออกไป ต่อไปนี้คือสิ่งที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมของแฮร์ริส และปัจจัยพื้นฐานที่บอกอะไรเกี่ยวกับช่วงโค้งสุดท่ายของการเเลือกตั้งปี 2024 

         - ความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้น ในตอนแรก ทรัมป์ได้คะแนนเพ่ิมขึ้นหลัีงจากที่ไบเดน แสดงท่าที่ที่ย่ำแย่และพยายามฆ่าตัวตาย ดุเหมือนว่าทุกอย่างจะชัดเจนสำหรับทรัมป์ แต่ตั้งแต่ไบเดนออกจากตำแหน่ง กระแสก็เปลี่ยนไป แฮร์ริสมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากความกระตือรือร้นที่เพิ่มขึ้นในหมุ่เดโมแครต

        - รัฐที่ผลคะแนนแกว่งไปมา ค่าเฉลี่ยการสำรวจความคิดเห็นในรัฐที่ผลคะแนนแกว่งเปลี่บนไปเล็กน้อยแต่มีนัยสำคัญไปทางแฮร์ริสเมื่อเที่ยบกับไบเดน แม้ว่าคะแนนจะยังใกล้เคียงกัน แต่รัฐที่ผลคะแนนแกว่งบางรัฐก็สนับสนุนแฮร์ริส แต่ระวังไว้ ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องเดินต่อไป

       - "แปลก" กำลังได้ผลนับตั้งแต่พรรคเดโมแครตเร่ิมใช้แนวคิดในการเรียกทรัมป์และคู่หูของเขา วุฒิสมาชิก เจดี แวนซ์ ว่า "แปลก" คำขวัญนี้ก็ติดปากมาโดยตลอด ชาวอเมริกันจำนวนมาก รวมถึงผุ้ที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ ก็ตาม เชื่อมโยงคำว่า "แปลก" กับทรัมป์มากกว่าแฮร์ริส แต่กลยุทธ์นี้จะกลายเป็นคะแนนเสียงหรือไม่ เราคงต้องรอดูกันต่อไป

       - ประเด็นหลักเป็นข้อได้เปรียบของทรัมป์ หากการเลือกตั้งครังนี้เป็นเพียงเรื่องของ "บรรยากาศ" แฮร์ริสก็คงได้ตำแหน่งนั้น แต่ปัจจัยพื้นฐาน เช่น เศรษฐกิจ ก็มีความสำคัญเช่นกัน และทรัมป์ก็เป็ผุ้นำในเรื่องนี้ จำไว้ว่าผู้สมัครที่มีจุดแข็งที่สุดในประเด็นหลักจะชนะ 85% ของเวลาทั้งหมด ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประเด็นคือเศาฐกิจ แอร์ริสจะต้องดำเนินการตอ่ไปเพื่อให้โอกาสเข้าข้างเธอ ในประเด็นนี เจาจะจับตาดุประสิทธิผลของแคมเปญต่างๆ ที่มีต่อเศราฐกิจ ทรัปม์จะหันความสนใจไปที่จุดแข็งนี้หรือไม่ จนถึงตอนนี้เายังไม่ได้ทำ แอร์ริสจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญนี้หรือไม่ เธอเพิ่งเสนอ นโยบายประชานิยมเพื่อโจมตีระดับราคา ในที่สุด การเลือกต้งจะชนะด้วยประเด็นนี้

       - การอนุมัติของ ไบเดน จะฉุดรั้ง แฮร์ริส หรือไม่.. แบบจะลองอัตราฐานของ Ipsos แสดงให้เห็นว่าคะแนนการอนุมัติประมาณ 40% ทำให้ผุ้ดำรงตำแหน่งมีโอกาส 50-50 ที่จะได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง คะแนนการอนุมัติเดียวกันนี้ทำให้ผุ้สืบทอดตำแหน่งอยู่ในตำแหน่งที่แย่ลงมา คะแนนการอนุมัติของ ไบเดน ในปัจจุบัน 39% ทำให้ผุ้สืบทอดตำแหน่งมีโอากสชนะเลือกตั้งเพียง 1 ใน 8 ปัจจัยโครงสร้างไม่เดื้อต่อ แฮร์ริส "บรรยากาศ"ของเธอจะถ่วงดุลกับปัจจัยพื้นฐานหรือไม่..ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นส่ิงจำเป็นในกรณีนี้ เพมือพิจารณาจากทุกสิ่งที่เกิดขึ้น อดีตอาจไม่ใช่บทนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮร์ริสได้คะแนนเพ่ิมขึ้นในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาและขึ้นจากกระแส "ความคึกคัก"แต่ทรัมป์ยังคงยึดมั่นในปัจจัยพื้นฐานซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ 

       
แต่สิ่งต่างๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้ ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง และความกลัวต่อภาวะเศรษฐฏิจถอถอยที่ลดลง  อาจเปิดทางให้เศราฐกิจต้องลดความสำคัญโดยให้ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยเป็นประเด็นหลัก ซึ่งจะช่วยแฮร์ริสได้ จำไว้ว่า "เศรษฐกิจ"เป็นประเด็นที่พรรครีพัลลิกันทำได้ดี ในขณะที่่ "ประชาธิปไตย"เป็นประเด็นที่พรรคเดโแมครตมักจะทำได้ดีกว่าในทางกลับกัน ความกระตือรือร้นอาจหมดไป ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำลงซึ่งจะช่วยทรัมป์ได้...  

         แม็กกี่้ ฉาเบอร์แมนผุ้สื่อข่าวอาวุโสด้านการเมืองหล่าวว่าอดีต ประธานาธิบดีทรัมป์ "รู้สึกไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด" กับแรงผลักดันจาก การรณรงค์หาเสียง ของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสหลังจากที่ดำเนินกิจกรรมอย่างแข็งขันมาหลายสัปดาห์ และการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรคเดโมแครต 

         ฮาร์เบอร์แมน เข้าร่วมกับ วูฟ บลิทเซอร์ ของ CNN ในวันศุกร์เพื่อหารือเกี่ยวกับการโทรของทรัมป์ไปยัง Fox News และ Newsmax ทันที่หลังจาการกล่าวสุนทรพจน์ตอนเย็นวันพฤหัสบดี ของ แอร์ริส ซึ่งเธอได้ยอมรัการเสนอชื่อจากพรรคเดโแมครตอย่างเป็นทางการ

       "ดุสิ เขาตอบสอนงได้ดีมากในทุกเรื่องเมือไม่ได้อยุ่ในตำแหน่ง และเราได้เห็นสิ่งนี้ตลอดเก้าปีที่ผ่านมาว่าเขาอยุ่ในวงการเมืองหรือในพื้นที่ทางการเมือง" ฮาเบอร์แมน กล่าว ซึ่งสื่อ มีเดียอิทิ เน้นย้ำ "ชัดเจนว่่าเขารู้สึกขัดใจเธอ" 

         อดีตประธานาธิบดีได้แกสดงความคิดเห็นตอ่สุทรพจน์ของแอร์ริสแบบสดๆ บนเว็บไซต์ ทรูธ โซเชียล ของเขา จากนั้นจึงบอกกับ ฟ็อกนิวส์ ว่า เธอไม่ประสบความสำเร้จ แม้ว่าจะมีคะแนนนิยมเพ่ิมขึ้นในผลสำรวจความคิดเห็นก็ตาม เขาโจมตีแฮร์ริสในเรื่องที่เธอไม่ได้กล่าวถึงในสุนทรพจน์ของเธอ ซึ่งรวมถึงเรื่องชายแดนและจีนด้วย 

         คำปราศรัยของแอร์ริสปิดฉากความวุ่นวายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ประะานาธิบดีไบเดน ถอนตัวออกจากากรแข่งขัน ขณะที่การหาเสียงของแอรริสสร้างความตื่นเด้นเพ่ิมมากขึ้น

         เธอทำลายสถิติการบริจาคและเป็นเจ้าภาพจัดการชุมนุมที่มีผุ้เข้าร่วมจำนวนมากทั่วประเทศ การประชุมใหญ่ที่ชิคาโกปิดฉากอารณ์ที่ขึ้น ๆ ลงๆ ของพรรคเดโแมครต หลังจากากรดีเบตประธานาธิบดีครั้งแรกทำให้เกิดความตื่นตระหนกและยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวักบคงามสามารถของแอร์ริสที่จะเอาชนะทรัมป์

         ฮาเบอร์แมนกล่าว่าทรัมป์กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อควบคุมการสนทนาในระดับชาติอีกครั้ง เนื่องจากทุกสายตาจับจ้องไปที่แฮร์ริสนับตั้งแต่ไบเดนประกาศวาจะถอนตัวจากการแข่งขัน

          "เขากำลังพยายามชี้ให้เห็นถึงพื้นที่ที่เธอแยกตัวเองออกจากประธานาธิบดี ไบเดนอย่างนอ้ยก็ด้วยการละเว้น ในแง่ของการไม่ผูกมัดตัวเองกับบันทึกร่วมกันของพวกเขา" ฮาเบอร์แมนกล่าว "มีผุ้ช่วยของทรัมป์หลายคนที่ต้องการให้เขาพูดว่า "ไบเดน-แฮร์ริส ไบเดน-แฮร์ริส ตลอดเวลา และนั่นคือวิะีการของเขา" 

          https://thehill.com/homenews/campaign/4845407-maggie-haberman-trump-jarred-by-harriss-momentum/

          https://www.ipsos.com/en-us/harris-has-momentum-fundamentals-say-something-different

         

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...