แฮร์ริส ปะทะกับผุ้สัมภาษณ๊์ เบร็ท ไบเออร์ เกี่ยวกับประเด็นร้อนแรงต่างๆ รวมถึงการย้ายถ่ินฐานและการผ่าตัดแปลงเพศ โดยเธอ กล่าวซ้ำๆ ว่า "ฉันขอพุดจบให้จบได้ไหม" ในขณะที่พิธีกรพุดทับคำตอบของเธอบ่อยครั้ง
ช่วงเวลาสำคัญนการนั่งคุนกันครึ่งชั่ีวโมงนั้นเกิดขึ้นในขณะที่แฮร์ริสถุกกดันเก่ยวกับความเห็นที่เธอแสดงไว้เมือสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งพรรครีพับลิกันจับเอาความเห็นนั้นมาใช้โดยเธอกล่าวว่าเธอนึกไม่ออกเลยว่าเธอจะทำสิ่งใดแตกต่างไปจากไปเดนในช่วงสี่ปีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ แฮร์ริสกล่าวว่า "การดำรงคตำแหน่งประะานาะิบดีของแันจะไม่ใช่การสานต่อตำแหน่งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน การประกาศตัดขาดนี้ คาดว่ามุ่งเป้าไปที่กลุ่มผุ้มีสิทธิเลือกตั้งของพรรครีพับลิกันที่ไม่แน่ใจในตัว ทรัมป์ แฮร์ริสกล่าวว่าเธอจะนำเสนอ "แนวคิดสดใหม่และแปลกใหม่" และกล่าวเสริมว่า "ฉันเป็นตัวแทนของผุ้นำรุ่นใหม่" ไบเดนกล่าวมือวันอังคารที่ผ่านมาว่า แฮร์ริสจะ "เลือกเส้นทางของตนเอง" ในฐานะประธานาธิบดี
การให้สัมภาษณ์กับ ฟ็อกซ์ ถือเป็นการเสี่ยงโชคของแฮร์ริส ในขณะที่เะอพยายามจะทำลายทางตันในการแข่งขันชิงตำแหน่งผระธานาธิบดีที่ยังคงสุสีโดยเหลือเวลาอีกไม่ถึงสามสัปดาห์ เดโมแครตต้องเผชิญการซักถามเชิงสืบสวนระหว่างการสัมภาษณ์ โดย ไบเออร์ของให้เธอตอบโฆษณาหาเสียงของทรัมป์และคลิปของพรรครีพับลิกันที่ออกมาปกป้องคำพุดทางทหารของเขาด้วย
แฮร์ริสหันคำถามกลับไปที่คุ่แข่งของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า การสนทนาทีดุเดอืนที่สุดครั้งหนึ่งเกิดขึ้นเมือผู้สัมภาษณ์ ไบเออร์ กดดันแฮร์ริสเกี่ยวกับจำนวนผุ้อพยพยผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเม็กซิโกในสมัยบริหารของ ไบเดน ซึ่งจำนวนลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แฮร์ริสตอบโต้โดยกล่าวว่ารัฐบาล ไบเดน-แฮร์ริส เสนอร่างกฎหมายเพ่ิมการข้ามพรมแดน แต่ว่า ทรัมป์บอก(พรรครีพับลิกัน) ให้ยกเลิกร่างกฎหมายนั้น"
นอกจานี้ แฮร์ริสยังถุกซักถามเกี่ยวกับการผ่าตัดแปลงเพศสำหรับนักโทษหรือผุ้อพยพเข้ามเืองผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นประเะด็นโจมตีของกลุ่มอนุรักืนิยมที่ใช้ในโฆษณาทางโทรทัศน์ชุดหนึ่งของแคมเปญหาเสียงของทรัมป์เมือเร็วๆ นี้ แฮร์ริสกล่าว่ว่า "ฉันจะปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งเป็นกฎหมายที่โดนัลด์ ทรัมป์ปฏิบัติตามจริงๆ " โดยอ้างถึงรายงานของนิวยอร์กไทมส์เมื่อวันพุธที่ระบุว่าภายใต้การดำรงตำแหน่งประะานาธิบดีของทรัมป์ เรือนจำยังเสนอการดูแลที่คำนึงถึงเพศอีกด้วย..
ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับ ฟ็อกซ์ นิวส์ ก่อนหน้านี้ โดยมีผุ้ฟังเป็นผุ้หยิ.ล้วน ดดยการสนทนาได้เปลี่ยนไปสุ่่เรื่องการปฏิสนธิในหลอดแก้ว IVF ซึ่งเป็นการรักษาภาวะมีบงุตรยากที่เดโมแครตกล่าวว่ากำลังถูกคุกคามจากนโยบายของเขา
แม้ว่าจะเป็นเรื่องในประเทศ แต่ก็ถือเป็นกัวข้อที่ท้าทารย เนื่องจากผุ้กญิงหลายคนไม่สนใจคำกล่าวของทรัมป์เกี่่ยวกับสิทธิในการสืบพันธุ์ รวมไปถึงการหาเสียงของเขาโดยกว้างๆ แต่เขาได้รับเสียงเชียร์ขณะที่บอกกับผุ้ฟังในรัฐจอรืเจียซึ่งเป็นรัฐสำคัญว่าพรรครีพับลิกันเป็นพรรคที่สนับสนุนกระบวนการนี้" "ผมอยากคุยเรื่อง IVF ผมเป็นบิดาแห่ง IVF ดังนั้นผมจึงอยากได้ยินคำถามนี้" ทรัมป์กล่าว
แฮร์ริสผุ้ที่ยึดถือการปกป้องสิทธิการสืลพันธุ์เป็นหัวใจหลักของนโยบายเสียงของเธอ เรียกความเห็นของเขาว่า "แปลกประหลาด"
11 ตุลาคม 2024 เว็บไซต์รวบรวมผลการสำรวจ จากหลายสำนัก พบว่า แฮร์ริสมีคะแนนนำอยู่เล็กน้อย ประเด็นสำคัญๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีดังนี้
- เซอร์ไพร์
แฮร์ริสซึ่งเป็นเดโมแครต อาจพร้มที่จะพลิกกลับกลุ่มประชากรหลักกลุ่มหนึ่งอขงทรัมป์ นั่นคือ ผุ้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตชานเมือง
เมื่อวันที 10 ตุฃลาคม สำนักข่าวรอยเตอร์และผลสำรวจวิจัย ตลาด อิบซอส เผยแพร่ผลสำรวจซึ่งแสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสมีคะแนนนำอยุ่ แต่สองวันต่อม่ นิวยอร์ก ไทม์ และ เซียน่า คอลเลจ เผยแพร่ผลสำรวจที่ระบุว่าแอร์ริสอาจลอความนิยมในหมู่ผูมีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวสี เธอได้รับการสนับสนุน78% ซึ่งลดลงจากที่คาดว่า โจ ไบเดน ได้รับ 90% ในปี 2020
- พายุเฮริเคนมิลตันกลายเป็นสมรภูมิข่าวปลอม
ภายในสามวันหลังจากที่ก่อตัวในอ่าวเม็กซิโก พายุเฮริเคนที่ชื่อมิลตันกลายเป็นพายุถที่รุนแรงระดับ 5 และได้รับการจัดอันดับสุงสุดในระดับซาฟเฟอร์-ซิมป์สัน การพัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำนักงานบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติขนานนามมิลตันว่า "หนึ่งในพายุเฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดเท่าที่มีการบันทึกในมหาสมุทรแอตแลนติก"
ในขณะที่ฟลอริดาเตรียมรับผลกระทบ นักการเมืองก็เตรียมการไม่เพียงแต่สำหรับลมกระโชกแรงและพายุเท่านั้ แต่ยังรวมถึงข้อมุลเท็จมากมายด้วย
ในคืนที่มิลตันขึ้นฝั่ง โจ ไบเนโต้กลับ ดดยใช้ีรำพุดทีทำเนียบขาวเกี่ยวกับพายุเพื่อโจมตีทรัมป์อีดตคู่แข่งทางการเมืองของเขา "ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่ามา มีกามรเยแพร่ข้อมุลเท็จและการโกหกอย่างโจ่งแจ้งเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่รอบคอบ ไร้ความรับผิดชอล และไม่ลดละ" ไบเดนกล่าว และเรียกากรบิดเบืนเหล่านี้ว่า "ไม่ใช่แนวทางแบบอเมริกัน" "อดีตประะานาธิบดีทรัมป์เป็นผุ้นำการโจมตีด้วยคำโกหกครั้งนี้" เขากล่าวเสริม แฮร์ริสกล่าวที่ลาสเวกันว่า "นี่ไม่ใช่เวลาที่คนจะเล่นการเมือง"เธอกล่าวโดยอ้างอิงพรรครีพับลิกัน
- สื่อกระแสหลัก
แฮร์ริสซึ่งเคยถุกวิพากษ์วิจาร์ว่าไม่ได้ปรากฎตัวในสื่อระดับประเทศได้ให้สัมภาษณ์ไปที่ละบทเมือต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ทางสื่อเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับช่วงเร่ิมต้นการหาเสียงของเธอ หลังจากที่เธอประกาศลงสมัคร แฮร์ริสก็ไม่ได้ปรากฎตัวในบทสัมภาษณ์สำคัญใดๆ กระทั้งปลายเดือนสิงหาคม
การสัมภาณณ์ที่ไม่ใช่รายการสดกับนิตยสารข่าวโทรทัศน์ชือตัง 60 มินัทส์ โดยทางรายการตั้งใจจะเชิญโดนัลด์ ทรัมป์มาสัมภาษณ์ด้วยเช่นกัน แต่ พิธีการรายการ ประกาศว่าทีมงานของทรัมป์ได้ขอถอนตัวออกจาการสัมภาณ์ที่ตกลงกันไว้ โดยอ้างว่า ไให้คำอธิบายที่เปลี่ยนไป" รวมทั้งการที่รีพับลิกันอาจถูกตรวจสอบข้อเท็จริงะหว่างออกอากาศ
ความขัดแย้งระหว่าทรัมป์กับรายการ 06 Minotes ยังไม่จบเพียงแค่นัี้น เมื่อตัีวอย่างการสัมภาษณ์แฮร์ริสเผยให้เห็นว่า แฮร์ริสตอบคำภามแตกต่างไปจากในเวรอ์ชันที่ยาวกวา ทรัมป์กล่าวหาว่าทรางรายการ พยายาม "ทำให้เธอดุดีขึ้น"
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้คณธกรรมการการสื่องสารกลาง "ถอนใบอนุญาตของ CBS ออกไป" คำพูดดังกล่าวทำให้ประธานคณธกรรมการวิพากษ์วิจารณืว่าการกระทำดังกล่าวจะคุกคามเสรีภาพในการพูดวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกรทำดัวกล่าวจะคุกคามเสรีภ่พในการพูด
- สุขภาพ
ในช่วงการเลือกตั้งปี 2024 คำถามเกี่ยวกับสุชขภพและความสามารถยังคงเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลให้ผุ้สมัครรายหนึ่งต้องพ่ายแพ้ก็ได้ ประเด็นสุขภาพกลายมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งในสัปดาห์นี้ เมือ เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ ได้ลงบทความวิเคราะห์คำพูดที่ "วกวน" และยือยาวของทรัมป์ โดยตัึ้งคำถามว่ารูปแบบการพูดของเขาสะท้อนถึงผลกระทบจากวัยชราหรือไม่
จากนั้นในวันเสาร์ ทำเนียบขาวได้เผยแพร่บันทึกข้อความยกย่อง แฮร์ริส ในวัย 59 มีข้อความว่า "มีความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของประธทานาธิบดีได้อย่างประสบความสนำเร็จ"
สตีเวน เชียง โฆษกฝ่ายหาเสียงของเขาได้ออกมาตอบโตค้ต่อการตรวจสอบของสื่อด้วยแถลงการณ์โดยโต้แย้งว่า แฮร์ริส "ไม่มีความอดทน"เท่ากับทรัมป์ "ทุกคนลงความเห็นว่าเขามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีจนสามารถดำรงตำแหน่งผุ้บัญชาการทหารสูงสุดได้" เฉิงเขียนเกี่ยวกับทรัมป์
- ทรัมป์ว่างดครงร่างสำหรับวาระการค่อต้านผุ้อพยพ
ในช่วงการหาเสียงในสัปดาห์นี้ ทรัมป์เริ่มโจมตีผุ้อพยพยในสหรัฐฯมากขึ้น โดยยังคงกล่าวหอย่างเท็จและยั่วยุอย่างต่อเนื่อง
การย้ายถ่ินฐานถือเป็นประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งในอาชีพการเมืองของทรัมป์ และเขาได้ใช้ความพยายามอยาง ากเืพ่อสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งกร้าว
แต่บรรดานักวิจารณ์เตือนว่าถ้อยำชาตินิยมของเขามีความสุดโตค่งมากขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนถึงความรุ้สึกของกลุ่มคนผิวขาวที่ถือว่าตนเหนือกว่าคนอื่นและบุคคลขัดแย้งอื่นๆ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่าน ทรัมปืได้บันทุกการสัมภาษณ์ทางเสียงกับ รายการ Hugh Hewitt Show โดยเขาได้กล่าวซ้ำถึงค่ากล่าวอ้างอันเป็นเท็จว่ามีฆาตกรจำนวนมากกำลังช้ามพรมแดนเข้าสุ่สหรัฐฯ
"พวกเขาหลายคนฆ่าคนไปมากว่าหนึ่งคน และตอนนี้พวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสหรัฐฯ" ทรัมป์กล่าว ไตอนนี้ฉันเชื่อว่าพวกเขาเป็นฆาตกร มันอยุ่ในยีนของพวกเขา และเรามียีนท ี่ไม่ดีมากมายในประเทศของเราตอนนี้" พรรครีพับลิกันยังคงแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของผุ้อพยพในฐ.านะอาชญากรตลอดทั้งสัปดาห์ ในการพุดที่เมือง ออโรรา โคโลราโด ทรัมป์ให้คำมั่นว่าหากเขาได้รับการเลือกตังอีกครั้ง เขาจะใช้เวลาช่วงวันแรกฟๆ ในตรำแหน่งเพื่อ "เร่งรัดการกำจัด" " แก็งอันธพาล" ออกจากาประเทศ รวมทั้งใช้พรบ.ศัตรุต่างด้าว ซึ่งเป็นกฎหมายในช่วงสงคราม เป็นเครืองมือในการเนรเทศหมุ่ เขายังเรียกร้องให้มีโทษประหารชีวิตสำหรับผู้อพยพที่ฆ่าพลเมืองสหรัฐฯด้วย
แม้ว่าทรัมป์จะพรรณนาถึงความไร้กฎหมาย แตผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผุ้อพยพที่ไม่มีเอกสารกลับก่ออาชญากรรมในอัตราที่ต่ำกว่าพลเมือที่เกิดในสหรัฐฯมาก
- บ็อบ วูดเวิร์ด
นักข่าวผุ้เป็นตำนานในวงการสื่อสารมวลชนของสหรัฐฯ ในปี 1972 เขาและคาร์ล เบิร์ลสไตน์ วึ่งเป็นเพื่อนร่วงานที่ วอชิงตันโพสต์ ได้ช่วยเปิดเผยบทบาทของประธานาะิบดี ริชาร์ด นิกสัน ในเรืงอื้อฉาววอเตอร์เกต ส่งผลให้ในที่สุดนัการเสืองผุ้นี้ต้องลาออก
ตั้งแต่นั้นมา วูดเวิร์ด ได้ตีพิมพ์หนังสือหลายสิบเล่ม ดดยอ้างว่าจะแสดงให้เห็นกลไกภายในของ
การเมืองสหรัฐฯ หนังสือล่าสุดของเขาซึงตีพิมพ์ในช่วงที่กำลังมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้เผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยระหวางทรัมป์กับประะานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปุติน
การเมืองสหรัฐฯ หนังสือล่าสุดของเขาซึงตีพิมพ์ในช่วงที่กำลังมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้เผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยระหวางทรัมป์กับประะานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปุติน
หนัีงสือที่มีชื่อว่า War ได้วางจำหน่ายตามสื่อต่างๆ ก่อนที่จะวางจำหน่ายตามร้านหลงสือทั่วไปในวันอังคาร
ผุ้ช่วยคนกนึ่งซึ่งไม่ได้ระบุชื่อได้กล่าวหาว่าทรัมป์ดทรหาปูตินอย่างน้อย 7 ครั้งนับแต่ออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ หนังสือยัีงระบุด้วยว่าในช่วงทีโควิด 19 ระบาดหนัก ทรัมป์ได้ส่งเครื่องตรวจไวรัสซึ่งขาดแคลนไปให้ปูติน
ตั้งแต่นั้นมา สำนักข่าวต่างๆ ก็พยายามตรวจสอบคำกล่าวอ้างที่เป็นข่าวดังที่สุดบางส่วนในหนังสืออย่างอิสระ แกละทีมงานของทรัมป์ก็ปฎิเสธคำกล่าวอ้างเหล่านั้นทั้งหมด โดยเรียกวูดเวิร์ดว่าเป็น "คนตัวเล็กที่โกรธเคือง"
https://www.aljazeera.com/news/2024/10/13/state-of-the-race-five-takeaways-from-the-us-election-this-week
https://www.france24.com/en/americas/20241017-harris-breaks-from-biden-trump-calls-himself-father-of-ivf-in-dueling-fox-news-appearances
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น