"เรื่องมีอยู่ว่า"
ภิกษุ 30 รูปกลุ่มหนึ่งเรียนกรรมฐานในสำนักของพระผู้มีพระภาค และจำพรรษาในวัดป่า ทำข้อตกลงกันว่า ควรทำสมณธรรม ตลอดคืนไม่ไปมาหาสู่กัน ต่างคนต่างอยู่
เมื่อภิกษุเหล่านั้นทำสมณธรรม ตอนใกล้รุ่งก็โงกหลับ เสือตัวหนึ่ง ก็เข้ามาคาบไปกินที่ละรูปไม่มีภิกษุผู้ใดเปล่งวาจาร้องบอกแก่ภิกษุผู้อื่น
ภิกษุถูกเสือกินไป 15 รูป ด้วยอาการอย่างนี้ ถึงวันอุโบสถ(วันพระ) ภิกษุจึงทำข้อตกลงกันว่าหากภิกษุรูปใดโดนเสือคาบให้ร้องบอกภิกษุที่เหลือ
ต่อมา เสือก็จับภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง ภิกษุหนุ่มก็ร้องบอกเพื่อนภิกษุ ภิกษุที่เหลือจึงพากันถือไม้ และคบเพลิงติดตามหวังจะให้เสือปล่อยภิกษุหนุ่ม แต่เสือพาเหยื่อของตนขึ้นไปทางเขาขาดทางที่ภิกษุทั้งหลายตามมาไม่ได้
เสือเริ่มกินภิกษุ ตั้งแต่นิ้วเท้า
ภิกษุนอกนั้นำ็ได้แต่กล่าวว่า สัตบุรุษ บัดนี้ กิจที่พวกเราจะต้องทำไม่พึงมีแล้ว ขึ้นชื่อว่าความวิเศษของภิกษุทั้งหลายย่อมปรากฎในฐานะเช่นนี้
ภิกษุหนุ่มผู้ถูกเสือจับ ข่มเวทนาความเจ็บปวด แล้วเจริญวิปัสสนา ตอนเสือกินถึงข้อเท้าเป็นพระโสดาบัน เสือกินถึงหัวเข่าเป็นพระสกทาคามี เสือกินไปถึงท้องเป็พระอนาคามี ตอนเสืิอกินถึงหัวใจก็บรรลุพระอรหันต์ พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา
จึงเปล่งอุทานเป็นภาษาบาลีแปลเป็นใจความดังนี้
เรามีศีล ถึงพร้อมด้วยวัตร มีปัญญา มีใจมั่นคงดีแล้ว
อาศัยความประมาทครู่หนึ่ง ทั้งที่มีใจไม่คิดร้ายในเสือ มันก็
จับไว้ในกรงเล็บ พาไปไว้บนก้อนหิน เสือจงกินเราถึงกระดูก
และเอ็นก็ตามที เราจักทำกิเลสให้สิ้นไป จักสัมผัสวิมุตติ ดังนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น