ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาณาจักรรัสเซียได้ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ หลังจากพวกมองโกลระส่ำระสาย ผู้นำแป่งอาณาจักรมอสโค ทรงตั้งพระองค์เป็นกษัตริย์แห่งชาวรัฐเซียทั้งปวง พระเจ้าอีวานที่ 3 ทรงสภาปนากรุงมอสโกเป็นราชธานี ชาวรัสเซียสมัยนั้นถือว่าพวกตนเป็นทายาทอันชอบธรรมของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์
พระเจ้าอีวานที่ 3 ทรงอภิเษก 2 ครั้ง มเหสีองค์แรกสิ้นพระชนม์เมืองพระองค์ครองราชย์ได้ 5 ปี การอภิเษกในครั้งที่ 2 นั้น ทรงสมรสกับ เจ้าหญิงโซเฟียแห่งไบแซนไทน์ พระเจ้าหลานเธอของจักรพรรดิแป่งอาณาจักรไบแซนไทน์องค์สุดท้าย (จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 11 พาลาโอโลกอสซึ่งสวรรคตเมืองครั้งการเสียกรุงคอนสแตนติโนเปิล)
แต่ละส่วนของเมืองแยกออกจากกันโดยมีป้อมปราการล้แมรอบ มีแม่น้ำมอสควาไหลผ่าน พวกช่างฝีมือและกรรมกร อาศัยอยู่ในบริเวณเมืองที่สร้างด้วยไม้ พวกพ่อค้าและพวกขุนนางอาศัยอยู่ในบริเวณที่เรียกว่าเมืองสีขาว (สิ่งอ่กสร้างด้วยหินสีขาว White City) ถัดมาจะเป็นเป็นส่วนที่เรียกว่า Kitatgrod
ซาร์อีวา ทางนำช่างชาวอิตาลีมาออกแบบสร้างพระราชวังป้อมปราการต่าง ๆ และพระวิหารในพระราชวังเครมลินและที่อื่นๆ ด้วยเช่น ทรงให้สร้างมหาวิหาร เป็นที่สำหรับซาร์ ทำพิธีบรมราชาภิเษกในพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโก โปรดให้สร้างวังที่ประทับ และมหาวิหารนอาร์คันเกล มิคาอิล ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นที่ฝั่งพระศพซาร์กษัตริย์แห่งรัสเซียในเวลาต่อมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น