WWII:Liberation of Paris

     ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กรุงปารสได้อยู่ในแนวหน้าของการรบ โดยรอดจากการโจมตีของเยอรมันไปได้ กรุงปารีสกลายเป็นที่สวนสนามแห่งชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตรและเป็นที่เจรจาสันติภาพอีกด้วย ในช่วงระหว่างสงคราม กรุงปารีสได้มีชื่อเสียงจากศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ และชีวิตยามค่ำคืน เมื่องนี้ได้กลายเป็นศูนย์รวมชองจิตกรชื่อดังทั่งโลก        
    มิถุนายน 1940 ห้าสัปดาห์หลังจากการเริ่มต้นของสงครามแห่งฝรั่งเศส กรุงปารีสตกอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพนาซีเยอรมัน  กรุงปารีสยืนหยัดท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เนื่องจากภายในกรุงปารสไม่มีเป้าทางยุทธศาสตร์สำหรับฝ่ายสัมพันธมิตรในการวางระเบิด และด้วยความสวยงามทางวัฒนธรรม พลเอกดีทริช ฟอน โชลทิทซ์ General der Infanterich von Choltitz นายทหารเยอรมันขัดคำสั่งของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ในการทำลายกรุงปารีสและอนุสาวรีย์ที่สำคัญก่อนการถอนทหารเยอรมันออกจากปารีส ชาวฝรั่งเศสบางคนมองเขาว่าเป็นผู้ช่วยเหลือกรุงปารีส
     18 มิถุนายน เดอ โกล เตรียมตัวที่จะปราศรัยแก่คนฝรั่งเศฝ่านทางวิทยุ BBC ในกรุงลอนดอน คณะรัฐมนตรีของอังกฤษได้พยายามบล็อกคำปราศรัยครั้งนั้น แต่วินสตัน เชอร์ชิลล์ ก็ได้ยับยั้งมติคณะรัฐมนตรีไว้ได้ ในประเทศฝรั่งเศส เดอ โกล Appel du 18 June น่าจะเป็นที่ได้ยินของคนทั้งชาติในเย็นวันนั้น แต่ในความเป็นจริงมีผู้ได้ยินคำประกาศนั้นน้อยมาก เดอ โกลยังไม่เป็นที่รู้จักกันฝรั่งเศสตอนนั้น คำปราศรัยของเขาเป็นเหมือนความเพ้อฝัน วลีที่ว่า ฝรังเศสแพ้จากการรบ แต่ยังมิได้แพ้สงคราม นั้นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจแน่วแนของชาร์ล เดอ โกล  เขามีส่วนร่วมในการต่อต้านการบุกรุกของเยอรมันและประกาศว่า “ไฟแห่งการต่อต้านของฝรั่งเศสจะไม่ดับลง”
     ในไม่ช้าท่ามกลางความวุ่นวาย งุ่นงง และยุ่งเหยิงของประเทศฝรั่งเศส ข่าวที่ว่ามีนายพลชาวฝรั่งเศสที่อยู่ในกรุงลอนดอนได้ปฏิเสธที่จะยอมแพ้หรือสงบศึกกับเยอรมันและได้ประกาศว่าสงครามยังดำเนินต่อไป  ได้กระจายจากปากสู่ปาก และจนวันนี้คำปราศรัยของเขานั้นเป็นที่จดจำและโด่งดังที่สุดอย่างหนึ่งในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส
      ในลอนดอน ชาร์ล เดอ โกล ได้ก่อตั้งและดำเนินการแนวร่วมการปลดปล่อยฝรั่งเศส ในขณะที่สหรัฐอเมริกาให้การยอมรับรัฐบาลวิซีฝรั่งเศสแต่สหราชอาณาจักรรัฐบาลของวินสตัน เชอร์ชิลล์ให้การสนับสนุนชาร์ล เดอ โกล ทั่งที่รักษาระดับความสัมพันธ์กับรัฐบาลวิซีฝรั่งเศสอยู่
     เดือนกรกฎาคม ปี 1940 ศาลทหารได้ตัดสินให้ชาร์ล เอด โกล จำคุกเป็นเวลา 4 ปี(โดยที่เจ้าตัวไม่อยู่) และการตัดสินครั้งที่ 2 ในเดือนสิงหาปีเดียวกัน ตัดสินประหารชีวิตเนื่องจากทรยศและทำการกบฏต่อรัฐบาลวิซีฝรั่งเศส
    ในการปฏิบัติต่อสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกานั้น เขายืนหยัดตลอดเวลาในการยืนหยัดสิทธิเสรีภาพในฐานะตัวแทนคนฝรั่งเศส แต่บ่อยครั้งบที่เขาถูกฝ่ายสัมพันธมิตรลืม ภรรยาเซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ ผุ้ซึ่งชื่นชมในตัวเอด โกล เคยเตือนเขาว่า อย่างเหลียดพันธมิตมากกวาศัตรู แต่เดอ โกลตอบกลับไปว่า ฝรั่งเศสไม่ม่เพื่อนมีแต่หุ้นส่วน


     สถานการณ์ดังกล่าวมีความซับซ้อน เดอ โกล ไม่ไว้วางใจจุดประสงค์ของสหราชอาณาจักและสหรัฐอเมริกา เนื่องจากนักการเมืองระดับสูงของสหรัฐฯนั้นไม่ไว้วางใจแนวร่วมปลดปล่อยฝรั้งเศส ในทางกลับกัน สหรัฐอเมริกาก็ยังให้การยอมรับรัฐบาลวิซีฝรั่งเศสแทน
     เขาทำงานร่วมกับกลุ่มการต่อต้านของฝรั่งเศสและผุ้สนับสนุนการครอบครองเมืองขึ้นฝรั่งเศสบริเวณแอฟริกา ต่อมาหลังภารกิจ Oparation Torch ทหารอังกฤษและอเมริกันยกพลบุกเมืองขึ้นฝรั้งเศสในอแฟริกาเนหือ เดอ โกล ย้ายกองบัญชการไปยังเมืองแอลเจียร์ ประเทศแอลจีเรีย หลังจากนั้น เดอ โกลก็ได้เป็นประธานร่วม และภายหลังเป็นประธารคณะกรรมมาธิการปลดปล่อยแห่งชาติแบบเต็มตัว
     ระหว่างภารกิจการปลดปล่อยฝรั่งเศสนั้น ทหารอังกฤษและอเมริกันก็ได้ยกพลขึ้นผืนแผ่นดินใหญ่ที่ประเทศฝรั่งเศสในภารกิจ Operation OverLord เดอ โกลก็สถาปนา แนวร่วมการปลดปล่อยฝรั่งเศสในผืนแผ่นดินใหญ่ฝรั่งเศส หลีกเลี่ยง รัฐบาลทหารสัมพันธมิตรเพื่อครอบครองดินแดน เขานั่งเครื่องฯจากประเทศแอลจีเรียมายังฝรังเศสก่อนการเป็นเสรีภาพของกรุงปารีส และได้เคลื่อนที่เข้าไปบริเวณแนวหน้าใกล้ ๆ เมื่องหลวงพร้อมกับทหารสัมพันธมิตร เขาได้กลับมายังกรุงปารีสในไม่ช้า และได้กลับเข้าทำงานในกระทรวงระหว่างสงคราม และได้ประกาศว่าสาธารณรัฐที่ 3 ยังคงอยู่ต่อไปและปฏิเสธการปกครองของวิซีฝรั่งเศส
     ภายหลังการนำของชาร์ล เดอ โกล ผู้ที่ได้ทำการต่อต้านและต่อสู้เพื่อฝรั่งเศสมาก่อนหน้านี้เเล้วซึ่งสามารถเคลื่อนกองทัพ กองทัพหนึ่งของฝรั่งเศสในบริเวณแนวตะวันตกได้ โดยการกระทำภารกิจยกพลขึ้นทางตอนใต้ของฝรั่งเศส Operation Dragoon ซึ่งสามารถทำให้ 1 ใน 3 ของประเทศฝรั่งเศสเป็นเสรีจากกองทัพเยอรมันได้ ทหารกลุ่มนีเเรยกว่า กองทัพฝรั่งเศสกลุ่มแรก ทำให้กองทัพฝรั่งเศสนั้นไดเข้าร่วมในการต่อสู้กับเยอมันทางทหารพร้อมเพรียงกับทหารอังกฤษโดยปริยาย และยังได้ยึดดินแดนที่กองทัพเยอรมันครอบครองไว้คืนมาอีกด้วยและส่งผลถึงการที่ฝรั่งเศสมีส่วนร่วมในสนธิสัญญการยอมแพ้ของเยอรมันด้วย ไปกวานั้นฝรั่งเศสยังมีโอกาสที่จะควบคุม 1 ใน 4 ส่วนของประเทศเยอรมันหลังสงครามอักด้วย
      จากปฏิบัติการ “โอเวอร์ลอร์ด”สู่การปลดปล่อยปารีส ชาร์ล เดอโกล ได้จัดตั้งรัฐบาลเฉพาะการแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสในเดือนมิถุนายน ปี่ 1944 และหลังจากการประกาศอิสรภาพของกรุงปารีส รัฐบาลเฉพาะกาลแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสได้แต่งตั้งตัวเองอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 สิงหาคม อีกทั้งได้รับการรับรองให้เป็ฯรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยฝ่ายสัมพันธมิตรในวันที่ 24 ตุลาคม 1944
     จากอิสรภาพของสาธารณรัฐฝรั่งเศสนเดือนสิงหาคมและกันยายนรัฐบาลวีซีย้ายไปยังเมืองซิกมาริงเงินในเยอรมันและได้กลายเป็นรัฐบาลที่ถูกเนรเทศ เปแตงยังคงเป็นผู้นำต่อมาจนถึงเดือนเมษายน ปี 1945 ภายหลังเปแตงถูกพิจารณาประหารชีวิตในข้อหากบฏ แต่ต่อมาภายหลังได้รับการลดทอนโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต                        

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)