Celtic pantheon

           

              ชาวเคลท์นั้น เกิดขึ้นในช่วงยุคเหล็ก ซึ่งเดิมนั้นพวกเค้าก็กระตายตัวเองอยู่ในแถบยุโรป รวมถึงในอาณาจักรโรมัน แต่ทำไม่เรื่องตำนานเคลติกนั้นกลับไม่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในโรมัน นังเป็นเพราะราวๆ ยุคกลางของสหัสวรรษที่หนึ่ง ชาวเคลท์ถุกขับไล่ จึงต้องอพยพไปออยุ่ในแถบไอร์แลนด์ ยังยังกระจายตัวไปยังฝรั่งเศส ตำนานของชาวเคลท์จึงแพร่หลายอยุ่แต่ในแถบนั้นมากกว่า
            เมื่อกล่าวถึงตำนานเคลติกแล้ว ก็จะต้องพูดถึงเหล่าติวตอนิก ซึ่งอยู่ในแถบเหนือๆ ของยุโรปเช่นกัน พวกติวตอนิกมีเรื่องราวที่น่าสนใจ อาทิ ตำนานนอร์ส ตำนานวันแร็คนาร็อก ซึ่งเป็นเรื่องราวชาวไวกิ้ง วัลฮาร่า  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชาวติตอนิก
           ชาวเคล สังคมเคลติกมีโครงสร้งการปกครองที่ค่อยค้างชัดเจน นั่นคือจะมีผุ้นำสูงสุดหรือ กษัตริย์เป็นผู้ปกครองเผ่า และในแต่ละเผ่าจะแบ่งอีก 3 ชนชั้น คือ อัศวินผุ้ทรงเกี่ยติและหล่านักรบ ดรูดิด (ผู้นำทางศาสนา) และเกษตกรและสามัญชน
          ดรูอิด เป็นผู้มาจากครอบครัวอันทรงเกี่ยรติ เป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพล และเป็นที่นับถือจากคนในผ่า ดรูอิดนั้น นอกจากจะเป็นผู้นำทางศาสนาแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นผุ้พิพากษา ครู ที่ปรึกษา และที่สำคัญคือ ดรูอิดได้รับ ความเชื่อถืออย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้มีพลังพิเศษ เมื่อดรุอิดได้รับความเชื่อถือขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องมีผุ้ที่อยากเป็นศิษย์ของดรูอิด จึงเกิด ลัทธิดรูอิดขึ้น..
         ตำนานเคลติกนั้นแรกเริ่มเดิมที่ก็ถูกบันทึกโดยชาวโรมัน ในช่วงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตศักราช ภายหลังเมื่อย้ายถิ่นฐาน (ถูกไล่) ไปอยู่ไอร์แลนด์ เรื่องราวของเดลติกก็ถูกบันทึกต่อโดยพระชาวไอริช (ศตวรรษที่ ๖) และนักเขียนชาวเวลส์แทน ดังนั้น ตำนานของชาวเคลส์ จึงกว้างมาก เป็นการรวมเรื่องราวที่เล่าต่อๆ กันม กว่าร้อยเรื่อง
       
  เรื่องราวของเหล่าเทพเจ้าในเคลติกนั้นไม่ได้ถุดดรูอิคบันทึกเอาไว้เลย แต่ถูกเล่ากันมาปากต่อปาก หรือบันทึกโดยผุ้อื่น ดังนั้นเรื่องราวของเทพในเคลติกจึงมีอยุ่น้อยนิด อีกเหตุผลที่เรื่องเทพไม่ค่อยถูกบันทึก ก็เพราะการเข้ามาแทนที่ของศาสนาคริสต์ ซึ่งลดความสำคัญของเทพเคลติก ให้กลาายเป็นพวกโทรลล์ พวกแฟรี่ ตัวเล็กไป ทำให้คนที่เคยนับถือในเทพเคลติกค่อยๆ เลือนหาย
         เทพของเคลติกนั้นจะมีความแตกต่างจากเทพจากชนชาติอื่ๆน คือ เทพเคลต์ จะเป็นเทพที่มีความคล้ายคลึงมนุษย์มาก เพียงแต่เป็นคนละเผ่าพันะ์กัน (หรือใกล้เคียง) เป็นชนที่มีพลังทางเวทมนตร์มากว่าตามตำนานพวกเขาเดินทางมาจาก โลกอื่น พวกที่มาที่แรกเลยก็คือเผ่าเนเมด และพโธลาน ที่นี้ สองเผ่านี้เดินทางมาถึงไอร์แลนด์พร้อมกัน ทั้งสองเผ่าจึงจะทำสงครามกัน แต่ยังไม่ทันจะทำสงครามก็ปรากฎว่าใต้ทะเลของไอร์แลนด์มีพวกอื่นอาศัยอยู่นานแลวเรียกว่า ฟอเมอเรียน หรือภูติยักษ์ร่างใหญ่ มีนิสัยป่าเถือน ครั้นแล้ว ต่างเผ่าก็พุ่งรบกับพวกฟอเมอร์ แต่ด้วยพวกฟอเมอร์นั้นมีจำนวนมากกว่า เผ่าพาโธลานก็พ่ายแพ้ยับเยิน และฟอเมอร์ก็หัสมาจัดการกับเผ่าเนเมดจนในที่สุดพวกเนเมดก็เหลือไม่เกินสามสิบคน พวกที่รอดตายก็หนีไป บางคนไปตั้งรกรากในดินแดนต่างๆ ในยุดรป มีอีกไม่กี่คนที่กลบมายังไอร์แลนด์อีกครั้ง
         และหนึ่งในนั้นคือ เทพีดานู พวกที่เหลือกลับมานีเรียกว่า ทูเอธา เด ดอนนานน์ แปลว่า เครือญาติแห่งเทพีดานู ซึ่งก็คือเทพในตำนานไอร์แลนด์

            จากกำเนิดเทพ จะพบว่าเทพของชาวเคลจะนับญาติกันหมด โดยมีเทพีดานูเป็นมารดาของเหล่าเทพ เทพในเคลตินี้ ใกล้เคียวกับมนุษย์มาก หรือก็คือเค้าสาถปนาคนที่มีความสามารถเหลือล้นว่าเป็นพวกเทพ ซึ่งในที่นีก็จะมีกษัตริย์อาเธอร์ผุ้ยิ่งใหญ่รวมอยู่ด้วย
            ชนชาติที่เป็นชาวเคลท์ในอีด ซึ่งปัจจุบันก็ยังคลหลงเหลือวัฒนธรรมและความเชื้อเก่าแก่ในสังคม อาทิ สก็อตแลนด์ ไอร์แลนด์, อีส ออฟ แมน, เวลส์, คอร์นวอร์, บริททานี่, กาลิเซีย, ออสเตรีย, โนวา สกอเทีย, นิวฟลาวแลนด์ เป็นต้น
         
ปฎิทินของชาวเคลท์นั้นจ่างจากปฏิทินทั่วไป คือมีเดือน 13 เดือน ชื่อของเดือนต่างๆ นั้นำมาจากชื่อของต้นไม่ซึ่งมี ความเกี่ยวโยงกับวงโคจรของดวงจันทร์ ที่เลือกใช่ต้นไม่เป็นสัญลักษ์เนื่องจากชาวเคลท์นั้นให้ความสำคัญกับต้นไม่มาก ต้นไม่นั้นเรปียบเหมือนสัญลักษณ์เวทย์มนต์ที่ทรงอำนาจมากที่สุดสำหรับชาวเคลท์ และต้นไม่ยังเปรียบเสมือนสะพานที่นำพาน้ำจากพื้นดินขึ้นสูท้องฟ้าทั้งยังให้อาหาร ให้ที่หลบภัย ให้ความอบอุ่น เป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ และยารักษาโรค เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนแปลงของฟดูกาล ต้นไม่จะเป็นส่ิงแรกท่ย้ำเตือนชาวเคลท์ให้รู้ล่วงหน้า และต้นไม่ยังเปลี่ยบเป็นวงจรชีวิตมนุษย์ วงจรแห่งการเกิดและการดับสูญ ต้นไม่มีชีวติที่ยาวนานกว่ามนุษย์ ดังนั้นต้นไม่จึงเป็นส่ิงที่ส่งผลต่อความทรงจำ ด้วยเหตุนี้ปฏิทินเคลติกตึงมีชื่อเรียกว่า "ปฏิทินต้นไม้" มีทั้งสิ้น 13 เดือน...https://board.postjung.com/1002584.html

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)