วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Riligion in middle east

           ชาวยิวมีลักาณะนีสัย ฉลาด อดทน มัทธยัต รักพวกพ้อง เมื่อครั้งอพยพไปอยู่อิยิปต์ได้สร้างความเจริญให้แก่อียิปต์เป็นอันมาก ความเติบโตอยางรวดเร็วของชาวฮิบูร ผู้เข้าไปอยู่ในอียิปต์ในฐานะทาส กลายเป็นเรื่องที่าโห์ตะหนักว่า สักวันจะเกิดการแย่งชิงอำนาจทรงดำริที่จะตัดไฟแต่ต้นลม โดยการจำกัดเขให้พวกฮิบรู ห้ามปะปนกับชาวอียิปต์ แต่ไม่ได้ผลกลับกลายเป็ฯการเพิ่มประชากรชาวฮิบรูเข้าไปอีก ฟาโรห์จึงทำการด้วยความโหดเหี้ยมคือ สั่งให้จับเด็กชาชาวฮิบรูที่เกิดให่ไปประหาร ทำให้เด็กชาวชาวฮิบรูเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

            โมเสส เป็นทารกชาวฮิบรูที่เกิดในช่วงมีการฆ่าทางรกชาวฮิบรู แม่ของโมเสสช่วยชีวิตลูกตนด้วยการนำตัวทารกลอยใส่กระจาดไปตามแม่น้ำไนท์และอธิฐานฟ้าดินให้ช่วยลูกของตน กระจาดลอยไปจนถึงท่าน้ำหลวงเป็นที่ลงสรงของพระธิดากษัตริย์ฟาโรห์ ในขฯะนั้น พระธิดากำลังสรงน้ำพอดี เมือทอดพระเนตรเห็น จึงให้คนไปเก็บขึ้นมา ทรงเห็นเด็กน่ารักยังมีชีวิตอยู่ จึทรงนำไปเล้ยงไว้โดยประทานชื่อว่า โมเสส แปลว่า ผู้รอดจากสายน้ำ


           พระธิดาทรงรับโมเสสเป็นบุตรบุญธรรม และมอบหมายให้หญิงคนสนิทซึ่งเป็นชาวฮิบรูไปเลั้ยงไว้อย่างลับๆ ให้ได้รับการศึกษาอยางดีกระทั้งโต เมื่อโมเสสเติบโตเจ้าหญิงก็พากโมเสสจากแม่เล้ยงเข้าไปอยุู่ในวัง  แต่โมเสสบอกว่าตนมีเลือนชาวฮิบรู ไม่ใช้ชาวอียิปต์ 

           ประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า วันหนึ่งโเสสออกจากวังไปดูชาวฮิบรูทำงานให้ชาวอียิปต์ ได้เห็นทาสฮิบรูถูกผู้คุมงาน ทำทารุณเฆี่ยนตีจนถงาย ก็บันดาลโทสะฆ่า ผุ้คุมงานชาวอียิปต์คนนั้นแล้วหนีออกจากอียิปต์ไปอยู่ที่เมืองมิเดียน ในอาหรับ บวชเป็นพระและเปลี่นชื่อเป็น โฮบัน ต่อมาได้แต่งงานกับลูกสาวของนักบวชที่เมืองนั้น หลังจากนั้นได้ลักลอบเดินทางเข้าประเทศอียิปต์เพื่อหาทางช่วยพวกฮิบรู เมื่อไปถึงปรากำว่า ฟาโรห์องค์ก่อนสิ้นพะชนม์แล้ว ฟาโรห์องค์ใหทรงยกโทษให้โมเสส แต่โมเสสจะต้องลดฐานะตัวเองเป็นาส มีฐษนะเหมือนชาวฮิบรูทั้งหลาย ตั้งแตนั้นมาโมเสสได้เป็นหัวหน้าทาสฮิบรู ระหว่างนี้เองโมเสสได้รวบรวมชาวฮิบรูก่อตั้งเป็นสมาคมก่ออิฐ เพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมชาวฮิบรู

           โมเสสเคยทูลขออฟาโรห์ ให้เลิกบังคับชาวฮิรูเป็นา และทูลขออนุญาตพาพี่น้องชาวฮิบรูออกจากประเทศ แต่ไม่ได้รับอนุญาต ต่อมาเกิดโรคระบาดที่ฟาโรห์แห้ไขไม่ได้ขึ้นทั่วประเทศ ฟาโรห์ทรงเข้าใจว่าพระเจ้าของชาวฮิบรูทรงพิโรธจึ้งอนุญาติให้โมเสสพาพวกฮิบบรูออกจากประเทศ

            ก่อนโมเสสจะพาชาวฮิบบรูออกจากอียิปต์ได้ออกบัญญัติให้ทุกคนนับถือพระเจ้า เป็นที่พึงเพียงองค์เดียว เืพ่อเป็นศูนย์กลางแห่งความกลมเหลียวของหมู่คณะและบังคับ ให้ชายทุกคนชลิบหนังห้มปลายอวัยวะเพศออกให้หมดก่อน เพื่อสะดวกแก่การทำความสะอาดในการเดินทางไกล (มุสลิมรับพิธีกรรมนี้มาเป็นของตนในภายหลัง) ช่วงที่โมเสสพาชาวฮิบรูออกจากอียิปต์ เขามีอายุ 80 ปี เขาให้สัญญาแก่ชาวฮิบรูว่า พระเจ้าดลใจ เขาให้พาชาฮิบรูไปสู่ดินแดนอุดมสมบูร์ที่พระเจ้าทรงมอบหมายเป็นของชาวฮิบรู เรียกว่า ดินแดนแห่งพันธสัญญา (The Promised Land)

           เมื่อพวกฮิบรูออกเดินทางไปกล้ว ทางอียิปต์เกิดความกังวลว่า ชาวฮิบรูจะกลับมาทำร้าย ฟ้าโรจึงสั่งทหารออกติดตามและถ้าทันให้ฆ่าให้หมด กองทัพทหารอียิปต์ตามทันในขณะที่ชาวฮิบรูกำลังข้ามทะเลแดง พอชาวฮิรูข้ามไปหมด น้ำทะเลก็ท่วมทหารอียิต์ตายกลื่อนกลาด ข้อความในคัมภีร์กล่าวอธิบายเป็นเชิงปฏิหาร

           การเดินทางของชาวฮิบรูประสบกับความลำบากฝ่านควาททุรกันดาร กระทั้งใกล้ถึงภูเขาซีเนล ชาวฮิบรูที่ทนความลำบากไม่ได้ก็พากันเร่ิมคิดว่า โมเสสจะพาให้พวกเรามาตาย ความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อโมเสส เร่ิมเสลื่อมคลายลง ศรัทะาที่เคยมีเร่ิมถดถอยลง บางคนต้องการจะตามโมเสสไป บางคนต้องการจะกลังอียิปต์ ในที่สุดชาวฮิบรูก็แตกความสามัคคี แบ่งออกเป็นหลายพวกหลายฝ่าย

       


  เมื่อคนทั้งหลายแตกความสามัคคีกัน โมเสสเห็นอวสานของชาวฮิบรูใกล้เข้ามา จึงตัดสินใจ ปล่อยชาวฮิบรูไว้ และตนรีบขึ้นไปอาศัยอยู่บนภูเขา และกลับลงมาหลังจากนั้น 40 วันพร้อมแผ่นหินที่จารึกบัญญัติ 10 ประการ 2 แผ่น แผ่นละ 5 บัญญัติ และบอกวาพระเจ้าไ้แสดงแก่ตนบนภูเขา พระองค์บอกให้ทราบว่า ที่ชาวฮิบรูต้องรับทุกขทรมานเพราะมีผู้ประพฤติชั่วกันมากและทางประทานบัญญัติ 10 ประการ ให้มาแจ้งแกชาวฮิบรูเพื่อรับไปประพฤติปฏิบัติ ผู้ใดยอมรับนับถือและปฏิบัติตามจะได้รับความคุ้มครองจากพระเจ้า ผุ้ใดไม่เชื่อและไม่ปฏิบัติตามจะถูกลงโทษ

           ทั้งนี้ โมเสสยังได้หาวิธีการที่จะรักษา ความสามัคคี และวิฝะีที่จะกระชับความสามัคคีให้แน่นแฟ้นมากยิงขึ้น โดย การประกาศยืนยันว่า บัญญัติ 10 ประการ  เป็นบัญญัติของพระเจ้าที่พระองค์ได้ประทานลงมาเพื่อชาวฮิบรูทั้งหลาย บัญญัติที่เป็นเสมือนเครื่องผูกพันแห่งชาติและวงศ์ตระกูล ให้ชาวฮิบรูแต่งงานกันเองในหมู่ของตน ไม่ยอมให้คนชาติอื่นพวกอื่นมาปะปน  การจัดให้มีค่ายบริสุทธิ์ Holy Tent เป็นที่ประกอบพิธีศษสนา ดโดยโมเสสเองเป็นผุ้นำในพิธีและให้โยชัว อัครสาวกเบ้องขวาเป็นทายาทสืบต่อตำแหน่งผู้นำค่ายบริสุทธิ์ ต่อมากลายเป็นศษสนปูชนียสถานสำหรับชาวฮิบรู กลายเป็นสถานที่รวมคน สถานที่รวมศรัทธา ช่วยให้เกิดความสามัคคีเป็นปึกแผ่นกลุ่มก้อน ต่อมา สถานที่ดังกล่าวกลายเป็นรูปวิหารหรือโบสถ์จนกระทังปัจจุบัน

          ให้มีหีบบัญญํติ Box of Convenant of Yahweh ภายในหีบบรรจุหินศักดิืสิทะิืจารึกบัญญัติไว้ 2 แผ่น แผ่นละ 5 บัญญัติ จะไปไหนก็ช่วยกันแบกหีบไปด้วย ก็จะเท่ากับพระยะโฮวาห์ ได้เสด็จรวมสุขร่วมทุกข์ คอยปกป้องคุ้มครองรักษา ชาวฮิบรูไปด้วย เพื่อช่วยผูกพันหมู่คณะให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน...

           โมเสสพาชาวฮิบรูเร่รอ่นต่อไป ถึงละ่มแม่น้ำจอร์แดนอันเป็นถืนอุดมสมบูร์ และได้ต่อสู้กับชาวคานาอันเจ้าของถิ่น โมเสสเสียชีวิตลง โยซัวขึ้นเป็นผู้นำต่อมา ใและในที่สุดขาวฮิบรูก็สามารถยึดดินแดนแถบนี้ได้ จึงมีอาชีพเป็นหลกแหล่งไม่ต้องเร่รอนอย่างแต่ก่น ในสมัยต่อมาฮิบรูชาวฮิบรูเผ่าต่างๆ ก็ได้รวมกันเป็นปึกแผ่น มีลักษณะเป็นประเทศ มีกษัตริย์ปกครอง คือ โซล Saul เป็นปฐมกษัตริย์ ประมาร 100 ปีก่อนพุทธศักราช ต่อมาพระเจ้าเดวิดได้เป็นกษัตริย์และได้สถาปนาอาณาจักรยูดาห์ กษํตริย์โซโลมอนซึ่งเป็นพระโอรสขึ้นครองราชสมบัติ ทรงได้โปรดให้สร้างโบสก์ใหญ่ที่งดงามขึ้นที่ กรุงเยรูซาเลม เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีทางศาสนาของชาวฮิบรู สมัยของพระเจ้าโซโลมอนเป็นสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาวฮิบรู


                                                           ข้อมูล: บางส่วนจาก"DF 404 ศาสนศึกษา "ศาสนายิว"


           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...