WWII:Dunkirk

   

 กองกำลังผสม สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเบลเยี่ยมดำเนินการตั้งรับโดยการคุ้มกันอาณาบริเวฯรอบ ๆ หมู่บ้านอาร์เมนติเยร์ส่วนกองกำลังเยอรมันทางเหนือยังคงมุ่งหน้าต่อ โดยการยึดเมืองคาร์เลส์ ซึ่งเป็ฯจุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญทีสุดทางตอนเหนือของฝรั่งเศส กองกลังเยอรมันสามารถตรึงกำลังทหารสัมพันธมิตรจำนวนมาก ถูกปิดล้อมจากชายฝั่งทะเลในพรมแดนฝรั่เศส-เบลเยี่ยม เมื่อฝ่ายกองกำลังผสมจนมุมจึงแพ้ศึกในครั้งนี้
      ปัญหาที่ตามมาของสัมพันธมิตร คือจะอพยพทหารสัมพันธมิตรให้กลับไปยังเขตปลอดภัยในประเทศอังกฤษอย่างไรให้ได้หมดอ่อนฝรั่งเศสจะถูกยึดและทำลาย
     22 พฤษภา 1940 ปฏิบัตกการเตรียมความพร้อมเพื่อการอพยพก็เริ่มขึ้น ภายใต้รหัส ยุทธการไดนาโม โดยมีพลเรือโทเอบร์แทรม แรมเซย์เป็นผู้สั่งการจากมเืองโดเวอร์  โดยจุดประสงค์แรกคือการระดมกองเรือให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยสั่งการเรือราชนาวีทุกลำที่สามารถบรรทุกทหารได้ 1,000 นายขึ้นไปภายในพิกันมุ่งหน้าไปยังเมืองดันเคิร์กเพื่อขนถ่ายกองกำลังผสมแผ่งเกาบริเตนใหญ่กลับมายังประเทศอังกฤษภายในสองวัน
      27 พฤษคม 1940 กองเรื่อสามารถนำกำลังกลับมาได้ 120,000 นาย รัฐบาลสหราชอาณาจักรทำการของความร่วมมือพลเรือที่ครอบครองเรือและอยู่ในพิกัด ซึ่งมีความยาว 30-100ฟุต ให้ช่วยปฏิบัติการอพยพครั้งนี้ ในคืนเดียวกันการอพยพอย่างเป็นทางการครั้งแรกจึงเริ่มต้น เรือจำนวนมากรวมถึง เรือจับปลา,เรือเก่าที่ถูกซ่อมแซม,เรือนาวิกพานิชย์และเรือรบราชนาวีรวมพลกันที่เมืองเชียร์เนสและมุ่งหน้าไปยังดันเคิร์กและล้อมชายฝั่งใกล้ๆ เพื่อขนถ่ายกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตกลับแต่เนื่อจากการระดมยังด้วยปืนใหญ่อย่างหนัก มีทหารเพียง 8,000 นายเท่านั้นที่รอดกลับมาในครั้งนี้
   
      28 พฤษภาคม 1940 เรือพิฆาตอีกสิบลำถูกเรียกเข้าปฏิบัติการอพยพครั้งที่ 2 ในตอนเช้าแต่ไม่
สามารถเข้าประชิดขายฝั่งได้มากพอเนื่องจาน้ำตื้นเกิน อย่่างไรก็ตามทหารหลายพันนายได้รับการช่วยเหลือออกมาได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเรือลำเล็กมีประโยชน์มากกว่าในบางสถานะการ อู่ต่อเรือเริ่มต้นหาเรือที่มีขนาดเหมาะสมและให้รวมกันที่เมือง เชียร์เนส แชทแฮม และโดเวอร์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีเยียม พร้อมกลับทหารอี 16,000 นายที่กลับมาได้ แต่ยุทธการเพิ่มมาตรการทางอากาศของเยอรมันทำให้เรือหลายลำถูกอับปางและอีกหลายลำไ้ด้ีรับความเสียหาย
     29 พฤษภาคม 1940  กองกำลังยานเกราะของเยอรมันหยุดการบุกเมืองดันเคิร์กและให้ทหารราบและกองกำลังทางอากาศทำาการบุกต่อ ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่อดอร์ฟ ฮิตเลอร์ นำมาใช้และไ้ด้ผลดีในการบุกโปแลนด์ตแ่ต่กลับไร้ผลในการนำมาใช้ครั้งนี้( การที่กองยานเกราะของเยอรมันถูกฮิตเลอร์สั่งหยุดนั้นเน เนื่องจากฮิตเลอร์มีความต้องการที่จะปล่อยอังกฤษข้ามช่องแคบ คำสั่งนี้ถูกท้วงติงอย่างหนักจากนัการทหารระดับสูงของเยอรมัน เพราะทั้งๆ ที่สามารถทำลายหรือจับทหารพันธมิตรเป็นเชลยได้ทั้งหมด แต่เพราะฮิตเลอร์คิดว่า ชาวเยอรมันและอังกฤษนั้น มีความใกล้เคียงกันทางสายเลือดถือว่าเป็นเผ่าพันธ์ชั้นสูง และเพื่อหวังว่าอังกฤษจะยอมรับคำของสงบศึกและเป็นพันธมิตรกับตน แต่อังกฤษปฏิเสธโดยตบอดกระทั่งจนสงคราม) มีทหาร14,000 นายอพยพกลับอังกฤษในวันนี้
    30 พฤษภาคม 1940 เรือลำเล็กจำนวนมากเข้าเทียบท่าพร้อมกับทหาร 30,000 นาย
    31 พฤษภาคม 1940 กองกำลังสัมพันธมิตรถูกต้อนเข้าสู่เมืองลาปานน์ และเบรย์-ดันย์ ซึ่งห่างจากเมืองดันเคิร์กอีก 5 กิโลเมตร ในวันนี้ทหารอพยพกลับ 68,000 นายและอีก 10,000 นายภายในคืนเดียวกัน การอพยพครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายทคือในวันที่ 1 มิถุนายน ทหารอีก 65,000 นายเดินทางกลับอังกฤษ แต่ปฏิบัติการย่อยๆ นั้นคงดำเนินต่อไปกระทั่งวันที่ 4 มิถุนายน
 
   

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)